ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (AU Fic HP Blessing) Daredevil's Strange Love (Bellatrix x OC)

    ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 9

    • อัปเดตล่าสุด 29 พ.ย. 61


    หลังจากที่เด็กชายหลุดจากคาถาของเด็กสาวแล้วนั้นทำให้เด็กชายรีบกลับไปที่ห้องนอนของตัวเองและปิดประตูอย่างดังทำให้นิโคที่พึ่งเขียนรายงานเสร็จถึงกับหันมามอง

     

                “เป็นอะไรของนายเซน”

     

                นิโคถามขึ้นโดนที่มองไปด้วยความสงสัยแต่เมื่อเห็นไปที่ลำแขนของอีกฝ่ายก็ตกใจเพราะมีรอยแดงที่ข้อมือเหมือนกับโดนเชือกรัดมา

     

                “โดนยัยนั้นใช้คาถาอินคาเซอรัสมา”

     

                เด็กชายตอบกลับอย่างอารมณ์เสียพร้อมกับเดินไปเก็บกระเป๋าเครื่องดนตรีไว้ที่เดิมและนั่งที่ขอบเตียงนอนของตัวเอง นิโคที่เห็นแบบนั่นก็ที่เห็นแบบนั่นก็มองไปที่ข้อมือของเด็กชายแล้วเตรียมหยิบไม้กายสิทธิ์ของตัวเองขึ้นมาเพื่อที่จะรักษาแต่เด็กชายห้ามไว้

     

                “ไม่ต้องนิโค หึหึ ฉันมีแผนที่จะทำให้ยัยนั้นโดนจดหมายกัมปนาทอีกรอบแล้วละ หึหึหึ”

     

                เด็กชายหัวเราะออกมานั้นทำให้นิโคถึงกับถอยหายใจรู้จักมาแค่เดือนเดียวก็รู้ความร้ายกาจของอีกฝ่ายแล้วแค่นิสัยที่เปลี่ยนไปมาก็ปวดหัวแล้ว ได้แต่คิดว่า

     

                ยัยเบลลาขอให้ไปที่ชอบที่ชอบเถอะ

     

                “จริงสิเซน นี้ก็อีกไม่นานแล้วที่จะปิดเทมอ ช่วงปิดเทมอนายว่างไหม”

     

                นิโคกล่าวออกมาโดยที่ในความเป็นจริงนี้พึ่งจะขึ้นเดือนตุลาคมเองเรื่องปิดเทมอนั้นเด็กชายไม่ได้คิดไว้เลย

     

                “อีกตั้งสามสี่เดือนจะรีบคิดไปทำไม”

     

                “ก็ว่าจะชวนไปงานเลี้ยงที่ตระกูลฉัน”

     

                นิโคกล่าวออกมาพร้อมกับมองไปยังเด็กชายเพื่อที่ตัวของนิโคต้องการคำตอบเพื่อความแน่ใจและตั้งความหวังว่าจะแนะนำเพื่อนของตนเองที่อยู่คนละรงเรียนให้เด็กชายรู้จัก

     

                “ไม่รู้สิ คงไม่ให้คำตอบตอนนี้เหรอ นอนได้แล้วนิโค”

     

                เด็กชายกล่าวออกมพร้อมกับล่มตัวลงไปนอนทันทีนั่นจึงทำให้นิโคที่เห็นแบบนั่นก็ได้แต่กลับไปที่เตียงแล้วล่มตัวนอนเช่นเดียวกัน

     

     

               

                “คุณพ่อ!! คุณแม่!!!

     

                เสียงของเด็กชายกล่าวออกมาพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา ความเศร้าเสียใจ แววตาของเด็กชายเหมือนกับคนตายทั้งเป็นที่กำลังสิ้นหวังกับตัวเอง

     

                “คุณหมอคุณพ่อกับคุณแม่จะไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ”

     

                เด็กชายกล่าวออกมาเมื่อเห็นคุณหมอเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินที่ซึ่งมีพ่อแม่ของเด็กชายอยู่ในห้องนั่นหลังจากที่เด็กชายได้ทราบข่าวว่าพ่อแม่เกิดอุบัติเหตุรถยนต์เกิดไฟไหม้ขึ้น เด็กชายก็รีบวิ่งมาที่โรงพยาบาลทันที

     

                หมอที่เป็นคนรักษาทั้งสองผู้เป็นพ่อแม่ของเด็กชายที่ได้เห็นเด็กชายแสดงถึงความหวังในแววตาที่ดูยังไงก็มีแต่ความสิ้นหวัง ความเศร้าเสียใจ

     

                “ขอโทษด้วยนะ หมออยากบอกว่าหมอทำเต็มที..แล้ว...”

     

                “ไม่จริงใช่ไหมครับ ไม่จริงใช่ไหมหมอ คุณเป็นหมอนะ!!!! คุณต้องรักษาคุณพ่อคุณแม่ได้สิ!!!

     

                เด็กชายตะโกนออกมาแววที่เคยมีความหวังอันน้อยนิดกับเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและความเศร้าที่มาจากการที่ต้องเสียครอบครัวตนสำคัญอย่างพ่อแม่ของเด็กชายไป

     

                เด็กชายผู้มีอายุแค่หกปีต้องสูญเสียครอบครัวไปนั้นยิ่งทำให้เด็กชายอาจจะเป็นโรคซึมเศร้าก็เป็นได้ หมอได้แต่ต้องบอกความจริงไม่สามารถโกหกได้เพื่อให้เด็กชายเดินหน้าได้

     

                “คุณพ่อและคุณแม่ของหนูถูกไฟคลอก หมอ..พยายามแล้ว..ขอโทษหนูจริงๆที่หมอช่วยอะไรไม่ได้”

     

                หมอได้แต่กล่าวคำขอโทษกับเด็กชายซ้ำๆเพราะมันก็เป็นความผิดของตัวเองเช่นกันที่ไม่สามารถรักษาคนไข้ได้

     

                “ทำไม!!ทำไม!! คุณพ่อกับคุณแม่ยังบอกเลยว่าเดียวเจอกันตอนเย็น!!แล้วมาฉลองวันเกิดด้วยกัน ทำไม!!ทำไม”

     

                เด็กชายตะโกนออกมาเสียงดังนั้นยิ่งทำให้ผู้เป็นหมอรู้สึกผิดและรู้สึกสงสารเด็กชายตรงหน้าต้องสูญเสียพ่อแม่ในวันเกิดที่ตัวเองเฝ้ารอ เฝ้าร้อง นั้นจึงทำให้หมอที่เห็นถึงสภาพจิตใจของเด็กชายที่น่าจะเป็นโรคซึมเศร้าสูงแล้วนั่นได้สั่งให้พยาบาลนำยาสลบมา หมอได้ชี้ไปที่ต้นคอของเด็กชายเพื่อที่จะไม่ให้เด็กชายเศร้าเสียใจ

     

     

                “ไอลูกไม่มีพ่อแม่”

     

                “ไอขยะสังคม”

     

                “น่าสมเพชหึ ไม่มีพ่อแม่แล้วก็เป็นแค่ขยะเท่านั้น”

     

                “ไอกำพร่ำพ่อแม่”

     

                เสียงมากมายของเหล่าเด็กรุ่นเดียวกันกล่าวออกมาไม่หยุดพร้อมกับจับผมของเด็กชายไปชนกับโต๊ะเรียนด้วยความสนุกทั้งกระทืบ ต่อย ตี ข่วนด้วยเล็บที่ทำให้ร่างกายของเด็กชายมีแผล แต่เสียงมากมายที่รุมด่าเด็กชายก็มีมากมาย

     

               

     

     

                เด็กชายสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกพร้อมกับร่ายกายที่เตรียมไปด้วยเหงื่อที่เกิดมาจากความฝันเด็กชายเอามืดกุมอกด้านซ้ายไว้ด้วยใบหน้าตื่นกลัวหน่อยๆเหมือนเจอผี

     

                “บ้า...จริง...ฝันเรื่อง..สมัยก่อน...”

     

                เด็กชายลุกออกจากเตียงและเดินไปตรงโต๊ะเขียนหนังสืออย่างอยากลำบากมากเพราไม่อยากให้นิโคตื่นขึ้นมาเจอตัวเองสภาพนี้ เด็กชายดึงลิ้นชักออกมาพร้อมกับหยิบยาที่ซ่อนไว้มากินแล้วตามด้วยน้ำจากนั่นก็กลับมาที่เตียงเพื่อที่จะกลับไปนอนต่อ เป็นเด็กชายก็หลับไม่ลงจนนอนอ่านหนังสือเพื่อหาข่าวของโวลเดอมอร์เพื่อให้หัวโล่งแทน

     

                เช้าวันต่อมาเด็กชายก็ยังไม่ได้นอนหลังจากตอนนั้นที่เด็กชายฝันร้ายทำให้เด็กชายนั้นมีสีหน้าซีดแต่ก็ไม่ถึงกับเป็นอะไร ได้ลุกไปอาบน้ำและมาปลุกนิโคเหมือนเดิม

     

    “เซนนายไหวไม่ หน้านายซีดนะ”

     

    “ไม่เป็นไร ไม่กันเถอะ”

     

    จากนั้นก็ออกจากห้องนอนพร้อมกับนิโคไปโรงอาหารโดยระหว่างทางทุกคนที่เหตุรอยแผลที่ข้อมือที่ดูยังไงก็เป็นรอยเชือกนั้นทำให้ทุกคนที่เห็นนั้นลงความเหตุกันว่าเบลลาผู้ที่ชอบทะเลาะและแกล้งเด็กชายเป็นคนทำจนเด็กชายเดินมาถึงห้องอาหารและนั่งประจำที่ก็มีนกฮูกเอาจดหมายมาให้

     

                ถึงเซนที่รัก

     

                            ใกล้ปิดเทมอยังอะ เขาคิดถึงนะเซนคุง ทางนี้สบายมากเลยละแต่ไม่คิดว่าเซนที่รักจะไปเรียนโรงเรียนพ่อมดจริงๆแต่ชังมันเถอะ มีเรื่องอยากให้เซนคุงช่วยหน่อยนะระหว่างสร้อยคอกับแหวนควรเลือกอันไหนให้เมย์จังดีละ ช่วยตอบกลับมาด้วยนะอีกอย่างฉันจับคนที่สามารถตอบเกี่ยวกับอุบัติเหตุเมื่อห้าปีก่อนได้ละ เดียวจะไปรับนะ

    ปล.1.อยากคิดหนีละเซนคุง รอบนี้นายต้องกลับไปอิตาลีกับผมหรือจะโดนเอลซ่า ดี เดม่อนตามจับไปอีกละ

    ปล.2. ทำไมผมรู้นะเหรอก็ผมกับนายเป็นคนที่ต้องการผลประโยชน์ด้วยกันทั้งคู่นะ เรื่องของเซนคุงผมต้องรู้อยู่แล้ว

    ปล.3. ถ้าตอบจดหมายผมเร็ว ผมอาจจะซื้อเปียโนไว้ที่คฤหาสน์ให้นะ

     

                                                                                                                                                                                                                                                                จากเพื่อนผู้ไม่ใช่เพื่อน

     

                เด็กชายได้อ่านจดหมายฉบับนั้นเสร็จก็ได้แต่ยิ้มออกมาด้วยแววตาทีไม่สนสิ่งใดแปปนึงก่อนที่เด็กชายจะเผาจดหมายทิ้งไป

     

                “จากใครเหรอ เซน”

     

                นิโคกล่าวออกมาตั้งตาเปิดเทมอยังไม่มีใครส่งจดหมายมาให้อีกฝ่ายเลยนั้นทำให้นิโคเกิดความสงสัยและเกิดความอยากรู้ในตอนแรกจะแอบมองตัวหนังสือในจดหมายแล้วแต่ดูเหมือนเด็กชายจะอ่านเร็วและทำการเผามันทำให้นิโคไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับจดหมาย

     

                “นิโค นายถามผมว่าปิดเทมอว่างไหมใช่ไหม เมื่อคืนอะ”

     

                “อืม”

     

                “คงไม่ว่างแล้วละ วันนี้ไม่มีเรียนใช่ไหม”

     

                เด็กชายกล่าวออกมาพร้อมกับกำลังดื่มชาอยู่บนโต๊ะและผู้คนในห้องอาหารก็เริ่มที่จะน้อยลงแล้วแน่นอนว่าในห้องอาหารยังมีเบลลาและกลุ่มของเธออยู่และดูเหมือนว่าเธอจะไม่เข้ามาหาเด็กชาย

     

                “อา ทำไมเหรอ”

     

                “ป่าวเหรอ ว่าจะไปห้องสมุดไปไหม”

     

                เด็กชายกล่าวออกมาพร้อมกับลุกขึ้นโดยที่นิโคยังไม่ทันตอบอะไรกับเด็กชายเลยนั้นจึงทำให้นิโครีบกินขนมปังที่เหลืออยู่นิดหน่อยแล้วตามเด็กชายไป โดยที่มีเด็กสาวอย่างเบลลามองดูเด็กชายที่เดินออกไปจากห้องอาหาร

     

                “เบลลามองอะไรของเธอ”

     

                “นั้นสิ”

     

                “เงียบซะ เวล ไคล์”

     

                เด็กสาวกล่าวออกมาอย่างอารมณ์เสียแล้วกินขนมปังต่อโดยที่สั่งให้เพื่อนของเธอเงียบไม่ต้องพูดอะไร

     

                ทำไมวันนี้ หน้าซีดละหรือว่าเป็นเพราะเรานะ

     

     



    { Winter Dark Theme }
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×