ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Mystery Dimension

    ลำดับตอนที่ #98 : Miho's Story

    • อัปเดตล่าสุด 12 มิ.ย. 63



    วันนี้ก็มาอีกแล้ว...

    ดวงตากลมโตของเด็กน้อยมองออกไปนอกหน้าต่าง เสียงฝนตกกระทบหน้าต่างดังต่อเนื่องแต่ก็ไม่ได้เรียกให้เธอสนใจเท่ากับอะไรบางอย่างที่วนเวียนอยู่ภายนอก สิ่งนั้นพุ่งชนหน้าหน้าต่างอยู่หลายครั้ง แต่น่าแปลกที่ไม่ยักจะส่งเสียงดังเลยสักครั้ง เด็กน้อยวัย3ขวบจ้องมองเจ้าสิ่งนั้นที่พยายามหลายต่อหลายครั้งในการพุ่งเข้ามาแต่ก็สะท้อนออกไปอยู่ดี ดวงตาดำมืดจับจ้องมาที่ตัวเธอเขม็ง...

    คล้ายกับว่ามันพยายามที่จะเข้ามาหาเธอให้ได้

    เด็กสาวตัวน้อยเอียงศีรษะเล็กน้อย มือเอื้อมออกไปเพื่อเปิดหน้าต่างให้สิ่งนั่นเข้ามา...

    "อ่ะ! ไม่ได้นะมิจัง ฝนตกอยู่ เดี๋ยวก็เปียกหรอก!" เสียงแสนคุ้นหูดังขึ้นพร้อมกับร่างเล็กที่ลอยหวืดออกห่างจากหน้าต่าง เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมอง 'คุณป้า' ด้วยความสงสัยก่อนที่จะยกมือขึ้นชี้เจ้าสิ่งนั้นที่ยังอยู่ที่นอกหน้าต่าง

    "อยู่...ข้างนอก" เสียงอ้อแอ้เอ่ยทีล่ะคำ มิโฮะยังมองออกไปนอกหน้าต่างแต่เจ้าสิ่งนั่นก็ได้หายไปแล้ว มิโฮะกระพริบตาปริบๆพลางเอียงศีรษะเล็กน้อย "หาย..."

    "หายไปแล้ว..."

    ความเงียบเข้าปกคลุมจนเด็กน้อยต้องเงยหน้าขึ้นมองคนที่อุ้มเธออยู่ ดวงตากลมโตสีชมพูอมแดงสบกับดวงตาที่มองเธอด้วยสายตาที่เธอไม่เข้าใจ

    เธอในตอนเด็กยังไม่เข้าใจความหมายของความหวาดกลัว...

    ชื่อของเธอคือ...มิโฮะ แค่มิโฮะ หรือคนอื่นๆในบ้านเด็กกำพร้าเรียกเธอว่ามิจัง ตั้งแต่จำความได้ เธอก็อยู่ที่นี่อยู่แล้ว ผู้ดูแลบอกว่า เขาเปิดประตูหน้าออกไปก็พบกับตระกร้าใบใหญ่ที่มีเธอถูกห่อด้วยภายเช็ดตัวอยู่ในนั้น ไม่มีอะไรอย่างอื่นนอกจากกระดาษที่เขียนชื่อของเธอเอาไว้ มิโฮะคือชื่อที่บุพการีที่ให้กำเนิดเธอตั้งให้ เป็นเพียงอย่างเดียวที่ชายหญิงนิรนามคู่นั่นมอบให้

    และดวงตาที่มองเห็นอะไรบางอย่างที่คนอื่นมองไม่เห็น

    เธอไม่รู้ว่าสิ่งที่อยู่นอกหน้าต่างคือสิ่งที่คนอื่นๆไม่ได้เห็นเหมือนกับเธอ เธอไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เธอพูดทำให้คนที่ไม่เข้าใจกลัว และเธอไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เธอมองเห็นทำให้ใครต่อใครหลายคนถึงไม่กล้ารับเธอไปเลี้ยงเสียที มิโฮะตัวน้อยเฝ้ามองเพื่อนๆที่ถูกรับอุปการะไปเลี้ยงคนแล้วคนเล่า โดยที่ยังคงเหลือเธอไว้อยู่คนเดียวเสมอ มีชีวิตอยู่ในบ้านเด็กกำพร้าต่อและตัวเธอเองก็คิดว่าคงจะไม่มีใครรับเธอไปเลี้ยงอีกแล้วแน่ๆ...

    วันนี้ก็คงเป็นอีกวันนึงที่เพื่อนหรือน้องคนใดคนหนึ่งของเธอจะถูกรับไปเลี้ยงดู

    เด็กน้อยวัยสามขวบแต่ความคิดความอ่านดันโตกว่าตัวคงเพราะความว่างและไม่ค่อยมีใครเข้ามาเล่นด้วย ทำให้เธอมีเวลาในการฝึกอ่านเขียนมากขึ้น แต่ไหนแต่ไรมา เธอก็ไม่ใช่เด็กที่ชอบออกไปวิ่งเล่นกลางแจ้งมากนัก

    แต่ในขณะที่เธอกำลังก้มหน้าอ่านหนังสืออยู่นั่นเอง

    "มิจัง มาพบคุณและคุณนายโคซาโนะเร็วสิ" เสียงเรียกชื่อของเธอดังขึ้น เมื่อเธอเงยหน้า เธอก็ต้องพบกับชายหนุ่มและหญิงสาวในชุดยูกาตะดูโบราณคู่หนึ่งเดินตรงมาหาเธอ หญิงสาวใบหน้าน่ารักดูอ่อนเยาว์ผู้นั่นย่อลงพร้อมกับเอื้อมมือมาลูบศีรษะของเธอเบา อยู่ๆ หัวใจของเธอก็คล้ายกับได้รับความอบอุ่นจนมิโฮะเบิกตากว้างด้วยความแปลกใจ

    อะไรกัน...

    "มาสิ มาอยู่ด้วยกันกับพวกเรา" หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีชมพูอมสีส้มสั้นระคอเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน รอยยิ้มอ่อนหวานทำให้มิโฮะจ้องมองคนตรงหน้านิ่ง

    ทำยังไงดี...

    ในระหว่างที่เธอกำลังทำอะไรไม่ถูก ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ก็ย่อตัวลงเลื่อนมือแบออกตรงหน้าของเธอ

    "มาอยู่ด้วยกันเถอะ"

    ดวงตากลมโตสีชชมพูอมแดงเลื่อนมองทั้งคู่ไปมาก่อนที่จะเลื่อนลงมามองมือใหญ่ที่ดูอบอุ่นตรงหน้า

    ก่อนที่มือเล็กของเด็กน้อยจะยกขึ้นแตะลงบนมือใหญ่ตรงหน้า

    ในวินาทีนั่น เธอได้มีตัวตนในชื่อ โคซาโนะ มิโฮะ
    .
    .
    .
    .
    หลังจากที่เธอเข้ามาอยู่ภายใต้ตระกูลโคซาโนะ กลายเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูล ชีวิตเด็กกำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่จำความได้ก็เปลี่ยนไป มีเสื้อผ้าสวยงามสวมใส่ มีอาหารดีๆ กินอิ่ม นอนหลับบนฟูกนุ่มๆนอนทุกคืน คุณพ่อและคุณแม่ที่รับเธอมาเลี้ยงก็เป็นคนใจดี แถมเหล่าพ่อบ้านและแม่บ้านก็เอ็นดูเธอ เธอได้รับการศึกษาที่ดี เรียนรู้เกี่ยวกับมารยาทในสังคม

    แต่สิ่งเดียวที่ไม่เคยเปลี่ยนไปคือ สิ่งต่างๆที่เธอสามารถมองเห็นได้เพียงผู้เดียว

    ครั้งนึงเธอเคยเอ่ยบอกถึงหญิงสาวในชุดขาว เผ้าผมยาวรุงรังปิดหน้าปิดตาที่อยู่ภายในเรือนเก็บของข้างตัวบ้าน แต่แทนที่จะส่งคนไปขับไล่คนแปลกหน้าที่บุกรุกเข้ามาในบ้าน ทุกคนกลับมองเธอด้วยแววตาที่คล้ายคลึงกับคุณป้าที่บ้านเด็กกำพร้า นั่นทำให้นับแต่นั้นมา เธอก็ปิดปากเงียบ ไม่เอ่ยถึงอะไรก็ตามที่คนอื่นๆเดินผ่านมันไปอย่างหน้าตาเฉย ไม่ปริปากบอกถึงสิ่งผิดปกติภายในบ้าน

    นั่นทำให้เธอเริ่มทำตัวเงียบขรึม ไม่ค่อยพูดค่อยจากับใครนัก

    "มิโฮะ มีอะไรไม่สบายใจหรือ?" เสียงหวานเอ่ยเรียกชื่อของเธอ ทำให้เด็กสาววัย6ขวบเงยหน้าขึ้น มือเรียวแสนอบอุ่นวางลงบนศีรษะของเธอพร้อมกับลูบเบาๆ "บอกแม่ได้นะ"

    เด็กสาวเม้มปาก เธอไม่อยากให้คุณแม่มองเห็นด้วยความหวาดกลัวเหมือนกับคนอื่นๆภายในบ้าน สิ่งเดียวที่เธอไม่อยากให้เกิดขึ้นคือได้รับสายตาหวาดกลัวจากคุณพ่อและคุณแม่บุญธรรม นั่นทำให้เธอเลือกที่จะส่ายหน้าไปมาแล้วก้มหน้าลงนิ่ง

    หญิงสาวทำเพียงยิ้มอ่อนโยนก่อนที่จะดึงลูกสาวตัวเล็กลงมานั่งลงบนตักของเธอแล้วกอดร่างเล็กไว้ เธอไม่ถามอะไรอีก นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้มิโฮะสบายใจขึ้น ใบหน้าน่ารักซุกลงบนอกของผู้เป็นมารดา ไม่มีอะไรมาทำลายความสุขของเธอมากไปกว่าการที่ได้นั่งและซุกในอ้อมกอดของหญิงสาวตรงหน้าเธออีกแล้ว 

    เมื่ออายุได้7ขวบ เธอก็ถูกส่งตัวไปเรียนที่โรงเรียนในตัวเมือง

    ถึงแม้ว่าตระกูลโคซาโนะจะทำตัวและใช้ชีวิตโดยที่ยังคงธรรมเนียมโบราณหลายๆอย่างไว้ เรียกว่าไม่ใช่แค่บ้านตระกูลโคซาโนะ แต่เป็นทั้งเมืองที่เลือกที่จะใช้ชีวิตตามวิถีชีวิตคนในยุคดั้งเดิมมากว่า เรียกได้ว่าเป็นเพียงไม่กี่หมู่บ้านในแถบเกียวโตที่เลือกจะยึดเอาวิถีชีวิตในยุคดั้งเดิมใช้ชีวิตในโลกที่เทคโนโลยีก้าวหน้า แต่สิ่งเดียวที่ยังให้ความสำคัญถึงที่สุดก็คือการศึกษา ชุดนักเรียนปกกะลาสีนับว่าเป็นชุดเดียวในบรรดาเสื้อผ้าของเธอที่เป็นชุดที่ดูเข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน แต่ยังไงก็ตาม มิโฮะก็ยังชอบชุดกิโมโนประยุกต์ที่เธอชอบใส่อยู่มากกว่าการใส่เสื้อยืด กางเกงยีนต์หรือเดรสต่างๆ

    เพราะงั้น ถึงแม้มิโฮะจะไม่มีสิ่งที่เรียกว่าโทรศัพท์มือถือ แต่เธอก็รู้จักมัน แต่ไม่คิดจะใช้มัน ดูเพื่อนๆแต่ล่ะคนสิ...เธอไม่อยากใช้ชีวิตโดยการก้มหน้าเล่นมือถือแบบนั่นหรอก

    ชีวิตของเธอวนเวียนอยู่แค่สองที่ นั่นคือออกไปจากบ้านไปโรงเรียน กลับจากโรงเรียนเข้าบ้าน แต่เธอก็มีความสุข

    'เหมียว' เสียงเล็กดังขึ้นก่อนที่ร่างปราดเปรียวจะกระโดดขึ้นนอนสบลงบนตักของมิโฮะ

    "นิฮง" มือเล็กเกาคางของเจ้าแมวดำบนตักของเธอ โดนส่วนตัว เธอพบว่า พวกบรรดาสัตว์น้อยใหญ่ทำให้เธอรู้สึกสบายใจมากกว่าอยู่กับมนุษย์มากนัก(แน่นอนว่ายกเว้นพ่อแม่กับบุญธรรมของเธอ)

    แต่แล้วเสียงอึกทึกครึกโครมก็ดังขึ้นพร้อมกับประตูห้องของเธอที่เปิดออก แม่บ้านผู้หนึ่งร้องบอกเธอด้วยความดีใจ

    "นายหญิงตั้งภรรค์แล้วเจ้าค่ะคุณหนูใหญ่!"

    ดวงตากลมโตสีชมพูอมแดงเบิกกว้างด้วยความตกใจปนๆกับความยินดีที่เอ่อล้น เธอทราบดีว่าคุณพ่อและคุณแม่ต้องการบุตรมาตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่อยู่กันมานานถึง3ปีก็ไม่มีลูกเสียทีจนกระทั่งทั้งคู่ตัดสินใจรับเธอมาเลี้ยงดูเป็นบุตรสาวของพวกเขา แต่ถึงแบบนั่น ทั้งคู่ก็ไม่เลิกล้มความตั้งใจที่จะให้กำเนิดบุตรของตัวเองขึ้นมาอยู่ เพราะงั้นมิโฮะเองก็ยินดีกับคุณพ่อและคุณแม่มากเมื่อทราบถึงเรื่องนี้

    เธอกำลังจะมีน้อง!

    ถึงเรื่องนี้จะทำให้เธอยินดี แต่เธอรู้ว่าอะไรกำลังจะเปลี่ยนไป เพราะท่าทีของเหล่าคนรับใช้ภายในบ้าน

    พวกเขาเย็นชากับเธอมากขึ้น หลังจากนั่นหนึ่งปีผ่านไป เมื่อคุณชายตัวน้อยได้กำเนิดขึ้นมา พวกเขาก็ไม่สนใจเธออีกเลย

    เด็กสาวที่ตอนนี้เจริญวัยถึงอายุ15ปีหลับตาลงก่อนที่เธอจะสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วเอื้อมมือไปเปิดประตูห้องทำงานของคุณพ่อ เด็กสาวเจ้าของเรือนผมสีดำสั้นระต้นคอเดินมาทรุดตัวลงนั่งบนหมอนรองนั่งตรงข้ามกับโต๊ะของคุณพ่อ ชายตรงหน้าเงยหน้าขึ้นจากกระดาษเขียนนิยายพลางยิ้มบางๆให้กับเธอ

    "มีอะไรหรือมิโฮะ?" เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงทุ้มชวนให้รู้สึกดี เรื่องที่เธอเอามาคุยกับเขาในวันนี้ ทำให้เธอรู้สึกผิดกับคุณพ่อที่แสนดีของเธอเล็กน้อย จริงๆอยู่ที่หลังจากน้องชายเกิดมา เหล่าคนใช้ภายในบ้านก็ให้ความสนใจเธอน้อยลง แต่นั่นไม่ใช่กับพ่อและเม่บุญธรรมของเธอเลย พวกเขายังคงดูแลเอาใจใส่เธอราวกับเธอเป็นลูกแท้ๆของพวกเขาเสมอมา

    แต่เธอก็ไม่อยากอดทนในสภาพแสนอึดอัดภายในบ้านหลังนี้...

    "คุณพ่อเจ้าค่ะ มิโฮะ ขอออกไปอยู่ด้วยตัวเองเจ้าค่ะ" เด็กสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจตามที่เอ่ยออกไป

    คนเป็นพ่อชะงักมือเล็กน้อยก่อนที่จะวางพู่กันลงบนแท่นวาง เขาประสานมองสบกับแววตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นของลูกสาวบุญธรรมตรงหน้า ไม่ใช่ว่าตลอดมาเขาไม่เห็น แต่เขาไม่สามารถสั่งให้คนงานเหล่านั่นรู้สึกดีกับเด็กสาวได้ บางส่วนเพราะท่าทีของมิโฮะที่มักวางตัวเหินห่างจากคนอื่นคล้ายมีความลับที่บอกใครไม่ได้ และบ่อยครั้งคือดวงตากลมโตสีชมพูอมแดงแสนสวยที่มักมองตรงไปยังอะไรบางอย่างที่ไม่มีใครมองเห็น

    เขาเคยได้ยินคำพูดบางอย่างจากลูกสาวด้วยซ้ำเมื่อเจ้าตัวนึกว่าไม่มีใครได้ยิน

    'ออกไปจากบ้านหลังนี้ซะเจ้าวิญญาณเร่ร่อน'

    'ขโมยของไปซ่อนอีกแล้วนะ'

    'เลิกแกล้งฉันเสียที!'

    นั่นทำให้เขาพอจะเดาได้ว่าลูกสาวบุญธรรมสามารถมองอะไรที่ไม่ธรรมดาเห็นเป็นแน่

    นานนับนาทีที่มิโฮะสบตากับพ่อบุญธรรม

    "ได้สิ ตามที่ลูกต้องการ"

    มิโฮะยิ้มกว้างอย่างน่ารักจนตาปิดให้ผู้เป็นพ่อ ทำเอาคนเป็นพ่อใจเจ็บที่หน้ายิ้มน่ารักจากลูกสาวที่นานๆทีจะได้เห็นรอยยิ้มกว้างเช่นตอนนี้ ทำไมลูกสาวของเขาถึงไม่ยิ้มบ่อยๆกันนะ...(ฮรุก--)

    "แต่มีข้อแม้" ผู้เป็นพ่อยกนิ้วชี้ขึ้นพลางยิ้มให้เด็กสาวตรงหน้า "ลูกยังต้องอาศัยอยู่ที่บ้านที่พ่อจัดเตรียมไว้ให้ ห้ามขาดการติดต่อกันโดยเด็ดขาด ไม่เช่นนั่น พ่อนี่แหละจะพาลูกกลับมาอยู่ที่บ้านเอง แล้วค่าใช้จ่ายทุกอย่างต้องเป็นพ่อและแม่ออกให้ อย่าให้พ่อรู้นะว่าลูกทำงานหาเงินตัวเป็นเกลียวแบบที่ทำอยู่ตอนนี้จนไม่ได้หลับไม่ได้นอน"

    "!!" เด็กสาวตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจที่ความลับของเธอถูกคุณพ่อล่วงรู้ นับเป็นเวลา5แล้วที่เธอถนัดเรียนการเย็บปักถักร้อยและศึกษาวิธีการทำร่มกระดาษจนกระทั่งเธอสามารถทำออกมาได้ประณีตและสวยงามจนขายออกทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำจนมีเงินเก็บมากพอสมควร ยิ่งเกียวโตเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแบบดั้งเดิม ผู้คนยิ่งสนใจร่มกระดาษที่เธอทำ เพราะมันช่วยบังแดดและเพื่อความสวยงามในการถ่ายรูปได้เป็นอย่างดี

    เธอทำงานเก็บเงินและไม่ยอมใช้เงินไปกับเรื่องไร้สาระแม้แต่ครั้งเดียว นิสัยขี้งก ขี้เหนียวเริ่มตามมา ใครก็ตามที่ขอเงินเธอยืม เธอจะเริ่มต้นคิดดอกเบี้ยตามรายวันที่ไม่ได้คืนให้จนไม่มีใครกล้าขอเงินเธอยืมอีก

    พอง...

    ใบหน้าน่ารักมุ่ยลง อมลมพองแก้มอย่างน่าหยิกเมื่อถูกล่วงรู้ความลับที่อุตสาเก็บเงียบๆมาตั้งนานจนผู้เป็นพ่อยิ้มขำให้กับความน่ารักของลูกสาว

    "เป็นอันว่า...ตกลงหรือไม่ลูกสาว?" เขายิ้ม มิโฮะเม้มปากเล็กน้อยก่อนที่จะพยักหน้ารับข้อเสนอแต่โดยดี

    มิโฮะในวัย15ปี ออกจากบ้านใหญ่ไปอาศัยอยู่ในบ้านเดียวชั้นเดียว(ที่คุณพ่อบุญธรรมซื้อให้...)ใช้ชีวิตอยู่คนเดียว(ที่คุณพ่อและคุณแม่มักพาน้องชายวัย7ขวบมาเยี่ยมเยียนเสมอในวันหยุดสุดสัปดาห์)นับตั้งแต่นั้นมา


    โคซาโนะ มายาโยชิและโคซาโนะ มานามิ คุณพ่อและคุณแม่บุญธรรมของมิโฮะ 


    โคซาโนะ โนโนตะ น้องชายบุญธรรมของมิโฮะ

    STAR
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×