คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #37 : บทที่ 7 ผู้ถูกเลือก [6]
ผู้คนสมัยนี้หากรักใครรักจริง
การเป็นชู้มากผัวมากเมียไม่ค่อยมีให้เห็น
ชาวอินคามักอยู่กับคู่ของตนแล้วใช้ชีวิตไปจนแก่เฒ่า เมื่อผูกสมัครรักใคร่พูดคุยกันถูกคอ
ก็จะตบแต่งอย่างถูกพิธี ไม่มีคบนาน คบเผื่อเลือกแล้วเลิกร้างให้ผู้หญิงเสียชื่อเด็ดขาด
ไม่เหมือนยุคสมัยที่เธอจากมา ความรักกลายเป็นสิ่งฉาบฉวย บ้างคบกันนานอยู่กินกันอย่างผิดประเพณี
เมื่อเบื่อก็เลิกร้างกันไปอย่างง่ายดาย
ความรักจึงไม่มีค่าหากเทียบกับความรักขององครักษ์วาคัคและเชรี
“เฮ้อ!
ความรักหนอความรัก”
หญิงสาวหมุนตัวกลับทว่ากลับชนเข้ากับแผงอกกว้างของใครบางคน
“กระต่ายน้อยซุ่มซ่ามอีกแล้วงั้นหรือ”
เจ้าของพระวรกายสูงทรงเลิกพระขนงขึ้นทอดพระเนตรใบหน้าหวานที่บัดนี้ซีดเผือดด้วยความตกใจ
“ขอประทานอภัยเพคะเจ้าชาย”
หญิงสาวถอยกรูด เพราะรู้สึกตัวว่าใกล้ชิดเจ้าชายหนุ่มเกินไปแล้ว
แม้จะเป็นการพบกันครั้งที่สี่
ทว่าทุกครั้งที่พบเจ้าชายหัวใจเธอมักเต้นแรงจนยากที่จะควบคุม
“เจ้าใช้คำราชาศัพท์” ทรงแปลกพระทัยไม่น้อยเมื่อพบหญิงสาวครั้งนี้
เธอใช้คำราชาศัพท์ได้ดีขึ้นมาก “ฝึกพูดเพื่อข้างั้นหรือ”
ตรัสถามพลางสาวพระบาทเข้าหาหญิงสาว ในขณะที่เธอถอยห่างช้าๆ
ราวกับการเข้าใกล้เจ้าชายหนุ่มจะทำให้เธอสูญเสียความเป็นตัวเองไปอย่างรวดเร็ว
ยาบารีช้อนเปลือกตาขึ้นสบพระเนตรคมแล้วก็รีบหลุบตาลงต่ำ
เพราะสายพระเนตรกรุ้มกริ่มทำให้เธอรู้สึกราวกับว่าปลายเท้าของเธอกำลังยืนไม่ติดพื้น
ก่อนจะบังคับเสียงไม่ให้สั่นปฏิเสธออกไป “เปล่าเพคะ หม่อมฉันแค่ไม่อยากถูกลงโทษ”
เธอโกหก!
รู้อยู่แก่ใจว่าเรียนคำราชาศัพท์เพื่อใคร...
“งั้นหรือ... นึกว่าฝึกพูดเพื่อข้าเสียอีก
ข้ารึหลงดีใจ” ทรงยกพระพาหาทั้งสองข้างขึ้นกอดแนบพระอุระด้วยท่าทางสบายๆ
“หม่อมฉันเปล่า...”
หญิงสาวหน้างอเล็กน้อยเมื่อโดนจับได้ “แล้วทำไมพระองค์ต้องดีพระทัยด้วยล่ะเพคะ
หม่อมฉันจะพูดคำราชาศัพท์ได้หรือไม่ ไม่เห็นเกี่ยวกับพระองค์สักนิด”
“งั้นหรือ” ทรงย้อนถามเสียงสูง
ก่อนจะทรงพระสรวลในลำพระศออย่างอารมณ์ดี
“เพคะ”
“ไม่เกี่ยวก็ไม่เกี่ยว
ใจเจ้าย่อมรู้ดีกว่าข้า เจ้าว่าจริงหรือไม่” พระองค์ตรัสด้วยพระสุรเสียงอ่อนโยน
เมื่อเห็นหญิงสาวนิ่งเฉย มีเพียงแก้มนวลแดงระเรื่อก็ทรงแย้มพระโอษฐ์อย่างถูกพระทัย
“หม่อมฉันไม่ทราบเพคะ”
“แปลกนะ...หัวใจเป็นของเจ้า
เหตุใดเจ้าจึงไม่รู้” ทรงไขว้พระพาหาไปด้านหลัง
ก่อนจะสาวพระบาทเข้าหาหญิงสาวราวกับต้องการจะแกล้งคนตัวเล็ก
“...” ยาบารีนิ่งเงียบ
ก้มหน้าลงต่ำอย่างไม่รู้จะต่อปากต่อคำกับเจ้าชายทูปัก วีรา อย่างไร
หากเขาเป็นสามัญชนเธอคงเถียงขาดใจ แต่นี่เขาเป็นถึงเจ้าชาย
หากว่าเขาโกรธจนสั่งลงโทษเธอขึ้นมา เธอคงแย่แน่ๆ
“กระต่ายน้อย เจ้าชื่ออะไรหรือ” ตรัสถามขณะเชยคางมนที่เอาแต่ก้มหน้างุดให้เงยขึ้นสบพระเนตรของพระองค์
และเมื่อเหลือบพระเนตรไปเห็นรอยแผลเป็นเล็กๆ ที่ลำคอระหงก็ยิ่งทำให้พระองค์ทรงแน่พระทัยว่าผู้หญิงตรงหน้า
คือหญิงชาวป่าที่ช่วยกระต่ายจนวิ่งตัดหน้าขบวนเสด็จของพระองค์อย่างไม่ต้องสงสัย
“หม่อมฉันชื่อยาบารีเพคะ”
“ชื่อเพราะ
สมกับหน้าสวยหวานของเจ้า”
“ขอบพระทัยเพคะเจ้าชาย”
หญิงสาวถอยหลังออกห่าง การอยู่ใกล้ชิดกับเจ้าชายหนุ่มเช่นนี้ทำให้เธอหายใจติดขัดชอบกล
เธอต้องหาทางหนีเพราะยิ่งคุยยิ่งใกล้ชิดเธอก็ยิ่งรู้สึกแปรปรวนในหัวใจ
“เมื่อครู่ข้าเห็นเจ้าคุยกับวาคัค
มีเรื่องอะไรงั้นหรือ” ในที่สุดพระองค์ก็ตรัสถามถึงสิ่งที่ค้างคาพระทัย
อยากจะตรัสถามเสียตั้งแต่แรกแต่ทรงตรองดูแล้วว่าคงไม่ดีนัก
ยาบารีนิ่วหน้า ไม่รู้ว่าบอกเจ้าชายทูปัก
วีรา ได้หรือไม่ จึงส่ายหน้าปฏิเสธแทนคำตอบ
“หม่อมฉันคิดว่าพระองค์น่าจะถามองครักษ์วาคัคด้วยพระองค์เองนะเพคะ หม่อมฉันขอตัว”
หญิงสาวย่อตัวลงเล็กน้อยแล้วเดินหนีไปเสียดื้อๆ
ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าเดินหนีเจ้าชายทูปัก
วีรา อย่างกระต่ายน้อยนางนี้เลยสักที ก็แปลกไปอีกแบบ...
เจ้าชายหนุ่มทรงพระสรวลก่อนจะทอดพระบาทช้าๆ ชื่นชมธรรมชาติอย่างสำราญพระทัย
|
|
|
|
|
|
ความคิดเห็น