ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    .Idea Cage.

    ลำดับตอนที่ #9 : Naughty prince

    • อัปเดตล่าสุด 24 พ.ค. 62


           
    Z Y C L O N
       

    Application Form

    ส่วนที่ 1

    สวัสดีจ้า นี่พี่พลอยขวัญเอง ตัวเองชื่อไร: เด็กอ้วนคนเดิมเพิ่มเติมคือสวยขึ้---แค่ก มาส่งอีกคนค่ะ!

    อายุจ้า: 17ค่ะ เหมือนเดิมเลยยย =w=

    เวิ่นเว้อกับพล็อตนิดนึงค่ะ ทำไมถึงสนใจเรื่องนี้นะ: เหมือนเดิมค่ะ ชอบแนวแฟนตาซีบวกกับชอบโทนเรื่องที่ติดเเนวดาร์คนิดๆย้อนยุคไปด้วย มันมีน้อยอ่ะค่ะ น้องชอบ ชอบอะไรที่แบบทำร้ายตัวละคร(เอ๊ะ?)555555

    **ตัวละครต้องเป็นตัวละครที่คิดขึ้นใหม่เท่านั้น หลังจากกรอกใบสมัครและส่งเรียบร้อยแล้ว ตัวละครจะตกเป็นของพี่พลอยขวัญโดยสมบูรณ์ ไม่สามารถปั้นและนำไปส่งเรื่องอื่นได้อีก ไม่ว่าจะได้บทตามที่สมัครหรือไม่ และพี่พลอยขวัญมีสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลของตัวละครได้ทุกกรณี ท่านยินดียกตัวละครนี้ให้พลอยขวัญหรือไม่: ยินดีค่ะ กระทำชำเรา(?)ได้เต็มที่เลยนะคะ เด็กอ้วนบ่ซีเรียสส

     

    ส่วนที่ 2


    (ขออภัยนะคะ ไม่รู้เครดิตภาพจริงๆ หามาจากpinterestค่ะ ;w;)

    ลิงค์ภาพ :  จิ้ม

    สำรอง : 1 | 2 3 4 | 5


    1.      ชื่อ Albus ¤ อัลบัส 

                   * อัลบัสแปลว่าความสดใส

    2.     สกุล: Vildesaire ¤ วีลเดอแซร์

    3.     สีของดวงตา: ดวงตาสีทอง

    4.     เมือง: ดินแดนลักซัสซิเรียน

    5.     อาชีพ: เจ้าชายคนเล็กแห่งตระกูลวีลเดอแซร์

    6.     เผ่าพันธุ์: มนุษย์

    7.     อายุ: 18ปี

    8.     ประวัติส่วนตัว: 

             แน่นอนว่าอัลบัสถือกำเนิดขึ้นมาท่ามกลางกองเงินกองทองที่มากมายเหลือล้นเนื่องจากเป็นตระกูลกษัตริย์แห่งดินแดนลักซัสซิเรียน ผู้ซึ่งพระราชาเป็นที่รู้จักกันดีในนามหนึ่งในราชาผู้มีฐานันดรมั่งคั่งร่ำรวยและมีเกียรติศักดิ์น่านับถืออย่างยิ่ง ท่านทรงกล้าหาญ แข็งแกร่ง น่าเกรงขามและน่าเคารพนับถืออย่างยิ่งไม่แพ้วงศ์ตระกูลกษัตริย์อื่นๆแม้เพียงเศษเสี้ยงเดียว

             และแน่นอน...ในเมื่อองค์ราชาทรงมีทั้งเกียรติศักดิ์ เงินทองและอำนาจซะขนาดนั้นย่อมต้องมีผู้ไม่หวังดีอยู่มากมายทั้งคนในและคนนอกราชวัง การก่อกบฏแบบลับๆเพื่อช่วงชิงบัลลังก์เกิดขึ้นบ่อยเสียจนนับนิ้วไม่ได้ ซึ่งนั่นก็ทำให้อัลบัสค่อนข้างเบื่อหน่ายกับเรื่องในวังเต็มทน---บ่อยครั้งที่เขามักจะหนีออกไปเที่ยวเล่น หรือไม่ก็แฝงตัวปะปนไปกับสามัญชนเพื่อหาอะไรสนุกๆและน่าตื่นเต้นทำ

             อัลบัสมีพี่ชายอยู่หนึ่งคน โอเบลิกซ์ ¤ Obelix (แปลว่าเสาหลักที่แข็งแรง) เป็นชายหนุ่มรูปงามผู้มากไปด้วยความรู้ ความสามารถทางวิชาการ และมารยาทก็งดงามหมดจดเหมาะสมกับผู้ครองบัลลังก์อย่างที่สุด หาใช่อัลบัสที่มีนิสัยต่างกันอย่างสิ้นเชิง...คนน้องนั้นรักสนุกชอบความตื่นเต้นราวกับนักผจญภัย ส่วนคนพี่ก็เคร่งครัดในกฏระเบียบ เอาจริงเอาจังและขึ้นตรงต่อหน้าที่เสมอ---ซึ่งอัลบัสก็มองว่ามันเบื่อ! และอีกไม่นานโอเบลิกซ์ได้กลายเป็นตาแก่หัวล้านนั่งทำงานอยู่กับที่ชัวป้าบ ซึ่งเขาก็ขอปฏิเสธที่จะเป็นเช่นนั้น

             ในเมื่อรักการผจญภัยเเละชอบอะไรที่สนุกสนานเขาจึงมักจะออกเที่ยวบ่อยๆทั้งเเต่เด็กจนกระทั่งเติบใหญ่ แม้จะมีการถูกบังคับให้ฝึกฝนการต่อสู้บ้าง(เพราะเขาก็ยังเป็นเจ้าชายที่อาจจะโดนผู้ไม่หวังดีลอบฆ่าเอาได้นี่นะ)แต่เขาก็ยังคิดว่านั่นก็เป็นหนึ่งในสีสันในชีวิต (ที่ดีกว่าการนั่งตายซากในวัง ได้ออกมาฝึกสิดี!)

             แน่นอนว่าองค์ราชาทรงไม่พอพระทัยเท่าไหร่ที่อัลบัสเป็นเอาซะแบบนี้ เเต่ตักเตือนเป็นร้อยเป็นพันครั้งเจ้าตัวก็ยังซุกซนไม่เลิก ทว่าท่านก็อดยอมรับไม่ได้ว่าอัลบัสสามารถปกป้องตัวเองจากภยันอันตรายได้จริงๆแม้ว่าท่าทีจะดูเหมือนสบประมาทก็เถอะ เเต่เจ้าตัวก็ฉลาด มีไหวพริบ ขาดเเต่เพียงความรับผิดชอบต่อหน้าที่เท่านั้น

             ดังนั้นแล้วท่านจึงทำได้เพียงตักเตือนเเละคอยอบรมสั่งสอนอัลบัสเป็นครั้งเป็นคราว และค่อยๆลดหย่อนการห้ามไม่ให้เขาออกเที่ยวทีละน้อย...

              เพราะถึงจะห้ามยังไงอัลบัสก็หาทางหนีออกไปเที่ยวได้อยู่ดี....

    9.     ลักษณะนิสัย: 

              รอยยิ้มที่กว้างที่สดใสงดงามปานดอกทานตะวันมักมีประดับใบหน้าเขาเอาไว้เเทบจะตลอดเวลา อัลบัสเป็นชายหนุ่มที่สดใสร่าเริง เป็นมิตรและเป็นกันเองกับทุกๆคนทำให้เข้าหาได้ง่ายแม้ว่าจะเป็นเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ คุยด้วยแล้วสนุกและอยู่ด้วยเเล้วสบายใจจนถึงขั้นมีเรื่องทุกข์ใจอะไรก็ให้มาอยู่กับเขาสักพักคุณก็จะหลุดหัวเราะออกมาได้เลยทีเดยว เพราะนอกจากเขาจะไม่ใช่คนหยิ่งยโสอะไรแล้วยังพ่วงมาด้วยความอบอุ่นใจดีและปลอบใจผู้คนได้เสมอ เขาเป็นคนขี้เล่นและทะเล้นแทบตลอดเวลาทำให้ใครต่อใครๆต่างก็มองว่าเขาเป็นเจ้าชายที่น่ารัก น่าคบหา และช่างแปลกประหลาดเสียนี่กระไร---เเต่ก็แปลกในทางที่ดีนั่นแหละ ...ก็เจ้าชายที่ไหนจะมาเสวนากับสามัญชนทุกคนอย่างสนิทชิดเชื้อราวกับคนชนชั้นเดียวกันแบบนี้บ้างล่ะ!

              เพราะใบหน้าของเขามักประดับไปด้วยรอยยิ้มเป็นมิตรพร้อมทั้งแผ่ออร่าด้านบวกออกมาได้ตลอดเวลา เขาเลยเป็นบุคคลที่ดูแล้วไม่อันตรายสักเท่าไหร่ ไม่สิ ดูไม่มีพิษมีภัยเลยด้วยซ้ำ และนั่นก็เป็นเรื่องจริงเพราะอัลบัสเป็นมิตรกับทุกคนเสมอ เขามักจะเป็นตัวสร้างสีสันให้ผู้อื่นดังเช่นการปล่อยมุกที่บ้างก็แป้กบ้างก็ฮา ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่สนใจว่าใครจะขำหรือเครียดแทนบ้าง… เพราะเขามีความสุขที่จะทำแบบนี้ มีความสุขที่ทำให้ผู้คนคลายเครียดหรือหัวเราะได้ มีความสุขที่ตัวเองได้ยิ้มให้กับคนอื่น…แค่นั้นแหละ และแน่นอนว่าเขาจริงใจนะ เขาไม่ได้เสเเสร้งที่ทำแบบนี้

               อัลบัสนั้นรักสนุกและชื่นชอบเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากเป็นพิเศษ เขาหลงรักในการผจญภัยหรือเรื่องราวน่าตื่นเต้นต่างๆมากมาย บวกกับความที่เขาอายุยังไม่เยอะเท่าไหร่ด้วยเเล้วความทะเยอทะยานที่จะหาสิ่งใหม่ๆที่น่าตื่นตาตื่นใจเข้าตัวเลยมีมากเหลือล้นจนบางทีเขาก็ลืมไปว่าตัวเองก็เป็นเจ้าชายที่เป็นหนึ่งในตระกูลผู้สูงศักดิ์นะ... แต่นั่นก็กลายเป็นเรื่องปกติในสายตาของผู้คนไปเเล้ว การที่จะเห็นอัลบัสวิ่งพรวดราดเข้ามาในตลาดแล้วซื้อนู่นซื้อนี่กิน เดินตระเวนไปกับเพื่อนๆสามัญชนของตัวเองหรือบางครั้งเขาก็รวมตัวกันเป็นกลุ่มๆออกเที่ยวเเสวงหาอะไรทำกันไปวันๆ บางครั้งก็ล่าสัตว์ บางครั้งก็เเข่งกันว่ายน้ำโดยกระโดดลงจากผา (เพราะมันท้าทาย!) อัลบัสไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อน และไม่คิดจะทำด้วย ดังนั้นแล้วสิ่งที่เขาทำถ้าไม่ใช่เพราะความสนุกสนานเล็กๆที่ไม่ได้เดือดร้อนใครก็คงเพื่อผลประโชยน์ไม่มากก็น้อยกับผู้คนนั่นแหละ (อย่างการวิ่งล่าโจรเขาก็เคยทำมาแล้วนะ...)

              อัลบัสนั้นมีเพื่อนฝูงมากมายเนื่องจากเขาเป็นคนเฟรนลี่เข้าหาง่าย คุยง่ายและไม่มีการทรนงตัวใดๆทั้งสิ้น แต่กระนั่นเเล้วก็ใช่ว่าเขาจะถูกหลอกลวงได้ง่ายๆเช่นกัน เห็นแบบนี้เเต่เขาก็มีไหวพริบพอจะแยกแยะออกว่าใครมาดีมาร้ายหรือใครหวังผลประโยชน์ ใครมาเเบบจริงใจ ทำให้ช่วงชีวิตของเขาโอบล้อมไปด้วยเพื่อนๆหลายชนชั้น 

              คำพูดของอัลบัสมักใช้ปลอบใจได้ดี รวมถึงเขาสามารถให้คำปรึกษากับคนอื่นๆได้บหลายเรื่องด้วย กล่าวสรุปได้ว่าเขาเป็นพวกคารมดี อัธยาศัยดี ใครก็ตามที่คุยกับเขาเลยสบายใจรวมไปถึงคำพูดของเขาที่ถ้าพูดแบบจริงๆจังๆก็ฟังดูน่าเชื่อถือและปลุกใจผู้คนได้ยอดเยี่ยมเลยล่ะ

               เขาผู้มีจิตใจอันแข็งแกร่ง เป็นที่รักของใครหลายๆคน ทั้งยังกล้าหาญและมีมุ่งมั่นและความอดทนสูง อีกทั้งยังไม่ยึดติดกับการแบ่งชนชั้น เพศหรือฐานะอะไรนัก เขานั้นยึดหลักความยุติธรรม ชิงชังต่อความอยุธรรมและเรื่องราวการกดขี่ข่มเหงอยู่ไม่น้อย ดังนั้นเห็นแบบนี้แต่เขาก็พ่วงมาด้วยความจงรักภัคดีต่อดินแดนที่ตระกูลของตนปกครอง และไม่มีวันหักหลักแน่ 

               อัลบัสเป็นคนที่มีจิตใจเข้มแข็ง ไม่โอนอ่อนต่อกลอุบายของใครได้โดยง่ายทั้งยังมีกระบวนการคิดวิเคราะห์ที่จัดว่าดี(แม้ภายนอกจะดูเหมือนคนโง่ๆที่โดนหลอกได้ง่ายก็เถอะ) รวมไปถึงการแสดงออกที่มักจะเก็บอาการได้อย่างมิดชิดจนดูเหมือนเขาเป็นนักแสดงละครมืออาชีพ แต่นั่นไม่ได้เเปลว่าเขาจะยกเอาความสามารถในการแสดงออกภายนอกของตนไปหลอกลวงผู้คนหรอก เขาจะทำก็ต่อเมื่อมีความจำเป็นจริงๆเท่านั้น อาจอยู่ในสถานการ์คับขัน อันตรายหรืออะไรก็ตามแต่ เพราะความจริงเเล้วยังไงเขาก็ไม่ได้เป็นคนโหดเหี้ยมหรือเสแสร้งขนาดนั้นหรอก 

                ใดๆก็ตามหากอยู่ต่อหน้าผู้หลักผู้ใหญ่แล้วแม้ว่าอัลบัสจะมีนิสัยซุกซน ขี้เล่น เเละชอบหยอกล้อเเค่ไหนเเต่เขาก็รู้กาลเทศะพอจะไม่ก้าวก่ายหรือทำอะไรให้ตระกูลขอวตนเสียหน้าเด็ดขาด ฉะนั้นวางใจได้เลย...แต่ถ้าลับตาคนนอกครอบครัวเมื่อไหร่เขาก็พร้อมเผ่นหนีออกไปเที่ยวล่ะ!

                อัลบัสเป็นคนรักครอบครัวและถิ่นที่อยู่ของตนมาก แน่นอนว่าเขาต้องพร้อมที่จะเผชิญกับภยันอันตรายถ้าหากมันย่างกรายเข้ามาใกล้ อัลบัสนั้นไม่ได้หวังอะไรที่ยิ่งใหญ่ ไม่ได้หวังอะไรสูงส่งฉะนั้นต่อให้เขาเงินมากองตรงหน้า ถ้ามันมีเงื่อนไขที่ไม่ยุติธรรมเขาก็จะปฏิเสธไปทันทีเลยล่ะ

                ถามถึงนิสัยด้านลบของอัลบัสก็คงจะเป็นเรื่องที่เขาค่อนข้างเก็บกดอยู่บ้าง ตรงที่หากมีเรื่องเศร้าเขากลับไม่ยอมปริปากบอกใครเเม้เเต่กับครอบครัวของตัวเอง เขาเเค่กังวลว่าจะทำให้ใครเป็นพลอยเครียดไปด้วย กลัวว่าจะทำบรรยากาศของคนอื่นเสียเปล่าๆจึงเก็บมาคิดคนเดียว และเขาเป็นคนคิดมาก คิดเเล้วคิดอีกจึงฟุ้งซ่านอยู่ในใจในขณะที่ภายนอกแสดงออกด้วยความร่าเริงสดใสเช่นเดิม ทว่าในบางครั้งหากไร้ซึ่งสายตาของผู้คนเขาก็แอบร้องไห้ออกมาได้เหมือนกันนะ... แม้ว่าเขาจะให้คำปรึกษากับผู้อื่นได้ดีเเต่กลับน่าขำที่เขาไม่กล้าที่จะปรึกษากับใครจนทำให้บางคนก็คิดว่าเขาคงไม่มีเรื่องเศร้าในใจไปแล้ว บางทีจึงเกิดเรื่องน่าเศร้าขึ้นมาตรงที่คนอื่นพูดจาตอกย้ำเขา โดยที่เขาได้เเต่หัวเราะ--เเต่ในใจก็แอบบอบช้ำอยู่บ้าง (แน่นอนว่าคนนั้นไม่ผิด...เพราะไม่รู้ว่าจริงๆแล้วอัลบัสเป็นคนคิดมากนี่นะ)

                  โดยสรุป...เพราะเขาไม่พูดเลยไม่มีใครรู้นั่นเอง ความเครียดจึงเป็นหนึ่งในอุปสรรค์ในใจเขามากทีเดียว การจะคะยั้นคะยอให้เขาพูดว่ายากแล้วแต่ทว่าการเดาว่าสีหน้าตอนไหนของเขาคือเครียดนี่สิยากกว่าเพราะเขาพยายามปกปิดมันจนมิดได้ดีเลยล่ะ แต่ถ้าถามว่าเขาอยากได้คนปลอบใจบ้างไหม...ก็คงต้องตอบเลยว่า "อยากสิ" แต่เเค่ "ไม่กล้าพูด" เท่านั้นเอง

    10. เพิ่มเติม: 

                     - อัลบัสเป็นคนง่ายๆ สบายๆ ไม่เลือกกิน ไม่เลือกอยู่ จะนอนข้างถนนก็ทำได้หากมันเป็นการผจญภัยหรือเพราะจุดประสงค์อะไรสักอย่างน่ะ

                     - เขามีทักษะการต่อสู้และการเอาตัวรอดดีเยี่ยม แต่ที่ขาดก็คงจะเป็นความรู้ด้านวิชาการที่ด้อยกว่าคนพี่มาก สิ่งที่เขาชำนาญก็ดูจะเป็นความรู้รอบตัวที่ใช้เอาตัวรอดมากกว่า 

                     - เขาเข้ากับครอบครัวได้ดี แม้ว่าจะมีทะเลาะกันบ้าง ดุด่ากันด้วยเรื่องของเขาบ้างก็เถอะ แต่นั่นมันก็เกิดขึ้นบ่อยจนเขาชินชาไปแล้วนี่นะ

                       - ขออภัยเรื่องภาพเช่นเคยค่ะ หาที่มันตรงๆจริตยากจริงๆ ชุดย้อนยุคนิดๆกับตาสีทอง ท่าทาวดูซนๆ แง่มๆ555555//ปั่นมาสั้นกว่าเดิมด้วยค่ะ คิดอะไรไม่ค่อยออกเลยเเต่อยากส่งมากๆค่ะ คาร์เเรคเตอร์ต่างจากลูเคนพอสมควรด้วย 555555

     

    ส่วนที่ สัมภาษณ์ตัวละคร

    11.   ท่านคาดหวังสิ่งใดที่สุดในชีวิตนี้ เพราะเหตุใดจึงหวังเช่นนั้น

    "ข้าคาดหวังสีสันในชีวิต"

    อัลบัสตอบออกมาโดยที่แทบจะไม่ได้ใช้เวลาในการขบคิดเลย 

    พลันรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อคมก่อนที่คำพูดต่อไปจะเอื้อนเอ่ยออกมาจากปากเขาอีกครั้ง

    "สิ่งมีชีวิตทุกตนย่อมมีเรื่องที่ต้องเรียนรู้และพบเจอเสมอ ตัวข้าเองก็เช่นกัน จนถึงตอนนี้แล้วข้าก็ยังมีอีกหลายร้อยหลายล้านเรื่องที่ยังไม่อาจรู้ และมันก็รอให้ข้าไปหาคำตอบด้วยตนเอง ...ข้าคิดเช่นนั้นนะ"

    และแน่นอน...ว่าทุกสิ่งย่อมมีภยันอันตรายมาขวางกั้นทว่าถ้าไม่พร้อมสู้เขาจักได้ผลประโยชน์อะไรเล่า


    12.  หากอนาคตของท่านคือความมืดนิรันดร์ ท่านหวาดกลัวหรือไม่ เพราะเหตุใด

    "โอ้... ไม่หรอก ข้าไม่หวาดกลัวเป็นแน่"

    ชายหนุ่มเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มเช่นเดิม ดวงหน้าฉายแววมุ่งมั่นมิมีเปลี่ยนก่อนจะฉาบไปด้วยความหนักแน่นมากกว่าเดิมเมื่อคำพูดในประโยคต่อมาเริ่มเอื้อนเอ่ย

    "เพราะหากหวาดกลัวไปแล้วข้าจักเอาเเรงที่ไหนก้าวเท้าเดินต่อไปข้างหน้าเล่า"

    แน่ล่ะ...เพราะชีวิตมีเเต่จะต้องก้าวไปข้างหน้านี่นะ จะให้หยุดอยู่กับที่หรือเดินถอยหลังได้อย่างไรกัน


    13. สงครามจะเริ่มขึ้นแล้ว ท่านจะทำอย่างไร

    "ข้าคงร่ายเรียงสิ่งที่อยากทำให้ไม่ได้หรอก"

    เสียงทุ้มฟังดูเหมือนกลั้วหัวเราะ---เพราะเขามีหลายร้อยล้านเรื่องที่อยากจะทำนี่นะ การจะให้มานั่งร่ายทั้งหมดเขาคงได้คอเหือดคอแห้งตายกันพอดี

    "อย่างแรกคือข้าจักอยู่นิ่งๆเป็นไม่ได้ อย่างที่สอง...ข้าคงต้องปกป้องครอบครัวและดินแดนที่พวกเขาปกครองให้พ้นภัยอันตรายทั้งปวง ถ้าหากหมดห่วงเเล้วข้าก็คงมีอะไรให้ทำอีกเยอะแยะ"


    14.  หากความรักคือพันธนาการ ท่านจะเลือกกรงขังหรือโบยบินสู่อิสรเสรี เพราะเหตุใด

    "ความรักงั้นหรือ"

    อัลบัสทวนคำอย่างนึกฉงน เรียวคิ้วขมวดชนกันเล็กน้อยอย่างใช้ความคิดที่ไม่นานนักก็ได้คำตอบเป็นรูปประโยคที่ชัดเจน

    "ข้าชอบอิสรเสรีเป็นที่สุด ดังนั้นแล้วถ้ามันยังไม่ถึงเวลาที่ข้าคิดว่าคู่ควรข้าก็จะไม่พันธนาการตัวเองเป็นแน่"

    ก็อย่างที่บอก..ว่าบนโลกใบนี้ ในชีวิตนี้มีอีกหลายร้อยล้านเรื่องที่เขาอยากจะทำ จะให้ถูกพันธนาการโดยมิต้องการได้อย่างไรกันเล่า



    15. เลือกบรรทัดละหนึ่งอย่างด้วยการทำตัวหน้าหรือเน้นข้อความ (เลือกดีๆ นะคะ ข้อนี้จะเป็นชะตาตัดสินว่าท่านจะกลายเป็นคนของภาคีหรือไม่)

    หัวใจ / ความคิด / จิตวิญญาณ

    กลีบดอกไม้ / ดาบ / คัมภีร์

    น้ำตา / โลหิต / น้ำ

    โซ่ตรวน / กระดานหมากรุก / กำแพง

    ความพ่ายแพ้ / อิสรภาพ / อำนาจ

    โต๊ะไม้ หอคอย ภูเขาน้ำแข็ง

    มังกร หมาป่า / ราชสีห์

    คนบาป / ปีศาจ หายนะ

    มงกุฎ แสงเทียน / กล้าอ่อนพันธุ์ไม้

    สัจจะ ศรัทธา / สันติสุข

     

    ขอให้ท่านโชคดี

    The Order of the Blue

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×