ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เสน่หาอินคา

    ลำดับตอนที่ #40 : บทที่ 8 พลทหารยาปา [3]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 570
      8
      15 ม.ค. 61






     

    “เจ้าเป็นคนฉลาดและช่างสังเกตเสมอยาบารี เอาละ...ไหนบอกข้าซิว่าหากเจ้าได้เป็นทหาร เจ้าจะกลับบ้านของเจ้าได้อย่างไร” โรปาไม่ได้บอกว่าเขาเป็นใคร แต่กลับย้อนถามแทน ใจหายไม่น้อยเมื่อคิดว่าหญิงสาวจะต้องกลับไปยังที่ที่หญิงสาวจากมา เขาไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่หญิงสาวพูดนั้นจริงเท็จประการใด เขาใช้เพียงหัวใจและความรู้สึก เขาเชื่อว่าสิ่งที่ยาบารีพูดนั้นเป็นความจริง แม้จะเป็นความจริงที่เขามิอาจเข้าใจก็ตาม

     

    ยาบารีจึงเล่าให้เขาฟังว่าเธอเป็นนักท่องเที่ยว และพลัดหลงมาที่นี่เมื่อทาบสร้อยพระอาทิตย์ลงบนรอยสลักใต้ฐานหินอินติฮวนตานา เธอจึงอยากกลับไปที่นั่นอีกครั้ง เผื่อว่าจะเจอสร้อยพระอาทิตย์ เธออาจจะได้กลับบ้านอีกครั้ง

     

    “แล้วถ้าเจ้าไม่เจอสร้อยล่ะ”

     

    “นั่นก็แสดงว่าชะตาชีวิตของข้า ลิขิตให้ข้าเป็นคนที่นี่ ข้าคงต้องยอมแพ้ เพราะไม่รู้ว่าจะหาทางกลับไปยังที่ที่ข้าจากมาได้อย่างไร” ยาบารียิ้มเศร้าเมื่อคิดว่าเธออาจต้องจากคนที่เธอรักไปตลอดกาล โรปาเห็นดังนั้นก็ยีผมหญิงสาวด้วยความเอ็นดู

     

    “ข้าจะช่วยเจ้าให้ได้เป็นทหาร แต่ก่อนอื่น เจ้าต้องฝึกร่างกายให้แข็งแรง ข้าจะสอนเจ้าเอง”

     

    “โรปา...” เจ้าของเสียงเครือสะอื้นก่อนที่จะร้องไห้โฮเหมือนเด็กๆ โรปาหัวเราะแล้วโอบไหล่หญิงสาวเอาไว้อย่างปลอบโยน

    “อะไรกัน เป็นลูกผู้ชายเขาไม่ร้องไห้กันหรอก”

     

    “นั่นสิ ข้าลืมไป...ตอนนี้ข้าเป็นผู้ชายแล้ว” ยาบารีหัวเราะทั้งน้ำตา ในความโชคร้ายมีโชคดีเสมอ และโชคดีที่เธอได้รับก็คือมิตรภาพที่แสนอบอุ่นของชายร่างท้วมตรงหน้า...

     

     

     

     

    พระอาทิตย์ยังไม่ทันย่ำรุ่ง โรปากับยาบารีก็ตระเตรียมเสบียงอาหารและความพร้อมเพื่อเดินทางเข้าไปยังตัวเมืองกุสโก ที่ลานกว้างหน้าพระราชวังจะมีการคัดเลือกพลทหาร ปีนี้คัดเลือกยิ่งใหญ่กว่าทุกปี นั่นคงเป็นเพราะจักรพรรดิวาส การ์ ทรงมีแผนการจะยกทัพไปปราบเจ้าชายอะตาฮวลปาซึ่งตั้งตนเป็นกบฏนั่นเอง

     

    ชายหนุ่มจากหมู่บ้านต่างๆ มารวมกันที่ลานกว้างมากมาย ยาบารีหันไปมองโรปาอย่างไม่มั่นใจนัก แม้เธอจะฝึกมาบ้างแต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะผ่านการคัดเลือกเป็นทหารได้ ในเมื่อผู้ชายแต่ละคนล้วนบึกบึน กำยำ แตกต่างจากเธอที่มีรูปร่างผอมอ้อนแอ้นอย่างผู้หญิง ผิวสีน้ำผึ้งเมื่อมาอยู่ในดงผู้ชายผิวเข้มกร้านแดด เธอจึงดูเด่นสะดุดตา กลายเป็นขาวผุดผาดจนใครต่างก็เหลียวมองเธอซ้ำอย่างดูแคลน

     

    “ต่อไปนี้เจ้าชื่อยาปา ไม่ใช่ยาบารีอีกต่อไป ไปรายงานตัวเถอะ ข้าขอให้เจ้าโชคดี” โรปาตบบ่าหญิงสาวอย่างให้กำลังใจ

     

    “ค่ะ...ขอรับโรปา” ยาบารีพยักหน้าแล้วพยายามพูดครับให้เคยชิน ก่อนจะเดินไปเข้าแถวเพื่อรอเข้ารับการคัดเลือก โดยมีโรปาคอยยืนมองอยู่รอบนอก

     

    หญิงสาวผ่านการคัดเลือกร่างกายในรอบแรกมาได้อย่างเฉียดฉิว เพราะเธอดูผอมแห้งกว่าคนอื่นๆ แต่นายทหารที่เป็นคนคัดเลือกเห็นว่าเธอตัวสูง พอจะขุนให้อ้วนด้วยการออกกำลังกายหนักๆ ได้ จึงรับเธอผ่านเข้าไป

     

    “ปีนี้รับง่ายมาก ไม่โหดเหมือนปีก่อนๆ เห็นว่าต้องการทหารเป็นจำนวนมาก ไม่จำกัดอายุด้วยนะ ถ้าเจ้ามาปีที่แล้ว จ้างให้ก็ไม่ผ่านการคัดเลือกหรอก” ชายหนุ่มคนหนึ่งเอ่ยขึ้นพลางหันมามองเธอด้วยสายตาดูแคลน เพราะหากผู้ชายมองผู้ชายด้วยกันเอง เธอคงเป็นผู้ชายที่ดูขี้โรคและไม่เอาไหนเอาเสียเลย

     

    “งั้นหรือ” ยาบารีพยักหน้าช้าๆ อย่างไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด

     

    “ผ่านจากด่านนี้ไปต้องไปประลองฝีมือ เพื่อคัดเลือกเข้าสังกัดกรมกองต่างๆ อย่างเจ้าข้าว่าสมัครกองพลาธิการเลยท่าจะดี อย่าไปเสี่ยงประลองฝีมือเลย โดนเตะครั้งเดียวก็คงขาดครึ่งท่อนแล้ว”

     

    ยาบารีไม่โต้ตอบ อยากรู้เหมือนกันว่าไอ้คนตัวโตตรงหน้า ถ้าเจอคาราเต้สายดำยังจะปากดีอยู่มั้ย โลกที่เธอจากมาภัยอันตรายรอบด้าน เธอจึงต้องเรียนวิชาป้องกันตัวเอาไว้เพื่อใช้ต่อสู้กับคนร้าย แล้วเธอก็คิดไม่ผิดที่เรียนคาราเต้มาตั้งแต่เด็กๆ

     

    “ว่าแต่เจ้าชื่ออะไรรึ ข้าชื่อโทฮุย”

     

    “ข้าชื่อยาปา” หญิงสาวตอบและไม่คิดซักถามอีก ส่วนโทฮุยก็หันไปคุยกับคนอื่นๆ ด้วยน้ำเสียงโอ้อวดว่าตนนั้นเก่งนักหนา




     เงียบมากเลยยยยย มีใครเอาใจช่วยยาบารีมั้ยคะะะะะะะะะ







    ฝากแฟนเพจด้วยนะคะ 
    กดที่รูปการ์ตูนสะมะเรียได้เลยค่ะ



    เสน่หาอินคา
    เพียงฤทัย
    www.mebmarket.com
    ยาบารี ยาบารี ที่รักของข้า? เสียงเรียกอันแสนคุ้นเคยของใครบางคนที่ ยาบารี หญิงสาวลูกครึ่งไทย-เปรู ฝันถึงตั้งแต่ครั้งแรกที่เดินทางมายังเปรูดินแดนต้นกำเนิดอาณาจักรอินคาที่เธอหลงใหล เสียงปริศนาดังชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในยามหลับและยามตื่นราวกับกำลังเรียกเธอให้ไปหา... แล้วปาฏิหาริย์ก็ชักนำให้เธอหลงกาลเวลาไปยังอาณาจักรอินคา ดินแดนแห่งทองคำเมื่อสี่ร้อยกว่าปีก่อน ด้วยสร้อยพระอาทิตย์ของสำคัญที่บิดาทิ้งไว้ให้ก่อนจะเสียชีวิต ณ ที่แห่งนี้ เธอได้พบและผูกพันหัวใจไว้กับเจ้าชายทูปัก วีรา เจ้าชายหมอผู้สูงศักดิ์ ท่ามกลางสงครามและยุคสมัยแห่งการล่มสลายของอาณาจักรที่รุ่งเรือง หญิงสาวผู้มาจากอนาคตและเจ้าชายหนุ่มจะร่วมกันแก้ไขหน้าประวัติศาสตร์ได้หรือไม่ แล้วเธอจะหาทางกลับมายังปัจจุบันได้อย่างไร เมื่อยังมีสายสัมพันธ์รักอันยิ่งใหญ่กับชายสูงศักดิ์เกี่ยวกระหวัดให้หัวใจมิอาจลืมเลือน ***ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นจากหัวใจรัก นำพาให้คนทั้งสองได้พบเพื่อจาก และพรากเพื่อเจอ ตราบใดที่หัวใจทั้งสองดวงยังคงร้อยรัดด้วยสายใยแห่งรักและผูกพัน ปาฏิหาริย์จะชักพาหัวใจทั้งสองดวงให้กลับมาเคียงคู่กันในสักวัน

    ซากุระผลิที่กลางใจ
    เพียงฤทัย
    www.mebmarket.com
    หลิวหลุดเข้าไปใน 'ยุคสมัยเฮอัน' ซึ่งย้อนอดีตไปถึงพันปีเหตุการณ์กลับตาลปัตรเมื่อเธอกลายเป็นคุณหนูของคฤหาสน์อาจิไซ บุตรีขององคมนตรีชั้นเอกผู้เป็นข้ารองบาทขององจักรพรรดิในขณะเรื่องราวผิดฝาผิดตัวสร้างความโกลาหลวุ่นวายหัวใจของหญิงสาวก็เบ่งบานไม่ต่างจากดอกซากุระ

    ดวงใจปฏิพัทธ์
    สะมะเรีย
    www.mebmarket.com
    เลือดต้องล้างด้วยเลือด จักต้องแผดเผาศัตรูให้พินาศย่อยยับแต่เหตุใดเล่า... เมื่อเห็นนางเจ็บ เขากลับเจ็บยิ่งกว่า! องครักษ์หนุ่มนัยน์ตาสีน้ำเงิน ผู้ที่เข้ามาทำให้โลกของเจ้าหญิงครีษมาสดใส นางหลงรักเขาอย่างหมดหัวใจ ทว่าการที่องครักษ์หนุ่มเข้ามาใกล้ชิดนางนั้นกลับเต็มไปด้วยเงื่อนงำ... เมื่อองครักษ์หนุ่มคืนสู่ศักดิ์อันแท้จริง เขาคือเจ้าชายภานรินทร์ที่หายสาบสูญ เขากลับมาอีกครั้งเพื่อขจัดความอยุติธรรม พร่าเกียรติและศักดิ์ศรีเจ้าหญิงผู้สง่างามให้พลิกผันเป็นเพียงนางบำเรอชั้นต่ำ!นาง...เจ็บเจียนตายแต่หัวใจกลับรักเขาเขา…แค้นฝังใจแต่มิอาจปล่อยมือจากนางบทสรุปความรักจะเป็นเช่นไร...รักฤาชัง

    มายามรณะ
    รางนาก
    www.mebmarket.com
    ภาพหลอน! ความกลัว! ความตาย! และความสิ้นหวัง! ประดังเข้าสาดซัดนางเอกสาวดาวรุ่งราวกับห่าฝนในคืนเดือนมืด เมื่อมือที่มองไม่เห็นยื่นมากระชากชีวิตของหญิงสาวให้เปลี่ยนไปตลอดกาล...

    มะนาวซ่อนหวาน
    สะมะเรีย
    www.mebmarket.com
    ใครๆ ต่างพากันตั้งฉายาให้ มะนาว ว่า...ไฮโซขาวีน และ ไฮโซมือตบแต่...อย่าได้แคร์สื่อ เธอยังคงสวย เริด เชิด หยิ่งจนกระทั่งผู้เป็นบิดาต้องงัดไม้เด็ดมาปราบลูกสาวหัวดื้อทางด้าน เตชธรรม ถึงกับกุมขมับเมื่อได้รับมอบหมายให้ดัดนิสัยยายตัวร้ายที่เขาให้คำจัดความว่าตั้งแต่แรกเห็นว่า‘ชอบเที่ยวกลางคืน ยั่วยวนผู้ชาย ไม่รู้จักรักนวลสงวนตัว’ชายหนุ่มจึงงัดสารพัดวิธีที่มั่นใจว่าได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ออกมาจัดการทว่า...ผิดคาด เมื่อมะนาวลูกนี้ไม่ได้มีดีแค่ความเปรี้ยวซ่าอย่างที่คิดและกว่าจะรู้ตัวว่า...ผิดแผน หัวใจก็ลิ้มรสหวานจนถอนตัวถอนใจไม่ขึ้นเสียแล้ว

    มนตราสีกุหลาบ
    สะมะเรีย
    www.mebmarket.com
    มนตราแห่งเพตรา ดลบันดาลให้หัวใจสองดวงผูกพัน ก่อเกิดเป็นความรักร้อนแรงจนแม้แต่แสงจากดวงอาทิตย์ก็มิอาจเทียบ หลังจากผิดหวังในความรัก ยี่สุ่น...หญิงสาววัยเบญจเพสจึงตัดสินใจเดินทางมายังจอร์แดนตามคำชักชวนของมารดา พร้อมความเชื่อมั่นว่าสักวันหนึ่งเธอจะได้พบรักแท้ และเมื่อเธอมาถึงนครเพตรา?นครศิลาสีชมพู เธอก็ได้พบรัฟฟาน หนุ่มจอร์แดนมาดเข้ม เธอหลงคิดว่าเขาเป็นไกด์พื้นเมืองจึงใช้งานเขาสารพัด รัฟฟาน... ตำรวจสากลผู้ได้รับมอบหมายให้มาสืบหาแหล่งผลิตยาเสพติดที่นครเพตรา ยินยอมเป็นไกด์ให้ยี่สุ่นเพราะต้องการปลอมตัวให้แนบเนียน ไม่เป็นที่สงสัยของคนร้าย แต่นักท่องเที่ยวสาวกลับทำให้เขาต้องคิดทบทวนว่าเขาคิดผิดหรือไม่ที่ยอมเป็นไกด์ให้เธอ เพราะเธอเปิ่นและบ้าดีเดือดชนิดไม่มีใครเหมือน ซ้ำยังทำให้หัวใจเขาหวั่นไหว ท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ ความรักได้ก่อเกิดขึ้นจากความใกล้ชิด พร้อมกับอันตรายที่คืบคลานเข้ามาให้เขากับเธอร่วมกันฟันฝ่า เพื่อพิสูจน์ว่ารักแท้มีอยู่จริง +++++++++++++“ผมต้องทำยังไงคุณถึงจะเชื่อว่าผมไม่ได้ตั้งใจลวนลามคุณ ผมแค่เข้ามาปลุกคุณไปกินอาหารเย็น” รัฟฟานหัวเสียไม่น้อย นี่ล่ะเขาถึงไม่อยากมีแฟนเพราะรำคาญผู้หญิงที่ชอบพูดไม่รู้เรื่อง เอะอะก็โวยวายเอาไว้ก่อนไม่เคยฟังเหตุผลอะไรเลยสักอย่างเดียว“ฉันไม่เชื่อ”“ถ้าอย่างนั้นผมจะทำให้ดู”“คุณ...”รัฟฟานไม่เปิดโอกาสให้หญิงสาวโวยวายไปมากกว่านี้ เขาปิดปากอิ่มได้รูปด้วยริมฝีปากเรียวอย่างรวดเร็ว ยี่สุ่นพยายามโวยวายแต่กลับเป็นการเปิดเรียวปากให้ชายหนุ่มแทรกลิ้นร้อนเข้าไปตวัดเร้าควานหาความหอมหวานจากปากนุ่มสีกุหลาบ ยี่สุ่นสั่นไปหมดทั้งตัว หัวสมองหนักอึ้ง รู้สึกเหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจ แต่แล้วเขาก็เติมเต็มลมหายใจให้เธอพร้อมๆ กับฉกฉวยมันไป สลับไปมาจนเธอชาวาบจนถึงปลายเท้า แข้งขาอ่อนแรงจนแทบยืนไม่ติดพื้น เมื่อเขาบดจูบเร่าร้อนยาวนานจนเธอเผลอกอดตอบเขาและเผลอ...จูบตอบเขาอย่างไร้เดียงสารัฟฟานผละออกจากริมฝีปากอิ่มอย่างเสียดาย ยี่สุ่นทรุดฮวบลงไปกองที่พื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง คิดหาคำพูดหรือคำด่าทอไกด์หนุ่มไม่ถูก นั่งบื้อใบ้หัวสมองมึนงงด้วยความสับสน“คราวนี้เชื่อหรือยังว่าผมมาปลุกคุณให้ตื่นไปรับประทานอาหารเย็น ไม่ได้ตั้งใจเข้ามาลวนลาม เพราะถ้าผมตั้งใจจะทำ...ผมจะทำแบบเมื่อครู่นี้ เอาละ...อีกสิบห้านาทีผมจะกลับเข้ามารับ อย่าช้าล่ะเพราะที่นี่จัดอาหารเย็นแบบบุฟเฟต์หากเกินเวลาไปมากกว่านี้อาจไม่เหลืออะไรให้คุณกิน” พูดจบเขาก็เดินออกไปทิ้งให้หญิงสาวนั่งหน้าแดงก่ำจูบแรกของฉัน...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×