ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fanfic Harry Potter] [OCxDM] If Harry Potter has a sister!

    ลำดับตอนที่ #85 : บทที่ 11 ความทรงจำของแท็ค (3)

    • อัปเดตล่าสุด 20 ม.ค. 65


    บทที่ 10 ความทรงจำของแท็ค (3)

    ความทรงจำนั้นกระจายตัวออกและก่อขึ้นใหม่ พวกเขายืนอยู่ในห้องทำงานอาจารย์ใหญ่และดัมเบิลดอร์นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเดิมอันแสนคุ้นตาโดยมีแท็คยืนอยู่ฝั่งตรงกันข้ามใบหน้าของเขาเรียบเฉยและมองดัมเบิลดอร์ด้วยแววตาว่างเปล่า

    'เขาพาใครมาพบเธอล่ะ' ดัมเบิลดอร์ถาม ดวงตาสีฟ้าสดใสยังคงฉายแววขี้เล่นดังเคย 

    'อลิซาเบ็ธ มอร์ริแกน แม็คมาเวลล์  เป็นเป็นน้าของผมครับ แต่เธอเป็นคนที่เลี้ยงผมมาในตอนนั้น' แท็คตอบดัมเบิลดอร์ เขากำลังพยายามไม่ให้ดัมเบิลดอร์พินิจใจเขาเหมือนกับที่ทำกับคนอื่นๆ 'ในที่สุดแล้วผมก็ต้องเรียกเขาว่าพ่อ... ผมไม่ชอบอะไรแบบนั้นเลย'

    'แต่ถ้าทำเพื่ออลิซาเบ็ธ ก็ต้องยอมใช่ไหม' ดัมเบิลดอร์ยิ้มอย่างอ่อนโยน แท็คพยักหน้ารับ 'แล้วตอนนี้เธออยู่ไหนล่ะ'

    'ผมพาเธอไปอยู่ที่บ้านหลังเล็กๆ ในลอนดอนครับ แล้วก็เปลี่ยนชื่อให้เธอใหม่' แท็คพูด

    ดัมเบิลดอร์พยักหน้าอย่างเข้าอกเข้าใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า 'แล้วฉันจะติดต่อทางกระทรวงให้ในเรื่องนี้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นฉันจะรับผิดชอบให้เอง'

    แท็คพยักหน้ารับและไม่พูดอะไรต่อ

    'แล้วเธอเป็นยังไงบ้างล่ะ' อยู่ๆ ดัมเบิลดอร์ก็เอ่ยถามในสิ่งที่เขาไม่เข้าใจ 'ได้พบกันอีกครั้ง รู้สึกดีไหม'

    'แน่นอนสิครับ' แท็คพูด 'แต่ผมรู้ว่าคุณไม่ได้หมายถึงอลิซาเบ็ธแน่'

    ดัมเบิลดอร์เลิกคิ้ว แววตาของเขาซ่อนเอาไว้ด้วยความซุกซนและแอบแฝงการล้อเลียนเอาไว้เล็กน้อย เเท็คยกยิ้มขึ้นมาบางๆ แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร ก่อนที่ความทรงจำนั้นจะสลายไปและก่อตัวขึ้นใหม่ในที่ใหม่อีกครั้ง

    'ผมว่าคุณอย่าต่อรองดีกว่า คุณมัลฟอย' แท็คยืนอยู่ในคฤหาสน์มัลฟอยและประจันหน้าอยู่กับเดรโกและนาร์ซิสซา โวลเดอมอร์ยืนยิ้มกว้างอยู่ทางด้านหลังเขา 'มันคือหน้าที่และมันถึงเวลาแล้วที่คุณต้องทำงานแทนพ่อของคุณที่ทำงานพลาดจนต้องตาย'

    'ฉันรู้แล้วน่า!' เดรโกตอบแท็ค เขาเหลือบตาไปมองโวลเดอมอร์อย่างเกรงๆ 'ฉันก็แค่ต้องพาพวกป้าๆ เข้าไปในโรงเรียนให้ได้ก็พอใช่ไหม'

    'และต้องทำให้ได้เสียด้วย เดรโก' โวลเดอมอร์พูดเสียงเย็นเฉียบ 'ถ้าหากว่าแกพลาด ยัยเด็กนั่นจะต้องตายเหมือนพ่อของแก ความหวังของแกจะต้องพังพินาศ'

    ไม่ใช่แค่เดรโกเท่านั้นที่ตะลึงกับประโยคนั้น แท็คเองก็เช่นกัน แต่เขาพยายามข่มตัวเองไม่ให้โวลเดอมอร์เข้าถึงจิตใจของเขา เพราะโวลเดอมอร์รู้ดีว่าแท็ครู้สึกอยากจะปกป้องเฮเลนเหมือนกับที่อยากจะปกป้องอลิซาเบ็ธ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้เหตุผลนั้นก็ตาม และวันนี้เป็นวันที่เดรโกตัดสินใจจะไม่ให้เฮเลนรู้ว่าเขากำลังทำอะไรและแท็คตัดสินใจว่าจำเป็นต้องทำให้เดรโกรู้สึกว่าตัวเองถูกต้อนจนทำงานสำเร็จ ไม่อย่างนั้นทุกอย่างอาจจะพังพินาศอย่างที่เขาบอกก็ได้ 

    'ครับ' เดรโกตอบโวลเดอมอร์อย่างหนักแน่น 'ผมจะทำ'

    จบประโยคนั้นความทรงจำก็สลายไปและก่อตัวขึ้นมาใหม่ พวกเขาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งที่ลานน้ำพุตรงม้านั่งตัวประจำที่เฮเลนมักจะชอบนั่งบ่อยๆ ร่างบางสะดุ้งเฮือกเมื่อเห็นความทรงจำนี้และเหล่มองเดรโกที่ยืนอยู่ข้างกายเป็นระยะ ซึ่งมันเป็นความทรงจำที่เธอไม่อยากให้เขารู้มากที่สุด!

    จะให้รู้ได้ยังไงว่าเธอจูบกับแท็คเพื่อหลอกให้เขาเผยตรามาร!

    ตอนนี้เธอกับแท็คกำลังนั่งคุยกันและมองดาวบนท้องฟ้าเบื้องบน

    'ผมออกมาสูดอากาศ' แท็คพูด 'มีเรื่องให้ผมต้องคิดอีกเยอะเลยล่ะครับ'

    'เรื่องอะไรล่ะ' เฮเลนตั้งคำถาม แท็คทำท่าคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะเอ่ยตอบว่า 'ก็หลายเรื่องครับ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องคุณ'

    'งั้นแสดงว่านายให้ความสำคัญฉันมากเป็นพิเศษเลยล่ะสิ' เฮเลนยิ้ม 'รู้สึกดีที่รู้แบบนั้น'

    แท็คหัวเราะเบาๆ อย่างที่เขาไม่เคยทำมาก่อน เด็กสาวตรงหน้าทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่าไม่มีอะไรสดใสไปมากกว่าเธอในตอนนี้แล้ว แม้กระทั่งท้องฟ้ายามแดดอบอุ่นในช่วงหน้าร้อนก็ไม่อาจสนใจไปมากกว่าเธอได้เลย

    'นายดูดีมากเลยนะตอนยิ้ม' เธอพูดต่อ แท็คชะงัก 'ลองยิ้มบ่อยๆ สิ เผื่อสักวันฉันอาจจะชอบนายก็ได้'

    แล้วความทรงจำนั้นก็จางหายไป เฮเลนลอบถอนหายใจเฮือกใหญ่จนเดรโกยังทำหน้าสงสัย ในขณะที่แฮร์รี่ รอนและเฮอร์ไมโอนี่ยังคงรอคอยความทรงจำใหม่ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง พวกเขากลับมายืนอยู่ในห้องอาจารย์ใหญ่พร้อมกับดัมเบิลดอร์และแท็ค

    'จะต้องเป็นคืนพรุ่งนี้แล้วครับ' แท็คพูดพลางถอนหายใจ 'ต้องเป็นคืนพรุ่งนี้แล้วครับที่ผมต้องพาพวกเขาเข้ามาและพาตัวเธอไป'

    'งั้นวันพรุ่งนี้ฉันจะไปที่นั่น' ดัมเบิลดอร์บอกเขา 'เธอจงทำตามที่เขาสั่งและจงปกป้องเด็กคนนั้นเอาไว้ ฉันจะให้เดรโกฆ่าฉันไม่ได้ แม้แต่เธอเองก็ตาม -- ฉันจะต้องตายจริงๆ เพื่อให้โวลเดอมอร์เชื่อใจเธอและเซเวอร์รัสมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นเธอจะได้ควบคุมเดรโกด้วย'

    'ผมไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องควบคุมเขา' แท็คพูด ใบหน้าดูหงุดหงิดเล็กน้อย

    'ต้องทำสิ ไม่อย่างนั้นเดรโกอาจจะทำพลาดและเฮเลนอาจจะตาย' ดัมเบิลดอร์ว่าพลางมองใบหน้าแท็ค 'เขาคือคนสำคัญของเธอไม่ใช่หรือ เธอรู้ใช่ไหมว่าตัวเองต้องทำอะไร คุณแม็คมาเวลล์'

    แท็คพยักหน้าช้าๆ และหันหลังเดินออกจากห้องไป จากนั้นภาพความทรงจำก็เหมือนถูกเลื่อนให้เร็วขึ้น มันเป็นภาพที่แท็คก่อกวนอะมีคัสในห้องสอน และออกคำสั่งใส่อะเล็กโตต่อหน้านักเรียนหลายๆ คน จนกระทั่งเขาก็กลายเป็นอีกหนึ่งในหัวโจกที่หาเรื่องกับพี่น้องแคร์โรว์

    และแล้วมันก็หยุดลงเมื่อแท็คเดินถือขวดน้ำยาอะไรสักอย่างออกมาจากห้องนั่งเล่นบ้านและเดินตรงออกไปนอกโรงเรียน เขาเดินเข้าไปในร้านหัวหมู อาเบอร์ฟอร์ธยืนมองเขาด้วยแววตาเรียบเฉย

    'ยังไม่จบภารกิจเสี่ยงตายที่พี่ฉันให้ไว้อีกรึไงเจ้าหนุ่ม' เขาพูด 'พอได้แล้วมั้ง เดี๋ยวเธอก็ได้ตายจริงๆ หรอก'

    'เป็นอย่างนั้นก็ดีครับ' แท็คตอบพลางหมุนฝาขวดยาเปิดออก 'ผมว่าแค่นี้ผมก็ได้ใช้ชีวิตมามากพอเกินความจำเป็นแล้ว'

    แท็คกระดกขวดยาขึ้นมาดื่ม เส้นผมของใครบางคนที่เขาเก็บเอาไว้ในนั้นตั้งแต่เข้าไปแกล้งเฮเลนในห้องนอนคฤหาสน์มัลฟอยยังคงอยู่ผสมกับน้ำยา ร่างของเขายืดสูงขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย เรือนผมสีเข้มยาวขึ้นและกลายเป็นสีบลอนด์ซีด ดวงตาสีเข้มจางลงจนเห็นเป็นสีฟ้าซีดและใบหน้าเสี้ยมแหลมที่ดูคุ้นตาก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของพวกเขา

    "เดรโก!" เฮเลนร้องเมื่อเห็นความทรงจำตรงหน้า "นี่เขาปลอมเป็นนายอีกแล้วเหรอ แล้วมันตั้งแต่เมื่อไหร่"

    "ฉันก็ไม่รู้ ฉันไม่เคยรู้อีกเลยว่าหมอนี่ปลอมเป็นฉัน" เดรโกบอก

    สักพักสเนปก็เดินเข้ามาในร้าน และพูดว่า 'พร้อมรึยังแท็ค'

    ในมือของเขาถือดาบของกริฟฟินดอร์เอาไว้ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งจับแขนแท็คและหายตัวไปพร้อมกัน พวกเขาปรากฏตัวอีกครั้งในหุบเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะหนาเตอะ ทั้งคู่เห็นรอนเดินลุยหิมะอยู่ไกลๆ โดยปราศจากเงาของเฮเลน เมื่อเดินสำรวจก็พบแฮร์รี่นั่งอยู่อีกฟากหนึ่ง พวกเขาสามารถมาบรรจบกันได้ที่แอ่งน้ำในระยะทางที่ไม่ไกลกันนัก สเนปทิ้งดาบลงไปในแอ่งน้ำที่เป็นน้ำแข็งนั่นแล้วแยกตัวกับแท็ค

    เด็กหนุ่มเดินเข้าไปในป่ามืดทึม  กวาดตามองหาร่างบางที่อาจหลงอยู่ที่ไหนสักแห่งในป่ากว้าง ไม่นานนักเขาก็พบเธอ เฮเลนเดินลุยหิมะหนาอยู่เพียงลำพักพร้อมกับใบหน้าหวาดหวั่น แท็คเดินอ้อมไปทางด้านหลังและคว้าแขนของเธอเอาไว้ได้ แต่ไม่รู้ว่าเพราะความรู้สึกอันใดถึงทำให้เขาดึงเธอเข้ามาสวมกอดเอาไว้แน่น เพราะความรู้สึกเป็นห่วงที่เดรโกปล่อยให้เธอหนีไปหรือว่าความรู้สึกในใจที่ไม่เคยเอ่ยออกไปกันแน่

    'อย่าดิ้นได้ไหมยัยเพี้ยน' แท็คพูด 'ฉันคิดถึงเธอใจจะขาด รู้ตัวไหม'

    แท็คพูด นั่นทำให้ร่างบางเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงพร้อมกับยกไม้กายสิทธิ์ขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อให้มองเห็นใบหน้าของเขา

    'เดรโก' เฮเลนเรียกเขาเสียงแผ่วเบา 'ทำไมนายถึง...'

    'ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น' เขาตอบเสียงเรียบ 'ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าฉันมาที่นี่ได้ยังไง ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าฉันมาที่นี่ทำไมแล้วก็ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าฉันมาที่นี่กับใคร'

    ร่างสูงผ่อนลมหายใจเบาๆ และรัดรางบางแน่นขึ้น เฮเลนกระซิบพูด น็อกซ์ เบาๆ และสวมกอดเขากลับไปโดยไม่รู้เลยว่าตัวเขานั้นไม่ใช่ชายคนที่เธอต้องการพบมากที่สุด ในจังหวะเดียวกัน แท็คยกไม้กายสิทธิ์ของตัวเองขึ้นมาและชี้ไปยังจุดที่มืดที่สุดระหว่างต้นไม้ แสงสีเงินพวยพุ่งออกมาจากปลายไม้กายสิทธิ์ของเขา หงส์สีเงินโผบินอยู่ตรงนั้น

    'ตั้งสติสิ' แท็คกระซิบ 'ถึงเธอจะยืนอยู่คนเดียวก็ไม่ได้หมายความว่าเธอตัวคนเดียว เธอมีอีกหลายคนอยู่ข้างๆ นะ รวมไปถึงฉันด้วย'

    เขาหมายถึงตัวเขาเอง ตัวเขาที่อยู่เคียงข้างแม้ว่าเธอจะไม่รู้ก็ตาม ครู่หนึ่งแท็คก็ผละออก จูบหวานๆ เจือความอบอุ่นถูกมอบให้เพื่อลดความหนาวเย็นในจิตใจ เฮเลนมองภาพในความทรงจำที่เห็นตัวเองจูบกับเดรโกแต่แท้จริงแล้วเขาคือแท็คพลางเหลือบไปมองใบหน้าที่เริ่มตึงของเดรโกเล็กน้อย เขาดูไม่พอใจแต่ว่าคงจะไม่อยากพูดอะไรขึ้นมาในตอนนี้

    'รีบไปซะ' แท็คพูดหลังจากถอนริมฝีปากออก 'วีสลีย์กับแฮร์รี่กำลังรอเธออยู่'

    'แฮร์รี่เหรอ' เฮเลนทวนคำ 'นายรู้ได้ยังไง'

    'ช่างเรื่องนั้นเถอะ' เขาบอกปัด 'ไปซะ ตามมันไป'

    นิ้วเรียวยาวชี้ไปยังผู้พิทักษ์ที่ทอแสงอยู่ไม่ไกลจากจุดที่ยืนอยู่นัก แสงของมันแผดจ้า ต้นไม้ที่อยู่เบื้องหน้าเป็นเงามืดสนิทและแสงนั้นก็ยังคงเคลื่อนไหวอยู่เบื้องหน้า ร่างสูงออกแรงผลักเฮเลนให้เดินตามมันไปโดยที่เขาทำเพียงแค่มองตามและยิ้มให้บางๆ เท่านั้น หงส์สีขาวเงินส่องแสงสว่างราวกับดวงจันทร์ หัวที่สวยงามของมันเชิดสูง กางปีกออกโผบินไปเบื้องหน้าอย่างสง่างาม แท็คใช้คาถาพรางตาซ่อนตัวเองและหลบออกมาจากตรงนั้น เขาแอบมองและบังคับผู้พิทักษ์ให้นำทางเธอไปจนเจอกับเพื่อนและพี่ชายของเธอ

    แล้วภาพความทรงจำนั้นก็สลายหายไปอีกครั้งแล้วพวกเขาก็มายืนอยู่ในห้องเล็กๆ

    'เด็กนี่ไม่น่าเป็นลูกเธอเลยนะ' แท็คพูดเสียงเรียบ ดวงตาจ้องมองเด็กทารกตัวน้อยในแปลภายในห้องกว้าง 'เขาดูน่ารัก... แต่น่าแปลกที่ไม่ร้องไห้เลยสักแอะเดียว'

    เบลาทริกซ์ยักไหล่อย่างไม่แยแส เเท็คเหลือบมองลาเมียที่เกาะอยู่ตรงหน้าต่างเล็กน้อย เจ้านกขี้อายที่ชอบผลุบไปโผล่มาในคฤหาสน์แห่งนี้ดูท่าว่าจะฉลาดไม่เบา เขาเดินลงไปที่ห้องนั่งเล่นและทิ้งตัวลงบนฟูกนุ่มหน้าเตาผิง หางตาเหลือบมองเดรโกที่นั่งเก้าอี้นวมพิงกำแพงทำหน้าตาเครียดอยู่ไกลๆ ก่อนที่เสียงกริ่งกังวานจะดังขึ้น

    ร่างของคนสามคนถูกลากเข้ามาในห้องนั่งเล่น

    'อะไรกัน' แท็คเอ่ยขึ้นก่อนเป็นคนแรก ดวงตาสีเทามองปราดมายังร่างบางอย่างตระหนก เขาไม่คิดเลยว่าการนำพาเฮเลนให้กลับไปหาแฮร์รี่จะทำให้เธอถูกจับตัวกลับมาเร็วเสียขนาดนี้ ในขณะเดียวกันเบลาทริกซ์ก็เดินลงมาที่ห้องพอดิบพอดี

    'พวกมันบอกว่าได้ตัวพอตเตอร์มา' นาร์ซิสซาพูดเสียงสั่นเหลือบมองมายังแท็คด้วยสายตากระวนกระวาย เด็กหนุ่มเม้มริมฝีปากแน่น 'เดรโก มานี่'

    เดรโกยันตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้นวม ใบหน้าซีดเผือด เฮเลนและแฮร์รี่ถูกผลักไปนั่งคุกเข่าอยู่ใต้โคมระย้าพอดี

    'ว่าไงพ่อหนุ่ม' มนุษย์หมาป่าคำราม

    'ผมไม่ – ผมไม่แน่ใจ' เดรโกบอก เขาถอยออกห่างจากเกรย์แบ็กและดูเหมือนกำหลังหวาดหวั่น แท็คกำมือแน่น มองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างใช้ความคิด เขาควรทำอะไรสักอย่าง ในขณะที่เบลาทริกซ์ยังสงสัยว่านี่ใช่พอตเตอร์ตัวจริงหรือเปล่า

    'เราต้องให้แน่ใจนะ เบลาทริกซ์' นาร์ซิสซาบอกด้วยเสียงเยือกเย็น 'ต้องให้แน่ใจก่อนว่าใช่แฮร์รี่ พอตเตอร์ ถึงจะตามตัวจอมมารมาได้ พวกมันบอกว่านี่เป็นไม้ของเขา' เธอพิจารณาไม้กายสิทธิ์ที่ได้มาอย่างละเอียด 'แต่มันไม่เหมือนที่โอลิแวนเดอร์บอกไว้เลย ถ้าเราเข้าใจผิด แล้วตามจอมมารมาแล้วไม่ได้อะไร จำได้ไหมว่าท่านทำอะไรกับโรลว์และโดโลฮอฟ ยังไงเธอก็รอดพ้นอยู่แล้วเพราะยังไงก็ได้ตัวนังเด็กพอตเตอร์กลับมาแล้ว'

    'แล้วนังเด็กนั่นไม่ใช่เด็กเลือดสีโคลนที่อยู่ที่ร้านมาดามมักกิ้นส์กับพวกมันหรือไง!' เบลาทริกซ์ตวาด 'ไม่ใช่นังเด็กที่ชื่อเกรนเจอร์หรอกเหรอ'

    เบลาทริกซ์จ้องหน้าเขาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ แต่เขาไม่ตอบอะไร เบลาทริกซ์รู้ว่าเขาไปอยู่กับครอบครัวเกรนเจอร์มาเป็นปีๆ ซึ่งแน่นอนว่าเขาต้องจำใบหน้าของเฮอร์ไมโอนี่ได้อยู่แล้ว แต่เป็นเขาเองที่เลี่ยงที่จะไม่ตอบอะไร จนกระทั่งเบลาทริกซ์อาละวาดเรื่องของดาบกริฟฟินดอร์ที่พวกเขามี แท็ครู้สึกอยากบีบคอสเนปเหลือเกินในเวลานี้ หรือไม่บางทีเขาควรตามไปบีบคอดัมเบิลดอร์ในโลกหลังความตายนั่นสักทีหนึ่ง

    เบลาทริกซ์ตัดเชือกให้เฮเลนและเฮอร์ไมโอนี่หลุดจากนักโทษคนอื่นๆ เฮเลนถูกผลักหัวให้ไถลไปอยู่ที่ปลายเท้าของนาร์ซิสซา ส่วนเฮอร์ไมโอนี่ถูกเบลาทริกซ์จิกผมแล้วลากไปกลางห้อง เดรโกวิ่งไปประคองเฮเลนให้ลุกขึ้นยืนก่อนจะหันไปมองตานาร์ซิสซาเล็กน้อยและพาเธอเดินกลับขึ้นไปชั้นบน เมื่อได้อยู่ในมุมมองของแท็ค เรื่องราวที่เกิดขึ้นช่างน่าลำบากใจ เขาช่วยอะไรเธอไม่ได้เลย

    เมื่อถึงช่วงที่เฮอร์ไมโอนี่ถูกทรมาน เฮเลนได้ยินเสียงปลอบใจเบาๆ ของรอนดังขึ้นด้านหลัง ทั้งสองคนคงกอดกันกลมอยู่ตรงนั้น แต่มันไม่ใช่เรื่องที่น่าสนใจเท่ากับตอนนี้ เสียงเฮอร์ไมโอนี่กรีดร้องจากคำสาปกรีดแทงดังขึ้นพร้อมๆ กับแท็คที่โบกไม้กายสิทธิ์ขึ้นไปยังประตูห้องบนชั้นสอง ซึ่งเฮเลนมั่นใจว่านั่นคือห้องของเธอ!

    "เขาปลดกลอน" เฮเลนร้อง หันไปหาเดรโกที่ยืนข้างกาย "แต่นายเลือกขังฉันไว้ตรงนั้น"

    "ใครจะอยากให้เธอลงมาเจออันตรายแบบนั้นล่ะ!" เดรโกเถียงเสียงแข็งพร้อมขมวดคิ้วจนแทบเป็นปม เขาคงเริ่มไม่พอใจมากขึ้นกว่าเดิมเสียแล้ว "เออ เพราะหมอนั่นปลดกลอนนี่ เธอถึงรอดมาได้"

    "อย่าประชดประชันนะ" เฮเลนแยกเขี้ยว "แต่ก็ขอบคุณที่เป็นห่วงกัน"

    เดรโกพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ เขาจับศีรษะของเฮเลนโยกไปมาเล็กน้อยเมื่อฉากความทรงจำเดินไปจนถึงตอนที่แท็คพากริบฮุกออกมาจากคุกใต้ดิน และหลังจากที่เสียงเปรี้ยงดังสนั่นดังขึ้น แท็คทำเป็นไม่ได้ยินอะไรทั้งที่สีหน้าเขาบอกอยู่ว่าได้ยิน ในจังหวะที่เบลาทริกซ์กำลังจะโยนร่างของเฮอร์ไมโอนี่ใส่เกรย์แบ็คและรอนเสกคาถาสตูเปฟายนั้นเอง  แท็คก็แสร้งทำเป็นล้มลงที่หน้่าเตาผิงและชี้ไม้กายสิทธิ์ไปทางเกรย์แบ็ค มันหงายหลังล้มตึงสะบัดเฮเลนตกลงมาและกลิ้งไปอีกทาง

    "เขาไม่ได้โดนคาถาฉัน!" รอนชี้ไปที่แท็ค "แต่เขาแกล้งทำเป็นล้ม ให้ตายสิ"

    แล้วภาพความทรงจำนั้นก็หายไป ฝุ่นควันลอยล่องหมุนวนไปมาชั่วครู่ราวกับกำลังคิดว่าควรจะบอกเล่าเรื่องราวเหล่านั้นต่อไปดีหรือไม่ และแล้วพวกมันก็จับกลุ่มกันอีกครั้ง ก่อนจะพาพวกเขามาปรากฏตัวที่หอนอนบ้านสลิธีริน แท็คกำลังนั่งอยู่บนเตียงสี่เสาสีเขียวแก่แต่ไร้ซึ่งเพื่อนร่วมหอนอน เขาถือสมุดเล่มหนึ่งอยู่ในมือ มันเป็นสมุดเล่มเดิมที่เขาเคยเขียนสมัยยังเป็นเด็ก

    แท็คถอนหายใจออกมาเบาๆ และเก็บสมุดเล่มนั้นเอาไว้ในหีบเช่นเดิม เขาวางกุญแจดอกเล็กเอาไว้ใต้กระถางต้นไม้บนโต๊ะข้างเตียงสี่เสา แล้วเดินออกจากหอไปเงียบๆ แท็คเดินเข้าไปในชั้นเรียนศาสตร์มืดของพี่น้องแคร์โรว์ และเช่นเดิม เขาเสกคำสาปกรีดแทงใส่อะมีคัสและเสกคำสาปสะกดใจใส่อะเล็กโตจนการเรียนการสอนวุ่นวายกันไปหมด ในขณะที่อะมีคัสกำลังสอนเรื่องไฟโลกันต์อยู่คลาสยังแทบพินาศ

    "เขามันตัวแสบจริงๆ" แฮร์รี่พูดพลางยักไหล่เบาๆ 

    แล้วภาพทั้งหมดก็จางหายไปก่อตัวขึ้นเป็นความทรงจำใหม่ ตอนนี้แท็คกำลังยืนอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำ เฮเลนแน่ใจว่ามันต้องเป็นห้องน้ำที่มีทางไปห้องแห่งความลับแน่ๆ เขาจ้องมองดวงตาสีเข้มของตัวเองในกระจกแล้วพยายามฝืนยิ้มให้กับตัวเองแต่ก็ไม่อาจทำได้ แท็คก้มหน้าลงมองอ่างล้างมือครู่หนึ่งก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองกระจกตรงหน้าอีกครั้งแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ

    'ฉันลังเลอยู่นานเลยว่าจะบอกเรื่องนี้กับเธอดีไหม -- กว่าเธอจะเห็นความทรงจำนี่ฉันก็คงตายไปแล้วล่ะมั้ง' เขาพูดกับตัวเองในกระจก 'ฉันรู้ว่าพวกเธอต้องงงมากแน่เกี่ยวกับความทรงจำที่ฉันมั่นใจว่าฉันเรียงถูกวันลงไปในโหลแก้วโง่ๆ นี่ให้เธอดู (แท็คยกขวดแก้วที่มีเส้นใยความทรงจำขึ้นมา) ฉันเพิ่งจะรู้เรื่องของตัวเองก็เมื่อไม่นานมานี้เอง ตอนที่ฉันได้เข้าหาดัมเบิลดอร์บ่อยๆ และความจริงที่ฉันต้องยอมรับว่าแม่ของฉันเป็นมาเลดิกตัส เป็นสายเลือดต้องสาปของกอร์มเลธ ก๊อนท์'

    แท็คหัวเราะเบาๆ กับตัวเองด้วยน้ำเสียงสมเพช

    'ฉันเกิดมาด้วยความตั้งใจของพ่อที่เป็นมักเกิ้ลกับแม่ที่เป็นมาเลดิกตัสที่ยังไม่สมบูรณ์ -- สองคนนั้นดีใจมากที่ฉันเกิดมาเป็นผู้ชายเพราะยังไงฉันก็ไม่มีวันติดหรือได้รับคำสาปน่ารังเกียจนั่นมาจากแม่เพราะมาเลดิกตัสจะติดต่อทางสายเลือดผู้หญิงเท่านั้น -- แต่ก็อย่างว่าล่ะนะ' แท็คถอนหายใจ 'คำสาปมันก็ยังถูกส่งต่อมาถึงฉันอยู่ดี แต่มันก็เหมือนพรวิเศษที่ทำให้ฉันเป็นอนิเมจัสแต่กำเนิด -- แปลกใจกันล่ะสิ -- ฉันไม่ใช่เมตามอร์ฟเมกัสเหมือนท็องส์ เพราะฉันกลายร่างเป็นงูเมื่อไหร่ก็ได้ที่ฉันต้องการ แต่ตอนเด็กฉันแค่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เท่านั้น ส่วนแม่พอรู้ว่าฉันยังมีส่วนได้รับคำสาป ดูเหมือนว่าเขาจะหนีไปอยู่ที่ทะเลสาบแถวโรงเรียนอิลเวอร์มอร์นี  ฉันก็ไมม่แน่ใจกับข้อมูลที่เขาให้ แต่ว่าฉันก็มั่นใจว่าเธออาจจะตายอยู่ที่นั่น'

    แท็คกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืนๆ ก่อนจะเริ่มพูดต่อ

    'ตัวฉันที่ต้องอยู่กับพ่อไม่คยได้รับความรักจากเขาหรอก เขาเหมือนจะเกลียดฉันด้วยซ้ำไป -- แย่จังนะ -- ฉันไม่เคยรู้ว่าแม่ตัวเองหรือชื่อตัวเองเต็มๆ คืออะไร นอกจากชื่อแท็ค แน่นอน ฉันรู้ว่าฉันชื่อแท็ค จะชื่ออะไรได้อีกล่ะ' แท็ค หัวเราะอย่างขมขื่น 'หลังจากพ่อตาย ฉันก็ถูกพวกมักเกิ้ลไล่ตี ฉันไม่ชอบเลยที่ตัวเองจะต้องทนอยู่กับอะไรแบบนี้ ทั้งที่ฉันอายุแค่หกขวบ... แต่ก็นะ -- มีบางคนช่วยดึงชีวิตน่าสมเพชของฉันให้ดีขึ้นมา เธอคงจะเห็นแล้วว่าเขาคือใคร เขาไม่เคยรู้หรอกว่าฉันคือลูกชายของอลิเซียพี่สาวของเขา อลิซาเบ็ธทำให้ฉันได้รู้จักความรักที่แท้จริงจากครอบครัว แต่พวกมักเกิ้ลก็เผามัน ทำลายมันจนวอดวาย'

    เฮเลนเห็นแท็คกำมือแน่น มองใบหน้าตัวเองในกระจก แววตาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวอย่างที่เธอไม่เคยเห็น

    'แล้ววันนั้นนากินีก็พาฉันมาเจอกับเขา เขารับเลี้ยงฉันเอาไว้พร้อมกับตราหน้าว่าฉันต้องเป็นญาติห่างๆ ของเขาแน่ แล้วมันก็จริง อลิซาเบ็ธกับอลิเซียเป็นทายาทสายตรงของซัลลาซาร์สลิธีริน เป็นสายเลือดตระกูลก๊อนท์ที่ฉันรู้สึกรังเกียจมาตลอด' เขาก้มหน้ามองอ่างล้างมือ เฮเลนคิดว่าเขาคงไม่อาจทนมองใบหน้าของตัวเองได้ในตอนนี้ 'แต่ในวันนั้นฉันก็เจอเธอที่สวนสัตว์ ฉันพูดตามตรงว่าฉันไม่น่าเปลี่ยนร่างให้พวกมักเกิ้ลงี่เง่านั่นจับได้เลย พอเขารู้เรื่องนี้เข้า เขาก็ใช้เธอมาเป็นเครื่องต่อรองของฉัน ฉันเกลียดมากเวลาที่ถูกเขาเอาเปรียบก็เลยพยายามทำตามคำสั่งเขาโดยตลอดแต่เหมือนสุดท้ายแล้วมันก็จะไม่มีค่าอะไรเลย'

    'ที่จริงฉันก็ไม่ได้อยากตายหรอกนะ ฉันอยากอยู่กับเธอต่อไปมากกว่า ฉันอยากอยู่กับเฮอร์ไมโอนี่ พี่สาวปลอมๆ ที่โวลเดอมอร์บอกให้ฉันคิดว่าเขาเป็น ฉันอยากอยู่เหมือนเด็กชายธรรมดาทั่วไปอย่างที่ฉันอยากเป็นและควรจะเป็น!' แท็คกัดริมฝีปากตัวเองอย่างแรง 'ฉันมารู้ความลับของสเนปเรื่องที่เขาเป็นสายให้กับดัมเบิลดอร์ ฉันขอพบดัมเบิลดอร์ในคืนหนึ่งตอนที่อยู่ปีสอง มันตลกดีที่เขารู้อยู่ตลอดว่าฉันเป็นใครทั้งๆ ที่ฉันไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นใคร... ฉันอยากปกป้องเธอ ปกป้องแม่อลิซาเบ็ธที่ถึงจะไม่ใช่แม่แท้ๆ ฉันก็อยากจะปกป้องเขา และฉันคิดว่าฉันมีเรื่องอยากจะขอเธอมากมายเหลือเกินในตอนนี้'

    'ฉันอยากจะขอให้เธอไปหาเขา ตอนนี้เขาชื่อเซเลสเทีย เบนนอน อยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ แถบทางใต้ของลอนดอน' แท็คเงยหน้าขึ้นสบตาตัวเองในกระจกอีกครั้ง 'ถ้าฉันตายก็บอกเขาให้ทีว่าไม่ต้องห่วง ฉันไม่ได้เจ็บปวดอะไร ดูแลคนที่เธออยากจะดูแลต่อไปให้ดี ดูแลตัวเองให้ดีก็พอ -- เรื่องเดลฟินี่ ลูกสาวของเบลาทริกซ์ ฉันคิดว่ายังไงโวลเดอมอร์คงไม่ได้เลี้ยงดูเธอเป็นอย่างดีแม้ว่าเขาจะชนะสงคราม... ฉันอยากขอร้องเธอ ชนะสงครามโง่ๆ นี่แล้วฝากดูแลเดลฟินี่ด้วย เด็กนั่นไม่รู้เรื่องอะไรหรอก เขาต้องเติบโตมาดีแน่ๆ ถ้าเป็นเธอ'

    'แล้วก็ไม่ต้องห่วงฉัน' แท็คพยายามยกยิ้มและมองกระจกตรงหน้า 'ถึงฉันจะตายก็ไม่เป็นไร เพราะถ้าฉันไม่ตายเขาก็จะไม่ตาย ขอโทษด้วยที่ฉันไม่ได้ใส่ความทรงจำตอนที่เขาฆ่าคนๆ นั้นเอาไว้ให้ เพราะฉันไม่อยากให้เธอเห็นภาพนั่น... เพราะถ้าฉันยังรอดเขาก็จะไม่ตาย...ฉันคือฮอร์ครักซ์ที่เขาคิดว่ายังไงก็ไม่มีวันถูกทำลายได้ยังไงล่ะ...'

    เฮเลนอ้าปากค้างในขณะที่ความทรงจำนั้นค่อยๆ สลายไปพร้อมรอยยิ้มสมเพชตัวเองของแท็ค 

    "แท็คคือฮอร์ครักซ์!" เธอร้อง มองหน้าเพื่อนๆ และเดรโกสลับกันไปมา "หมายความว่าที่เขาไม่กลัวว่าจะต้องตายก็คือ..."

    "เขายอมสละชีวิตตัวเองเพื่อเรา" แฮร์รี่พูดเสียงแผ่ว เขาเดินมากุมมือเฮเลนเอาไว้เบาๆ "เขายอมตายเพื่อเรา"

    ไม่รู้ทำไม เฮเลนถึงได้รู้สึกเหมือนตัวเองถูกมีดกรีดแผลในใจซ้ำไปซ้ำมา...

    ภาพความทรงจำใหม่ปรากฏขึ้น เฮเลนคิดว่ามันใกล้จะถึงความทรงจำสุดท้ายเข้าไปทุกที ภาพปรากฏขึ้นอีกครั้งในห้องทำงานของดัมเบิลดอร์ เฮเลนเห็นแท็คและดัมเบิลดอร์ยืนประจันหน้ากันอยู่ในห้อง ดูจากลักษณะและท่าทาง แท็คดูเด็กมากกว่าเมื่อสักครู่ ถ้าหากให้เธอเดา เขาคงจงใจเรียงความทรงจำนี้เอาไว้เป็นลำดับสุดท้ายเพื่อให้เธอได้รับรู้สิ่งสุดท้ายที่เขาคิดอยากจะบอกกับเธอ

    'คาถาผู้พิทักษ์?' ดัมเบิลดอร์เลิกคิ้วมองแท็คด้วยสายตาประหลาดใจ 'ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะมีความสนอกสนใจในเรื่องนี้เพราะเธอคงรู้ตัวดีว่าตัวเองไม่มีวันเสกมันได้ จริงไหม'

    'ผมเป็นผู้เสพความตายไม่ได้หมายความว่าผมจะต้องเป็นไปตลอดชีวิตนี่ครับ' แท็คพูด ใบหน้าของเขาเรียบเฉย ไม่แสดงออกใดๆ 'ผมมั่นใจว่าผมมีพลังมากพอที่จะเสกคาถานี้'

    'คาถาผู้พิทักษ์เป็นคาถาที่เรียกผู้พิทักษ์ออกมาเพื่อปกป้อง ถ้าหากเธอไม่มีสิ่งใดที่อยากจะปกป้อง เธอก็ไม่มีวันที่จะเสกมันได้' ดัมเบิลดอร์ยิ้ม เฮเลนมั่นใจว่าเขาคงรู้คำตอบของแท็คอยู่แล้วเป็นแน่

    'คุณรู้ได้ยังไงว่าผมไม่มีอะไรที่จะต้องปกป้อง' แท็คพูด 'ผมไม่จำเป็นต้องให้ใครมาปกป้องคุ้มครองแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่ปกป้องคนอื่นนะครับ'

    'งั้นฉันก็จะลองดสอนเธอดู'

    ดัมเบิลดอร์ยิ้ม ดวงตาสีฟ้าสดใสมองไปยังแท็คที่ยืนอยู่ตรงหน้าและความทรงจำก็เปลี่ยนอย่างรวดเร็วกลายเป็นภาพแท็คยืนอยู่กลางห้องเรียนป้องกันตัวจากศาสตร์มืดที่ว่างเปล่าไร้ซึ่งนักเรียนหรืออาจารย์ มีเพียงเขาและดัมเบิลดอร์เพียงสองคนในห้องนั้น

    'หลังจากที่ฉันให้เธอทำความเข้าใจกับสิ่งที่สอนไปทั้งหมด' ดัมเบิลดอร์พูด 'และจากการฝึกที่ทำมาตลอด -- วันนี้ฉันจะขอดูความพยายามของเธอ -- สักนิด -- ก็แล้วกันนะ'

    แท็คไม่ตอบอะไร เขาดึงไม้กายสิทธิ์ออกมาจากเสื้อคลุม ดวงตาสีเข้มฉายแววประหลาดที่เธอไม่เคยเห็น แท็คโบกไม้กายสิทธิ์เบาๆ และพูดว่า 'เอกซ์เปกโต พาโตรนุม'

    หงส์สีเงินระเบิดออกมาจากไม้กายสิทธิ์ของแท็ค มันกางปีกสยายออกกว้างและสง่างาม มันบินวนไปรอบๆ ห้องและสลายหายไปเมื่อบินไปจนถึงหน้าต่างราวกับกำลังมุ่งสู่อิสระภาพภายนอกนั้น ดัมเบิลดอร์มองแท็คด้วยสายตาปลื้มปิติ เขาปรบมือเบาๆ อย่างชื่นชม

    'เก่งมาก เก่งจริงๆ' ดัมเบิลดอร์บอก 'มีเด็กปีสองไม่กี่คนหรอกที่ทำแบบนี้ได้'

    แท็คไม่ตอบอะไร เขาเพียงเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของดัมเบิลดอร์เพียงเท่านั้น 

    'หงส์เป็นตัวแทนของความรักอันบริสุทธิ์' ดัมเบิลดอร์พูดขึ้น 'และเป็นตัวแทนของหญิงสาวที่งดงาม -- เธอมั่นใจแล้วงั้นสินะที่จะเลือกเส้นทางนี้ แท็ค'

    'ครับ' แท็คพยักหน้า 'ผมไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว'

    'เธอมี' ดัมเบิลดอร์ยิ้มให้เขา 'แต่เพียงแต่จิตวิญญาณของเธอแค่สั่งให้เธอเลือกเส้นทางที่ถูกต้องเท่านั้นเอง'

    ภาพของดัมเบิลดอร์เป็นสิ่งสุดท้ายที่พวกเขาได้เห็นในความทรงจำ รู้ตัวอีกครั้งเฮเลนก็กลับมายืนอยู่ในห้องทำงานอาจารย์ใหญ่ ภาพเหมือนมองจ้องมายังพวกเขาราวกับรอคำอธิบายอย่างใจจดใจจ่อ แต่ถึงอย่างนั้นทั้งห้าคนก็รู้สึกจุกจนพูดไม่ออก พวกเขาสงสัยคนที่คอยช่วยเหลืออยู่เบื้องหลังมาตลอดเวลา เข้าใจผิดมาตลอดโดยที่ไม่ได้รู้แม้แต่ความจริงนั้นเลย

    "นั่นหมายความว่า..." เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ "ที่แท็คใช้คาถาผู้พิทักษ์เพราะว่าเขารักใครสักคนอย่างนั้นเหรอ"

    "ฉันคิดว่างั้น" รอนตอบ เหลือบตาขึ้นมองหน้าเฮเลนเล็กน้อย "แล้วฉันก็คิดด้วยว่าบางทีรักที่บริสุทธิ์นั่นหมายถึง..."

    "พวกนายคิดว่าเป็นฉันเหรอ" เฮเลนแย้งขึ้นทันใด เธอเงยหน้าขึ้นมองภาพเหมือนของดัมเบิลดอร์ที่ยิ้มให้อย่างใจดีอยู่ด้านบน "เขาจะมารัก -- โอเค ฉันก็พอจะนึกออกอยูว่าทำไมถึงได้คิดว่าเป็นฉัน -- แต่ฉันไม่ได้สวยอะไรขนาดนั้นไง"

    "แล้วเขาจะหมายถึงใครกันล่ะ" เดรโกเอ่ยขึ้นบ้าง "จะมีสักกี่คนเชียวที่หมอนั่นหลงรัก"

    "แถมยังเป็นรักที่บริสุทธิ์ด้วย" รอนเสริม "ไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาไม่หวังอะไรจากเธอเลยนะ"

    "อาจจะไม่ใช่แค่เฮเลนคนเดียวก็ได้ที่เขารักอย่างบริสุทธิ์ใจ" ในที่สุดแฮร์รี่ก็พูดขึ้นมา เขาเงยหน้าขึ้นมองตามเฮเลนไปยังรู้ภาพเหมือนของดัมเบิลดอร์เช่นกัน "คุณก็รู้ใช่ไหมครับ ศาสตราจารย์"

    ดัมเบิลดอร์พยักหน้าเล็กน้อย อีกสามคนมองมายังฝาแฝดด้วยสายตาฉงน แฮร์รี่และเฮเลนหันมามองหน้ากันแแล้วยิ้มออกมาบางๆ 

    "ฉันคิดว่าบางทีเราควรทำตามคำขอของเขานะ" เฮเลนเริ่มพูดขึ้นมาก่อน แฮร์รี่หัวเราะออกมาเบาๆ 

    "นั่นสินะ" เขาตอบ "เราควรจะไปที่นั่นเป็นที่แรกเลยทีเดียวล่ะ"

    ฝาแฝดหัวเราะในขณะที่เดรโก รอนและเฮอร์ไมโอนี่ทำหน้าตางงงวยแบบสุดๆ เฮเลนไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งตัวเองจะได้กลับไปหาเซเลสเทียอีกครั้งหนึ่งจริงๆ และแน่นอนว่าเธอจำเป็นต้องพึ่งการนำทางของรอน ความคิดอันเฉียบแหลมของเฮอร์ไมโอนี่ การดูแลความเรียบร้อยของเดรโกและพลังการเยียวยาจิตใจของแฮร์รี่และตัวเธอเองในการทำภารกิจในครั้งนี้

    "ทำตามคำขอของแท็คกันเถอะ"  เฮเลนพูด "แล้วพูดตรงๆ นะ ฉันคิดว่าชีวิตฉันนับจากนี้มันคงจะวุ่นวายไม่น้อยไปกว่าเดิมเลยเชียวล่ะ"


    ติดตามตอนต่อไป...(ยังไม่จบอี้ก)

    ความในใจหลังจากเขียนตอนความทรงจำของแท็คจบทั้งสามตอน

     == ที่จริง การปรับปรุงทุกอย่างที่เขียนมาตั้งแต่ต้น ตอนความทรงจำของแท็คคือสิ่งที่เขียนยากที่สุด

    ทุกการกระทำที่เขียนให้แท็คเป็นคนที่เหมือนปริศนา ไม่ค่อยพูดและทำตัวร้ายๆ บางอย่างแท็คทำเพราะว่ามันมีเหตุผล

    เพราะทุกครั้งที่แท็คก่อเรื่องขึ้นมา เฮเลนและเดรโกจะเข้าใจกันและกันมากขึ้นกว่าเดิม

    และทุกครั้งที่แท็คทำอะไรสักอย่าง เขามักจะเลือกทำให้เฮเลนสะเทือนน้อยที่สุด และทุกครั้งที่สัมผัสกัน มันคือความรู้สึกของแท็คจริงๆ

    ยิ่งตอนเขียนตอนนี้ มีหลายฉากมากที่เลือกจะข้ามไปเพราะมันทำให้ไรท์เศร้า 55555555555

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×