ห้องสมุดของยูเรีย

ลำดับตอนที่ #9 : [Starfighter 3] : Aleron

Animal Empathy

Application Form

[Animal Empathy]

"ไม่ว่าเราจะทำอะไร ผิดถูกหรือไม่ ท้ายที่สุดก็จะมีใครซักคนอยู่ข้างเราอย่างน้อยคนหนึ่งเสมอ"

"ถ้าอย่างนั้นแล้ว คุณช่วยจากไปอย่างสงบให้ผมด้วยจะได้รึเปล่าครับ ?"

ชื่อ: แอเลรอน [Aleron] นามสกุล : แอนิมอล เอมพาตี้ [Animal Empathy]

ชื่อเล่น : เอรอน,อารอน (ผู้ชายชอบเรียกเอรอน ส่วนผู้หญิงที่สนิทด้วยจะเรียกอารอน)

อายุ : 16 ปี

ส่วนสูง : 166 cm.

เพศ : ชาย

ลักษณะหน้าตา : เอรอนมีใบหน้าที่น่ารักแบบผิดธรรมชาติ ผิวที่ค่อนข้างจะขาวซีด เส้นผมสีม่วงยาวดูแหลมรกเล็กน้อย ดวงตาสีทองดวงโต โดยรวมแล้วใบหน้าของเขานั้นดูเหมือนกับตุ๊กตามีชีวิตมากกว่าเป็นมนุษย์จริงๆเสียอีก

อาชีพ : ไม่มีอาชีพหลัก, มีงานเสริมเป็นคนช่วยดูแลมังกรหรือสัตว์อันตรายชนิดต่างๆ 

การแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์ : ชอบสวมเครื่องแต่งกายสีม่วงตัดกับลายสีทอง รองเท้าบูทสูงครึ่งเขาสีม่วง มักพันผ้าพันคอสีขาวอยู่ตลอดแม้จะอยู่ในโซนที่มีอากาศร้อนก็ตาม

อุปนิสัย :

    -เป็นคนที่สดใส ยิ้มอยู่ตลอดเวลา และมองโลกในแง่ดี เข้ากับคนได้ง่าย

เอรอนเป็นคนที่มักจะดูสดใสอยู่ตลอดเวลา เขาเข้ากับคนได้ง่ายและเป็นมิตรกับทุกๆคน เขาต่อว่าคนอื่นไม่ค่อยเก่งนักหรือแม้แต่จะพูดทำร้ายคนอื่นยังพูดไม่ค่อยเป็นเท่าไหร่ เขาจึงเป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วจะมีบรรยากาศที่สดใสอยู่ตลอด เหมาะแก่การพูดคุยธรรมดาจนถึงกับการคุยระบายอารมณ์

    -เป็นคนที่มีคติว่า ไม่ว่าจะทำอะไร ก็จะมีใครซักคนอยู่ข้างเราเสมอ

เพราะแบบนั้นแล้วเอรอนจึงเป็นคนที่ไม่ค่อยขัดการกระทำของอีกฝ่าย เขามักจะเห็นด้วยและปล่อยให้คนอื่นๆทำในสิ่งที่ตนคิดว่าถูกมากกว่าการห้ามปราม แต่การที่เขาไม่ห้ามคนอื่น ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมคนอื่นเสมอไป (ประมาณว่า จะวิ่งก็วิ่งไปฉันไม่ห้าม แต่ถ้าฉันจะขัด เธอก็ห้ามฉันไม่ได้เหมือนกัน) เหมือนกับการที่คนอื่นมีความถูกต้องของตน เอรอนเองก็มีความถูกต้องที่ตนยึดถืออยู่ด้วยเช่นกัน

    -ไม่ค่อยคบเพื่อนเยอะ และชอบหมกตัวอยู่กับเพื่อนแค่กลุ่มเดียว

เวลาที่เอรอนถูกใจหรือติดใจใครแล้ว เขาก็มักจะอยู่กับคนๆนั้นบ่อยๆในเวลาว่างเสมอ และมักให้ความช่วยเหลือพวกเขาอยู่ตลอด

    -ไม่ดูถูกความคิดของคนอื่น 

ทุกการตัดสินใจมาจากตัวตนของตนเอง การตัดสินใจอะไรไม่ว่าจะโง่หรือฉลาดแค่ไหน มันก็คือตัวตนของคนๆนั้น เอรอนจึงไม่เคยดูถูกความคิดหรือความฝันของใคร 

    -ปั้นหน้าเก่ง ยิ้มได้ทุกสถานการณ์

เพราะเอรอนนั้นแทบจะมีอารมณ์เดียวนั่นคืออารมณ์ที่ดี สดใส ขี้เล่นแบบเด็กๆอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรเขาก็มักจะดูชิลๆอยู่เสมอ และไม่ว่าใครจะพูดต่อว่าเขาอย่างไรเขาก็สามารถยิ้มรับได้อย่างง่ายดาย

    -เลือดเย็น สามารถฆ่าคนได้ราวกับเป็นการละเล่นชนิดหนึ่ง

เอรอนนั้นค่อนมีบุคลิกที่เลือดเย็นอยู่ในตัว หรือจะเรียกว่าไร้เดียงสาอย่างไรก็ไม่อาจทราบได้ ด้วยประสบการณ์ในวัยเด็กของเขาแล้ว เอรอนมีพรสวรรค์ในการสละอารมณ์ความรู้สึกผิดไปได้อย่างง่ายดาย เขาสามารถยิ้ม หัวเราะได้อย่างเลือดเย็นในขณะที่มีคนกำลังถูกขย้ำอยู่ตรงหน้า

    -มั่นใจในตัวเองมากถึงมากที่สุด

เอรอนเป็นคนที่มีความมั่นใจสูงไม่ว่าจะทำอะไร มั่นใจว่าจะชนะ มั่นใจว่าจะทำได้ เขาสามารถเข้าไปคุยกับพวกฮาล์ฟบลัดได้โดยไม่อิดเอื้อนแม้ว่าคนอื่นจะมองว่าไม่ดีก็ตาม แม้ว่าจะมีใครมาเตือนเขาก็มักจะยิ้มบอกว่าไม่เป็นไรหรอกอยู่เสมอ

    -ชอบยืนดูการต่อสู้ แบบคมชัดลึกติดขอบสนาม

จะว่าเป็นความไร้เดียงสาหรือความประมาทก็ไม่อาจทราบได้ เอรอนมักจะยืนดูการต่อสู้ได้โดยไม่หวาดกลัวภาพตรงหน้า และเขามีความมั่นใจอยู่เสมอว่า 'สุนัข' ของเขาจะช่วยป้องกันลูกหลงที่โจมตีเข้ามาได้

    -แม้จะทำตัวใจดีกับคนอื่นไปทั่ว แต่ก็เคารพกฎของเกาะ

ไม่ใช่เพราะว่ากฎมันดี แต่การแหกกฎหรือการเปลี่ยนแปลงจะทำให้เกิดเรื่องยุ่งยากต่างๆตามมา ดังนั้นการทำตามกฎของเกาะจึงเป็นสิ่งที่สมควร แต่เขาก็ไม่เคยคิดห้ามหากใครจะแหกกฎของเกาะ ยกเว้นว่าเขาจะมีคำสั่งให้จัดการกับคนๆนั้นเขาก็จะสามารถทำได้อย่างไม่ลังเล (ไม่ว่าจะส่งมาทางตรงกับเขาเลย หรือเป็นการประกาศให้ทราบโดยทั่วก็ตาม หากใครทำผิดและถูกจับได้ เขาก็จะต้องจัดการคนๆนั้น)

ความสามารถพิเศษ :

-การสละความรู้สึกผิด ทำให้เขาพร้อมจะสู้หรือฆ่าใครก็ตามได้อย่างง่ายดาย

-มองการตัดสินใจของคนอื่นได้ถูก เพราะว่าเขามักจะปล่อยให้คนอื่นทำตามใจตัวเอง จึงรู้ลักษณะการตัดสินใจของคนๆนั้น

-มีฝีมือในการฝึกสัตว์ในระดับหนึ่ง เขาสามารถกล่อมหรือสยบพวกสัตว์อันตรายที่กำลังพยศได้ และสามารถช่วยให้พวกมังกรใจเย็นลงได้เช่นกัน

-พูดคุยกับสัตว์ผ่านจิตใจได้ โดยเขาจะได้ยินพวกสัตว์พูดเป็นภาษามนุษย์ ยกเว้นแต่พวกสัตว์ในตำนานอย่างเช่นมังกร เขาจะทำได้เพียงแลกเปลี่ยนความรู้สึกให้กันและกันเป็นการสื่อสารแทน

-พลังของแอนิมอล เอมพาตี้ในแบบเฉพาะตัว เอรอนไม่มีความสามารถในการใช้พลังของสัตว์เลย แต่กลับกัน สัตว์ที่ทำพันธะสัญญากับเขาจะได้รับพลังเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลมากกว่าสัตว์พันธะสัญญาทั่วไปหลายเท่า (โคตรฟูลบัฟOP)

ท่าไม้ตาย : Trancendent - The Wolf Knight of Winter 

เพิ่มพลังขั้นขีดสุดให้กับสัตว์พันธะสัญญา และเปลี่ยนรูปร่างของมันให้กลายเป็นมนุษย์ครึ่งสัตว์ชั่วคราว พวกมันจะมีพลังเพิ่มขึ้นอย่างมากเลยทีเดียว ปัจจุบันเอรอนเคยใช้ Trancendent กับเซเบอร์เพียงตัวเดียว โดยจะเรียกเขาว่า The Wolf Knight of Winter และยังไม่เคยใช้พลังนี้กับสัตว์ตัวอื่น แต่เขาจะหมดพลังงานไปมากในการใช้ทักษะนี้ โดยขั้นต่ำจะสามารถคงร่างมนุษย์ให้สัตว์ได้ 3 ชั่วโมง หากมากกว่านั้นสภาพร่างกายจะแย่ลงเรื่อยๆถึงขั้นสลบ(แต่ถึงสลบไปบัฟก็ยังคงอยู่จนกว่าจะหมดเวลา) *สามารถใช้กับสัตว์ได้แทบทุกชนิดไม่เว้นแม้แต่มังกร แต่ถ้าเป็นสัตว์ในตำนานจะคงสภาพได้ไม่นานและใช้พลังมากกว่า

(ท่าไม้ตายลับ) พลังแห่งโชตะค่อน - ยิ่งเอรอนเชียร์เซเบอร์มากเท่าไหร่ เซเบอร์จะยิ่งฮึดสู้ขึ้น !! (...)

อาวุธประจำตัว : 

  กำไลแห่งพันธสัญญา - กำไลในมือขวาของเอรอน (และในเท้าหน้าข้างซ้ายของเซเบอร์) มีฟังก์ชั่นในการทำงานคือ ให้กำไลหลัก(เอรอน) ทำการเรียกกำไลรอง(เซเบอร์) มายังจุดที่กำไลหลักอยู่

  Sanddle of Sun - อานสัตว์ที่ถูกเคยใช้โดยเทพแห่งสุริยันผู้ลากรถม้า ไอเทมระดับเทพที่สามารถแปลงเป็นอานให้เข้ากับร่างสัตว์ชนิดใดก็ได้ เมื่อสวมอานไว้กับสัตว์จะทำให้มันเชื่องอย่างรวดเร็วและสามารถใช้เป็นสัตว์พาหนะที่ควบคุมได้ง่ายในทันที เมื่อเริ่มนั่งลงอานจะมีบังเหียนสีทองปรากฎขึ้นสำหรับบังคับ ในเวลาปกติมันจะถูกแปลงสภาพไว้เป็นต่างหูรูปพระอาทิตย์ในหูข้างซ้ายของเอรอน

  Garble Grimmore - ตำราเวทโบราณที่มีคุณสมบัติในการบิดเบือนพื้นที่รอบๆด้วยมายา ใช้สำหรับสร้างเขตแดนพื้นที่ที่ยากจะเข้าถึง แต่เอรอนยังใช้มันได้ไม่คล่องมากนักจึงใช้ได้เพียงถ่วงเวลาให้อีกฝ่ายเข้าถึงตัวได้ช้าลงเพียงเท่านั้น

  Magic Gem - อัญมณีที่ถูกกักเก็บเวทมนตร์เอาไว้ เมื่อปาออกไปกระทบกับบางอย่างจะทำให้เวทมนตร์ถูกปลดปล่อยออกมา มีพลังทำลายล้างรุนแรงยิ่งกว่าระเบิด และราคาแพงจนเงินในกระเป๋าระเหิดเช่นกัน ควรคิดดีๆก่อนปา *สามารถนำไปใช้เป็นกระสุนปืนได้

สัตว์พันธสัญญา :  เซเบอร์(Saber)

หมาป่าตัวผู้ ขนสีขาวเทา ดวงตาสีทอง มีขนาดตัวที่ค่อนข้างใหญ่

ลักษณะนิสัย :: ฉลาด สุขุม ใจเย็น มีไหวพริบ สัญชาติญาณดี ความปลอดภัยของเอรอนต้องมาก่อนเป็นอันดับแรก มีความสัมพันธ์กับเอรอนในแบบของเพื่อน(ที่ห่วงกันยิ่งกว่าเพื่อน)มากกว่านายและบ่าว มั่นใจและสู้ให้ถึงที่สุด

ระดับความแข็งแกร่ง :: แข็งแกร่งมากในหมู่หมาป่าด้วยกัน มีความสามารถในการใช้ดาบ(ปากคาบไปไล่ฟันกับชาวบ้าน) ว่องไวและหนังหนา และยิ่งได้รับบัฟจากเอรอนด้วยแล้ว ระดับของเขาแทบจะเทียบได้กับสัตว์อสูรระดับสูง

เมื่อได้รับ Trancendent เซเบอร์จะมีร่างเป็นบุรุษเปลือยท่อนบน ผิวสีไข่ เส้นผมสีขาวเทาและดวงตาสีทองแบบหมาป่า มีหูและหางของหมาป่าสีขาวเทา

สัตว์เลี้ยง : คล็อก(Clock) 

เหยี่ยวตัวผู้ ขนสีน้ำตาล

ลักษะนิสัย :: รอบคอบ ระมัดระวัง ชอบเตือนเรื่องการกระทำตัวของเอรอนอยู่บ่อยๆ มีอารมณ์เหมือนพี่ใหญ่ที่คอยดูแลน้องเล็ก

การใช้งาน :: เพื่อนเล่นแก้เหงา คนคอยบินตรวจหาสิ่งที่ต้องการหา ตัวสังเกตุการณ์

รอยสัก : รอยสักรูปหมาป่า อยู่บริเวณถัดจากไหล่ข้างซ้ายลงมาเล็กน้อย(ต้นแขน)

งานอดิเรก : เล่นกับสัตว์, เดินเล่น-ภายในเมือง, เข้าไปช่วยงาน(ไปหาเซบ)ในฟาร์มมังกร

จุดอ่อน : ความสามารถทางกายภาพและการต่อสู้ระยะประชิดของเอรอนนั้นแทบจะเป็นศูนย์ เรียกได้ว่าโคตรตัวภาระ ร่างกายอ่อนแอ แรงน้อย ไม่มีความสามารถในการป้องกันตัวเองแถมยังชอบยืนล้ำดูการต่อสู้อีกด้วย(ธรรมดาของสายซัมม่อนที่ชอบยืนดูมอนตัวเองตบกับคนอื่น)

ชอบ : หมาป่า, การเดินภายในเมือง, การได้รู้จักและพูดคุยกับพูดคน, เซบาสและกลุ่มเพื่อน

ไม่ชอบ : พวกลอบกัด, คนที่ยอมแพ้ง่ายๆ, อาหารรสเผ็ดหรือขม

ประวัติ : ในช่วงวัยเด็ก เอรอนค่อนข้างจะมีชีวิตกึ่งดีกึ่งลำบาก เขาไม่ค่อยได้รับการยอมรับมากเพราะร่างกายที่อ่อนแอและใบหน้าที่หวานเกินไปสำหรับเด็กผู้ชาย แต่เขาก็ยังคงได้รับความรักจากผู้เป็นแม่เป็นอย่างดี

    เมื่ออายุได้ 11 ปี แอรอนเริ่มประสบปัญหามากขึ้นเมื่อเขาแทบไม่ได้ใช้ความสามารถของแอนิมอล เอมพาตี้เลย เขาไม่ค่อยได้คุยหรือรู้จักกับสัตว์ และยังไม่มีสัตว์พันธะสัญญาที่แข็งแกร่งดังเช่นคนอื่นๆ แม้จะมากเกินไปสำหรับเด็ก แต่พ่อของเขาต้องการจะให้เอรอนนั้นไล่ตามระดับของพวกที่มีอายุมากกว่าให้ทัน โดยไม่สนใจความเห็นของลูกชาย ในวันหนึ่งเอรอนได้ถูกพาตัวไปทิ้งในป่าแห่งหนึ่ง โดยมีภารกิจให้ตามหาทางออกออกมาจากป่าแห่งนั้นให้ได้ 

   การออกจากป่านั้นดูง่ายดายเหลือเกินสำหรับแอนิมอล เอมพาตี้แบบเอรอน แต่ทว่าป่าที่เขาถูกพาตัวมาทิ้งไว้อยู่ใกล้ๆกับเขตสปีริตเฮลล์ เหล่าสัตว์ปีศาจระดับต่ำนั้นกระหายเลือดและไม่สามารถสื่อสารให้เข้าใจได้ เพียงเวลาครึ่งวันเอรอนก็ต้องพบกับช่วงเวลาที่ตัดสินความเป็นความตายของชีวิต เอรอนนั้นเผลอสะดุดกิ่งไม้ในขณะที่กำลังวิ่งหนีและเริ่มถูกพวกสัตว์ปีศาจกัด ทันทีที่เขี้ยวที่เต็มไปด้วยความกระหายนั้นฝังลงในร่างจนเลือดสีแดงฉานเริ่มไหลนั้นทำให้เด็กชายกรีดร้องอย่างสิ้นหวัง แต่ทว่าในตอนนั้น มีสุนัขหมาป่าตนหนึ่งได้กระโจนเข้าปะทะกับพวกสัตว์ปีศาจพวกนั้น

    มันดูเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ หมาป่าเพียงตนเดียวสามารถเอาชนะเหล่าสัตว์ปีศาจประมาณ 5-6 ตัวได้โดยที่มีบาดแผลไม่มากนัก สุนัขป่าตัวนั้นค่อยๆเดินเข้ามาหาเอรอนด้วยสายตาหิวกระหาย ทว่าด้วยพลังของแอนิมอล เอมพาตี้ในตัวของเอรอนนั้นทำให้สุนัขป่าตัวนั้นรู้สึกไม่อยากเข้าโจมตี เอรอนรีบใช้พลังคุยกับหมาป่าตนนั้น และขอให้มันช่วยนำทางเขาออกไป

     เอรอนค่อยเดินออกไปกับหมาป่าตนนั้น เขารู้สึกขอบคุณและติดใจในความสามารถของหมาป่าตนนั้นมาก มันเป็นเรื่องยากที่หมาป่าเพียงตัวเดียวจะอาศัยอยู่ในป่านี้ได้ และการที่มันทำเช่นนั้นได้ มันหมายถึงความแข็งแกร่งและสติปัญญาที่เหนือกว่ากว่าหมาป่าทั่วๆไป เอรอนได้พยายามขอให้หมาป่าตนนั้นมาทำพันธะสัญญาด้วย ใช้เวลายื้อกันไป ปฎิเสธกันไปเป็นสิบๆครั้ง จนในที่สุดหมาป่าตนนั้นก็เริ่มใจอ่อนและกลับไปทำพันธะสัญญาที่ตระกูลพร้อมกับเอรอน

          ดูเหมือนว่าชีวิตของเอรอนจะเริ่มไปด้วยดีมากยิ่งขึ้น เขาตั้งชื่อให้กับสุนัขหมาป่าของตนว่า 'เซเบอร์' เขาค่อนข้างจะให้อิสระกับเซเบอร์และปล่อยให้มันได้ไล่ล่า ฝึกฝนได้ตามใจตน ยิ่งการอยู่ในตระกูลนักฝึกหัดและการสื่อสารที่เข้าใจกันนั้นผลักดันให้เซเบอร์นั้นแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก ทว่าจู่ๆวันหนึ่งเอรอนก็ได้รับรู้ความจริงอะไรบางอย่าง

      เขาไม่ใช่ลูกคนแรก... แม่ของเขานั้นให้กำเนิดลูกคนอื่นมาก่อนเขาแล้ว กับคนอื่นที่อยู่ภายนอกของเกาะ... แม่ของเขาแหกกฎของเกาะนี้ เธอและลูกชายถูกคุมตัวไว้ เธอต้องจำใจแต่งงานกับชายที่เธอไม่ได้รักและให้กำเนิดเขาขึ้นมา ความรักทุกอย่างที่เขาได้นั้นเป็นเพียงรอยยิ้มปลอมๆที่ยอมทำเพื่อวันหนึ่งจะได้พบกับลูกชายคนแรกของตัวเองเท่านั้น

     ทว่าช่างโชคร้ายที่บิดาของเอรอนเป็นคนอมหิต เขานั้นใช้ช่วงเวลาที่แม่ลูกไม่ได้พบกันจ้างเมมโมรี่มายด์กลุ่มหนึ่งเข้ามาหาลูกชายคนแรกของเธอที่ถูกขังอยู่ในคุกใต้ดิน ค่อยๆใช้พลังบิดเบือนความทรงจำ บั่นทอนความเป็น 'มนุษย์' และเพิ่มความเป็น 'สัตว์' เข้าไป วันละนิด วันละนิด จนกระทั่งชายคนนั้นได้สูญเสียสติและความนึกคิดไปในฐานะมนุษย์ เมื่อรู้เช่นนั้น แม่ของเอรอนนั้นเสียใจมากจนเริ่มทรุดป่วย เธอเริ่มสูญเสียสติจากการช็อคที่ได้เห็นลูกชายของตนที่อยู่ในกรงเยี่ยงสัตว์ เธอสิ้นหวังและเริ่มพร่ำเพ้อขึ้นเรื่อยๆ

      เอรอนนั้นคอยดูแลแม่ของตนไม่ห่าง เซเบอร์ที่ไม่ใช่มนุษย์และไม่ได้มีครอบครัวที่ยึดติดนั้นไม่สามารถช่วยปลอบใจเขาได้มากนัก แม่ของเอรอนเริ่มเพ้อขึ้นหนักเรื่อยๆ และเริ่มพูดจาว่าร้ายเขาและพ่อของเขาเรื่อยๆด้วยเช่นกัน จนในวันหนึ่ง วันที่เอรอนรู้สึกเวทนาในสภาพที่ใกล้จะบ้าเต็มทีของหญิงสาวตรงหน้า เขาจึงตัดสินใจวางยาไว้ในยาที่หมอนำมาให้เธอทานเป็นประจำ ความทุกข์ทรมานของเธอจึงได้ยุติลง

    ทว่า ถัดไปจากนั้นไปกี่เดือน ชายหนุ่มคนหนึ่งได้บุกเข้ามาในคฤหาสน์ เขาคือพ่อของชายที่ถูกขังไว้ในคุก คนรักของแม่ของเขา เขาพยายามจะกลับมาหาหญิงที่ตนรัก ทว่าเขากลับได้รู้ความจริงว่าเธอจากไปแล้ว อีกทั้งด้วยกฎของเกาะแล้วจึงไม่สามารถปล่อยเขาไปได้ การต่อสู้จึงได้เริ่มต้นขึ้น 

    ทั้งการที่เสียหญิงที่ตนรัก การที่ลูกของตนถูกเปลี่ยนให้มีสภาพไม่ต่างกับสัตว์ ชายหนุ่มคนนั้นบันดาลโทสะอย่างหนักจนเริ่มสู้เอาให้ถึงตายไปข้าง เขานั้นแข็งแกร่งกว่าที่คนในตระกูลคาดคิดกันไว้มาก เขาเริ่มสังหารคนไปทีละคนสองคน จนกระทั่งแม้แต่พ่อของเอรอนก็ยังไม่อาจทานทนไหว เขาได้ถูกสังหารลงในที่สุด ในขณะที่ชายคนนั้นกำลังอ่อนแรงลงจนไม่สามารถสู้ต่อได้ แอรอนได้ยืนจ้องหน้าเขาซักพักก่อนที่จะสั่งให้เซเบอร์กำจัดเขาทิ้งด้วยการใช้ดาบแทงจากข้างหลัง เซเบอร์ที่เป็นสัตว์นักล่าอยู่แล้วไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับการฆ่าฟันจึงทำตามอย่างว่าง่าย เรื่องราวในครั้งนั้นนับเป็นการสูญเสียที่ค่อนข้างมากของตระกูลแอนิมอล เอมพาตี้

        แม้จะพยายามชดใช้บาปที่พ่อของตนได้ทำลงไป แต่ชายที่ถูกขังนั้นเกินจะเยียวยาได้แล้ว ต่อให้ช่วยเหลือได้ เขาจะใช้ชีวิตในโลกที่ครอบครัวของตนสูญสิ้นไปหมดได้เช่นไร ในเกาะนี้ ในฐานะลูกครึ่งของคนนอกเกาะที่เข้ามาสังหารคนในตระกูลแอนมอล เอมพาตี้ ไม่เห็นทางออกใดๆที่ดีไปกว่านี้ เอรอนได้ตัดสินใจที่จะปลิดชีวิตของเขา ซึ่งทางตระกูลเองก็เห็นดีด้วย ในคืนสุดท้าย ชายคนนั้นได้ถูกวางยาพิษไว้ในอาหาร มันออกฤทธิ์อย่างช้าๆในขณะที่เขาหลับ ทำให้เขาได้จากไปอย่างสงบ นับเป็นศพที่สามที่เอรอนได้ฆ่า และเป็นศพที่สองสำหรับคนในครอบครัวของเขาเอง

        เมื่อเรื่องราวจบลง เอรอนได้ตัดสินใจย้ายออกไปอยู่ที่คฤหาสน์นอกเมืองกรีนฟอเรสต์ เขาได้ย้ายไปอยู่ในแถบตัวเมืองใกล้ๆกับฟาร์มมังกรและใช้ชีวิตไปเรื่อยๆในที่สุด 

เพิ่มเติม : 

-เอรอนได้พบกับเซบาสเพราะเขาออกไปตามหาเซเบอร์ในตอนที่ยังไม่มีกำไลพันธะสัญญา ตอนนั้นเขาเรียกเซเบอร์ว่า เซบ เซบ ทำให้เขากับเซบาสเตียนพบกับด้วยความเข้าใจผิดและเริ่มทำความรู้จักกันในภายหลัง

-เอรอนมีคนใช้อยู่สามคน ได้แก่ เดน่า รานะ อาเวล เป็นแฝดหญิงที่มีผมสีฟ้าและดวงตาสีฟ้า 

เดน่า พี่ใหญ่สุด คอยทำหน้าที่ดูแลคฤหาสน์ จัดการเรื่องการทำความสะอาด มักคอยตักเตือนเรื่องที่เอรอนชอบเข้าหาพวกฮาล์ฟ

รานะ น้องคนรอง ทำหน้าที่ประกอบอาหาร เป็นคนที่ฉลาดและมีเหตุผล

อาเวล น้องคนเล็ก ทำหน้าที่คำนวนรายจ่าย ออกไปจ่ายตลาด ชอบเข้าข้างเอรอน

*สามพี่น้องค่อนข้างไม่แสดงอารมณ์ ทำตามเพียงแต่หน้าที่ของตนเท่านั้น ไม่ได้แสดงความรู้สึกสัมพันธ์เป็นพิเศษเท่าไหร่นัก

 

      Z y c l o n