ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เสน่หาอินคา

    ลำดับตอนที่ #22 : บทที่ 5 แผ่นดินทองคำ [2]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 680
      6
      29 พ.ย. 60









     

    “เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”

     

    “ฉันไม่เป็นอะไรค่ะโรปา แค่สติแตกนิดหน่อย โรปาคุณอย่าทิ้งฉันไปไหนนะ ฉันไม่มีที่ไป ไม่รู้จักใครเลย ถ้าคุณทิ้งฉัน ฉันต้องตายแน่ๆ” หญิงสาวจับมือโรปาเอาไว้แล้วทำท่าอ้อนวอน

     

    “ข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า แต่เจ้าควรไปพักผ่อนที่บ้านข้าก่อน” โรปาพยักหน้าน้อยๆ แล้วเดินนำหน้าหญิงสาว ยาบารีเดินตามไปอย่างเงียบเชียบ เหลียวมองสองข้างทางไปรอบๆ ในความตื่นตระหนกและสับสน ทว่าความตื่นตาตื่นใจก็ทำให้หญิงสาวคลายอาการเหล่านั้นไปได้ชั่วขณะ

     

    เมืองกุสโกมีถนนหนทางสำหรับใช้สัญจรทว่าพาหนะไม่ใช่รถยนต์อย่างภาพที่หญิงสาวคุ้นตา แต่กลับเป็นตัวยามาที่ใช้บรรทุกของสัญจรไปมา โรปาดึงหญิงสาวให้เดินหลบข้างทาง ปล่อยให้ขบวน
    ยามากว่าร้อยตัวเดินผ่านไปก่อน ยาบารีมองขบวนยามาด้วยความตื่นตาตื่นใจ ไม่คิดว่าจะได้พบตัวยามาปริมาณมากขนาดนี้ และผู้คนที่สัญจรบนถนนแห่งนี้จะเดินเท้ากันเสียเป็นส่วนมาก

     

    ยาบารีทบทวนความทรงจำเกี่ยวกับประวัติศาสตร์อินคา ขณะเดินตามโรปาไปบนถนนสายเล็กๆ อาณาจักรอินคานั้นมีความเจริญจนทำให้นักประวัติศาสตร์รวมทั้งเธอเองต่างตั้งข้อสงสัย ว่าพวกเขาเหล่านี้นำอารยธรรมและการก่อร่างสร้างเมืองมาจากไหน จะเห็นได้จากการตัดถนนเพื่อใช้ในการคมนาคม ถนนสายหลักของอาณาจักรมีอยู่ 2 สายด้วยกันคือ คาปัคนาน หรือถนนสายจักรพรรดิ สร้างผ่านเทือกเขาแอนดีสจากพรมแดนของอาณาจักรบริเวณแม่น้ำคัสมาโยทอดยาวผ่านเอกวาดอร์ เปรู โบลิเวีย อาร์เจนตินา ชิลี และสิ้นสุดที่เมืองริโอมวล ซึ่งมีความยาวถึง 3,250 ไมล์

     

    และถนนอีกสายคือถนนเลียบชายฝั่งทะเลจากเมืองทัมเบส เมืองพรมแดนเหนือสุดของอาณาจักรอินคา ตัดผ่านทะเลทรายบราเซ็น เปรู ชิลี เชื่อมกับถนนอีกเส้นที่เมืองโคเปีย และไปสิ้นสุดที่เมืองริโอมวล โดยมีความยาวถึง 2,520 ไมล์ กว้างราว 24 ฟุต โดยคาปัคนานนั้นมีความยาวกว่าถนนที่ยาวที่สุดในอาณาจักรโรมันเสียอีก

     

    บ้านของโรปาเหมือนบ้านที่ไร่ในมาชูปิกชู เพียงแต่ว่ามีความหนาแน่นและมีบ้านเรือนมากกว่า ผู้คนที่นี่ต่างทำงาน มีหน้าที่กันทุกคน โรปาแนะนำกับคนอื่นๆ ว่าเธอคือหลานสาว พ่อแม่เสียชีวิตไปแล้วจึงรับมาอยู่ด้วย ซึ่งทุกคนดูเป็นมิตรกับเธอมาก ยาบารีพออุ่นใจได้ว่าแม้ตอนนี้จะยังหาทางกลับไปยุคของเธอไม่ได้ แต่เธอก็ยังสามารถใช้ชีวิตที่นี่ได้โดยไม่อดตาย

     

     

     

     


    “ยาบารี”

     

    “ข้าอยู่นี่เชรี ทางนี้ๆ” หญิงสาวโบกมือเรียกเพื่อนสาวอายุน้อยกว่าตนสามปี เพราะเชรีเพิ่งมีอายุครบ 15 ปีเท่านั้น แต่สำหรับผู้คนในยุคนี้ ผู้หญิงอายุ 15 ปีถือเป็นสาวเต็มตัวและพร้อมที่จะมีครอบครัวได้แล้ว

     

    “มานั่งอยู่นี่เอง ข้าตามหาเจ้าจนทั่ว”

     

    “มีอะไรเหรอ หรือว่าโรปาเรียกหา” ยาบารีลุกขึ้นยืนมองใบหน้าคมขำของเชรี เชรีจัดเป็นคนสวย สวยที่สุดในหมู่บ้านเลยก็ว่าได้ เธอตัวเล็กบอบบาง สูงน่าจะราวๆ 155 เซนติเมตร แตกต่างจากเธอถึงแม้ใครๆ จะชมว่าสวยก็จริง แต่ก็ตัวสูงเก้งก้างจนมีคนแซ็วบ่อยๆ ว่า ถ้าหากแต่งตัวตัดผมเป็นชาย คนทั่วไปที่ไม่เคยพบเธออาจคิดว่าเธอเป็นผู้ชายจริงๆ

     

    “ไม่มีอะไรหรอก จะชวนไปแอบดูเจ้าชายต่างหากล่ะ”

     

    “เจ้าชายงั้นเหรอ” ยาบารีทวนถามอย่างไม่แน่ใจในสิ่งที่ได้ยิน

     

    “ใช่ เจ้าชายทูปัก วีรา เสด็จมาตรวจรักษาชาวบ้านในหมู่บ้านเรา ตอนนี้พระองค์ประทับอยู่ที่ศาลาตรงข้ามบ้านของท่านผู้เฒ่า ไปกันเถอะยาบารี ข้าอยากเห็นเจ้าชายจะแย่แล้ว”

     

    ยาบารียืนอึ้งเมื่อได้ยินพระนามเจ้าชายทูปัก วีรา ภาพเมื่อสามเดือนก่อนย้อนกลับมาอีกครั้ง เมื่อครั้งที่เธอเดินทางจากเมืองมาชูปิกชูมายังเมืองกุสโก เธอได้มีโอกาสพบกับเจ้าชาย และพระองค์ยังทรงช่วยทำแผลให้เธออีกด้วย ไม่เคยมีเลยสักครั้งที่เธอจะไม่คิดถึงร่างสูง ดวงตาสีนิล ใบหน้าคมคล้ามแข็งแกร่งชวนหลงใหล แต่เมื่อได้รู้ว่าพระองค์หาใช่คณะแสดงละครประวัติศาสตร์อย่างที่เธอคาดเดา แต่กลับกลายเป็นเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ เธอก็รู้ว่าการจะได้พบกับพระองค์อีกครั้งนั้นคงไม่มีทางเป็นไปได้...

     

    ทว่า...

     

    “ไปกันเถอะยาบารี ข้าอยากไปดูเจ้าชาย เจ้าพาข้าไปเถอะนะ” เชรีคะยั้นคะยอเมื่อเห็นเพื่อนสาวยังยืนนิ่ง ก็จูงมือให้ออกเดินตามไปเสียดื้อๆ

     

    บัดนี้ยาบารีรู้แล้วว่าเธอย้อนอดีตมายังอาณาจักรอินคาซึ่งอยู่ในช่วงที่จักรพรรดิวาส การ์ ขึ้นครองราชย์ โดยมีเจ้าชายอะตาฮวลปา พระอนุชาแยกตนออกไปอีกเมืองหนึ่ง ทั้งสองจ้องจะห้ำหั่นกันให้ตายตกไปข้าง เพื่อแย่งชิงพระราชบัลลังก์ หญิงสาวรู้ดีว่าจุดจบของสงครามสองพี่น้องจะเป็นเช่นไร กระนั้นก็ได้แต่นิ่งเฉย พูดไปคนอื่นคงมองว่าเธอบ้าและเป็นการหมิ่นพระเกียรติองค์จักรพรรดิ ซึ่งถือเป็นพระบุตรขององค์
    สุริยเทพ

     

    กว่าสามเดือนแล้ว...ที่ยาบารีอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมืองกุสโก เชรีคือเพื่อนบ้านที่คอยสอนภาษาเกชัว และสอนการใช้ชีวิตต่างๆ ให้กับเธอ ทว่าเธอก็ไม่ได้อยู่นิ่งเฉย ชาวอินคาทุกคนมีหน้าที่ เธอจึงต้องไปช่วยโรปาทำไร่ ช่วยรดน้ำผลผลิตที่เมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยวรัฐบาลจะมาเก็บผลผลิตไปถึง 2 ใน 3 เพื่อเก็บไว้ในยุ้งฉางของรัฐ และนำออกแจกจ่ายเมื่อเกิดภัยพิบัติหรือไม่สามารถเก็บเกี่ยวพืชผลได้ เนื่องจากชาวอินคาไม่ใช้เงินและต่างทำหน้าที่ของตนเองจึงไม่มีการก่ออาชญากรรมหรือการลักขโมย บ้านเมืองจึงร่มเย็นเป็นสุขจนทำให้ยาบารีอดเปรียบเทียบไม่ได้ หากในยุคของเธอไม่มีการใช้จ่ายเงิน ความโลภคงไม่คุกคามหัวใจมนุษย์มากเท่าทุกวันนี้ 










    เสน่หาอินคา
    เพียงฤทัย
    www.mebmarket.com
    ยาบารี ยาบารี ที่รักของข้า? เสียงเรียกอันแสนคุ้นเคยของใครบางคนที่ ยาบารี หญิงสาวลูกครึ่งไทย-เปรู ฝันถึงตั้งแต่ครั้งแรกที่เดินทางมายังเปรูดินแดนต้นกำเนิดอาณาจักรอินคาที่เธอหลงใหล เสียงปริศนาดังชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในยามหลับและยามตื่นราวกับกำลังเรียกเธอให้ไปหา... แล้วปาฏิหาริย์ก็ชักนำให้เธอหลงกาลเวลาไปยังอาณาจักรอินคา ดินแดนแห่งทองคำเมื่อสี่ร้อยกว่าปีก่อน ด้วยสร้อยพระอาทิตย์ของสำคัญที่บิดาทิ้งไว้ให้ก่อนจะเสียชีวิต ณ ที่แห่งนี้ เธอได้พบและผูกพันหัวใจไว้กับเจ้าชายทูปัก วีรา เจ้าชายหมอผู้สูงศักดิ์ ท่ามกลางสงครามและยุคสมัยแห่งการล่มสลายของอาณาจักรที่รุ่งเรือง หญิงสาวผู้มาจากอนาคตและเจ้าชายหนุ่มจะร่วมกันแก้ไขหน้าประวัติศาสตร์ได้หรือไม่ แล้วเธอจะหาทางกลับมายังปัจจุบันได้อย่างไร เมื่อยังมีสายสัมพันธ์รักอันยิ่งใหญ่กับชายสูงศักดิ์เกี่ยวกระหวัดให้หัวใจมิอาจลืมเลือน ***ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นจากหัวใจรัก นำพาให้คนทั้งสองได้พบเพื่อจาก และพรากเพื่อเจอ ตราบใดที่หัวใจทั้งสองดวงยังคงร้อยรัดด้วยสายใยแห่งรักและผูกพัน ปาฏิหาริย์จะชักพาหัวใจทั้งสองดวงให้กลับมาเคียงคู่กันในสักวัน

    ซากุระผลิที่กลางใจ
    เพียงฤทัย
    www.mebmarket.com
    หลิวหลุดเข้าไปใน 'ยุคสมัยเฮอัน' ซึ่งย้อนอดีตไปถึงพันปีเหตุการณ์กลับตาลปัตรเมื่อเธอกลายเป็นคุณหนูของคฤหาสน์อาจิไซ บุตรีขององคมนตรีชั้นเอกผู้เป็นข้ารองบาทขององจักรพรรดิในขณะเรื่องราวผิดฝาผิดตัวสร้างความโกลาหลวุ่นวายหัวใจของหญิงสาวก็เบ่งบานไม่ต่างจากดอกซากุระ

    ดวงใจปฏิพัทธ์
    สะมะเรีย
    www.mebmarket.com
    เลือดต้องล้างด้วยเลือด จักต้องแผดเผาศัตรูให้พินาศย่อยยับแต่เหตุใดเล่า... เมื่อเห็นนางเจ็บ เขากลับเจ็บยิ่งกว่า! องครักษ์หนุ่มนัยน์ตาสีน้ำเงิน ผู้ที่เข้ามาทำให้โลกของเจ้าหญิงครีษมาสดใส นางหลงรักเขาอย่างหมดหัวใจ ทว่าการที่องครักษ์หนุ่มเข้ามาใกล้ชิดนางนั้นกลับเต็มไปด้วยเงื่อนงำ... เมื่อองครักษ์หนุ่มคืนสู่ศักดิ์อันแท้จริง เขาคือเจ้าชายภานรินทร์ที่หายสาบสูญ เขากลับมาอีกครั้งเพื่อขจัดความอยุติธรรม พร่าเกียรติและศักดิ์ศรีเจ้าหญิงผู้สง่างามให้พลิกผันเป็นเพียงนางบำเรอชั้นต่ำ!นาง...เจ็บเจียนตายแต่หัวใจกลับรักเขาเขา…แค้นฝังใจแต่มิอาจปล่อยมือจากนางบทสรุปความรักจะเป็นเช่นไร...รักฤาชัง

    มายามรณะ
    รางนาก
    www.mebmarket.com
    ภาพหลอน! ความกลัว! ความตาย! และความสิ้นหวัง! ประดังเข้าสาดซัดนางเอกสาวดาวรุ่งราวกับห่าฝนในคืนเดือนมืด เมื่อมือที่มองไม่เห็นยื่นมากระชากชีวิตของหญิงสาวให้เปลี่ยนไปตลอดกาล...

    มะนาวซ่อนหวาน
    สะมะเรีย
    www.mebmarket.com
    ใครๆ ต่างพากันตั้งฉายาให้ มะนาว ว่า...ไฮโซขาวีน และ ไฮโซมือตบแต่...อย่าได้แคร์สื่อ เธอยังคงสวย เริด เชิด หยิ่งจนกระทั่งผู้เป็นบิดาต้องงัดไม้เด็ดมาปราบลูกสาวหัวดื้อทางด้าน เตชธรรม ถึงกับกุมขมับเมื่อได้รับมอบหมายให้ดัดนิสัยยายตัวร้ายที่เขาให้คำจัดความว่าตั้งแต่แรกเห็นว่า‘ชอบเที่ยวกลางคืน ยั่วยวนผู้ชาย ไม่รู้จักรักนวลสงวนตัว’ชายหนุ่มจึงงัดสารพัดวิธีที่มั่นใจว่าได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ออกมาจัดการทว่า...ผิดคาด เมื่อมะนาวลูกนี้ไม่ได้มีดีแค่ความเปรี้ยวซ่าอย่างที่คิดและกว่าจะรู้ตัวว่า...ผิดแผน หัวใจก็ลิ้มรสหวานจนถอนตัวถอนใจไม่ขึ้นเสียแล้ว

    มนตราสีกุหลาบ
    สะมะเรีย
    www.mebmarket.com
    มนตราแห่งเพตรา ดลบันดาลให้หัวใจสองดวงผูกพัน ก่อเกิดเป็นความรักร้อนแรงจนแม้แต่แสงจากดวงอาทิตย์ก็มิอาจเทียบ หลังจากผิดหวังในความรัก ยี่สุ่น...หญิงสาววัยเบญจเพสจึงตัดสินใจเดินทางมายังจอร์แดนตามคำชักชวนของมารดา พร้อมความเชื่อมั่นว่าสักวันหนึ่งเธอจะได้พบรักแท้ และเมื่อเธอมาถึงนครเพตรา?นครศิลาสีชมพู เธอก็ได้พบรัฟฟาน หนุ่มจอร์แดนมาดเข้ม เธอหลงคิดว่าเขาเป็นไกด์พื้นเมืองจึงใช้งานเขาสารพัด รัฟฟาน... ตำรวจสากลผู้ได้รับมอบหมายให้มาสืบหาแหล่งผลิตยาเสพติดที่นครเพตรา ยินยอมเป็นไกด์ให้ยี่สุ่นเพราะต้องการปลอมตัวให้แนบเนียน ไม่เป็นที่สงสัยของคนร้าย แต่นักท่องเที่ยวสาวกลับทำให้เขาต้องคิดทบทวนว่าเขาคิดผิดหรือไม่ที่ยอมเป็นไกด์ให้เธอ เพราะเธอเปิ่นและบ้าดีเดือดชนิดไม่มีใครเหมือน ซ้ำยังทำให้หัวใจเขาหวั่นไหว ท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ ความรักได้ก่อเกิดขึ้นจากความใกล้ชิด พร้อมกับอันตรายที่คืบคลานเข้ามาให้เขากับเธอร่วมกันฟันฝ่า เพื่อพิสูจน์ว่ารักแท้มีอยู่จริง +++++++++++++“ผมต้องทำยังไงคุณถึงจะเชื่อว่าผมไม่ได้ตั้งใจลวนลามคุณ ผมแค่เข้ามาปลุกคุณไปกินอาหารเย็น” รัฟฟานหัวเสียไม่น้อย นี่ล่ะเขาถึงไม่อยากมีแฟนเพราะรำคาญผู้หญิงที่ชอบพูดไม่รู้เรื่อง เอะอะก็โวยวายเอาไว้ก่อนไม่เคยฟังเหตุผลอะไรเลยสักอย่างเดียว“ฉันไม่เชื่อ”“ถ้าอย่างนั้นผมจะทำให้ดู”“คุณ...”รัฟฟานไม่เปิดโอกาสให้หญิงสาวโวยวายไปมากกว่านี้ เขาปิดปากอิ่มได้รูปด้วยริมฝีปากเรียวอย่างรวดเร็ว ยี่สุ่นพยายามโวยวายแต่กลับเป็นการเปิดเรียวปากให้ชายหนุ่มแทรกลิ้นร้อนเข้าไปตวัดเร้าควานหาความหอมหวานจากปากนุ่มสีกุหลาบ ยี่สุ่นสั่นไปหมดทั้งตัว หัวสมองหนักอึ้ง รู้สึกเหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจ แต่แล้วเขาก็เติมเต็มลมหายใจให้เธอพร้อมๆ กับฉกฉวยมันไป สลับไปมาจนเธอชาวาบจนถึงปลายเท้า แข้งขาอ่อนแรงจนแทบยืนไม่ติดพื้น เมื่อเขาบดจูบเร่าร้อนยาวนานจนเธอเผลอกอดตอบเขาและเผลอ...จูบตอบเขาอย่างไร้เดียงสารัฟฟานผละออกจากริมฝีปากอิ่มอย่างเสียดาย ยี่สุ่นทรุดฮวบลงไปกองที่พื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง คิดหาคำพูดหรือคำด่าทอไกด์หนุ่มไม่ถูก นั่งบื้อใบ้หัวสมองมึนงงด้วยความสับสน“คราวนี้เชื่อหรือยังว่าผมมาปลุกคุณให้ตื่นไปรับประทานอาหารเย็น ไม่ได้ตั้งใจเข้ามาลวนลาม เพราะถ้าผมตั้งใจจะทำ...ผมจะทำแบบเมื่อครู่นี้ เอาละ...อีกสิบห้านาทีผมจะกลับเข้ามารับ อย่าช้าล่ะเพราะที่นี่จัดอาหารเย็นแบบบุฟเฟต์หากเกินเวลาไปมากกว่านี้อาจไม่เหลืออะไรให้คุณกิน” พูดจบเขาก็เดินออกไปทิ้งให้หญิงสาวนั่งหน้าแดงก่ำจูบแรกของฉัน...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×