ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    "ถ้าแน่จริง...ก็จับผมสิ" (CHANBAEK ft.KaiHun LuMin)

    ลำดับตอนที่ #9 : Kapitel 08 : บทเรียนข้อที่หนึ่ง♥

    • อัปเดตล่าสุด 30 มี.ค. 59



    O W E N TM.
    Kapitel 08 : บทเรียนข้อที่หนึ่ง


    (เวลาคนทำผิด...ก็ต้องมีบทลงโทษน่ะถูกไหม?)



              “ผลการชันสูตรศพออกแล้วนะครับผู้กอง” จ่าลีทึกยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลให้กับผู้กองปาร์คทันทีที่เห็นผู้กองปาร์คโผล่เข้ามาในห้องทำงาน “ขอบคุณมากครับจ่าทึก ผมว่าคุณไปนอนพักห้องรับรองก่อนก็ได้นะ ตาคุณจะดำแข่งกับหมีแพนด้าอยู่แล้วเนี่ย”



              “หึหึ ผู้กองก็พูดเกินไปครับ ผมเพิ่งพักไปเล็กน้อย ยังไหวอยู่นิดหน่อยน่ะครับ เพราะเดี๋ยวก็หมดเวรผมแล้ว”



              “นี่คุณกะทำงานให้คุ้มเวลาเลยสินะครับ ฮ่าๆ ขอบคุณอีกครั้งนะครับที่ทุ่มเทให้กับทีมขนาดนี้...ไม่เหมือนใครสองสามคนแถวนี้เท่าไร” ผู้กองปาร์คตบบ่าเป็นการชื่นชมให้กับความเต็มที่ในการทำงานของลูกน้องคนสนิทที่ถึงแม้ว่าจะเพิ่งเข้าทีมมาได้ไม่นานและมียศน้อยที่สุดในทีม แต่ก็ยังคงทำงานได้อยู่ในระดับดีเยี่ยมจนอดคิดไม่ได้ว่า จ่าลีทึกคงจะได้เป็นหมวดลีทึกในอีกไม่นานนี้แล้วแน่ๆ พลางเหล่ตาแซวเหล่าสามาทหารเสือที่เอาแต่กองตัวกันอยู่หน้าจอคอม ดูซีรีย์เกาหลีที่มีพระเอกเป็นทหารด้วยสีหน้าที่ฟินกันชนิดที่เรียกว่า ถ้ามีคดีเข้าตอนนี้แล้วยังดูกันไม่จบตอน สามคนนี้คงไม่คิดจะลุกขึ้นไปจริงๆ



             “ย๊า! หัวหน้า!!” สามเสียงประสานกันโดยไม่ได้นัดหมาย ปาร์คชานยอลทำเพียงหันไปสบตากับจ่าลีทึกแล้วหัวเราะเบาๆในลำคอเป็นอันว่ารู้กัน ก่อนจะเดินเข้าห้องกระจกซึ่งเป็นห้องทำงานเฉพาะผู้กอง



             ไม่ใช่ว่าปาร์คชานยอลปล่อยให้ลูกน้องทีมของตนเองละเลยต่อหน้าที่หรอกนะ เพียงแต่เวลานี้มันค่อนข้างเช้าและยังไม่ถึงเวลาเข้างานของทั้งสามคน เขาเลยปล่อยให้หยวนๆไปก่อน เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมง เราคงต้องลุยงานกันอย่างจริงๆจังๆเสียแล้ว



             ผลการชันสูตรศพพบว่า สภาพร่างกายของผู้ตายนั้นเสื่อมโทรมไปแล้วกว่าครึ่งเนื่องจากการดื่มสุรา เสมือนดื่มมันแทนน้ำ ช่องทางเดินหายใจและเล็บทั้งสิบของผู้ตายมีใยหมอนขนเป็ดซึ่งตรวจดูแล้วตรงกับซากหมอนที่ทิ้งเอาไว้ข้างตัวผู้ตาย กับรอยขีดสีขาวยาวๆบนแขนขวาซึ่งฝ่ายชันสูตรได้ระบุเอาไว้ว่ามันอาจเกิดจากการที่ผู้ตายตวัดมือไปโดนกับสิ่งของข้างกายจนแขนโดนขูด นอกจากที่ว่าไป ร่างกายภายในของผู้ตายก็ไม่มีอะไรบุบสลายไปนอกจากนี้




            ใยหมอนบนนิ้วทั้งสิบ...




             พยายามทำให้เป็นคดีฆ่าตัวตายงั้นหรือ?



            ขณะนี้เป็นเวลาเจ็ดนาฬิกาตรง ซึ่งเป็นเวลาเข้างานของตำรวจทุกคนในสน.อย่างพอดิบพอดี ปาร์คชานยอลไม่ใช่คนชอบข่มเหงลูกน้อง หากว่ามันยังไม่ถึงเวลางานจริงๆ เขาเองก็ไม่อยากที่จะก้าวก่ายเวลาของลูกทีมเท่าไรนัก



             “ผมขอรายงานการลงพื้นที่ด้วยครับฮานิ” เสียงทุ้มที่แฝงไปด้วยความจริงจังเอ่ยบอกผ่านทุกทุกคนในห้อง นั่นทำให้เหล่าตำรวจทีมผู้กองปาร์คทั้งหลายรู้ๆกันดีว่า หมดเวลาสนุกแล้วซี๊



             ผู้หมวดฮานิทำท่าตะเบะอย่างขยันขันแข็งก่อนจะรีบวิ่งออกจากแหล่งมั่วสุม(ซีรีย์เกาหลี)ของหมวดจงแดคนเดิม เพิ่มเติมคือนับวันยิ่งกวนตีน ไปหยิบบันทึกลงพื้นที่ที่จ่าลีทึกและหมวดจงแดลงเอาไว้



             จากการที่ให้จ่าลีทึกและหมวดจงแดลงพื้นที่ไปเมื่อวาน ก็พบว่า มีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้ตาย 4 คน นั่นก็คือ คิมจุนมยอนและเสี่ยวลู่หาน ลูกชายของผู้ตายที่ได้มาให้ปากคำที่สถานีเมื่อเย็นวาน คิม จองฮัน น้องชายของสามีเก่าผู้ตายที่อยู่อาศัยมากับครอบครัวของผู้ตายยาวนานกว่า 10 ปี และคนสุดท้าย คิม จียอน หลานสาววัย15 ขวบ ศึกษาอยู่ชั้นมัธยมในโรงเรียนแห่งหนึ่งระแวกบ้านของผู้ตาย ซึ่งเป็นโรงเรียนเดียวกันกับคิมจุนมยอน



             “บริเวณรอบบ้านนอกเหนือจากสวนหย่อมข้างบ้านพวกนายก็ไม่ได้ไปตรวจตรงไหนเลยหรอ?”



            “ก็อยากไปตรวจอยู่หรอกครัชผู้กองปลั๊กคนหล่อของจงแด แต่เผอิ๊ญเผอิญ นอกจากพื้นที่ต้องห้ามที่เราไม่สามารถไปสืบได้แล้วนั่นก็คือห้องส่วนตัวของทุกๆคนในบ้านยกเว้นสนามหญ้า ห้องผู้ตาย เราก็ไม่สามารถไปตรวจที่ไหนได้อีกเลย”



           “ห้องครัวกับห้องน้ำล่ะครับ?”



           “เดี๋ยวสิท่านหัวหนา ก็เจ๊ผู้กำกับคิมอ่ะดิ ส่งไอ้พวกทีมผู้กองเด็กหน้าละอ่อนให้ไปตรวจพื้นที่สามรอบแล้ว ฝั่งนั้นเขาก็พยายามจะแย่งงานเราให้ได้ พอไปถึงผมก็กับพี่ทึกก็เห็นพวกนั้นอยู่ในบ้านกันหมดแล้ว เลยถูกยัยเจ๊ฮวังไล่เตพิดออกมา ทั้งทั้งที่เอ๊ะ? สรุปคนไปเสือกงานเขาคือผมกับจ่าทึกหรอวะ? แต่ก็นั่นแหละ ด้วยความที่เป็นไอ้จงแดตัวกระจ้อยประจำสน. กับพี่ทึกเด็กใหม่ ก็ต้องจำใจมาตั้งหลักกันใหม่ที่สวนหลังบ้าน เอ้อ! แถบๆบันไดหน้าบ้าน ผมเจอถุงลูกปืนพลาสติกสีขาวกลมๆของเล่นเด็กด้วย ผมว่าน่าจะเป็นของลูกผู้ตายมากกว่าเลยไม่ได้หยิบมา”



           “ลูกปืนพลาสติก?”



           “ใช่! จากนั้นผมกับจ่าทึกก็พากันไปนั่งคุยกับหมาที่สวนหลังบ้าน แล้ว..”



           “หมา?”



           “อ่าห้ะ หมาพันธุ์บีเกิ้ล มันขี้เล่นมากผู้กองรู้ไหม ผมนี่อยากจั—“



           “โอเคนายทำดีแล้วหมวดจงแด”



           “เห้ยจริงปะ! เอ้ย! ขอบคุณขรับผูก๋องของจ๋งแด๋” หมวดจงแดทำหน้าตาตระหนก ลุกขึ้นตบโต๊ะดังฉาด พาลให้หมวดควอนที่อยู่โต๊ะตรงข้ามต้องหันมาทำสายตากินเลือดกินเนื้อใส่หมวดจงแดนั่นแหละ ถึงรู้ว่ากำลังตีโต๊ะล้ำไปโต๊ะของหมวดควอนเข้า



           “ไอหมวดแด...” ควอนยูริกดเสียงต่ำ และคิมจงแดก็ละสายตาจากเขาไปเพื่อตั้งท่าทะเลาะกับหมวดควอนคู่แค้นที่แสนจะรักกันเฉพาะตอนไปก๊งเหล้าเลี้ยงฉลองปิดคดี ปาร์คชานยอลผินใบหน้าออกจากไอพวกลูกน้องตัวแสบทั้งหลายด้วยใบหน้าเบื่อหน่าย ก่อนจะเดินออกมาจากห้องทำงาน “บอสจะไปไหนคะ? คือเห็นผู้กำกับบอกมาน่ะค่ะ ว่าฝั่งทีมผู้กองโอหาหลักฐานและทิ้งน้ำหนักไปทางเป็นคดีฆ่าตัวตายเสียมากกว่าค่ะ บอสคิดยังไงคะ?” ผู้หมวดฮานิเอ่ยรั้งไว้



          “ว่าจะลองไปลงพื้นที่สักหน่อยน่ะครับ ส่วนเรื่องคดีผมขอไม่ด่วนสรุปก่อน ยังไงก็บอกผู้กำกับไว้ให้ด้วยละกันนะครับ อ้อ! แล้วฝากบอกไอสองคนนั้นด้วยนะว่าถ้าทะเลาะกันเสร็จแล้วไปตามผู้ที่เกี่ยวข้องกับคุณคิมเหมยลี่อีกสองคนที่เหลือให้มาสอบปากคำด้วย รายชื่ออยู่ในบันทึกลงพื้นที่บนโต๊ะผม”



           “รับทราบค่าบอสสสสสส แล้วหลังจากนี้บอสจะกลับมาสน.หรือว่าจะไปไหนต่อไหม?”



          “ไปรับสัตว์ครับ”



          “สัตว์? คนอย่างบอสเนี่ยนะเลี้ยงสัตว์?”



          “ครับ สัตว์”ผู้กองหนุ่มเอ่ยยิ้มๆ หมวดฮานิเลิกคิ้วแปลกใจระคนสงสัย ก่อนจะเปลี่ยนเป็นทำหน้าทำตาล้อเลียนผู้เป็นนายทันทีที่เขาบอกว่า




     

           “ก็แค่หมาคันฟันน้ำนมคนนึงน่ะครับ ฝากด้วยนะฮานิ”

     

     



            Park part


           ตอนนี้เป็นเวลาราวๆบ่ายโมงเห็นจะได้  ผมเหลือบมองหน้าจอGPSที่บอกเส้นทางไปยังจุดหมายปลายทางสลับกับทางข้างหน้าเป็นพักพัก เมื่อสักครู่ผมได้รับสายจากผู้หมวดจงแดว่าผู้เกี่ยวข้องของผู้ตายอีกสองคนมาถึงสน.แล้ว พวกเขาบอกว่ากำลังเดินเที่ยวอยู่ในห้างแถวนั้นอยู่พอดิบพอดี และกำลังอยู่ในกระบวนการสอบปากคำ ถ้าหากว่าสอบปากคำเสร็จแล้วเขาจะโทรมาบอกผมอีกครั้งก่อนที่หมวดจงแดจะขอวางสายไปก่อนเพราะถึงคิวสอบปากคำของตัวเองแล้ว



           ระยะทางจากบ้านของผู้ตายและสถานีตำรวจโซลของผมห่างกันหลายสิบกิโล ทำให้การเดินทางไปในครั้งนี้ค่อนข้างล่าช้า




          และมันยิ่งทำให้ผมสงสัย



          โรงเรียนมัธยมปลายที่เสี่ยวลู่หานศึกษาอยู่นั้นไม่ได้ห่างจากสน.ของผมเท่าไรนัก แต่กลับห่างจากบ้านมากมายขนาดนี้ ทั้งที่โรงเรียนมัธยมต้นของคิมจุนมยอนกลับอยู่แถบบ้านของเจ้าตัวแท้ๆ



          อันที่จริง จะว่าไปผมก็ไม่ได้สงสัยเพียงเท่านี้หรอก มันมากกว่านั้น แต่ที่ผมมั่นใจและกล้าที่จะพูดได้เต็มปากด้วยเกียรติของผู้กองผลงานดีเยี่ยมอันดับหนึ่งประจำสถานีตำรวจโซลได้เลยว่า




           นี่คือคดีฆาตกรรม ไม่ใช่คดีฆ่าตัวตาย...



           ซ่าๆ


          หยาดน้ำฝนสาดกระซัดๆลงมาเต็มที่ทันทีที่ เมอร์เซเดสลูกรักของผม หยุดนิ่งอยู่หน้าบ้านเดี่ยวชั้นเดียวที่มีป้ายประกาศแปะหลาว่าคนนอกห้ามเข้า ผมเหลือบตามองนาฬิกาข้อมือก่อนจะพบว่าเป็นเวลาราวๆบ่ายโมงซึ่งผมมีเวลาในการสำรวจเพียง4ชั่วโมงเท่านั้น ก่อนที่จะถึงเวลา 5 โมงเย็น ซึ่งเป็นเวลาเสร็จงานของใครบางคน



           ผมเดินก้าวเข้ามาในบ้านหลังขนาดปานกลางโดยไม่ลืมที่จะโค้งหัวเคารพทั้งที่ไม่มีใครอยู่ก็ตาม



            หรืออาจจะมี...



           ขายาวก้าวเดินตรงมายังห้องแรกที่โผล่ให้เห็นถัดจากห้องนั่งเล่นก่อนที่ผมจะบิดลูกบิดประตูเข้าไปอย่างง่ายดาย กลิ่นสาปอันแสนน่าพะอืดพะอมตีรวนออกมาจากลมที่มาจากการเปิดประตู ทุกอย่างภายในห้องของผู้ตายอย่างคุณคิมเหมยลี่ยังคงวางอยู่ที่เดิมไม่มีร่องรอยของการเคลื่อนย้าย เว้นเสียแต่หลักฐานสำคัญต่างๆที่ได้ถูกนำไปไว้ยังฝ่ายพิสูจน์หลักฐานของสน.โซลเป็นที่เรียบร้อย



           สเปรย์สีดำที่โดนพ่นลงบนเตียงนอนบ่งบอกท่านอนสุดท้ายของผู้ตายนั้นดูเด่นชัดที่สุดในห้อง อ่า..มันเป็นท่านอนตรง ดูเหมือนว่าเธอคงจะตายทั้งที่ไม่ได้รู้อะไรเลย....ตายแบบที่ไม่ทันได้ตั้งตัว



           ผมผินหน้าออกจากเตียง ถัดไปจากนั้นเป็นกรอบรูปที่อยู่บนเคาท์เตอร์ข้างเตียง ซึ่งดูจากภาพของเด็กหนุ่มทั้งสองที่มีหน้าตาพิมพ์เดียวกับคนที่ให้ปากคำผมเมื่อวานนี้และหญิงสาวอีกคนที่โอบกอดพวกเขาไว้ด้วยรอยยิ้ม และถ้าเดาไม่ผิด เธอคือคิมเหมยลี่นั่นเอง



          ผมตรวจห้องของเธออยู่สักพักก่อนที่จะเดินออกมาเพราะไม่มีอะไรผิดเพี้ยนไปจากบันทึกเท่าไรนัก ตอนนี้ฝนเริ่มซาลง ผมเหลือบมองนาฬิกาอีกครั้งก่อนจะพบว่าตัวเองได้เสียเวลาไปราวๆชั่วโมงกับห้องเล็กๆเพียงห้องเดียว



           พื้นสนามหญ้าสีเขียวชอุ่มเปียกแฉะไปด้วยน้ำจากหยาดน้ำฝน ผมเกือบจะลื่นในตอนที่ได้ยินเสียงเห่าของสุนัขจะสวนหลังบ้านและกำลังจะเดินไปดู...อ่า ลูกปืนพลาสติกที่หมวดจงแดพูดถึง ผมหยิบมันใส่กระเป๋าแจ๊คเก็ทแล้วรีบเดินไปยังจุดเกิดเสียง



            หมาน้อยตัวเปียกแฉะพยายามที่จะวิ่งเข้าหาผมอย่างเป็นมิตรทันทีที่มันหยุดเห่าและหันมาเจอผม แต่มันก็ต้องหยุดชะงักและทำท่าหงอยเหงาต่อไปเพราะตัวเองโดนล่ามเอาไว้ติดกับบ้านของมันที่มีชื่อว่า บี แปะหลาอยู่หน้าบ้าน



           “สวัสดี..แกชื่อบีหรอ?” ผมนั่งลงยองๆ ลูบลงบนหัวเจ้าหมาพันธุ์บีเกิ้ลตัวอ้วนฉุเล็กน้อย มันกระดิกหางใหญ่ อาจเป็นเพราะผมเรียกชื่อมันละมั้ง “แกรู้หรือเปล่าว่าใครเป็นคนทำเรื่องแบบนี้กัน หืม?” เจ้าหมาน้อยเงยขึ้นมามองหน้าผมหลังจากที่พยายามมุดหัวลงไประหว่างขาของผมอยู่พักใหญ่ๆ ดวงตาสีดำขลับใสแจ๋วจ้องเข้ามาในดวงตาของผมอาจจะด้วยความรู้สึกสงสัยเพราะหัวของเจ้าบีกำลังหมุนไปมา



            แต่ในตอนที่ผมกำลังจะเอื้อมมือไปลูบหัวมันเพราะความน่าเอ็นดูของมันนั้น มันกลับรีบวิ่งหนีเข้าไปในบ้านของมันเหมือนว่ามีเรื่องสำคัญบางอย่างที่ลืมไป



           และมันก็กลับมาพร้อมกับซองเอกสารสีน้ำตาลที่เปียกชื้นเพียงเล็กน้อย



           หึ ได้หลักฐานสำคัญมาแล้วสิ..



           “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!เสียงหวีดร้องโหยหวน ดังมาจากบ้านหลังถัดไป...นั่นทำให้ผมรู้ว่า




           คดีนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเสียแล้ว



         END Park part



     

     

           บยอน แบค ฮยอน กำ ลัง หัว เสีย อย่าง ที่ สุด !!!



           โว้ยๆๆ ควรจะทำยังไงดีโว้ยยยยย ทั้งที่วันนี้เป็นวันสำคัญที่แบคฮยอนตั้งใจจารึกมันลงในหน้าประวัติศาสตร์การทำงานของตัวเองนั่นก็คือวันที่ได้ถ่ายทำนิตยสารดังระดับโลกอย่าง star board ที่วางแผงจำหน่ายไปทั่วทุกมุมโลกและจะมีภาพในการถ่ายแบบครั้งนี้ของเขาถูกตีพิมพ์เป็นล้านๆเล่มอ่ะคิดดู คือก็ต้องอยากให้มันเพอร์เฟ็คที่สุดปะวะ?




           แต่มันก็ดันพังไม่เป็นท่าเพราะเขาเอาแต่คิดถึงเสียงกับคำพูดของไอผู้กองเมื่อเช้านี้ บ้าเอ้ย!



           เขาไม่ได้รับคำชมเลยสักนิด หนำซ้ำยังโดนพี่PDดุเอาอีกต่างหาก เพราะว่าแววตาเหม่อลอยและดูไร้ชีวิตชีวา แต่ก็อย่างน้อย พี่เขาก็บอกว่ามันยังพอถูไถได้อยู่อาจเป็นเพราะเขาเป็นบยอนแบคฮยอน



            แต่!! ยิ่งเป็นบยอนแบคฮยอนนี่แหละยิ่งถูไถไม่ได้เด็ดขาด!



            ฮือออออ เศร้าเว้ยยยยย



            และเพราะเป็นอย่างนั้นบยอนแบคฮยอนถึงได้ตัดสินใจทำบางอย่าง...หลังจากที่เสร็จงานเขาไม่ยอมโทรไปบอกผู้กองปาร์คหนำซ้ำยังปิดเครื่องและบอกให้พี่มินซอกรีบขี่รถพาไปส่งคอนโดของไอ้ผู้กองเจ้าเล่ห์ทันทีโดยที่เมเนเจอร์นางฟ้าฮยองของบยอนแบคฮยอน มีหรือจะไม่บ่นคนในความดูแล



           แต่ก็นั่นแหละ ต้องอย่าลืมว่านี่ใคร? บยอนแบคฮยอนคนหล่อไงครับ ใครจะสู้?



           และสุดท้าย บยอนแบคฮยอนก็มาจบลงตรง...เคาท์เตอร์ครัวของปาร์คชานยอลและนมหนึ่งแก้วที่กำลังล้นทะลักออกมาเพราะบยอนแบคฮยอนเอาแต่เหม่อคิดถึงคนคนเดิมอีกแล้ว



          ไอบ้าผู้กองปาร์ค!!

        

     


           ปาร์คชานยอลกำลังจะบ้าตาย



           หลังจากที่เขาจัดการคดีซ้อนคดีที่เกิดขึ้นเสร็จด้วยความรวดเร็วเขาก็แยกตัวออกมาหาใครบางคนตามนัดทันที



           แต่เขาโทรหาบยอนแบคฮยอนไม่ติด!!



           และพอโทรไปหาเมเนเจอร์ส่วนตัวของเจ้าตัวกลับพบว่า เด็กคนนี้หนีกลับคอนโดมาก่อนเวลานัดรับระหว่างเขากับบยอนแบคฮยอนไม่กี่นาที!!



           ปาร์คชานยอลกดรหัสและเปิดประตูออกด้วยความระมัดระวัง สิ่งแรกที่เขาเจอคือเจ้าสุนัขพันธ์บีเกิ้ลเพศเมียของบยอนแบคฮยอนกำลังนั่งกระดิกหางอยู่บนเตียงสุดอลังการหน้าห้อง ผู้กองหนุ่มวางเจ้าสุนัขพันธุ์เดียวกันกับเจ้ายูกิอย่างเจ้าบีที่เขาแอบจิ๊กมาเพราะมันดันติดเขาแจ จะให้ปล่อยทิ้งไว้กับบ้านเกือบร้างก็สงสาร ลงบนพื้น พวกมันค่อยๆเข้าหากันก่อนจะดมกันไปมาและเข้าไปนอนด้วยกันอย่างสนิทชิดเชื้อประหนึ่งญาติของฝั่งใดฝั่งหนึ่ง



            ลูกชายตัวล่าสุดของเขาเข้ากันได้ดี..แต่พ่อมันนี่สิ ยังเข้ากับแม่เจ้ายูกิไม่ได้เลย...



            แต่เดี๋ยวก็ได้เข้าแหละเนอะ....



           แผ่นหลังบางของใครอีกคนหนึ่งที่กำลังหันเข้าหาเคาท์เตอร์ครัวกำลังรุกลี้รุกลนแปลกๆ สาเหตุอาจมาจากนมจืดสีขาวที่หกย้อยติ๋งๆลงมากระมัง บยอนแบคฮยอนสะบัดมือที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำนมสีขาวและนั่น...เป็นจังหวะให้เหยี่ยวที่รอตะครุบเหยื่ออย่างปาร์คชานยอลจับหมับเข้าที่ข้อมือของอีกคนแล้วคล้องกุญแจข้อมือดังกริ๊ก



            “บยอนแบคฮยอนคุณโดนจับแล้วครับ



            “เห้ย! อะไรวะผู้กอง!!” ดาราหนุ่มเบิกตาโพลง เสียงนุ่มทุ้มเป็นเอกลักษณ์ที่ได้ยินชัดผ่านรูหูนั้นพาลทำให้เขาขนลุกสู้เพราะมันใกล้เกินไปแล้ว



             โคตรอันตราย



             “ข้อหา..เป็นเด็กนิสัยไม่ดีและทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเดือดร้อนครับ”



             “ห้ะ อะไรว—“



              “และต่อไปนี้...คือบทลงโทษครับ”


    CUT*****ตามหาเอาเอง คริคริ




    TBC


    อุ๊ยยย มะนาวตก อุ๊ยยย ส้มหล่น อุ๊ยๆๆ

    เซอร์ไพรส์ข่าาาาาาาา ของขวัญสำหรับนักอ่านที่ยังคงรอคอยไรท์เตอร์เสมอ ฮรึกปลื้มปีติยินดีเป็นหนักหนา

    เเละเป็นฉากตัดที่แต่งได้แย่จริงๆ555 เห็นใจเค้าหน่อย เค้ากำลังฝึกนะ!!

    เห้ยยย ครั้งนี้เราหายไปไม่นานนะ ทวงบ่อยๆสิอ่อยเเล้วนะ ถถถถ

    สำหรับคนที่ไม่ยอมอ่านฉากตัด...


    มันคือ 1 ใน 3 ของทั้งหมดค่ะคุณพี่

    เอ้อ อย่าคาดหวังกับฉากกรรไกรฉับๆของเราเลยนะ 555 มันยังไม่ถึงเวลา


    กลับเข้าเนื้อเรื่อง ตอนนี้จัดชานแบคให้อย่างจุใจอิ่นหนำสำราญเลยค่ะคุณผู้ช๊มมม ตอนหน้าเราจะจัดชานแบคให้อีกครั้ง (แต่คงไม่ตัดซ้อนตัดหรอก5555555)พร้อมกันคู่เสริมอีกคู่ เป็นคู่ไหนลุ้นเอาเองนะที่รักส์

    สำหรับวันนี้ขอลากันไปด้วยความในใจหนึ่งประโยค

    .

    .

    "อะไรก็เกิดขึ้นได้ถ้ามี โกโก้ครั๊นช์!" บรั๊ยส์555555

    ไม่ใช่ฟิคดราม่า มีแววว่าจะเป็นฟิคตลก

    เรารักพวกนายนะ♥


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×