คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : chapter 6 INNOCENT สัญญากับฉัน
Chapter 6 INNOCENT ( สัญญากับฉัน)
หลังจากเหตการณ์วันนั้น ฉันไม่เคยเจอคุณจงฮยอนบ่อยนัก แต่ก็พอรู้ว่าสถาน
การณ์ในบริษัทไม่ค่อยดีเท่าที่ควร ส่งผลให้เขาต้องทำงานหนัก และวันนี้ก็เป็น
อีกวันที่มักจะเห็นเขา ฟุบนอนบนกองเอกสารนับไม่ถ้วน
“ เจ้านายฮะ คุณจะต้องเป็นแบบนี้ไปอีกนานมั้ย ” ฉันใช้นิ้ววาดผ่านใบหน้า
ของเขา ซีกหน้าด้านข้างแม้ในยามหลับยังดูหล่อทุกระเบียดนิ้ว ไม่มีส่วนไหน
บกพร่องสักจุด และ
“ อืมมม ~ ” เขาขยับตัวทั้งๆที่เปลือกตายังปิดสนิท มือที่กำลังจะแตะริมฝีปาก
เป็นอันชักมือกลับกระทันหัน ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อ ทำเอาฉันหายใจ
ติดขัด วิ่งออกจากห้องนอนเขาไปในที่สุด
หลังจากพาบาโรออกไปเดินเล่นข้างนอกในตอนเช้า สายตาฉันดันเหลือบ
ไปเห็นคุณตายื่นกระเป๋าเดินทางส่งให้คนขับ พอเขาหันมาเห็นฉันท่านจึงโบกมือ
ขณะขึ้นไปนั่งบนรถ
“ คุณตาจะกลับเคียงจูแล้วเหรอฮะ” ฉันวิ่งไปหาคุณตาที่นั่งอยู่ในรถอย่างไม่รอช้า
“ ใช่ ฉันมีงานต้องกลับไปทำที่นั่นต่อ ฝากดูแลหลานชายฉันด้วยนะ ” จู่ๆ คุณตา
ก็โยนซองสีขาวออกมานอกกระจก ฉันตกใจมองหน้าคุณตาสลับกับไอ้เจ้าซองขาว
ในมือ
“ นี่มัน อะไรฮะ ”
“ เงินนั่น..ฉันให้เธอเอาไว้ใช้ ฉันไม่คิดว่าเธอจะต่างไปจากหลานชายฉันหรอกนะ
เก็บเงินไว้ใช้เถอะ ”
“ แต่ผมรับ.. ” พูดไม่ทันจบ กระจกรถจึงเลื่อนปิดบังใบหน้าคุณตามิดชิดและรถคันสี
ดำนั่น เคลื่อนตัวหายลับไปทางประตูรั้วขนาดใหญ่
“ ไม่ยักรู้นะ ท่านประธานซองวอนจะเอ็นดูเธอ ” เสียงคุณนายโบยองดังออกมาจาก
ที่ไหนสักแห่งระหว่างที่ฉันกลับเข้ามาข้างในบ้าน กระทั่งมองขึ้นไปตรงบันไดขั้นแรกสุด
แววตาเย่อหยิ่ง ทระนงตน ฉันกลับจำดวงตาคู่นั้นได้ดี
“ ถึงฉันจะไม่รู้ว่ารากเหง้าของเธอเป็นมายังไง แต่ถ้าจะมาทำตัวใสซื่อกับคนบ้านนี้ ”
“ ไม่ทราบว่า นายหญิงต้องการจะพูดอะไร ”
“ ใสซื่อดีจริงๆเลยนะ เธอทำให้ฉันอารมณ์เสียได้อยู่ทุกที เมื่อไหร่จะไปจากที่นี่
อีกนานแค่ไหน บอกมา!! ”
“ ต้องการให้ผมออกไปจากที่นี่..จริงๆเหรอฮะ ทำไมผมต้องไปด้วยในเมื่อ..นายหญิง
กับผมต่างก็มีจุดประสงค์ที่จะอยู่ที่นี่เหมือนๆกัน ”
“ พูดบ้าอะไรของเธอ ” แววตาคู่นั้นจับจ้องราวกับต้องการสับร่างฉันเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ฉันไม่ต้องการจะชักใบให้เรือเสีย แค่พูดตามความรู้สึก เฮ่อ..แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมเธอ
ถึงได้เกลียดฉันนัก T T
“ ความจริงเป็นสิ่งไม่ตายไม่ใช่เหรอฮะ ยังไงผมก็จะไม่ไปไหนทั้งนั้น ”
“ ว่าไงนะ ” ฉันหลับตาปรี๊ ทันทีที่เธอเตรียมจะเงื้อมือพุ่งมาที่ฉัน ความกลัวแล่นเข้ามา
ใกล้ เสียงฝ่ามือกระทบทว่าไม่มีความรู้สึกเจ็บใดๆ แล้วเสียงนั่นมาจากไหนกัน O[]O
“ คุณไม่มีสิทธิ์มาไล่คนของผมออกไปจากที่นี่!! ” เสียงตวาด ทำเอาฉันตกใจและเงย
หน้าขึ้น คุณจงฮยอนเข้ามาขว้างฉัน
“ อย่าเอามือสกปรกๆ ไปแตะตัวเธอ ” มือนั้นสะบัดท่อนแขนเธอออกด้วยความรังเกียจ
ฉันยืนเลิกลั่กไปไหนไม่เป็น จู่ๆเขาดึงฉันเข้าไปกอด
“ พพวกเธอสองคน ”
“ ตกใจหรือไงครับ มันไม่เห็นจะเป็นเรื่องน่าอายตรงไหนเลยนี่ ถ้าคุณรู้ว่าเมื่อก่อนท่าน
ประธานปาร์คมีรสนิยมแบบไหนคุณคงรับมันไม่ได้แน่ ”
“หมายความว่าไง ” เขายิ้มด้วยแววตาชั่วร้าย เห็นเธอยืนโกรธจนตัวสั่น ฉันได้ยินเสียง
หึผ่านลำคอเขา ไม่นานคุณจงฮยอนก็ผละตัวออกแล้วจูงมือฉันไปยังลานจอดรถ
หลังจากผ่านพ้นเหตการณ์เมื่อเช้ามาได้ ฉันรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก คิดว่าเธอจะรู้เรื่อง
ที่ฉันปลอมตัวมาทำงานซะอีก เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ฉันกลัวมากที่สุด แม้ฉันจะนั่งเงียบมา
ตลอดทางก็แอบลอบมองซีกหน้าด้านข้างที่ตั้งหน้าตั้งตาขับรถไปแทฮังโนเสียไม่ได้
“ จะไปซื้อรองเท้างั้นเหรอ หรือว่าซื้อเสื้อผ้า ”
“ นี่เธอ!! เห็นฉันเป็นคนใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายขนาดนั้นเลยรึไง”
“ ก็ผมไม่รู้นี่ฮะ ”
“ ฮะเหรอ!! อยู่กันสองคนห้ามเธอพูดแบบนั้นอีกนะ อยู่ต่อหน้าคนอื่นพูดได้ เดี๋ยวจะ
หาว่าฉันไม่รักษาสัญญา ”
“ ทำไมคะ กลัวเกิดเปลี่ยนใจไปชอบผู้ชายจริงๆใช่มั้ย เอาเลย เพราะฉันก็เป็นพวกที่
ชอบคลั่งเกย์มากกว่าคุณซะอีก ” ^////^
“ ยัยโรคจิต ” เขาเหล่ตามองฉันพลางแยกเขี้ยวใส่ ฉันจึงฉีกยิ้มออกมาด้วยความ
ภาคภูมิ เชิญ!!! อยากว่าอะไรก็ว่าไป
‘ The last Cofee’
เวลา 13.14 น.
ร้านกาแฟเล็กๆในย่านแทฮังโน ผู้คนต่างเดินเข้ามาในร้าน ส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงาน
บ้างก็มีเด็กวัยรุ่นและเด็กมหาลัยจับกลุ่มคุยกัน วันนี้เป็นวันหยุดคนในร้านจึงเยอะหน่อย
“ ที่แท้เจ้านายก็อยากดื่มกาแฟที่นี่งั้นเหรอ”
“อืมมใช่..จะสั่งอะไรมั้ยพอดีว่าวันนี้ฉันนัดจุนไว้ หมอนั่นเขาอยากรู้จักนาย ”
“ อยากรู้จักผม ”
“ ก็ไหนเจ้านายบอกว่าไม่อยากให้เขายุ่งกับผมไงฮะ ” เขายืดตัวตรง สีหน้าประมาณ
ว่าเขาพูดแบบนั้นตั้งแต่เมื่อเมื่อไหร่ ก่อนยิ้มเหยๆพลางคว้าคาปูชิโน่ที่สั่งไว้มาดูดกลบ
เกลื่อน
“ บังเอิญจังเลย นั่นพี่คีย์ใช่มั้ยฮะ ” ฉันวางแก้วกาแฟกระทันหัน เสียงเรียกนั่นทำ
ฉันหน้าตาตื่นชั่วขณะ แทมินนั่นเอง แล้วนั่นก็เพื่อนคุณจงฮยอน ฉันเพิ่งจะเจอเขา
ที่บริษัทเมื่อไม่นานมานี้ไม่ใช่เหรอ
“ คุณแทมิน มาซื้อของแถวนี้เหรอฮะ ”
“ ฮะใช่แล้ว ”
“ อะไรกันเนี่ย แกรู้จักเขาตั้งแต่เมื่อไหร่วะแทมิน ”
“ ก็ก่อนที่ฮยองจะรู้จักเขาก่อนผมแล้วกัน” แทมินยิ้ม ขณะนั่งลงข้างๆฉัน พวกเขา
เป็นพี่น้องกันเหรอ O_o?
“ ฉันตั้งใจจะมาหานาย ไม่คิดว่าไอ้น้องชายฉันมันอยากจะมาด้วย ก็อย่างที่เห็นฉัน
คงมีคู่แข่งเพิ่ม ”
“ คู่คงคู่แข่งอะไรกัน อาทิตย์นี้จะถึงวันเกิดมินโฮฮยองเลยต้องหาของขวัญให้ ”
“ นายคงมีความสุขมากสินะ ที่ได้ทำอะไรเพื่อคนที่นายรัก ” ฉันสะอึกไปกับคำพูด
สายตาที่ส่งไปยังแทมิน ทำไมมันช่างดูลึกซึ้ง แสร้งทำเป็นฝืนยิ้มแปลกๆ ไม่รู้ว่า
แทมินจะเห็นมั้ย หางตาของฉันมันบ่งบอกชัดเจน แทมินหลบสายตาเขา
“ ผมมีความสุขมาก พี่จงฮยอนยินดีด้วยนะ ” แทมินเสียงสั่นไปเล็กน้อย ก้มหน้า
ลงมองมือที่ประสาน พยายามบังคับสีหน้าเป็นปกติ ฉันหรือแม้แต่เพื่อนเขา เห็น
อย่างงั้นแล้วเราต่างก็นั่งเงียบด้วยกันทั้งคู่
“ อาา เมื่อไหร่กาแฟที่สั่งจะได้สักทีนะ กาแฟลาเต้ที่นี่รสชาติเป็นไงบ้างคิมคีย์บอม ”
“ อ้อ รสชาติดีสุดๆเลยฮะ ” ฉันคว้าแก้วกาแฟชูมันขึ้นสูงๆ มืออีกข้างชูนิ้วโป้ง อีตา
เจ้านายเห็นฉันทำท่าประหลาดเข้าปุ๊ปถึงกับทำตาเขียวปั้ดใส่ฉัน น่าจะขอบคุณฉัน
ซะมากกว่า อย่างน้อยๆฉันก็ทำให้บรรยากาศกลับมาครึกครื้นได้ละน่า
ฉันรู้อยู่แล้วว่าแทมินกับคุณเชวมินโฮจะคบกัน แต่ไม่คิดว่าคุณจงฮยอนจะเคยคบ
กับแทมินด้วย บ่อยครั้งคุณจงฮยอนไม่พอใจที่ฉันสนิทกับคุณมินโฮมากเกินไป ความ
จริงเขาเองก็ยังรักและเป็นห่วง
แทมินอยู่ห่างๆ
“ ยูริอาทิตย์นี้เธอจะสะดวกมั้ย ฉันอยากเจอเธอและก็พี่ด้วย ไว้ฉันจะนัดเธออีกทีแล้ว
กันนะ ” พอฉันกดปุ่มวางสายควอนยูริเสร็จ ฉันเพิ่งจะได้รับโทรศัพท์ของพ่อเป็น
ครั้งแรก ฉันดีใจมากและรีบกดรับโทรศัพท์อย่างไม่รอช้า
“ พ่อคะ ”
‘ ว่าไงยัยแม่มดน้อย ’ แค่ได้ยินเสียงของพ่อผ่านทางโทรศัพท์ จู่ๆน้ำตามันก็ไหลออกมา
โดยไม่ทราบสาเหตุ
“ พ่อคะ หนูคิดถึงพ่อกับแม่มากเลย และดีใจมากด้วยที่ได้ยินเสียงของพ่อ ”
‘ คีซุนแม่เขาเป็นห่วงแกมากนะ พ่อขอโทษที่ไม่ได้ส่งข่าวไปบอกแกสักครั้ง ’
“ หนูรู้ว่างานพ่อที่โรงพยาบาลยุ่งมาก ไหนจะต้องดูแลแม่อีก ไม่นานหรอกคะที่หนูจะ
ขอท่านประธานไปเยี่ยมแม่สักครั้ง หนูขอคุยกับแม่ได้มั้ย”
“ ไม่ได้งั้นเหรอ ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องก็ได้ไว้ครั้งหน้าหนูจะโทรหา ” ฉันเก็บโทรศัพท์ใส่
กระเป๋ากางเกง มือปัดคราบน้ำตาทิ้งแล้วหันหลังกลับไปทางเดิม ฉันตกใจเอากุมหน้า
อกถอยหลังไปหนึ่งก้าว คุณจงฮยอนยืนเอามือสอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้าง
สายตามองมาที่ฉัน
“ พ่อเธอเหรอ ” ฉันพยักหน้า ฉันซึ่งจะก้มหน้า จู่ๆ คุณจงฮยอนก็เดินมาจับใบหน้าฉันไว้
“ อะไร อย่านะ! จะทำอะไร!! ” เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ ฉันตัดสินใจผลักดันหน้าอกเขา
สุดกำลัง แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ
“ อยู่นิ่งๆสิ ฉันไม่ได้คิดจะจูบเธอตรงนี้ซักหน่อย ” เขายิ้มหวาน และแล้วนิ้วโป้งจึงแตะ
สัมผัสขอบตาฉัน
“ เลิกร้องไห้เป็นเด็กๆ สักทีเถอะยัยแม่มด ” ฝ่ามือนั้นวางทาบบนใบหน้าไม่ขยับ 15 ปี
เด็กผู้ชายคนนั้นได้หายตัวไปพร้อมกับแม่ของเขาโดยที่ทิ้งฉันไว้ในอดีต ฉันได้แต่มอง
หน้าเขาไปมา รู้สึกคุ้นชินกับชื่อนี้ สักพักหยดน้ำตาของฉันไหลโดยอัตโนมัติ
“ ขอโทษฮะ ผมแค่คิดถึงพวกเขามากเกินไป ” ฉันจับมือเขาออกจากใบหน้าทันที ใช้หลัง
มือปาดคราบน้ำตาเสร็จสรรพ คุณจงฮยอนตื่นตกใจกับอาการของฉันไม่น้อย คว้าดึงฉัน
เข้าไปกอดแนบแน่น
“ ถ้าเป็นเพราะฉัน รอให้สอบเสร็จเธอค่อยกลับไปเยี่ยมพวกเขาดีมั้ย แต่ว่าฉันขอไป
ด้วยนะ ” ไม่ใช่หรอก ไม่ใช่อย่างงั้นสักหน่อย นั่นมันก็แค่ส่วนน้อยในความรู้สึก
เท่านั้นเอง ตอนนี้เขารู้สึกยังไงกับแทมิน นั่นคือเรื่องที่ฉันไม่กล้าถาม สู้ไม่รู้คำ
ตอบยังดีซะกว่า T_T
“ เอางั้นก็ได้ ”
รูปถ่ายโพลารอยด์แผ่นเล็กจิ๋ว เด็กหญิงมัดผมแกะตัวเล็กๆ เธอคนนั้นกำลังฉีกยิ้ม
มือเอื้อมไปจับตามคันจักรยาน เด็กผู้ชายซึ่งตัวโตกว่าประคองเธอเอาไว้ ฉันเก็บ
และรักษารูปถ่ายใบนี้ไว้อย่างดี รูปที่ฉัน
หัดขี่จักรยานเป็นครั้งแรก .
“ ดูอะไรอยู่น่ะ ” เสียงคุ้นๆหู ทำให้ฉันซ่อนรูปถ่ายใบนั้นมิดชิด กระเด้งตัวลุกขึ้นเดิน
ไปหาคุณมินโฮซึ่งยืนอยู่หน้าบ้านอย่างไม่รอช้า
“ อาบน้ำให้บาโรเสร็จแล้วใช่มั้ย ”
“ เสร็จแล้วฮะ ว่าแต่มีอะไรให้ผมรับใช้อีกหรือเปล่า ”
“ ไม่มีหรอก ไอ้เจ้าบาโรมันหายไปไหนของมันนะ เอานี่ฉันให้ ” ฉันผงะถอยหลัง
คุณเชวมินโฮยื่นสร้อยเงินรูปกุญแจสีเปลือกไม้ ยื่นมาตรงหน้า ฉันรู้สึกกระอักกระอ่วน
ใจที่จู่ๆเขาก็มอบของชิ้นนั้น แม้ว่าสร้อยเส้นนั้นจะดูธรรมดาก็เหอะ
“ ขอบคุณมากนะฮะ ผมรับเอาไว้ไม่ได้จริงๆ ” อยู่ๆ เขาก็ส่งเสียงหัวเราะดังบริเวณนั้น
โดนปฏิเสธแล้วยังยิ้มได้อีกงั้นเหรอ
“ สร้อยน่ะเหมาะกับนายมากเลยนะ ฮ่าๆ ” สร้อยเหมาะกับฉัน เฮ่อ~ กว่าฉันจะ
รู้สึก สร้อยเส้นนั้นมันสวมอยู่บนคอฉันไปแล้วเรียบร้อย
“ ขอบคุณนะ ที่อุตสาห์ดูแลเจ้านั่นให้ฉันเป็นอย่างดี ”
“ =_= ”
“ อย่าถอดนะ มันน่ารักดีอออก และเหมาะกับนายมากๆด้วย ” ว่าแล้วเขาก็เดินกลับ
เข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว ฉันซึ่งเดินตามหลังไปติดๆ เหมือนว่าเขาตั้งใจจะเดินเร็ว
ให้ฉันตามไปไม่ทัน แล้วระหว่างนั้นลมหายใจฉันจึงหยุดลงชั่วขณะ คุณจงฮยอนหยุด
ยืนอยู่ตรงหน้า
“ เขาคงจะเห็นแล้วซินะ ”
‘ Tapgol park ’
พี่ชายฉันสวมเสื้อไหมพรมแขนยาวสีเขียวเข้มที่ฉันซื้อให้เขาเมื่อปีที่แล้วและกางเกงยีนส์
สีเทาแนบเนื้อ สองคนนั้นกำลังยืนโบกไม้โบกมือให้ฉันมาแต่ไกล หลังจากเดินข้ามฝั่ง
เข้ามาในสวนสาธารณะ ฉันจึงมุ่งตรงไปทางพุ่มไม้ด้านนอก ที่พวกเขายืนอยู่
“ ขอโทษนะที่มาช้า รอนานหรือยัง ”
“ นานจนรากจะงอกออกจากก้นแล้ว นังบ้า!! ”
“ คีซุน ทำไมแกผอมลงเงี่ย หัดกินข้าวซะมั่งสิ แถวนี้มีร้านไหนอร่อยๆปะ ฉันหิวจนไส้
จะขาดแล้ว” แล้วบ่ายวันนั้นฉันก็พาพี่ไปกินเนื้อย่าง
กลิ่นหอมอบอวลของเนื้อย่าง ลอยปะทะเข้ามาในจมูก ยิ่งดึกผู้คนก็เริ่มทยอยเข้ามา
นั่งทานเนื้อย่าง ฉันกับยูริสวาปามกินเนื้ออย่างเมามัน ไม่สนใจสายตาพี่ชายจ้องจะกิน
เลือดเนื้อฉันเป็นระยะ
“ ง่ำๆ อร่อยอะ งั้นฉันเสียสละ ”
ฉันคีบเนื้อใส่ปากพี่ชาย ทว่ากลับเขมือบมันใส่ปากตัวเอง ส่งเสียงเคี้ยวกรุบกรับยั่วน้ำ
ลายเขา ^o^
“ เฮ้ยยยย ~แกมันเฮงซวย.. ” พี่เอาตะเกียบเคาะลงมาบนหัวกบาลฉันหนึ่งที หนึ่งที
ที่เต็มไปด้วยแรงล้วนๆ -_-^^^ พี่ช่างเป็นพี่ชายที่รักน้องสาวจริงๆเลย
“ อ๊ะ!! ฉันเจ็บนะพี่ ”
“ ก็เล่นกินหมดเลย ทำอย่างกับไปตายอดตายอยากมาจากไหน ป้าครับผมขอเนื้อติด
มันเพิ่มด้วย ” ฉันกวาดสายตาไปรอบๆ ดูเหมือนว่าคนในร้านจะหันมามองที่เรากัน
หมด และแล้วเนื้อย่างออร์เดอร์สุดท้าย พี่กับยูริก็จัดการกินมันซะเรียบ
ฉันกลับมาบ้านตอนสองทุ่ม หลังจากส่งพวกเขาขึ้นรถไฟกลับบ้าน บ้านที่เปรียบ
เสมือนกับคฤหาสน์เงียบราวกับป่าช้าไม่มีผิด ยังดีที่ไฟหลายๆดวงเปิดสว่างพอจะทุเลา
ลงไปหน่อย ฉันอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จจึงเดินมาดูข้างล่าง อย่างน้อยๆก็น่าจะ
เหลืองานให้ฉันทำอีกซักสองสามงาน
“ คิมคีย์บอมเธอหายไปไหนมา ”
“ ขอโทษฮะ พอดีผมติดธุระนิดหน่อย ”
“ เธอมาก็ดีแล้ว ช่วยยกไวน์ไปให้คุณหนูจงฮยอนที่ตึกโน่นที ” ฉันรับไวน์มาจากมือ
เธอทันที ใจฉันเต้นตึกตักขณะเดินตามหาเขา เมื่อเช้าเขาแทบไม่พูดกับฉันเลยด้วยซ้ำ
ความอดทนฉันมีขีดจำกัด ยังไงฉันก็จะไม่ยอมแพ้ง่ายๆเด็ดขาด
เสียงบรรเลงเปียโนยังดังออกมาจากตึกอีกฝั่ง ฉันซึ่งตามหาคุณจงฮยอนจนทั่วจึง
หยุดอยู่หน้าห้อง ทันใดนั้นปลายนิ้วที่กำลังไล้บรรเลงเพลงหยุดชะงักไปชั่วขณะ
“ สร้อยน่ะ..สวยดีนะ ” น้ำเสียงหนักแน่นฟังดูสั่นไหวพิกล คุณจงฮยอนลุกขึ้น
เดินตรงมาหาฉัน
“ ขอบคุณที่อุตสาห์เอาไวน์มาให้ เอามันวางไว้ตรงนั้น แล้วก็ไปให้พ้นหน้าฉันซะ ”
คำพูดนั้นมันช่างเสียดแทงลงบนหัวใจฉัน แววตาสงบนิ่งเหมือนน้ำเปล่าที่อยู่
ในขวด
“ คนเฮงซวย !! นั่นคือสิ่งที่เจ้านายอยากพูดกับฉันใช่มั้ย ฉันน่ะยังหาโอกาสคืน
สร้อยเส้นนี้ไม่ได้ แต่ไม่ว่ายังไงฉันก็ต้องหาทาง ”
“ ฉันไม่อยากฟัง ” คุณจงฮยอนยืนหันหลังให้ ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดมากเลย
ล่ะตอนนี้
“ ฉันไม่ได้อยากรับมันมาแม้แต่น้อย ได้โปรดอย่าทำแบบนี้ ” ฉันวางถาดนั้นไปบน
โต๊ะข้างๆ โผล่เข้ากอดเขาทางด้านหลัง ฉันจะบ้าตายอยู่แล้วนะ ที่ไม่สามารถ
ทำให้เขาเชื่อใจฉันได้เลย TOT
“ ฉันชอบที่ได้เห็นคุณเป็นห่วงฉัน แม้จะเห็นได้ไม่บ่อยนัก เพียงเท่านี้คุณก็ทำให้ฉัน
รักคุณขึ้นทุกๆวัน ”
“ ”
“ดังนั้น อย่าต้องไล่ฉันไปรักคนอื่นได้รึเปล่า”
“ .” ฉันไม่ควรร้องไห้ แต่มันก็อดไม่ได้จริงๆ
“ ขอโทษที่ฉันขอมากไป งั้นฉันไม่กวนคุณแล้ว เชิญดื่มไวน์ตามสบาย ” ฉันปล่อย
มือออกจากเขา หันหลังกลับไปหน้าประตูจัดการเช็ดคราบน้ำตาทิ้ง ไม่กี่ก้าวแรง
กระชากจากข้างหลังก็พลิกตัวฉันหันไปหาเขาทันใด
“ คิมคีซุน!! ถ้าเธอกล้าออกไปแม้แต่ก้าวเดียว ฉันจะลืมว่าสิ่งที่เธอพูดเป็นเพียง
แค่ฝันร้ายของฉัน ” ไม่เสียใจเลยจริงๆที่ฉันได้ชอบเขา คนที่ฉันเกือบลืมไปแล้ว
จริงๆ เด็กผู้ชายที่ชื่อคิมจงฮยอน พอโตขึ้นไม่คิดว่าจะดูหล่อขนาดนี้ และเขาก็
ทำให้ฉันรักได้โดยไม่ลังเลใจเลยสักนิด
“ ฉันมันเป็นคนแบบนี้ อาจทำให้เธอเสียความรู้สึกไปบ้าง แต่เธอ..ก็ต้องเข้าใจฉัน ”
“ ..”
“ สัญญากับฉันซักข้อว่า เธอจะไม่ทิ้งฉัน ”
“ ทำไมฉันจะทำไม่ได้ล่ะ ฉันรักคุณนี่นา ” ฉันไม่สามารถห้ามความรู้สึกที่มี
ต่อเขาได้เลย มันยากกว่าจะตัดใจจากเขาซะอีก ฉันอมยิ้มจนปากแทบฉีก
รู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก ทันใดนั้น คุณจงฮยอนยื่นหน้าเข้ามาใกล้ โน้ม
ริมฝีปากจูบลงบนหน้าผากฉันไว้เนิ่นนาน
“ เธอสัญญาแล้วนะ ” รอยยิ้มนั้นยังคงแจ่มชัดในหัวใจฉัน วินาทีถัดมา ฉัน
รู้สึกได้ว่าตัวฉันถูกยกลอยขึ้นสูง พร้อมกับสิ่งที่ปรากฏรอบข้างๆคือห้องนอน
ของเขา
“ นี่..คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม ”
“ ก็ลงโทษยัยแม่มดของฉันน่ะสิ ”
“ นอกจากความเจ้าเลห์ในตัวคุณแล้วยังมีอะไรอีกที่ฉันไม่รู้ ปล่อยฉันนะ ”
โซฟายุบลงตามแรงน้ำหนัก ที่ทาบทับลงมายังร่างฉัน ถึงจะดิ้นอยู่ในอ้อม
กอดผลักก็แล้ว ถีบก็แล้ว (ศิลปะการป้องกันตัวของพี่ แทบจะไม่ได้เรื่อง )
ทว่าไม่ได้ทำให้เขาเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา
“ นี่... ฉันคงไม่ต้องอ่อนข้อให้คุณไปตลอดเลยรึไง ”
“ ไม่รู้สิ อาจจะใช่มั้ง ” เขายิ้มกริ่ม แทบจะไม่เปิดช่องว่างในการต่อรอง โน้ม
ริมฝีปากลงบนริมฝีปากของฉันด้วยความรวดเร็วพลางแทรกลิ้นอุ่นๆ จนกลาย
เป็นรสจูบที่ดื่มด่ำ หวานละมุนไปในที่สุด
“ คีซุน ~ เธอต้อง .รักษา สัญญากับฉันนะ ” เสียงกระซิบ ทำเอาหัวใจฉันมัน
กลับเต้นระรัว ร่างกายอ่อนยวบบิดไปมาภายใต้ร่างสูง สัมผัสวาบหวามแฝงไว้
ด้วยความอ่อนโยน ไม่ว่าใครก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงพ้น ฉันจึงทำได้เพียงแต่พยักหน้า
รับช้าๆ หัวสมองสั่งการช้าลงทันทีที่เขาเข้ามาอยู่ในตัวฉัน ร่างฉันได้แต่เกร็งสั่น
สะท้าน ไปตามแรงปรารถนาที่เขามอบให้ด้วยความรักในคืนนั้น
ความคิดเห็น