คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #32 : บทที่ 7 ผู้ถูกเลือก [1]
บทที่
7
ผู้ถูกเลือก
ยาบารีเข้ากับคนง่าย
เมื่อเห็นว่าองครักษ์วาคัคจริงใจ ไม่ได้มีท่าทางเจ้าชู้ประตูดินก็ทำให้เธอเบาใจ
นี่เป็นครั้งที่สามแล้วที่ทั้งสองนัดพบกันโดยมีเธอมานั่งเป็นส่วนเกิน
เพื่อไม่ให้น่าเกลียดหากใครมาเห็นเข้า แล้วพบว่าเชรีนั่งคุยอยู่กับผู้ชายสองต่อสองจะถูกตำหนิเอาได้
แต่ในบางครั้งเธอก็ปล่อยให้ทั้งคู่ได้มีโอกาสพูดคุยกันตามลำพังทว่าเพียงช่วงเวลาสั้นๆ
เท่านั้น
“กลับบ้านกันเถอะเชรี
หายออกมานานมากแล้วนะ”
ยาบารีเดินหายไปยังป่าด้านหลังไม่ถึงสิบนาทีก็เดินกลับมาหาเพื่อนสาว
“อยู่ต่ออีกนิดมิได้หรือ”
องครักษ์วาคัคมองหน้าเชรีด้วยสายตาละห้อย
เชรีเป็นคนกลางได้แต่ทำท่าทางอึกอักไม่รู้จะทำอย่างไร
เมื่ออีกคนทำตาละห้อยแต่อีกคนทำตาเขียวมองค้อนเช่นนี้
“เห็นใจข้าเถอะยาบารี
อีกหลายวันกว่าข้าจะมีวันหยุดมาหาเชรี
พรุ่งนี้ข้าต้องตามเสด็จเจ้าชายไปรักษาชาวบ้านอีกเมืองหนึ่ง
ไม่รู้จะได้กลับมาเมื่อไหร่” องครักษ์หนุ่มตัดสินใจร้องขอยาบารี
ทว่ายาบารีกลับกอดอกทำท่าทางครุ่นคิดราวกับจงใจแกล้งอีกฝ่าย
ช่วยไม่ได้คนที่มาแย่งเพื่อนสนิทของเธอไปก็ต้องโดนแบบนี้แหละ
เธอวางท่าอยู่นานจนองครักษ์หนุ่มถอดใจแล้วว่าเพื่อนสาวของเชรีคงไม่ยอมแน่
แต่เมื่อลุกขึ้นยืนเพื่อจะบอกลา ยาบารีกลับพยักหน้าขึ้นมาเสียดื้อๆ
“ก็ได้
ประเดี๋ยวข้าจะช่วยดูต้นทางให้” พูดจบก็ก้าวปราดๆ ไปนั่งอยู่บนตอไม้อีกมุม
“เพื่อนเจ้าช่างเจ้าเล่ห์นัก”
วาคัคถึงกับหัวเราะแล้วส่ายหน้าอย่างเห็นขัน
ทว่าเชรีชินเสียแล้ว ยาบารีเป็นเช่นนี้เสมอ
รักและหวงนาง นั่นเพราะยาบารีมักพูดเสมอว่านางมีบุญคุณที่ช่วยสอนภาษาเกชัว
แล้วยังยอมเป็นเพื่อนคนแรกของนางในยุคนี้
ยุคนี้...หมายความว่าอะไร
เชรีไม่เข้าใจแต่ไม่ได้ซักถาม เพราะแค่ได้ยินคำว่าเพื่อนที่แสนดีนางก็ยิ้มจนหน้าบานเสียแล้ว
ไม่ใช่แค่นางที่เป็นเพื่อนที่แสนดีของยาบารี
แต่ยาบารีเองก็เป็นเพื่อนที่แสนดีของนางเช่นกัน...
“เชรี...คืนนี้เจ้าจะออกมาหาข้าที่นี่
โดยไม่บอกยาบารีได้หรือไม่” องครักษ์หนุ่มกระซิบแผ่วให้ได้ยินกันแค่เพียงสองคน
เหลือบตามอง
ยาบารีที่นั่งอยู่บนตอไม้แล้วครวญเพลงอย่างอารมณ์ดี นับเป็นจังหวะดีในการนัดแนะกับเชรี
เพราะใช่ว่าจะมีโอกาสได้พูดคุยกันตามลำพังบ่อยนัก
“อย่าเลยค่ะ มันไม่งาม
ข้าเป็นหญิง...”
“เจ้าไม่อยากอยู่กับข้าสองต่อสองงั้นหรือเชรี”
องครักษ์หนุ่มเว้าวอน แล้วดึงมือหญิงสาวขึ้นมาจุมพิตแผ่วเบา
ทว่าเสียงกระแอมไอของยาบารีทำให้องครักษ์หนุ่มจำต้องยอมปล่อยมือบางอย่างเสียไม่ได้
เมื่อเห็นยาบารียืนขึ้นแล้วเดินมาทางนี้ชายหนุ่มจึงรีบตัดบทก่อนที่ยาบารีจะเดินเข้ามาได้ยินเสียก่อน
“คืนนี้ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่นี่
จะรอจนกว่าเจ้าจะออกมาพบ”
“แต่ว่า...”
“กลับกันเถอะเชรี”
ยาบารีขัดขึ้นก่อนที่เชรีจะทันได้ปฏิเสธองครักษ์หนุ่ม
“ข้าลาล่ะ แล้วพบกันใหม่”
องครักษ์วาคัคยืนขึ้น กล่าวลาทั้งสองสาวแล้วเดินทางกลับออกไปจากหมู่บ้าน...
มันควรจะเป็นเช่นนั้นทว่าชายหนุ่มกลับพักที่หมู่บ้านใกล้เคียง มิได้กลับวัง
นั่นก็เพราะเขาอยากจะเจอเชรี อยากพบและอยู่กับนางเพียงลำพังสองต่อสอง โดยไม่มีก้างขวางคอมาคอยกันท่า...
“เชรี ข้าเห็นว่าท่านวาคัคเป็นคนดี
แต่ถึงอย่างไรเจ้าก็เป็นผู้หญิง ข้าอยากให้เจ้าระวังตัวไว้บ้าง คบหากันให้นานๆ
แล้วค่อยตกลงปลงใจแต่งงาน รู้หรือเปล่า...ผู้ชายน่ะเปลี่ยนใจง่ายเสียยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด
ถ้าไม่อยากช้ำใจเจ้าต้องห้ามใจเร็วด่วนได้เป็นอันขาด”
“นานของเจ้าสักกี่วันหรือ”
“สัก 2-3 ปีเป็นอย่างน้อย”
“หา! 2-3 ปีเชียวหรือ
คนอื่นๆ ในหมู่บ้าน รักกันพูดคุยกันไม่ถึงเดือนก็แต่งงานแล้ว”
เชรีค้านอย่างไม่เห็นด้วยกับความคิดประหลาดของเพื่อนสาว
นางไม่รู้หรอกว่าอาณาจักรที่ยาบารีจากมาเป็นอย่างไร
แต่ชาวอินคาทุกคนให้เกียรติกันและกัน
การคบหากันยาวนานโดยไม่ยอมแต่งงานให้เป็นเรื่องเป็นราวนั้น
นำมาซึ่งความอับอายขายหน้า ใครเขาคงได้นินทาไปทั่ว
|
|
|
|
|
|
ความคิดเห็น