คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #84 : บทที่ 10 ความทรงจำของแท็ค (2) //มีเพิ่ม
ภาพความทรงจำนั้นหายไปเหมือนฝุ่นควันกระจายตัว
เฮเลนปะติดปะต่อเรื่องราวของแท็คและยังเต็มไปด้วยข้อสงสัยมากมายในสมอง
แต่ว่าเธอก็ได้แต่เพียงเฝ้ามองความทรงจำไหลไปเท่านั้นจึงจะได้คำตอบของเรื่องราวทั้งหมด
ว่าเขามายืนเคียงข้างโวลเดอมอร์ได้อย่างไร
ภาพหลังจากนั้นที่ปรากฏขึ้นมาคือภายในห้องแคบๆ ที่ดูเหมือนอลิซาเบ็ธและอาเรนเดลจะใช้เป็นห้องส่วนตัวของแท็ค เด็กชายนั่งเขียนบันทึกอะไรสักอย่างอยู่บนเตียงเก่าๆ เห็นได้ชัดว่าครอบครัวนี้ไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากนัก พวกเขาคงไม่มีทายาทมาสืบทอดถึงได้เลี้ยงเด็กชายแท็คเหมือนกับลูกชายแท้ๆ
มีเสียงดังกึกกักอยู่ใต้เท้า เฮเลนคิดว่าอาเรนเดลและอลิซาเบ็ธคงจะยังไม่นอน พวกเขาน่าจะกำลังทำอาหารหรือไม่ก็เตรียมเก็บของที่จำเป็นอยู่ข้างล่าง ดูท่าว่าแท็คจะได้มาอยู่กับครอบครัวนี้ครบรอบหนึ่งปีแล้ว เขาดูมีความสุขอย่างที่ไม่เคยเป็น ใบหน้าสดใสที่กำลังเขียนอะไรบางอย่างอยู่นั้นดูเหมือนจะดีใจมากที่พ่อเลี้ยงและแม่เลี้ยงของตนเป็นพ่อมดแม่มด โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าเขาเองก็เป็นพ่อมดเหมือนกัน
'เตรียมของเสร็จหรือยัง' เสียงของอาเรนเดลดังขึ้นใต้เท้าของพวกเขาน้ำเสียงเหมือนเพิ่งแบกอะไรเสร็จมาเมื่อสักครู่ 'บอกแท็คแล้วใช่ไหมเรื่องที่ต้องเดินทางวันพรุ่งนี้'
'บอกไปแล้วล่ะ' อลิซาเบ็ธตอบ 'ฉันเก็บของของแกมาใส่ไว้ในกล่องเอาไว้แล้วด้วย พรุ่งนี้เราจะได้พร้อมเดินทางกันทันที'
ใบหน้าของแท็คปรากฏรอยยิ้มกว้างที่เปี่ยมไปด้วยความสุข
"ให้ตาย" รอนร้อง "ฉันไม่เคยคิดเลยนะว่าหมอนั่นจะยิ้มแบบนี้ได้มาก่อนในชีวิต"
เฮอร์ไมโอนี่ตีแขนเขาในระหว่างที่ภาพความทรงจำนั้นสลายไปพร้อมกับภาพความทรงจำใหม่ปรากฏขึ้นมา ภาพที่ทำให้ทุกคนต้องตกตะลึงไปพร้อมๆ กัน
แสงสีส้มแดงส่องสว่างอาบใบหน้าของพวกเขา เด็กชายแท็คนอนราบอยู่บนพื้นหญ้าเนื้อตัวมอมแมม มีรอยแผลถลอกตามร่างกายเล็กน้อย แต่ดูเหมือนเขาจะไม่เจ็บเลย ไม่เจ็บเท่าภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าในตอนนี้ --
เพลิงร้อนแรงกำลังลุกโหมกระหน่ำบ้านหลังเล็กแคบๆ ไม้เก่าๆ เป็นเชื้อเพลิงอย่างดีให้มันกลืนกิน เด็กชายเหมือนถูกโยนลงมาจากชั้นสอง ลงมากลิ้งอยู่บนพื้นหญ้ารกหลังบ้านที่ติดกับภูเขา ดวงตาสีเข้มจ้องมองบ้านแสนสุขค่อยๆ พินาศไปต่อหน้าต่อตา ความรู้สึกเจ็บปวดแสดงออกทางสีหน้านั้นอย่างชัดเจน เมื่อสิ่งที่เขาค้นพบว่ามันคือความสุขเดียวในชีวิตที่เหลืออยู่นั้นถูกเปลวเพลิงเผาไหม้ มลายไปจนสิ้น เหลือเพียงเถ้าถ่านและตอตะโกสีดำเอาไว้ให้ดูต่างหน้าหลังเปลวเพลิงได้ดับไปเท่านั้น
มือเล็กๆ ของเด็กชายกำแน่นก่อนที่เขาจะเปลี่ยนร่างเป็นงูขนาดที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมและเลื้อยอย่างเชื่องช้าเข้าไปในป่าบนภูเขา ออกห่างจากแสงของเปลวไฟที่ค่อยๆ ดับลงอย่างช้าๆ ทิ้งความเจ็บปวดและเสียใจเอาไว้เบื้องหลังอย่างไม่มีทางเลือก เขาไม่รู้ว่าตัวเองมีเวทมนตร์ เขาไม่มีคนสอนว่าเวทมนตร์สามารถใช้งานได้อย่างไร ทำให้แท็คไม่รู้เลยว่าตัวเองจะสามารถช่วยเหลือครอบครัวของเขาได้อย่างไรนอกจากกระเสือกกระสนหรือไปให้พ้นเท่านั้น
"บ้าไปแล้ว" รอนร้อง "ถ้าพวกเขาเป็นพ่อมด พวกเขาต้องรู้วิธีเสกไฟเย็นสิ"
"พวกนั้นอาจมาตอนพวกเขาหลับ" เฮอร์ไมโอนี่บอก "ถ้าหากพวกเขาหลับ พวกเขาก็ร่ายคาถาไม่ได้หรอกนะ"
"ฉันพูดไม่ออกเลยจริงๆ" เดรโกพึมพำ "ไม่คิดเลยว่าหมอนั่นต้องเจออะไรแบบนี้มาก่อนในชีวิต เห็นเอาแต่เรียกโวลเดอมอร์ว่าพ่อ ฉันก็คิดว่าหมอนั่นจะเกิดมาแล้วสบายกว่านี้ซะอีก"
"ใครจะไปเหมือนนายล่ะ เดรโก" แฮร์รี่เหน็บเล็กน้อย เดรโกยักไหล่อย่างไม่ยี่ระ
เฮเลนไม่ได้สนใจพวกเขา เธอตั้งหน้าตั้งตารอภาพความทรงจำถัดไปของแท็คอย่างใจจดใจจ่อ ตอนนี้เขาบอกให้เธอได้รู้ความจริงแล้วว่าเขาไม่ใช่ลูกชายจริงๆ ของโวลเดอมอร์ เขาเจอเรื่องอะไรมาก่อนจึงตกลงใจยอมเป็นลูกชายปลอมๆ ของโวลเดอมอร์ เขาต้องเจ็บปวดแค่ไหนถึงจะกลายมาเป็นแท็คในตอนนี้
ภาพใหม่ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ตอนนี้ภาพรอบกายกลายเป็นป่าทึบรกร้างที่ไหนสักแห่ง ไม่มีใครกล้าพูดกลางความเงียบที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้แม้แต่นิดเดียว ทั้งห้าคนจดจ่ออยู่กับภาพป่ากว้างใหญ่ที่ต่างไปจากครั้งแรกที่พบ พวกเขาเห็นงูตัวใหญ่ที่คาดว่าน่าจะเป็นแท็คกำลังเขมือบหนูป่าเพื่อประทังชีวิตอยู่ เมื่อเขากินมันลงท้องไปแล้ว แท็คในร่างงูก็เลื้อยออกไปเรื่อยๆ ก่อนจะไปขดตัวอยู่ใต้โขดหินเพื่อนอนหลับ
ทั้งห้าคนเดินตามเขาไปและนั่งรอ เฮเลนและเดรโกมองหน้ากันเล็กน้อยแต่ไม่มีใครพูดอะไร ไม่มีใครพูดอะไรราวกับนัดกันเอาไว้ว่าจะดูความทรงจำให้จบเสียก่อนจึงจะพูด เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง งูใหญ่อีกตัวหนึ่งก็โผล่มามันเลื้อยเข้ามาอย่างเงียบเชียบ เฮเลนมองมันครั้งเดียวก็จำได้ในทันที
"นากินี!" เฮเลนโพลงขึ้นมาเมื่องูใหญ่ตัวนั้นเลื้อยเข้ามาใกล้ๆ กับแท็ค เธอจ้องมองมันด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ "ทำไมมันถึงได้มาอยู่ที่นี่... ทำไม..."
แท็คผงกหัวขึ้นช้าๆ และจ้องมองนากินีตอบ เฮเลนมองดูทั้งคู่อย่างหาคำตอบจนกระทั่งในที่สุดเสียงขู่ฟ่อก็ดังขึ้นพร้อมกับภาษาที่พวกเขาคุ้นเคยดี
'ฉันรู้ว่าแกไม่ใช่แค่งูธรรมดา' นากินีขู่ฟ่อ 'แกเป็นใครกัน'
'มันไม่สำคัญหรอก' แท็คบอกนากินีด้วยท่าทีเรียบเฉย 'ไปซะ ผมไม่ต้องการพบใครทั้งนั้น'
'มันจะสำคัญแน่ถ้าแกมากับฉัน' นากินีแลบลิ้นแฉกแล้วเลื้อยเข้ามาใกล้ๆ แท็ค 'ไม่มีเวลาให้คิดแล้วเด็กน้อย... ตามฉันมา'
แท็คในร่างงูมีท่าทางลังเลใจอยู่เล็กน้อย นากินีเลื้อยนำหน้าเขาไปอย่างอ้อยอิ่ง ในที่สุดแท็คก็เลื้อยตามมันไป
"ทำไมเราถึงฟังออกได้ล่ะ" รอนร้องขึ้นอีกครั้งในขณะที่พวกเขาเดินตามแท็คและนากินีไป "เราไม่เป็นพาร์เซลเมาท์สักหน่อย"
"ฉันคิดว่าน่าจะเพราะว่ามันคือความทรงจำของเขา" เฮเลนตอบรอน "เพราะมันคือความทรงจำของแท็ค ตอนนั้นเขาเป็นงู เขาเข้าใจที่นากินีพูดเราถึงได้เข้าใจเหมือนกัน"
"ฉันก็คิดแบบนั้น" แฮร์รี่เสริม
พวกเขาเดินตามแท็คไปเรื่อยๆ จนกระทั่งพวกเขามาหยุดอยู่ที่ร่างหนึ่งกลางป่าทึบ เขาสวมเสื้อคลุมสีดำสนิทดูท่าทางคุ้นตา ชายเสื้อคลุมปลิวไสวตามแรงลมที่พัดมาอย่างเบาบาง เขากำลังต้มอะไรบางอย่าง ในหม้อต้มยาใบใหญ่มีสสารสีเขียวขุ่นๆ หมุนวนอยู่ข้างใน
'พาใครมางั้นเหรอ... นากินี' เสียงนั้นแหบสูงแต่หนักแน่น มันเป็นเสียงที่พวกเขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี
โวลเดอมอร์
"นั่นเขา" เดรโกกระซิบ "ฉันมั่นใจว่านั่นเขาแน่"
"เขากำลังปรุงยาอะไรอยู่กันแน่นะ" รอนว่า "ยาชุบชีวิตเหรอ"
"ไม่น่าใช่ ฉันยังจำได้อยู่เลยตอนที่เขาดื่มเลือดยูนิคอร์น" แฮร์รี่พูด "แล้วเขาก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ยาชุบชีวิตด้วย"
"ต้องถามมากกว่าว่าเขาสิงอยู่ในร่างของตัวอะไร" เฮเลนพูด เธอกวาดตามองไปรอบๆ อย่างสงสัยว่าคนอย่างโวลเดอมอร์จะยอมนอนอยู่ในป่าแบบนี้หรือ ตอนนี้เขาน่าจะเหลือเพียงเศษเสี้ยวของวิญญาณที่ต้องอาศัยร่างคนอื่นอยู่เสียด้วยซ้ำไป "บางทีอาจจะเป็นควีเรลล์ก็ได้"
'เด็กประหลาด นายท่าน' นากินีตอบโวลเดอมอร์ 'ไม่ใช่สัตว์ แต่ก็ไม่ใช่มนุษย์'
'กลับคืนร่างจริงเสีย เจ้าหนู' โวลเดอมอร์พูด 'แล้วเราจะตัดสินใจว่าจะเอายังไงกับแกดี'
ภาพความทรงจำเปลี่ยนไปแทบจะในทันทีที่โวลเดอมอร์พูดจบ และความทรงจำใหม่ปรากฏขึ้นอีกครั้งและพวกเขาอยู่ในซอยเล็กๆ ซอยหนึ่งในตรอกมืดๆ แคบๆ ซึ่งถ้าเดาไม่ผิดมันคงจะเป็นตรอกนอคเทิร์น แท็คยืนอยู่ข้างๆ กับใครบางคนที่สวมผ้าคลุมศีรษะสีดำสนิท แท็คไม่ได้ดูซอมซ่อเหมือนครั้งก่อน ดูท่าว่าจะโตขึ้นเยอะเลย เขามีดวงตาสีเข้มที่ดูเย็นชาไร้อารมณ์ดังที่เฮเลนเคยเห็น
ชายในเสื้อคลุมสีดำกำลังคุยอะไรบางอย่างกับเจ้าของร้านบอร์เจ็นและเบิร์กส์แต่ดูเหมือนแท็คจะไม่ได้สนใจฟังมันนัก แท็คใส่เสื้อแขนยาวสีดำและสวมกางเกงเข้ารูปทำให้เขาดูดีมากแม้จะอยู่ในวัยเด็กก็ตาม เขามองออกไปในท้องถนน มองออกไปยังตรอกไดแอกอนก่อนจะหาจังหวะที่ชายคนนั้นเผลอกลายร่างเป็นงูใหญ่เลื้อยออกไปจากตรงนั้นอย่างเงียบเชียบ
เฮเลน เดรโก แฮร์รี่ รอนและเฮอร์ไมโอนี่ไม่รอช้าที่จะรีบเดินสาวเท้าตามเขาไป เรื่องที่แท็คกลายเป็นงูได้ยังคงเป็นปริศนา เขาไม่ได้เฉลยแต่อย่างใด แต่เขากลับให้พวกเขาตามความทรงจำที่เขาบอกเล่าไปเรื่อยๆ ในที่สุดแท็คก็เลื้อยมาจนถึงหมู่บ้านที่เฮเลนและแฮร์รี่คุ้นเคย และบางทีรอนอาจจะคุ้นด้วย
หมู่บ้านลิตเติ้ล วิงกิง ซอยพรีเว็ต
"บ้าน่า" รอนพึมพำ "เขามาที่นี่ได้ไง"
"ไม่มีใครรู้" เฮอร์ไมโอนี่ตอบเขา รอนเงียบเสียงลงเมื่อเธอกระตุกชายเสื้อเขาไม่ให้พูดต่อ
แท็คผงกหัวขึ้นและมองตามเด็กหญิงคนหนึ่งที่เดินอยู่ห่างๆ เสื้อผ้าของเธอหลวมโพรกและดูเก่า เธอเดินมาพร้อมกับเด็กชายสวมแว่นที่มีลักษณะเหมือนกันเปี๊ยบ พวกเขาสองคนดูไม่ค่อยมีความสุขเสียเท่าไหร่ แต่ว่าทั้งคู่ก็เดินจับมือกันอย่างน่ารักและให้กำลังใจกัน
"นั่นมัน..." เฮเลนอ้ำอึ้ง
"เธอกับฉันนี่" แฮร์รี่บอกขณะที่แท็คกำลังผงกหัวมองทั้งคู่ ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่หรือว่าเขากำลังมองด้วยสายตายังไงเพราะเขาก็แค่มอง และมองอย่างเงียบๆ จนกระทั่งในที่สุด เชือกบวงก็รัดเข้าที่คอเขาอย่างรวดเร็ว เฮเลนสะดุ้งเฮือก แท็คขู่ฟ่อแต่ความทรงจำก็สลายไปถูกแทรกเข้ามาด้วยความทรงจำใหม่แทน
งูตัวสีน้ำตาลมันวาวกำลังนอนอย่างเงียบสงบอยู่ในกรงแก้วในสวนสัตว์ แท็คลืมตามองไปรอบๆ ทั้งๆ ที่ขดตัวนอนอยู่ เขาจ้องมองเด็กชายที่นำจมูกมาติดกระจกกั้นอย่างไร้มารยาท สายตาจับจ้องเขาอย่างสนใจ
'ทำให้มันขยับหน่อยสิ' เด็กคนนั้นพูด คนที่เฮเลนเห็นได้ชัดว่าเป็นพ่อของเขาเคาะกระจกเสียงดังสนั่น แต่แท็คก็ยังคงนอนต่อไปอย่างรำคาญ สองคนนั้นคือลุงเวอร์นอนกับดัดลีย์นั่นเอง เฮเลนเดาได้ไม่ยากเลยว่าอีกไม่นานนักจะมีเด็กอีกสองคนมายืนอยู่ตรงนี้แทน
แล้วพวกเขาก็มาหลังจากดัดลีย์เดินลากเท้าออกไป เฮเลนและเเฮร์รี่ในชุดเสื้อยืดหลวมโพรกเดินมาเกาะราวหน้าตู้กระจกเอาไว้และมองเเท็คอย่างตั้งใจ แท็คมองไปยังทั้งคู่เเละยกหัวขึ้นอย่างช้าๆ เขากะพริบตาเบาๆ ให้ทั้งคู่ ฝาแฝดมองหน้ากันเล็กน้อยก่อนจะเหลียวซ้ายแลขวาท่าทางตกใจ
"งูที่เราไปดูในสวนสัตว์ตอนนั้นคือเขางั้นเหรอ" แฮร์รี่ร้อง ซึ่งเฮเลนเองตอนนี้ก็รู้สึกตกใจอยู่เช่นกัน "ให้ตายเถอะ งั้นเขาก็รู้ว่าเราอยู่ที่ไหนตั้งแต่แรกแล้วน่ะสิ!"
"แต่เขาก็ไม่ได้บอกไม่ใช่เหรอ" เฮอร์ไมโอนี่ตอบ "แล้วตอนนี้เขาคง..."
"เขาคงเจอเธอแล้วเฮอร์ไมโอนี่" เฮเลนพูด "เพราะตอนนี้ฉันกับแฮร์รี่อายุสิบสอง แล้วก็กำลังจะสิบสามในไม่ช้า..."
พวกเขามองไปทางแท็คที่กำลังดีดหางไปทางป้ายที่เขียนว่า งูตัวนี้เกิดจากการผสมพันธุ์ในสวนสัตว์แห่งนี้ และเเฮร์รี่กำลังพูดว่า "อ๋อ นายไม่เคยไปบบราซิลมาก่อนงั้นสินะ"
ขณะที่แท็คกำลังสั่นหัว เขาก็เหลือบไปเห็นเพื่อนของดัดลีย์ที่เฮเลนจำชื่อเขาไม่ได้ตะโกนลั่นจนเฮเลนและแฮร์รี่ในความทรงจำของแท็ค รวมไปถึงตัวแท็คเองด้วยสะดุ้งสุดตัวทั้งคนทั้งงู "ดัดลีย์! คุณเดอร์สลีย์! มาดูงูเร็วๆ เข้า พวกคุณจะ ไม่เชื่อ ว่ามันทำอย่างงี้!"
ดัดลีย์เดินมาผลักฝาแฝดจนล้มกลิ้งไปที่พื้น ทั้งคู่มองจ้องดัดลีย์ด้วยสายตาโกรธเคืองทันใดนั้นกระจกกั้นก็หายวับไปราวกับล่องหน แท็คคลายตัวอย่างรวดเร็วและเลื้ยลงมาบนพื้นคอนกรีต ผู้คนรอบๆ ต่างแตกตื่นวิ่งกันโกลาหล แท็คหันไปหาฝาแฝดพร้อมผงกหัวให้เบาๆ 'ขอบใจมากนะ... แล้วเจอกัน'
แล้วความทรงจำนั้นก็จางหายไป เฮเลนและแฮร์รี่มองหน้ากันแล้วก็นึกขำ ตอนนั้นทั้งคู่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองมีเวทมนตร์และคุยกับงูได้ แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ทั้งคู่คุยกับงูไม่ได้อีกต่อไปแล้วเพราะฮอร์ครักซ์ในตัวถูกกำจัดออกไปแล้ว
ความทรงจำใหม่ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ตอนนี้แท็คอยู่ที่คฤหาสน์ดำทะมึนหลังหนึ่ง เขาถูกจัดให้นั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงกันข้ามกับชายที่สวมเสื้อคลุมสีดำซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคนเดียวกับที่อยู่กับเขาที่ตรอกนอคเทิร์น พวกเขานั่งจ้องหน้ากัน แท็คทำท่าไม่พอใจอยู่เล็กๆ เหมือนกับเพิ่งเถียงเรื่องอะไรกันเสร็จหมาดๆ
'ผมขอก็แล้วกัน' แท็คพูดเสียงแข็ง 'ถ้าคุณยังอยากให้ผมเป็นลูกอยู่ล่ะก็'
'แน่นอน ฉันจะไม่ฆ่าพวกมัน' น้ำเสียงกังวานและหนักแน่นตอบกลับเขามา 'ไม่อย่างแน่นอน โดยเฉพาะเด็กที่แกบอกว่าหน้าตาเหมือนกับแม่ของแก'
'เธอไม่ใช่แม่แท้ๆ ของผม' แท็คบอกน้ำเสียงเบื่อหน่าย 'แต่เธอเป็นคนเลี้ยงผมมา อย่างน้อยเธอก็ยังให้ผมได้ใช้คำว่าแม่ก็แล้วกัน'
'ไม่เหมือนกับนังมาเลดิกตัส แม่แท้ๆ ของแกที่ทำให้แกเป็นแบบนี้ใช่ไหม' น้ำเสียงก้องกังวานเจือด้วยความเย้ยหยันเล็กน้อย เฮเลนเห็นแท็คขบริมฝีปากแน่น 'ควีเรลล์บอกฉันว่ามันตายไปแล้ว แต่อลิซาเบ็ธยังคงมีชีวิตอยู่... ฉันคิดว่าอย่างนั้น'
'คุณจะไปรู้อะไร คุณไม่เคยเห็นหน้าเธอด้วยซ้ำ' แท็คตอบอย่างหงุดหงิด 'คุณรับผมเข้ามา ไม่ใช่ฐานะลูกตั้งแต่แรกอยู่แล้วนี่ครับ นากินีก็เป็นคนที่ดูแลผมมาตลอด คุณจะพูดเรื่องนี้กับผมเพื่ออะไร'
'ฉันมีความต้องการอย่างหนึ่ง แท็ค' โวลเดอมอร์พูด 'ฉันอยากให้แกยอมรับเรื่องแกเป็นทายาทสายตรงของกอร์มเลธ ก๊อนท์'
'ไม่มีทาง' แท็คตอบอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องคิด 'ผมจะไปเป็นทายาทของตระกูลนั้นได้ยังไง ในเมื่อผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแม่ของผมเป็นใคร พ่อของผมก็แค่มักเกิ้ลที่ดื่มเหล้าหนักจนตายเท่านั้นเอง'
'คิดว่ามาเลดิกตัสจะมีสักกี่คนบนโลกใบนี้' ริมฝีปากใต้ผ้าคลุมนั้นแสยะยิ้ม 'ถ้าฉันหาทายาทของแม่แกเจอ แกคงจะยอมรับสินะว่าแกเป็นทายาทของตระกูลนั้น'
แท็คถอนหายใจแรงๆ หนึ่งครั้ง
'ได้ครับ! ถ้าคุณหาเจอแล้วเขายืนยันแบบนั้น' แท็คบอก 'แต่ผมมั่นใจว่ายังไงคุณก็จะไม่มีวันหาเจอ -- ผมยอมเรียกคุณว่าพ่อเลยด้วยครับ คุณริดเดิ้ล'
ริมฝีปากนั้นแสยะยิ้มกวา้งขึ้นแล้วความทรงจำนั้นก็จางหายไปพร้อมกับการแทนที่ด้วยอีกความทรงจำหนึ่งแทน ตอนนี้พวกเขามายืนอยู่กันที่ตรอกไดแอกอน แท็คยืนอยู่กับเฮอร์ไมโอนี่ที่หน้าร้านตัวบรรจงและหยดหมึก ในขณะที่รอนและเฮอร์ไมโอนี่กำลังพยายามขอซื้อหนังสือ ปิศาจว่าด้วยเรื่องปิศาจ กันอย่างลำบากใจ แท็คก็เลือกซื้อหนังสือสำหรับปีหนึ่งของเขาเสร็จเรียบร้อยแล้วโดยไม่จำเป็นต้องให้ใครช่วยเหลือ
เหมือนโวลเดอมอร์ไม่มีผิดเพี้ยน
พวกเขาเดินไปทานไอศกรีมด้วยกันจนกระทั่งแฮร์รี่และเฮเลนลงมาจากร้านหม้อใหญ่ ถ้าจำไม่ผิดตอนนั้นพวกเขาเป่าลมป้าพองจนต้องมาอยู่ที่ร้านหม้อใหญ่รั่วชั่วคราว แท็คพบพวกเขาอีกครั้งที่นั่น เฮเลนเห็นเขายิ้มบางๆ ราวกับไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองกำลังยิ้ม พวกเขานั่งทานไอศกรีมด้วยกันสักพักก็พากันไปที่ร้านสัตว์วิเศษเพื่อช่วยเฮอร์ไมโอนี่เลือกสัตว์เลี้ยงตัวใหม่
"ฉันได้ครุกแชงก์มาตอนนี้" เฮอร์ไมโอนี่พูด "ยังจำได้ดีเลยตอนที่เธอซื้อวิตามินสำหรับหนูให้เพ็ตติกรูว์"
รอนยักไหล่เบาๆ
แท็คมองหนูในกระเป๋าเสื้อรอน เขารู้ทันทีเลยว่ามันไม่ใช่หนู มันคงเป็นความสามารถอย่างหนึ่งของเขาที่สามารถรู้ได้ในทันทีว่าสัตว์ตัวใดเป็นอนิเมจัสหรือว่าสัตว์ตัวใดเป็นเพียงแค่สัตว์วิเศษธรรมดา ความทรงจำเปลี่ยนไปอีกครั้ง เฮเลนนึกสงสัยว่าความทรงจำเหล่านี้จะจบลงไปเมื่อไหร่ เขามีเรื่องที่อยากบอกเธอมากมายขนาดนี้เชียวหรือ
พวกเขายืนอยู่ในเพิงโหยหวน แท็คในร่างของงูกำลังขู่ฟ่อไปทางหนูท่าทางโทรมๆ ตัวหนึ่ง ใช่ มันคือสแคบเบอร์หรือเพ็ตติกรูว์นั่นเอง พวกเขาทั้งสองกลับคืนร่างและเพ็ตติกรูว์ตัวสั่นงันงกอย่างหวดกลัว แท็คมองเขาด้วยสายตาที่เหมือนกับคมมีด
'แก -- แกเป็นใคร' หางหนอนละล่ำละลัก เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหวาดกลัวสุดขั้วหัวใจ 'แกต้องไม่ใช่เด็กธรรมดา แกเป็นใครกันแน่!'
'ปีหนึ่ง สลิธีริน' แท็คตอบเสียงราบเรียบ 'ชื่อแท็ค อาเรนเดล แม็คมาเวลล์ หรือที่เขาพยายามให้ผมเป็นก็คือ ลูกชายของทอม มาร์โวโล ริดเดิ้ล'
'ระ -- ริดเดิ้ลงั้นเหรอ' หางหนอนพูด
'เขาต้องการตัวคุณ เขาต้องการคนรับใช้' แท็คบอกเสียงเย็นเฉียบ 'เขาต้องการคนที่สามารถคืนร่างให้กับเขาได้ หรือนั่นก็คือคุณ'
'หรือว่า --'
'ซ่อนตัวเอาไว้อย่าให้ใครรู้ว่าเป็นคุณล่ะ' เขาพูด 'เพราะไม่อย่างนั้นบางทีคุณอาจจะไม่ได้กลับไปอีกเลย'
แท็คกลายร่างกลับไปเป็นงูอีกครั้งและความทรงจำนั้นก็จางหายไป
ภาพความทรงจำใหม่ปรากฏขึ้นอีกครั้งหนึ่งตอนนี้แท็คกำลังอยู่ในห้องๆ หนึ่งซึ่งตอนนี้โวลเดอมอร์ได้กลับมาเป็นรูปร่างคล้ายทารก ดูเขาจะไม่พึงพอใจแต่ก็ต้องยอมจำทนอยู่ในร่างนั้น แท็คนั่งอยู่ข้างๆ เขา เฮเลนคาดว่าตอนนั้นน่าจะเป็นช่วงปิดเทอมเพราะแท็คอยู่กับโวลเดอมอร์ที่นี่ ร่างทารกถูกห่อหุ้มด้วยผ้านุ่มๆ สีเขียวแก่โดยมีนากินีโอบรอบเขาไว้อย่างถนุถนอม
หางหนอนยืนอยู่ข้างๆ แท็ค สองมือกุมกันเอาไว้ด้านหน้าอย่างสำรวม ดวงตาเล็กหยีหลุบมองต่ำอย่างสำนึกผิด ส่วนแท็คมองไปยังร่างของโวลเดอมอร์ด้วยสายตาเย็นชาไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ
'วันนี้มีเรื่องอะไรเหรอครับถึงต้องให้ผมกลับมาในวันหยุดคริสมาสต์' แท็คเริ่มก่อน เขาจ้องมองร่างทารกอ่อนแอของโวลเดอมอร์ 'ความจริงผมควรได้ไปอยู่กับพวกเกรนเจอร์ อย่างที่คุณต้องการเหมือนทุกปีไม่ใช่เหรอครับ'
'ในที่สุดฉันก็หามันเจอ' โวลเดอมอร์พูด น้ำเสียงของเขาเยือกเย็นจนน่าใจหาย 'ไปพามันมา หางหนอน'
เขาตวัดไม้กายสิทธิ์ในมือไปยังทิศของประตูทางเข้า หางหนอนปลิวออกไปจากห้องแล้วประตูก็ปิดตามไล่หลังเขาไปทันที แท็คถอนหายใจเฮือกใหญ่ ดูท่าเด็กชายคงกำลังรู้สึกรำคาญอยู่ในใจลึกๆ เพียงแต่ไม่เอ่ยอะไรออกมา
'เป็นเพราะตอนนี้อยู่ในช่วงแข่งเวทไตรภาคีหรอกนะ ผมถึงปลีกตัวมาได้' แท็คพูดอย่างเย็นชา 'นึกยังไงคุณถึงให้บาร์ตี้ปลอมไปเป็นแม้ด - อาย แล้วใส่ชื่อแฮร์รี่ พอตเตอร์เข้าไปในนั้นน่ะ คุณรู้ไหมว่าตอนนี้พ่อของเขาเริ่มสงสัยแม้ด- อายตัวปลอมนั่นแล้ว'
'แกไม่จำเป็นต้องรู้ เจ้าหนู' โวลเดอมอร์พูด 'วันนี้จะเป็นวันที่แกจะได้รู้เรื่องที่แกอยากรู้มานานแสนนาน แกจะต้องตะลึงยิ่งกว่าคำถามที่แกถามถึงแผนการของฉันเมื่อสักครู่เสียอีก'
แท็คถอนหายใจอย่างหน่ายๆ เขาจำไม่ได้แล้วว่าเขาอยากรู้เรื่องอะไรจากปากของชายคนนี้ ครู่หนึ่งหางหนอนก็นำตัวคนๆ หนึ่งเข้ามา หญิงสาวเรือนผมสีแดงเพลิงถูกพันธนาการเอาไว้ด้วยเชือกวิเศษที่มองไม่เห็น ใบหน้าซูบอาจทำให้ดูแทบไม่ออกว่าเป็นใคร แต่ว่าแค่เพียงมองไปยังใบหน้าเธอแค่แว้บเดียวเขาก็ลุกพรวดขึ้นวิ่งเข้าไปหาเธอในทันใด
'แม่!' แท็คร้องเรียกและประคองร่างบางที่อ่อนแรงจวนจะล้มพับเอาไว้มั่น เธอปรือตามองใบหน้าของแท็คและยิ้มออกมาบางๆ 'แม่ครับ แม่ใช่ไหม ผมจำได้'
'ฉันไม่เคยมีลูกหน้าตาหล่อเหลาแบบเธอหรอกนะ' หญิงสาวกระซิบเสียงแผ่ว 'จะมีก็มีแต่เด็กผู้ชายตัวเล็กๆ ที่เป็นโนแมจ -- แต่เขาก็ตายไปแล้ว...'
'ไม่ครับ... นี่ผมเอง แท็คไง' แท็คประคองเธอให้นั่งลงบนพรมอย่างเบามือ เฮเลนเห็นมือเขาสั่นไปหมด ไม่รู้ว่าดีใจ เสียใจหรืออย่างไรกันแน่ 'แท็ค... โนแมจที่คุณแม่อลิซาเบ็ธคอยเลี้ยงดูมายังไงล่ะครับ'
'ไม่ใช่หรอก' อลิซาเบ็ธยังคงตอบด้วยเสียงที่แผ่วเบาและสั่นเครือ 'เขาตายไปแล้วตั้งแต่ไฟไหม้บ้าน ตายไปพร้อมๆ กับอาเรนเดล เขาน่ะ -- '
แล้วเธอก็เริ่มร้องไห้ แท็คดึงไม้กายสิทธิ์ออกมาจากใต้เสื้อคลุม เขาตวัดมันเบาๆ พร้อมกับร้องว่า ไฟท์ไนท์ เชือกวิเศษคลายออกปล่อยร่างบอบบางเป็นอิสระ แท็คดึงเธอเข้ามาสวมกอดอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจดูเหมือนเขาจะไม่กลัวเลยว่ากระทรวงเวทมนตร์จะตรวจจับได้ว่าเขาใช้เวทมนตร์ แท็คกอดเธออยู่เนิ่นนานจนอลิซาเบ็ธใช้มือผอมเกร็งนั้นตีเบาๆ ที่บ่าของแท็ค
'ผมน่ะไม่ใช่โนแมจ' แท็คกระซิบบอกเธอ 'ผมรู้มานานแล้วว่าพ่อกับแม่เป็นผู้วิเศษ แล้วเราก็กำลังจะย้ายบ้านไปพร้อมกัน ผมรู้ตั้งแต่วันที่พาผมไปวิ่งเล่นที่เชิงเขา ผมโกหกว่าผมหลับแต่ว่าที่จริงผมแอบฟังอยู่'
อลิซาเบ็ธเงียบไปครู่หนึ่ง
'เด็กไม่ดีเลยนะ' อลิซาเบ็ธกระซิบตอบ เธอซบลงบนบ่าแท็คอย่างอ่อนแรง 'ฉันล่ะอยากให้อาเรนรู้เรื่องนี้จริงๆ...'
แล้วร่างบางก็ผลอยหลับไป แท็คอุ้มเธอขึ้นและลุกขึ้นยืน เขาเม้มปากมองหางหนอนด้วยสายตาเกลียดชัง
'จะไปไหน เจ้าลูกชาย' โวลเดอมอร์พูดเมื่อเเท็คทำท่าจะเดินออกไป เขาชะงัก
'ผมก็จะพาแม่ขึ้นไปด้านบนน่ะสิ' แท็คตอบ 'อย่าบอกนะว่าคุณคิดว่าอลิซาเบ็ธคนนี้คือแม่แท้ๆ ของผมที่คุณบอกว่าเธอเป็นมาเลดิกตัสน่ะ -- เหอะ -- คุณพลาดแล้ว เธอน่ะไม่ใช่...'
'อลิซาเบ็ธ มอร์ริแกน แม็คมาเวลล์' โวลเดอมอร์พูดเสียงเย็นเฉียบ แท็ครู้สึกเหมือนตัวเองตัวชาไปชั่วขณะเมื่อร่างในอ้อมกอดมีอาการสะดุ้งทั้งที่ดูเหมือนจะหลับไปแล้ว 'หล่อนเป็นทายาทสายตรงของมาเลดิกตัส สายเลือดต้องสาปของกอร์มเลธที่ทำผิดพลาดไป'
'ยายทวดเคยบอกฉันเอาไว้ว่า' อยู่ๆ อลิซาเบ็ธที่น่าจะหลับไปก็พูดขึ้นมา 'เราไม่น่าเกิดมาถูกสาป เราไม่ควรจะต้องมีคำสาปติดตัวถ้าเกิดว่าเขาไม่เคยทำผิดร้ายแรงต่อพ่อแม่ของอิโซลต์คนนั้น -- คุณแม่เอาชื่อของญาติมาตั้งให้ฉัน แล้วฉันก็เพิ่งจะรู้ว่ามันเป็นชื่อของแม่ของคนที่เป็นพ่อของยายทวดฉัน ฉันเกลียดที่จะต้องใช้นามสกุลที่ไม่ว่าใครก็รู้ว่าจะต้องเป็นทายาทของเขา'
อลิซาเบ็ธนิ่งไปครู่หนึ่ง เธอยังซบใบหน้าลงบนบ่าของแท็ค
'เลือดของพวกเราต้องคำสาปให้กลายเป็นปีศาจอยู่ทุกวัน -- ฉันเกลียดที่จะต้องเป็นแบบนั้น เกลียดที่จะต้องเห็นพี่สาวกลายเป็นงูฮอร์นเซอร์เพนต์ เกลียดที่ตัวเองจะต้องเปลี่ยนร่างเป็นแมววอมปัส คำสาปร้ายกาจทำให้ไม่เคยมีใครที่จะสามารถรับในสิ่งที่เราเป็นแม้ว่าเราจะบอกพวกเขาว่าเราไม่ต้องการมันเลยก็ตาม' อลิซาเบ็ธจิกมือลงบนเสื้อคลุมสีดำของแท็ค 'วันหนึ่งพี่สาวฉันหนีออกจากบ้านหลังจากเข้าเรียนที่อิลเวอร์มอร์นีไปได้แค่สี่ปี เขาทนรับสภาพของที่นั่นไม่ได้ ไม่มีเพื่อน ไม่มีใครต้องการ -- ฉันอายุห่างจากเธอหกปีได้แต่มองว่าเพราะเธอไม่มีความอดทน เธอถึงไม่เหลือใคร แต่พี่สาวฉันคิดถูก การหนีไปในที่ๆ ไม่มีใครรู้ว่าเราเป็นใครนั้นดีที่สุดสำหรับเราแล้ว -- ฉันได้ข่าวมาว่าพี่สาวแต่งงานกับโนแมจคนหนึ่งที่อยู่ฝรั่งเศส ฉันดีใจที่เห็นว่าเธอมีความสุขเสียที ฉันเองก็อดทนเรียนมาได้จนจบการศึกษาและแต่งงานกับผู้ชายที่รับได้ในสิ่งที่ฉันเป็นอย่างอาเรนเดล แต่งงานเพื่อทิ้งนามสกุลนั่นไปให้พ้นๆ ชีวิต แต่งงานเพื่อลืมไปซะว่าตัวเองเคยใช้นามสกุลที่เป็นเชื้อสายของเขา'
แท็คเม้มปากแน่น เขายังคงกุมไหล่อันสั่นเทาของอลิซาเบ็ธเอาไว้มั่น
'พี่สาวของฉันชื่อ อลิเซีย คอร์วีนัส สมิธ' อลิซาเบ็ธหยุดพักเล็กน้อย 'หรือสิ่งที่คุณกำลังจะย้ำให้มันชัดเจนก็คือ ก๊อนท์... อลิเซียมีลูกชายคนหนึ่ง แต่เธอทิ้งเข้าไว้กับพ่อโนแมจโง่ๆ คนนั้นเพราะชีวิตยัยนั่นเลือกได้แค่ทางเดียวคือหนี! แล้วเธอก็หายไปไม่กลับมาอีกเลย ฉันขอให้อาเรนเดลออกตามหาเด็กชายคนนั้นแต่เขาก็เจอแค่ศพของโนแมจคนหนึ่งในบ้านเท่านั้น แล้วฉันก็ไม่เคยเจอเด็กคนนั้นอีกเลย'
แท็คมือสั่น เขาค่อยๆ วางร่างของอลิซาเบ็ธลงบนพื้นพรมอีกครั้ง มือเรียวประคองใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาของเธอขึ้นมาให้จ้องมองใบหน้าของเขา เสียงหัวเราะเบาๆ ของโวลเดอมอร์ดังขึ้นมาแต่ดูเหมือนว่าสำหรับแท็คแล้วเขากำลังหัวเราะเสียงดังกึกก้องจนเสียงนั่นกังวานไปทั่วทั้งคฤหาสน์เลยทีเดียว
ติดตามตอนต่อไป...
ความคิดเห็น