ตอนที่ 3 : Part 02:คนแปลกหน้า
_________________________________________________________________________________________________
Part 02 : คนแปลกหน้า
Part 02 : คนแปลกหน้า
หลายวันมานี้ทางไร่องุ่นของคุณยายดูคึกคักและไม่เงียบเหงาเหมือนปกติเนื่องจากรถขนสินค้าของบริษัทลูกค้าต้องวิ่งเข้าๆออกๆเพื่อนำสินค้าในโรงเก็บสินค้าออกไปขายในเมืองใหญ่โดยก่อนหน้านั้นต้องไปผ่านการตรวจเช็คและแพ็คห่อให้ดี การขนส่งจึงจำเป็นต้องระมัดระวังไม่ให้สินค้าโดนกระแทก การขนของแต่ละรอบจึงต้องเอาไปน้อยๆ คุโรโกะจึงวิ่งวุ่นทั้งวี่ทั้งวันไม่ได้พักเหนื่อยเลยแม้แต่นิดเดียว
“ของยังเหลืออีกประมาณ3-4รอบถึงจะขนหมดสินะครับ งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะมาเอาของแต่เช้านะครับ วันนี้คงพอก่อน”
“ครับ นั้นขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนะครับ” เมื่อคุโรโกะกล่าวลาจบก็เดินเข้าบ้านพักมาเคลียร์งานที่ค้างไว้ต่อก่อนจะเหลือบไปเห็นโทรศัพท์สีดำที่กำลังสั่นอยู่บนโต๊ะเก็บของแล้วหยิบขึ้นมาดู
‘052xxxxxxxx’
เบอร์โทรศัพท์ไม่ขึ้นชื่อ
คุโรโกะสงสัยนิดหน่อยว่าจะมีใครโทรมาหาเขาได้ในเมื่อเบอร์นี้คือเบอร์ที่เอาไว้ใช้ติดต่อเฉพาะตอนที่เขาเข้าไปทำงานในเมืองแล้วโทรคุยกับคุณย่ากันแค่สองคนแค่นั้น
สงสัยคงโทรผิดมั้ง...
“สวัสดีครับ”
‘ปลายสายใช่คุโรโกะหรือเปล่าครับ’
“อ่า....ครับ คุณเป็นใครเหรอครับ” คุโรโกะอึ้งเล็กน้อย ปลายสายที่โทรมาไม่ได้โทรผิดอย่างที่คิดไว้แถมยังรู้จักชื่อเขาด้วยต่างหาก
‘ผมอาคาชิ ยังจำได้ไหมครับ’
หืม..........
“อ่อครับ แล้วคุณอาคาชิไปเอาเบอร์ผมมาจากไหนเหรอครับ”
‘ขอคุณย่าของคุณมาแหละครับ คิดว่าอาจจะได้คุยเรื่องงานบ่อยๆ’
“มีธุระอะไรจะคุยกับผมหรือเปล่าครับ”คุโรโกะถามกลับไปด้วยความแคลงใจ ทำไมคนที่เพิ่งรู้จักกับเขาต้องขอเบอร์เขาทั้งๆที่ไม่มีเหตุจำเป็นให้ต้องติดต่อกันเลยแท้ๆ
‘คุณย่าของคุโรโกะเขาบอกว่าอยากให้คุณออกมาศึกษางานกับผมน่ะครับ ท่านอยากให้คุณบริหารธุรกิจต่อก็เลยจะให้ผมไปรับคุณในวันพรุ่งนี้มาอยู่กับผมประมาณ1ปีน่ะครับ’
1ปี!!!
“เอ่อ คุณย่าผมไม่น่าจะพูดแบบนั้นนะครับ เอาไว้ยังไงผมขอไปถามคุณย่าให้แน่ใจก่อนละกันครับ ผมว่าคุณอาจจะเข้าใจอะไรผิดนิดหน่อย” คุโรโกะพูดจบก็ตัดสายทิ้งพลางเดินออกไปนอกที่พักของตนอย่างเร่งรีบ ใครเรียกชื่อก็ทำเป็นไม่ได้ยินแล้วเดินตรงเข้าบ้านพักคุณย่าไป
“ย่าครับ! อยู่ไหมครับ”
“มีอะไรเหรอคุโรโกะ ตะโกนเรียกย่าอย่างนี้คิดถึงย่ามากเหรอหืม” หญิงชราแต่ดูแข็งแรงกว่าคนในวัยเดียวกันใบหน้ายิ้มสดใสเดินออกมานั่งบนโซฟาพร้อมกับเอ่ยถามอย่างขี้เล่น คุโรโกะเดินเข้าไปนั่งข้างๆย่าแล้วสวมกอดหลวมๆแล้วถามขึ้น
“ย่าครับ คุณอาคาชิโทรมาบอกผมว่าย่าจะให้ผมไปอยู่กับเขา1ปีเพื่อดูงาน จริงเหรอครับ”
“ก็ใช่น่ะสิ เราจะได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆจากเขาแล้วเอามาดูแลฟาร์มเราไงล่ะ ไม่ดีเหรอ??”ย่าถามคุโรโกะด้วยรอยยิ้ม ฝ่ายถูกถามก็เงียบไปซักพักก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาพูดอย่างหงอยๆ”1ปีเลยเหรอครับ”
“ฮ่าๆ แค่ปีเดียวเอง ครอบครัวของอาคาชิเขาก็ทำงานกับย่ามาหลายปีเหมือนกัน เขาดูแลเราได้อยู่แล้วล่ะ” ย่าพูดแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน มือลูบหัวคุโรโกะเบาๆอย่างเอ็นดูเพื่อให้เด็กตรงหน้านี้เลิกกังวลกับการไปอยู่กับคนแปลกหน้า ยังไงสักวันนึงคุโรโกะก็ต้องไปข้างนอกโดยปราศจากการดูแลของหล่อนอยู่ดี
“งั้นพรุ่งนี้ผมก็ออกเดินทางแล้วใช่ไหมครับย่า ถ้างั้นผมขอเอาโทรศัพท์ไปเอาไว้ติดต่อกับย่าได้ไหมครับ”
“ได้อยู่แล้ว เดิมทีมันก็ไม่ใช่ของย่าหรอก”
“อ่อครับ ตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว อย่าลืมอาบน้ำนะครับย่า” เมื่อคุโรโกะพูดจบก็ลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะโค้งให้เป็นผู้ชายแล้วเดินออกจากบ้านพักไม้ไปพลางมองโทรศัพท์มือไปเรื่อยๆโดยไม่ได้มองสิ่งรอบข้างเลยแม้แต่น้อย
“หนูคงได้เวลาไปจากย่าจริงๆแล้วล่ะมั้ง”
-----------------------------------------------------------------------------------
เช้าวันต่อมาคุโรโกะนำกระเป๋าเสื้อผ้าและของใช้ต่างๆออกมากองหน้าบ้านรอคนมารับ คนในไร่ต่างก็มารอร่ำลาเขาด้วยความคิดถึง เมื่อรถแลมโบกินีสีดำมาถึงชายชุดดำที่นั่งอยู่บนรถก็ลงมาเปิดประตูให้อาคาชิพร้อมกับยกของของคุโรโกะขึ้นรถ อาคาชิเดินเข้าหาคุโรโกะก่อนจะยิ้มน้อยๆแล้วไปคุยกับคุณย่าของคุโรโกะต่อด้วยรอยยิ้มแสดงความพอใจนิดๆขณะสนทนาก็ลอบมองคุโรโกะหลายครั้งจนทำให้คุโรโกะเริ่มไม่ไว้วางใจชายผมแดงคนนี้เสียแล้ว
“คุโรโกะ” คุณยายของคุโรโกะเดินเข้ามาหาพร้อมกับสวมกอดหลวมแล้วหอมแก้มหน้าขาวๆของร่างบางไปรอบหนึ่งก่อนจะจับมือคุโรโกะแล้วกล่าวบอกลาด้วยความคิดถึง
“เดี๋ยวผมจะดูแลคุโรโกะอย่างดีเลยครับคุณย่า”
“จ้ะอาคาชิ ย่าฝากดูหลานสุดที่รักดีๆด้วยนะ ส่วนคุโรโกะอย่าพยายามไปสร้างความลำบากให้อาคาชิเยอะนะรู้มั้ย ดูแลตัวเองดีๆนะ”
“ครับคุณย่า”คุโรโกะพูดพลางกอดหญิงชราอย่างแน่นก่อนจะถอยออกเตรียมตัวขึ้นรถเตรียมออกเดินทาง
จะต้องไปจากที่นี่ซะแล้วสิ...
เมื่อขึ้นรถมานั่งรอก็เหม่อคิดถึงเรื่องงต่างๆเท่าที่จำได้ตั้งแต่มาอยู่ในฟาร์มนี้อย่างเรื่อยเปื่อย อาคาชิเมื่อคุยบางอย่างกับคุณย่าของคุโรโกะเสร็จก็เดินอ้อมมาอีกด้านของรถแล้วเข้ามานั่งข้างๆคุโรโกะพร้อมบอกให้ลูกน้องออกรถทันทีโดยไม่รอช้า
ระหว่างทางภายในรถคุโรโกะรู้สึกอึดอัดมากถึงมากที่สุดเนื่องจากคนในรถนั้นต่างเป็นคนที่ตนไม่เคยคุยแบบสนิทจริงๆเลยสักคน แถมไม่มีใครชวนเขาคุยด้วยร่างบางจึงหันไปมองแต่วิวนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอยคิดถึงคนในไร่และภาพเหตุการณ์ที่ไม่ชัดเจนที่ทำให้เขาจำอะไรไม่ได้จนถึงทุกวันนี้อย่างเงียบๆ
“คอแห้งไหม?” อาคาชิพูดขึ้นมาลอยๆพร้อมกับสไลด์โทรศัพท์เล่นไปด้วยโดยไม่เงยขึ้นมามองหน้าคนถูกถามเลยสักนิด
“มะ..ไม่ครับ”
“โอเค” เมื่อหนุ่มผมแดงพูดจบรถทั้งรถก็เงียบขึ้นมาอีกรอบ คุโรโกะจึงทำได้แค่นั่งเกร็งๆพร้อมมองวิวต่อไปเรื่อยๆจนในที่สุดก็เริ่มง่วงนอนแล้วค่อยๆคล้อยหลับไป
ร่างสูงเมื่อเห็นร่างบางผล็อยหลับไปก็เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงไปพร้อมมองหน้าร่างบางที่หลับตาพริ้มอย่างมีความสุขอย่างเนิ่นนานแล้วเผยรอยยิ้มบางๆอย่างมีความสุขออกมาเล็กน้อยก่อนจะสั่งให้ลูกน้องขับรถเร็วขึ้นอีกเพื่อให้ถึงจุดหมายปลายทางให้เร็วขึ้นอีก
เขาจะไม่ยอมปล่อยคนๆนี้ไปไหนอีกแล้ว!
-----------------------------------------------------------------------------------
เมื่อมาถึงบ้านของอาคาชิ คุโรโกะก็ยืนตะลึงค้างอยู่หน้าบ้านของอาคาชิประมาณ10วินาทีได้จนอาคาชิมาสะกิดเขาถึงจะรู้ตัว บ้านหลังใหญ่หรืออาจจะเรียกว่าคฤหาสน์แบบในทีวีเลยก็อาจจะใช่ ทางเดินเข้าบ้านปูด้วยพรมหรูและมีคนรับใช้แต่งชุดแม่บ้านมายืนรอเรียงแถวนับสิบคน พร้อมด้วยคนยกกระเป๋าสัมภาระอีกร่วมสิบ
นี่มันวังหรือเปล่า!?!
“คุโรโกะ เข้าไปในบ้านกันเถอะ” อาคาชิเดินมายืนข้างคุโรโกะก๋อนจะจับแขนลากเขาเดินเข้าบ้านหลังใหญ่พร้อมกับสั่งคนเก็บกระเป๋าให้นำกระเป๋าของคุโรโกะไปไว้ที่ห้องที่เขาเตรียมเอาไว้ให้ก่อนจะลากคุโรโกะมายังห้องโถงใหญ่ที่ประดับด้วยของหรูหรามากมายแล้วดันเขานั่งลง
“นะ...นี่บ้านคุณเหรอครับ”
“ใช่ ไม่ชอบงั้นเหรอ?”
“เปล่าครับ แต่คือ....บ้านมันหลังใหญ่มากจนผมแปลกใจน่ะ” คุโรโกะพูดพร้อมกวาดตามองไปรอบห้องแบบเด็กที่มาใหม่กับคนแปลกหน้า อาคาชิเห็นดังนั้นก็อดยิ้มไม่ได้จึงนั่งลงข้างๆแล้วจับมือคุโรโกะไว้หลวมๆ
“เดี๋ยวอีกไม่นานนายก็ชินเอง”
“....”คุโรโกะนั่งเงียบ แล้วมองไปรอบๆห้องพร้อมดึงมือออกมาจากอาคาชิแล้วเสมองไปทางอื่น ในขณะเดียวกันอาคาชิก็แอบยิ้มน้อยๆก่อนจะขยับตัวเข้าใกล้คุโรโกะแล้วโน้มหน้าเข้าไปกระซิบใกล้ๆด้วยรอยยิ้มที่มีเลศนัยบางอย่าง
“ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ รู้ตัวรึเปล่า”
“...!”
“หึ ตามสบายละกันนะ ห้องของนายอยู่ชั้นบนถัดจากห้องดนตรีไปประมาณ2ห้อง ผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนล่ะ” เมื่อปั่นหัวคนตัวเล็กได้นิดหน่อยแล้วร่างสูงก็ลุกขึ้นพร้อมกับเดินออกจากห้องไป คุโรโกะที่ตกอยู่ในภวังค์ของตัวเองเมื่อรู้สึกตัวจึงรีบวิ่งตรงเข้าไปคว้ามืออาคาชิไว้แล้วมองหน้าเขาด้วยความสงสัย
“นาย...เคยรู้จักผมเหรอ”
เมื่อคุโรโกะเอ่ยถามอาคาชิไป ร่างสูงจึงเผยยิ้มออกมาก่อนะดึงตัวคุโรโกะไปกอดทำให้ร่างเล็กตกใจก่อนจะก้มลงกระซิบข้างๆหูอย่างแผ่วเบาพร้อมกับจูบแก้มร่างเล็กเบาๆทีหนึ่งแล้วเดินขึ้นห้องไป
“มากยิ่งกว่าคำว่ารู้จักอีก”
“….!/////”
-----------------------------------------------------------------------------------
หลังจากคุโรโกะขึ้นมาอยู่บนห้องนอนก็ไม่ยอมโผล่หน้าไปนอกห้องเลย นอกจากจะต้องอยู่ในที่แปลกตาแล้วคนที่มาอยู่ด้วยยังทำท่าแปลกๆกับเขาทั้งนั้นไม่ว่าจะเจ้าของบ้านหรือแม้กระทั่งหมาที่วิ่งเข้ามาเล่นกับเขาราวกับไม่ใช่คนแปลกหน้าแปลกตาสักนิด
เพราะความแปลกของคนและสัตว์เลี้ยงในบ้างหลังนี้นี่แหละทำให้เขาไม่กล้าไปยุ่งกับใคร
ก๊อกๆ
“คุณคุโรโกะคะ นายน้อยอาคาชิให้เรียกลงไปรับประทานอาหารค่า”
“....” คุโรโกะเพียงแค่หันไปมองทางต้นเสียงที่อยู่หลังบานประตุแล้วกันกลับมาสนใจไดอารี่ในมือตนเองที่เริ่มเขียนเมื่อวันที่เขาเริ่มไปอาศัยอยู่ในไร่ของคุณยายต่อแล้วบรรจงเขียนเหตุการณ์ประหลาดๆในวันนี้ลงไปเพิ่ม
Date : 11/xx/xx
วันนี้มาบ้านของลูกค้าคุณย่าเพื่อมาฝึกงาน อยู่ต่อไปอีก2ปี คนในบ้านทำท่าทางแปลกๆใส่ทั้งนั้นเลย แถมเจ้าของบ้านก็ดูเจ้าเล่ห์แปลกๆ พิลึกทั้งบ้านเลย
เมื่อเขียนเสร็จก็อดรู้สึกแปลกๆกับหน้าอกซ้ายทันทีที่คิดถึงสัมผัสของริมฝีกปากหนุ่มแปลกหน้าที่เอาเขาเข้ามาอยู่ในบ้านแล้วหอมแก้มเขาเสียดื้อๆ หัวใจเต้นแรงอยู่สักพักก็ละความคิดเหล่านั้นทิ้งแล้วล้มตัวลงนอนบนที่นอนต่อ
ก๊อกๆ
“คุณคุโรโกะคะ ลงมารับประทานอาหารด้วยค่ะ”
“...”ไม่มีเสียงตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก คุโรโกะทำเป็นหูทวนลมแล้วซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มโดยไม่สนใจเสียงเรียกหรือเสียงเคาะประตูที่ดังอย่างต่อเนื่องเลยสักนิดจนหลังๆเริ่มมีแต่เสียงเคาะประตูแล้วก็เงียบไปในที่สุด
ปล่อยเขาซะทีนึง...เฮ้อ
แกร๊ก!
เสียงไขกุญแจพร้อมบิดลูกบิดทำให้คุโรโกะออกจากผ้าห่มมาดูที่หน้าประตูทันที เมื่อลุกออกจากที่นอน ร่างสูงผมแดงในชุดลำลองสบายๆก็เดินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มๆพร้อมแกว่งกุญแจในมือหมุนไปมา จนทำให้คุโรโกะตกใจไม่ใช่น้อย
“คุณไขเข้าห้องมาทำไมครับ”
“ก็มาตามนายไง ทำไมไม่ลงไปทานข้าว?” อาคาชิเดินเข้ามาใกล้ตัวคุโรโกะจนทำให้หนุ่มผมฟ้าต้องก้าวหนีจะไปนอนบนเตียงต่อ แต่เมื่อเห็นร่างเล็กหมุนตัวอาคาชิจึงจับแขนไว้ก่อนแล้วดึงเข้ามากอดแล้วกระซิบข้างหูเบาๆ
“อยากนอนมากเดี๋ยวทำให้ได้นอนทั้งคืนเลยคืนนี้น่ะ”
“….!”
“จะไปหรือไม่ไปครับ เท็ตสึยะ” อาคาชิยังคงกระซิบกวนคุโรโกะเบาๆแล้วโอบกอดร่างเล็กแน่นขึ้นจนคุโรโกะเริ่มทำอะไรไม่ถูก เมื่อคิดว่าถ้าอยู่แบบนี้ต่อไปต้องมีอะไรเกิดขึ้นคุโรโกะจึงผลักตัวออกจากอาคาชิแล้วเดินลงไปทานอาหารอย่างว่าง่าย ทำหน้าแปลกๆและไม่ปริปากพูดสักคำ
เขาล่ะชอบใบหน้าที่แปลกๆแบบนั้นที่เขาได้เห็นแค่คนเดียวจริงๆ
---------------------------------------------------------------------------------------------------
จบตอนสักทีก็ฟินกันไปนิดนึงง 555 อาคาจินของเราเริ่มจิต(?)ขึ้นมาหน่อยๆแล้ว 55
รู้สึกแต่งแล้วหลุดออกนอกกรอบตัวละครมาก แต่ก็ฟินในอีกฟีลนึง-.-
คนแต่งไม่ค่อยว่างหายไปชาตินึงถึงจะได้กลับมาลงTAT
ขอขอบคุณคนที่อ่านและผู้ที่ติดตามเรื่อยๆนะคะ ตอนนี้ปิดเทอมแล้วจะมาาลงบ่อยๆเลย
อย่าเป็นเงาเยอะนะค้าา ออกมาหาแสงมาคอมเมนต์ติชมบ้างก็ได้้้้ >W<
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

มาต่อด่วนๆเลยนะคะ อาคาชิซามะเจ้าเล่ห์กับน้องตลอดเลยนะ! ><
ขอบคุณจร้า
มาต่อด่วนจร้า