คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : EP [8] สายรหัส ✓
EP [8] สายรหัส
หลังจากวันที่ไอวี่ให้คิวสอนการบ้านก็ผ่านมาแล้วสองวัน
ซึ่งสองวันที่ว่าเธอก็ไม่ค่อยจะได้เห็นหน้าคิวสักเท่าไรนัก
พอถามทิมก็ได้ความว่าคิวจะต้องเข้าบริษัทไปจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งก่อน
อีกทั้งยังต้องเข้าไปบริหารงานในบริษัทที่ไอวี่เป็นเจ้าของอีกสองบริษัทด้วย
ไอวี่แต่งตัวลงมาจากห้อง พอมาถึงโถงกลางก็เห็นทิมยืนรออยู่แต่ไม่เห็นคิวก็เริ่มอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาอีก
“คิวไปไหน”
“คุณคิวไปทำธุระครับและสั่งเอาไว้ว่าวันนี้ให้พวกผมไปส่งคุณหนูที่มหาวิทยาลัยแทน”
“ได้ถามรึเปล่าว่าธุระอะไร”
“ไม่ได้ถามครับ”
“ดีเนอะไม่บอกฉันสักคำ..แล้วทำไมนายไม่ถามเขาไว้ล่ะไม่คิดว่าเจ้านายที่แท้จริงของนายอย่างฉันจะถามรึไง”
“ขออภัยครับผมไม่กล้ายุ่งเรื่องของเจ้านาย”
“ช่างเถอะ..เอารถออก” ไอวี่สั่งอย่างหงุดหงิด
เพราะถึงจะโมโหใส่ทิมไปลูกน้องคนนี้ก็คงไม่รู้เรื่อง ถึงรู้เรื่องว่าคิวไปไหนก็คงไม่บอกอยู่ดี
ทุกคนกลัวคิวมากกว่าเธอทั้งๆ ที่เธอคือเจ้านายที่แท้จริง..
“คุณหนูยังไม่ทานข้าวเช้าเลย..” ยังไม่ทันที่ทิมจะพูดจบก็เห็นสายตาที่สื่ออารมณ์หงุดหงิดมาจึงตัดสินใจทำตามคำสั่งทันที
“ครับผมจะเอารถออกเดี๋ยวนี้”
เพราะถ้าคุณหนูไอวี่อารมณ์ไม่ดีแล้วล่ะก็
ไม่มีใครเอาอยู่นอกจากเจ้านายท่อนไม้..แค่ก! นอกจากคุณคิว!
หลังจากทิมมาส่งไอวี่ก็ไล่กลับไปเลย
เพราะพาลหงุดหงิดคิวที่ทำอะไรโดยไม่บอกเธอก่อน เหมือนเห็นหน้าลูกน้องก็นึกถึงหน้าเจ้านายอะไรแบบนั้น
ไอวี่โทรหาเพื่อนถามหาจุดรวมตัวก่อนเป็นอันดับแรก พอรู้ว่าเพื่อนๆ
อยู่ตรงไหนก็กดวางสายแล้วเดินไปยังที่หมายทันที
เมื่อมาถึงโต๊ะหินหน้าคณะก็เห็นว่าเพื่อนๆ นั่งรวมกันอยู่ครบ
สาลี่โบกมือหยอยๆ ไอวี่จึงเดินเข้าไปหา
“ทำไมมาเช้าจังยะ” สาลี่มันเปรยตามามองแว่บหนึ่งก่อนจะหันไปทำอะไรสักอย่างกับมิ้นท์และเยลโล่
“ตื่นเช้า” เอาความจริงคือนอนไม่หลับ เพราะตลอดวันหยุดเธอเอาแต่คิดถึงเรื่องที่คิวช่วยสอนการบ้านให้
“ยิ้มอะไรของแกนังชะนี” สาลี่มันเอ่ยขัดอารมณ์
“เปล่า แล้วนี่ทำไรกัน”
“ทำการบ้าน” มิ้นท์ตอบ
“เอาจริงๆ คือลอกการบ้านเราอยู่น่ะ”
ดาวพูดอย่างอ่อนใจ
“แล้วแกล่ะทำเสร็จยัง” เยลมันหันมาถาม ไอวี่พยักหน้าทำเอาเยลโล่
สาลี่ มิ้นท์ มองมาด้วยความตกใจปนสงสัย
“คนอย่างแกอ่ะนะทำเสร็จ ปกติต้องมาลอกดาวเหมือนกับพวกกูนี่นา”
เป็นสาลี่ที่ถาม
“อ้าว!..ฉันก็ตั้งใจไหมล่ะ” บอกออกมาขำๆ พอเพื่อนๆ มองพลางทำหน้าเอือมก็เลยยอมรับอย่างจำยอม
“ความจริงคือทำเสร็จเพราะให้คิวสอน”
“นี่สินะที่ทำให้วันนี้แกยิ้มหน้าบานเป็นตูด เหอะ!”
ไอวี่หันไปค้อนให้อีสาลี่ก่อนจะยักไหล่ให้สวยๆ ให้ไปหนึ่งที
“เอาขึ้นมาให้พวกกูลอกเลยค่ะ”
“ไม่ให้! ทำเองสิ!” ไอวี่ตวาดขึ้นมาแบบไม่จริงจังนัก เธอไม่ได้กลัวว่าอาจารย์จะรู้แต่เพราะไม่อยากให้เพื่อนๆ
มายุ่งย่ามกับความทรงจำของตัวเองกับคิวต่างหาก..
กระดาษพวกนั้นคิวจับมันตั้งหลายรอบเลยนะ!
“พวกแกก็ลอกยัยดาวมันไปเถอะน่ามันก็เหมือนๆ
กันนั่นล่ะ”
“พอเป็นเรื่องพี่คิวหน่อยไม่ได้เลยนะ ขี้หวง!”
“อย่าไปยุ่งกับมันเลยอีลี่ รีบๆ ลอกเร็วเข้าเดี๋ยวจะถึงเวลาเข้าเรียนคาบแรกแล้วนะ”
เยลโล่ห้ามทัพก่อนที่พวกมันจะรีบลอกการบ้านของดาวกันไปเงียบๆ
“เออจะว่าไปเย็นนี้ต้องเข้ารับน้องใช่มั๊ย” ไอวี่ที่เพิ่งนึกได้ถามขึ้น
เพราะเคยได้ยินพวกเพื่อนๆ พูดกันอยู่ “เขาจะทำอะไรกันบ้างอ่ะ”
“พวกรุ่นพี่นัดรวมตัวเพื่อแจ้งกำหนดการรับน้องและแจกสมุดเก็บลายเซ็นต์
และคงจะสอนร้องเพลงด้วยมั้ง” เยลโล่เป็นคนตอบ
“แล้วรุ่นพี่ปีสี่จะเข้าด้วยไหม” ไอวี่ถามอย่างตื่นเต้นเธอคาดหวังว่าจะได้เจอคิวหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมาหลายวัน
“พวกพี่ปีสี่เขายุ่งกับโปรเจคจบกันอยู่แต่ก็คงจะมีเข้ามานั่นล่ะ
แต่ถ้าพวกพี่ปีสี่ลงมาก็คงจะต้องเหนื่อยกันหน่อยอ่ะ
เพราะวีรกรรมที่เคยได้ยินมาพวกพี่เขาโคตรโหดและคุมเข้มเรื่องรับน้องมาก..ทำไมถามหาพี่คิว?”
“อือ ไม่ได้เจอคิวมาสองวันแล้วคิดถึง”
“อินี่หลงผู้ชาย” สาลี่ไม่วายมาจีบปากจีบคอด่า
“เรื่องของฉัน” ไอวี่ก็พอรู้ถึงสายตาของทุกคนจึงตอบกลับทำหน้ากวนๆ
เพื่อนๆ จึงเบะปากให้ก่อนจะเลิกพูดคุยแล้วรีบเก็บของกันอย่างรวดเร็วเพราะกลัวเข้าห้องเรียนไม่ทันเวลา
อีกด้านหนึ่งบริเวณใกล้กับมหา’ลัยคิงส์ตันมีร้านกาแฟที่เพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่กี่อาทิตย์
ภายในร้านมีลูกค้าไม่มากส่วนใหญ่จะเป็นวัยทำงานที่มาหาซื้อกาแฟดื่มกันในช่วงเช้า
คิวเองก็เป็นอีกหนึ่งคนที่มาหากาแฟดื่ม แต่จุดประสงค์หลักไม่ใช่เพียงเท่านั้น
คิวเดินไปสั่งกาแฟแล้วจึงเดินไปนั่งตรงโต๊ะมุมร้านใกล้ๆ
กับโต๊ะที่มีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังนั่งทำบางสิ่งกับโน๊ตบุ้คอยู่
“จากที่ลองค้นหาใบหน้าของคนร้ายยังไม่ได้เบาะแสอะไรเพิ่ม
พวกมันซ่อนตัวกันดีจนเกินไป อาจจะมีคนคอยปกปิดล่องรอยให้จึงหาตัวได้ยากมาก รวมถึงข้อมูลลับดำมืดก็มีโค้ดป้องกันระดับสูง
คาดว่าน่าจะมีมือดีคอยคุ้มกันข้อมูลอยู่แน่นอน”
หลังจากที่คิวนั่งลงหญิงผู้หญิงโต๊ะข้างๆ
ก็พูดขึ้นมาแบบลอยๆ แต่ก็ระมัดระวังไม่เผยพิรุธให้ใครสงสัย คิวเพียงโค้งเบาๆ เพื่อทักทายก่อนจะใส่หูฟังไร้สายเอาไว้ที่หูเพื่อกันไม่ให้คนสงสัย
“ผมก็คิดแบบนั้น
เพราะจากที่อยู่ที่นั่นไม่กี่ปีผมรู้สึกว่าข้อมูลบาง อย่างต้องมีการเข้ารหัสหลายชั้นซึ่งผมก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าถึงข้อมูลพวกนั้น”
“แต่คนในเงาพวกนี้ไม่ได้อยู่ในคฤหาสน์นั้นแน่นอนผมมั่นใจ
เพราะจากที่สำรวจผมก็ไม่เห็นว่าจะมีห้องลับหรือมีอะไรที่น่าสงสัย”
“อย่างนั้นก็ต้องขยายวงกว้างสักหน่อยแต่คงต้องใช้เวลา..”
“ระวังด้วยนะครับ”
“เราก็เหมือนกันอย่าทำอะไรที่เสี่ยงจนเกินไปทำอะไรก็นึกถึงคนที่รักและเป็นห่วงด้วย”
“ครับผมจะจำเอาไว้” คิวเผยรอยยิ้มผ่อนคลายขึ้น
ไม่ว่าเมื่อไรคนๆ นี้ก็พึ่งพาได้เสมอ “ป้าช่วยแบ็คอัพวีดีโอในวันที่พ่อผมถูกฆ่ากับอุบัติเหตุของแม่เอาไว้ให้ผมต่างหากด้วยได้ไหมครับ”
“ได้สิแล้วป้าจะจัดการให้”
คิวเผยรอยยิ้มออกมาที่ได้ยินแบบนั้น เขาแอบสำรวจป้าของตนเองที่ดูแข็งแรงดีก็เลิกเป็นห่วงเรื่องสุขภาพกลับกันเขาห่วงอีกเรื่องมากกว่า
“ช่วงนี้ผมคงไม่ได้นัดเจอบ่อยๆ นะครับ
อย่างที่บอกคือมีคนตามดูผมอยู่ คล้ายกับพวกมันก็ไม่ได้ไว้ใจผมร้อยเปอร์เซ็นต์
โดยเฉพาะไม่ใช่เพียงแค่คนเดียวที่ยังสงสัยผม..”
“ได้สิ แล้วช่วงนี้ได้คุยกับแคลร์บ้างหรือเปล่า”
“ครับ ส่วนมากจะหาโอกาสคุยกันตอนอยู่ในมหา’ลัยจะได้ไม่เป็นที่สงสัย” คิวยกกาแฟขึ้นดื่มเพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกต
“อืม ดูแลกันให้ดีนะป้าเป็นห่วง”
คิวเผยรอยยิ้มขึ้นอีกเพราะเผลอไปนึกถึงใบหน้าของน้องสาวตนเองขึ้นมา
“คิว ป้าไม่อยากจะขัดคิวหรอกนะ แต่จะดีหรือที่เราจะยังค้นหาความจริงกันอยู่แบบนี้
ป้าว่าคิวปล่อยวางเหมือนแคลร์ดีไหมใช้ชีวิตใหม่โดยไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้อีก
คิวจะได้มีความสุขเสียที”
คิวได้ยินป้าของตนเองพูดก็เงียบไป เขารู้ว่าป้าเป็นห่วงเพราะตลอดมาป้าก็พูดเตือนเสมอแต่เป็นเขาเองที่ปล่อยวางไม่ได้
“ป้าครับผมบอกป้าแล้วไงว่าผมทำแบบนั้นไม่ได้”
“เห้อ..ที่ป้าช่วยคิวก็ไม่ใช่ว่าจะเห็นด้วยเต็มร้อย
แต่ป้าไม่อยากให้เราทำอะไรด้วยตนเองแล้วเสี่ยง”
คิวเผยรอยยิ้มออกมาเพราะป้าตนเองไม่ใช่ครูสอนคอมพิวเตอร์ธรรมดาๆ
แต่เป็นถึงอดีตมือดีในหน่วยลับเลยทีเดียว มีหลายเหตุผลที่ป้าต้องกลับมาอยู่ที่ไทย แต่เหตุผลหลักๆ
เลยก็คือดูแลน้องสาวของเขา
“ขอบคุณครับ
วันนี้พอแค่นี้เถอะครับผมกลัวใครมาเห็นแล้วป้าจะเป็นอันตราย..ผมไปเรียนก่อนนะ”
คิวไม่ได้หันไปร่ำลาอีกฝ่ายให้เป็นที่สงสัย เขาหยิบเอกสารที่วางไว้บนโต๊ะแล้วเดินออกไปแทน
ลับหลังร่างสูงสายตาของหญิงมีอายุมองหลานชายตนเองด้วยความเป็นห่วง
ถึงจะไม่เห็นด้วยในเรื่องที่หลานชายกำลังจะทำแต่ก็ยอมช่วยเพราะไม่อยากให้หลานลำบาก
และอีกเหตุผลหนึ่งในใจของเธอเองก็อยากจะหาคนผิดที่ทำให้น้องชายและน้องสะใภ้ของตนเสียชีวิตด้วย
แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้หลานชายเลือกที่จะใช้ชีวิตธรรมดาๆเหมือนหลานสาวมากกว่าการเสี่ยงอันตรายแบบนี้
ღ
“ฉันได้ยินพวกกลุ่มของจินมันพูดว่าวันนี้รุ่นพี่จะให้จับสายรหัสกันว่ะ”
อิลี่โพล่งขึ้นมาขณะที่พวกเรากำลังเก็บของเมื่อจบคาบเรียน
“อย่างนั้นพวกรุ่นพี่ก็มากันทุกปีเลยดิ” เยลโล่ถามอย่างตื่นเต้น
“ก็ต้องใช่สิวะวันนี้ล่ะอาหารสายตาเพียบ! และแบบไปส่องในเพจมหา’ลัยมาแล้วนะแบบว่าผู้ชายวิศวะหน้าตาดีทุกชั้นปี!”
“เลิกเพ้อเจ้อได้แล้วสาลี่” ไอวี่ขำขึ้นมาเมื่อดาวเป็นคนพูดขัด
“อ้าวดาวอย่ามาพูดดักคอ ถ้าแกเห็นนะน้ำลายแกหกแน่!”
“พูดอะไรน่าเกลียดสาลี่” ดาวตีไหล่สาลี่อย่างตำหนิ
“ช่างเถอะดาวแกอย่าไปฟังพวกมันนักเลย” ไอวี่พูดขึ้น
“มิ้นท์แกจะไปปริ้นท์งานก่อนแล้วตามไปทีหลังใช่หรือเปล่า”
“อื้อ มีใครจะไปเป็นเพื่อนเราเปล่าอ่ะ”
“เดี๋ยวเราไปกับแก”
ดาวพูดก่อนจะเก็บของเดินแยกกันไป
ฉะนั้นกลายเป็นว่าดาวกับมิ้นจะไปปริ้นท์งาน ส่วนไอวี่สาลี่และเยลโล่จะไปจองที่ที่โรงอาหารกลางก่อน
ภายในโรงอาหารใหญ่ของมหา’ลัย ไอวี่โดนสาลี่สาวสองประจำกลุ่มดึงให้ไปนั่งที่ว่างก่อนจะแยกย้ายกันไปซื้อข้าวของตัวเองและของมิ้นท์กับดาวจากนั้นค่อยกลับมานั่งที่เดิม
ประจวบเหมาะกับที่ดาวกับมิ้นท์มานั่งรวมกันไอวี่จึงพูดสิ่งที่อยู่ในใจขึ้น
“พวกแกไม่ต้องหาข้อมูลของรุ่นพี่ปี 3 ให้แล้วนะ”
“ทำไมวะแกสืบเองแล้วเหรอ” สาลี่ถาม
“อืมฉันให้คนสืบแล้ว ผู้หญิงที่ทำให้คิวยิ้มได้เป็นผู้หญิงคนเดียว
กับแฟนของพี่คินทร์เพื่อนของคิว”
“พี่คิวแอบชอบแฟนเพื่อนเหรอวะ” มิ้นถามอย่างตื่นเต้นตกใจ
“เปล่า เขาบอกว่าแค่เอ็นดูผู้หญิงคนนั้น”
ไอวี่ตอบไปอย่างไม่เต็มเสียงนัก เพราะเธอก็ไม่รู้ว่าคิวคิดกับผู้หญิงที่ชื่อแคลร์อย่างไร
“แกก็อย่าคิดมากเลย กลุ่มพี่คิวอ่ะรักกันจะตายไปพวกเขาคงไม่คิดจะแทงข้างหลังเพื่อนจนเป็นเรื่องเป็นราวทะเลาะกันหรอก
มันคงไม่มีอะไรจริงๆ นั่นล่ะ” สาลี่พูดปลอบก่อนเป็นอันดับแรก เพราะรู้ว่าเพื่อนคุณหนูของตัวเองอารมณ์ร้อนแค่ไหน
“อย่างที่อีลี่ว่าคงไม่มีอะไรจริงๆ ตัวปัญหานี้ตัดไป
แต่ที่แกควรจะสนใจคือยัยพวกนั้นมากกว่า”
เยลโล่ชี้ให้ไอวี่มองกลุ่มผู้หญิงกลุ่มหนึ่งที่นั่งห่างออกไปสามโต๊ะ
“กลุ่มไหน? ทำไมอีก?” ไอวี่ถามขึ้นมาทันที
“พวกนั้นเป็นเพื่อนห้องเดียวกับเรานั่นล่ะ
ชื่อแป้งหอม ดาหลา และเจน ที่ให้ดูก็คือคนที่ชื่อแป้งหอม นางชอบพี่คิวเล็งมาตั้งแต่เปิดเรียนแล้ว
และฉันเห็นนางเขม่นแกมาสักพักแล้วอ่ะ คงเห็นแกกับพี่คิวอยู่ด้วยกันบ่อยๆ ก็เลยสงสัยมั้ง”
“ก็ให้พวกมันลองแซ่มายุ่งกับคิวดูเดี๋ยวก็รู้ว่าเป็นยังไง”
“จะอะไรก็แล้วแต่ขออย่าให้ผิดระเบียบก็พอ
ไม่อย่างนั้นพี่คิวได้มองไอไม่ดีแน่ๆ เขาไม่ชอบเด็กเกเรนะไอ
และตั้งแต่เปิดเทอมมาไอทำผิดกฎระเบียบมาหลายครั้งแล้วเดี๋ยวพี่คิวก็เรียกไปคุยอีกหรอก”
ดาวพูดเตือน
“หึ..แบบนั้นก็ดีน่ะสิฉันอยากจะเจอเขาตลอดเวลาอยู่แล้ว
แต่ไม่ต้องห่วงหรอก ต่างคนต่างอยู่แต่ถ้าหากมาหาเรื่องกันก่อนเมื่อไรฉันก็ไม่ยอมอยู่เฉยๆ
แน่” ไอวี่พูดสวนขึ้นมา
“แรงได้อีกเพื่อนกู” สาลี่พูดขึ้นมาก่อนที่เพื่อนๆ
ที่เหลือจะพยักหน้าเห็นด้วย เพราะเรื่องอื่นไอวี่จะไม่ค่อยสนใจนักแต่ถ้าเป็นเรื่องของรุ่นพี่ปีสี่ที่ชื่อคิว..นางไม่เคยอยู่เฉย
เมื่อเลิกเรียนคาบสุดท้ายเหล่านักศึกษาก็เก็บของแล้วพากันไปออกไปรวมตัวกันที่ลานเกียร์ซึ่งเป็นที่ที่พวกรุ่นพี่นัดทำกิจกรรมรับน้อง
กลุ่มของไอวี่เดินเข้ามาด้านในก็พบว่ามีนักศึกษาหลายกลุ่มเริ่มเข้าแถวกันแล้ว
พวกไอวี่จึงไปเข้าแถวต่อบ้าง
“แกดูพวกยัยแป้งหอมสินั่งข้างหน้าเลยว่ะ คงจะอยากเห็นพวกรุ่นพี่ในระดับ
Full HD ล่ะมั้ง”
“อีพวกนี้มันร้ายจริงๆ” สาลีพูดแขวะ
ยังไม่ทันที่จะได้พูดคุยกันต่อ
พวกรุ่นพี่ปีสองและปีสามก็เดินเข้ามาซะก่อน จากนั้นก็มีพี่ผู้หญิงหนึ่งคนเริ่มออกมาพูดทักทายพวกน้องๆ
“สวัสดีค่ะน้องๆ พี่ชื่อ ‘เพียงฟ้า’ หรือเรียก
‘พี่ฟ้า’ ก็ได้นะคะ ความจริงพี่ไม่ได้มีหน้าที่สำคัญอะไรมากนักแต่อยากจะมากล่าวเปิดพิธีจับสายรหัสเสียหน่อย..”
พอรุ่นพี่ที่ชื่อเพียงฟ้าขึ้นมาพูดก็ได้ยินเสียงโห่แซวของรุ่นน้องปีหนึ่งเป็นอย่างมาก
แต่ละเรื่องคือชมเธอว่าสวยบ้างเรียนเก่งบ้างเป็นที่ชื่นชอบของใครๆ บ้าง ไอวี่สังเกตดูก็เห็นว่าเธอน่ารักอย่างที่ทุกคนพูดจริงๆ
“พี่ผู้หญิงที่ชื่อฟ้าเนี่ยสวยไม่พอยังเป็นถึงดาวของปีที่แล้วเลยนะ
ได้ยินว่าพี่ฟ้าอยู่ในสายรหัสทมิฬสายรหัสที่มีแต่คนหน้าตาดี”
“สายรหัสทมิฬคนแรกเลยก็คือพี่คินทร์เดือนทมิฬปีสี่
ปีสามคือพี่น้ำนิ่งซึ่งเป็นของสูงของคณะ ปีสองคือพี่เพียงฟ้าที่เพิ่งได้ตำแหน่งดาวไปเมื่อปีที่แล้ว
ด้วยความที่สายรหัสนี้มีแต่คนสวยและคนหล่อจึงเป็นที่น่าจับตามองมากที่สุดเพราะไม่รู้ว่าปีนี้ใครจะได้อยู่สายนี้”
สาลี่บอกข้อมูลที่มีให้กับเพื่อนๆ อย่างตื่นเต้น ไอวี่ฟังเงียบๆ ก่อนจะถามขึ้น
“แล้วคิวล่ะ”
“พี่คิวอ่ะนะ? อ่าคนนั้นก็ไม่ใช่ย่อย
สายรหัสของพี่คิวก็มีแต่คนสวยๆ ทั้งนั้นถึงจะไม่เด่นเท่ากับสายของพี่คินทร์แต่โปรไฟล์ก็เทียบเท่า
ฐานะทางบ้านและเบ้าหน้าก็ดีกันทั้งนั้น
แต่ติดตรงเรื่องนิสัยเนี่ยล่ะที่ไม่ค่อยดีมากเท่าไรนัก สายนี้ก็จะมีปีสี่พี่คิว พี่แจงปีสาม
พี่แก้วปีสอง รวมๆ แล้วก็ผู้หญิงหมดยกเว้นพี่คิว แต่ละคนเสวยก็จริงแต่นิสัย...”
“ฉันอยากอยู่สายรหัสเดียวกับคิว” ไอวี่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“ต้องมีดวงไหมคะคุณหนูไอวี่” เยลโล่หัวเราะ
“แกกำหนดไม่ได้หรอกว่ะ แต่ถ้าหากได้อยู่จริงก็โคตรจะพรหมลิขิตเลยว่ะ”
“หยุดคุยก่อนๆ รุ่นพี่ปีสี่เข้ามาแล้ว” มิ้นท์พูดเบรกเพื่อนๆ
ไอวี่แอบมองรุ่นพี่ปีสี่ที่เดินเข้ามาตามหลังด้วยกลุ่มของคิวที่เดินกันมาอย่างเท่
ก่อนที่พี่ปีสี่จะเดินไปนั่งอยู่อีกมุมหนึ่งของลานที่อยู่ด้านหลังของพวกรุ่นพี่ปีสามอีกทีหนึ่ง
และพอพวกรุ่นพี่นั่งเรียบร้อยทั้งห้องก็อยู่ในความสงบไม่มีเสียงคุยของรุ่นน้องอีก
กิจกรรมช่วงแรกมีแค่การแนะนำตัวและแนะนำกลุ่มรุ่นพี่
จากนั้นก็มีการพูดคุยแนวทางของการเรียนและการพูดคุยของรุ่นพี่ปีสองและปีสามเล็กน้อย
ก่อนที่กิจกรรมต่อมาคือการจับสายรหัสรุ่นพี่รุ่นน้องกัน
“ต่อไปพี่จะบอกขั้นตอนการจับฉลากนะครับ วิธีก็ง่ายๆ
เลยครับ โหลจับฉลากแบ่งออกเป็นสองโหลซึ่งโหลทั้งสองนี้จะบรรจุไปด้วยรายชื่อของรุ่นพี่ปีสอง
ซึ่งเดี๋ยวพี่จะเรียกแถวแรกกับแถวสุดท้ายคู่กันน้องก็เดินมาจับฉลากในโหลนี้จับเสร็จก็เดินไปให้พี่แม็กซ์กับพี่กันให้พวกเขาขานชื่อสายรหัส
แล้วรุ่นพี่ปีสองก็จะมารับน้องตัวเองไป”
พี่โบ้ทที่อยู่ปีสองเป็นคนพูดบอกรายละเอียด พอพูดจบพวกรุ่นน้องก็ทยอยกันออกไปจับฉลาก
เริ่มจากแถวแรกที่เป็นแถวของพวกแป้งหอมและแถวสุดท้ายที่เป็นแถวของพวกไอวี่ที่เริ่มเดินคู่กันไปด้านหน้า
“มาลองดูไหมว่าเธอหรือฉันจะมีดวงสมพงษ์กับพี่คิวมากกว่ากัน
ใครกันที่จะได้เป็นสายรหัสพี่คิวและได้เป็นคนสำคัญของเขา”
ไอวี่หันไปมองคนที่สาลี่บอกว่าชื่อแป้งหอม
ซึ่งดูจากออร่านางร้ายที่แผ่มาคือนางต้องการหาเรื่องเธอ
“ก็ไม่รู้สิถึงฉันไม่ต้องจับฉลากโง่ๆ นี่ฉันก็สำคัญกับเขาอยู่แล้ว”
“อย่าสำคัญตัวผิดนักเลยเธอมันก็เป็นแค่ผู้หญิงที่พี่คิวเขาสนใจชั่วครั้งชั่วคราวเหมือนคนอื่นๆ
ก็เท่านั้นล่ะ”
“ก็ดีกว่าคนที่ไม่เคยมีความสำคัญในสายตาของเขาไหมล่ะ?”
“นี่! เหอะ! ก็คอยดูว่าใครจะดวงดีกว่ากัน”
ไอวี่ไม่สนใจคำพูดของอีกฝ่าย
พอถึงเวลาที่ไอวี่จะต้องจับฉลาก ก็เป็นเวลาเดียวกันกับแป้งหอมที่ต้องขึ้นไปจับเหมือนกัน
ทั้งสองคนหยิบฉลากจากโหลแล้วยื่นให้รุ่นพี่ที่อยู่ด้านข้างของตัวเอง
“โอ้ววว ไม่น่าเชื่อ” พี่กันพูดออกมาอย่างตื่นเต้น
“โอ้ววว ใบนี้ก็เกินคาด” ตามมาด้วยพี่แม็กซ์อีกคน
รุ่นพี่ทั้งสองตาโตก่อนจะหันมองหน้ากัน ปฏิกิริยานั้นทำให้ทุกคนหันมาสนใจไม่เว้นแม้แต่รุ่นพี่ปีสอง
ปีสาม และปีสี่ก็ด้วย
“เนื่องจากสองใบนี้เป็นอะไรที่แรร์ไอเทมมากๆ พี่เลยตกใจนิดหน่อยไม่คิดว่าจะสายรหัสสองสายนี้จะออกตั้งแต่แรกเริ่มเลย”
พี่แม็กซ์พูด
“นั่นสิๆ เป็นอะไรที่คาดไม่ถึงจริงๆ บอกได้เลยว่าหากสองสายรหัสนี้มายืนรวมกันลานแห่งนี้จะเจิดจ้าไปด้วยแสงจนแสบตา!!” พี่กันเสริม
“เข้าเรื่องเหอะไอ้กัน” พี่แม็กซ์พูดขึ้นอย่างตื่นเต้น
ไม่ใช่อะไรหรอกเกรงใจพวกรุ่นพี่ปีสูงก็เท่านั้น
“เอางั้นก็ได้..ทุกคนครับที่พี่ถืออยู่ในมือนี้คือใบที่น้องแป้งหอมจับมานะครับ
แล้วอีกใบหนึ่งที่อยู่ในมือพี่แม็กซ์ก็คือใบที่น้องไอวี่จับมาได้ แหมไม่น่าเชื่อเลยว่าน้องสุดสวยทั้งสองจะจับได้สองใบนี้
เอาเป็นว่ามันเป็นอะไรที่เกินคาดอย่างที่บอกกันไป เพราะว่ากระดาษที่อยู่ในมือพี่สองคนนี้เป็นสายรหัสของพี่ระเบียบกับสายรหัสของเดือนทมิฬ!”
พี่กันพูดจบรอบข้างก็ดังไปด้วยเสียงพูดคุย
และแน่นอนว่าทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องต่างให้ความสนใจเพราะไม่คิดว่าสองใบนี้จะโดนจับออกมาตั้งแต่เนิ่นๆ
เป็นที่กล่าวขานกันมาว่าสองสายนี้เป็นสายเทพแต่ละคนโปรไฟล์และหน้าตาดีกันทั้งนั้น
ไอวี่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกใจเต้นตามไปด้วย เธอไม่ได้คิดจะเล่นเกมกับแป้งหอมแต่เธอก็คาดหวังว่าเธอจะได้อยู่สายรหัสเดียวกับคิว
เพราะว่ามันต้องเป็นแบบนั้นสิ โชคชะตาฟ้านำพาคิวมาอยู่กับครอบครัวเธอ
นำพาให้คิวมาอยู่ข้างกายและคอยปกป้องเธอ ก็ต้องนำพาให้เธอได้อยู่ใกล้ๆ เขาต่อไป
ไอวี่มั่นใจว่าจะต้องได้อยู่สายรหัสเดียวกับคนที่เธอหวัง
เพราะหากได้เป็นสายรหัสก็อาจจะทำให้เธอได้ยุ่งเกี่ยวกับคิวในรั้วมหา’ลัยมากยิ่งขึ้นก็ได้ แต่ทว่าเสียงที่รุ่นพี่เปล่งออกมาทำเอาเธอยืนนิ่งไป
“น้องแป้งหอมสายพี่ระเบียบ!! / น้องไอวี่สายเดือนทมิฬคร้าบ!!”
เธอไม่เคยมีดวงเกี่ยวกับเรื่องของคิวจริงๆ...
ขนาดขอแค่นี้เธอยังพลาดที่จะได้อยู่ใกล้ๆ เขาเลย..
หลังจากที่จับสายรหัสรุ่นพี่ปีสองปีสามก็ต่างมารับแล้วพูดคุยรวมถึงมอบของให้รุ่นน้อง
ของที่ว่าก็พวกอุปกรณ์และหนังสือเรียนหรือของต้อนรับจากรุ่นพี่
สายรหัสของไอวี่ก็อย่างที่สาลี่บอก
มีปีสี่ที่ชื่อคินทร์ที่ไม่ได้ลงมาพูดคุย มีก็แต่พี่น้ำกับพี่ฟ้าที่เป็นรุ่นพี่ปีสองและปีสามเข้ามาพุดคุยให้คำ
ปรึกษาและแนะแนวไอวี่ พวกเธอดูเป็นคนน่ารักแล้วก็นิสัยดีซึ่งไอวี่รู้สึกถูกชะตาด้วย
จากนั้นพวกเธอก็ให้ของมาเธอจึงขอบคุณและรับเอาไว้
“อ้าวพี่คินทร์” พี่น้ำกับพี่ฟ้าหันไปมองอีกทาง
ไอวี่หันไปสนใจรุ่นพี่ปีสี่ที่จำได้ว่าเป็นแฟนของผู้หญิงที่ชื่อแคลร์แล้วยังเป็นเพื่อนสนิทของคิว
เขาเดินมาตรงหน้าไอวี่ก่อนจะยื่นถุงกระดาษขนาดใหญ่ให้
ไอวี่รับมาแต่เขายังคงมองไอวี่ด้วยสายตาเรียบนิ่ง
“คำขอบคุณล่ะ” พี่คินทร์
“ขอบคุณค่ะ” ด้วยบรรยากาศรอบตัวของเขารึเปล่าทำให้ไอวี่ต้องตอบรับ
คนชื่อคินทร์พยักหน้าให้ก่อนจะเดินออกไป
“น้องไอวี่อย่าถือสาพี่คินทร์เลยนะเขาเป็นคนพูดน้อยแบบนี้ล่ะ”
พี่เพียงฟ้าดาวคณะบอกออกมาเสียงอ่อน ไอวี่เองก็ยังคงไม่เข้าใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมมา
“อืมปกติก็เป็นแบบนี้ล่ะ
เอาของมาให้แต่ของที่พี่เขาให้มาก็ใช้ได้เกือบทั้งหมด และคาดว่าจะได้เหมือนพวกพี่ล่ะนะ”
พี่น้ำพูดเสริมอีกแรง
“ได้เหมือนกันเหรอคะ?”
“อื้อ
ก็พวกอุปกรณ์การเรียนหนังสืออ่านเสริมอะไรพวกนั้นล่ะ แต่น้องไอวี่ลองเปิดดูสิน่าจะมีอะไรที่แตกต่างจากพวกพี่เล็กน้อยนะ”
พี่ฟ้า
“ใช่ๆ..แล้วก็จะมีอีกหนึ่งอย่างที่พี่คินทร์เขาจะให้
มันเป็นของสำคัญที่มีเฉพาะสายเราเท่านั้นที่ได้ แต่ของชิ้นนั้นเขาคงจะให้ไอวี่ตอนรับน้องเสร็จล่ะนะ”
พี่น้ำพูดให้ลุ้นแต่ไอวี่ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงให้ตอนนี้ไม่ได้
“ทำไมคะ?”
“ถ้าบอกก็ไม่เซอร์ไพร์สนะสิ”
พี่น้ำว่าก่อนจะนัดแนะกำหนดการเลี้ยงสายรหัสให้ไอวี่รับรู้
เธอตั้งใจฟังและไม่ได้มีปฏิกิริยาไม่ดีแก่พวกรุ่นพี่มากนัก
ไอวี่มองไปยังกลุ่มของแป้งหอมที่มีรุ่นพี่ผู้หญิงยืนอยู่สองคนและมีคิวที่เป็นผู้ชายเพียงคนเดียวยืนรวมอยู่ในกลุ่มด้วย
เธอเห็นว่ารุ่นพี่ผู้หญิงทั้งสองให้ของเทคกับแป้งหอมไม่เว้นแม้กระทั่งคิวที่เป็นรุ่นพี่ปีสี่ก็ด้วย
ไอวี่ไม่อยากจะเห็นภาพที่คิวยื่นของให้คนอื่นจึงละความสนใจจากตรงนั้นหันกลับมามองเพื่อนๆ
ที่คุยกับรุ่นพี่เสร็จแล้วเหมือนกัน จากนั้นพวกมันก็นัดคุยก่อนที่จะกลับบ้าน
ระหว่างทางเพื่อนพูดคุยกันแต่ไอวี่ไม่ค่อยได้ฟังเท่าไรนักแต่ก็พอได้ยินว่าใครได้สายรหัสไหนก็สนใจขึ้นมาบ้าง
สาลี่สรุปให้ทุกคนฟังคือกลุ่มของพวกเธอได้สายรหัสรุ่นพี่ในกลุ่มเดียวกัน
เรียงตามคนและชั้นปีคือ
พี่คินทร์
> พี่น้ำนิ่ง > พี่เพียงฟ้า > ไอวี่
พี่ออสติน > พี่นิกซ์ > พี่แม็กซ์ >
ดาว
พี่เคน > พี่เสือ > พี่โบ้ท >
มิ้น
พี่คอปเตอร์ > พี่โจ > พี่กัน >
เยลโล่
พี่คีนส์ > พี่มาร์ก > พี่เซียน >
สาลี่
คิว >
พี่แจง > พี่แก้ว > แป้งหอม
ซึ่งคนสุดท้ายไอวี่ไม่ค่อยจะอยากได้ยินสักเท่าไรนัก
แต่สาลี่มันก็สรุปร่วมด้วย และมันยังเล่าต่อพลางร้องไห้ด้วยความปรีดา
“กูไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดีว่ะที่ได้อยู่ในสายรหัสพี่ว้าก
พี่คีนส์น่ะโคตรหล่อโคตรโหดเลย พี่แกเป็นพี่ว้ากปีสี่แล้วพวกแกรู้อะไรไหมพี่มาร์กพี่เซียนแม่งก็เป็นพี่ว้ากกันหมด”
สาลี่พูดออกมาอย่างเพ้อฝันแต่เพียงแค่สองวินาทีมันก็เปลี่ยนสีหน้าใหม่
“..จากที่ได้ยินมาพี่คีนส์แม่งบังคับสายรหัสให้เป็นพี่ว้ากต่อกันเป็นทอดๆ
พวกพี่แม่งก็แกล้งกูบอกว่าจะให้กูเป็นพี่ว้ากคนต่อไป มึงคิดดูนะหญิงสาวที่รักษาพรหมจรรย์แบบกูเนี่ยจะให้ไปว้ากใครได้วะ
เห็นผู้หล่อๆ กูก็กรี๊ดมาดแตกแล้วอ่ะ!!”
“ฮ่าๆ
ทำไมมึงไม่คิดในแง่ดีอ่ะได้อยู่กับผู้ชายหล่อๆ ถึงสามคนแถมเป็นพี่ว้ากด้วยนะ
หล่อดิบเถื่อนเลยเว้ย!”
เยลโล่แกล้งพูด
“อีโล่กูก็ชอบนะแต่มึงคิดดูว่ากูต้องโดนพวกพี่แม่งแกล้งอะไรอีกมากอ่ะ
ฟินก็ฟินไม่สุดแน่เลยกู”
“แต่น่าเป็นห่วงสุดน่าจะเป็นสายของดาวป่ะวะ สายรหัสเพล์บอย
ทั้งสายเป็นผู้ชายเจ้าชู้กันหมดเลย แล้วยัยดาวแม่งเหมือนลูกแมวน้อยหลงเข้าไปในถ้ำเสืออ่ะ”
มิ้นเสริม
“เออน่าเป็นห่วงจริงๆ ด้วยว่ะ
สายของกูกะมิ้นไม่ค่อยอะไรเท่าไร เป็นห่วงดาวขึ้นมาเลยว่ะ”
เยลโล่พูดก่อนจะลูบหัวดาว
“เราไม่เป็นอะไรหรอกพวกรุ่นพี่คงไม่แกล้งเรา
แต่เราเป็นห่วงไอวี่มากกว่า ไม่เสียใจใช่รึเปล่าที่ไม่ได้อยู่สายรหัสเดียวกับพี่คิว”
ดาวตอบเพื่อนๆ ก่อนจะหันมาถามความรู้สึกของไอวี่อย่างเป็นห่วง
“มันไม่เป็นไรหรอก ถึงไม่ได้เป็นสายรหัสแต่ก็อยู่บ้านเดียวกันนี่”
“อย่าคิดมากนะ” ดาวพูดปลอบใจ
“เรื่องแค่นี้ไม่ทำให้ไอวี่มันยอมแพ้หรอก
ถึงไม่มีเรื่องนี้มันก็ป่วนพี่คิวได้นั่นล่ะ” สาลี่พูดเสริม
“เออจริงๆ เพื่อนเราสตรองจะตายแถมได้อยู่ใกล้ชิดพี่คิวมากกว่าแป้งเหม็นนั่นอีก”
เยลโล่
“ทำไมไปพูดชื่อเขาแบบนั้น เขาชื่อแป้งหอม” ดาวแก้
“โอ้ยดาวแกจะแก้ชื่อใครก็ได้แต่ไม่ใช่ศัตรูของเพื่อนนะ!” เยลโล่
“อย่าทะเลาะกัน บอกแล้วไงว่าไม่เป็นไร
ฉันกลับบ้านก่อนนะ”
ไอวี่ห้ามเพื่อนก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความหาทิม
เธอไม่คิดว่าจะได้กลับกับคิวหรอก
เพราะอีกฝ่ายก็คงจะอยู่คุยกับพวกรุ่นน้องแน่ๆ
“เจอกันพรุ่งนี้นะไอ” ดาว
ไอวี่พยักหน้าให้เพื่อนก่อนจะรอทิมมารับทว่าระหว่างที่ไอวี่ยืนเล่นโทรศัพท์อยู่นั้นโทรศัพท์ที่มือก็สั่นครืดเสียก่อนและคนที่ส่งข้อความเข้ามาคือคนที่เธอไม่อยากจะเห็นหน้าที่สุด
‘อยู่ไหน’
ไอวี่มองข้อความที่มาจากคิว
ก่อนจะตอบกลับอย่างไร้อารมณ์
‘ทำไม’
แต่สิ่งที่อีกฝ่ายตอบกลับมาทำให้ไอวี่ชะงักเท้า
‘วันนี้กลับด้วยกัน’
ไอวี่แปลกใจเล็กน้อยที่คิวชวนกลับด้วย
แต่ก็ไม่คิดอะไรให้มากนักก่อนจะกรอกข้อความตอบกลับไป
‘ฉันรอหน้าคณะ’
ใครจะเป็นสายรหัสคิวก็เป็นไปเถอะ
มันไม่ได้สำคัญอะไรกับไอวี่อยู่แล้ว เพราะถึงยังไงไอวี่ก็มั่นใจว่าสำหรับคิวแล้ว ไม่ว่าจะที่บ้านหรือที่มหา’ลัย หรือที่ไหนๆ ก็ตามเธอจะต้องสำคัญกว่าคนอื่นแน่นอน
บนรถของคิวไอวี่แค่ท้าวแขนมองออกไปนอกกระจก ถึงจะมั่นใจว่าตนเองก็สำคัญมากกว่าคนอื่นนิดหนึ่งแต่การที่เธอเห็นว่าคิวให้ของกับผู้หญิงคนอื่นก็รู้สึกไม่ดีขึ้นมาแล้ว
ไม่ว่ามันจะเป็นหนังสือหรืออะไรก็ตาม
ไอวี่หวงทุกอย่างที่เกี่ยวกับคิว..
“อยู่สายรหัสไอ้คินทร์ก็ทำตัวดีๆ
มันไม่ชอบรุ่นน้องเกเร”
ไอวี่ไม่ได้หันกลับไปมองคนข้างๆ
มองดูรถด้านนอกที่ติดไฟแดงเหมือนกันไปเงียบๆ “พี่คินทร์จะชอบหรือไม่ชอบก็เรื่องของฉันกับเขา
ไม่เกี่ยวกับนายสักหน่อย”
“ก็คงไม่เกี่ยวถ้าหากว่ามันไม่ใช่เพื่อนฉัน”
“เกี่ยวอะไรกันไม่ทราบ หึ..แล้วนายล่ะชอบสายรหัสที่ได้วันนี้หรือเปล่า
ได้ยินว่าสวยๆ กันด้วยนี่” ไอวี่ถามกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ
“เฉยๆ”
“สายรหัสนายมีแต่ผู้หญิงสวยๆ คงชอบล่ะสิ”
คิวไม่ตอบอะไรก่อนจะเอี้ยวตัวไปข้างหลังหยิบถุงกระดาษส่งให้
“อะไร”
“หนังสือเรียน”
ไอวี่ชะงักไป
เพราะลองเปิดดูแล้วมันเป็นหนังสือเรียนสภาพเก่า จากที่ดูเป็นของคนตัวสูงนี่แน่นอนเพราะเธอเห็นว่ามีการเขียนโน๊ตเอาไว้หลายที่
และเธอก็จำลายมือของเขาได้
“นายไม่ได้เตรียมเอาไว้ให้น้องรหัสของนายเหรอ”
เมื่อคิวไม่ตอบไอวี่จึงคิดเข้าข้างตัวเองว่าคิวคงซื้อของใหม่ให้กับน้องรหัสแล้วเตรียมนี่ไว้ให้ตัวเอง
การกระทำของคิวทำให้ไอวี่เข้าข้างตัวเอง มันเหมือนคิวให้ความสำคัญกับเธอก่อนใคร
และนั่นทำให้เธอยิ่งจมลงไปในหลุมที่ลึกยิ่งกว่าเดิม..
ღ
Talk
เอาอีกละ ชอบมาใส่ใจอ่ะผู้ชายคนนี้อ่ะ
ไหนบอกไม่ชอบเขา เข้าหาเขาเพราะจุดประสงค์ไง
หึ้ยยยยยยย
ความคิดเห็น