ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SS501] ; My Beloved (2Hj&kYUSAENG)

    ลำดับตอนที่ #9 : {Ch7} ; ความจริง [ 100% ]

    • อัปเดตล่าสุด 26 ก.ค. 55





      CHAPTER 7


    หากว่าความจริงที่เป็นอยู่... กลับกรีดหัวใจของตนให้ลึกลงยิ่งกว่าเดิม



























     

                        บรรยากาศในหอพักตอนนี้อึ้มครึ้มและไม่มีใครพูดอะไร เพราะเนื่องจากตอนนี้ฮยองจุนได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้ว จึงเหลือแต่เพียงลีดเดอร์กับสมาชิกที่เหลือเท่านั้น ซึ่งต่างคนต่างไม่มีใครพูดอะไรออกมาเนื่องจากเหมือนมีรังสีอำมหิตแผ่ออกมาจากลีดเดอร์อะไรอย่างนั้น

     

     

                ออด..

                เสียงกดกริ่งหน้าประตูดังขึ้น คยูจงเซ็นเตอร์ที่แสนดีของวงจึงรีบไปเปิดประตูโดยที่ยังไม่ทันมีใครพูดอะไร ซึ่งแขกที่มานั้นก็คือ... ฮยองจุน!

     

                “อ้าวทำไมกลับเร็วหล่ะ?คยูจงถามขึ้นอย่างประหลาดใจเมื่อเห็นสีหน้าอมยิ้มอย่างมีความสุขของมักเน่ทั้งๆที่กลับมาก่อนวันกำหนดแท้ๆ

                อ่อ~ พอดีนูนามีงานหน่ะ ก็เลยต้องรีบกลับมาก่อน

                “อ่อ..

               

     

                ฮยองจุนเมื่อเห็นคยูจงตอบเออออตามตนเสร็จก็รีบวิ่งเข้ามานั่งกลางวงโดยทันที โดยทีใบหน้านั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่สดใส จนคนที่นั่งอยู่ข้างๆอดหมั่นไส้ไม่ได้

     

                นี่กระต่ายเน่า ยิ้มไรนักหนาเนี่ย!”

                “ก็คนมันมีความสุขนี่หน่า~~”

                “อะไรอะไร

                “โบอานูนาตอบตกลงเป็นแฟนกับฉันแล้ว!!~

     

     

                เหมือนถูกน้ำเย็นสาดหน้า ฮยอนจุงได้แต่นิ่งงันทำหน้าอะไรไม่ถูก

     

                อ่า...

                “อ่า จำได้ว่ามีธุระ ฮยองขอตัวก่อนนะฮยอนจุงพูดขึ้นอย่างตัดบทสนทนาที่ตัดเมื่อครู่พร้อมกับค่อยๆลุกเพื่อที่จะเดินออกไปจากห้อง

                อะไรกัน ผมมีเรื่องจะเล่าให้ฮยองฟังเยอะแยะเลยนะ

                “ไว้วันหลังนะเด็กน้อย ฮยอนจุงฝืนยิ้มให้กับคนตรงหน้าพร้อมกับเดินไปหยิบกุญแจรถเพื่อไปยังสถานที่หนึ่ง

     

     

                สถานที่ที่ฮยอนจุงมาในวันนี้ก็คือสนามเด็กเล่นซึ่งไม่ค่อยจะมีใครมามากนักเนื่องจากห่างจากตัวเมืองพอสมควร เขากับฮยองจุนเมื่อสมัยตอนก่อนและเดบิวท์ใหม่ๆมักจะมาเล่นด้วยกันเสมอ รอยยิ้มที่สดใสแต้มอยู่บนใบหน้าตุ๊กตาของคนน่ารัก เขามักจะมีความสุขเสมอเมื่อได้มาที่นี่กับฮยองจุน ได้แชร์ความรู้สึกดีๆต่อกัน

     

                แต่ในตอนนี้มีแต่เขา ที่นอนอยู่บนพื้นหญ้าพร้อมกับปล่อยให้น้ำตาไหลลงช้าๆ

     

                น้ำตาในคราวนี้ไม่ได้ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดที่อยู่ในใจของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว ในที่สุดเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย...

     

     

     

     

    หรือมันจะถึงเวลาที่เขาควรตัดใจเสียที?

     

     

     

    .

     

     

    .

     

     

     

     

     

     

                ร่างสูงกลับถึงหอพักโดยทีในตอนนี้เป็นเวลา 20.00 น. คาดว่าสมาชิกที่เหลือคงจะนั่งดูโทรทัศน์หรือเล่นเกมส์แก้เบื่อกันไปแล้ว แต่เมื่อเข้าไปถึงก็ต้องกลับเจอกับคนที่คาดไม่ถึง

     

     

    ควอนโบอาที่กำลังทำอาหารอยู่กับฮยองจุน...

     

     

     

                อ้าวฮยอนจุง กลับมาแล้วหรอ? มาสิๆอาหารจะเสร็จแล้วหล่ะ

                หญิงสาวที่กำลังก้มหน้าก้มตาทำอาหารเงยหน้าขึ้นมาคุยกับฮยอนจุงซึ่งเป็นเพื่อนเก่าพร้อมกับยิ้มหวานให้ ใบหน้าทั้งสองคนที่กำลังอยู่ในห้องครัวนั้นดูมีความสุขจนเขานึกอยากจะทำลาย...

     

     

    สุดท้ายเขาก็หนีจากความริษยาที่ก่อตัวขึ้นมาไม่ได้อยู่ดี

     

     

     

     

                “เนี่ยฉันทำเองหมดเลยนะ เพราะโบอานูนาช่วยสอนแท้ๆ~” ฮยองจุนที่ดูจะตื่นเต้นกับอาหารมื้อนี้เป็นพิเศษพูดอวดคนอื่นพร้อมกับคล้องแขนหญิงสาวให้มาอยู่ข้างกาย

                จะช่วยสักกี่อย่างเชียว... อย่างเก่งก็แค่หั่นผักแหล่ะนาย!” จองมินพูดสวนไปอย่างหมั่นไส้ แหมพอมีสาวมาหน่อยก็ระดี๊กระด๊าเชียวนะ! -_-+

              อะไรอะไร อิจฉาอ่ะดิ่โด่ววว~” ฮยองจุนตอบกลับอย่างหยอกล้อซึ่งนั้นก็ทำให้โดนตบตี (?) กลับเป็นของตอบแทน

     

     

     

                บรรยากาศบนโต๊ะอาหารชวนอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก แต่ทั้งสองยังคงหวานกันได้แบบไม่แคร์ใคร ฮยองจุนยังคงดูแลโบอาอย่างดีอยู่เสมอดั่งเคย สมาชิกที่เหลือได้แต่มองหน้าสลับกันไปมาพร้อมกับมองหน้าลีดเดอร์เป็นระยะ ซึ่งฮยอนจุงที่ยังคงทำหน้านิ่งนั่นก็ได้แต่มองภาพเจ็บปวดอยู่ข้างหน้าอย่างชินชา

     

                อิ่มแล้วหล่ะ ขอตัวไปนอนก่อนนะฮยอนจุงพูดขึ้นกลางโต๊ะอาหารหลังจากที่ผ่านมาได้สักพักพร้อมกับเดินออกไปโดยไม่สนใจเสียงทักท้วงอะไรทั้งสิ้น

                “อ้าวฮยอนจุงไปไหนหน่ะ?โบอาเอ่ยถามฮยองจุนซึ่งนั่งอยู่ข้างๆด้วยความสงสัย

                ไม่รู้สิครับ เดี๋ยวค่อยไปถามแล้วกันว่าเป็นอะไร ทานต่อเถอะนะนูนา^^”

     

                สมาชิกที่เหลือได้แต่มองหน้ากันอย่างเลิ่กลั่กเมื่อฮยองจุนที่อยู่ตรงหน้าไม่มีทีท่าว่าจะสนใจฮยอนจุงเลย ซ้ำยังดูเหมือนจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำ....

     

     

     

                ตอนนี้เป็นเวลาเกือบ 22.00 น.แล้ว ซึ่งทุกคนได้อาหารเสร็จกันหมด ฮยองจุนจึงอาสาไปส่งหญิงสาวที่บ้านเพราะตอนมืดค่ำอาจจะเกิดอันตรายได้ ฮยอนจุงที่ยืนอยู่ตรงระเบียงมองรถของฮยองจุนขับออกไปด้วยสายตาที่ชินชา ควันสีเทาถูกพ่นออกมาเรื่อยๆอย่างไม่รู้จักพอ... เมื่อไหร่ที่เขาเครียดเขามักจะสูบบุหรี่ สิ่งเหล่านี้ทำให้เขารู้สึกสงบและอยู่กับความเป็นจริงได้มากขึ้น

     

     

     

    นับวันความจริงก็ยิ่งทำร้าย

    หรือว่าเขา... ควรจะหนีไปจากความจริง?

     

     

     







     

                ยิ่งนานนับวันทุกอย่างก็ยิ่งแย่ลง ฮยองจุนเริ่มห่างฮยอนจุงขึ้นเรื่อยๆเพราะเวลาส่วนใหญ่นั้นได้ใช้ไปอยู่กับคนรักเสียมากกว่า ฮยอนจุงก็ได้แต่ซึมเซาไม่ค่อยยอมพูดจาอะไรกับใครจนผิดสังเกตแต่ฮยองจุนก็ไม่ได้สนใจ หนำซ้ำยังดูเหมือนจะลืมเขาไปแล้วด้วยซ้ำ ตอนนี้ฮยอนจุงก็เหมือนกับคนที่ถูกลืม ใช่... ฮยองจุนลืมเขาไปแล้ว

     

                ฮยองจุน ว่างไหม ไปดูหนังกัน

                ‘ไว้วันหลังนะฮยอง ผมจะไปธุระหน่ะ

     

                ‘กินรามยอนไหม? พี่ทำเพื่อนายด้วยนะ

                ‘ผมเพิ่งทานมาเองฮะ พี่ทานไปเถอะ

                ‘… อืม

                ‘ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากกินนะ ไว้วันหลังผมจะมาทานกับฮยองน้า

     

                คำพูดต่างๆที่ถูกเปล่งออกมาจากปากของฮยองจุนเพื่อหวังที่จะทำให้เขารู้สึกดีขึ้นแต่มันกลับไม่ช่วยอะไร ความจริงที่ว่าเขานั้นเป็นแค่เพียงพี่ชายมันยังตรึงอยู่ในหัว ตรรกะนี้ยังคงอยู่และไม่มีใครที่จะแก้ไขมันได้ เขานั้นเป็นได้แค่พี่ชาย ส่วนควอนโบอาหน่ะคือคนรัก ฮยองจุนไม่ได้ทำผิดอะไร มีแต่เขาที่ผิด...

     

     

     

     

    ผิดที่คิดไปคนเดียวว่าจะมีโอกาสได้อยู่ในตำแหน่งนั้นบ้าง

    ผิดที่หลงระเริงไปกับความคิดและความหลงตัวเอง

    ผิดที่คิดว่าตนนั้นเป็นคนพิเศษที่สุดหากแต่ไม่ใช่เลยสักนิด...

     

     

     

    .

     

     

     

     

    .

     

     

     

                ถ้าผมเป็นแบบพี่ฮยอนจุงคงทรมานตายเลยน้า~”

                คยูจงกล่าวบทสนทนาขึ้นเพื่อทำลายความเงียบที่อยู่รอบๆตัวหลังจากที่นั่งอยู่ข้างร่างอ้วนกลม (?) ที่มานั่งตากลมอยู่กับเขาที่ริมระเบียงได้สักพักแล้ว

                ทำไมหล่ะ?

                “รักมากขนาดนั้น แต่กลับทำไม่ได้เลย มันทรมานมากจริงๆนะครับ

                “... มีคนเคยบอกว่าความรักมันเป็นเรื่องสำหรับคนสองคน แต่พี่คิดว่ามันไม่ใช่

                “...?

                “ถ้าเราไม่รักษาเขาไว้ดีๆ สุดท้ายเขาก็จะจากเราไปพร้อมกับไปหาคนอื่น นายยังคิดว่ามันเป็นเรื่องสำหรับคนสองคนอยู่อีกหรอ?

                “…”

                “สุดท้าย... ความรักมันก็ไม่ได้มีแค่คนสองคนหรอก

                “แต่ผมคิดว่าไม่นะ

               

                คยูจงจับมือของยองแซงไว้แน่นพร้อมกับมองด้วยนัยนาที่มีความหมาย

     

                “สมมุติว่า A แอบชอบ B มานานแล้ว และในที่สุดทั้งสองคนก็ได้พบกัน แต่เมื่อพอกันไปนานๆกลับมีเหตุการณ์ที่ทำให้ทั้งสองคนนี้ต้องห่างกัน

                “…”

                “หลังจากนั้นก็มี C เริ่มเข้ามาในชีวิตของ B  C เป็นคนดีมาก ทุ่มเทและให้ทุกอย่างที่สามารถมอบให้ได้กับ B จน B เริ่มรู้สึกอ่อนไหวและเริ่มลืม A ลงทุกวัน

                “…”

                “ในที่สุด B ก็เริ่มที่จะปันใจให้กับ C แต่ในทางกลับกันนั้น A ก็ยังรัก B จนหมดหัวใจ แต่ในท้ายสุด B ก็กลับไปหา A อยู่ดี

                “… ทำไมหล่ะ?

                “เมื่อมาลองคิดดูดีๆแล้ว ความรู้สึก B มีให้กับ C มันไม่ใช่ความรัก

                “…”

                “แต่เป็นแค่การหลงเพียงเท่านั้น

                “…”

                ผมเชื่อว่ายังไงก็ต้องมีแค่สองคน ถ้าเรารักกันจริง ไม่ว่าใครก็พรากเราจากกันไปไม่ได้อยู่แล้วหล่ะ

                “…”

                “ไม่ว่ายังไงผมก็ยังอยู่กับฮยองนะ ถึงตัวเราจะห่างก็ใช่ว่าเราจะรักกันน้อยลงนี่ครับ

               

                ยองแซงอึ้งไปกับประโยคที่คยูจงกล่าวขึ้น นี่มัน... สารภาพรักทางอ้อม?

     

                ผมรักฮยองนะ คบกับผมได้ไหม?

                คยูจงจับมือยองแซงไว้แน่นพลางจ้องตาราวกับสุนัขอ้อนเจ้าของ เป็นสายตาที่ไม่ว่าใครได้มองเห็นก็ต้องระทวยเป็นทุกคนไป ซึ่งยองแซงก็เช่นกัน เขาจะละลายอยู่แล้ว -///////////-

     

                อ่า...

                “ผมไม่รีบเอาคำตอบหรอกนะ~”

                “…”

                “เพราะยังไงฮยองก็ต้องเป็นของผมอยู่ดี คิคิ

                หลังจากประโยคนั้นจบลงก็ตามด้วยฝ่ามือพิฆาต(?) ของยองแซงที่ทุบลงหลังคยูจงโดยเกือบแทบจะในทันที ก็ใครใช้ให้พูดประโยคสองแง่สองง่ามแบบนี้กันเล่า!

     

    .

     

     

    .

     

     

                ฮยอนจุงซึ่งออกมาจากหอพักตั้งแต่บ่ายในตอนนี้มายืนอยู่ที่หน้าคอนโดของเพื่อนสนิท ใช่.. คิมแจจุงคือเพื่อนสนิทของเขา คือคนที่สามารถพูดคุยได้ด้วยทุกเรื่อง เขาทั้งสองคนไม่ได้เจอกันมานานแล้วเพราะเนื่องจากตารางที่ยุ่งจนไม่สามารถหาเวลาว่างมาพบกัน ร่างสูงขึ้นลิฟท์พร้อมกับเดินมาที่หน้าห้องและกดออดเพื่อรอเจ้าของมาเปิดประตู

     

     

     

                กำลังรออยู่เลย เข้ามาสิ

                แจจุงเอ่ยขึ้นพร้อมกับผายมือเชิญฮยอนจุงเข้าไปในห้อง ฮยอนจุงเดินตามเข้าไปพร้อมกับเดินไปนั่งตรงเก้าอี้ที่วางอยู่กลางห้อง ทั้งสองคนพูดคุยถามถึงสารทุกข์สุขว่าเป็นอย่างไรบ้าง คุยกันไปได้สักพักฮยอนจุงก็กล่าวเรื่องที่จะปรึกษาขึ้น

     

                แจจุงอา... ถ้าฉันแอบชอบใครสักคน ฉันควรจะทำอย่างไรดี?

                “หืม? เรื่องแบบนี้หน่ะหรอ อืม... ก็บอกไปสิว่านายรักเขามากแค่ไหน

                “แต่ว่า

                “…?

                “ถ้าเขามีคนรักแล้วหล่ะ?

     

                แจจุงอึ้งไปกับประโยคของฮยอนจุง เพื่อนเราแอบรักคนมีเจ้าของ?


                นายชอบเขานานหรือยัง

                “นานมาก... ก่อนที่เขาจะมีแฟนเสียอีก

                “แล้วทำไมถึงไม่บอกไป

                “กลัว...

                “…”

                “กลัวกับคำตอบที่จะได้มา

                “...

                “ฉันควรจะทำยังไงดี?

                “...ฉันไม่ได้อยากแนะนำนายให้เลวหรอกนะ

                “…”

                “แต่เรื่องของความรักหน่ะ มันเป็นเรื่องของการแข่งขัน

                “…”

                “ทุกคนๆมีโอกาสที่จะได้รักใครสักคน และสิ่งที่ทุกคนปรารถนามากที่สุดก็คือการได้เป็นเจ้าของ

                “…”

                ลองสู้ดูสักครั้ง พยายามให้ถึงที่สุด

                “…”

                “ถึงแม้ว่ามันจะแพ้ แต่อย่างน้อยครั้งนึงนายก็ได้ทำเพื่อเขา ให้เขาได้เห็นว่านายพยายามมากแค่ไหน

                “…”

     

                “ถ้านายรักเขาจริง ก็ต้องแย่งมา

     




     

    .






    .

     

     

     

     

     

                กาลเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คงจะมีแต่ฮยอนจุงที่เก็บตัวมากขึ้น แต่ในทางกลับกันฮยองจุนก็กลับเงียบลงอย่างน่าประหลาดใจจนน่าเป็นห่วง ปกติฮยองจุนที่เมมเบอร์รู้จักจะเป็นคนสดใสและมีเรื่องมาชวนคุย แต่ในวันนี้กลับเป็นคนเงียบและชอบเก็บตัวไปซะงั้น ทั้งสามคนเมื่อเห็นเหตุการณ์ดังนี้นานๆเข้าก็เริ่มทนไม่ไหวจึงต้องจับทั้งสองคนออกจากห้องและมานั่งพูดคุยกันให้รู้เรื่องเสียที

     

     

     

                เป็นอะไรกันไปห้ะ? มีอะไรก็ไม่ยอมพูดจาเนี่ย

     

                จองมินพูดขึ้นท่ามกลางวงของทั้งห้าคนที่นั่งรอบล้อมกัน

     

                เปล่า / เปล่าฮยอนจุงกับฮยองจุนกล่าวขึ้นพร้อมกับ

                “เล่ามาเลย ให้ฮยองจุนเล่ามาก่อน

                “…”

                “เล่ามาซิ เห็นนายซึมอย่างนี้แล้วฉันไม่ชินเลย

                “…”

                “…”

                “…”

                “…”

                “... โบอานูนาจะไปทำกิจกรรมต่อที่อเมริกา






























    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

    ครบ 100% แล้วค่ะ:)
    ตอนนี้ค่อนข้างจะแสดงให้เห็นว่ามุมมองของความรักในแต่ละคนมันแตกต่างกันมากแค่ไหน
    ช่วงนี้ฝนตกบ่อยมากดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ^^
    ปล. เดี๋ยวมาดิทคำผิดค่ะ (ถ้ามีนะ)
     

    THEME : G Minor!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×