คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่6
ตอนที่6
หลังจากที่เมื่อวานพี่ยงฮวาพาฉันไปที่โซลทาวเวอร์ เพื่อแขวนกุญแจคู่รักของเราไว้ที่นั่นแล้วพอกลับมาที่บ้าน เราก็มาช่วยกันจัดให้ระเบียงนอกบ้านของเราเป็นเหมือนสวนของอวาตาร พี่ยงฮวาปูพื้นหญ้าปลอมไว้จนทั่วและจัดการเอาแมงมุมและกบของเล่นต่างๆมาแหววนมาติดไว้ให้เหมือนเป็นโลกของอวตารให้มากที่สุด และเมื่อจัดเสร็จเราก็ลงความเห็นว่าจองชินชินกูมาอยู่ที่นี่น่าจะได้ เพราะเขามีลักษณะที่คล้ายกับตัวอวตารในเรื่องมากเลยทีเดียว > <
และเพื่อเป็นการฉลองที่พี่ยงฮวาพูดได้แล้วนั้น วันนี้ฉันเลยตื่นแต่เช้าขึ้นมาเตรียมอาหารไว้ให้ ฉันทำอเมริกันเบรกฟาสต์แบบง่ายๆแต่ใส่ความตั้งใจลงไปเต็มเปี่ยม ไม่ว่าจะเป็นไข่ดาวรูปหัวใจหรือแฮมที่เขียนเป็นรูปยิ้มด้วยซอสมะเขือเทศ อีกทั้งฉันยังลงทุนปิ้งมันหวานเอาไว้สำหรับเราจะได้กินด้วยกันในยามว่างอีกต่างหาก ถ้าไม่ใช่คนที่ฉันรู้สึกประทับใจหรือสบายใจที่จะอยู่ด้วยฉันไม่แบ่งมันหวานให้ง่ายๆหรอกนะจะบอกให้ จะว่าไปแล้วตอนที่ฉันยังอยู่ที่หอของโซนยอชิแดนั้น พี่ๆต่างเซอร์ไพรส์วันเกิดปีที่19ของฉันด้วยการจัดปาร์ตี้มันหวานขึ้นมา ในงานนั้นทุกอย่างล้วนเกี่ยวข้อกับมันหวานทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเค้กมันหวานที่พี่เจสสิก้ากับพี่ยุนอาแล้วก็พี่แทยอนเตรียมไว้ให้ หรือจะเป็นมันหวานทอดกรอบกับมันหวานปิ้งที่พี่ซันนี่กับพี่ซูยองไปกว้านซื้อมา หรือรวมไปถึงน้ำมันหวานปั่นเพื่อสุขภาพที่พี่ทิฟฟานี่ช่วยกันเตรียมกับพี่ฮโยยอนอีกด้วย ที่สำคัญคงจะเป็นพี่ยูริที่ลงทุนจัดเตรียมสถานที่ภายในห้องรับแขกให้กลายเป็น ‘โกกูมาปาร์ตี้’ ได้อย่างสวยงามไม่มีที่ติ ป่านนี้พี่ๆทั้งแปดคนคงกำลังฝึกซ้อมเต้นกันอย่างหนักเพื่อการเตรียมตัวออกอัลบั้มใหม่สินะ อัลบั้มที่ไม่มีฉัน พี่ๆจะรู้สึกว่าเวทีมันกว้างขึ้นบ้างรึเปล่านะ
?
และฉันก็ต้องหยุดความคิดลงตรงนั้นเพราะพี่ยงฮวาวิ่งตึงตังออกมาปิดแก๊สจากเตาที่ฉันปิ้งมันหวานอยู่ให้อย่างเร่งรีบ
”ฮยอนน! เธอทำอะไรอยู่ทำไมไม่ดูเตาปิ้งหล่ะ”
”ขอโทษค่ะพี่ ฉันเผลอคิดอะไรเรื่อยเปื่อยนิดหน่อย”
”คิดถึงผู้ชายคนอื่นอยู่งั้นหรอ ฮื้ออ~” พี่ยงฮวาไม่พูดเปล่าแต่กลับรวบตัวฉันเข้าไปกอดอย่างรวดเร็วและแนบเนียนจนฉันไม่ทันตั้งตัวเลยหล่ะ
”พี่คะ เช้าอย่างนี้มากอดฉันทำไมเนี่ย
”
”ยิ่งเช้าๆสิอากาศกำลังดีเลยนะ”
”โธ่!พี่ก็ชอบพูดติดตลกอยู่ได้ ตั้งแต่เปิดปากพูดออกมาเนี่ยพี่รู้ตัวมั๊ยคะว่าพี่พูดเยอะขึ้นมากกกกเลยนะฉันจะบอกให้ แบร่ :P” ฉันพูดความจริงเรื่องที่พี่ยงฮวากลายเป็นผู้ชายพูดมากเป็นรอบที่ร้อยแปดแล้ว แต่เขาก็ยังคงทำหูทวนลมไม่สนใจในสิ่งที่ฉันพูดอยู่ดี
”พี่หิวแล้ว เช้านี้ฮยอนทำอะไรให้พี่กินเนี่ย” แล้วพี่ยงฮวาก็ปล่อยฉันออกก่อนจะรีบเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหาร
”วันนี้ฉันเตรียมอาหารเช้าแบบง่ายๆน่ะค่ะ”
”เธอทำอะไรมันก็น่ากินไปหมดนั่นแหละน่า~” พี่ยงฮวาพูดอ้อนอย่างเอาใจก่อนจะจิ้มแฮมเข้าปากอย่างอร่อย
”ตั้งแต่พี่ยอมพูดกับฉัน พี่รู้มั๊ยคะว่าอะไรๆมันง่ายมากขึ้นเลยนะ ยิ่งถ้าพี่ลองไปคุยกับคนอื่นๆดูพี่จะยิ่งรู้สึกคุ้นเคยกับการพูดได้เร็วขึ้นนะคะ”
”ไม่เอาน่า เธอเชื่อพี่เถอะพี่ไม่ได้แกล้งจริงๆนะซอฮยอน แต่พี่ไม่รู้วิธีจะพูดกับคนอื่นนอกจากเธอจริงๆนี่นา”
”พี่ก็แค่พูดกับเขาเหมือนอย่างที่พี่พูดกับฉันตอนนี้ไงคะ มันไม่ยากเลยจริงๆนะ”
”พี่คิดว่าพี่ทำไม่ได้หรอก
”
”ทำไมจะทำไม่ได้คะ คนอื่นทำให้พี่รู้สึกอึดอัดงั้นหรอคะ งั้นพี่ก็เริ่มจากพูดคุยกับคุณพ่อคุณแม่ของพี่แล้วก็ตามมาด้วยจองชิน จงฮยอนแล้วก็ลองพูดกับมินฮยอกดูสิคะ คนใกล้ตัวเราทั้งนั้น ทำไมพี่จะพูดไม่ได้ล่ะ” ฉันร่ายยาวออกมาเพื่อชักจูงให้พี่ยงฮวาอยากที่จะลองพูดกับคนอื่นดูบ้าง
”ที่พี่พูดได้แต่กับเธอนั่นเพราะว่า
”
”
?”
”เพราะเธอแตกต่างจากคนอื่นน่ะสิซอจูฮยอน
”
”>////////<” ให้ตายสิ! ใครก็ได้ช่วยทำให้เขากลับไปพูดไม่ได้แบบเดิมน่ะดีแล้ว อย่าให้เขาพูดได้เลยฉันยังไม่พร้อมจะหัวใจเต้นแรงจนเหนื่อยตายในเร็ววันนี้หรอกนะ
”กินข้าวไปเลยนะคะ ไม่พูดก็ไม่ต้องพูด ฉันเหนื่อยจะบอกพี่แล้ว เชอะ!” เพื่อเป็นการยุติหัวข้อที่ทำให้ฉันใจเต้นแรงแบบนี้ ทางที่ดีฉันควรจะหุบปากแล้วกินข้าวเช้าไปเงียบๆจะดีที่สุดสินะ (.___. )”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
”นั่นใครมาแต่เช้าเลยนะ” ฉันรีบลุกไปดูที่ประตูก่อนที่จะต้องเป็นลมกับสายตาวิบวับและรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่พี่ยงฮวากำลังส่งมันมาให้ฉัน
”ใครมาหรอฮยอน ?” พี่ยงฮวาส่งเสียงมาถามฉัน
”พี่คะจองชินชินกูมาค่ะ พี่ลองพูดทักทายเขาดูนะคะ”
”ไม่นะ
พี่ทำไม่ได้ซอฮยอนอย่าเปิดประตูนะ
!”
”พี่คะแค่จองชินน่า ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เชื่อฉันนะคะ ฉันก็อยู่กับพี่นะคะไม่หนีไปไหนแน่นอน”
”
”
”ฉันจะเปิดประตูแล้วนะคะ” ฉันหันไปให้สัญญาณกับพี่ยงฮวาก่อนจะค่อยๆเปิดประตูให้จองชินเข้ามา
”พี่สะใภ้กับพี่ยงฮวาทำอะไรกันอยู่นะ ทำไมเปิดประตูช้าจัง” นั่นไงพ่อหนุ่ม4D มาถึงก็แซวฉันกับพี่ยงฮวาซะแล้ว ยังไม่มีแม้คำทักทายเลยด้วยซ้ำ = =
”เปล่าซะหน่อย เรากำลังกินข้าวกันอยู่น่ะ นายกินข้าวมารึยังจองชินชินกู~”
”อ๋อ ฉันเรียบร้อยแล้วน่ะที่มาวันนี้ฉันมีคนมาแนะนำน่ะ นี่เข้ามาสิซูซี่!” ฉันหันไปตามเสียงเรียกของจองชินชินกู และที่ฉันเห็นก็คือหญิงสาวน่าตาน่ารักจิ้มลิ้ม ไม่สิ
แบบนี้เรียกว่าสวยเป๊ะเวอร์มากกว่าละมั้ง O[]o!!!
”สวัสดีค่ะ ฉันเบซูซี่ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ” เด็กคนนั้นเดินเข้ามาแนะนำตัวก่อนจะโค้งให้ฉันอย่างอ่อนน้อม
”เอ่อ ยินดีที่ได้รู้จักนะซูซี่ พี่ชื่อซอจูฮยอนนะจ๊ะ ส่วนนั่นพี่ยงฮวา” ฉันตัดสินใจแนะนำตัวให้พี่ยงฮวาเพราะดูแล้วพี่เขาคงจะไม่ยอมปริปากพูดอะไรออกมาอย่างแน่นอน
”เธอเป็นญาติห่างๆของฉันน่ะ พอดีเทอมนี้สอบเข้ามหาวิทยาลัยในโซลได้เลยได้ย้ายมาเรียนที่นี่ แต่หอมีแต่แพงๆทั้งๆนั้นฉันเลยเอาน้องมาอยู่ด้วยน่ะ แค่อยากพามาแนะนำตัวกับพี่ๆเฉยๆเผื่อมีอะไรให้ช่วยก็บอกซูซี่เลยนะ”
”นี่จริงๆแล้วบ้านเราก็ไม่ได้จนขนาดไม่มีเงินจ่ายค่าหอให้ฉันซะหน่อย ไม่เข้าใจเลยจริงๆทำไมแม่จะต้องฝากฉันมาอยู่กับพี่ด้วยก็ไม่รู้” ซูซีบ่นจองชินขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ ฉันคิดว่าเห็นเธอเงียบๆแบบนี้แต่เธอเองคงไม่ใช่คนที่จะ เอ่อ
เงียบเท่าไหร่ละมั้ง = =
”บ่นเยอะไปแล้วนะยัยบ๊อง! มาๆไปดูห้องเธอกันดีกว่า”
”ซูซี่จะมาอยู่หอเดียวกับพวกเราใช่มั๊ยจองชินชินกู แล้วห้องของเธอจะอยู่ชั้นเดียวกันกับเรารึเปล่าน่ะ”
”ชั้นเดียวกับเรานี่แหละ งั้นฉันไม่กวนแล้วนะจูฮยอน พี่ยงฮวา!อรุณสวัสดิ์ตอนเช้านะฮะพี่ ขอโทษที่มากวนแต่เช้านะครับ ผมไปล่ะ” เมื่อพูดจบจองชินก็ลากแขนซูซี่ออกไปจากห้องของฉัน
”พี่คิดว่าซูซี่น่ารักมั๊ยคะ” หลังจากที่แน่ใจว่าจองชินออกไปแล้ว ฉันก็เดินกลับมาที่โต๊ะอาหารแล้วเปิดปากพูดกับพี่ยงฮวาถึงเรื่องของญาติผู้น้องของจองชินที่เพิ่งออกไปจากห้อง
”น่ารักสิ ไม่หรอกนะพี่ว่าเด็กคนนั้นเรียกว่าสวยเลยจะดีกว่า”
”ฉันก็คิดเหมือนกันเลยค่ะ เธอมีหุ่นที่ดีมากยังกับนางแบบแน่ะ และยังใบหน้าที่เหมือนถูกปั้นมาอย่างนั้น ฉันว่าซูซี่ต้องมีแฟนคลับที่มหาวิทยาลัยเยอะมากแน่ๆเลย” ฉันพูดความคิดของฉันออกไปอย่างไม่ได้คิดอะไร แต่กลับเห็นด้วยกับพี่ยงฮวาซะอีกที่มองว่าซูซี่เป็นเด็กที่สวยมาก
”แต่เธอรู้อะไรมั๊ยฮยอน
” พี่ยงฮวาเอ่ยขึ้นมาโดยที่ไม่ได้มองหน้าฉันก่อนจะเว้นวรรคไว้รอฟังปฏิกิริยาตอบรับจากฉัน
”รู้อะไรหรอคะ?”
“ก็รู้ว่า ซูซี่สวยได้ไม่ถึงเสี้ยวหนึ่งของเธอยังไงหล่ะ J”
”>/////////<” บ้าที่สุด! นี่เขาจะแกล้งฉันไปถึงไหนกันนะ! คนบ้า คนนิสัยไม่ดีแกล้งให้ฉันหัวใจเต้นแรงแบบนี้ได้ยังไงกันนะ พระผู้เป็นเจ้า
ลูกสาบานได้เลยว่าตั้งแต่เกิดมาจนอายุครบ20ปีนี้ ลูกไม่เคยมีแฟนเลยแม้แต่คนเดียว คำรักหวานๆลูกก็เพิ่งได้ยินเมื่อผู้ชายตรงหน้าพูดได้อย่างปกติอีกครั้ง แม้กระทั่งตอนที่ฉันสนิทกับแจฮัน เขายังไม่เคยพูดคำหวานๆประเภทนี้ให้ฉันฟังเลยนะ แต่พี่ยงฮวาคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน เป็นสามีฉันแล้วจะมีสิทธิ์มาทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงแบบนี้ได้อย่างนั้นหรอฮะ!!!! ฉันคงต้องเริ่มสร้างภูมิคุ้นกันความหวานจากเขาซะแล้วสิ ไม่อย่างนั้นฉันคิดว่าคงได้เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจแตกเพราะหัวใจสูบฉีกเลือดเร็วเกินไปอย่างแน่นอน
อาเมน TT^TT
อีกฝั่งที่ห้องของสามหนุ่ม
”นี่ห้องเธอ” จองชินเปิดประตูให้ซูซี่เข้าไปดูห้องเก่าของยงฮวาที่ตอนนี้ถูกเปลี่ยนอะไรหลายๆอย่างออกไป แต่มีเพียงสิ่งเดียวที่ไม่ถูกเคลื่อนย้ายก็คือ อุปกรณ์ดนตรีต่างๆที่ยงฮวาเอาไว้ใช้ยามแต่งเพลงที่มันยังคงถูกวางเอาไว้ที่เดิม
”ห้องแคบๆอย่างนี้ฉันจะอยู่ได้ไงน่ะพี่!”
”เธอบ่นมากเกินไปแล้วเบ”
”อย่าเรียกฉันอย่างนั้นสิคะ ผู้หญิงอะไรชื่อเบ - -”
”เอาน่า ยังไงเธอก็ต้องอยู่กับพี่ แม่เธอฝากเธอไว้กับพี่นะ”
”แต่พี่จองชิน
” แม้ว่าซูซี่พยายามคัดค้านจองชินยังไง ดูเหมือนว่าเธอจะขัดพี่ชายต่างสายเลือดคนนี้ไม่ได้ซะแล้ว
”เฮ้!จองชิน ฉันได้หนังมาใหม่ ไปดูกันเหอะ > <” ระหว่างที่จองชินกำลังพาซูซี่ดูห้องอยู่นั้นมินฮยอกก็วิ่งเข้ามากอดคอจองชินจากด้านหลังก่อนจะเอาคางไปเกยไว้บนไหล่ของจองชินอย่างที่เคยทำเป็นประจำ
”ได้เรื่องอะไรมาน่ะ”
”ฉันได้มาเยอะเลย ไว้ไปเลือกดูเอาละกันว่าจะดูเรื่องไหนก่อน” มินฮยอกยังคงเอาคางเกยไว้บนไหล่ของจองชินอย่างสบายโดยไม่ได้สังเกตเลยว่ามีสายตาอำมหิตจากคนบางคนในห้องที่กำลังส่งมาให้เขากับจองชิน
”นั่นนายจะกอดพี่ฉันอย่างนั้นอีกนานมั๊ยฮะไอ้ตีบ - -”
”O___o!!” เหมือนมินฮยอกเพิ่งจะรับรู้ถึงการมีตัวตนของบุคคลที่สามทำให้เขาเอาคางออกจากไหล่ของจองชินแล้วเริ่มมองหาที่มาของเสียงอย่างจริงจัง
”แกได้ยินเสียงใครพูดรึเปล่าน่ะ หรือแกเรียกฉันว่าตีบงั้นหรอ - -”
”เปล่าซะหน่อย คนพูดน่ะนู่น” จองชินปฏิเสธก่อนจะชี้มาที่ๆซูซี่ยืนอยู่ และเมื่อมินฮยอกมองตามนิ้วเรียวของจองชินไปเขาก็ได้เห็นว่าใครเป็นคนเรียกเขาอย่างนั้น ตาตีบๆ(?)ของเขาก็เบิกกว้างขึ้นก่อนจะตะโกนขึ้นมาด้วยเสียงอันดังว่า
”ยัยหัวขโมยรามยอน!!!”
”นายสิไอ้ผู้ชายไม่มีมารยาท!!!”
”เฮ้!พวกนายรู้จักกันมาก่อนหรอเนี่ย” จองชินที่ทำหน้าที่เป็นคนกลางเอ่ยขึ้นมาอย่างงงๆ
”ฉันก็ไม่ได้อยากรู้จักยัยนี่สักเท่าไหร่หรอกนะ - -”
”ใครว่าฉันอยากรู้จักนายล่ะไอ้ตีบ ชิ!” ทั้งซูซี่และมินฮยอกต่างเชิดหน้าไปคนละทางโดยที่จองชินได้แต่ถอนหายใจกับตัวเองแล้วส่ายหน้าให้กับความเด็กของทั้งสองคนอย่างขำๆ
”ยังไงก็แล้วแต่พวกนายก็ต้องอยู่ด้วยกันอยู่ดี จะรู้จักหรือไม่อยากรู้จักกันยังไงซะก็เคลียร์กันเองละกันนะ ซูซี่เก็บของเธอแล้วไปพักเถอะ ส่วนแกมินฮยอก
ไหนว่าเช่าหนังมาดูกับฉันไง ไปดูหนังกัน”
”แกหมายความว่าไงวะจองชิน!! ยัยนี่เนี่ยนะที่แกบอกว่าจะมาอยู่กับพวกเรา ฉันคิดว่าเป็นญาติผู้ชายซะอีก”
”ก็ไม่ถามเองนี่หว่า” จองชินลอยหน้าลอยตาตอบมินฮยอกก่อนจะเดินไปล็อกคอมินฮยอกแล้วลากเข้าห้องก่อนที่มินฮยอกจะได้โวยวายอะไรกับซูซี่อีก ไม่ใช่อะไรหรอก แต่เขาแค่รำคาญเท่านั้นเอง
”ไอ้ตีบนั่น
ฮึ่ยย!!!” เมื่อเห็นว่ามินฮยอกเป็นเพื่อนของจองชินเธอก็คงจะทำอะไรไม่ได้ซะแล้วเพราะว่ายังไงซะเธอก็ต้องอยู่ที่นี่อยู่ดี เอ๊ะ! หรือเธอควรจะใช้ข้ออ้างนี้มาต่อรองกับจองชินเพื่อขอย้ายออกไปอยู่หอที่อื่นดีนะ แล้วเบซูซี่ก็ได้แต่หัวเราะกับตัวเองเบาๆอย่างมีความสุข
แต่ทว่าผลที่เธอคาดหวังมันไม่เป็นอย่างนั้น เพราะดันมีตัวแปรสำคัญเข้ามาเปลี่ยนความคิดของเธอน่ะสิ
”เฮ้ไอ้เด็กโย่ง! พวกนายจะขลุกอยู่ด้วยกันแต่ในห้องแบบนั้นไม่ได้หรอกนะ ออกมากินข้าวเร็ว” ระหว่างที่ฉันกำลังยืนทำอาหารเย็นอยู่ในครัวนั่นเอง เสียงทุ้มนุ่มน่าฟังจากบุคคลปริศนาก็เดินเข้ามาในห้องซะก่อน
”พี่จงฮยอน อีกสองตอนจะจบแล้วเดี๋ยวออกไปนะฮะ!” ฉันได้ยินเสียงไอ้ตีบตะโกนตอบออกมาจากในห้องนอนของเขากับพี่จองชิน อ้อ!อย่าคิดมากนะ พี่ชายฉันน่ะแมนล้านเปอร์เซ็นต์! แต่ไอ้ตีบมันจะคิดอะไรกับพี่ฉันมั๊ยก็อีกเรื่อง สองคนนี้เป็นรูมเมทกันเท่านั้นเอง เพราะฉันได้ยินมาว่าแต่ก่อนห้องนั้นที่ฉันอยู่ เป็นห้องของพี่ใหญ่ของวงที่ชื่อยงฮวา ส่วนอีกห้องก็ตกเป็นของพี่จงฮยอนพี่ใหญ่อันดับสอง และอีกห้องพวกเขาใช้เก็บอุปกรณ์ดนตรีต่างๆ นั่นจึงเหลือห้องใหญ่เพียงห้องเดียวเท่านั้น พี่จองชินเลยได้อยู่ห้องนั้นกับไอ้ตีบ เรื่องราวมันก็เท่านั้น แต่ฉันไม่ชอบใจเลยที่ไอ้ตีบนั่นมาวุ่นวายอยู่รอบๆตัวพี่จองชิน ฉันว่าหมอนั่นต้องคิดอะไรกับพี่จองชินแน่ๆเลยหล่ะ!!!
”เฮ้ย!เธอเป็นใครน่ะ” ระหว่างที่ฉันกำลังคิดอะไรเพลินๆ เจ้าของเสียงทุ้มที่ชวนน่าหลงใหลเคลิบเคลิ้มก็เดินเข้ามาในส่วนของครัวพอดี
”เอ่อ
”
”เธอ
เป็นแฟนของใครคนใดคนหนึ่งในสองคนนั้นหรอ” ผู้ชายตรงหน้าถามฉันอย่างตกใจก่อนจะชี้มือไปยังประตูห้องที่พี่จองชินกับมินฮยอกอยู่ข้างใน นี่ผู้ชายคนนี้จะมีเสน่ห์มากไปไหนนะ พูดกับฉันเยอะจังเลย~ กลัวฉันไม่รู้ว่าคุณมีน้ำเสียงที่ไพเราะหรอคะ > <
”เอ่อ ฉันชื่อ
” ในขณะที่ฉันกำลังจะแนะนำตัวเองกับพ่อหนุ่มสุดหล่อเจ้าของเสียงอันทรงเสน่ห์นั้น ไอ้ตีบมินฮยอกก็เดินออกมาจากห้องแล้วมาล็อกคอฉันก่อนจะใช้ให้ฉันไปเอาน้ำเย็นมาให้
”ไปเอาน้ำเย็นมาให้กินหน่อยสิ” พูดเฉยๆก็ได้นี่นาไม่เห็นต้องมาล็อกคอกันอย่างนี้เลย หายใจไม่ออกโว้ยยย - -
”เอ่อ ฉันยังไม่ได้แนะนำตัวเลยใช่มั๊ยคะ สวัสดีค่ะฉันชื่อเบซูซี่ เรียกฉันว่าซูซี่ดีกว่านะคะ^ ^” ฉันไม่สนใจว่าไอ้ตีบนั่นจะล็อกคอฉันอยู่หรือสั่งให้ฉันไปทำอะไรก็ตาม ก็เขาตรงหน้าตอนนี้น่าสนใจกว่านี่นา
”น้ำเย็นแก้วนึง
” มินฮยอกยังคงกอดคอฉันแน่นก่อนจะใช้น้ำเสียงที่มีโทนเสียงต่ำกว่าเดิมพูดกับฉัน
”อะไรเล่า ไม่เห็นหรือไงว่าฉันคุยกับเพื่อนพี่จองชินอยู่ นายก็ปล่อยฉันได้แล้ว!”
”ฉันหิวน้ำนี่!”
”หิวก็หยิบเองดิไอ้ตีบนี่นิ! ว่าแต่คุณ
ชื่ออะไรหรอคะ” ฉันหันไปแว้ดๆใส่มินฮยอกก่อนจะเปลี่ยนน้ำเสียงแล้วหันไปถามชื่อหนุ่มสุดหล่อที่ตอนนี้ยืนมองฉันกับมินฮยอกอย่างไม่วางตา
”ฮะ? อ๋อ~ พี่ชื่อจงฮยอนนะ อีจงฮยอนเป็นพี่จองชินกับมินฮยอกปีนึง งั้นเธอก็คงต้องเรียกพี่ว่าพี่ด้วยแล้วล่ะสาวน้อย” ไม่พูดเปล่าหากแต่ผู้ชายที่ชื่อจงฮยอนกลับส่งรอยยิ้มหวานบาดใจมาให้ฉันอีกด้วย
”พี่ไม่ต้องไปอยากรู้จักยัยขี้ขโมยนี่หรอกฮะ เสียเวลา :P” มินฮยอกพูดกับพี่จงฮยอนก่อนจะหันมาแลบลิ้นใส่ฉัน
”ฉันไม่ใช่ขโมยนะ เรียกอยู่ได้ นายต่างหากไอ้ผู้ชายไม่มีมารยาท!”
”ฉันไม่มีมารยาทตรงไหนมิทราบฮะ! พี่จงฮยอนฮะ ผมต่อคิวซื้อรามยอนอยู่ดีๆยัยนี่ก็วิ่งเข้ามาตัดหน้าแล้วหยิบไปเฉยเลย แบบนี้ผมยังเสียมารยาทอยู่มั๊ยล่ะ”
”ไม่ต้องไปขอให้พี่จงฮยอนช่วยตัดสินเลยนะ จริงๆฉันต่อคุณป้าคนนั้นนานแล้วแต่ไปเข้าห้องน้ำ ขนาดไปแค่แปบเดียวนายยังมาแย่งคิวฉันเลย ฉันมาก่อนก็ควรจะได้ก่อนสิ!”
”ยัยนี่! ฉันเป็นพี่เธอตั้งปีนึงนะพูดกับรุ่นพี่ให้มันดีๆหน่อยไม่ได้รึไงฮะ!” โธ่!เมื่อไหร่ไอ้ตีบมันจะเลิกชวนฉันเถียงนี่ ฉันจะไปคุยกับพี่จงฮยอนนะ ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันอยากคุยกับผู้ชายคนนั้น TT^TT
”เอ่อ
เดี๋ยวพี่ไปเตรียมข้าวเย็นละกัน พวกนายก็เคลียร์กันเองนะ มินฮยอกนายเป็นผู้ชายเรื่องเล็กน้อยแค่นั้นก็อย่าไปว่าซูซี่อีกเลย ส่วนซูซี่เองก็เป็นรุ่นน้องมินฮยอกด้วยไม่ใช่หรอ พูดกับพี่เค้าดีๆสิครับ เป็นแฟนกันก็ต้องค่อยๆพูดค่อยๆจานะ อย่าทะเลาะกันแค่ใครได้กินรามยอนก่อนเลย เป็นแฟนกันก็ต้องเสียสละให้อีกคนได้นะรู้มั๊ย ^ ____ ^” พี่จงฮยอนพูดสั่งสอน(?) ฉันกับมินฮยอกอย่างยืดยาวก่อนจากไปพร้อมรอยยิ้มหวานบาดใจ อะไรนะ!!! นี่พี่เขาเข้าใจว่าฉันกับไอ้บ้านี่เป็นแฟนกันงั้นหรอ ไม่เอาน่ะ พี่คะอย่าเพิ่งไป มาให้ซูจีอธิบายเรื่องทั้งหมดก่อนนนน
”
”
”
” พอพี่จงฮยอนพูดออกมาแบบนั้นฉันกับไอ้ตีบก็เลยไม่มีใครพูดอะไรแต่ทว่าเมื่อฉันหันไปสบตากับเขาเข้า แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ชายตาตีบมาก(ถึงมากที่สุด) แต่เขาก็มีดวงตาที่สดใสและเป็นประกาย เมื่อฉันสบตากับเขาก็เหมือนกับว่าฉันกำลังถูกเขาดึงดูดเข้าไปใกล้เรื่อยๆ
ใกล้เรื่อยๆ
จนกระทั่งฉันสัมผัสได้ถึงฝ่ามือนุ่มของเขาที่เปลี่ยนจากล็อกคอมาจับที่แก้มของฉันเบาๆ ก่อนฉันจะหลับตาพริ้มลงอย่างอัตโนมัติโดยไม่รู้ตัว
”
” ลมหายใจของคนตรงหน้าค่อยๆใกล้เข้ามาและตามมาด้วยริมฝีปากหนักๆที่ประทับลงบนริมฝีปากของฉัน ก่อนจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะเบาๆ เอ๊ะ!เสียงหัวเราะในฉากซึ้งอย่างนี้เนี่ยนะ?
”ฮ่าๆๆๆๆ” และเร็วกว่าความคิด จากเสียงหัวเราะเบาๆก็เปลี่ยนไปเป็นเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งแล้วมือที่สัมผัสแก้มฉันอยู่นั้นก็หายไป
”
” และเมื่อฉันลืมตาขึ้นมาก็เห็นว่ามินฮยอกกำลังนอนหัวเราะกุมท้องตัวเองอยู่บนโซฟา และในมือเขา
นั่นมินลูกพูลนี่นา!! ไอ้ตีบนี่แกล้งฉันงั้นหรอ อ๊ากกกกกกกกกกกก!!
”นาย! แกล้งฉัน
”
”เธอเองก็ดูจะชอบกับการแกล้งของฉันด้วยนี่นา หลับตาพริ้มเชียวนะเบซูจี~”
”ฉันไม่ได้หลับตา อ๊ะ!...เมื่อกี้นายเรียกฉันว่าอะไรนะไอ้ตีบ?”
”หืม?”
”เมื่อกี้นาย
ไม่ได้เรียกซูซี่!” หัวใจของฉันหล่นวูบไปอยู่ตาตุ่มเรียบร้อยแล้วเมื่อแน่ใจว่าได้ยินไม่ผิดแน่ เมื่อกี้มินฮยอกเรียกฉันว่า ‘เบซูจี’ ไม่ใช่ ‘เบซูซี่’ นี่เขารู้ชื่อจริงของฉันได้ยังไงนะ? พี่จองชินบอกเขาอย่างนั้นหรอ? ก็อาจจะเป็นไปได้นะแต่พี่จองชินจะไปบอกทำไม บอกไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรในชีวิตของไอ้ตีบให้ดีขึ้นเลยนี่ อีกอย่างเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันเป็นญาติของพี่จองชิน แล้วเขารู้ได้ยังไงหล่ะ?
”ซูซี่ ฉันเรียกเธอว่าเบซูซี่ - -” หมอนั่นก็ยังคงเถียงกลับมาอย่างไม่ลดละ
”ไม่จริงน่ะ ฉันหูไม่ฝาดแน่ๆ” ฉันได้ยินนายเรียกฉันอย่างนั้นจริงๆนะไอ้ตีบ T^T
”ซูซี่ พี่ได้ยินมินฮยอกเรียกเธอว่าซูซี่นะ” จู่ๆท่ามกลางความสงสัยพี่จงฮยอนก็พูดขึ้นมาทั้งๆที่เขายังคงจัดอาหารใส่จานต่อไป
”พี่ได้ยินอย่างนั้นแน่หรอคะ?”
”แน่อยู่แล้ว พวกเธอเป็นแฟนกันนะมินฮยอกจะจำชื่อเธอไม่ได้ได้ยังไงล่ะสาวน้อย”
”พี่คะฉันกับเขาไม่ได้
”
”เธอมันหูหาเรื่องจริงๆ - - ” ฉันที่กำลังจะบอกพี่จงฮยอนว่าไม่ได้เป็นอะไรกับไอ้ตีบมินฮยอก แต่ทว่าเขากลับพูดสวนฉันขึ้นมาก่อนเดินหายเข้าไปในห้องนอนของเขากับพี่จองชินทันที
”เธอจะทำอะไรให้พวกพี่กินหล่ะเย็นนี้มาทำต่อสิ”
“พี่จงฮยอน ฉันกับไอ้ตีบนั่นไม่ได้เป็นแฟนกันนะคะ ไม่ได้เป็นอะไรกันเลยจริงๆนะ”
“เอาน่าๆเดี๋ยวพอดีกันเธอก็จะมาบอกพี่เองแหละว่าเธอกับเขาเป็นแฟนกันน่ะ”
“พี่นี่หัวดื้อชะมัดเลย - -”
“โอเคๆ ว่าแต่เธอทำอะไรค้างไว้หล่ะ ให้พี่ช่วยมั๊ย”
”ฉันจะทำซุปกิมจิกับซี่โครงย่างค่ะ”
”ว้าววว~ เหลือเชื่อเลยเธอทำมันได้ไง”
”แต่จริงๆแล้วฉันทำข้าวต้มหมูเก่งมากเลยนะคะ”
”เธอพูดจริงหรอ?”
”จริงสิ! ก็มันเป็นเมนูที่ฉันชอบมากที่สุด ฉันเลยทำได้ดีที่สุด” ฉันบอกอย่างภาคภูมิใจเพราะว่านั่นเป็นอาหารโปรดของฉันเลยหล่ะ อีกทั้งมันยังเป็นเมนูอาหารจานแรกที่แม่สอนฉันทำอีกด้วย
”เธอรู้อะไรรึเปล่าซูซี่” พี่จงฮยอนพูดขึ้นมาอย่างจริงจัง แต่น้ำเสียงนุ่มๆของเขานั้นก็ยังคงความดึงดูดใจคนฟังอย่างฉันได้อยู่ดี
”รู้อะไรคะ?” ฉันเอียงคอถามอย่างสงสัยกับท่าทีที่จริงจังของเขา
”ก็รู้ว่าข้าวต้มหมูคือชีวิตของพี่ยังไงล่ะสาวน้อย J”
”O////o!!” และวินาทีนั้นเองฉันก็ได้รู้ว่าการใจเต้นแรงกับคนที่เราชอบมันเป็นยังไง
"-------------------------------------------------------------
Talk with writer :
เฮลโหล โฮเฮ้~
จัดมาอย่างต่อเนื่องแบบไม่ต้องรีเควส
ช่วงนี้โรงเรียนหวานจะมีงานกีฬาสีไง พอว่างจากซ้อมเชียร์
หวานก็เลยใช้เวลาไปกับการแต่งฟิคยงซอ คึคึคึ~
มันเป็นการอู้งานจากเพื่อนที่มีประโยชน์มากจริงๆ
ตอนนี้เริ่มมีสีสัน เริ่มมีตัวละครตัวอื่นเข้ามาแย่งซีนความหวานของยงซอซะแล้ว
หวานจะบอกไว้ตรงนี้เลยน้า ไม่ชอบคนไหน คู่ไหนอย่าแอนตี้นะคะ
ยังไงคู่หลักก็คือยงซอค่ะ ส่วนคู่อื่นก็แค่สีสันเท่านั้นเอง
ตัวละครในเรื่องหวานคัดมาอย่างดีแล้วนะคะ
เลือกเอามาแต่คนที่หวานชอบและปลื้มเป็นพิเศษ5555
อย่างเบซูจีเนี่ย จริงๆหวานใช้อิมเมจเป็นนางเอกนิยายบางเรื่อง
ก่อนหน้านี้ที่หวานเคยแต่งเล่นไปหลายเรื่องแล้ว
แต่มาเรื่องนี้ก็ไม่สามารถแสดงความเด่นได้เต็มที่อยู่ดี
เพราะเมนหลักฟิคนี้คือ ยงซอ <3
หนูซูซี่สุดสวยจะคู่กับใครนั้น โปรดติดตามชม
ปล.แม่ยกยงซออย่าเพิ่งกร่อย ถึงจะมีคู่อื่นออกมาแต่รับประกัน ยงซอออกทุกตอนจ้า
เจอกันใหม่ในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน
เพราะหวานว่างมากถึงมากที่สุด แหะๆ
แต่บอกล่วงหน้านะคะ 21-25 กีฬาสีโรงเรียนจ้า คงไม่ได้เข้ามาทักทายเลย
และ 26-31 ใกล้สอบมิดเทอมจ้ะ งานคงถาโถม
รวมๆคือ ช่วงนี้เท่านั้นที่หวานจะขยัน
หลังจากนั้นไปอาจจะยาวนานมากกว่าเราจะได้เจอกันอีกครั้ง TT_TT
คิดถึงหวาน ก็เข้ามาอ่านฟิคนะคะ
เม้นได้ โหวตได้ แอดแฟบได้ หวานไม่กัด คึคึคึ~
อย่าลืมดูแลตัวเองดีๆนะคะ
รักคุณนะมายรีดเดอร์ J
ไอแอมพีเอสสึ
ความคิดเห็น