ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [END] Family Project (KrisYeol) : Day&Night Secret Love

    ลำดับตอนที่ #13 : Chapter - 12

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.38K
      7
      17 เม.ย. 57

    140406 47%





    140417 110%


    เห็นเงียบๆแบบนี้ ปั่นต้นฉบับหัวหดก้นขวิดนะจ๊ะ 55555555

    ปล. #สปอย ตอนพิเศษเสร็จแล้ว อยากบอกว่าเด็ด!! #อะไรเด็ด 55555555


    ช่วงนี้เหตุการณ์ไม่ดีเลย ขอให้ทุกคนปลอดภัยนะคะ 
     

     
     
    ______________________________
     


     
     
    “เดินให้มันเร็วๆหน่อยเซะ!!!” ชานยอลหันกลับไปทำหน้าไม่สบอารมณ์ใส่คริสที่กำลังกดล็อครถอยู่
     
    เหตุการณ์มันเหมือนซ้ำรอยเมื่อวานเลยแหะ.. ชานยอลยืนเท้าเอวแล้วกระดิกเท้าดิ๊กๆรอใครอีกคนที่กำลังก้าวยาวๆมาหาเขา วันนี้ต้องมาประชุมอะไรก็ไม่รู้ถ้าไม่มาก็โดนอาจารย์ชองซ่อมคือมันไม่ใช่ คือโหดไปเพราะยังงั้นก็เลยต้องแหกขี้ตาตื่นแต่เช้ามาเนี่ยแหละ ชานยอลที่นอนไม่พอก็ไม่สบอารมณ์เอาน่ะสิ
     
    เพราะวันนี้เด็กวิศวะจะมารวมกันตัวกันโดนนัดหมายไว้แล้วก็เลยทำให้ที่จอดรถของคณะเต็ม คริสก็เลยต้องขับรถมาจอดที่คณะข้างๆแทน แน่นอนว่ามันต้องเดินไปคณะตัวเองใช่ไหมล่ะ ชานยอลไม่สบอารมณ์เลยบอกตรงๆ
     
    “จะรีบไปไหนควายหายหรือไง” ชานยอลทำตาโตแล้วแบะปากใส่
     
    “ควายไม่หายหรอก ก็อยู่นี่ไง” แล้วชานยอลก็ชี้นิ้วไปที่คริส จากนั้นคนชี้นิ้วก็เลยโดนผลักหัวไปสักหนึ่งที
     
    “ปากดีนักนะ” คริสล็อคคอชานยอลให้เข้ามาใกล้แล้วก็ก้มหน้าลงกัดริมฝีปากสีแดงสดไปสักที
     
    “ลงโทษ พูดมากจริงเดินไปได้แล้ว” ชานยอลมองค้อนใส่ก่อนที่สะบัดตัวออกแล้วก็เดินนำไปเลย คริสมองตามแล้วก็วาดยิ้มนิดๆ
     
    ชานยอลเดินให้ศีลให้พรอำนวยชัยให้คนที่เดิมตามหลังมาสักสองบทใหญ่ๆ พอเดินออกมาก็เจอลมเย็นๆพัดมา จำได้ว่าเมื่อคืนนั่งดูข่าวกับป๊าคิมนักพยากรณ์อากาศคนสวยบอกว่าวันนี้พายุอาจจะเข้า จะว่าไปฟ้ามันก็มืดๆ ลมเย็นๆด้วยนะ หรือฝนจะตกแต่ก็ไม่น่าจะตกหรอก…. มั้งนะ
     
    คริสที่เดินตามมาทันก็เกี่ยวเอวชานนยอลไว้พอเจ้าตัวหันมาลมที่พัดมาก็พัดเส้นผมยาวของชานยอลกระจุยกระจายเลยน่ะสิ เจ้าตัวแสบทำหน้าบู้แล้วก็ยกมือจัดทรงผมให้เรียบร้อยคริสก็เลยยื่นมือไปช่วยจัดผมให้ด้วย พอสางให้เป็นทรงเรียบร้อยเหมือนเดิมก็ตบที่กลุ่มผมนิ่มเบาๆ ชานยอลทำหน้ายู่แล้วก็ปัดมือออกแล้วสะบัดหน้าเดินหนีไปก่อน แต่ทว่าชานยอลก็เดินเหยียบสายเชือกรองเท้าที่หลุดจนเกือบจะหน้าคะม่ำดีที่คริสประคองไว้ได้ทัน
     
    รองเท้าคู่นี้เพิ่งซื้อมาใหม่ก็เลยยังไม่ชิน คุณป๊าซื้อให้เมื่อวานนี้เจ้าตัวดีที่เห่อของใหม่ก็เลยเอามาใส่ซะเลย ก็เพราะไม่ชินไงก็เลยเดินเหยียบสายเชือกรองเท้าและไม่รู้ตัวว่าตัวเองผูกไม่แน่น ชานยอลที่กำลังจะก้มลงไปผูกเชือกใหม่ก็โดนคริสรั้งแขนไว้แล้วตัวเองก็เป็นฝ่ายลงนั่งชันเข่าข้างหนึ่งแล้วผูกเชือกรองเท้าให้เอง ชานยอลที่เห็นแบบนั้นก็มองด้วยสีหน้าตกใจก็แบบเฮ้ย.. มาทำอะไรแบบนี้กันเล่า!
     
    พอได้เห็นเสี้ยวหน้าของคริสที่ดูจะตั้งใจกับการผูกเชือกรองเท้าให้แล้วก็ไม่รู้ทำไมอยู่ๆก็รู้สึกดีแล้วก็ยิ้มออกมาเสียอย่างนั้น ก็แหม.. คนอย่างคุณชายอู๋มานั่งคุกเข่าผูกเชือกรองเท้าให้เลยนะ ใครไม่ดีใจก็บ้าแล้ว!! พอผูกเสร็จคริสก็ลุกขึ้นยืนแล้วมองหน้าชานยอลที่ทำหน้าตาแปลกๆ เจ้าตัวก็เลยเอียงคอแล้วทำหน้างงใส่
     
    “ไปได้แล้วไหนว่ารีบไง” ชานยอลทำหน้าเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้แล้วก็รีบเดินมาก่อนเลย คริสที่มองตามก็ยิ้มขำ เอากับเขาสิน่า..
     
    แต่จริงๆแล้วลูกพี่กำลังเขินต่างหากล่ะ! ก็แหงล่ะใครจะไม่เขินบ้างล่ะ นี่รู้สึกตัวร้อนๆเหมือนจะระเบิดเลยให้ตายสิ!!
     
    พอเดินเข้ามาใต้ตึกก็เห็นพวกเพื่อนๆและรุ่นน้องมากันแล้ว ส่วนพวกรุ่นพี่ใกล้จบแล้วก็ปล่อยพวกนั้นไปตามยถากรรมเถอะได้ยินว่าวันนี้ก็มีเรียนกันตั้งแต่เช้าเลิกเกือบค่ำๆโน้น ทุกคนก็จับจองที่นั่งกัน ส่วนพวกรุ่นใหญ่ๆก็มีเก้าอี้นั่งส่วนตัวให้อยู่แล้ว คริสกับชานยอลเดินไปนั่งโต๊ะว่างข้างๆกลุ่มเพื่อนที่กำลังเตรียมป้ายอะไรก็ไม่รู้เยอะแยะ 
     
    “เรียกมาทำไมวะห๊ะ!” ชานยอลใช้ขาเตะขาเพื่อนสักคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ 
     
    “ก็มีเรื่องขอความร่วมมืออะดิวะ โคตรซวยเลยว่ะ” ชานยอลทำหน้าตาสงสัยใส่ คริสก็เลยยื่นมือไปล็อคคอชานยอลไว้ ก็เวลาที่คนตัวเล็กในอ้อมแขนเขาทำหน้าตาสงสัยมันก็ดูน่ารักใช่ย่อย ไม่อยากให้ใครเห็นเถอะ
     
    “มีอะไรวะ เรื่องอะไรทำไมต้องมาขอวิศวะด้วยวะ”คริสถาม ชานยอลก็พยักหน้าเห็นด้วย
     
    “ก็ไอ้พวกชมรมที่ไปบำเพ็ญประโยชน์มันเกิดติดงานน่ะดิ เขาก็เลยขอความร่วมมือทุกคณะให้ส่งตัวแทนไป” แค่ได้ยินว่าต้องไปบำเพ็ญประโยชน์ชานยอลก็ทำตาโตตกใจเสียแล้ว แล้วเพื่อนคนนั้นก็เดินไปช่วยกันยกบอร์ดกันมาและอย่าหวังว่าคริสกับชานยอลและพวกเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่งจะไปช่วย แค่พวกกูมาก็เพราะกลัวอาจารย์ชองหรอก!
     
    “ทำไมต้องบำเพ็ญประโยชน์ด้วยนะ ยังสยองไม่หายเลยเนี่ย” เพราะเคยโดนให้ไปทำแล้วน่ะสิ ดันได้ไปลงที่สวนสนุกขอบอกเลยว่าปาร์คชานยอลสาระร่างแทบแหลกสลาย!! แล้วคิดดูว่าการที่ต้องไปตัวคนเดียวไม่มีคนตัวสูงข้างกายไปด้วยนี่มันไม่ใช่เรื่องงามเลย
     
    “แล้วจะไปหรือเปล่าล่ะ” ชานยอลหันหน้าไปยู่ปากใส่คริสแล้วก็แบะปากคว่ำให้อีกสักที
     
    “ไม่ไป คริสก็รู้ชานยอลไม่ชอบความลำบาก” ชานยอลส่ายหน้าแล้วทำหน้างอนใส่ทำไมถึงต้องถามเรื่องอะไรที่รู้ๆกันอยู่แล้วด้วย คริสหัวเราะแล้วส่ายหน้าไปมา
     
    “โอ๊ะๆๆ คริสๆๆๆ ดูๆๆๆๆ” ชานยอลที่เห็นบอร์ดที่เพื่อนๆยกมาแล้วก็ทำตาโต สนอกสนใจเสียเหลือเกิน ก็นั่นมันทะเลแล้วก็มีเรือยอร์ชด้วยนะ!! ก็ร็แหละว่าเป็นภาพประกอบแต่แบบอยากไปไง! ชานยอลชี้นิ้วไล่ตามเพื่อนๆที่เดินเข้ามา คริสก็มองตามนิ้วของชานยอลจนมาหยุดอยู่ที่ข้างๆโต๊ะที่คนอื่นเลือกเป็นเวทีย่อมๆ 
     
    “อยากไปเหรอ” คริสเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้แล้วก้มลงจูบที่กระหม่อมของชานยอลไม่เบานัก ทั้งคริสและชานยอลน่ะเป็นปกติแต่ไอ้คนอื่นๆนับร้อยชีวิตที่มองอยู่น่ะไม่ปกติไง อยู่ๆก็เดธแอร์กันเสียอย่างนั้น
     
    “อื้ออยากไปอ่ะ” ชานยอลยังทำตาโตมีแววประกายมองรูปสถานที่เที่ยวพวกนั้นอย่างสนใจ
     
    “ขอดิเดี๋ยวพาไป” ชานยอลหันหน้ากลับมามองคริสแล้วก็พองสองแก้มใส่
     
    “พาไปจริงป่ะ” คริสระบายยิ้มแล้วพยักหน้า ทีนี้คนที่จะได้เที่ยวฟรีก็ยิ้มกริ่มแล้วจะยื่นหน้าเข้าไปจุ๊บขอบคุณแต่คุณเพื่อนๆทั้งหลายก็กระแอมไอขัดจังหวะกันเสียก่อน ก็รู้หรอกว่าแอบคบๆคั่วๆกันอยู่แต่คือพวกคุณมึงครับที่นี่ที่ไหนมองหน่อยโว๊ยครับ!!!
     
    “อะไรอ่ะ” ชานยอลหันไปมองค้อนใส่เพื่อนแล้วก็ทำหน้ายู่ใส่ด้วย คริสก็มองด้วยสายตาที่ดูว่าคุณพี่ท่านกำลังโกรธ นี่พวกกูผิดเหรอที่ไม่ให้พวกมึงมาเป็นประเด็นร้อนต่อหน้าประชาชีนับร้อยๆเนี่ย!!
     
    “เออจะเริ่มประชุมแล้ว” เพื่อนที่ถูกแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้ากระแอมไอเบาๆแล้วก็เริ่มประชุมทันที ถ้าไม่เช่นนั้นคุณชายอู๋จะลุกขึ้นมากระทืบเอาน่ะสิครับ!
     
    “สอบเสร็จไปเที่ยวกันป่ะ ไปนั่งเรืออันนั้นก็ได้” ชานยอลหันไปชี้นิ้วแล้วก็ยิ้มหวานเอาใจ แหมจะเที่ยวฟรีทั้งทีก็ต้องเอาใจคุณชายหน่อยสิ
     
    “ไหนบอกจะไปสวนดอกไม้ไง” ชานยอลทำหน้าคิดแล้วก็พยักหน้า
     
    “ไปไหนก็ได้ที่มีคริสอ่ะ~” และคริสเป็นคนจ่ายเงิน แต่นี่ไม่ไดพูดหรอกคิดเอาในใจ แต่เชื่อสิคุณชายเขารู้อยู่แล้วล่ะ ไอ้ที่มาทำท่าน่ารักๆ ตาโตๆ ยิ้มหวานๆเข้าอ้อนน่ะสเต็ปเดิมปาร์คชานยอลเขาล่ะ
     
    “งั้นนอนอยู่บนห้องไม่ต้องไปไหนโอเคป่ะ” ชานยอลแบะปากใส่ ฟาดขาไปหนึ่งทีแล้วก็หันหน้าหนีซะเลย
     
    “ล้อเล่นหรอกน่า” คริสยิ้มขำแล้วยื่นมือไปขยี้เส้นผมของชานยอลให้ยุ่งๆ ชานยอลที่จัดผมไปก็มองค้อนไป ก็แหมนี่หัวลูกพี่นะจะมาเล่นได้ยังไงกัน!! แต่ก็นะงอนนานไม่ได้หรอกเดี๋ยวมันทิ้งให้เดินกลับบ้านเองล่ะยุ่งเลยทีนี้
     
    คนอื่นก็ฟังการประชุมกันไปอย่างตั้งใจ คริสก็นั่งกางแขนวางไว้บนโต๊ะผ่านหลังชานยอลคล้ายกับนั่งโอบคนตัวบางไปในตัว ส่วนเจ้าตัวก็ก้มหน้าเล่นเกมหาได้สนใจคนอื่นๆไม่ เล่นเกมอยู่ดีๆก็รู้สึกหิวน้ำเสียอย่างนั้น มองหาก็ไม่เห็นแถมร้านอาหารในโรงอาหารวันนี้ก็ไม่เปิดอีก จะเห็นก็แต่คนข้างตัวนี่ล่ะที่เลิกคิ้วมองอยู่
     
    “หิวน้ำอ่ะ” ชานยอลเอ่ยบอกพร้อมกับที่คนอื่นๆกำลังส่งเสียงโห่ร้องไม่เห็นด้วยพอดี
     
    “อะไรนะ”
     
    “หิวน้ำ!” ชานยอลป้องปากใกล้หูแล้วตะโกนบอกแต่เสียงโวยวายพวกนั้นก็ยังดังกว่าอยู่ดี เพราะไอ้รุ่นน้องโต๊ะตรงหน้านี่ล่ะตะโกนเสียงดังกว่าใครเพื่อนเลย คริสส่งสายตาไปมองรอบๆเด็กบางคนที่เห็นก็ค่อยๆเริ่มเงียบปากลงแต่บางพวกก็ยังส่งเสียงกันอยู่
     
    “เงียบ!!!!” ในเมื่อเพื่อนๆปรามไม่ได้คุณชายก็ออกโรงเองเสียเลย ด้วยเสียงทุ้มต่ำที่ดูน่ากลัวบวกกับใบหน้าโหดเถื่อนๆก็พาลให้ทุกคนเงียบกริบเหมือนไม่มีใครอยู่ที่ตรงนี้เลย 
     
    “เมื่อกี้ว่าอะไรนะ” คริสหันมาถามชานยอล
     
    “บอกว่าหิวน้ำ”
     
    “เออรอแปบนึง” แล้วพี่ท่านก็ลุกขึ้นเดินออกจากใต้ตึกไปเลย ชานยอลก็มองทุกคนรอบๆแล้วก็ก้มหน้าเล่นเกมต่อ ทีนี้ก็เลยได้ประชุมกันต่อสักที
     
    “เอ้าน้ำ” คริสที่กลับมาพร้อมกับขวดน้ำยื่นให้ชานยอล เจ้าตัวก็รับมาเปิดฝาแล้วเสียบหลอดดื่มน้ำแล้วก็ยื่นส่งให้คนข้างตัวเองดื่มด้วย
     
    “เฮ้ยแล้วพวกมึงจะไปไหมน่ะ” คริสกับชานยอลหันไปมองทั้งๆที่คนหนึ่งก็ยังถือขวดน้ำให้ อีกคนก็ยังดื่มน้ำอยู่เลย
     
    “ไม่เอาอ่ะ” ชานยอลส่ายหน้าไปมาแล้วพวกเพื่อนก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก จากนั้นคริสกับชานยอลก็มานั่งสุมหวกันเล่นเกมในมือถือด้วยกันไม่สนใจใครอีกเลย 
     
    แต่ถึงจะไม่สนใจใครหลายคนเขาก็เห็นกันอยู่ดี ก็พี่ท่านเล่นมานั่งสวีทหวานกันสองคนตรงหน้าเนี่ยใครบ้างจะไม่เห็น!! คริสกับชานยอลก็ยังไม่รู้ตัวยังจะมานั่งเล่น นั่งคุยกันสองคนเสมือนโลกนี้มีกันอยู่สองคน เฮลโหล~ ทุกคนยังอยู่นะเออ!! 
     
    จื่อเทาที่นั่งอยู๋ไม่ไกลกันก็ได้แต่นั่งเท้าคางถอนหายใจ อะไรมันจะขนาดนั้น~ ก็ไหนว่าตอนแรกยังมาเต๊าะพี่จุนของเขาอยู่เลยพอพลาดท่าเสียทีพี่ใหญ่เข้าหน่อยทีนี้ล่ะหนีไปไหนไม่รอดเลยเหรอปาร์คชานยอล
     
    “เฮ้ยไอ้เทาตกลงว่าพี่มึงกับพี่ชานยอลนี่ยังไงวะ ได้กันแล้วดิ” เทาที่นั่งเท้าคางก็ทำหน้าเซ็งแล้วเหลือบปลายหางตามองเพื่อน
     
    “นั่งจุ๊บหัวกันเกยกันแทบได้เสียกันขนาดนั้นนี่ยังต้องบอกไหมว่าได้กันหรือยังน่ะ” จื่อเทาถอนหายใจเฮือกใหญ่ใส่ฮิมชาน
     
    “ว๊าเสียดายจังเลยพี่ชานยอลคนน่ารักเสร็จพี่ชายไอ้เทาไปซะแล้ว” 
     
    “แล้วมึงจะไปทำอะไรเขาได้ครับไอ้คุณแมวดำ” ฮิมชานที่นั่งข้างกันหันไปทำหน้าเพลียใส่
     
    “อาจจะทำอะไรพี่ชานยอลไม่ได้แต่กูหาผัวใหม่ได้นะ” แล้วก็ปล่อยฮิมชานกับแดฮยอนมันงอนง้อกันไปเถอะ เทาส่ายหน้าไปมาอย่างหน่ายใจแล้วก็มองพี่ชายตัวเองที่ดูจะมีความสุขดี ไม่รู้ล่ะสิว่าเงาหัวจะขาดอยู่แล้วน่ะ
     
    คริสกับชานยอลนั่งกันอีกพักใหญ่ๆเมื่อไม่เห็นอะไรสำคัญก็ขอตัวกลับแล้วปล่อยให้พวกเพื่อนหาชื่อผู้โชคดีที่จะอาสา(แบบไม่ค่อยเต็มใจ)ไปทำงานแทน แน่นอนว่าในนั้นจะไม่มีชื่อของชานยอลและคริสแน่นอนและอีกคนที่ขาดไม่ได้ก็คือฮวางจื่อเทา ในเมื่อพี่ใหญ่ไม่ให้ไปก็อย่าได้หวังเลยว่าใครหน้าไหนจะมีสิทธิ์ใส่ชื่อฮวางจื่อเทาลงไป
     
    พอเดินออกมานอกตัวตึกก็เห็นว่าท้องฟ้าเริ่มมืดแล้วบางทีอาจจะฝนใกล้ตกแล้ว ถ้ารีบกลับบ้านก็อาจจะทันฝนอยู่หรอก แต่ทว่าเดินมาได้ครึ่งทางอยู่ๆฝนก็เทลงมาซะห่าใหญ่เลย คริสกับชานยอลรีบวิ่งไปที่ลานจอดรถของคณะข้างๆ พอวิ่งเข้ามาได้ก็ตัวเปียกเป็นลูกหมาตกน้ำเลย คริสพาชานยอลไปหยิบพิงที่เสาข้างรถที่เขาจอดไว้แล้วหยิบทิชชูออกมาให้ชานยอลเช็ดน้ำฝนออกจากตัว ตัวเปียกแบบนี้ขับรถกลับบ้านน่ะไม่เท่าไหร่หรอกแต่ฝนที่เทลงมาเนี่ยสิ ขับกลับอันตรายจะตาย
     
    “คริสก็เช็ดด้วยดิ เปียกเหมือนกันนิ” ชานยอลยื่นทิชชูไปซับตามใบหน้าให้ คริสยิ้มแล้วเกี่ยวเอวชานยอลเข้ามาใกล้แล้วประสานมือไว้ที่หลังเอวของชานยอล
     
    “ผมยาวแล้วนะจะไปตัดผมป่ะ” หลังจากที่เช็ดหน้าให้เสร็จชานยอลก็ยกสองแขนคล้องไว้รอบลำคอของคริสแล้วไล้เส้นผมชื้นน้ำเล่น
     
    “อยากให้ตัดป่ะล่ะ” ชานยอลโคลงหัวไปมาแล้วก็พยักหน้า
     
    “ตัดดิเอาทรงเดิมนะ เท่ดี” คริสเลิกคิ้วทำท่าเหมือนเมื่อกี้ได้ยินไม่ค่อยชัด ชานยอลที่รู้ตัวแล้วว่าพูดอะไรออกไปก็กรอกตาไปมาแล้วแบะปากใส่
     
    “ยังไงก็หล่อไม่เท่าลูกพี่ชานยอลหรอกบอกไว้ตรงนี้เลย” คริสหัวเราะเบาๆในลำคอแล้วรั้งชานยอลให้เข้ามาใกล้
     
    “หล่อที่สุดอ่ะลูกพี่น่ะ” คริสเอียงหน้าทาบริมฝีปากลงไป ชานยอลก็หลับตาแล้วตอบรับจูบนั้น สองขายาวก้าวถอยหลังตามแรงดันจนชิดเสาด้านหลัง ปลายลิ้นอุ่นแทรกเข้าไปเกี่ยวกะหวัดกัน คริสจูบย้ำๆที่ริมฝีปากแล้วกดไล้จูบที่แก้มเย็นแล้วไล่ขึ้นไปยังข้างขมับและจบที่กลางหน้าผากมน
     
    “ในนี้ไม่มีใครเอาได้ป่ะ” ชานยอลทุบไหล่เข้าให้แรงๆเลย
     
    “ฝันไปเหอะ ไม่เอาหรอกเจ็บหลัง” ดันคริสออกแล้วก็ชะโงกหน้าไปมองว่าฝนหยุกตกหรือยัง ก็เห็นว่าฝนเริ่มจะซาลงแล้ว
     
    “จะกลับ..” พอหันกลับมาก็ชนเข้ากับคริสที่รออยู่แล้ว ดวงตาโตมองสบกับนัยน์ตาคมที่มองจ้องมาในระยะประชิด คริสกดย้ำเบาๆที่ริมฝีปากอิ่มก่อนที่จะผละออก
     
    “ฉวยโอกาส!” คริสเลิกคิ้วแล้วยิ้มขำ
     
    “ฉวยโอกาสกับเมียนี่ไม่นับนะ” ชานยอลดันอกคริสให้ออกห่างแล้วยกมือเท้าเอว
     
    “เมียอะไรๆๆ นี่อยู่ข้างบนแล้วต้องเป็นผัวแล้วดิ” คริสอยากจะหลุดหัวเราะออกมาเสียงดังๆเลย แต่ก็กลัวว่าจะโกนโกรธซะก่อนน่ะสิ
     
    “โอเคๆ ตกลงว่าเรากลับกันเลยนะ” เมื่อตกลงกันได้เรียบร้อยคริสก็ขับรถพาชานยอลกลับบ้าน
     
    ชานยอลที่นั่งมาในรถก็รู้สึกแปลกๆ มันกระวนกระวายใจและรู้สึกโหวงๆยังไงก็ไม่รู้บอกไม่ถูก มันเหมือนจะมีเรื่องเกิดขึ้นเลยแต่อะไรยังไงล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น...
     
    พอเลี้ยวรถเข้ามาจอดในบ้านได้ฝนก็หยุดพอดี ชานยอลลงจากรถด้วยความรู้สึกแปลกๆ คริสที่เห็นชานยอลเงียบมาตั้งแต่ขึ้นรถก็เดินมาโอบเอวแล้วยกยิ้มให้หนึ่งทีเจ้าตัวแสบก็เลยได้ยิ้มกว้างๆคืนมาให้ คริสเดินโอบเอวพาชานยอลเข้าบ้านไปแต่ทว่ายังไม่ทันจะพ้นห้องรับแขกเลยก็ได้ยินเสียงเรียกซะก่อน
     
    “คริส ชานยอลมาหาออมม่าก่อน” ออมม่าจองซูนั่งไขว้ห้างกอดอกรออยู่ที่โซฟายาว คริสกับชานยอลเดินเข้าไปหา ปกติออมม่าจองซูก็ไม่ค่อยอยู่บ้านหรอกนะเพราะท่านจะต้องไปโน้นมานี่ตลอด นี่มันเป็นเรื่องที่แปลกมาก.. แล้วสายตาที่มองมาหาชานยอลนี่ทำเอาลูกพี่หนาวๆร้อนๆเลย
     
    “คริสไปซื้อขนมที่ร้านประจำออมม่าให้หน่อยสิ” ออมม่าเอ่ยขอเสียงหวาน คริสเลิกคิ้วขึ้นก็ร้านที่ออมม่าชอบน่ะมันไกลจากที่นี่มากเลยนะ
     
    “ออมม่าจะกินตอนนี้เหรอ” ออมม่าพยักหน้าแล้วยิ้มให้ลูกชายคนโต
     
    “นะไปซื้อให้ออมม่าหน่อยนะ~” แล้วริสก็ต้องพยักหน้าตกปากรับคำ
     
    “ให้ไปด้วยเปล่า” ชานยอลหันไปถาม ตอนนี้คริสก็ยังโอบเอวชานยอลไม่ปล่อย ออมม่าหันไปยิ้มหวานให้ชานยอล
     
    “ไม่ต้องไปหรอกชานยอลมานั่งคุยกับออมม่าดีกว่า มาสิจ๊ะ” แล้วชานยอลก็ต้องเดินไปนั่งข้างๆอย่างเสียไม่ได้ คริสก็ออกไปพร้อมกับบอกว่าเดี๋ยวจะซื้อขนมมาฝากด้วย เอาน่า.. ถือซะว่านั่งคุยกับออมม่าก็ได้
     
    “ออมม่ามี...” ยังพูดไม่ทันจบเลยออมม่าก็สวนขึ้นมาเสียก่อน
     
    “ชานยอลคบกันคริสในฐานะอะไรเหรอจ๊ะ” งานเข้าแล้วไงล่ะครับ!! 
     
    แล้วเพราะเหตุใดออมม่าถึงมาถามกันแบบนี้!!! แล้วทีนี้จะให้ตอบว่าไงกันล่ะ ถ้าตอบว่าเป็นผัวของลูกชายออมม่านี่... ออมม่าจะเป็นลมไหมอ่ะ ลูกพี่ไม่อยากเสี่ยงลูกพี่ดูแลคนเป็นลมไม่เป็นนะเว๊ย!!! ไอ้คริสกลับมาก่อนนนนนน!!!
     
    “ก็เป็น... เป็นเพื่อนสนิทครับ” ชานยอลยิ้มกว้างใช้สกิลความน่ารักเข้าอ้อน... แต่ดูท่าจะไม่ได้ผลแหะ
     
    “อย่างนั้นเหรอแต่จากที่เห็นนี่ไม่น่าจะใช่นะ” คนน่ารักก็ได้แต่ทำตาโตกระพริบปริบๆแล้วเอียงคอทำหน้าสงสัยว่าออมม่าจะพูดอะไรคือลูกพี่ไม่เข้าใจ
     
    “ออมม่าหมายความว่ายังไงครับ ชานยอลก็เป็นเพื่อนคริสไง” แถมอีกสเต๊ปเกาหัวให้ด้วยจะได้รู้กันไปเลยว่าตอนนี้กำลังงงมากถึงมากที่สุด
     
    “ชานยอล.. ออมม่ามีลูกชายคนโตคนเดียวนะ” ชานยอลพยักหน้าตาม ใช่ออมม่ามีคนโตคนเดียวถ้าไม่นับคนรองจากคริสอีกสี่คน
     
    “ถ้าสนิทกันเกินกว่าเพื่อนออมม่าว่าควรหยุดนะ ออมม่าไม่ใช่ไม่รักชานยอลนะแต่มันก็ไม่ถูกต้องชานยอลเข้าใจออมม่าไหม” คนโดนถามว่าเข้าใจไหมกระพริบตาปริบๆแล้วเอียงคอใส่ทำท่าว่าไม่เข้าใจ ก็ชานยอลน่ะหัวช้าตามใครก็ไม่ค่อยจะทันแล้วจะไปเข้าใจอะไรได้ยังไงกัน
     
    “ออมม่าชานยอลไม่เข้าใจ” เธอยิ้มแล้วจับมือของชานยอลมากุมแล้วตบที่หลังมือเบาๆ
     
    “อย่าอยู่ใกล้คริสมากเกินไป อย่าสนิทกันเกินกว่าเพื่อนออมม่าขอนะคะ” ออมม่าจองซูยิ้มแล้วตบหลังมือของชานยอลเบาๆอีกครั้งก่อนที่จะลุกขึ้นเดินขึ้นไปข้างบน ชานยอลมองตามแล้วก็ได้แต่นั่งทำหน้าไม่เข้าใจ อะไรคืออย่าอยู่ใกล้มากเกินไป อะไรคืออย่าสนิทกันเกินกว่าเพื่อน
     
    ตอนนี้ตัวเขากับคริสอยู่ใกล้กันมากเกินไปไหม... ก็อยู่ด้วยกันแทบจะตลอดเวลา ถ้าเป็นเมื่อก่อนก่อนที่เขาจะมาอยู่บ้านนี้จะห่างกันก็แค่ตอนนอนเท่านั้น บางวันก็อยู่ด้วยกันตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเรียว่าอยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืน แบบนี้มันเรียกว่ามากเกินไปหรือเปล่าหรือมันพอดีแล้ว หรือยังไงกัน
     
    ความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้เกินกว่าเพื่อนหรือเปล่า... ถึงชานยอลจะคิดอะไรไม่ค่อยทันก็พอจะรู้หรอกว่าแบบนี้เพื่อนกันเขาไม่ทำกัน ความสัมพันธ์มันเกินคำว่าเพื่อนไปแล้วแน่ๆแต่มันหยุดอยู่ตรงไหนตัวเขาก็ไม่รู้หรอก คริสอยากให้หยุดอยู่ตรงไหนเขาก็จะหยุดอยู่ตรงนั้นแล้วแบบนี้เข้าข่ายที่ออมม่าบอกหรือเปล่า
     
    ชานยอลที่ยังคิดวกวนอยู่ในหัวไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าตัวเองเดินขึ้นมาบนห้องนอนของคริสได้ยังไงและเดินมาทำอะไรที่หน้าประตูตู้เสื้อผ้าและจะทำอะไรต่อไป ยืนคิดอยู่นานก็เริ่มจะเข้าใจแล้วว่าออมม่าคงไม่อยากให้เขาอยู่บ้านนี้ด้วยแน่ะและก็คงไม่อยากให้เขาอยู่ใกล้คริสอีก พอคิดได้แบบนั้นอยู่ดีๆหัวใจก็เต้นผิดจังหวะและวูบโหวงแปลกๆ ชานยอลเปิดประตูตู้เสื้อผ้าออกแล้วหยิบเสื้อผ้าที่เป็นของเขาออกมาจากตู้โยนไปที่เตียงจากนั้นก็หยิบกระเป๋าเป้ของเจ้าของห้องนี่ล่ะออกมาด้วย
     
    แม้จะไม่เข้าใจแต่เขาก็คิดได้แค่นี้แหละ ว่าถ้าจะไม่ให้เขากับคนตัวสูงกว่านั้นใกล้ชิดกันมากกว่านี้เราก็ต้องไม่อยู่ใกล้กัน ที่นี่ไม่ใช่ที่ของเขาเพราะฉะนั้นชานยอลจะไปเอง ชานยอลไม่ใช่คนที่จะทำอะไรได้เรียบร้อยแน่นอนว่าการเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋านั้นก็ไม่ใช่ใส่แบบเรียบร้อยแน่ๆ จับออกจากไม่แขวนได้ก็พับลวกๆแล้วยัดเข้ากระเป่าเป้ไป ของใช้ส่วนตัวที่เป็นของตัวเองก็กวาดลงกระเป๋าให้หมด... ไม่ให้เหลืออะไรสักชิ้นเดียว
     
    คริสที่ซื้อขนมเสร็จกลับมาบ้านแต่ก็ไม่เห็นใครในห้องรับแขกสักคน  พอถามจากคุณแม่บ้านก็ได้ความว่าออมม่าอยู่ข้างบนส่วนชานยอลก็คงจะอยู่ในห้องของเขา คริสก็เลยฝากให้คุณแม่บ้านเอาเค้กใส่จานทีเดี๋ยวจะพาเจ้าตัวแสบลงมากิน พอเดินขึ้นไปชั้นสองเปิดประตูห้องเข้าไปก็สวนกับชานยอลที่สะพายเป้าของเขาที่กำลังจะเดินออกจากห้องพอดี ทำไมชานยองของเขาต้องทำหน้าตาเหมือนจะร้องไห้แบบนั้นด้วย นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
     
    “เดี๋ยวชานยอลจะไปไหน” คริสขวางทางไม่ให้ชานยอลเดินออกจากห้องไปได้ ชานยอลที่พยายามจะเบี่ยงซ้ายเบี่ยงขวาแต่ก็ไม่สามารถก้าวออกจากห้องนี้ไปได้เลย เจ้าตัวเงยหน้ามองคริสด้วยสีหน้าแบะใกล้จะร้องไห้อยู่รอมร่อ คริสขมวดคิ้วแล้วมองชานยอลด้วยความไม่เข้าใจ
     
    “เป็นอะไรน่ะ มีอะไรหรือเปล่า” ชานยอลก้มหน้าลงแล้วส่ายหน้า คริสก็ยิ่งสงสัยน่ะสิ คนตัวสูงกว่าดันชานยอลให้เดินกลับเข้าไปในห้องแล้วตัวเองก็เดินตามเข้ามาแล้วปิดประตูซะ
     
    “แล้วนั่นจะเอาเป้ไปไหน” 
     
    “จะกลับบ้าน” ชานยอลตอบด้วยเสียงเบาๆสั่นๆ มันผิดแปลกจากลูกพี่ชานยอลคนเดิม
     
    “อยู่คนเดียวได้เหรอ” ชานยอลที่ยังก้มหน้าอยู่พยักหน้ารับ คริสก้าวเท้าเข้าไปใกล้แล้วช้อนแก้มกลมให้เงยหน้าขึ้นมอง
     
    “ชานยอลครับบอกคริสหน่อยว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงจะกลับบ้าน คนดีบอกกันหน่อยนะ” พอได้ยินน้ำเสียงทุ้มนั่นพูดเสียงอ่อนโยนดด้วยถ้อยคำเพราะๆหยดน้ำตาก็คลอรอบหน่วยตาก็ไหลรินโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว
     
    “ก็ออมม่าบอกให้ฉันอย่าอยู่ใกล้คริสนิ ออมม่าไล่ฉันกลับบ้านอ่ะ” คริสยิ้มแล้วไล้ปลายนิ้วเช็ดหยดน้ำตาให้
     
    “แล้วร้องไห้ทำไมน่ะ” ชานยอลแบะหน้าแล้วส่ายหน้าไปมา
     
    “ไม่รู้อ่ะ ฮือ...” คริสดึงชานยอลมากอดแล้วก็ส่ายหน้าไปมา เด็กน้อยของเขาร้องไห้ซะแล้วสิ ชานยอลกอดคริสแล้วซุกหน้าลงที่ไหล่ร้องไห้สะอื้น คริสก็โอบกอดแล้วลูบหัวปลอบ
     
    “ไม่เอาไม่ร้องนะเด็กดี มานี่มา” คริสจัดการถอดกระเป๋าเป้ออกแล้วเหวี่ยงมันไว้ที่พื้นก่อนที่จะพาชานยอลมานั่งบนตักเขาที่เตียง คนที่ยังร้องไห้ไม่หยุดก็กอดคอแล้วซุกหน้ากับไหล่ของคริสไม่ยอมเงยหน้า
     
    “ออมม่าพูดว่าไงไหนบอกมาหน่อยสิ” ชานยอลสะอื้นแล้วเงยหน้าขึ้นมอง ใบหน้าน่ารักที่แดงเรื่อไปหมดนี่มันทำให้คริสหมั่นเขี้ยวอยากจะฟัดคนบนตักเสียแล้วสิ
     
    “ออมม่าบอกว่า.. ไม่ให้ฉันเข้าใกล้นายอีก” คริสขมวดคิ้วมุ่นแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ เอาอีกแล้วออมม่าของเขา
     
    “ชานยอล.. บางทีคนดีของคริสอาจจะเข้าใจอะไรผิดไปนะ” ชานยอลกระพริบตาปริบๆแล้วก็มองคริสด้วยสีหน้าสงสัย แล้วด้วยใบหน้าแดงระเรื่อแบบนั้นมันก็ยิ่งน่ารักจนคริสอดใจไม่ไหวยื่นหน้าไปกดหอมแก้มใสเสียฟอดใหญ่
     
    “ไม่ต้องมาหอมแก้มเลยนะ! เข้าใจผิดยังไง” คริสยิ้มแล้วรั้งชานยอลให้อิงซุกหน้าไว้ที่ไหล่ของตัวเองแล้วก็ลูบกลุ่มผมของชานยอลไปเรื่อยๆ
     
    “บางทีออมม่าอาจจะไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นไง จริงๆแล้วออมม่าอาจจะงอนก็ได้นะ” ชานยอลุกขึ้นเงยหน้ามองแล้วทำหน้าไม่เข้าใจ
     
    “ห๊ะ? งอน?” คริสพยักหน้าแล้วยื่นมือไปลูบแก้มใสของคนบนตักเบาๆแล้วพยักหน้า
     
    “อืมงอน ก็เด็กดื้อน่ะเอาแต่พูดถึงแล้วก็อยู่แต่กับป๊านิออมม่าก็เลยงอนเอาน่ะสิ ตัวเล็กก็รู้ออมม่ารักตัวเล็กจะตาย” ชานยอลทำท่าคิดแล้วก็พยักหน้ากับประโยชคของคริสเพราะเขาก็เอาแต่อยู่กับป๊าจริงๆนั่นแหละ ก็ออมม่าไม่ค่อยว่างนินา
     
    “แล้วชานยอลควรทำไงอ่ะ” ชานยอลมองคริสดว้ยสายตาเป็นประกาย ลืมไปหมดแล้วว่าเมื่อกี้ยังร้องไห้สะอื้นอยู่เลย
     
    “ก็ง้อออมม่าไง” ชานยอลกระพริบตาปริบๆแล้วก็พยักหน้ารับมาดมั่นว่าตัวเองจะง้อออมม่าให้ได้
     
    บางทีนี่อาจจะเป็นเรื่องดีของชานยอลก็ได้ที่ตามใครเขาไม่ค่อยจะทัน มันก็เลยเป็นเรื่องดีที่เขาจะหลอกชานยอลได้ ออมม่าไม่ได้งอนหรอกแต่ออมม่าหมายความตามนั้นจริงๆ ออมม่าอยากให้ชานยอลเลิกยุ่งกับเขาจริงๆนั่นแหละเพราะก่อนหน้านี้ก็เป็นเรื่องของจุนมยอนและเทา ตอนนี้ก็เป็นเรื่องของเขาสินะ 
     
    ออมม่าเป็นออมม่าของเขาที่แต่งงานกับป๊า แต่ถ้ามาก้าวก่ายชีวิตเขากับน้องมากๆเขาก็จะไม่ปล่อยปัญหานี้ให้เลยผ่านไปหรอก เขาจะต้องจัดการมันให้เรียบร้อยแล้วยิ่งเรื่องนั้นเกี่ยวกับชานยอลด้วยแล้วล่ะก็... ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยมันเลยผ่านไปได้เลย
     
    ชานยอลที่กำลังคิดแผนการจะง้อออมม่าคนสวยก็เอนตัวพิงไหล่คริสไว้ ออมม่าจะต้องงอนที่เมื่อวานเขาเอาแต่สนใจรองเท้าคู่ใหม่ที่ป๊าซื้อให้แน่ๆ ออมม่าก็เลยบอกให้เลิกยุ่งกับคริส ถ้าเขาห่างคริสเขาก็จะห่างป๊าด้วย มันต้องเป็นแบบนี้แน่ๆ!! ไม่ได้การล่ะถ้าออมม่างอนแบบนี้ต้องรีบง้อ!!
     
    แล้วแผนการง้อของชานยอลก็เริ่มขึ้นได้บ่ายวันนั้น คนตัวบางจัดการจัดขนมที่คริสซื้อมาใส่จานให้สวยงามแล้วก็ดูน่ากินมากที่สุด คริสที่มองอยู่ก็เอาแต่อมยิ้มไม่ได้พูดและไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด พอจัดขนมใส่จานเรียบร้อย(ที่เสียเวลานานก็เพราะเจ้าตัวแสบหยิบวางซ้อนทับกันให้สวยน่ะสิ)ชานยอลก็บอกให้คุณแม่บ้านไปตามออมม่าลงมากินของว่างตอนบ่าย
     
    แต่ออมม่าก็เดินลงมาพอดี แม้จะแปลกใจนิดหน่อยที่ว่าทำไมชานยอลมายืนยิ้มอยู่ในห้องครัวก็เถอะ แต่มองสบตากับลูกชายคนโตแล้วก็ได้แต่ใจหายวาบๆก็แหมสายตาลูกชายสุดหล่อของเธอก็น่ากลัวล่ะเนอะ~
     
    “ออมม่า~ ออมม่ามากินขนมนะนี่ชานยอลตั้งใจจัดใส่จานให้ออมม่าเลยนะ นี่ด้วยน้ำชานี่ชานยอลต้มน้ำเองนะแต่ชานยอลไม่ได้ชงเองหรอกคุณแม่บ้านชง คุณแม่บ้านบอกว่าถ้าให้ชานยอลทำรับรองว่าออมม่าเข้าโรงบาลแน่ๆเลย” ชานยอลยิ้มกว้างแล้วพาออมม่าคนสวยมานั่งที่โต๊ะแล้วก็จัดการเลื่อนขนมและน้ำชาให้ออมม่าที่นั่งทำหน้างงๆ
     
    “ขอบใจนะจ๊ะชานยอล” ชานยอลยิ้มกว้างรับคำแล้วลงนั่งที่เก้าอี้ตัวข้างๆออมม่า
     
    “ไม่เป็นไรครับชานยอลทำได้ ชานยอลน่ะรักออมม่าจะตาย” แล้วก็ยิ้มกว้างทำท่าหัวใจให้ด้วย ออมม่าที่ยังฉงนใจอยู่ก็วาดรอยยิ้มขึ้นประดับบนใบหน้าสวยของเธอ ออมม่ายิ้มให้แปลว่าออมม่าหายงอนแล้วน่ะสิ อิอิ ลูกพี่ชานยอลทำสำเร็จ!!
     
    เอ... ว่าแต่ว่า.... ทำแบบนี้มันเหมือน.. เหมือนอะไรนะที่เคยดูกับคุณแม่.. อ๋อละครที่ลูกสะใภ้กำลังทำดีให้แม่สามีเอ็นดู เดี๋ยวนะ.. ลูกพี่ดิเป็นสามี งั้นเปลี่ยนใหม่เป็นลูกเขยกำลังทำให้แม่ยายยอมรับเนอะ แหมนี่พูดเลยนะว่าถูกใจที่สุดล่ะ
     
    คริสที่นั่งมองชานยอลเอาใจออมม่าก็แอบก้มหน้าหัวเราะเบาๆ ก็นะมันก็ดูน่ารักดีหรอกแต่หลังจากนี้ออมม่ากับเขาได้คุยกันยาวแน่ๆและแน่นอนว่าต้องมีป๊าด้วยแน่นอน คุณแม่บ้านยกเค้กมาให้คริส ชานยอลที่เห็นเค้กก็มองตามตาโตเลย เค้กน่ากินสองชิ้นถูกวางไว้ตรงหน้าคริส
     
    “มานั่งกินเค้กนี่สิ” คริสยกยิ้มมุมปาก ชานยอลกำลังลุกขึ้นแต่แล้วก็เหลือบไปเห็นออมม่าพอดี
     
    “ไม่เอาฉันจะนั่งข้างออมม่าเอาเค้กมาเลย” คริสเลิกคิ้วขึ้นแล้วส่ายหน้า
     
    “ไม่มีทาง อยากกินก็มานั่งนี่” 
     
    “ก็บอกว่าไม่นั่งไง ออมม่า~ ออมม่าดูคริสดิมันแกล้งชานยอล ออมม่าเอาคริสไปใช้งานให้หัวโตเลยนะ~~” ชานยอลลงนั่งข้างๆออมม่าแล้วกอดแขนอ้อนออมม่า ทีนี้ออมม่าคนสวยก็ตกหลุมความน่ารักของชานยอลเสียแล้วน่ะสิ
     
    “ได้เลยเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าออมม่าจะใช้งานคริสให้หัวโตไปเลย! คริสเอาเค้กให้น้องเลยเร็ว!!” นั่นไงพอเข้าขากันปุ๊บ เด็กเก็บมาเลี้ยงทันทีเลยครับอู่อี้ฟาน
     
    คริสมองภาพตรงหน้าที่ชานยอลกำลังนั่งคุยกับออมม่าแล้วก็ค่อยโล่งใจหน่อยและคิดว่าออมม่าคงจะไม่คุยประเด็นนี้กับชานยอลอีก ถ้าตัวเขากลับมาไม่ทันแล้วชานยอลกลับบ้านไปแล้วเกิดอันตรายอะไรขึ้นมาแล้วล่ะก็.. บอกเลยว่าเขาคงได้อาละวาดจริงๆแน่ ตอนนี้ที่ตัวเขายังมานั่งยิ้มได้อยู่ก็เพราะตรงหน้าเขายังมีปาร์คชานยอลให้มองเห็นอยู่ ขอบคุณที่เขากลับมาทัน
     
     
     
    “เดี๋ยวมานะ” คริสบอกชานยอลที่อาบน้ำสระผมเสร็จแล้วมานั่งให้เขาเช็ดผมให้จนแห้ง ชานยอลหันมาทำหน้าง้อใส่
     
    “จะไปไหนอ่ะ” คริสยิ้มแล้วลูบแก้มคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เบาๆ
     
    “ไปหาออมม่าเดี๋ยวมาแปบเดียว” ชานยอลก็ต้องยอมรับอย่างเสียไม่ได้ ก็ไม่รุ้หรอกว่าคริสจะไปทำไมแต่ที่แน่ๆคือชานยอลที่อยู่คนเดียวก็ไม่รู้จะทำอะไร
     
    ชานยอลเดินไปนอนแผ่บนเตียงนอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนวกมาถึงเรื่องอยากขับรถ แน่นอนล่ะชานยอลอยากขับรถได้สักที แล้วคนที่ขับรถเป็นถ้าไม่นับป๊าแล้วในบ้านนี้ก็มีแค่คริสกับ... จื่อเทา
     
    “ใช่เลยจื่อเทา!!” ชานยอลลุกขึ้นพรวดแล้วเดินออกจากห้องไปยังห้องข้างๆ ว่าจะไปบอกให้น้องเทาเทามาสอนขับรถหน่อย แล้วแน่นอนว่าต้องแอบลับหลังคริสด้วย เหมือนสามีกำลังจะแอบมีชู้เลยอ่ะบอกตรงๆ
     
    แต่ถ้าให้เป็นชู้กับฮวางจื่อเทานี่ขอคิดดูก่อนนะ ไม่ไหวจะเคลียร์เลยเถอะ
     
    “เทาเทา!!” ชานยอลเคาะประตูแล้วก็ลองบิดลูกบิดประตูดูก็พบว่ามันเปิดออกได้ก็เลยเปิดเข้าไป แล้วก็จังหวะพอดีกับน้องเทาที่อยู่ในห้องพอดี... แต่กำลังใส่ชุดนอนอยู่ที่หน้าตู้เสื้อผ้า
     
    “เฮ้ย!!!!! / เฮ้ย!!!!!” ทั้งชานยอลที่เดินเข้าห้องมากับเทาเจ้าของห้องที่กำลังกึ่งเปลือยกึ่งไม่เปลื่อยอยู่หันมามองหน้ากันแล้วก็ร้องเฮ้ยเสียงดังจนจุนมยอนที่กำลังจะเดินออกจากห้องก็รีบเปิดประตูแล้ววิ่งมาดู คริสที่กลับมาจากอีกด้านของบ้านที่เป็นห้องนอนและห้องทำงานของป๊าและออมม่าก็รีบวิ่งมาทันที
     
    “มีอะไรกัน” จุนมยอนที่ถึงก่อนถามชานยอลพอมองเข้าไปในห้องก็เห็นน้องเทานั่งกองกับพื้นอย่างตกใจชานยอลเองก็ตกใจ คนที่เพิ่งมาก็ตกใจด้วย
     
    “อะไรกันน่ะ!” คริสวิ่งมาถึงก็เห็นชานยอลกับจุนมยอนทำหน้าตกใจอยู่หน้าห้องของเทา พอมองเข้าไปก็เห็นเทาที่กำลังใส่เสื้อผ้านั่งกองกับพื้น
     
    “ชานยอลเข้ามาทำอะไรที่ห้องเทา!!!” คริสคว้าต้นแขนของชานยอลแล้วบีบแรงๆ แขนขาวเริ่มขึ้นรอยมือแดง ดวงตาคมของคริสจ้องมองชานยอลเขม็งและดูน่ากลัว
     
    “หะ.. ห๊ะ เอ่อ... เปล่า แค่จะมา.. มา...” บอกไม่ได้น่ะสิว่าจะมาคุยเรื่องให้ช่วยสอนขับรถน่ะ
     
    “มาทำไมอะไร!!” ชานยอลสะดุ้งโหยง ไม่ใช่แค่ชานยอลหรอกที่สะดุ้งจุนมยอนก็สะดุ้ง
     
    “ก็อย่าตะคอกสิ!” ชานยอลมุ่ยหน้าใส่
     
    “ชานยอล.. มาทำอะไรที่นี่” แม้น้ำเสียงจะไม่ได้ตะคอกใส่แต่ก็กดต่ำและบอกในน้ำเสียงเลยว่าถ้าไม่ได้รับคำตอบในเร็วนาทีนี้ล่ะก็จะต้องได้เจ็บตัวแน่ๆ
     
    “กะ.. ก็จะมายืมเกมเทาเล่นอ่ะ” ชานยอลที่เหลือบไปเห็นเครื่องเล่นเกมพอดีก็เลยใช้มาเป็นข้ออ้าง คริสหรี่สายตามอง
     
    “แต่ตอนนี้ไม่เล่นแล้ว” ชานยอลส่ายหน้าไปมา คริสลากชานยอลกลับห้องทิ้งจุนมยอนที่ยังยืนตกใจแล้วก็เทาที่นั่งกองกับพื้นไว้ตรงนั้นที่เดิม
     
    “พูดมาไปทำอะไรที่ห้องเทา” พอลากเข้ามาในห้องมาได้คริสก็บีบสองแขนของชานยอลแน่นเลย ไอ้คนโดนบีบก็เบ้หน้าเจ็บน่ะสิ ดวงตาคมมองจ้องอย่างต้องการคำตอบ ชานยอลยิ้มกว้างแล้วขยับตัวเข้าไปกอดคริสไว้
     
    “ไม่ได้ไปทำอะไร จะไปขอยืมเกมมาเล่นจริงๆ ก็เบื่อๆไงไม่ได้ทำอะไรไม่ดีเลย นะ~” ชานยอลเงยหน้าขึ้นมองสบตาแล้วก็ยิ้มกว้างให้ พอเห็นคนในอ้อมแขนเป็นลูกแมวเข้ามากอดมาอ้อนคริสก็หายโกรธแล้วน่ะสิ
     
    “ถ้าครั้งหน้าจะไปห้องเทาอีกต้องบอกรู้ไหม” ชานยอลพยักหน้ารับรู้ คริสก็เลยกดจูบที่ขมับไปหนึ่งที
     
    “รู้แล้ว ไม่โกรธกันแล้วเนอะ~” คริสช้อนแก้มชานยอลแล้วก้มลงสัมผัสตามแนวลำคอ ชานยอลเอียงหน้าให้คริสฝากรอยกัดที่คอตัวเองโดยที่ไม่บ่นเลยสักนิดเพราะบ่นไม่ได้เดี๋ยวจะเข้าตัว
     
    “ไม่โกรธก็ได้ถ้าคืนนี้จะยอมว่าง่ายๆ” ชานยอลยู่ปากใส่ ก็รู้แหละว่าไอ้การว่าง่ายๆของคนที่ทำหน้าตาเจ้าเล่ห์ตรงหน้าน่ะคือเรื่องอะไร ไม่พ้นเรื่องบนเตียงอีกน่ะสิ นี่เริ่มรู้สึกตัวแล้วว่าพลาดที่มารู้จักมันจังเลยว่ะ พลาดที่ดันมาได้ไอ้คนหื่นกามขึ้นหน้ามาเป็นเมียปะวะ ลูกพี่ชานยอลปวดหัว!
     
    “ก็ว่าง่ายอยู่ทุกคืนอ่ะแหละ” คริสกดยิ้มมุมปากแล้วก้มลงทาบริมฝีปากป้อนจูบให้ ชานยอลเดินถอยหลังไปหงายหลังลงนอนบนเตียงโดยมีคริสคร่อมทับอยู่ด้านบน
     
    เอาเถอะ... ยังไงก็ต้องยอมมันไปก่อนจะเล่นตัวก็ไม่ได้เดี๋ยวประเด็นนี้ไม่จบแล้วลูกพี่จะซวยเอา
     
    แต่ชานยอลจะรู้หรือเปล่านะว่าคริสเองก็กลบเกลื่อนเรื่องที่ตัวเขาไปคุยกับป๊าแล้วก็ออมม่ามาเช่นกัน ก็แหมเรื่องแบบนี้ก็ไม่อยากให้ชานยอลรู้เท่าไหร่หรอกเดี๋ยวก็มาร้องไห้แงๆให้เขาปลอบอีก แค่จะหนีกลับบ้านยังร้องไห้ขนาดนี้เลย ถ้ารู้ว่าจริงๆแล้วออมม่าต้องการอะไรชานยอลคงร้องไห้น้ำตาท่วมโลกซะแล้วมั้งน่ะ
     
    “ตัวเล็กครับรักนะ” ชานยอลมองหน้าคริสที่อยู่ไม่ไกลด้วยสีหน้าตกใจ คริสกดยิ้มส่งให้ ชานยอลยกสองมือขึ้นแนบสองแก้มของคริสแล้วระบายยิ้มบ้าง
     
    “อะไรอยู่ๆมาพูดแบบนี้ ถึงจะพูดหวานกว่านี้ก็ไม่มีเบิ้ลสองหรอกนะ” คริสหัวเราะเบาๆแล้วก้มลงกัดริมฝีปากอิ่มสีสดเบาๆ
     
    “ก็ไม่ได้หวังอะไร บอกเฉยๆหรอกน่า” ชานยอลแบะปากใส่
     
    “ตัวเล็กก็จะไม่บอกหรอกว่าก็รักตัวสูงเหมือนกัน” แล้วก็แลบลิ้นใส่ซะเลย คริสหัวเราะแล้วจี้เอวชานยอลไอ้คนที่บ้าจี้นิดๆตกใจหน่อยๆก็หัวเราะแล้วดิ้นหนีไปสิถูกใจคนแกล้งเขานักล่ะ 
     
    ที่พูดว่ารักก็เพราะอยากพูดอยากให้รู้ว่าเขารู้สึกจริงๆก็แค่นั้นแหละ แม้ในความเป็นจริงไม่ต้องพูดก็เหมือนจะรู้กันอยู่แล้วก็เถอะ... แต่บางครั้งคำพูดก็สำคัญและสร้างความมั่นใจให้ใครบางคนได้เช่นกันและกับชานยอลที่วันนี้เจอเรื่องบั่นทอนจิตใจมามันก็ช่วยให้ชานยอลได้ลืมเรื่องร้ายๆไป.. ไม่มากก็น้อยล่ะ
     
     
    คืนนี้ก็ยังเป็นคืนที่ฝันดีของชานยอลและคริสอีกหนึ่งคืน...
     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×