คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #88 : บทที่ 14 ตาหนูสกอร์เปียส มัลฟอย
บทที่ 14 ตาหนูสกอร์เปียส มัลฟอย
เดือน ธันวาคม ปี ค.ศ. 2003
วันนี้เป็นวันอากาศดีอีกวันหนึ่ง
ถึงแม้หิมะจะปกคลุมไปทั่วคฤหาสน์ก็ตาม
วันนี้ที่คฤหาสน์ครึกครื้นเป็นพิเศษเพราะว่าเป็นวันเสาร์
แอนนากลับมาจากฮอกวอตส์แล้ว
ฟรีเฟ็ตบ้านฮัฟเฟิลพัฟดูมีความสุขที่ได้กลับมาที่บ้านในช่วงวันหยุดคริสมาสต์
อีธานเองก็เหมือนจะปลื้มใจหลังจากถูกคัดเข้าไปอยู่บ้าน กริฟฟินดอร์ตามที่ใจหวัง
ตอนนี้เขาเรียนอยู่ปีที่สามแล้ว
เอล็กซ์ซึ่งเพิ่งเรียนปีแรกในฐานะนักเรียนบ้านเรเวนคลอก็ดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษเพราะลูน่าเข้าไปสอนพวกเขาในวิชาการดูแลสัตว์วิเศษ
(มีอาจารย์ดูแลสัตว์วิเศษสองคนแล้ว!) เลนนี่ก็ยังคงเฝ้ารอคอยที่จะได้ไปฮอกวอตส์ในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้เขายังไม่ได้รับจดหมายเชิญเข้าเรียน
แต่ก็เตรียมพร้อมที่จะไปอย่างเต็มที่ ส่วนอาเธอร์นั้น
ดูท่าว่าเด็กชายตัวน้อยจะไม่ยี่ระเรื่องนั้นเท่าไหร่
เพราะต่อให้ต้องรออีกสามปีก็ไม่หวั่น
อลิซาเบ็ธ (เซเลสเทีย) อยู่ในช่วงที่ต้องดื่มยาต้านคำสาปทุกๆ
สัปดาห์เนื่องจากอาการของคำสาปมาเลดิกตัสเริ่มรุนแรงขึ้น
และเธอเริ่มที่จะควบคุมการแปลงร่างของตัวเองไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
เฮเลนจึงแนะนำให้เธอหยุดทำงานและพักผ่อนอยู่ที่บ้านแทน ส่วนเด็กๆ
ช่วงเปิดเทอมพวกเขาต้องอยู่ที่ฮอกวอตส์อยู่แล้ว
นั่นจึงไม่มีปัญหาถ้าหากอลิซาเบ็ธจะต้องดูแลเพียงเลนนี่และอาเธอร์แค่สองคนระหว่างนั้น
เธอบอกเฮเลนเสมอว่าเธอเก็บทองมากมายเอาไว้ในกริงกอตส์เพราะไม่อยากให้เด็กๆ
ลำบากถ้าหากเธอต้องกลายเป็นปิศาจเต็มตัว
ตาหนูเท็ดดี้เริ่มเติบโตขึ้น
เขาอายุห้าขวบแล้วในปีนี้ และพูดเก่งอย่าบอกใคร
เฮเลนแวะเวียนไปหาเขาที่บ้านบ้างเป็นบางครั้งบางคราว
แอนโดรเมดาดีใจทุกครั้งที่เธอไปหา
และจะดีใจเป็นพิเศษเมื่อเห็นว่าเดรโกพานาร์ซิสซาไปด้วย
บางครั้งพวกเขาไปเยี่ยมพร้อมๆ กับบิล เฟลอร์ ยัยหนูวิกตัวร์และยัยตัวเล็กโดมินิก
เท็ดดี้ดูมีความสุขมากเมื่อเห็นพวกเขา
เดลฟินี่ไม่มีท่าทางเหมือนเด็กมีปัญหา
เธอทำตัวเรียบร้อยจนน่าตกใจทั้งที่ยังอายุเพียงสี่ขวบกว่าเท่านั้น
นาร์ซิสซามักจะคอยดูแลเธอแทนเฮเลนเสมอเมื่อเธองานยุ่ง
เด็กหญิงตัวน้อยมักจะคอยระวังแก้วชาหรือแก้วน้ำที่ถูกวางเอาไว้บนโต๊ะตัวเล็กๆ
อยู่เสมอ เธอเป็นคนเรียนรู้ไวและฉลาดเหมือนกับพ่อไม่มีผิด
เฮเลนก็ยังคงหวังว่าเธอจะได้รับมาเพียงสมองไม่ใช่นิสัยของเขา
เฟร็ดและแคตี้แต่งงานกันในเดือนกันยายน
ปี 2002
ตอนนี้พวกเขามีทายาทตัวน้อยแล้วหนึ่งคนอายุได้หนึ่งขวบและใกล้จะสองขวบในอีกไม่กี่วันนี้
ส่วนจอร์จกับแอนเจลิน่าเพิ่งจะแต่งงานเมื่อสองเดือนก่อนเนื่องจากประสบปัญหาเกี่ยวกับกิจการในร้านเกมกลวิเศษวีสลีย์จึงจำเป็นต้องดูแลร้านเสียก่อนที่จะต้องแต่งงาน
ตอนนี้แอนเจลิน่าเพิ่งออกจากโรงพยาบาลหลังจากคลอดเด็กชายตัวน้อยๆ มาหนึ่งคน
เนวิลล์เขียนมาบอกเฮเลนว่าพวกเขาจัดงานแต่งงานเล็กๆ
พอเป็นพิธีอยู่ที่ร้านหม้อใหญ่รั่ว
แขกในงานคือลูกค้าที่เข้ามาพักและนักเดินทางทั้งหลาย
เขารู้สึกเสียใจที่ไม่ได้เชิญเธอและแฮร์รี่ไป แต่ถึงอย่างนั้นแค่พวกเขามีความสุข
เฮเลนก็พอใจ เธอส่งของขวัญแสดงความยินดีไปให้เขาพร้อมกับแฮร์รี่
ลูน่ากับรอล์ฟยังไม่มีข่าวว่าจะแต่งงานเมื่อไหร่
หลังจากที่รอล์ฟตัดสินใจจะทำงานเก็บเงินเพื่อไปทัวร์รอบโลกเพื่อศึกษาสัตว์วิเศษกับลูน่าก่อนถึงจะแต่งงาน
ลูน่าเคยเขียนมาบอกเฮเลนเรื่องที่แอนนาเกือบทำโบวทรัคเคิลโกรธจนเอาเล็บจิ้มตา
แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ทำได้ดีกับนิฟเฟลอร์ตัวน้อยวัยซนที่ลูน่าเผลอทำมันหลุดออกมาจากกรงนิรภัยที่เต็มไปด้วยทอง
รอนและเฮอร์ไมโอนี่เพิ่งแต่งงานกันเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
ในที่สุดเฮอร์ไมโอนี่ก็ได้ทำความฝันเรื่อง ส.ร.ร.ส.อ. ได้สำเร็จจนได้
เธอไต่เต้าขึ้นไปเร็วมากเสียจนเฮเลนยังอึ้งไม่หาย
รอนเองก็ช่วยเฟร็ดกับจอร์จดูแลร้านเกมกลวิเศษวีสลีย์สาขาฮอกส์มี้ดควบไปกับการทำงานเป็นมือปราบมาร
มันเหนื่อยนิดหน่อยแต่พวกเขาก็ดูมีความสุขดี
แฮร์รี่และจินนี่
ในปีที่ผ่านมาพวกเขามีลูกด้วยกันหนึ่งคน ตอนนี้อายุหนึ่งขวบนิดๆ
แฮร์รี่ตั้งชื่อยาวเฟื้อยให้กับเขาคือ เจมส์ ซีเรียส พอตเตอร์
เด็กชายตัวน้อยมาอยู่ที่คฤหาสน์มัลฟอยนานๆ ครั้ง
เฉพาะเวลามีเทศกาลหรือแฮร์รี่อยากจะมาทานมื้อเย็นด้วยกัน
เขาหน้าตาคล้ายแฮร์รี่มากเสียจนคิดว่าเป็นคนเดียวกัน
แต่ก็ไม่น่ากังวลเพราะเด็กชายดูจะเรียบร้อยกว่าเขาเยอะเลย
ถามถึงตัวเธอและเดรโก
ทันทีที่เฮเลนตกลงแต่งงานกับเขา งานแต่งงานก็ถูกจัดขึ้นหลังจากนั้นหนึ่งเดือน
เฮเลนรู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อยที่จะต้องย้ายมาอยู่ในคฤหาสน์มัลฟอยอย่างถาวร
เอลฟ์ประจำบ้านที่ชื่อท๊อฟฟี่วิ่งเต้นช่วยเธอย้ายของขึ้นไปบนห้องนอนอย่างขมักเขม้น
ช่วงเวลาที่แท็คไม่อยู่มันไปทำงานอยู่ที่ฮอกวอตส์และมันได้รับคำสั่งสุดท้ายจากเขาว่าให้อยู่ที่คฤหาสน์ของครอบครัวมัลฟอยและรอจนกว่าเฮเลนจะมาอยู่ที่นี่จึงค่อยออกมารับใช้
แล้วมันก็ทำเช่นนั้นจริงๆ
"อาการเป็นยังไงบ้างคะเฮเลน
ช่วงนี้" แอนนาถามขึ้นมาทันทีที่มาถึงคฤหาสน์พร้อมอลิซาเบ็ธและน้องๆ
ดวงตามองมาที่หน้าท้องของเฮเลนด้วยดวงตาเป็นประกาย "ไปที่โรงพยาบาลบ้างหรือยังคะ"
"ยังไม่ได้ไปเลย"
เฮเลนตอบพลางหัวเราะน้อยๆ
"ฉันว่าเดือนหน้าจะลองไปหามาดามพอมฟรีย์ดูก่อนน่ะนะ"
"แล้วจะทันเหรอครับ"
อีธานพูดอย่างเป็นห่วง "ถ้าให้ผมนับเวลามันก็อีกไม่กี่เดือนเองนะ"
"อีกสี่เดือน อีธาน"
เดรโกโผล่เข้ามาในห้องนั่งเล่น
เจ้าของเรือนผมสีบลอนด์จางและดวงตาสีซีดเอ่ยขึ้นอย่างสดใส
"อีกสี่เดือนก็จะได้เจอหน้ากันแล้ว"
เดรโกทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาข้างๆ
กับเฮเลน ตอนนี้เธอนั่งอยู่หน้าเตาผิงพร้อมคุกกี้และนมสดหนึ่งแก้ว
คิงสลีย์ไม่แนะนำให้เฮเลนกลับไปทำงานในช่วงที่กำลังตั้งท้อง
ดังนั้นตอนนี้ภาระหนักจึงตกไปอยู่กับเดรโกซึ่งยังสนุกอยู่กับการเล่นควิดดิชหลังเลิกงานที่สนามในเมือง
"รู้สึกนานจังนะครับ" อเล็กซ์พูด
เขานั่งลงอีกข้างหนึ่งของโซฟาในขณะที่อีธานเดินเข้ามาหยิบคุกกี้ไปหนึ่งชิ้น
"กว่าน้องจะได้เข้ามาเรียน ผมก็เรียนจบพอดี"
"แต่กว่าเลนนี่จะเข้าเรียน
ฉันก็คงเรียนจบแล้วเหมือนกัน" แอนนาเบ้หน้าใส่อเล็กซ์ เขายักไหล่เป็นคำตอบ
"แล้วเดลฟินี่ล่ะครับ"
เลนนี่ถาม เด็กชายชะโงกหน้ามาจากหลังโซฟา "ตอนนี้เธออยู่ไหนเหรอ"
อาเธอร์เดินตามเข้ามาที่หลังสุด เด็กชายยังคงใบหน้าเรียบเฉยเหมือนปกติ
เฮเลนยังแอบคิดเลยว่าเขาช่างเหมือนแท็คเสียนี่กระไร
แต่แท็คในวัยเจ็ดขวบเขาก็ไม่ได้เฉยชาขนาดนี้ อลิซาเบ็ธเดินออกไปทางห้องครัว
เฮเลนแน่ใจว่าเธอคงเข้าไปช่วยนาร์ซิสซาทำขนม
สองคนนี้ชอบทำขนมด้วยกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
"เขาอยู่ในห้อง กำลังหลับเลยล่ะ"
เดรโกตอบ "อยากจะไปเจอไหม ฉันจะพาไป -- เดลฟินี่คงดีใจที่ได้เจอแอนนานะ"
"แน่นอนอยู่แล้วค่ะ!"
แอนนายิ้มกว้าง
เดรโกพาพวกเด็กๆ ขึ้นไปชั้นบนห้องเด็ก
เธอยังไม่ได้บอกว่านาร์ซิสซาดีใจมากที่เธอกำลังตั้งท้องทายาทตัวน้อยให้
แต่ถึงอย่างนั้นความรักที่เธอมีให้เดลฟินี่ก็ไม่ได้น้อยลงเลย
นาร์ซิสซายังคงดูแลเดลฟินี่เป็นอย่างดีไม่ว่าจะเรื่องอาหารหรือการดูแลเรื่องเวทมนตร์ในบ้านก็ตาม
เฮเลนไม่ได้แวะเวียนไปเยี่ยมแฮร์รี่ที่กริมโมลด์เพลซมาได้สักระยะแล้ว
วันนี้เธอคิดเอาไว้แล้วว่าเขาคงไม่มาหาที่คฤหาสน์แน่นอนเพราะทุกวันคริสมาสต์ตั้งแต่หลังแต่งงาน
พวกเขาจะแวะเวียนไปทานอาหารและเลี้ยงฉลองที่บ้านของดัดลีย์อยู่ทุกๆ ปี
เธอแทบจะลืมไปแล้วว่าครั้งแรกที่เดรโกต้องเผชิญกับมักเกิ้ลตัวโตกวนประสาทมันเป็นยังไง
ถึงดัดลีย์จะกลับมาเป็นคนดีแล้วแต่เฮเลนก็ยังมั่นใจว่ายังไงปากของลุงเวอร์นอนก็ยังคงทำงานได้ดี
โดยเฉพาะเมื่อลุงเวอร์นอนเห็นเดรโกซึ่งเป็นพ่อมดเลือดบริสุทธิ์ผุดผ่อง
เฮเลนห้ามแทบไม่ทันเมื่อสามีสุดที่รักเกือบจะสาปลุงให้เป็นกบเพราะเขาหาว่าเลือดบริสุทธิ์คือครอบครัวนักต้มตุ๋นหลอกลวง
ภายในห้องนั่งเล่นตอนนี้เหลือเพียงแค่เฮเลนกับความสงบพร้อมนมหนึ่งแก้ว
เธอรู้สึกเยี่ยมยอดที่ไม่ต้องไปบ้านของดัดลีย์ในวันนี้
ไม่อย่างนั้นความหรรษาได้เกิดขึ้นแน่นอน
เสียงกระพือปีกพึ่บพั่บของลาเมียพร้อมกับซองจดหมายที่เท้าและในจะงอยปากมีหนูขาวตัวโตทำให้เฮเลนรู้ว่าเธอจำเป็นต้องเตรียมคำชมเอาไว้ให้มันภูมิใจที่จับหนูขาวมาได้ซึ่งเฮเลนรู้ว่ามันคงไม่ได้เอามากินแน่นอน
เพราะทุกครั้งหลังจากที่มันจับมาได้
มันมักจะบินไปที่กรงนกฮูกด้านหลังคฤหาสน์แล้วโยนลงไปในนั้น
"ขอบใจนะ ลาเมีย"
เฮเลนรับจดหมายมาถือเอาไว้และลูบหัวมันเบาๆ
ลาเมียทำท่าภูมิใจก่อนจะบินออกไปทางหน้าต่างบานใหญ่และตรงไปที่กรงนกฮูก
หญิงสาวหยิบจดหมายที่เขียนชื่อเธอเอาไว้บนหน้าซองมาเปิดออกดู
ถึง เฮเลน่า ลิลี่ พอตเตอร์
ในระหว่างการสอน
ฉันเห็นสิ่งที่ลิลี่เคยสอนฉันในวิชาการป้องกันตัวจากศาสตร์มืดสมัยก่อนแล้วฉันก็คิดถึงเธอขึ้นมา
ฉันมีสัญญาข้อหนึ่งที่เคยให้ไว้กับลิลี่
ว่าในสักวันถ้าหากเราได้มาเป็นครอบครัวเดียวกัน ฉันจะดูแลลูกของเราให้ดีที่สุด
ถึงแม้สุดท้ายฉันจะผิดหวังและหันหลังให้กับมันมานานมากแล้วก็ตาม
แต่ฉันก็ยังจำมันได้ดี
หลังจากที่ฉันได้คุยกับสลักฮอร์นฉันก็คิดว่าฉันเองก็อยากจะทำมันให้เธอเหมือนกัน
ในซองจดหมายมีกลีบดอกของต้นอัสโฟเดลอยู่กลีบหนึ่ง ถ้าหากเธอมีขวดโหลใบเล็กๆ
ขอให้เธอใส่น้ำให้เต็มและใส่กลีบดอกไม้ดอกนั้นลงไป มันจะเป็นสิ่งที่ทำให้เธอต้องตกใจและเซอไพร์ซมากแน่นอน
แอรีอานนา อลิซาเบ็ธ โดโรธีเก่งมากเลยทีเดียวในวิชาของฉัน
ถึงบางครั้งฉันจะมองเห็นเด็กคนนั้นเป็นเธอที่แย่งยกมือตอบแข่งกับเกรนเจอร์ก็ตาม
เขาค่อนข้างชอบที่จะเสกคาถาใส่บ็อกการ์ดที่มักกลายเป็นรูปพ่อแม่ของเขาเสมอ
บางทีเด็กคนนั้นอาจจะกลัวพ่อแม่ของเธอที่สุดแล้วก็ได้
แต่ผลหลังจากใช้คาถาออกมาดูดีทีเดียวเมื่อพ่อแม่บ็อกการ์ดของเธอกลายเป็นคาบาเรต์โชว์ในคณะละครสัตว์
อีธาน พาร์โรแวน
โจนส์ดูท่าจะไม่ชอบใจเวลาเรียนเรื่องกรินดี้โลว์
เขาบอกว่ามันเหมือนปลาหมึกตัวเล็กๆ ที่มีเขี้ยวแหลมๆ ในปาก แถมเขายังชอบเสกคาถาอิมปินิเมนตาใส่มันให้พวกมันว่ายน้ำช้าลงอีกต่างหาก
เด็กคนนี้ทำตัวน่าสนใจอย่างไม่น่าเชื่อ
เอาล่ะ ฉันว่าเรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าหลังจากที่ฉันเกริ่นมาหลายอย่างแล้ว
ที่จริงฉันแค่อยากเขียนมาเล่าให้เธอฟังในหลายๆ
เรื่องที่เกิดขึ้นในฮอกวอตส์หลังจากที่เธอไป
ฉันเองก็อยากรู้ว่าเธอสบายดีไหมหลังจากแต่งงานไปแล้ว ชีวิตการเป็นอยู่ในคฤหาสน์ที่เคยทำร้ายเธอไม่ทำให้เธอหวาดกลัวที่นั่นใช่หรือเปล่า
อ้อ!
แล้วเรื่องที่มัลฟอยพูดเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าที่เธอกำลังจะมีลูก
ยินดีด้วยก็แล้วกันนะ ฉันคิดว่าถ้าดัมเบิลดอร์รู้เรื่องนี้เขาต้องดีใจมากๆ แน่
ฉันเจออาเบอร์ฟอร์ธเมื่อวันก่อน
เขาบอกว่าอยากให้พวกเธอกลับมาเที่ยวที่ฮอกส์มี้ดบ้าง เวลาไหนก็ได้ที่ว่าง เหมือนเขาอยากจะคุยกับพวกเธอเรื่องของอัลบัส
หรือเรื่องที่อัลบัสเล่าให้พวกเธอฟังตอนนั้น
แต่แนคิดว่าความจริงเขาคงเหงามากกว่าที่ช่วงนี้ไม่มีอัลบัสไปเยี่ยมเยือนเขาที่ร้านหัวหมูเหมือนอย่างเคย
ตอนนี้มีแค่ซลักฮอร์นที่เข้าไปหาเขาเดือนละครั้งเท่านั้นเอง
สุดท้าย ฉันฝากขอบคุณแฮร์รี่
พอตเตอร์ด้วยที่พยายามเอารูปฉันไปติดในห้องอาจารย์ใหญ่ข้างๆ อัลบัสจนได้
ไม่มีอะไรน่าภูมิใจไปมากกว่านี้แล้วจริงไหม
ศาสตราจารย์มักกอนนากัลฝากความคิดถึงมาให้พวกเธอด้วย
ฉันคิดว่าพวกอาจารย์คงอยากให้คนในประวัติศาสตร์อย่างพวกเธอเข้ามาเยี่ยมเยือนบ้างเป็นบางครั้งคราวเหมือนกับที่แฮร์รี่
พอตเตอร์เข้ามาช่วยฉันสอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดเทอมละครั้งนั่นล่ะ
ด้วยรัก
เซเวอร์รัส
สเนป
เฮเลนยิ้มกว้างเมื่อสเนปยังคงเขียนชื่อเดิมของเธอลงบนซองจดหมาย ที่จริงตอนนี้ชื่อเต็มๆ ของเธอก็คือ เฮเลน ลิลี่ มัลฟอย มันดูทะแม่งๆ นะว่าไหม
"นั่งยิ้มอะไรอยู่น่ะ" เดรโกเดินกลับมาแล้วในขณะที่เฮเลนวางจดหมายลงบนโต๊ะและคว้าแก้วนมขึ้นมาดื่ม "มีใครเขียนจดหมายมาหางั้นเหรอ"
"สเนปน่ะ" เฮเลนตอบ เธอดื่มนมรวดเดียวหมดแก้ว "เขาบอกอยากให้พวกเรากลับไปที่ฮอกวอตส์บ้าง -- จะว่าไป -- นายเขียนจดหมายไปหาเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน"
"เปล่า ฉันไม่ได้เขียนสักหน่อย" เดรโกส่ายหน้าและทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ เฮเลนอีกครั้ง มือเรียวลูบเบาๆ บนหน้าท้องที่นูนขึ้นมาเพื่อเป็นที่รองรับตัวอ่อนที่อยู่ภายใน "ฉันไปเจอเขามาต่างหาก วันที่สลิธีรินแข่งควิดดิช พอดีวันนั้นเป็นเวรฉันที่ต้องไปรายงานผลการลงมติการแข่งขันควิดดิชเวิลด์คัพก็เลยแวะไปดูสักหน่อย แล้วฉันก็เจอเขา"
"ก็เลยบอกเขาว่าฉันกำลังท้อง?" เฮเลนเลิกคิ้วใส่เขา
"มันก็น่ายินดีไม่ใช่หรือไง" เดรโกพูด เขาก้มลงเอาหูมาแนบเข้ากับท้องนูนๆ ของเธอ "เนอะ พ่อหนุ่มน้อยของพ่อ"
เฮเลนหัวเราะ
"เรียกแต่พ่อหนุ่มน้อยมาตั้งนานแล้ว" เฮเลนว่า "แล้วชื่อล่ะ ชื่อ ถ้านายไม่ตั้งฉันจะตั้งเองแล้วนะ"
"เดี๋ยวสิ! ให้เวลาฉันคิดหน่อยไม่ได้รึไง" เดรโกเงยหน้าขึ้นมองเธอพลางขมวดคิ้ว "ฉันอยากจะให้ลูกชายฉันมีชื่อเท่ๆ สักทีไงล่ะ"
"สกอร์เปียส มัลฟอย" เฮเลนพูดขึ้นมาทันที "ฉันอยากใช้ชื่อนี้"
"หืม" เดรโกทำท่าคิดนิดหน่อย ก่อนจะเอาหูมาแนบที่ท้องของเธออีกครั้ง "ว่าไงครับ ชอบชื่อนี้ไหม หนุ่มน้อยของพ่อ -- ว่าไงนะ -- ชอบมากเลยเหรอ -- ดีๆ งั้นเราชื่อนี้เลยเนอะลูก"
เฮเลนกลอกตาไปมาเล็กน้อยกับท่าทางเห่อลูกของเขา แต่ก็อดยิ้มไม่ได้ที่เดรโกกลายเป็นคนที่ชอบที่จะอยู่กับเด็กๆ และดูอบอุ่นขึ้นมากกว่าเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง เขาดูแลเธอเป็นอย่างดีมาตลอด บางครั้งเธอหงุดหงิดเขาก็จะใช้วิธีกอดหรือหาอะไรมาทำให้เธอใจเย็นแล้วจึงง้อ (แต่ตอนยังไม่ท้องนี่ส่วนใหญ่ง้อบนเตียง ซึ่งเธอไม่ปลื้มเอาเสียเลย)
"งั้นเขาจะชื่อสกอร์เปียส ลูเซียส มัลฟอยนะ" เดรโกพูด ดวงตาสีซีดจ้องมองที่ท้องของเฮเลนด้วยสายตาประหลาด ดีใจมากแต่ก็ปะปนด้วยความเศร้าเล็กน้อย "ชื่อกลางจะเป็นเชื่อของคุณปู่ของเขาที่เสียไป ฉันว่าเขาคงชอบแน่"
เฮเลนพยักหน้า นอกจากเรื่องของลูเซียสที่ทำให้เดรโกฝังใจกับมันแล้วก็ไม่มีเรื่องอะไรที่ทำให้เขาเจ็บปวดหัวใจไปมากกว่านี้อีกแล้ว
เดือน เมษายน ปี 2004 ณ โรงพยาบาลเซนต์มังโก
เดรโกเดินกระสับกระส่ายอยู่หน้าห้องฉุกเฉินที่ไม่สามารถเข้าไปข้างในได้ โรงพยาบาลเซนต์มังโกมีตึกแยกสำหรับผู้ป่วยหญิงที่จะคลอดลูกอยู่ห่างจากโรงพยาบาลเซนต์มังโกเพื่อผู้ป่วยและบาดเจ็บไปไม่ไกลนัก เฮเลนเข้าไปในห้องได้ราวๆ สองชั่วโมงแล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะออกมาด้านนอก รอนและเฮอร์ไมโอนี่ที่ตอนนี้ท้องโตใกล้คลอดกับแฮร์รี่และจินนี่ก็อยู่ที่นี่ด้วย จินนี่เพิ่งคลอดอัลบัสไปได้เมื่อเดือนก่อน เธอได้แต่ปลอบเดรโกให้ใจเย็นเอาไว้ เฮเลนจะไม่เป็นไร แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะกังวลอยู่ดี
"คุณมัลฟอยคะ" ไม่ช้าผู้บำบัดก็ออกมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้างๆ "ภรรยาของคุณปลอดภัยดี เราจะส่งตัวเธอไปที่ห้องพักฟื้นพิเศษพร้อมกับลูกชายของคุณนะคะ -- เขาแข็งแรงดีมาก"
เดรโกแทบทรุดลงไปกองกับพื้นด้วยความโล่งใจ เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มกว้าง กอดแขนรอนอย่างดีใจ แฮร์รี่ตบบ่าเดรโกเบาๆ อย่างยินดีในขณะที่จินนี่แสดงอาการโล่งอกอย่างเห็นได้ชัด เธอขอตัวกลับก่อนเนื่องจากต้องรีบไปดูแลอัลบัสตัวน้อยที่ฝากนางวีสลีย์เอาไว้ พวกเขาจึงยังอยู่ที่นี่เพื่อรอไปพบเฮเลนที่ห้องพักฟื้น
"ดีใจด้วยที่สกอร์เปียสแข็งแรงดี" แฮร์รี่ตบบ่าเดรโกอีกรอบ "เราไปหาเฮเลนกันเถอะ"
เดรโกพยักหน้าและเดินตามผู้บำบัดไปตามด้วยแฮร์รี่ รอนและเฮอร์ไมโอนี่ พวกเขาเดินผ่านห้องพักฟื้นมากมายจนกระทั่งไปถึงห้องที่ติดป้ายมัลฟอยเอาไว้หน้าห้อง ผู้บำบัดที่มาส่งพวกเขายิ้มและผายมือเชิญให้พวกเขาเข้าไปได้เลยก่อนจะเดินจากไป
"ตื่นเต้นจริงๆ" เดรโกพูดพลางสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ
"ตอนแรกที่จินนี่คลอดฉันก็เป็นเหมือนนาย" แฮร์รี่พูดพลางหัวเราะเล็กน้อย "ใจเย็นๆ นะเดรโก"
เดรโกพยักหน้า เขามองรอนและเฮอร์ไมโอนี่เล็กน้อย
"เดี๋ยวนายก็จะเป็นคนต่อไป วีสลีย์" เขาหัวเราะเบาๆ "กำหนดเมื่อไหร่ล่ะ"
"น่าจะต้นเดือนหน้า" เฮอร์ไมโอนี่ตอบพลางลูบท้องของตนเบาๆ "ฉันหวังว่าเขาจะแข็งแรงเหมือนกัน"
"แน่นอนอยู่แล้ว ต้องแข็งแรงสิ" รอนพูด "ฉันบำรุงอย่างดีทุกวันเลยนี่นา"
พวกเขาหัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน ก่อนที่แฮร์รี่จะพยักเพยิดให้เดรโกรีบเดินเข้าห้องพักฟื้นไป ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ อีกครั้งก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในห้องเบาๆ
ภาพแรกที่เห็นคือหญิงสาวเรือนผมสีน้ำตาลเข้มเหลือบดำกำลังนอนหลับอยู่บนเตียงผู้ป่วยสีขาว ในอ้อมแขนของเธอมีเด็กทารกตัวเล็กๆ อยู่เคียงข้าง เด็กชายตัวน้อยมีผมสีบลอนด์จางๆ เหมือนเขาไม่มีผิดเพี้ยน ดวงตาทั้งสองข้างของสกอร์เปียสยังคงปิดสนิท เด็กชายไม่ร้องไห้งอแงแต่อย่างใด มือเล็กๆ ที่กำอยู่ช่างน่าสัมผัสและเมื่อมองเขาก็ทำให้เดรโกรู้สึกอยากจะโอบกอดเด็กน้อยเอาไว้ในอ้อมแขนของตนเองเสียจริงๆ
"รู้สึกดีใช่ไหมล่ะ" แฮร์รี่ว่า "ฉันน่ะอธิบายไม่ได้เลยว่าตัวเองมีความสุขมากแค่ไหนตอนเห็นหน้าเจมส์ครั้งแรก"
เดรโกไม่ได้ตอบอะไรแฮร์รี่ เขารู้สึกเหมือนความสุขมันจุกอยู่ในอกและตื้นตันจนอยากจะร้องไห้ เด็กชายที่ทำให้เขาหลงรักได้ตั้งแต่ยังไม่ลืมตาดูโลกคนนี้ช่างวิเศษยิ่งกว่าสิ่งใด นอกจากเฮเลนที่เขาคิดว่าพระเจ้าประทานเธอมาให้เพื่อส่องแสงสว่างในชีวิตให้กับเขาแล้ว ยังมีเด็กชายตัวน้อยที่เขารู้สึกว่าเฮเลนเป็นเหมือนกับพระเจ้าที่ประทานของขวัญอันมีค่านี้ให้แก่คนอย่างเขา
"หน้าเหมือนนายไม่มีผิดเลย เดรโก" รอนพูดเขาชะโงกหน้ามองเด็กทารกตัวน้อยพลางอมยิ้ม "นิสัยจะเหมือนนายตอนเด็กด้วยหรือเปล่าเนี่ย"
"หุบปากน่า วีสลีย์" เดรโกยิ้มแยกเขี้ยว เขาไม่ได้ละสายตาไปจากสกอร์เปียสเลยแม้แต่วินาทีเดียว "เขาอาจจะหน้าตาเหมือนฉัน แต่อาจจะได้นิสัยเฮเลนมาก็ได้ใครจะรู้"
"นั่นสินะ" เฮอร์ไมโอนี่ทำท่าเห็นด้วย "เดรโกกับเฮเลนน่ะกล้าหาญ เขาต้องได้ตรงนี้มาเต็มๆ แน่ -- ฉันว่าเราคงต้องคิดว่าเขาจะกล้าหาญแบบไหน กล้าที่จะสละชีวิตเพื่อตัวเอง หรือกล้าที่จะรักษาชีวิตตัวเอง"
"ถ้าเหมือนเดรโก ฉันว่าเขาคงกล้าที่จะรักษาชีวิตตัวเองมากกว่าล่ะนะ" รอนล้อเลียน
แฮร์รี่กลอกตาเล็กน้อยให้กับความกวนประสาทของรอน เขามองเดรโกที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุขไม่เหมือนกับคนเก่าเขาก็รู้สึกว่าเฮเลนทำให้เดรโก มัลฟอยคนนั้นหายไปจากโลกนี้ได้แล้วจริงๆ จอมหยิ่งผยองคลั่งเลือดบริสุทธิ์ หรือยอดยี้งี่เง่านั่นได้ตายไปแล้ว เหลือแต่เดรโกคนนี้เท่านั้นเอง
"เสียงดังกันจริงๆ นะ" เจ้าของเสียงแหบแห้งพูดขึ้น ดวงตาสีเขียวค่อยๆ ปรือขึ้นอย่างช้าๆ "ขอให้ฉันได้พักหน่อยไม่ได้หรือไงกัน"
"เฮเลนฟื้นแล้ว!" เดรโกร้อง "เป็นยังไงบ้าง อยากดื่มน้ำไหม เจ็บมากหรือเปล่า"
และคำถามอีกเป็นร้อยๆ คำถามที่แฮร์รี่ รอนและเฮอร์ไมโอนี่ได้ฟังแล้วยังอดหัวเราะไม่ได้
"ใจเย็นๆ นะเดรโก" เฮเลนบอกพลางยิ้มเล็กน้อย "คอแห้งนิดหน่อย ขอน้ำเปล่าก็แล้วกันนะ"
หลังจากที่ทุกคนทำให้เดรโกสงบลงได้แล้ว เหมือนทุกๆ อย่างจะกลับสู่ภาวะปกติ แฮร์รี่ขอตัวกลับไปทำงานต่อเพราะเขาลางานเอาไว้เพียงแค่ครึ่งวัน แถมอีกไม่นานสอบเลื่อนระดับในกระทรวงก็กำลังจะมาถึงแล้วเสียด้วย เฮเลนจึงปล่อยให้เขากลับไปก่อน
"ฉันตื่นเต้นจังเลยนะ" เฮอร์ไมโอนี่พูด "ฉันจะได้เห็นหน้าลูกแล้วเหมือนกัน"
"มันไม่เจ็บหรอกเฮอร์ไมโอนี่" เฮเลนบอกเธอที่ทำหน้ากังวลเล็กน้อย "บางทีฤษฎีก็เขียนเกินจริงไปหน่อย"
"มันก็คงจะอย่างนั้น" เฮอร์ไมโอนี่ตอบ "พักผ่อนเยอะๆ ล่ะ แล้วเจอกันนะ เฮเลน"
เฮเลนพยักหน้า เธอเหลือบตามองเด็กทารกตัวน้องในอ้อมแขน เฮอร์ไมโอนี่สัมผัสเเก้มนุ่มนิ่มของสกอร์เปียสเล็กน้อยก่อนที่จะเรียกรอนให้พาเธอกลับบ้าน ในที่สุดตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่สามคนพ่อแม่ลูกในห้องพักฟื้นของโรงพยาบาล
เดรโกเดินเข้ามาจุมพิตลงบนหน้าผากของเธออย่างแผ่วเบา สัมผัสของริมฝีปากอุ่นๆ ทำให้เฮเลนคลายความกังวลและความเครียดไปจนหมดสิ้น ตาหนูสกอร์เปียสยังคงหลับปุ๋ย เธอคงโชคดีมากที่ได้เขามาเกิดเป็นลูกชาย
"ขอบคุณนะเฮเลน" เดรโกกระซิบ "ขอบคุณมากๆ"
"เรื่องอะไรงั้นเหรอ"
"เรื่องที่เธอเป็นของขวัญ" เขาบอก "และเรื่องที่เธอมอบของขวัญให้กับฉันยังไงล่ะ"
เฮเลนหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะพูดว่า "ถ้าฉันไม่รักนาย นายก็คงไม่ได้อะไรแบบนี้หรอก"
เดรโกเลื่อนหน้าผากของเขามาชนกับหน้าผากของเฮเลนเบาๆ ดวงตาสองคู่สอดประสานกันเป็นหนึ่งเดียว
"ต่อให้เธอไม่รักฉัน ฉันก็จะทำให้เธอรักฉันอยู่ดีนั่นล่ะ"
ติดตามตอนต่อไป...
ความคิดเห็น