ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แปลเพลงของ Mili + AWAAWA

    ลำดับตอนที่ #88 : Fly, My Wings [แปลไทย / Limbus Company - Yi Sang]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 458
      9
      5 ก.ค. 66

    Fly, broken wings

    จงบินไป ปีกที่หักของฉัน

    I know you are still with me

    ฉันรู้ว่าเธอยังอยู่กับฉัน

    All I need is a nudge to get me started

    ทั้งหมดที่ฉันต้องการก็แค่แรงผลักให้ฉันเริ่มต้นออกบินเท่านั้น

     

    Fly, broken wings

    จงบินไป ปีกที่หักของฉัน

    To somewhere we can be free

    ไปสู่บางแห่งที่เราจะสามารถเป็นอิสระ

    Closer to our "IDEAL"

    ใกล้กับ “อุดมคติ” ของเรามากขึ้น

     

    Teary Eyed

    ตาปริ่มน้ำ

    Once-gentle soul

    จิตใจที่เคยอ่อนโยน

    I watched as you rotted away

    ฉันเฝ้ามองเธอเหี่ยวเฉาไป

    The mirror says

    กระจกพูดว่า

    That I still remember hope

    ฉันยังจำความหวังได้

    Mmm

    ฮึม~

     

     

    You're doing what you love

    เธอกำลังทำในสิ่งที่รัก

    Isn't that that enough? Isn't that that enough?

    แค่นั้นก็พอแล้วไม่เหรอ? แค่นั้นก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ?

    A genius, perfect job

    งานสมบูรณ์แบบของคนฉลาด

    Isn't that that enough? Isn't that that enough?

    แค่นั้นก็พอแล้วไม่เหรอ? แค่นั้นก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ?

    Again and again

    อีกครั้งและอีกครั้ง

    You locked me down, I locked me down

    เธอกักขังฉันไว้ ฉันกักขังตัวเองไว้

    We staked me to the ground

    เราตอกตรึงฉันไว้กับพื้น

     

    The soil gave me warmth

    ผืนดินให้ความอบอุ่นกับฉัน

     

    Please die, little dreams

    ได้โปรดตายเถอะ ความฝันเล็กๆ ทั้งหลายของฉัน

    Kill the camellias in me

    ฆ่าดอกคามิเลียในตัวฉันที 

    Wouldn't it be easier to give in?

    การยอมแพ้มันง่ายกว่าไม่ใช่เหรอ?

    Why are these hands chasing dreams out of my reach?

    ทำไมมือคู่นี้ถึงไขว่คว้าความฝันที่ไกลเกินเอื้อม?

    Is my thirst for normalcy "ODD"?

    ความกระหายที่ฉันมีต่อความธรรมดามัน “แปลก” เหรอ?

     

     

    Fly, perfect wings (Goodbye, goodbye, goodbye)

    จงบินไป ปีกอันสมบูรณ์แบบ (ลาก่อน ลาก่อน ลาก่อน)

    Where have you been hiding? (Goodbye, goodbye, goodbye)

    เธอไปซ่อนอยู่ที่ไหนมา? (ลาก่อน ลาก่อน ลาก่อน)

    Bring me to the mind that got us started

    พาฉันกลับไปสู้จิตใจที่เป็นจุดเริ่มต้นของพวกเรา

    Fly, perfect wings (Goodbye, goodbye, goodbye)

    จงบินไป ปีกอันสมบูรณ์แบบ (ลาก่อน ลาก่อน ลาก่อน)

    Show them who I can be (Goodbye, goodbye, goodbye)

    ให้พวกเขาเห็นว่าฉันสามารถเป็นได้แค่ไหน (ลาก่อน ลาก่อน ลาก่อน)

    For the one last time, if you will

    ขอแค่ครั้งสุดท้าย ถ้าเธอจะช่วยสักหน่อย

     

    THAT'S ALL*

    แค่นั้นแหละ

     

     

     


    *Ideal, odd, that’s all ภาษาเกาหลีออกเสียงว่า yi sang เหมือนกัน

    สิ่งแรกที่เราคิดหลังอ่านเรื่อง The Wings จบคือ... อิหยังวะ เหมือนจะเข้าใจแต่ไม่เข้าใจอยู่ดี แล้วพอลองไปอ่านผลงานอื่นๆ ของนักเขียนท่านนี้ เราคือแบบ เลิกค่ะ ไม่ต้องเข้าใจมันละ แค่รู้สึกก็พอ 5555

    วันที่ Mili ปล่อยเพลงนี้มาคือวันที่ 25 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นของสงครามเกาหลี การสู้รบระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้พอดี

    ตัวผู้เขียนเรื่อง (The) Wings มีนามปากกาว่า อีซัง เหมือนกับตัวละครในเกม Limbus Company เกิดในช่วงที่จักรวรรดิญี่ปุ่นยึดครองเกาหลี และรู้สึกถูกกดขี่โดยญี่ปุ่นมาตลอด สุดท้ายเสียชีวิตที่โตเกียวด้วยวัณโรคด้วยวัยเพียง 26 ปี (เท่าที่อ่านมาคือ เคยรู้จักกับปู่/ตาของผู้กำกับบงจุนโฮที่กำกับเรื่อง Parasite ด้วย) 

    สไตล์การเขียนมีความ Avant Garde อย่างยิ่งยวด... พูดไงดีล่ะ เขียนแบบไม่รู้เลยว่าจะสื่ออะไร รู้แค่ว่าพูดถึงความไร้จิตวิญญาณของการใช้ชีวิตในดินแดนใต้การกดขี่ของผู้อื่นหรืออะไรทำนองนั้น? เรื่อง The Wings ยังไม่เท่าไหร่ แต่อยากให้ลองไปอ่านบทกวีในชุด Crow’s Eye View ที่ไม่รู้เลยว่าจะสื่ออะไร รับรู้ได้แค่ความรู้สึกสับสน ความหวาดกลัว และความกังวล (บางคนลงความเห็นไว้ว่า เขียนแบบนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงกองเซนเซอร์ของจักรวรรดิญี่ปุ่น และเป็นการพยายามต่อต้านระบบระเบียบในชีวิตและในวงการวรรณกรรม)

    รู้สึกว่าจะมีอะไรเกี่ยวกับกระจกด้วย แต่เราแนะนำว่าให้ลองไปอ่านในส่วน Trivia ของหน้า wikia ของอีซังดีกว่า เพราะเราอ่านไม่รู้เรื่องจริงๆ 555555

    กลับมาพูดเรื่อง The Wings ดีกว่า เป็นเรื่องสั้นที่เล่าผ่านมุมมองของผู้ชายคนหนึ่งที่อาศัยอยู่กับภรรยา(ซึ่งน่าจะเป็นผู้หญิงหากิน)ในห้องที่แบ่งเป็นสองฝั่ง ภรรยาเขาได้ฝั่งที่มีแดดส่อง ส่วนเขาได้ฝั่งที่ไม่มีแดด เขาเป็นคนเฉื่อยแฉะ ตัดขาดตัวเองจากโลกภายนอก นอนทั้งวันทั้งคืนและรอรับข้าวกับเงินจากภรรยา (พูดง่ายๆ คือเป็นเหมือนสัตว์เลี้ยง) ช่วงแรกเขาฆ่าเวลาโดยการดมเครื่องสำอางของภรรยาและเอาแว่นขยายส่องให้กระดาษทิชชู่ติดไฟ พักหลัง เขาเริ่มออกไปเดินแบบไม่มีเหตุผลข้างนอกจนไม่สบายกลับมา (โป๊ะเจอภรรยาตอนอยู่กับ ‘แขก’ พอดี) ภรรยาเขาไม่ชอบใจ เลยให้ยานอนหลับเขาจะได้ไม่ออกมานอกห้องอีก (หรืออาจจะให้มานานแล้ว แต่เขาไม่สังเกต) เขาคิดว่าภรรยาอาจจะแค่หยิบสลับกับยาแก้ปวดเพราะไม่เชื่อว่าภรรยาจะมอมยาตัวเอง สุดท้ายเขาเตร็ดเตร่อยู่นอกบ้านแบบไม่มีที่ไปและขึ้นไปอยู่บนดาดฟ้าห้าง และขอให้ปีกของตัวเองกางออกและให้เขาได้บินอีกครั้ง

    เนื้อเรื่องก็ประมาณนั้น ระหว่างทาง เราจะได้เห็นว่าผู้เล่าเรื่องเปลี่ยนจากคนที่เฉื่อยแฉะขอนอนอยู่ใต้ผ้าห่มอย่างเดียว ไปเป็นคนที่เริ่มรู้จักสิ่งต่างๆ มากขึ้น เขารู้เรื่องค่าของเงินจากการออกไปข้างนอกและการให้เงินกับภรรยา และเริ่มสงสัยในตัวภรรยา ในมุมมองของเราคือ เขาเริ่มตีตัวออกห่างจากการเป็นสัตว์เลี้ยงของภรรยา และฉากสุดท้ายนี้เราขอยกจากฉบับแปลอังกฤษของคุณอันจุงฮโยมา (ทำไมเราหาแปลไทยไม่เจอวะ):

    “My armpits suddenly itched. Ah, it was where my imitation wings had split out. The wings that I had no longer; the deleted phantasms of hope and ambition flashed in my mind like the flipping pages of a pocket dictionary.

     I stopped my pace and wanted to shout.

    Wings, spread out again!

    Fly. Fly. Fly. Let me fly once more.

    Let me fly just once more.” 

    ครั้งหนึ่งเขาเคยมีปีก มีความหวังและความทะเยอทะยาน และตอนนี้เขาอยากให้สิ่งเหล่านั้นกลับมาหาเขาอีกสักครั้ง อีกแค่ครั้งเดียว

    (เคยอ่านผ่านตาว่า goodbye, goodbye, goodbye ตอนท้ายเพลงนี้ ล้อมาจาก fly, fly, fly ในส่วนนี้ของเรื่อง)

    อ่านจบแล้วเรารู้สึกได้อย่างหนึ่งคือ “อยู่ไปไม่เห็นมีความหมายเลยนี่หว่า” คนอื่นเป็นยังไงมาแชร์กันได้ค่ะ

    ก็...เราไม่ได้เล่น Limbus Company เพราะเกมเพลย์ไม่ใช่แนวเท่าไหร่ แต่เราเห็นว่าภาพใน MV คือตัวละครในเกม ตรงกลางก็อีซังชัวร์ๆ แหละ ดาวตรงซ้ายขวาน่าจะเป็นเพื่อนในเซอร์เคิล มดนี่เกรเกอร์ชัวร์ๆ แต่คนอื่นเราไม่รู้ว่าใครเหมือนกัน 555 ใครอยากแชร์มุมมองของเพลงนี้ในส่วนของเกม คอมเมนต์มาได้เลยค่ะ เราอยากรู้เหมือนกัน เห็นว่าอีซังยิ้มด้วย?!

    ถึงวรรณกรรมที่เป็นที่มาของตัวละครจะหดหู่แค่ไหน แต่จากเพลงนี้ เราเห็นได้ว่าปีกยังอยู่กับเราเสมอ และเรายังเป็นคนนั้นที่เราใฝ่ฝันได้ ซึ่งเราว่ามันช่วยให้เราใช้ชีวิตต่อไปข้างหน้าได้นะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×