ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    CATEYE ROOM[ห้องลับ]

    ลำดับตอนที่ #95 : KNB | 慾望

    • อัปเดตล่าสุด 13 มี.ค. 61


    รูปภาพที่เกี่ยวข้องรูปภาพที่เกี่ยวข้องผลการค้นหารูปภาพสำหรับ black aesthetic tumblr

    " My very own thoughts suffocate me "
    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ heart aesthetic gif

    You just want attention
    เธอแค่ต้องการความสนใจเท่านั้น
    you don’t want my heart
    ไม่ได้ต้องการหัวใจของฉัน
    Yeah, you just want attention
    เธอแค่ต้องการความสนใจ
    I knew from the start
    ฉันรู้มาตั้งแต่แรกแล้วล่ะ

    You’re just making sure I’m never gettin’ over you
    เธอแค่อยากทำให้มั่นใจว่าฉันจะไม่มีวันลืมเธอลง



    oh #ngẫunhiên # Ngẫu nhiên # amreading # books # wattpad


    " ความคิดของฉันเองนี้แหละ.. "
    .
    .
    " ที่กำลังทำให้ฉันแย่ลง "


    Set: [set4] Out of role

    นามสกุล-ชื่อ: คิคารุ โฮชิโกะ || Kikaru Hoshiko

    ชื่อเล่น: โฮชิโกะ || Hoshiko

    ความหมายของชื่อ: คิคารุ ( แสง ) , โฮชิโกะ ( ดวงดาว ) [ แสงแห่งดวงดาว ]

    อายุ: 17 ปี

    ลักษณะรูปร่าง: คิคารุ โฮชิโกะ หรือเรียกสั้นๆว่า โฮชิโกะ หญิงสาวชาวญี่ปุ่นแท้ๆ ไม่มีอย่างอื่นมาเจือปน เธอนั้นมีโครงหน้าอ่อนหวานอยางคนญี่ปุ่น ใบหน้ารูปไข่ห้อมรอบไปด้วยเส้นผมสีรัตติกาลยาวถึงสะโพก เนื่องจากรสนิยมส่วนตัวที่ชมชอบการไว้ผมยาวตามนิสัยของเด็กผู้หญิง อีกทั้งยังตัดหน้าม้าและจอนผมทั้งสองข้างไว้เนื่องจากรสนิยมส่วนตัวเช่นกัน เรือนผมสีรัตติกาลนั้นนุ่มสวยเงางามราวกับขนอีกายามตกต้องกระทบแสง คิ้วโก้งยาวเฉียงขึ้น ไม่ได้ดกดำแต่ก็ไม่ได้เบาบาง ตาสองชั้นกับขนตางอนยาวเรียวหนาเรียงตัวกันเป็นแพสวย นัยน์ตากลมโตสีดำอ่อนๆ ฉายแววมืนหม่นและว่างเปล่าตลอดเวลา อีกทั้งยังเป็นคนที่หางตาตก ทำให้ดูเป็นคนที่มีนัตน์ตาเศร้า ผู้คนส่วนใหญ่มักจะชอบทักเธอเสมอเมื่อได้พบหน้า ว่ามีเรื่องอะไรรึเปล่า แต่เธอก็ไม่ได้ตอบอะไรมากเหรอ เพราะเธอไม่ได้เป็นอะไร และเธอก็ไม่ได้มนุษยสัมพันธุ์ดีขนาดนั้นด้วย.. จมูกโด้งอย่างคนมีดั้งและสันจมูก ริมฝีปากบางกระจับเป็นรูปสวย ไม่ได้มีสีอมชมพูตามธรรมชาติ แต่ก็ไม่ได้ซีดเซียวเหมือนกับคนป่วย เธอมักจะไม่ค่อยขยับริมฝีปากพูดหรือยกยิ้มให้มันดูเป็นมิตรมากเท่าไรนัก กลับชอบที่จะปิดปากให้เป็นเส้นตรงราวกับตุ๊กตา เมื่อผนวกเข้ากับแววตาสีดำทมิฬและแววตาอันมืดหม่นแล้ว ยิ่งทำให้ผู้ที่สบตาราวกับว่าถูกดูดเข้าสู่หลุมดำในห้วงอวกาศอันไม่มีที่สิ้นสุด เธอนั้นมีรูปร่างตามสัดส่วนของหญิงสาวชาวญี่ปุ่น ผิวสีขาวอมชมพูหน่อยๆให้ผู้คนรู้ว่า นี้ยังเป็นคนอยู่ ยังไม่ตายนะ.. ทั้งเป็นคนที่มีใบหน้า ผิวพรรณเนียนนุ่มสวยไร้รอยตำหนิใดๆ ทั้งๆที่ก็ไม่ค่อยได้ดูแลผิวมากเท่าที่ควรนัก สัดส่วนถือว่ายังเด็กหากเทียบกับอายุอานาม ในส่วนของหน้าอกนั้นไม่ได้ใหญ่ซะราวกับสาวคัพ F แต่ก็ไม่ได้แบนราวกับไม้กระดาน เอวก็ไม่ได้คอดมากหากเทียบกับผู้หญิงคนอื่น แต่ยังดีที่เธอไม่ได้มีไขมันส่วนเกินมาโผล่ทักทายที่หน้าท้องใดๆทั้งสิ้น ส่วนสูง 164 ซม. น้ำหนัก 54 กก. น้ำหนักและส่วนสูงถือว่ามีความสมดุลกัน ทำให้เธอไม่ได้อ้วนมาก หรือ ผอมมากจนเกินไป
    เธอเป็นคนสายตาสั้น เนื่องจากจมอยู่กับคอมพิวเตอร์มากเกินไป และตอนนี้เธอก็กำลังฝึกใส่คอนแทคเลนส์อยู่
    เธอนั้นมีรสนิยมชอบแต่งกายด้วยสีโมโนโทน คือเป็นสีเดียวกัน แต่มีหลายโทนสี หรือน้ำหนักอ่อน-แก่ที่ไม่เท่ากัน และชมชอบสีดำ เทา หรือสีโทนเรียบๆไม่ได้ฉูดฉาดจนแสบตา หรือหวานแหว๋วจนชวนเอี้ยน มักชอบใส่เสื้อผ้าสบายๆอย่างเช่น เสื้อยืด กางเกงเจเจ ในคราที่อยู่ในบ้าน หากในยอมที่ต้องออกข้างนอกก็มักจะใส่เสื้อแขนยาว และกางเกงขายาวอยู่เสมอ ไม่ได้มาจากรสนิยมส่วนตัวแต่อย่างใด แต่เพราะผิวหนังของเธอนั้นค่อนข้างที่จะอ่อนไหวต่อแสงแดด เนื่องจากไม่ค่อยได้ออกจากห้องบ่อยๆนั้นแหละ.. ทนรับแสงแดดเหมือนที่คนปกติรับไม่ค่อยจะได้ เมื่อเจอแดดแรงๆไม่กี่นาที ก็อาจจะทำให้ผิวมีอาการแสบหรือไหม้ได้ ทำให้ต้องใส่เสื้อผ้าที่ปกคลุมผิวหนังตัวเองเอาไว้ ชอบการใส่รองเท้าแตะ สบายๆ ก็เธอไม่ได้เป็นพวกคลั่งแฟชั่นจ๋าที่จะต้องแต่งตัวจัดเต็มทุกครั้งที่ออกจากบ้านนี้นา ไม่ค่อยชอบสวมใส่เครื่องประดับใดๆทั้งนั้น เนื่องจากเธอคิดว่าใส่และค่อนข้างเกะกะ ส่วนอีกเหตุผลคือขี้เกียจใส่นั้นแหละ..

    ลักษณะนิสัย: ฮชิโกะนั้น เป็นหญิงสาวที่ไม่ค่อยจะคิดมากกับคำนินทาและคำพูดเสียๆหายๆของผู้อื่นมากเท่าไรนัก เป็นพวกที่เฉยๆกับอะไรแบบนี้มาก เรียกได้ว่าโดนบ่อยจนหน้าด้านหน้าทนแล้ว.. แต่เธอนั้นกลับเป็นพวกขาดความมั่นใจในตัวเอง รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนไร้ค่า ไม่มีความสามารถ เป็นภาระให้คนอื่นอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากว่าเป็นคนที่มีอารมณ์อ่อนไหวง่ายมาก แม้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆก็ดูจะอ่อนไหวไปหมด มีความรู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตและไม่อยากทำอะไรทั้งนั้นตั้งแต่ตื่นเช้ามา พอตื่นขึ้นมาก็จะคิดว่าเธอมีชีวิตเพื่ออะไร เธอมีหน้าที่อะไรกันแน่ และแน่นอนว่าหน้าที่ของเธอนั้นมันไม่มีอะไรเลย เธอไม่เคยคิดที่อยากจะไปเรียน หรือทำตัวเป็นมิตรให้ผู้คนมากมายอยากเป็นเพื่อนกับเธอ ชีวิตของเธอนั้นดูไร้จุดหมาย มีเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้เธอรู้สึกอยากตื่นขึ้นมาใข้ชีวิตต่อก็คงจะเป็นเกมจีบหนุ่มทั้งหลายแล บางคนอาจจะมองว่ามันก็เป็นแค่เกม ทำไมถึงต้องให้ความสัมคัญกับมันขนาดนั้นด้วย แต่สำหรับเธอ เกมจีบหนุ่มมันทำให้เธอรู้สึกเหมือนได้ความรัก ไม่ต้องปรุงแต่งตัวเองให้เป็นอย่างที่สังคมต้องการ ไม่ต้องทำตัวดีหรือน่ารักเพื่อให้ใครมาชอบ นั้นแหละ ทำให้เธอนั้นทั้งหลงใหล และคลั่งใคร่เกมจีบหนุ่มมากกว่าสิ่งอื่นใด อีกทั้งเธอนั้นยังเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย มองอะไรก็รู้สึกแย่ไปหมด การได้เล่นเกมจีบหนุ่ม มองหนุ่มหล่อๆมาพูดคำหวานใส่ อย่างน้อยมันก็คงทำให้ชีวิตเธอดูสดใสขึ้นนั้นแหละนะ ทั้งยังขี้เหม่อลอย และบางครั้งก็เหม่อนานมากจนคนคิดว่าหลับไปแล้ว..
    โฮชิโกะเป็นคนที่หลับยาก หลับๆตื่นๆ จนทำให้นอนไม่เต็มอิ่มเท่าที่ควร เป็นคนที่มนุษยสัมพันธุ์ไม่ได้ติดลบมาแต่กำเนิด แต่เพราะว่าเธอนั้นค่อนข้างที่จะขยะแขยงกับสังคมรอบข้างเธอมากกว่า เธอรู้ว่าตัวเธอนั้นแปลก แต่เธอก็ไม่ได้สนหรือแคร์ด้วยว่าใครจะชอบหรือไม่ชอบเธอ แต่เธอนั้นไม่ชอบการที่อยู่ต่อหน้าก็ยิ้มแย้ม ทำเสียงหวานใส่ ทำตัวเป็นมิตร ค่อยช่วยเหลือและค่อยเป็นห่วง แต่พอลับหลังก็เอาเรื่องของเธอไปนินทา ใส่สีตีไข่ซะราวกับเธอไปฆาตรกรรมหมู่ญาติพี่น้องของเขามา ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ เธอรู้ทุกอย่างนั้นแหละ แต่เธอเพียงแค่เลือกที่จะไม่เก็บมาใส่ใจ หรือโยนมันทิ้งไปซะ ดังนั้นเวลาที่เจอผู้คนที่เข้ามาหา จะชอบหลีกเลี่ยง และแสดงอาการไม่เป็นมิตรใส่ทันที แถมยังเป็นคนไว้ใจคนยาก เชื่อใจคนยากอีกต่างหาก เพราะโฮชิโกะเป็นพวกเจ็บแล้วจำ ดังนั้นเธอก็จะไม่เชื่อใจใครง่ายๆ อย่างแน่นอน บาดแผลย่อมทำให้เราเจ็บ แต่มันก็ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างเช่นกัน เธอนั้นเป็นพวกติดบ้านขั้นสุด แน่นอนล่ะ เพราะอาการแพ้แสงแบบอ่อนๆของเธอ ไม่ได้ถึงขั้นแพ้มากมาย เรียกได้ว่าผิวบอบบางก็แล้วกัน ทำให้เธอพยายามที่จะไม่ออกจากบ้าน หรือไปในที่ๆมีแสงแดงนั้นเอง และเธอก็ไม่อยากทอดทิ้งให้เหล่าหนุ่มๆของเธอต้องอยู่บ้านเพียงลำพังซะด้วยสิ-- เป็นพวกที่อดอาหารได้หลายวันโดยที่ไม่หิวเลย ถ้าหากว่าได้ทำหรือจมอยู่กับสิ่งที่ตัวเธอนั้นชื่นชอบ ทั้งยังเวลาติดอะไรจะไม่ค่อยชอบห่างจากสิ่งนั้น คือจะนั่งเล่น นั่งเฝ้า นั่งมองทั้งวันเลย ที่จะลุกไปก็มีแค่เวลาอยากเข้าห้องน้ำก็เท่านั้นแหละ..
    เธอเป็นคนที่ชอบความสงบ ชอบความเงียบ ไม่ชอบที่ๆมีเสียงดัง หรือที่ๆมีความวุ่นวายเยอะๆเธอก็ไม่ชอบเหมือนกัน และนั้นก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เธอไม่เข้าไปเรียน หรือเรียกง่ายๆว่าโดดเรียนบ่อยๆนั้นเอง ที่นั้นมีสังคมที่น่าขยะแขยงอยู่เยอะ มีเรื่องวุ่นวายไม่เว้นวัน เสียงจอแจของคนที่อยู่ที่นั้นก็น่ารำคาญไม่แพ้กันในสายตาเธอ อีกอย่างเธอเกลียด.. เกลียดสายตาที่คนพวกนั้นมองมา เธอรู้ว่าชื่อเสียงของเธอก็ไม่ได้ดีเลิศอะไรหรอก ออกจะไปทางไม่ดีซะมากกว่าด้วยซ้ำ.. เพราะส่วนใหญ่เธอชอบทำหน้าตาไม่เป็นมิตรใส่คนอื่นแหละนะ แถมชอบทำตัวแปลกๆ อย่างการใส่เสื้อกันหนาวทั้งทีอากาศตอนนั้นร้อนจะตาย หรือแม้แต่กางร่มทั้งๆที่แดดไม่ได้แรงเลย แต่ว่าเธอทำไปเพราะเธอมีเหตุผลนี้หนา คนพวกนั้นไม่เคยคิดจะถามว่าเพราะอะไร ทำไมถึงทำแบบนี้ พวกเขาก็แค่มองเธอแล้วเอาเธอไปนินทาก็แค่นั้นเอง.. สังคมแบบนี้เธอไม่ต้องการที่จะคบค้าสมาคมด้วยเสียเท่าไรนัก
    อีกอย่างคือ เวลาเธอต้องออกจากบ้านหรือทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่การเล่นเกมจีบหนุ่ม เธอจะค่อนข้างเอื่อยเฉื่อย ราวกับสล็อต ทั้งยังไม่มีอารมณ์จะทำ และก็อยากหลับซะตั้งแต่ตรงนั้นไปเลย อย่างที่บอกว่าสิ่งที่ทำให้เธอตื่นมาเพื่อใช้ชีวิตต่อไปคือเกมจีบหนุ่ม พอไม่ได้เล่น เธอก็แทบหลับทั้งๆที่ยังลืมตาหรือยืนอยู่ได้เลยล่ะ.. พอโดนปลุกก็จะลุกขึ้นมาทำไม่กี่นาทีแถมยังทำช้าสุดๆยังกะสล็อต หลังาจากนั้นก็หลับต่อ วนไปเรื่อยๆ และถึงแม้ว่าเธอจะไม่เป็นมิตรหรือไม่ค่อยพูดมากเท่าไรนัก แต่เมื่อเธอได้พบเจอหรือได้พูดคุยกับคนที่สนใจในเรื่องเดียวกันกับเธอ ( เกมจีบหนุ่มนั้นแหละ ) เธอจะกลายเป็นคนช่างจ้อ ทั้งยังมีแสงเปล่งกระกายออกมาจากตาเธออีกต่างหาก
    เธอนั้นเป็นคนเหนื่อยง่ายมากถึงมากที่สุด เพราะวันๆก็นั่งเล่นแต่เกมหน้าจอคอม ไม่ได้ขยับเขยื้อนร่างกายมากเท่าไรนัก ทำให้แค่ทำอะไรนิดๆหน่อยที่ต้องใช้กำลังก็เหงื่อออกท่วมตัวแล้ว ดังนั้นจึงไม่ชอบเล่นกีฬาหรือกิจกรรมที่ต้องใช้พละกำลังเยอะเท่าไร เห็นเงียบๆแต่ความจริงเธอเป็นคนปากร้ายมาก และไม่ใช่คนที่จะอดทนอะไรได้มากเท่าไรนัก ถ้าหากจะนินทาเธอ เธอก็ไม่ได้สนใจหรือจะต้องวิ่งเต้นไปแก้ข่าวหรอก แต่ถ้าหากว่ามีคนมาหาเรื่องเธอแบบซึ่งๆหน้า เธอก็ไม่ใช่ประเภทอดทนอดกลั้นราวกับนางเอกในละคร แต่เธอจะเปิดปากและด่าคนๆนั้นด้วยถ้อยคำที่เจ็บปวด แต่น้ำเสียงกลับนิ่งเงียบ และถ้าหากฝั่งนั้นเริ่มจะใช้กำลัง เธอจะโกยทันที.. ก็เพราะเธอไม่เก่งในเรื่องการต่อสู้ด้วยหมัด แต่เก่งเรื่องการใช้ปากมากกว่า.. เป็นคนที่มีความรู้สึกตายด้านมากกับผู้ชายในชีวิตจริงและความรู้สึกช้ามาก ต่อให้มาแก้ผ้าโชว์เธอ หรือยังไงก็ตาม เธอก็จะจ้องมองนิ่งๆด้วยสายตาว่างเปล่าสักประมาณ 6-7 นาที จนอีกฝ่ายเริ่มทำตัวไม่ถูก เธอก็จะถอนหายใจออกมาและเดินหนีไป
    เธอนั้นมีด้านที่ไม่ค่อยมีคนเห็นก็คือ เธอนั้นเป็นคนเส้นตื้นมาก.. ค่อนข้างจะขำกับมุขแป็กๆ แต่แน่นอนว่า ไม่มีใครมาเล่นมุขแป็กกับเธอหรือทำอะไรตลกๆใส่เธอ ทำให้ที่โรงเรียนเธอไม่เคยหัวเราะให้ใครเห็นเลย จะมีก็แต่ เดินๆอยู่ แล้วเห็นคนสะดุดตรงหน้า หรือเกิดอะไรฮาๆที่พวกเขาทำกันเองขึ้น เธอก็จะกระตุกยิ้มเล็กน้อย และถ้าหากว่าพวกเขามองมา เธอก็จะรีบเดินหนีพร้อมกับตัวที่สั่นเทาเนื่องจากการกลั้นขำของเธอ และเมื่อเดินพ้นมา เธอก็จะหัวเราะออกมาจนน้ำตาเล็ด แต่ต้องแน่ใจก่อนนะ ว่าแถวนั้นไม่มีคน แล้วถ้าหัวเราะอยู่ แต่มีคนมาเห็นหรือเดินมาเจอ เธอจะติดสตั้นท์ไปเลยล่ะ จนอีกฝ่ายต้องทักก่อน เธอจะหน้าขึันสีแดงเถือก แล้ววิ่งหนีไปทันที เรียกได้ว่าเป็นมุมน่ารักๆของเธออีกมุมหนึ่ง
    เป็นคนที่ทุ่มเทให้กับสิ่งที่รักมาก เช่นเกมจีบหนุ่ม หากมีงานอีเว้นท์หรือบูธจัดขึ้น ในวันนั้นเธอจะตื่นทันที โดยไม่มีการอิดออดใดๆทั้งสิ้น ทั้งยังลงทุนกับการออกจากบ้าน ไปที่จัดงาน ไม่ว่ามันจะอยู่ห่างจากบ้านเธอมากเท่าไรก็ตาม และถึงแม้ว่างานจะจัดในพื้นที่ที่มีแดดส่องตลอดเวลา เธอก็จะไป และเธอก็จะแต่งตัวเหมือนไอ้โม่งจะไปปล้นธนาคาร.. เธอจะใส่เสื้อแขนยาว ถุงมือ ถุงเท้าไปจนเหมือนกับชาวเอสกิโม และแน่นอนว่ามันต้องร้อนมาก แต่เธอก็ไม่หวั่น เมื่อไปถึงงานตัวเธอจะซกไปด้วยเหงื่อ ทั้งยังมีเสียงหอบหายใจแปลกๆลอดออกมาให้คนได้ยินเป็นระยะๆอีกด้วย..
    ในเวลาโกรธหรือโมโห ความมืดหม่นในตัวเธอนั้นแลจะเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม แถมยังมีรังสีอำมหิตเพิ่มเข้ามาในตัวอีกด้วย เธอจะไม่พูดอะไรมาก แต่จะมองคนๆนั้นด้วยสายตาโกรธแค้น(?) และหลังจากนั้นชีวิตของคนๆนั้นจะต้องพบเจอแต่เรื่องไม่ดีแน่นอน--- ไม่ใช่เพราะเธอทำการสาปแช่งคนผู้นั้นหรืออย่างใด แต่เพราะเธอแอบกลั่นแกล้งคนๆนั้นนิดๆหน่อยๆ อย่างเช่น แกล้งเอายาถ่ายใส่ในอาหาร เอาของๆคนนั้นไปวางที่อื่นจนเขาหาไม่เจอนิดๆหน่อยๆ.. จนพอใจแล้วก็จะเลิกเอง กรณีที่ทำให้เธอโกรธได้นั้นมีไม่กี่อย่าง ที่เด่นชัดคือการทำของๆของเธอพัง หรือก็คือทำหนุ่มๆของเธอพังเสียหายนั้นแหละ !
    ในยามเศร้า เธอจะร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายใคร.. ในที่ๆไม่มีคนน่ะนะ เธอไม่ใช่พวกที่ชอบเก็บความเศร้าหรือความเจ็บปวดไว้กับตัวเองมากเท่าไรหรอก แต่เธอจะหาวิธีระบายมันออกมา เช่นการทำงานอดิเรก เล่นเกมย้อมใจ แต่ถ้าแย่จริงๆก็จะไปร้องไห้กับเกมจีบหนุ่มนั้นแหละ แน่นอนว่าคำพูดในนั้น ก็ช่วยทำให้จิตใจของเธอดีขึ้นได้ คำพูดที่ค่อนข้างสั่นคลออารมณ์ของเธอได้นั้นมีไม่กี่อย่าง คือ ' ไม่เป็นไรหรอก ' , ' เธอทำดีที่สุดแล้ว ' , ' ฉันอยู่ข้างเธอเสมอ '
    เวลามีความสุข หน้าตาของเธอก็จะดูสดชื่นขึ้นมา แถมยังมีรอยยิ้มเล็กๆประดับที่มุมปาก ดวงตาฉายแววสว่างไสวอย่างเห็นได้ยาก การกระทำและน้ำเสียงต่างๆก็จะนุ่มนวลขึ้น และยังดูเป็นมิตรเพิ่มขึ้นอีกด้วย สิ่งที่ทำให้เธอดีใจ คือการได้เจอคนที่คุยเรื่องเกมจีบหนุ่มด้วยกันได้ ( เวลาแบบนั้นความเป็นมิตรในตัวจะเพิ่มขึ้นสูง ) มีคนเอาของที่ชอบมาให้ เป็นต้น

    ชีวประวัติ: 
    โฮชิโกะ เติบโตมาในครอบครัวฐานะปานกลางที่ประกอบได้ด้วย พ่อ แม่ ลูก เธอนั้นเป็นลูกคนเดียว ไม่มีพี่ ไม่มีน้อง ทั้งอย่างนั้นทำให้เธอได้รับความรักอย่างมากจากผู้เป็นพ่อและแม่ พ่อนะรักทั้งเธอ รักทั้งแม่ เขาจะแสดงความรักต่อพวกเราอยู่เสมอ พวกเราทำกิจกรรมร่วมกันอยู่บ่อยๆ กินข้าวพร้อมกัน ดูหนังพร้อมกัน มันเป็นอะไรที่มีค่ามากที่สุด.. ในความทรงจำของเธอ แต่แล้ววันหนึ่งในช่วงที่เธออายุได้ 6 ปี พ่อของเธอเองเริ่มเปลี่ยนไป ท่าทางของเขาที่แสดงต่อเธอกับแม่มันแปลกไปหมด เขาชอบทำตัวมีลับลมคมนัย ราวกับพยายามปิดบังความผิด เธอไม่ได้คิดอะไรมากกับเรื่องนี้หรอก แต่ว่าสายตาของเขา สายตาของผู้เป็นพ่อที่มักจะทอดมองเธอด้วยความรักเสมอมันเปลี่ยนไป เธอไม่รู้ว่ามันเปลี่ยนไปเพราะอะไร หรือเปลี่ยนไปเป็นอย่างไร แต่แค่นั้น มันก็ทำให้ใจของเธอสั่นไหวอย่างแปลกๆ แม่ของเธอเองก็สงสัยในพฤติกรรมนี้ของพ่อ แม่เริ่มระแวงกลัวว่าพ่อจะนอกใจ และเริ่มจู่จี้จุกจิกกับพ่อมากขึ้น จนทำให้เกิดการทะเลาะกันอย่างนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จาก 1 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็น 5 ครั้งในสัปดาห์ จนกลายเป็นทุกวัน พวกเขาเริ่มทะเลาะกันบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้นทุกครั้ง เริ่มมีการทำลายข้าวของ ตะคอกอาละวาด แต่เธอก็ยังดีใจ.. ที่อย่างน้อยพวกเขาก็ยังไม่ลงไม้ลงมือต่อกัน บรรยากาศภายในบ้านเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ มันมีแต่กลิ่นอายของความ ไม่เชื่อใจกัน เธอใช้ชีวิตอย่างอึดอัดมาจนกระทั่งอายุได้ 8 ปี แม่ของเธอก็ด่าทอพ่อ
    " แกมันเลว ! นอกใจฉันแล้วยังไปมีคนอื่นลับหลังฉันอย่างนี้ได้ยังไง !! "
    แม่ของเธอกรีดร้องพร้อมตรงเข้าไปทุบอกพ่อทั้งน้ำตา
    " เมื่อกี้ผู้หญิงคนหนึ่งโทรมาหาแก แล้วฉันรับ เธอบอกให้แกไปดูแลลูกได้แล้ว นี้นอกจากแอบไปมีอะไรกับหญิงอื่น ยังไปทำคนอื่นท้องอีกเหรอ !! "
    " โว้ย !! แล้วมันยังไงว่ะ !? แล้วใครให้แกรับมือถือฉัน ยุ่งไม่เข้าเรื่องจริงๆเว้ย! "
    พ่อว่าก่อนจะผลักแม่ลงไปกับพื้น เธอมองภาพที่แม่ของเธอล้มลงไปทั้งน้ำตา ก่อนที่ผู้เป็นพ่อจะเดินหนีไปด้วยท่าทีอารมณ์เสีย ก่อนที่เขาจะเดินออกมากับกระเป๋าใบโต
    " นั้นแกจะไปไหนนะ ! "
    แม่ร้องถาม แต่ผู้เป็นพ่อไม่ตอบ เขาเพียงแต่เดินออกไปจากบ้านหลังนี้ แม่ลุกขึ้นแล้วตรงไปกอดพ่อ
    " ไม่ อย่าไปนะ ที่รัก เรากลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ ถ้าแค่คุณ.. "
    แม่พูดทั้งน้ำตา แต่ผู้เป็นพ่อเพียงแค่แกะมือแม่ออกพร้อมทิ้งท้ายไว้
    " เธอมันน่ารำคาญ ฉันจะหย่ากับเธอ "
    หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็มาขอหย่าพร้อมทั้งนำภรรยาใหม่และลูกคนใหม่มาขยี้จิตใจพวกเธอซ้ำอีก ในคราแรกแม่ของเธอไม่ยอมหย่า แต่เมื่อได้เห็นพ่อพาครอครัวใหม่มา แม่เองก็รับไม่ได้จนสุดท้ายก็หย่ากันไป หลังจากนั้น เธอกับแม่ก็ย้ายออกไปจากบ้านหลังนั้น พร้อมไปหาที่อื่นอยู่ ตอนแรกแม่ของเธอยังเศร้าและไม่เป็นอันจะทำอะไร แต่เพราะมีเธออยู่ แม่ของเธอเลยบอกว่าจะต้องสู้ ส่วนเธอก็ทำได้แค่ยิ้ม และไม่เอ่ยปากถามหรือพูดอะไรทั้งนั้น เธอรู้ว่าแม่ของเธอเหนื่อย เหนื่อยมาก.. เธอจึงไม่เคยพูด ไม่เคยบอก ไม่เคยถามอะไรที่จะทำให้แม่ของเธอต้องเหนื่อยมากกว่าเดิมเลย เธอได้แต่ยิ้ม และพยายามทำตัวเป็นเด็กดีให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในวันหนึ่งที่เธอเห็นแม่คุยมือถือกับใครซักคนอยู่ เธอแอบฟังด้วยความอยากรู้ แต่สิ่งที่ได้ยินกลับฟังลึกอยู่ในใจเธอ
    " ฉันกลัว.. ฉันกลัวโฮชิโกะ "
    " เธอน่ากลัว ฉันไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ด้วยซ้ำ "
    คำพูดนั้นทำให้เธอนิ่งไปพักใหญ่.. เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความรู้สึกและอารมณ์ในตอนนั้นของเธอเป็นอย่างไร เธออยากถามแม่ว่าทำไมถึงกลัวเธอ แต่ก็นั้นแหละ.. เธอก็ไม่เอ่ยปากถามออกไปอยู่ดี จวบจนเธออายุได้ 12 ปี แม่ของเธอพาเธอไปบ้านญาติ พร้อมบอกให้เธออยู่ที่นี้ไปก่อน แล้วเธอจะกลับมารับ เด็กน้อยอย่างเธอยิ้มรับ ไม่แม้แต่จะถามสักนิดว่าเพราะอะไร เพียงเพราะเธอไม่อยากให้ผู้เป็นแม่ไม่สบายใจ แม่ของเธอยิ้มตอบ ก่อนที่จะหันหลังหนีจากไป ไม่มีแม้อ้อมกอด ไม่มีแม้คำลา แม่จากไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงสายตาที่มองมา สายตาที่เต็มไปด้วยความกลัว..
    หลังจากนั้นเธอก็ใช้ชีวิตกับญาติอย่างปกติ ไม่เชิงสุขหรอกนะ เธอรู้ว่าญาติมองว่าเธอเป็นเหมือนภาระ เธอรู้ เธอรู้ทุกอย่าง แต่เธอแค่ไม่พูดออกไป เธอทนจนอายุได้ 15 ปี ก็ขอออกมาใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกคนเดียว แน่นอนล่ะ พวกเขาแทบจะประเคนหอพักมาให้ ราวกับเตรียมไว้นานแสนนาน เธอเพียงยิ้ม แต่ไม่รับความหวังดีนั้นเอาไว้ เธอออกตามหาหอพักถูกๆดีๆซักที่แทน เมื่อมาอยู่ อย่างน้อยญาติของเธอก็ส่งเงินมาให้ทุกๆ 2 เดือน แม้มันจะโคตรน้อยก็ตาม แต่เธอก็ไม่ได้คิดว่าพวกเขาหรอกนะ หลังจากนั้นเธอก็เริ่มทำตัวเหลวแหลก คิดว่าน่าจะเพราะความอัดอั้นจากการทำตัวเป็นเด็กดีมาตลอด หรือเพราะอดีตแย่ๆของเธอกันแน่ เธอมารู้ข่าวคร่าวของแม่ตอนที่เธออายุย่างเข้า 16 แม่ของเธอนะไปมีครอบครัวใหม่มานานแล้ว ตั้งแต่ที่ทิ้งเธอไว้ที่นั้นแล้วละมั้ง เธอปวดใจนะ แต่เธอรู้แหละ แม่คงหมดรักเธอตั้งแต่วันที่พ่อเดินจากไปแล้ว ตอนที่ออกมาอยู่ใหม่ๆเธอใช้ชีวิตลำบากมาก เพราะเงินที่ไม่พอ และอะไรหลายๆอย่างที่ไม่พร้อมสำหรับเธอด้วย ทั้งการที่ไปโรงเรียนแต่ได้รับเพียงเสียงนินทา และการกลั่นแกล้ง เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมถึงมีคนกลั่นแกล้งเธอ แต่เธอก็พอจะรู้สาเหตุอยู่บ้าง ตัวโฮชิโกะนั้นเรียกได้ว่าเป็นเด็กที่มีหน้าตาน่ารัก เพราะในช่วงแรกๆเธอยังไม่ได้มีแต่ออร่ามืดมนมากเท่าตอนนี้ ทำให้มีผู้ชายหลายๆคนรวมถึงหนุ่มฮอตเข้ามาจีบเธอ ตัวเธอที่เป็นเด็กใหม่ และยังดูค่อนข้างติ๋ม ทำให้เด็กผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะชอบเธอมากเท่าไรนัก พวกเขาจึงเริ่มวางแผนแบนเธอ ขังเธอไว้ในห้องน้ำ พร้อมกับสาดน้ำใส่ หรือแม้แต่ขีดเขียนโต๊ะ หรือเอาโต๊ะเธอไปซ่อนจนเธอไม่มีที่จะเรียน อาจารย์เองก็รู้ว่ามีการกลั่นแกล้งเกิดขึ้น แต่กลับไม่เคยช่วยเหลือเธอเลย เขาเพียงแค่เรียกพวกนั้นไปต่อว่าพอเป็นพิธีแล้วก็ไม่มีการลงโทษเลยแม้แต่น้อย การกลั่นแกล้งดำเนินมาแบบนี้เรื่อยๆ จนมีเด็กใหม่อีกคนเข้ามา พวกนั้นเริ่มหันไปรังแกเธอคนนั้นแทน ทำให้เธอค่อนข้างมีชีวิตในโรงเรียนที่ดีขึ้น แต่เธอก็รู้สึกผิดและค่อยช่วยเหลือเด็กคนนั้นลับๆอยู่เสมอ จนสุดท้ายพวกเราก็สนิทกัน เด็กคนนี้เป็นคนขี้ขลาดและไม่สู้คนเลยแม้แต่น้อย เวลาโดนรังแกเธอเพียงแค่ยิ้มและไม่โต้ตอบใดๆทั้งสิ้น เพราะแบบนั้นเธอถึงได้เชื่อใจแม้กระทั้งตอนที่เด็กคนนี้เอ่ยถามความลับของเธอ เธอเพียงยิ้มพร้อมบอกว่าเธอไม่มีความลับอะไรหรอก เด็กคนนั้นยังไม่เชื่อจนถามซอกแซ่กถึงเรื่องครอบครัว ด้วยความเชื่อใจเธอจึงเอ่ยปากเล่าทุกอย่างให้ฟัง เด็กคนนี้เองก็เล่าเรื่องของเธอด้วย ทำให้เธอไม่ได้คิดกังวลมากนัก แต่พอรุ่งเช้า พวกที่คอยกลั่นแกล้งเธอ ก็เอาเรื่องครอบครัวของเธอไปป่าวประกาศ ทุกคนมองเธอด้วยสายตาสงสารปนสมเพศเวทนา เธอไม่เข้าใจเลยซักนิด ว่าพวกนี้รู้เรื่องได้ยังไง จนเมื่อเธอได้สบตากับเด็กคนนั้นที่อยู่ข้างหลังพวกหัวโจก เธอเอาแต่พูดขอโทษทั้งน้ำตา ตอนนั้นในหัวของเธอมีแต่ความว่างเปล่า การถูกหักหลังมันมีรสชาติแบบนี้เองสินะ.. 
    " แกรู้อะไรไหม แค่ฉันบอกยัยนี้ให้ไปเอาความลับของเธอมาให้ฉัน แลกกับการที่จะไม่แกล้งมันอีก ยัยนี้ก็รีบวิ่งเต้นไปทำทันทีเลยล่ะ "
    หัวโจกพูดพร้อมหัวเราะเย้ยหยัน เธอยังคงจ้องมองไปที่เพื่อนที่เธอเคยไว้ใจมากที่สุดด้วยสายตาแห่งความผิดหวัง หรือว่าความจริงเธอเข้ามาสนิทกับฉัน เพราะแบบนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว..
    " โธ่ๆ แต่แกนี้น่าสงสารจริงๆ พ่อก็ทิ้ง แม่ก็ทิ้ง แต่ไม่แปลก เพราะไม่มีใครต้องการแกหรอก !! "
    ราวฟางเส้นสุดท้ายได้ขาดลง เธอลุกขึ้นไปผลักหัวโจกลง ก่อนที่จะกลายเป็นการทะเลาะกันเกิดขึ้น จนสุดท้าย ครูก็มาจับแยก พร้อมกับทำโทษเธอกับนักเรียนที่ร่วมทั้งหมด ทั้งยังกล่าวต่อว่าเธอว่า เพิ่งเข้าใหม่แต่ทำไมถึงทำตัวมีปัญหา เธอก้มหน้านิ่งพยายามซ่อนสีหน้าและแววตาเกลียดชัง ก็เพราะครูไม่ใช่เหรอที่บีบให้เธอต้องทำแบบนี้ หรือว่าเธอต้องทนโดนแกล้งไปจนจบรึไง ถ้าเป็นแบบนั้นเธอก็ไม่อยากมาที่แบบนี้ให้เสียเวลาหรอก หลังจบเรื่อง เธอก็กลับบ้านพร้อมกับขังตัวเองอยู่อย่างนั้นหลายวัน จนได้ลองมาเล่นเกมจีบหนุ่มเกมๆหนึ่งดู ในคราแรกเธอรู้สึกเฉยๆกับมัน แต่เล่นมาเรื่อยๆจนได้เจอกับคำๆหนึ่ง มันทำให้ดวงตาของเธอนั้นพร่ามัวไปด้วยน้ำตา
    ' ทุกอย่างจะต้องโอเค ผมอยู่ตรงนี้เสมอ.. โฮชิโกะ '
    " ฮรึก.. "



    สิ่งที่ชอบ: เกมจีบหนุ่ม ทำให้ชีวิตเธอดูดีขึ้น.. เมื่อเจอจะเกิดความกระตือรือร้น ตาวาว
                     เพลงที่มีเสียงเปียโน ชอบเสียงเปียโนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อเจอจะยกยิ้มน้อยๆ และหลับตาฟัง
                     ส้ม เป็นคนชอบกินส้มเพราะรสชาติเปรี้ยวๆของมัน เมื่อเจอก็แค่.. กิน
                     ความสงบ ทำให้สมองปลอดโปร่ง ผ่อนคลายขึ้น

    สิ่งที่ไม่ชอบ: แสงแดด โดนแล้วแสบผิวตลอด เมื่อเจอก็จะรีบหนีเข้าที่ร่มหรือหาอะไรมาป้องกันแสง
                         ความวุ่นวาย เสียงดัง ทำให้เธอปวดหัว และเวียนหัวบ่อยๆ เมื่อเจอก็จะรีบพาตัวเองออกจากตรงนั้น
                         ชาเขียว ไม่ชอบรสชาติของมัน เมื่อเจอก็แค่ไม่กิน..

    สิ่งที่เกลียด: พวกตีสองหน้า ลับหลังก็นินทา ใครกันจะไปชอบ เธอคนหนึ่งแหละที่ไม่ชอบ เมื่อเจอจะเดินหนี

    สิ่งที่กลัว: ผึ้ง ตอนเด็กเคยโดนต่อย และยังจำฝังใจยันวันนี้ เมื่อเจอจะเดินหนีทันที
                    ฝนตก วันที่แม่ทิ้งเธอไว้ มันก็เป็นวันที่ฝนตกเช่นนี้เหมือนกัน จะหมกตัวอยู่ในผ้าห่ม

    สิ่งที่แพ้: แสงแดด ไม่เชิงแพ้ แต่เรียกว่าผิวบอบบางกว่าชาวบ้านชาวเมืองเขา แก้ได้โดยการใส่เสื้อคลุม หรือไม่ก็หมดตัวอยู่ในบ้านซะ

    งานอดิเรก: เล่นเกมจีบหนุ่ม , นั่งสรุปสปอยล์เกมขาย ( แบบ ต้องทำยังงี้ถึงจะได้ตอนจบแบบนี้ เป็นต้น )

    ลักษณะการพูด: เป็นคนที่มีน้ำเสียงโทนติดจะเย็นชาหน่อยๆ มักแทนตัวเองว่า 'ฉัน' อยู่ตลอด และแทนคนอื่นด้วยสรรพนามเดียวกันหมดคือ 'คุณ'
    เวลาเจอกันครั้งแรก
    "..." มองหน้าด้วยความไม่เป็นมิตร..
    " แล้ว..? มีอะไรไม่ทราบ " มองนิ่ง
    เวลาโกรธ
    " เตรียมใจไว้รึยังล่ะ.. " กระซิบกับตัวเอง และเริ่มแผนกลั่นแกล้งคนๆนั้น
    "..." ยกยิ้ม แต่สำหรับคนมองกลับรู้สึกกลัวแปลกๆ..
    เวลามีความสุข
    " หื้ม.. มีอะไรงั้นเหรอ " ยกยิ้มบางเบา น้ำเสียงนุ่มนวล
    " ให้ช่วย..? ได้สิ " พยักหน้ารับคำ
    เวลาเศร้า
    " รู้แล้วน่า.. " สะอื้นเบาๆพร้อมเช็ดน้ำตา
    เวลาโดนมองด้วยสายตาแปลกๆ
    "..." มองตอบด้วยสายตาดำมืดขั้นสุด
    เวลาได้ของ
    " นี่.. ให้ฉัน? " ชี้มาที่ตัวเองงงๆ แต่ก็รับมาอยู่ดี
    เวลาเขิน
    "..." ก้มหน้าพยายามหลบหน้าแดงๆของตัวเอง
    " พื้นตรงนี้สวยดีนะ ว่ามั้ยล่ะ.. " พูดน้ำเสียงสั่นๆเล็กน้อย พร้อมก้มมองพื้นที่มีแต่ดิน..

    เพิ่มเติม: เพราะนอนหลับยาก ทำให้บางครั้งก็ต้องพึ่งยานอนหลับ แต่ยังไม่ถึงขั้นติดยานอนหลับหนักมาก แต่ในอนาคตอาจจะไม่แน่..




    Talk with character

    Q: หากวันหนึ่งได้รับพรที่จะทำให้คำขอสมหวังหนึ่งประการ เจ้าจักเลือกขอพรอะไรรึ?
    A: "..." จ้องมองไปที่คนถามอย่างนิ่งงัน ดวงตากลมโตเสมองซ้ายขวา เธอไม่คิดที่จะตอบอะไร แต่สักพักก็เอ่ยปากพูดออกมา " ฉัน.. " เธอพูดออกมาคำเดียวก่อนจะนิ่งเงียบไป ' อยากจะได้รับความรักเหมือนตอนเด็กๆอีกครั้ง ' เธอคิดในใจแต่ก็ไม่ได้พูดตอบออกไป

    Q: เจ้าเชื่อว่าความรักระหว่างคนสองคนนั้นจะเกิดได้จากการขอพรรึไม่?
    A: พยักหน้า ก่อนจะที่ส่ายหน้า วนซ้ำไปมาจนคนถามชักจะเวียนหัว.. " เรื่องนี้.. " เหลือบตามองคนถาม ก่อนจะพูดเสียงต่ำ.. " ไม่มีทางหรอ "



    Q: หากคิดเห็นเช่นนั้น... เจ้าว่าความรักจะเกิดได้จากสิ่งใดกันเล่า?
    A: " ความเข้าใจ ความเชื่อใจ.. ถ้าไม่เชื่อใจ ก็ไปกันไม่รอด " เธอพูดออกมาอย่างไม่ต้องคิดอะไรมาก ดวงตาหลุบต่ำลงจนยากที่จะมองว่าตอนนี้เธอรู้สึกเช่นไรอยู่

    Q: งั้นรึ ข้าขอใคร่ถามอีกหนึ่งข้อ ในตอนนี้ความสุขของเจ้าคือสิ่งใดกัน?
    A: " เหล่าชายหนุ่ม.. หมายถึง เกมจีบหนุ่มนะ " เธอเอ่ยพร้อมยกยิ้มเบาๆเมื่อได้พูดถึงสิ่งที่ตนเองชอบ

    Q: ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบและเวลาที่เจ้าสละ ข้าซาบซึ้งในน้ำใจยิ่งนัก ท่านคิคารุ โฮชิโกะ




    Talk with parent

    Q: มาแนะนำตัวกันก่อนเลย เราปันค่ะ ท่านผปค.ชื่ออะไรคะ:D
    A: สวัสดีนะออเจ้า-- เราชื่อพิณค่า ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ !

    Q: รบกวนช่วยบอกหนึ่งประโยคที่สรุปความเป็นลูกสาวได้ดีที่สุดด้วยค่ะ!
    A: โคตรคนดำมืด(?) 

    Q: ตรวจสอบถี่ถ้วนดีแล้วนะคะว่าทำตามข้อกำหนดของเราครบ ไม่งั้นเดี๋ยวโดนตัดคะแนนน้า
    A: คิดว่าครบแล้วนะคะ.. น่าจะ-- /เลื่อนกลับไปดูอีกรอบ(?)

    Q: ถ้าไม่ติดตัวเอก สนใจรับบทตัวประกอบไหมหรือรับกลับดีเอ่ย
    A: ขอรับกลับค่า TT

    Q: ติดหรือไม่ติดก็มาติดตามอ่านแล้วด็คอมเม้นต์กันด้วยเนอะ ไม่ได้บังคับหรอกค่ะแต่มันเป็นกำลังใจสำคัญ <3
    A: แน่นอนค่า !

    Q: อีกอย่างคือ เราดองนานจริงๆนะ (หลักฐานคือฟิคที่เรียงเป็นตับไม่จบสักเรื่อง) หวังว่าจะรอกันได้นะคะ!
    A: รอมานานหลายปีก็เคยรอมาแล้วค่ะ แค่นี้เรารอได้ TT /ทำมือ โอเค

    Q: สุดท้ายนี้ไม่มีอะไรแล้วค่ะ มาลุ้นไปด้วยกันนะคะว่าจะติดรึไม่!
    S
    N
    A
    P
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×