ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    « Vengeance StorieS ™ . เพลิงแค้น »

    ลำดับตอนที่ #9 : :: CHAPTER 4 ::

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 63
      0
      19 พ.ค. 52


                        สองวันถัดมาหลังจากที่คยูฮยอนถูกไล่ออกจากงานเขาก็เอาแต่ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านกับฮีเจง และนั่นยิ่งทำให้คนที่โทษตัวเองว่าเป็นต้นเหตุรู้สึกผิดมากกว่าเดิม   ถึงแม้คยูฮยอนจะรู้ความจริงหมดทุกอย่างแล้วแต่เขาก็ไม่รู้สึกโกรธอะไรสักนิดก็คงจะมีแต่ฮีเจงคนเดียวที่ดูเหมือนจะคิดไปเอง


                       
    " เธอจะออกไปไหนแต่เช้าหนะ? " ชายหนุ่มเอ่ยทักเพื่อนสาวที่คล้องสายกล้องไว้กับคอเตรียมที่จะออกไปข้างนอก


                       
    " ออกไปถ่ายรูปเล่นนิดหน่อย "


                        " งั้นรอเดี๋ยว ฉันจะไปเป็นเพื่อน "


                        " ไม่ต้อง! " ฮีเจงเผลอตะโกนห้ามทำให้คยูฮยอนมองเธออย่างสงสัย ทำไมถึงได้ดูมีพิรุธแบบนี้ล่ะ..

      
                     
    " เอ่อ... คือฉันอยากไปคนเดียวเงียบๆ ยังไงซะถึงนายไปก็จะเบื่อเปล่าๆ เอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันกลับมาก็แล้วกัน "



                       
    เมื่อพูดจบก็พาตัวเองออกมาจากจุดตรงนั้นก่อนที่จะถูกถามอะไรมากกว่านี้ ฮีเจงหันกลับไปมองจุดที่ตัวเองเพิ่งจากมาก็ถอนหายในออกมาเฮือกใหญ่

               

    ..ขอโทษด้วยนะที่ต้องผิดคำพูด ฉันจะไม่มีวันยอมให้นายต้องกลายเป็นอย่างนี้โดยที่นายไม่ได้ทำอะไรผิดเลย..


          --------------------------------------------------------------------------


                        วันเปิดตัวนายแบบคนใหม่ใกล้เข้ามาทุกวินาที และทุกครั้งที่เขานัดประชุมกับเหล่าโปรดิวเซอร์ ปีศาจที่แฝงอยู่ในตัวก็ดูเหมือนจะถูกกระตุ้นทุกครั้ง ความหึกเหิ้มและอย่างเอาชนะวิ่งพล่านอยู่ในตัว เขานั่งมองผู้จัดการสาวของตนกำลังจัดการเกี่ยวกับแผนงานการเปิดตัวของเขาอย่างเคร่งเครียด ยกมุมปากยิ้มอย่างพอใจเขารู้สึกเหมือนกับว่าพระเจ้ากำลังเข้าข้างเขาและอยากให้เขาได้บรรลุการแก้แค้นในครั้งนี้


                       
    หลังจากที่เขาจัดการไปถล่มบริษัทหนังสือพิมพ์แห่งนึงโดยที่บอกแค่ว่าให้ไล่พนักงานกระจอกๆออกซะไม่อย่างนั้นเขาจะถล่มและกีดขว้างการทำงานของบริษัทแค่นี้ก็ดูเหมือนหัวหน้าบิรษัทก็จะกลัวหัวหด แต่ก็เห็นได้ชัดว่าการกระทำของเขาในครั้งนั้นดูจะได้ผลเมื่อเขาไม่รู้สึกเหมือนมีคนสะกดตามรอยเขาเหมือนแต่ก่อนแล้ว



                       
    Tr...Trrrrr......

       

                       
    เสียงโทรศัพท์เครื่องเล็กสีดำที่วางไว้บนโต๊ะดังขึ้นทำให้เขาหลุดออกจากห้วงความคิดและเอื้อมมือไปหยิบมันกดรับโดยที่ไม่ได้ดูเลยว่าใครโทรมา ถึงแม้เสียงโทรศัพท์จะดังแค่ไหนแต่ดูเหมือนเฮียวริกับคนอื่นจะไม่ได้สนใจเขาเลยด้วยซ้ำ แต่นั่นก็ดีสำหรับฮีชอลแล้วล่ะ...


                        " ฮัลโหลครับ? "

                        " สวัสดีค่ะ จำฉันได้มั้ย? ฉันอึนฮา..โก อึนฮา คนที่เจอกันในผับตอนนั้นไงค่ะ "


                        โก อึนฮา? อืม... อ๋อ! ลูกสาวเจ้าของบริษัทรถส่งนอกนั่นเอง


                        " ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะครับ แค่คุณพูดมาผมก็จำได้แล้วว่าคุณเป็นใคร "
                      

                       
    " คิกๆ หวังว่าอึนฮาคงจะไม่ได้รบกวนเวลาอะไรคุณหรอกนะ? "


                       
    " สำหรับสาวสวยอย่างคุณผมว่างเสมอแหละครับ "


                        " ถ้างั้นออกมาเจอกันหน่อยได้มั้ยค่ะ? พอดีคุณพ่อเขาได้รถจากรัสเซียมาใหม่เลยอยากให้อึนฮาลองขับดู "


                        " ดีจังเลยนะครับ แล้วคุณจะให้ผมไปเป็นเพื่อนหรอ? "


                        " ใช่ค่ะ คุณจะได้ฝึกขับชินกับรถด้วย คิกๆ "


                        " ชินกับรถ...หรอครับ? "


                        " ค่ะ! งั้นเดี๋ยวอีกครึ่งชั่วโมงเจอกันที่ xxx นะค่ะ "


                        " เอ่อ.. โอเคได้ครับ แล้วเจอกันครับคุณอึนฮา "


                       
    " จะไปไหน " เสียงของเฮียวริที่มาอย่างเงียบๆทำเอาฮีชอลสะดุ้งเล็กน้อย ดีนะที่เขากดวางสายไปเรียบร้อยก่อนที่เสียงของเฮียวริจะเข้าไป


                        " อึนฮา โกอึนฮาลูกสาวเจ้าของบริษัทรถนอกที่นายไปเจอตอนนั้นน่ะหรอ " น้ำเสียงของเฮียวริดูยังไงก็รู้ว่ากำลังไม่พอใจ


                        " ผมกำลังจะช่วยคุณต่างหากนะ อึนฮาเป็นถึงลูกเจ้าของบริษัทรถนอกและเธอก็มาชวนผมออกไปลองรถใหม่ คุณไม่คิดหรอว่าอีกไม่นานทางนั้นเขาก็ต้องเร่งเปิดตัวรถใหม่ มันจะไม่ดีหรอครับถ้าหากผมจะใช้เธอดันให้ผมเป็นพรีเซ็นเตอร์ "


                        " นายทำแบบนี้เท่ากับว่านายกำลังดูถูกฉันที่หางานให้นายไม่ได้นะ งานตอนนี้ก็กำลังจ่อคิวรอนายกันให้ควักยังจะดิ้นรนหางานอะไรอีก "


                        " โธ่.. คุณเฮียวริอย่าเพิ่งโมโหสิครับ ผมไม่เคยมีเจตนาที่จะดูถูกคุณเลยแม้แต่น้อยนะ เพราะว่าคุณทำงานหนักเพื่อผมมามากแล้วผมก็แค่อยากจะช่วยเท่านั้นเอง " เฮียวริมองฮีชอลที่กำลังทำหน้าตาน่าสงสารแถมยังจะเป็นน้ำเสียงที่ออดอ้อนอีกก็ดูเหมือนจะพูดอะไรไม่ออก ฮีชอลคงอยากจะช่วยเราจริงๆนั่นแหละ...


                        " นายต้องคว้างานนี้มาให้ได้ล่ะ ถ้ากลับมาไม่พร้อมกับข่าวดีฉันจะลงโทษนาย " ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ฮีชอลก็รู้ดีว่าเฮียวริก็แค่พูดติดตลกเท่านั้น เขาชิงหอมแก้มเฮียวริในช่วงที่ไม่มีใครสนใจแล้วเดินออกจากห้องไปยังจุดนัดพบทันที


    --------------------------------------------------------------------------


                        ภัตคารชื่อดังย่านเมียงดงภายนอกร้านแลดูจะวุ่นวาย พนักงานของร้านต่างก็พากันออกมาจัดระเบียบเมื่อผู้คนเหล่านั้นเป็นแฟนคลับของศิลปินข้างใน ทั้งลีทึก มีเร และซีวอน เมื่อมีข่าวหลุดรอดออกมาว่าพวกเขาจะออกมาทานอาหารเหล่าแฟนคลับต่างก็พากันไปที่นั่นซึ่งมันเป็นเรื่องปกติของคนข้างในไปแล้ว


                        พวกเขาเลือกห้องอาหารที่อยู่ในสุดเพื่อเป็นความส่วนตัวที่ที่จะไม่ถูกรบกวนได้ง่ายจากคนอื่น มีเรมีอารมณ์ฉุนเฉียวกับการมาของซีวอนอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้ว่าซีวอนจะรู้ตัวดีว่าเป็นเหมือนก้างขว้างคอระหว่างลีทึกกับมีเร แต่เขาก็ปฏิเสธที่จะมาด้วยแล้วคนที่ไม่ยอมก็เป็นลีทึกเองนั่นแหละ


                        " ทำไมเธอถึงทำหน้าอย่างนั้นอยู่ตลอดเวลาเลยล่ะ? อาหารไม่อร่อยหรือไง? " ลีทึกที่เพิ่งจะสังเกตุเห็นความฉุนเฉียวของมีเรก็หันมาถาม แต่ซีวอนที่นั่งทานอาหารอยู่ก็แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินหรือสนใจอะไรนัก แต่เมื่อมีเรเห็นลีทึกก็กลับฉีกยิ้มทันที


                        " อืม อาหารไม่อร่อย บรรยากาศในร้านก็ไม่ดีด้วย " คำพูดที่จงใจจิกกัดคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามคงจะมีซีวอนเพียงคนเดียวที่รู้สึกได้แต่กลับอีกคนที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรก็ไม่ติดใจอะไร


                        " ทนไปหน่อยหนะ เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว "


                        " เดี๋ยวนายไปไหนต่อหรอ? " มีเรถามพลางยกแก้วน้ำส้มขึ้นมาดื่ม


                        " จะต้องเข้าบริษัทแล้วก็ไปคุยเรื่องงานโฆษณาที่เพิ่งรับมาไม่นานมานี้ เพราะงั้นแล้วเธอก็กลับกับซีวอนแล้วกันนะ " ทั้งซีวอนและมีเรต่างมองลีทึกเป็นตาเดียว


                        เมื่อพวกเขาทานเสร็จเรียบร้อยลีทึกก็ขอตัวกลับทันที ดูเหมือนการที่ลีทึกจะให้ซีวอนมาด้วยก็แค่อยากจะให้มาเป็นคนขับรถไปส่งให้กับมีเรนั่นเอง และนั่นก็ยิ่งทำให้มีเรรู้สึกรำคาญซีวอนอย่างบอกไม่ถูก


                        " ทำไมนายไม่บอกไปล่ะว่านายไม่ว่างหรืออะไรก็ได้ จะตามมาด้วยทำไม? "


                        ในระหว่างทางที่เดินไปยังลานจอดรถด้านหลัง มีเรก็เอ่ยถามคนที่เดินตามหลังอย่างมีอารมณ์


                        " เธอก็เห็นไม่ใช่หรอว่าฉันก็บอกแล้วว่าฉันจะไม่มา... "


                        " ไม่ใช่ว่านายอยากจะขัดขวางฉันกับลีทึกหรอกหรอ? หรือนายต้องการจะแยกฉันกับเขาออก? " คราวนี้มีเรสะบัดหน้าหันหลังเผชิญหน้ากับซีวอนที่ทำหน้าเบื่อหน่ายกับคำพูดหาเรื่องของมีเร


                        " ฉันจะไปทำอย่างนั้นทำไมกันล่ะ เรื่องของเธอฉันเองก็ไม่ค่อยอยากจะยุ่งเท่าไหร่หรอกนะ " ซีวอนเองก็ตอบกลับอย่างเหลืออด เขากับมีเรไม่เคยเลยสักครั้งที่จะพูดด้วยกันดีๆ ถึงแม้จะเป็นเพื่อนกันมาสมัยวัยเด็กแต่นั่นก็เป็นเพราะครอบครัวของพวกเขารู้จักกันจึงเป็นผลพลอยที่จะต้องรู้จักมักจี๊กันไป ดูเหมือนมีเรก็ไม่ค่อยชอบขี้หน้าเขามาตั้งนานแล้วนี่ถ้าเขาบอกออกไปว่าชอบก็คงจะโดนเกลียดไปเลยสินะ


                        " ก็ดี เรื่องของนายเองฉันก็ไม่อยากจะยุ่งหรอกนะ!!! ตอนนี้เราต่างคนต่างอยู่!!! " พูดจบมีเรก็สะบัดหน้าหนีโดยที่เปลี่ยนเส้นทางที่ตอนแรกจะไปทางรถซีวอนก็ปรับเปลี่ยนเป็นว่าจะเดินออกข้างนอกและคิดว่าจะไปเรียกรถแท็กซี่กลับเอง


                        " จะไปไหนหนะ? เธอจะออกไปไม่ได้นะ " ซีวอนพูดเดินตามมีเรแต่ดูเหมือนมีเรจะไม่ฟังเขาเลยจึงเดินต่อไปไม่หยุด ซีวอนจึงคว้าเอาแขนเธอแล้วลากขึ้นรถตัวเองไปทันที ความจริงก็ไม่ได้อยากจะรุนแรงกับมีเรสักเท่าไหร่หรอก แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้ก็คงจะสยบมีเรไม่ได้


                        " ปล่อยฉันนะ!!! บอกให้ปล่อยไงเล่า!!!! " ถึงจะพยายามดิ้มแรงแค่ไหนแต่ก็สู้แรรงมหาศาลของผู้ชายล้ำหุ่นนายแบบอย่างซีวอนไม่ได้หรอก เมื่อถูกพามาถึงที่รถมีเรจึงยอมอย่างโดยดีเพราะรู้ว่าถึงสู้ไปยังไงก็คงไม่เกิดประโยชน์อะไร


                        " อยากจะกลายเป็นดาราศพที่ถูกแฟนคลับรุมทึ้งหรือไง? "


                        " ฉันจะเป็นอะไรมันก็เรื่องของฉัน!!! "


                        " เธอนี่อารมณ์รุนแรงจังเลยนะ  ระวังเถอะลีทึกจะทนไม่ได้ขึ้นมาสักวัน อ๋อ ฉันว่าเธอคงไม่ทำอะไรแบบนั้นต่อหน้าลีทึกหรอก มันจะทำให้เธอเสียโอกาสในการไต่เต้าขึ้นไปสูงๆสินะ " มีเรหันควับมองซีวอนที่กำลังขับรถออกจากลานจอดรถก็นึกอยากจะหาปืนมาสักกระบอกยิงทิ้งเสียจริง แต่ไหนแต่ไรมาแล้วซีวอนก็พูดจากวนประสาทแบบนี้กับเธอทุกครั้ง บางครั้งก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกันว่ากับคนอื่นซีวอนไม่เห็นจะเป็นอย่างนี้แล้วทำไมกับคนที่รู้จักกันมานานถึงได้กวนประสาทกวนโอ้ยขนาดนี้ก็ไม่รู้



     --------------------------------------------------------------------------



                        เมื่อดาราชื่อดังอย่าง ปาร์ค จองซู ได้ให้สัมภาษณ์เสร็จหลังจากที่เขาแยกกับพวกมีเรมาได้สองชั่วโมงกว่าแล้ว วันนี้ก็เหมือนกับทุกๆวันที่เขาจะต้องทำงานและงาน มันคงจะไม่น่าเบื่อถ้าหากว่าคำถามที่ถูกยิงมาที่เขาจะเป็นคำถามเดิมๆซ้ำๆ ถึงแม้ว่าจะเจอบ่อยกับเหตุการณ์อย่างนี้แต่เขาก็ยังรู้สึกเบื่อหน่ายกับมันอยู่ดี   ภายในห้องพักรับรองของเขา ในขณะที่เขากำลังนั่งเซ็งกับการที่ไม่มีอะไรทำ ตอนนี้ก็เหลือแค่รอเวลาให้มินซองผู้จัดการส่วนตัวของเขามาเรียกตัวไปสะสางกับงานที่ยังคงเหลืออยู่อีกสองสามที่ เมื่อสายตาประจักษ์กับกระเป๋าส่วนตัวของเขา ความนึกสนุกอยากจะทำแก้เซ็งก็ผุดขึ้น นึกขึ้นได้ทันทีว่ายังมีของเล่นอีกชิ้นที่เขายังไม่แตะ กระเป๋าสีดำหรูถูกคว้าอย่างง่ายดายด้วยมือของชายหนุ่มควักเอาแผ่นกระดาษนาด A4 ที่บนสุดของกระดาษเขียนบอกไว้อย่างดี ใบสมัครออดิชั่น รอยยิ้มผุดขึ้นเมื่อเขาหยิบโทรศัพท์และกดเบอร์โทรติดต่อที่เจ้าของใบสมัตรแผ่นนี้เป็นคนกรอกเอาไว้


                        หญิงสาวที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่กับบ้านของตนอย่างสบายใจจู่ๆเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เธอคว้าหยิบเจ้าเครื่องที่กำลังทั้งส่งเสียงร้องและสั่นต้องการการตอบรับจากเธอ เมื่อมองดูเบอร์ที่ไม่คุ้นเคยคิ้วเรียวก็ขมวดเข้าหากันแต่ถึงอย่างนั้นก็กดรับสายไปแล้ว


                        " สวัสดีค่ะ? "


                        " คุณใช่ ลี โบซอก รึเปล่า? "


                        " หืม...ค่ะ แต่ว่าคุณเป็นใครค่ะ? "


                        " ถ้าอยากรู้ว่าผมเป็นใครก็มาหาผมที่บริษัทค่ายเพลง PJB ตอนสิบโมงก็แล้วกัน ผมจะให้เวลาคุณเลทได้ไม่เกิน 15 นาที... "


                        " เดี๋ยวก่อนสิ คุณยังไม่ได้ถามความคิดเห็นของฉันเลยนะว่าฉันจะอยากเจอคุณรึเปล่า? "


                        " คุณต้องอยากเจอผมสิ...ผมเป็นตัวแทนของบริษัทกราบเรียนเชิญคุณเลยนะ หึๆ "     เว่อร์จริงๆตานี่ - -"  โบซอกคิดในใจ...


                        " ฉันไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับที่นั่น ฉันจะแน่ใจได้ยังไงว่าคุณจะไม่ใช่พวกต้มตุ๋นหลอกลวง? "


                        " นี่ ถ้าหากว่าคุณจะกลัวว่าผมจะหลอกล่อมาทำมิดีมิร้ายหรือจับคุณไปขายก็เลิกคิดได้เลยนะ "


                        " เดี๋ยวนี้สังคมไม่น่าไว้ใจหรอกน่ะ "


                        " เฮ้อ นี่ ถ้าหากว่าผมเป็นพวกหลอกลวงจริง ผมคงไม่เลือกมาหลอกลวงคุณหรอกครับ "


                        " ทำไม - -? "


                        " ขอโทษนะครับ... แต่... นี่ป้าก็อายุมากแล้วจะยังกลัวโดนหลอกอีกหรอ นี่ถ้าอายุสัก 18 - 19 ยัว่าโอเคหน่อยแต่นี่.... "


                        " ถ้าคิดจะโทรมากวนประสาทกันก็แค่นี้นะ "


                        " ถ้าคุณวางผมจะตามไปถึงบ้านนะ "



                        คนที่อยู่ปลายสายถึงกับชะงักรู้สึกไม่ไว้ใจหมอนี่เลย...



                        " อย่าคิดว่าผมไม่รู้นะว่าบ้านคุณอยู่ที่ไหน ใบสมัครออดิชั่นของคุณอยู่มือผมตอนนี้ แค่ผมคิดจะไปหาคุณเมื่อไหร่ผมก็ไปได้ทุกเมื่อ "


                        " อ่อ! ที่แท้ใบสมัครก็อยู่ที่คุณนั่นเอง! "


                        " อืมใช่ เพราะงั้นก็มาหาผมพรุ่งนี้ตอนสิบโมงแล้วผมจะคืนใบสมัครให้กับคุณ "


                        " เหอะ ใบสมัครนั่นน่ะคุณทิ้งไปได้เลย ฉันจะไปสมัครที่อื่นแทน "


                        " อย่ามาพูดเล่นหน่อยเลยหน่า (โบซอก - ฉันพูดเล่นเมื่อไหร่กันย่ะ - -"") เอาเถอะ ถึงยังไงบริษัทผมก็ดีกว่าบริษัทอื่นอยู่แล้ว.. อีกอย่างอายุคุณก็มากแล้วจะไปเดินหาบริษัทที่เปิดรับสมัครให้เมื่อยทำไมกันล่ะ? โอกาสยื่นมาให้ตรงหน้าแล้วยังจะปฎิเสธอีกหรอไง? "


                        " ........................ "


                        " ก็ได้ ฉันจะไปหาคุณพรุ่งนี้ตอนสิบโมง "

       

                        ลีทึกยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นว่าแฟนของตัวเองบรรลุเสร็จเรียบร้อย



                        " ห้ามเลท.. (ติ๊ด..ติ๊ด...ติ๊ด - โบซอกวางสายไปแล้ว) เฮ้ย!!! ยังพูดไม่จบเลยน่ะ!!!!!!! "


                        อีกด้านโบซอกที่เพิ่งจะจบบทสนทนาไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่กับหนุ่มนิรนามก็รู้สึกกึ่งสงสัยกึ่งโมโหขึ้นมาตะหงิดๆ อีกใจก็คิดว่าพรุ่งนี้จะไม่ไปแล้วให้คนนั้นรอเก้อดีมั้ย? แต่ถ้าไม่ไปหมอนั่นมันก็จะตามมาถึงบ้าน - -"""" แล้วหมอนั่นเป็นใครกันนะ.....



    --------------------------------------------------------------------------



                        ณ    xxx   เมื่อฮีชอลมาถึงจุดนัดพบเขาก็รีบมองหาใครอีกคนทันที แล้วก็ต้องสะดุดกับรถคันงามเปิดประทุนหรูและเมื่อเห็นว่าใครนั่งอยู่ภายในก็ฉีกยิ้มกว้างเสียจนตาหยี่ราวกับเด็กๆที่ได้ของเล่น กิริยาท่าทางของฮีชอลทำเอาคนที่แอบดูถึงกับแสดงสีหน้าออกมารังเกียจ ดูยังไงก็รู้ว่าเจ้านี่ก็แค่แสร้งทำออกมา กล้องสีดำถูกหยิบยกขึ้นมาอยู่ในระดับที่สามารถจะกดถ่ายภาพได้ เสียงชัตเตอร์ดังรวนเมื่อเธอพยายามที่จะจับภาพคนตรงหน้าที่ก้มลงหอมแก้มหญิงสาวอย่างไม่อายฟ้าอายดิน


                        อึนฮาลูกสาวเจ้าของบริษัทรถนอกกระเถิบไปนั่งที่ข้างคนขับก่อนที่จะปล่อยให้ฮีชอลเข้ามานั่งแทนที่ เธอคงหลงเชื่อกับรอยยิ้มจอมปลอมของฮีชอลและระเริงไปกับการกระทำที่แส้แสร้งขึ้นมาของฮีชอล คงจะมีแต่ฮีเจงคนเดียวล่ะมั้งที่อ่านออกทุกการกระทำของคิมฮีชอลคนนี้ รถสีดำกำลังขับเคลื่อนแล่นออกไป ช่วงนึงของความคิดเธอกำลังตัดสินใจว่าควรจะตามไปหรือไม่ แต่เมื่อนึกถึงเรื่องที่ฮีชอลได้ทำกับคยูฮยอนเพื่อนรักของตน เธอก็รีบโบกเรียกแท็กซี่และในที่สุดเธอก็ตามฮีชอลไปจนได้....


                        เธอบอกกับคนขับรถให้ตามรถข้างหน้าไป ทั่งยังบอกวิธีการตามแบบไม่ให้เป็นที่สงสัยกับคนขับรถอย่างชำนาญ เสียงชัตเตอร์ดังเป็นระยะๆ เพราะดูเหมือนอึนฮาจะคอยเกาะแกะฮีชอลอยู่ตลอดเวลา และนั่นก็ทำให้เธอสะใจอย่างบอกไม่ถูก ถ้าหากว่ารูปพวกนี้ถูกส่งไปให้กับบริษัทอื่นๆอนาคตนักแสดงดาวรุ่งที่นายอยากจะได้เป็นดับอนาถแน่


                        " สามีเจ๊มีเมียน้อยหรอ? " แล้วจู่ๆคำถามกวนประสาท(สำหรับฮีเจง)ที่เด็กขับแท็กซี่ก็ถามขึ้นมา เป็นใครก็ต้องสงสัยเป็นธรรมดาก็จู่ๆเล่นให้ตามไปอย่างนี้แถมยังมีกล้องที่คอยจับภาพเป็นระยะๆอีก คำถามนั้นแทบอยากจะทำให้ฮีเจงยกกล้องทุบหัวคนขับเสียจริง


                        " มีหน้าที่ขับไปอย่าให้จับได้ก็พอ - -"" " แต่เธอก็เลือกที่จะใช้คำพูดสั้นๆง่ายๆที่ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดออกไปแทน


                        อีกด้านภายในรถเปิดประทุนสีดำที่แล่นต้านลมทำให้คนที่นั่งอยู่ภายในรถรู้สึกเพลิดเพลินกับบรรยากาศโดยรอบ คงจะไม่มีใครที่ดูจะมีความสุขมาไปกว่าอึนฮาตอนนี้อย่างแน่นอน


                        " คุณเรียกผมให้มาลองรถเป็นเพื่อนคุณนี่เอง " ฮีชอลพูดด้วยน้ำเสียงสดใส


                        " ความจริงอึนฮาอยากให้ฮีชอลได้ลองรถที่ฮีชอลจะได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ต่างหาก คิกๆ เซอร์ไพรส์ดีมั้ยล่ะ?? " อึนฮาหัวเราะคิกคักกับอากับกิริยาการตกใจที่ฮีชอลทำ


                        " จริงหรอครับ! " อึนฮาพยักหน้ารับยิ้มกว้าง


                        " อึนฮาบอกกับคุณพ่อว่าคราวนี้จะต้องให้นักแสดงคนใหม่มาเป็นพรีเซ็นเตอร์น่ะ คิกๆ ฮีชอลรู้มั้ยอึนฮายังไม่ได้พูดชื่อฮีชอลเลย แต่คุณพ่อก็บอกว่า ถ้างั้นเลือกคิมฮีชอลสิ เด็กหนุ่มนี่กำลังดัง " ทั้งฮีชอลและอึนฮาต่างก็หัวเราะออกมาพร้อมกันกับการเลียนเสียงของอึนฮา และเมื่อยังไม่ทันทีอีกฝ่ายจะตั้งตัวฮีชอลก็ยื่นหน้าเข้าไปประกบปากกับหญิงสาว ฮีเจงที่เห็นไม่รอช้ารีบกดชัตเตอร์ทันที.....


                        " อู๊วว แฟนเจ๊สุดยอดเลยอ่ะ ขนาดขับรถอยู่ยังดันจูบได้อีก " เด็กขับรถเอ่ยเซวอีกครั้ง แต่ฮีเจงกลับนั่งนิ่งเงียบทำเป็นหูทวนลม แล้วหันมาให้ความสนใจกับรถตรงหน้า ตอนนี้ทั้งฮีชอลและอึนฮาก็ดูจะมีความสุขมากขึ้นกว่าเดิม ช็อตเด็ดเมื่อกี้มันก็น่าเพียงพอแล้วอีกอย่างเขาไม่ควรที่จะหายออกจากบ้านเกือบวันอย่างนี้เดี๋ยวคยูฮยอนจะสงสัยเอา ดังนั้นเธอจึงบอกกับเด็กขับรถให้ไปส่งเธอที่บ้านแทน ก่อนที่จะทิ้งฮีชอลและอึนฮาไว้เบื้องหลัง


    จะเป็นยังไงถ้าหากนายตื่นขึ้นมาเจอกับภาพพฤติกรรมมั่วไม่เลือกของตัวเองก่อนเปิดตัว....หึๆ



    --------------------------------------------------------------------------



                        ทางด้านครอบครัวดังเศรษฐีร้อยล้าน ภายในบ้านหลังใหญ่หรือจพูดให้ถูกว่าเป็นคฤหาสน์ย่อมๆของตระกูล "ลี" บรรยากาศดูร้อนรนเมื่อผู้เป็นใหญ่ที่สุดในบ้านกำลังคิดหนักเมื่อรู้ข่าวว่าลูกสาวคนเดียวหนีออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อคืนหลังจากที่มีปากเสียงกัน ตอนนี้ก็กำลังวุ่นวายอยู่กับการตามหาลูกชายอีกคนที่หายออกจากบ้านไป 2 เดือนเต็มแล้ว ชายฉกรรจ์ชุดดำสองคนที่ยืนคอยคุ้มกันภัยอยู่ภายในห้องจับตามองเจ้านายของตนผ่านแว่นตาดำ เตรียมตัวพร้อมเสมอถ้าหากว่าเจ้านายสั่งอะไรมา


                        " เรื่องที่ฉันให้พวกแกไปตามหาฮยอคแจ ไปถึงไหนแล้ว! " ชายผู้มีอายุที่ตอนนี้ดูเหมือนจะมีผมขาวมากกว่าผมดำตะคอกถามลูกน้องอย่างใส่อารมณ์ ใครมันจะทนไหวกันมีลูกอยู่สองคนต่างก็พากันหนีไปทีละคนแบบนี้จะไม่ให้ผู้เป็นพ่อร้อนใจได้ยังไงกัน


                        " พวกผมกำลังสืบหาตัวคุณหนูโดยการสะกดรอยตามพวกพ้องเพื่อนของคุณหนูที่โรงเรียนครับ " ลูกน้องร่างใหญ่ตอบอย่างน้อบโน้ม


                        " แล้วมีอะไรคืบหน้ามั้ย?! "


                        " คือ....ตอนนี้ดูเหมือนว่าคุณซีวอนเพื่อนสนิทคุณหนูจะไม่ได้ไปไหนเลย นอกจากโรงเรียน สตูดิโอและก็กลับบ้าน.... "


                        " แค่พูดออกมาว่ายังไม่ได้เบาะแสแค่นั้นก็พอสิว่ะ! จะพูดอะไรให้มันยืดยาวน่ารำคาญ! " ผู้เป็นเจ้านายกระแทกเสียง กำปั้นหนาทุบกับโต๊ะอย่างไม่พอใจเมื่อได้ยินคำตอบ


                        " อีกไม่นานพวกเราจะต้องพาคุณหนูทั้งสองกลับมาให้ได้ครับ! "


                        " พวกแกพูดแบบนี้มาเป็นสิบๆครั้งแล้วไม่เคยจะได้เรื่อง! ถ้าพวกแกยังหาตัวลูกๆฉันไม่ได้ล่ะก็... อย่าหาว่าฉันไม่เตือน! โดนถีบส่งแน่!! "


                        " ครับ " ลูกน้องทั้งสองคนตอบรับพร้อมกันโดยที่ไม่กล้าสบตากับผู้เป็นนายกลัวว่าจะโดนอะไรอีก เมื่อได้ยินคำสั่งให้ออกไปทั้งคู่ก้มหัวแสดงความเคารพก่อนที่จะออกนอกห้องตามคำสั่งอย่างว่าง่าย ปล่อยให้เจ้านายนั่งอมทุกข์คิดแก้ปัญหาคนเดียว



                        หญิงสาวที่แต่งตัวดีมีฐานะยืนแบกกระเป๋าที่ข้างในมีเสื้อผ้าหลายชุด กำลังยืนทำหน้างงไม่อยากเชื่อว่าผู้เป็นพี่จะพักอยู่ในที่แบบนี้ได้ ห้องเช่าที่ถูกกั้นแบ่งเป็นหลายๆห้องทำให้จากห้องที่เล็กอยู่แล้วกลับเล็กลงไปอีก ทางที่จะเดินก็ยังยากลำบาก... นี่เพราะความทิฐิของพ่อทำให้พี่ต้องมาอยู่ในที่แบบนี้เลยหรอ ในขณะที่กำลังยืนคิดนึกสงสารผู้เป็นพี่ชายแท้ๆก็ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ฮยอคแจเปิดประตูมาพอดี


                        " เฮ้ย! " ทั้งพี่ทั้งน้องต่างตะโกนออกมาพร้อมกัน ฮยอคแจตกใจที่เห็นน้องสาวของตัวเอง ฮยอนจูเองก็ตกใจที่เห็นสภาพผอมโทรมของพี่ชายเช่นกัน


                        " ทำไมถึงมาที่นี่ได้! / ทำไมผอมอย่างนี้ล่ะ! " สมกับพี่น้องกันจริงๆ พวกเขาเอ่ยปากถามพร้อมกันทำให้ฟังไม่ได้ศัพท์เท่าไหร่นัก


                        " หยุด มาที่นี่ได้ยังไง!? " ฮยอคแจยกมือขึ้นเล็กน้อยบอกให้รู้ว่าเขาขอพูดก่อน


                        " ฉันไปถามพี่ซีวอนมา แล้วพี่ซีวอนก็ให้ที่อยู่ของพี่กับฉัน.. นี่ไง " ฮยอนจูยื่นกระดาษที่ซีวอนเขียนที่อยู่ให้กับเธอเพื่อให้ฮยอคแจดู เมื่อเขาได้เห็นและรู้ได้ทันทีว่าเป็นลายมือของซีวอนจริงเขาแทบอยากจะไปหาถามให้รู้เรื่องซะเดี๋ยวนี้ ไหนว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครไงไอ้หน้าม้า!


                        " พี่อย่าไปโกรธพี่ซีวอนเลยนะ ตอนนี้ฉันออกจากบ้านแล้ว.... ตัดขาดความสัมพันธ์กับพ่อเหมือนคืนดังฉึบเลย! "


                        " ห๊าาาาา!!!!!!!!! "


                       
    " ไม่ต้องหาอ่ะ ฮยอนจูน้องสาวแสนจะน่ารักของพี่ยืนอยู่ตรงนี้แล้ว! " ไม่ทันที่ฮยอคแจจะพูดอะไร เขาก็ไม่สามารถพูดได้เมื่อเจอการกอดแบบจู่โจมของน้องสาวตน และเมื่อได้สติจากการช็อคเมื่อกี้สายตาก็เจอกับอีซึลที่เพิ่งกลับมาจากซื้อของพอดี


                        " ....O__O "


                        อีซึลมองฮยอคแจกอดกับหญิงสาวก็รู้สึกแปลกๆขึ้นมา แต่ก็ยังเก็บอารมณ์ไว้ได้ เธอเดินเบียดผ่านทั้งสองคนไปด้านในเพื่อที่จะเข้าห้องของเธอเอง


                        ฮยอคแจที่ทำตัวไม่ถูกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ได้แต่นิ่งอยู่อย่างนั้น จนมาได้สติอีกทีเมื่อฮยอนจูคลายอ้อมกอดออกจากเขา แล้วก็พลุนพลันเข้าไปในห้องของเขา


                        " จะทำอะไร!? " เขาถามทันทีที่ฮยอนจูเปิดตู้เสื้อผ้าของเขา... ความจริงมันไม่เหมาะสมจะเรียกว่าเป็นตู้เสื้อผ้าด้วยซ้ำเพราะสิ่งนั้นไม่มีไม้คุมเหมือนกับตู้เสื้อผ้าปกติทั่วไป มีเพียงแต่ถุงพลาสติกที่ห่อหุ้มพวกเสื้อผ้าของเขาเอาไว้เท่านั้น


                        " ย้ายที่! "


                        " ย้ายไปไหน! "


                        " ย้ายไปที่ที่มันดีกว่าที่นี่! "


                        " ไม่! หยุดเลยนะ แค่เธอหนีออกมาจากบ้านอย่างนี้มันก็ไม่ถูกแล้วนะ " ฮยอคแจคว้าหมับที่แขนของน้องสาวแล้วลากออกมาให้พ้นรัศมีที่เธอจะสามารถกลับไปเก็บของได้อีก ให้ตายยังไงเขาก็ไม่ออกจากที่นี่... ถ้าหากเขาไปแล้วใครจะดูอีซึลล่ะ


                        " พี่เองก็หนีมาเหมือนกันนั่นแหละ แล้วทำไมไม่ย้ายหาที่ให้มันดีกว่านี้เล่า! " ฮยอนจูถามใส่อารมณ์


                        " พี่มีเหตุผลของพี่.... "


                        " เหตุผลอะไร? "


                        " ก็... พี่ปล่อยให้อีซึลอยู่คนเดียวไม่ได้ "


                        " ห๊ะ? ใครคืออีซึล? แล้วทำไมจะปล่อยให้อยู่คนเดียวไม่ได้? เขาพิการหรือไงที่พี่จะต้องไปคอยดูแลเขาหนะ? "


                        " ไม่ใช่สักหน่อย ก็บอกแล้วว่าพี่มีเหตุผลของพี่! " คราวนี้ฮยอคแจพูดกระแทกใส่อารมณ์อย่างเหลืออดบ้าง

                        " ก็ได้!!! ไม่ย้ายก็ไม่ย้าย แต่ต้องให้ฉันอยู่ที่นี่กับพี่ด้วย! "



    --------------------------------------------------------------------------



    เรียวกลับมาแล้วทุกคน
    ขอโทษด้วยที่หายไปนมนาน พอดีเรียวมีธุระต้องทำนิดหน่อย
    ส่วนเรื่องที่ตอนแรกคิดว่าจะเลิกแต่งเรียวต้องขอโทษด้วยที่พูดแบบนั้นออกไป
    ตอนนั้นเรียวก็แค่คิดว่ากำลังใจจากคนที่เข้ามาอ่านมันน้อยเกินไป
    เรียวเชื่อว่าไรท์เตอร์ทุกคนต้องการกำลังและคอมเม้นท์ยาวๆจากคนอ่าน
    เพื่อเป็นกำลังใจให้แต่งออกมาให้ดียิ่งขึ้น

    เรียวพยายามจะใ้ห้ตัวละครทุกตัวออกมากันให้ครบแล้ว
    ตอนนี้ฮยอนจูได้ย้ายออกมาอยู่กับพี่ชายสุดหล่อฮยอคแจแล้ว >O<
    ใครกันที่ชื่ออีซึลมาทำให้พี่ชายของฉันต้องมาตกระกำลำบากแบบนี้!!!!!
    อารมณ์ของฮยอนจูเป็นแบบนี้แหละ! แต่อีกไม่นาน..อีกไม่นานจะได้รู้แล้วนะจ๊ะฮยอนจู!!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×