ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ACADEMY CRIMINAL [ { BAI-CHA } ]

    ลำดับตอนที่ #34 : { A.C } การบ้าน #3

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 21
      0
      14 มิ.ย. 57







    U_________________________________________U

    การบ้าน #3

     

    ชื่อ นามสกุล : วิรัสญา ปรากาณุศิตย์

    ชื่อเล่น :  ใบชา

    Dormitory : ควอซ

    รหัสประจำตัว : ACQ11

    ตำแหน่ง : Catcher

    สถานภาพการขาดส่งงาน : 0

    การบ้านวิชา : ศิลปะการเอาตัวรอด 2

    คำสั่ง : Criminals ปี 2 ทุกคนถูกจับไปปล่อยในเกาะร้างที่ห่างไกลผู้คน มองไปทางไหนก็มีแต่ป่าทึบและสัตว์ร้ายนานาชนิด แต่ละคนจะมีกระเป๋าคนละหนึ่งใบซึ่งภายในมีขนมปัง เข็มทิศ มีดเดินป่า และเชือก  ให้ Criminals ปี 2 เอาชีวิตรอดออกมาจากเกาะมรณะให้ได้ โดยที่พวกเธอมีระยะเวลาในการบันทึกเรื่องราว 72 ชั่วโมง หรือ 3 วันนั้นเอง

    สถานที่ส่ง : ห้องของอาจารย์เจแปน

    ชื่ออาจารย์ผู้สอน : อาจารย์เจแปน

     

    ll ส่วนเนื้อหา ll

     

    ชื่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น : ขนมปังปิ้ง

    อัตราความเสี่ยงในเหตุการณ์ของคุณ : 10%

    เรียบเรียงเหตุการณ์การทำภารกิจในการเอาตัวรอด :

     

    “หาว...สั่งงานยากเหมือนกันนะคะ อาจารย์เจแปน” เด็กสาวเจ้าของเรือนร่างเล็ก (?) ผมสีน้ำตาลยาวถูกถักเป็นเปีย เช่นเดียวกับนัยน์ตาสีน้ำตาลที่กำลังจะปิดเต็มที

    ใบชา นั่งคิดอะไรเล่นเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งมองเห็นกลุ่มควันออกมาจากช่องแอร์ เด็กสาวรู้สึกถึงอันตรายรวมกับสิ่งที่อาจารย์เจแปนพูดเมื่อสักครู่

     

    ...พร้อมมั้ยเบบี๋

     

    ย๊ากกกก!!~~ มันจะมากไปแล้วนะอาจารย์เจแปนนนนนนน!!!!

    ใบชาคิดในใจอย่างเหลืออด หากนี่ไม่ใช่ในป่าล่ะก็เธอจะตะโกนออกให้สุดเสียงกว่านี้แน่ ๆ รอบข้างของเธอคือป่าทึบ ไม่รู้ว่าจะมีสัตว์ร้ายออกมาเมื่อไหร่ ข้างกายเป็นกระเป๋าใบเล็ก ๆ ใบหนึ่ง เด็กสาวหยิบมันขึ้นมาเพราะมั่นใจว่าต้องเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกในการออกจากป่านี่แน่ ๆ

    ขนมปังแถว เข็มทิศ มีดเดินป่า และเชือก น่าจะประมาณห้าเมตรสินะ  

    ให้ตายเถอะเด็กสาวมองสี่สิ่งที่อยู่ในกระเป๋าก่อนจะยัดมันลงไปเก็บ และปิดกระเป่าไว้ดังเดิม เธอเลี่ยงที่จะใช้เสียงเพราะอาจารย์สอนไว้ แถมแถวนี้คงไม่มีลำธารสะอาด ๆ ให้เธอได้ดื่มแน่

    “กี่โมงแล้วว่ะ !” ใบชาพูดอย่างไร้คุณสมบัติผุ้พูดที่ดี ก่อนจะหยิบเข็มทิศขึ้นมาแล้วหันไปมาเพื่อหาทิศเหนือ เมื่อได้ทิศแล้ว เด็กสาวมองไปยังด้านซ้าย พบว่าดวงตะวันใกล้จะลับขอบฟ้าแล้ว แต่ยังคงส่องแสงสีแดงออกมาอย่างไม่หยุด

    เด็กสาวนั่งจมปรักอยู่ที่เดิม พยายามหายใจเข้าและออกเพื่อสูดเอาออกซิเจนเข้าปอดให้มากที่สุด ก่อนที่จะไม่ได้หายใจอีก

    “มีดเอาไว้ใช้ป้องกันเวลาเจอสัตว์ป่า เข็มทิศใช้นำทาง เชือกเอาไว้มัดต้นไม้เพื่อหลบหนีสัตว์ป่า ขนมปังแถวก็กินได้ประมาณสามวัน” เด็กสาวไล่ข้าวของมากมายทั้งสี่ชิ้นในกระเป๋า มองไปรอบ ๆ เห็นกอไม้ไผ่เล็ก ๆ จึงไปตัดไปมา จากนั้นใช้มีดแบ่งไม่ไผ่ออกเป็นสองส่วน จากนั้นเจาะรูที่ไม้ไผ่อันหนึ่ง และเหลาไม่ไผ่อันหนึ่งให้มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเท่ากันกับรู จากนั้นก็ปั่น ๆ จนเกิดประกายไฟออกมา แล้วโกยใบไม้รอบ ๆ มาสุมเอาไว้ เพื่อเป็นกองไฟ ส่วนไม้ไผ่ที่ตัดเกินก็นั่งเหลาเล่นไว้ใช้แทนฉมวกจับปลา #ไม่ย์

    “เฮ้อ...มืดแล้วสินะ” ดวงจันทร์ขึ้นมาแทนที่ดวงตะวันที่ลับขอบฟ้าไปไม่นาน โชคดีที่ตอนนี้เด็กสาวมีกองไฟไว้ป้องกันสัตว์ป่าดุร้าย และมีที่พักพิงคือต้นไม้ใกล้ ๆ แล้ว ในมือตอนนี้กำลังถือขนมปังไร้แยมอยู่หนึ่งแผ่น กินเรื่อย ๆ จนหมด นั่งเล่นกองไฟไปเรื่อย ๆ ก่อนจะผล็อยหลับไป

     

    “หาววว....” อรุณรุ่งมาเยือนกับร่างของเด็กสาวที่เต็มไปด้วยใบไม้ เนื่องจากเอนกายลงไปนอนกับพื้นที่มีใบไม้อยู่มาก ไฟดับลงแล้ว โชคดีจริง ๆ ที่ไม่มีอะไรออกมาทำร้ายเธอเมื่อคืน ใบหูแนบลงใกล้กับพื้นก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา

    เด็กสาวนำเข็มทิศออกมาแล้วตรวจเช็คเวลาก็ลุล่วงไปจนถึงเก้าโมงเช้าแล้ว เธอมองไปรอบ ๆ ก่อนจะทิ้งร่งรอยเป็นกองไฟเอาไว้ พร้อมกับใช้มีดขูดต้นไม้ให้เกิดรอยในทิศทางที่จะเดิน

    “ไปล้างหน้าหน่อยดีกว่า” เมื่อทำร่องรอยเอาไว้แล้วว่าเธอจะเดินไปทางทิศเหนือเพื่อตามหาลำธาร ระหว่างทางเธอได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้เป็นการหักกิ่งไม้ หันไปมองเส้นทางที่เดินมาเป็นระยะอย่างระแวงกลัวหลง และขูดหินเล่นไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็เจอลำธารเล็ก ๆ

    “น้ำ...” ใบชาเดินเข้าไปใกล้ พร้อมมองไปในลำธาร หวังว่าคงไม่เจอจระเข้แถวนี้ เมื่อปลอดภัยดี เด็กสาวจึงใช้มือกวักน้ำขึ้นมาล้างหน้า “เยี่ยม น้ำค่อนข้างจะสะอาดใช้ได้ มั้ง...”

    เด็กสาวว่าดังนั้นก่อนจะนั่งมองทัศนียภาพเบื้องหน้าให้หายเหนื่อย (?) เมื่อรู้ตัวว่าว่าง เด็กสาวจึงเลือกที่จะก่อกองไฟอีกครั้ง บริเวณไม่ใกล้กับลำธารเผื่อน้ำป่าใหลหลาก โดยใช้ไม้ไผ่ที่นั่งเหลาไว้เมื่อคืนในการก่อกองไฟด้วยวิธีการเดียวกัน

    “โอ้เมื่อมีไฟ ๆ ๆ ๆ !” เด็กสาวฮัมเพลงไปหมุนไม้ไผ่ไปด้วย เพื่อให้เกิดประกายไฟ เมื่อทำสำเร็จ เด็กสาวจัดแจงสุมไฟทันที “เผาป่าเลยดีมั้ยนะ ?”

    เธอส่ายหน้ากับความคิดล้ำเลิศของตัวเอง ก่อนจะหยิบขนมปังมานั่งปิ้งโดยใช้ไม้ไผ่ที่เหลือให้เป็นประโยชน์ “น่ากินขึ้นเยอะ เหอะ ๆ”

    “แหวะ ขมแต่อร่อยดี” ใบชามองไปรอบ ๆ ก็พบกับกิ่งไม้ขนาดที่เธอสามารถถือไปไหนมาไหนได้ จึงไปหยิบมาทั้งที่กำลังคาบขนมปังปิ้งไว้ในปาก ปลายของกิ่งไม้นั่นมีลักษณะคล้ายง่าม เด็กสาวจึงจัดการสุมไฟให้กองใหญ่กว่าเดิม และปลายง่ามรนไฟไปด้วย

    “หาว...ง่วงแหะ” เด็กสาวมองควันไฟที่ลอยขึ้นสูง แต่กลับไร้วี่แววของผู้มีน้ำใจรักในการช่วยเหลือเลยสักนิด

     

    โบร๋วววว....

     

    เอาแล้ววววว !!!

    หมามันมาหอนอะไรตอนนี้ เห็นผีหรือไงฟร่ะ!

    หมอกด๋ามากจ๋า

     

    ใบชามองหาต้นเสียงว่ามันมาจากไหน แต่ก็ไม่เจอ เมื่อไม่เห็นวี่แววของน้องหมาน้อยแล้วเธอจึงจับด้ามไม้ง่ามที่ส่วนง่ามร้อนมากแล้ว พลิกเล่นไปมาเหมือนกับว่ากำลังปิ้งบาร์บีคิว

     

    โบร๋วววว....

     

    หอนอีกแล้วหรอวะเฮ้ยยย !

    หอนหาหมีป่าหรือไงงง !

     

                เธอมองไปรอบ ๆ อย่างระแวง กระชับกระเป๋าที่มีเชือก เข็มทิศ และขนมปังไว้แน่น ส่วนมีดนั้นเธอเลือกที่จะทำมันมาถือไว้เอง พร้อมกับไม้ง่ามร้อนในมืออีกอีน

     

    ดิ๋งๆๆๆๆ มาเลยมา !

     

    มาเซ่ !!!

     

    เด็กสาวตะโกนท้าทายหมาน้อยลั่นในใจ

     

    และสุดท้ายมันก็ไม่โผล่มา เด็กสาวจึงดูแลกองไฟนั้นเรื่อย ๆ

    “จัดว่าว่างมากค่ะ” ใบชาหยิบกระเป๋าเป้ขึ้นมา ยกมันให้อยู่เหนือกองไฟและดึงกลับ ทำเช่นนี้ซ้ำไปซ้ำมาจนกลายเป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือ

    “มาช่วยหน่อยเดะ จะให้ขนมปังกิ้งแผ่นนึง มา!

     

    ดวงตะวันลับขอบฟ้าไปอีกแล้ว เด็กสาวนั่งเขี่ยกองไฟเล่นอีกครั้ง ก่อนจะเอาเชือกมาพันเล่นกับไม้ง่าม “หาว....ง่วงแล้วนะเนี่ย”

    ใบชาจับปลายเชือกหลังจากมัดไม้ง่ามเสร็จแล้วไปผูกกับกิ่งต้นไม้เล็ก ๆ ห่างจากตัวเธอประมาณสามเมตร ใกล้กับลำธารพอดี แน่นอนว่าห่างมีอะไรเกิดขึ้นกับเชือกล่ะก็ไม้ง่ามก็จะเคลื่อนจนทำให้เธอรู้สึกตัว

    “เยี่ยม...ทีนี้ก็นอนได้สักที”

     

    แกร๊ก ๆ

    เสียงไม้ง่ามขยับเป็นเหตุให้ใบชาตกใจ จนแทบจะสำลักขนมปังในมื้อเที่ยง พร้อมกับมองไปยังปลายเชือกที่มันขยับเล็กน้อย เงาตะคุ่มขนาดใหญ่กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้เด็กสาวมากขึ้น ในขณะที่เธอเองก็หยิบไม้ง่ามและมีดขึ้นมาเตรียมรับกับสถานการณ์ เชือกสองเมตรที่เธอตัดเอาไว้กับตัวมัดเข้ากับกิ่งไม้ใหญ่ที่ปลอดภัยไร้งูกวนเรียบร้อยตั้งแต่เช้า จากนั้นก็ค่อย ๆ ปีนขึ้นไปทันที

    เงาตะคุ่มใกล้เข้ามาทุกที ประกอบกับแสงแดดที่ส่องลงมาตรงกับศีรษะบ่งบอกเวลาเที่ยง เด็กสาวใจเต้นแรงขึ้นจนรู้สึกได้ มีดเตรียมปา เช่นเดียวกับไม้ง่ามซึ่งตอนนี้มันไม่ร้อนแล้วเตรียมที่จะทำร้ายทันที

    “เห..ทำไมไม่มีใครเลยล่ะ ทั้งที่เมื่อวานเห็นกลุ่มควันมาจากตรงนี้แท้ ๆ...”

    “นี่ไงกองไฟ ต้องมีคนอยู่แถวนี้”

    ใบชาเงี่ยหูฟังเสียงพูดคุยด้านล่างมันไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ นัยน์ตาของเธอมองเห็นร่างของคนสองคน เธออาจจะคุ้นเคยกับพวกนั้นดี

    “วา..?” ใบชาเอ่ยเบา ๆ

     

    ตุบ !

     

    “ว้ายย ใบชา” รัตน์ตะโกนลั่นด้วยความตกใจ

    “ไง...” เด็กสาวใช้ไม้ง่ามยันตัวเองขึ้นหลังจากกระโดดลงจากที่สูง พูดทักทายอย่างเป็นกันเอง สั้น ๆ ห้วน ๆ

    “ขึ้นไปทำอะไรบนนั้นน่ะคะ ?” วาเลิกคิ้วถาม

     

    “หาววว...ให้ตายเถอะทำไมมันง่วง” เด็กสาวมองกองไฟที่มอดไปแล้ว เธอลุกขึ้นและเดินไปยังลำธารตามเส้นเชือกที่วางไว้ กวักน้ำล้างหน้า และเดินกลับไปนั่งที่เดิม ขนมปังแผ่นถูกหยิบขึ้นมากินอีกครั้ง ตอนนี้มันเหลือไม่มากแล้ว

    ใบชามองเชือกสองเมตรที่อยู่ในมือถูกมัดเข้ากับกิ่งไม้ใหญ่ เพราะเธอมัลางสังหรณ์ไม่ค่อยดีสำหรับวันนี้ จากนั้นก็นั่งเล่นไปเรื่อย ๆ

    แกร๊ก ๆ

    เสียงไม้ง่ามขยับเป็นเหตุให้ใบชาตกใจ จนแทบจะสำลักขนมปังในมื้อเที่ยง

    “อะไรน่ะ...”

     

    ผลที่ได้เมื่อรอดจากเหตุการณ์นั้น : ขนมปังปิ้งอร่อยมากเลยค่ะอาจารย์เจแปน แถมยังรอดด้วยนะคะ (?)

    อุปสรรคในระหว่างการทำภารกิจ : น้ำไม่มี ทำให้ต้องกลืนน้ำลายไปสามวัน

     












    `Snoωωhite™ Cute Black Bow Tie Pointer

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×