ตอนที่ 4 : chapter 2 : Near the rabbit hole
♦ chapter 2
ตุ่บ!
เสียงพ่นลมหายใจพรืดใหญ่ดังออกมาจากร่างสูงที่เพิ่งจะพลิกตัวจนตกลงมาจากโซฟา คริสยกมือขึ้นขยี้เรือนผมของตนเองพร้อมกับขมวดคิ้วเข้าหากันเมื่อแสงอาทิตย์ยามเช้าส่องผ่านผ้าม่านสีขาวหม่นเข้ามากระทบเปลือกตา ชายหนุ่มพลิกตัวลงนอนคว่ำหน้าบนพื้นพรม เวลานี้เขากำลังรู้สึกง่วงงุนจนเกินกว่าจะยอมตื่นขึ้นมาง่ายๆหากเสียงพึมพำที่เล็ดลอดเข้าไปในโสตประสาทกลับทำให้สติของร่างสูงค่อยๆกลับคืนมา
คริสเงยหน้าขึ้นจากพื้น หลิ่วตาเล็กน้อยเพื่อปรับให้มันคุ้นกับแสงก่อนจะมองออกไปยังระเบียงด้านนอกเขาพบว่าปาร์คชานยอลกำลังนั่งยองๆลงไปเล่นกับสัตว์เลี้ยงตัวโปรด เด็กหนุ่มทำแก้มป่องและยิ้มกว้าง หัวเราะน้อยๆพลางเอียงหูลงไปใกล้กับคุณแรบบิทในขณะที่สองมือขยำขนสีขาวบริสุทธิ์ฟูฟ่องของเจ้ากระต่ายในกรงเล่นไปด้วย ชานยอลดูมีความสุขไม่มีเรื่องเครียดอะไรให้ต้องคิดซึ่งนั่นก็แตกต่างกับเขาในเวลานี้มากพอดู
แขนยาวค่อยๆดันตัวเองขึ้นจากพื้นพรม คริสลุกขึ้นยืนพับผ้าห่มผืนเล็กที่บางเบาเกินกว่าจะกันความหนาวให้กับเขาได้ก่อนจะวางมันลงบนหมอนหนุนใบโตที่เขาใช้หนุนมาตลอดทั้งคืน ชายหนุ่มบิดขี้เกียจสองสามที ยกมือขึ้นปิดปากหาวพร้อมกับเดินเข้าไปล้างหน้าแปรงฟันในห้องน้ำ เขาไม่มีเวลามากพอที่จะชำระล้างร่างกายอย่างเต็มรูปแบบในตอนนี้เพราะกลัวว่าถ้าหากใช้เวลาหมดไปกับการอาบน้ำจะทำให้เด็กตัวยุ่งข้างนอกนั่นงอแงเพราะความหิวไปเสียก่อน
ราวๆสิบนาทีผ้าขนหนูผืนเล็กที่ใช้สำหรับเช็ดหน้าก็ถูกโยนลงไปกองรวมกับเสื้อผ้าใช้แล้วในตะกร้า ร่างสูงเดินออกมาจากห้องน้ำก่อนจะพบว่าปาร์คชานยอลกำลังโผล่หน้าจากระเบียงเข้ามาในห้องผ่านช่องประตูกระจกแคบๆ ดวงตากลมใสแจ๋วของร่างโปร่งเหลือบมองไปยังโซฟาก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ใบหน้าของเขาในอีกครึ่งนาทีถัดมา
“ทำอะไรชานยอล” คริสเอ่ยถามพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง
“เอาคุณแรบบิทเข้าไปในบ้านได้หรือยังฮะ” ชานยอลเอ่ยถาม
“เอาเข้ามาสิ” ชายหนุ่มพยักหน้าเป็นคำตอบก่อนจะเดินเข้าไปในห้องครัวเพื่อจะหาอะไรง่ายๆมาทำอาหารเช้าให้กับร่างโปร่งทว่าเป็นเวลาร่วมเดือนที่คริสไม่ได้ลงมือทำอาหารด้วยตัวเองเพราะงั้นในตู้เย็นของเขาจึงหลงเหลือของสดอยู่เพียงไม่กี่อย่าง หนึ่งในนั้นคือไข่ไก่สองฟอง เนยสด และเบค่อนที่เพิ่งซื้อมาเมื่อไม่กี่วันก่อนอีกหนึ่งห่อ ร่างสูงพ่นลมออกมาจากริมฝีปากก่อนจะตัดสินใจหยิบเอาทั้งหมดนั่นออกมาวางเรียงบนเคาน์เตอร์แล้วก้มลงไปเปิดตู้หยิบกะทะใบเล็กๆขึ้นมาตั้งบนเตาแก๊ส
ไม่นานนักไข่ไก่สองฟองก็ถูกตอกลงไปในกระทะที่เนยสดเพิ่งจะละลาย กลิ่นหอมของมันทำให้คนที่กำลังนั่งเล่นกับสัตว์เลี้ยงอยู่บนโซฟาต้องลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างช่วยไม่ได้
“คุณแรบบิทรออยู่นี่นะ” ชานยอลพูดขึ้นพลางลูบหัวเจ้ากระต่ายน้อยสองสามทีก่อนจะวิ่งดุ๊กๆเข้าไปล้างหน้าแปรงฟันในห้องน้ำเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับมื้อเช้า หลายนาทีถัดมาร่างโปร่งยืนยิ้มอยู่หน้ากระจกก่อนจะเดินกึ่งวิ่งกลับมานั่งรอบนโต๊ะอาหาร เด็กหนุ่มนั่งตัวตรงแผ่นหลังชิดกับพนักพลางวางสองมือเกยเอาไว้กับขอบโต๊ะและรอคอยอย่างตั้งใจ
“คุณแรบบิทอย่าซนนะ!” ชานยอลพูดขึ้นเมื่อพบว่าคุณแรบบิทเพิ่งจะกระโดดลงจากโซฟาพลางยกสองเท้าหน้าขึ้นมาเกยไว้ข้างแก้มเป็นจังหวะเดียวกันกับที่คริสเดินออกมาจากส่วนของห้องครัว ร่างสูงวางจานไข่ดาวและเบคอนอบสองจานลงตรงหน้าและนั่นก็ทำให้เด็กหนุ่มที่กำลังหิวโหยถึงกับลืมสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของตนเองไปชั่วขณะ
“หิวใช่ไหม ทานซะนะ วันนี้ลู่หานกับมินซอกจะมาเยี่ยมนายด้วย” คริสเอ่ยก่อนจะดึงเก้าอี้ถัดจากชานยอลออกมานั่งพร้อมกับเริ่มต้นทานมื้อเช้าไปพร้อมๆกัน
เด็กหนุ่มก้มหน้าก้มตาจัดการไข่ดาวและเบคอนในจานของตัวเองอย่างรวดเร็วเสียจนคริสอดขำไม่ได้ ซอสมะเขือเทศปรุงรสที่เขาราดลงไปบนนั้นตอนนี้เปรอะเลอะข้างมุมปากของชานยอลไปหมดและร่างโปร่งก็ดูเหมือนจะไม่รู้ตัวเลยสักนิด
“ชานยอลนายทานเลอะ” ร่างสูงพูดขึ้นพร้อมกับยกนิ้วขึ้นชี้ในขณะที่ชานยอลเงยหน้าขึ้นเลิกคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจ “ตรงมุมปาก” คริสย้ำ เด็กหนุ่มพยักหน้ารับก่อนจะอมยิ้ม ชานยอลแลบลิ้นเลียคราบซอสตรงมุมปากก่อนจะชูนิ้วโป้งให้กับเขา
“อร่อยมากเลยฮะคริส”
“อ่า..เหรอ” ชายหนุ่มตอบรับพลางยกมือขึ้นเกาท้ายทอยเล็กน้อย อันที่จริงก็ไม่ได้รับคำชมแบบนี้มานานแล้วเหมือนกันนะ
“จริงๆนะฮะ อยากกินทุกวันเลย”
“แล้วไม่กลัวจะเบื่อหรือไง” คริสเอ่ยถามขำๆพร้อมกับจิ้มเบคอนเข้าปากไปด้วย
“ไม่หรอก ไม่ใช่คนขี้เบื่อนี่นา” ชานยอลส่ายหน้าพรืดพร้อมกับยิ้มกว้าง ตอนนี้เขาจัดการกับมื้อเช้าในจานของตัวเองเรียบร้อยแล้ว เด็กหนุ่มค่อยๆยกมือขึ้นเท้าคางมองอีกฝ่ายที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาทานอาหารอย่างพิจารณาและชานยอลก็พบว่าคริสเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบมากทีเดียว ไม่ว่าจะส่วนไหนเครื่องหน้าของชายหนุ่มก็รับกันได้อย่างเหมาะเจาะไปหมด เส้นผมสีบลอนด์ทองของคริสที่แม้จะยังไม่ได้ถูกจัดทรงให้เรียบร้อยหากมันก็ยังดูมีเสน่ห์จนแทบละสายตาไปไม่ได้อยู่ดี
“มองอะไรเด็กดื้อ” ชานยอลสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อร่างสูงเงยหน้าขึ้นจากจานอาหารกะทันหัน ดวงตาคมสีนิลคู่นั้นทอดเข้าไปในดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อน เด็กหนุ่มยกมือสองข้างขึ้นแนบข้างแก้มพร้อมกับขมวดคิ้วเรียวเข้าหากัน ความรู้สึกร้อนวูบผะผ่าวที่ปะทะเข้ากับใบหน้าในตอนนี้ทำให้ชานยอลต้องรีบหลุบตาลงต่ำหนีสายตาของคนตรงหน้าอย่างรวดเร็ว
“อื่มแล้วใช่ไหม อยากทานขนมปังหรือเปล่า” คริสเอ่ยถามพร้อมกับลุกขึ้นยืนเก็บจานมาถือเอาไว้
“ม..ไม่ครับ ขอบคุณ” ร่างโปร่งส่ายหน้าพรืด ชายหนุ่มพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปเก็บจาน เขาวางมันลงในซิงค์น้ำติดกับเคาน์เตอร์เตาแก๊สก่อนจะเริ่มลงมือทำความสะอาดให้เรียบร้อยแล้ววางพักเอาไว้บนชั้นวางจานข้างๆกันก่อนจะเดินไปหยิบแก้วมาเทน้ำจากในตู้เย็นมายื่นให้กับเด็กหนุ่มที่กำลังนั่งทำตาแป๋วอยู่ที่เดิม
“ขอบคุณฮะคริส” ชานยอลส่งยิ้มน่ารักมาให้พร้อมกับรับน้ำมาดื่มในขณะที่ร่างสูงเดินไปหยิบถุงยาของเด็กหนุ่มมาตรวจสอบอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่านอกจากยาที่ต้องทานหลังอาหารเช้าพร้อมกับนมสดแล้วยังมีอะไรอีกหรือเปล่าดังนั้นเมื่อพบว่ามียาเพียงตัวเดียวคริสจึงเดินไปหยิบแกลลอนนมในตู้เย็นออกมาเทใส่แก้วเตรียมไว้ให้กับร่างโปร่งก่อนจะเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กกว่าที่กำลังนั่งรออยู่
ชานยอลรับแก้วนมมาถือพร้อมรับยามาทานอย่างว่าง่าย ดวงตากลมๆยังคงมองสบดวงตาเฉี่ยวของร่างสูงก่อนที่เด็กหนุ่มจะลดแก้วในมือลงแล้วส่งคืนให้
“หมดแล้ว” ร่างโปร่งว่าพลางฉีกยิ้มกว้างมาให้อีกฝ่ายอย่างร่าเริง
“เก่งมาก” คริสพูดขึ้นพร้อมกับเดินไปวางแก้วทิ้งไว้ในอ่างล้างจานในขณะที่ชานยอลลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนที่เด็กหนุ่มจะขมวดคิ้วเข้าหากันแล้วเริ่มก้มๆเงยๆคล้ายกำลังมองหาอะไรสักอย่าง
“หาอะไรอยู่ชานยอล” ร่างสูงเอ่ยถามอย่างแปลกใจ
“คุณแรบบิทฮะ คุณแรบบิทหายไปไหนก็ไม่รู้ สงสัยจะงอนที่ทานข้าวก่อนแน่ๆเลย” ชานยอลตอบพร้อมกับทำหน้ามุ่ย
“ไม่หายหรอก อยู่ในนี้แหละ” คริสพูดขึ้นก่อนจะเดินไปหยิบตะกร้าผ้าออกไปวางที่หน้าประตูห้องเพื่อรอให้พนักงานร้านซักรีดมาเก็บในเวลาเก้าโมงเช้าแล้วเดินกลับเข้ามาก่อนจะเริ่มต้นช่วยตามหาคุณแรบบิทตามซอกมุมต่างๆของคอนโด
“คุณแรบบิท! คุณแรบบิทอยู่ไหน? *^*” ชานยอลร้องเรียก
“อยู่ใต้ตู้หรือเปล่า” ร่างสูงว่าพลางพยักพะเยิดไปที่ตู้ไม้เก็บของติดกับผนังฟากหนึ่งของห้อง
“ใช่แน่ๆ” ร่างโปร่งพยักหน้าก่อนจะเดินเข้าไปก้มดูในขณะที่คริสเดินเข้าไปช่วยหาอีกแรงหนึ่ง
“เฮ้ ชานยอลยืนดีๆสิ” ว่าพลางเลื่อนมือขึ้นประคองเอวของเด็กหนุ่มเอาไว้ในขณะที่ชานยอลยังคงก้มตัวลงไปตามหาคุณแรบบิทพร้อมกับร้องเรียกไปด้วย
“นั่นไงคุณแรบบิท!” ร่างโปร่งโพล่งขึ้น “อยู่ข้างในสุดเลยฮะคริส”
“ยื่นมือเข้าไปถึงไหม” ชายหนุ่มเอ่ยถามพลางโน้มตัวลงไปมองเล็กน้อย เขาพบว่าเจ้ากระต่ายขาวกำลังนอนหมอบหลบมุมอยู่ข้างในสุดติดกำแพงตามที่ชานยอลบอกจริงๆ
“เดี๋ยวลองดูก่อนนะ คุณแรบบิทออกมาเร็วลูกพ่อกับแม่ให้อภัยแล้ว!” เด็กหนุ่มร้องเรียกพร้อมกับยื่นมือออกไปหาคุณแรบบิทภายในนั้น
“เดี๋ยว ใครเป็นพ่อกับแม่..” คริสเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ
“คริสกับชานยอล..” เด็กหนุ่มพึมพำตอบเสียงแผ่ว
“หา?”
“ป่ะป๊าหม่าม้ากระต่ายขาวที่ฟาร์มของเพื่อนมินจ๊อก ><” ชานยอลตอบเสียงดังขึ้นมาอีกนิดหน่อย
“โอเค งั้นก็รีบๆเอามันออกมาเถอะ” เขาเอ่ยบอก เด็กหนุ่มพยักหน้ารับก่อนจะโน้มตัวลงไปอีกนิดกระทั่งสะโพกนิ่มอยู่ห่างกับร่างของคนตัวสูงกว่าเพียงไม่กี่มิลลิเมตรในขณะที่สองมือใหญ่ยังคงประคองเอวเล็กของร่างโปร่งเอาไว้เพราะกลัวว่าคนตรงหน้าจะเสียหลักล้มลงไปเสียก่อน
‘ประตูไม่ได้ล็อค งั้นดีเลย!’
‘จะดีได้ยังไงเล่าลู่หาน เคาะประตูก่อนสิ’
‘แบบนี้แหละถึงจะตื่นเต้นล่ะมินซอกเพราะงั้นเปิดเข้าไปเลยแล้วกัน’
‘ลู่หาน!’
“เซอร์ไพร้ส์!!!!!!”
วินาทีถัดมาทุกอย่างเงียบสงบเมื่อสายตาของแขกผู้มาเยือนสบเข้ากับเจ้าของห้อง ลู่หานอ้าปากหวอด้วยความตกตะลึงในขณะที่มินซอกเบิกตากว้างด้วยความตกใจก่อนที่เพื่อนสนิทของร่างสูงจะค่อยๆยกมือที่สั่นเทาขึ้นชี้อย่างช็อคๆ
.___.??
O.O!!!!
“คริส..”
“เดี๋ยว..เดี๋ยวลู่หาน มันไม่ได้เป็นอย่างที่นายเข้าใจ..” คริสส่ายศีรษะ สายตามองสลับไปมาระหว่างบุคคลที่กำลังยืนอึ้งอยู่หน้าห้องกับเด็กหนุ่มที่กำลังยืนโก้งโค้งด้วยท่าทีล่อแหลมอยู่ตรงหน้าในขณะที่ชานยอลยังคงพยายามควานหาเจ้ากระต่ายขาวจนไม่ได้สนใจหรือรับรู้ถึงบรรยากาศมาคุที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้เลยสักนิด
“ไอ้คริสไอ้วิตถารมึงลวนลามน้องกู๊!!!!”
.............................
“เป็นเพื่อนกันมาตั้งหลายปี ฉันไม่คิดเลยจริงๆว่านายจะเป็นคนแบบนี้!” ลู่หานโพล่งขึ้นพร้อมกับตบโต๊ะดัง ‘ปัง’ ทำเอาเด็กหนุ่มที่กำลังนั่งเล่นกับเจ้ากระต่ายขาวอยู่บนโซฟาต้องหันมามองด้วยความแปลกใจ
“ลู่หาน..” มินซอกปรามก่อนจะหันไปโบกมือเป็นเชิงว่า ‘ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง’ ให้กับชานยอลก่อนที่ร่างโปร่งจะพยักหน้าหงึกหงักแล้วหันไปบ่นงึมงำกับคุณแรบบิทต่อ
“มันไม่ใช่แบบนั้น บอกไปแล้วไงว่าชานยอลแค่ก้มลงไปจับคุณแรบบิท” คริสเลิกคิ้วพร้อมกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ อันที่จริงเขาพยายามจะอธิบายกับอีกฝ่ายว่ามันไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นเลยสักนิดมาตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงก่อนหากแต่ลู่หานกลับยังคงฝังใจว่าเขากำลังพยายามจะทำมิดีมิร้ายน้องชายของตนเองอยู่อย่างมุ่งมั่น
“นี่ฉันฝากปลาทอดไว้กับแมวสินะ!”
“ปลาย่างต่างหากล่ะลู่หาน” มินซอกกระซิบแก้พร้อมกับยกมือขึ้นกุมขมับเล็กน้อย
“นั่นแหละ..ปลาย่าง! ฉันฝากปลาย่างไว้กับไอ้เฒ่าหัวงู!” ลู่หานพยักหน้าพร้อมกับชี้นิ้วข้ามโต๊ะมายังเพื่อนสนิทของตนเองที่กำลังนั่งทำหน้าสลดอยู่ทางฝั่งตรงข้าม
“ก็บอกว่าไม่มีอะไร” คริสย้ำก่อนจะยกมือขึ้นกอดอก “ถ้าคิดจะทำฉันคงพาชานยอลไปทำในห้องนอน”
“นั่นไงมินซอก! ฉันว่าแล้วว่าไอ้คริสมันต้องคิดอะไร..คิดอะไรแบบนั้นกับชานยอลแน่ๆ!” ลู่หานกลืนน้ำลาย
“ใจเย็นน่าลู่หาน ทำไมนายต้องโวยวายอะไรขนาดนั้นด้วยวะเนี่ย!” คราวนี้เป็นมินซอกที่เริ่มจะหัวเสียกับลู่หานแล้วจริงๆ และทันทีที่ร่างเล็กขึ้นเสียงคริสก็หลุดหัวเราะออกมาพรืดใหญ่ให้กับท่าทีหวาดๆของเพื่อนสนิท ในตอนนี้นายตำรวจหนุ่มกำลังลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่พลางยกมือขึ้นเสยผมที่ร่วงลงมาปรกหน้าออกช้าๆ
“ก็แบบ..นั่นน้องชายฉันนะมินซอก T[]T” ลู่หานเบ้ปาก
“ก็คริสบอกแล้วไม่ใช่หรือไงว่ามันไม่มีอะไรน่ะ ฉันเห็นนายโวยวายมาตั้งครึ่งชั่วโมงแล้วนะโว้ย!”
“ฮ..ฮึก..เมียจย๋า!! TTATT”
“เมียพ่อง!” คุณหมอตัวเล็กตวาดพร้อมกับยกมือขึ้นทำท่าจะบิดหูคุณตำรวจมือดีอย่างลู่หานที่กำลังงอแงเป็นเด็กๆต่อหน้าทุกคนในห้อง
“มิกซอกใจเย็น!” ลู่หานยกมือขึ้นห้ามเมื่อมินซอกเริ่มขยับตัว นายตำรวจหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอพลางส่งยิ้มแหบแห้งให้กับอีกฝ่าย เขากระแอมเล็กน้อยก่อนจะประสานมือเอาไว้บนโต๊ะอาหารแล้วเริ่มพูด “โอเคคริส..เอาเป็นว่าคราวนี้ฉันจะไม่เอาเรื่องนายแต่ถ้ามีครั้งต่อไปล่ะก็!” ว่าพลางยกมือขึ้นทำเป็นรูปปืนพร้อมกับเป่าปลายกระบอกเบาๆด้วยสายตาโหดเหี้ยม คริสส่ายศีรษะก่อนจะหัวเราะ
“ไม่มีทาง” ชายหนุ่มเอ่ยตอบ
“อย่าให้รู้แล้วกันว่อย!” ลู่หานคาดโทษ หลังจากนั้นเขาหันไปส่งยิ้มให้กับคนตัวเล็กข้างกายที่ดูจะพึงพอใจกับการแก้ปัญหาครั้งนี้ มินซอกพยักหน้าเล็กน้อย ร่างเล็กหันไปมองชานยอลในขณะที่เด็กหนุ่มร่างโปร่งกำลังทำตาแป๋วมองคุณแรบบิทแทะตุ๊กตาแครอทสีส้มอย่างเพลิดเพลิน
“ขอโทษที่ทำให้ลำบากนะคริส แต่ช่วงนี้พวกเรายุ่งกันมากจริงๆ ลู่หานก็กำลังทำคดีส่วนฉันก็ต้องลงฟาร์ม ไม่มีใครมีเวลาว่างพอจะดูแลชานยอลเลยน่ะ” มินซอกพูดขึ้น
“อืม ไม่เป็นไรหรอก” คริสตอบรับ อันที่จริงเขาอยากจะถอนหายใจออกมาเพื่อระบายความรู้สึกแต่เพราะทุกอย่างมันเป็นข้อตกลงที่เขาทำใจยอมรับไปแล้วก็คงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะปฏิเสธมันอีก
“ยังไงก็ฝากดูแลชานยอลด้วยนะคริส” ลู่หานขยิบตา สาบานว่านี่เป็นอีกครั้งที่ชายหนุ่มรู้สึกเกลียดท่าทีของเพื่อนสนิทเป็นที่สุด
เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ของลู่หานดังขึ้นในอีกสองนาทีถัดมา ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินออกไปรับนอกระเบียงในขณะที่คริสและมินซอกพูดคุยกันเรื่องสัพเพเหระและหนึ่งในนั้นก็เป็นเรื่องของปาร์คชานยอลเสียเป็นส่วนใหญ่ ร่างสูงพบว่าคุณหมอร่างเล็กเอ็นดูน้องชายของลู่หานราวกับเป็นน้องแท้ๆของตัวเอง เหตุผลหนึ่งที่มินซอกตัดสินใจซื้อเจ้ากระต่ายขาวตัวน้อยให้กับชานยอลก็เป็นเพราะเด็กหนุ่มมีอาการซึมเศร้าในช่วงแรกหลังจากย้ายกลับมาจากอเมริกา
“ช่วงนี้แม่ของลู่หานยุ่งมากน่ะเลยต้องส่งชานยอลมาอยู่กับเรา” มินซอกพูดขึ้นพลางยกน้ำขึ้นจิบ
“ฉันเข้าใจ” คริสพยักหน้าและมันก็เป็นเวลาเดียวกับที่ลู่หานเดินกลับเข้ามา สีหน้ายุ่งยากของอีกฝ่ายในตอนนี้ทำให้มินซอกต้องรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ในทันที
“มีอะไรเหรอลู่หาน” ร่างเล็กเอ่ยถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“เกิดเรื่องยุ่งๆนิดหน่อย เราคงต้องรีบกลับกันก่อนแล้วล่ะมินซอก” ลู่หานตอบ “พี่กลับก่อนนะชานยอล” นายตำรวจหนุ่มเอ่ยพร้อมกับเดินเข้าไปกอดเด็กหนุ่มแน่นๆหนึ่งที
“อื้อๆ สู้ๆนะลู่หาน” ชานยอลพยักหน้าหงึกหงัก “ขอบคุณที่มาวันนี้” เด็กหนุ่มพึมพำเสียงแผ่วพลางอุ้มเจ้ากระต่ายขาวขึ้นโบกมืออำลา
“แล้วเจอกันนะชานยอล” มินซอกพูดขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาลูบผมร่างโปร่งเล็กน้อย
“แล้วเจอกันครับ” ชานยอลตอบ
“กลับก่อนนะคริส มีอะไรก็โทรมานะแล้วฉันจะพยายามมาเยี่ยมบ่อยๆ” ลู่หานบอกลาในขณะที่ร่างสูงพยักพน้ารับเล็กน้อย คริสเดินไปส่งคนทั้งคู่ที่หน้าประตู พวกเขาไม่ได้พูดอะไรกันมากนักกระทั่งประตูหน้าห้องถูกปิดลงเหลือเพียงความเงียบอีกหน ร่างสูงเดินกลับเข้ามาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาข้างๆกับร่างโปร่ง เขาเอนหลังพิงกับพนัก หลับตาลงและถอนหายใจออกมา
ตอนนี้คริสก็แค่รู้สึกเหนื่อยอย่างบอกไม่ถูก..
“คริสเป็นอะไรเหรอ” ชานยอลเอ่ยถามเสียงแผ่วด้วยความกังวลเมื่อได้เห็นท่าทีของคนตรงหน้า ชายหนุ่มลืมตาขึ้นก่อนจะหันไปสบตากับเด็กหนุ่มเล็กน้อย
“ไม่เป็นไรหรอก” เขาตอบสั้นๆในขณะที่ชานยอลดูจะไม่เชื่อคำพูดนั้นเท่าไหร่นัก
“มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าฮะ” เด็กหนุ่มถามย้ำ
“มีแน่ๆถ้านายซนน่ะ” คริสตอบขำๆ
“ไม่ๆ ชานยอลเลี้ยงง่ายจริงๆนะ คุณแรบบิทก็เลี้ยงง่ายยกเว้นตอนงอนแค่นั้นเอง” ชานยอลปฏิเสธและไม่รู้ว่าเพราะอะไรชายหนุ่มถึงได้หลุดขำออกมา เขาเดาว่าคงเป็นเพราะประโยคง่ายๆที่แทบจะไม่ต้องเรียบเรียงคำพูดอะไรมากของชานยอลล่ะมั้งหรือบางทีก็อาจจะเป็นเพราะรอยยิ้มสดใสนั่นหรือไม่ก็คงเป็นเพราะคุณแรบบิทที่กำลังเล่นซนกระโดดขึ้นมานั่งบนตักของเขา
“ดีแล้วที่เลี้ยงง่าย” คริสพูดขึ้นก่อนจะยกมือขึ้นแนบข้างแก้มกลมพลางไล้ปลายนิ้วโป้งเกลี่ยวนช้าๆในขณะที่เด็กหนุ่มค่อยๆหลุบตาลงต่ำมองมือของเขา
“อือ ทำไมชอบรุ่มร่ามอยู่เรื่อยเลย” ชานยอลบุ้ยปากก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ “ต้องบอกชอบก่อนนะ บอกชอบ..ถึงจะยอมให้จุ๊บ ><”
“หา?” คริสเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง ตอนนี้เขางงไปหมดแล้วว่าเด็กหนุ่มต้องการจะสื่ออะไร
“ก็..บอกชอบน่ะ ถึงจะเร็วไปก็เถอะแต่ว่าต้องบอกก่อนนะ” ชานยอลย้ำพร้อมกับพลิกตัวหันหลังให้กับร่างสูงในทันที เด็กหนุ่มซุกหน้าลงกับพนักวางแขน ยกมือขึ้นขยี้เรือนผมสีน้ำตาลอ่อนก่อนจะเลื่อนมันมาทาบไว้ที่ข้างแก้มที่กำลังร้อนผ่าวไปหมด
“อ๊า..แก้มจะระเบิดแล้ว แย่ที่สุดเลย ><” ชานยอลบ่นอุบอิบ
คริสไม่ได้รู้สึกว่าเขาเป็นวัยรุ่นแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะรู้สึกว่าตัวเองอายุมากเกินกว่าจะเข้าใจอะไรได้ง่ายๆและเท่าที่จำได้เขาเพิ่งจะฉลองวันเกิดอายุครบยี่สิบหกปีไปเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อนนี้เอง
แต่ทำไมเขาถึงไม่เคยเข้าใจอะไรในตัวของปาร์คชานยอลเลยนะ..=_=?
เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ชายหนุ่มขมวดคิ้วเข้าหากัน เขาถามตัวเองว่าควรจะโทรไปบอกลู่หานหรือเปล่าว่าเขากำลังมีปัญหาเรื่องการทำความเข้าใจในบทสนทนาของชานยอลทว่าในตอนนี้เขาพบว่าตัวเองกำลังเผชิญเข้ากับปัญหาที่ใหญ่กว่านั้น
คริสเพิ่งตกงาน..
และในบัญชีธนาคารของเขาก็ไม่มีเงินมากพอที่จะใช้จ่ายสำหรับสามชีวิตตลอดระยะเวลาสามเดือนแน่ๆ เพราะงั้นหลังจากคิดขึ้นได้ชายหนุ่มจึงตัดสินใจล้วงโทรศัพท์มือถือของตนเองออกมาจากกระเป๋ากางเกงและกดต่อสายไปหาใครคนหนึ่ง
[ฮัลโหล! คริสเรอะ] น้ำเสียงร่าเริงดังขึ้นจากปลายสายหลังจากสัญญาณรอสายเงียบลงแล้ว
“ใช่ครับคุณลี ผมเอง” ร่างสูงตอบรับ
[ดีเลย! ว่าจะโทรหาอยู่พอดี ตกลงว่ายังไงล่ะ จะมาทำงานกับผมหรือเปล่า?]
“เอ่อ..ครับ ผมหมายถึงผมสนใจจะรับงานนี้ครับ” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงแผ่ว “แต่ผมมีปัญหาติดขัดอยู่นิดหน่อย” คริสปรายตาไปยังเด็กหนุ่มร่างโปร่งที่ดูเหมือนจะนอนหลับสนิทไปแล้ว เขาส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นยืนอุ้มคุณแรบบิทที่กำลังนอนหลับปุ๋ยอยู่บนตักไปวางไว้บนผ้าขนหนูผืนเล็กๆในกรงนอกระเบียง
[เอ้อ ปัญหาอะไรล่ะ ผมช่วยได้ไหม?] ปลายสายเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงวิตก
“ครับ คุณช่วยได้แน่ๆ..” คริสตอบรับ
.
.
นาทีนั้นชายหนุ่มตระหนักว่าเขาคงไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากทางนี้แล้วจริงๆ..
TBC.
หะห้ะ เปิดเทอมแล้วค่ะ กว่าจะได้มาต่อ TT[]TT
รู้สึกชีวิตวุ่นวายจริงๆ ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า 5555555555555555
ยังไงก็ฝากคอมเม้น,ติดแท็ก #คุณแรบบิทยอล ให้เก๊าหน่อยน้า
ขอบคุณค่ะ ><
ขรรม , มินซอกคนเดียวที่เอาอยู่
แล้วก็พูดผิด ๆ ถูก ๆ น่าลักละเกิลลลลลลล
ยิ่งอ่านยิ่งชอบชานยอลอ่ะ ลู่หานโผล่มาได้ถูกจังหวะมากเลยย ฮื่อออ 55
จะทิ้งน้องหรอ?
พี่ลู่แลดูกลัวเมียยยยยยย ท่าทางมินซอกโหดมากด้วย ทีเดียวจบ 5555555
พี่คริสเดี๋ยวก็เข้าใจชานยอลใช่แม๊ะ
แล้วนี่อะไรง่าจะไปทำงานหงออออแล้วชานยอลกับคุณแรทบิทล่ะ T3T
คริสชอบทำตัวรุ่มรามกะน้องจัง ต้องบอกชอบก่อนเข้าใจมั้ย 55555555555
แล้วคริสจะทำงานอะไรอะ ยอลจะอยู่ยังไง
ขายยอลน่ารักมุมิมากกกกก เขินยังน่ารักน่าหยิกเลย >__<
คริสจะไปทำงานที่อื่นหรอ ม่ายน้าาาาาาาาา
มาอยู่ดูแลชานยอลก่อนสิ !
แต่อยากบอกอีกครั้งว่าอยากได้ชานยอลกลับบ้าน แง้งงงงงง ง~ >///< น่ารักเกิ๊นนน
มีการแก้ใหม่ด้วย ไหนบอกพ่อกับแม่คือคริสกับชานยอลไง ฮาาา
แต่อะไรก็ขำไม่เท่าตอนลู่หานกับพี่หมินเข้ามา กร๊ากแตกเลย 55555555555
แล้วอะไรมาบอกชอบๆก่อน ชานยอลใจเย็นๆนะลูก ไปไกลแล้วคนนี้ก็ 5555
ปล.การอ่านพาร์ทนี้ของไรเตอร์ทำให้เราต้องลุกไปหาอะไรมากินกลางดึก orz มันอ้วนน ง้ากกกก อ่านเจอไข่สองฟองแล้วหิว T_T
ส่วนคริสนี่ก็ไม่รู้ว่าแก่ไปรึยังไง
ถีงไม่อยเข้าใจชานยอลซักเท่าไหร่...
ชานยอลน่ารักมากกกกกกกกก
น่าให้พี่คริสจับฟัด TTwTT
ตลกลู่ง่ะ คิดไปโน่น 55555555555
เหมาเอาเองหมดด คริสเป็นพ่อ ชานยอลเป็นแม่ โอ้ย555555
ชอบคำว่าของน้อง 'ทำไมชอบรุ่มร่ามอยู่เรื่อยเลย' มันให้อารมณ์แบบ.. รุ่มร่ามอะ รุ่มร่ามม -/////-
พี่ลู่คือขี้โวยวายสุด55555 ชานยอล บอกชอบก่อนเดี๋ยวจะยอมให้จุ๊บ! คือหนูมโนไปเองอีกแล้วนะลูกก555
ตลกง่า แฝดคุณแรบบิทน่ารักมากก ยิ้มทั้งตอนเลย ><