ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~ Happy Family 2 ~ { yunjae & TVXQ mpreg }

    ลำดับตอนที่ #83 : Special YunJae # 16

    • อัปเดตล่าสุด 23 พ.ค. 54


         เสียงออดที่ดังขึ้นเรียกให้ร่างบางที่นั่งดูทีวีโดยมีหัวหมีๆหนุนอยู่ที่ตักต้องหันไปมองก่อนจะก้มลงบอกคนที่นอนอืดกินผลไม้อยู่บนตักให้ลุกขึ้นไปเปิดประตู

         “ สงสัยว่าชางมินจะมาน่ะ  ยุนไปเปิดประตูหน่อยสิ ” เสียงหวานบอกในขณะที่มือก็ทำหน้าที่ปอกแอ๊ปเปิ้ลไปด้วย

         “ ชางมินมาทำอะไรแต่เช้านะ” คิ้วหนาขมวดนิดๆด้วยความสงสัย

           ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นมาหาตอนเช้าแบบนี้แล้ววันนี้นึกยังไงถึงได้มาแต่เช้าได้ละเนี่ย  อย่าบอกนะว่าริคกี๊ไม่อยู่ก็เลยละมาขอพึ่งอาหารเช้าที่ห้องพวกเขา

         ยุนโฮพาร่างที่ยังคงใส่ชุดนอนตัวเมื่อคืนเดินออกไปเปิดประตู  ก่อนที่ตาเรียวจะเบิกกว้างด้วยความดีใจเมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านั้นเป็นใคร

        “ ไอ้ปาร์ค! ” ยุนโฮเรียกชื่อเพื่อนเสียงดัง

        “ ไอ้ชอง !

         ยูชอนล้อเลียนยุนโฮด้วยการทักเพื่อนกลับเสียงดังใบหน้าหล่อกลั้นขำเมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อนรัก   แค่เห็นหน้าหล่อๆของปาร์คแค่นี้ทำเป็นตกใจไปได้

         ยุนโฮหัวเราะตามออกมาเบาๆ “ สวัสดีครับจุนซู ” พอตั้งสติได้ยุนโฮก็เอ่ยทักทายคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างๆยูชอน

         “ สวัสดีฮะ  แจจุงล่ะฮะ ” จุนซูทักทายด้วยรอยยิ้มน่ารักก่อนจะถามหาร่างบางที่ตอนนี้กลายเป็นเพื่อนสนิทของจุนซูไปแล้ว

          เพราะยูชอนกับยุนโฮไปมาหาสู่กันบ่อยๆเรียกว่าทั้งคู่เจอกันแทบทุกเดือนเลยก็ว่าได้  มันเลยทำให้แจจุงกับจุนซูพลอยสนิทกันไปด้วยเพราะนิสัยของทั้งคู่ก็คล้ายๆกันแถมยังมีแฟนที่เป็นเพื่อนรักที่รักกันมากอีกต่างหาก

         “ อยู่ในห้องนั่งเล่นครับ ”  ตอบจุนซูด้วยน้ำเสียงสุภาพสร้างความหมั่นไส้เล็กๆให้กับปาร์คยูชอน  

          แหมๆทีกับเพื่อนกับฝูงไม่เห็นเคยพูดเพราะแบบนี้บางเลยนะ   ปาร์คอยากจะรู้จริงๆเลยว่าถ้าปาร์คเปลี่ยนไปเป็นเคะบ้างยุนโฮจะให้เกียรติเขาเหมือนที่ให้เกียรติแจจุงกับจุนซูหรือเปล่า

         “ แล้วไม่คิดจะชวนเพื่อนเข้าห้องหน่อยเหรอ ” แขวะเข้าให้  มาถึงตั้งนานแล้วแต่มันให้เพื่อนยืนคุยอยู่หน้าห้องเนี่ยนะ

         “ เออ.... จริงด้วยเชิญครับเชิญ ” ยุนโฮผายมือออกเพื่อเชิญให้ทุกคนเข้าห้องก่อนจะเดินนำไปที่ห้องนั่งเล่นที่มีแจจุงนั่งอยู่

         และทันทีที่เข้ามาในห้องเสียงโลมาก็ดังทักทายคนที่กำลังนั่งดูรายการแม่และเด็กอยู่ทันที

         “ แจจุงคิดถึงจังเลย ”

         “ อ้าว....จุนซู  ยูชอน มาได้ไงเนี่ยไหนบอกว่าจะมาวันอาทิตย์ไงล่ะ ” แจจุงหันกลับไปมองตามเสียง  ใบหน้าสวยวาดยิ้มดีใจระคนกับความแปลกใจ

         เพราะตอนที่คุยกันครั้งล่าสุดจุนซูบอกว่าจะมาเยี่ยมเขากับยุนโฮวันอาทิตย์นี่นาแต่นี่มันพึ่งจะวันศุกร์เองนะ

         “ พอดีว่าไม่มีเรียนน่ะก็เลยมาก่อนกำหนด  ไม่ดีเหรอจะได้อยู่ด้วยกันนานๆ ” จุนซูเดินไปนั่งลงข้างๆแจจุงอย่างถือสิทธิ์

         ตอนแรกก็ว่าจะมาวันอาทิตย์นั้นแหละแต่อาจารย์ติดธุระเลยทำให้วันนี้พวกเขาไม่มีเรียน   และพอรู้ดังนั้นจุนซูก็ชวนยูชอนเก็บกระเป๋ามาที่นี่ทันทีเพราะตื่นเต้นอยากเห็นว่าตอนนี้แจจุงท้องโตมากแค่ไหน 

         “ ดีสิ....แล้วนี่พักที่ไหนกันเหรอ ” ดีสิทำไมจะไม่ดีอยู่ด้วยกันหลายคนสนุกดีออก   เสียงหวานเอ่ยถามถึงที่พักเมื่อเห็นว่าจุนซูกับยูชอนเอากระเป๋าเดินทางมาด้วย

         “ ก็ว่าจะพักที่นี่แหละ  สะดวกหรือเปล่า ” ยูชอนบอกเพราะมาครั้งนี้เขาตั้งใจจะมาพักกับยุนโฮ

         “ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ”  บอกด้วยน้ำเสียงเต็มใจเพราะคอนโดของเขามีสองห้องนอนพอดีเลย

         ยุนโฮพึ่งย้ายคอนโดใหม่ได้เมื่อไม่นานมานี้เองเพราะคอนโดเก่านั้นมีแค่ห้องนอนเดียวแล้วก็ค่อนข้างที่จะเล็กเพราะตอนที่ซื้อนั้นคิดว่าอยู่คนเดียวคงไม่ต้องมีอะไรมากมาย    แต่พอรู้ว่าแจจุงท้องยุนโฮก็จัดการหาคอนโดใหม่ทันทีและร่างสูงก็เลือกที่ที่ใกล้กับโรงพยาบาลมากที่สุดเผื่อมีอะไรฉุกเฉินจะได้ถึงมือหมอได้ทันเวลา

          “ แล้วนี่ทานอาหารเช้ากันมาหรือยัง  ทานด้วยกันไหม ” แจจุงเอ่ยถามเพื่อที่จะได้โทรลงไปสั่งอาหารเพิ่มเพราะพวกเขาก็ยังไม่ได้ทานอะไรเหมือนกัน

        “ ดีเหมือนกัน  พอมาถึงพวกฉันก็มาที่นี่เลย” ยูชอนเห็นด้วยเพราะพอมาถึงพวกเขาก็ตรงมาที่นี่เลยไม่ได้แวะที่ไหน “ แต่ก่อนที่จะทานอาหารเช้าฉันว่าพวกนายไปอาบน้ำก่อนไหม ”

         ยูชอนเอ่ยแซวเจ้าของห้องทั้งสองที่ตอนนี้ยังอยู่ในชุดนอนด้วยกันทั้งคู่   ใส่ชุดนอนมานั่งคุยกับแขกแบบนี้มันดูกันเองเกินไปไหมครับยุนโฮ  แจจุง

         ทั้งสองก้มลงดูชุดของตัวเองก่อนจะหลุดหัวเราะออกมา“ ลืมไปเลย...งั้นรอเดี๋ยวนะขอตัวไปอาบน้ำแป๊บนึง ”

         เพราะไม่คิดว่ายูชอนกับจุนซูจะมาวันนี้ยุนโฮกับแจจุงจึงไม่ได้รีบเร่งอะไรเพราะวันนี้ยุนโฮมีเรียนตอนบ่ายจึงไม่จำเป็นต้องรีบอาบน้ำ   ทั้งคู่ตั้งใจว่าดูรายการดูแลคนท้องเสร็จก่อนค่อยจะลุกไปอาบ

         “ ตามสบายเลย  คิดซะว่านี่เป็นห้องพวกนายก็แล้วกัน ” ยูชอนบอกขำๆก่อนจะหยิบผลไม้เข้าปากทำตัวราวกับว่าที่นี่เป็นห้องของตัวเอง

        “ ก็แหงแหละ....นี่มันห้องพวกฉันจริงๆนี่นา ”

         “ อ่าวเหรอ....โทษทีลืมตัวน่ะ ” บอกกลั้วหัวเราะ

         “ เบอร์ร้านอาหารอยู่ข้างๆโทรศัพท์นะถ้าอยากทานอะไรก็โทรสั่งได้เลย ”

         “ โอเค  เข้าใจแล้ว ”

         แจจุงบอกอีกครั้งก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำจริงๆเมื่อจุนซูพยักหน้าบอกว่าเข้าใจแล้ว  และถึงแม้แจจุงจะไม่บอกว่าเบอร์โทรศัพท์อยู่ไหนจุนซูก็รู้อยู่ดีเพราะมาที่นี่บ่อยจนแทบจะรู้จักทุกซอกทุกมุมของห้องนี้แล้ว

         หลังจากที่ยุนโฮกับแจจุงเข้าไปในห้องได้ไม่นานเสียงออดหน้าห้องก็ดังขึ้น  ยูชอนจึงจำต้องเดินไปเปิดประตูเพราะเจ้าของห้องทั้งสองไม่สามารถออกมาเปิดได้และจุนซูเองก็ไม่มีทีท่าว่าจะลุกไปเปิดซะด้วยสิ

         “ อ้าว....พี่ยูชอนสวัสดีฮะ ” ชางมินมีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นยูชอนในวันนี้  หากแต่ใบหน้าหล่อก็ยังมีรอยยิ้มแห่งความยินดีติดอยู่ยินดีที่ได้พบพี่ชายอีกครั้ง

         “ สวัสดีชางมิน  เป็นไงบ้างสบายดีไหม ”  เอ่ยทักทายก่อนจะเดินนำเข้ามาในห้องนั่งเล่น

         “ ก็เรื่อยๆตามสภาพน่ะฮะ  สวัสดีครับพี่จุนซู ” ชางมินตอบยูชอนก่อนจะเอ่ยทักทายคนที่นั่งส่งยิ้มน่ารักรออยู่ก่อนแล้ว

         ไม่แปลกหรอกถ้าชางมินจะรู้จักคุ้นเคยกับยูชอนและจุนซูเป็นอย่างดีเพราะทุกครั้งที่ยูชอนกับจุนซูมาที่นี่ชางมินก็มักจะมาขลุกตัวอยู่ที่ห้องของยุนโฮทั้งวันทั้งคืนเพื่อมาเล่นเกมส์กับคนทั้งสอง

         “ สวัสดีชางมิน  มาหาข้าวเช้าทานเหรอ ” จุนซูเอ่ยทักทายตอบก่อนจะตามมาด้วยคำแซวก็ชางมินน่ะขึ้นชื่อเรื่องกินเยอะน่ะสิ

         “ ฮะ....แล้วนี่พี่จุนซูไม่ได้ทานอะไรเลยใช่ไหมฮะ ” ตอบยิ้มๆหากแต่ในดวงตาคมเข้มกำลังมีแววสนุกซ่อนอยู่

         “ อื้อ...ยังไม่ทานอะไรเลย ” จุนซูตอบไปตามจริงเพราะเข้าใจว่าชางมินหมายถึงอาหารเช้า

          “ อ่อ...ถึงว่าล่ะส่วนสูงถึงหยุดอยู่แค่นี้ ”

          จุนซูหันขวับกลับไปมองทันทีที่ได้ยิน   ตอนแรกก็นึกว่าเป็นห่วงถามว่าเราทานข้าวเช้าหรือยังแต่ที่ไหนได้มันหาเรื่องหลอกด่านี่หว่า   แล้วด่าเรื่องอะไรไม่ด่ามาด่าเรื่องส่วนสูงแบบนี้จุนซูยอมไม่ได้เด็ดขาด

         “ ชิม   ชางมิน ” ร่างบางวางหนังสือในมือลงทันทีก่อนจะเรียกชื่อเจ้าตัวโย่งเสียงดัง

          “ ว่าไงฮะ  พี่คิม จุนซู ” นอกจากจะไม่สะทกสะด้านแล้วยังเรียกชื่อกลับด้วยน้ำเสียงกวนๆซะด้วย

          “ เสียงดังอะไรกันอ่ะ ” ยุนโฮเอ่ยขึ้นหลังที่ได้ยินเสียงจุนซูดังเข้าไปถึงในห้องนอน ใครอะไรทำให้โลมาพิโรธอีกล่ะเนี่ย

         และนี่ก็เป็นอีกนิสัยหนึ่งที่จุนซูกับแจจุงมีเหมือนกันเพราะถ้ามีใครมาล้อเรื่องปมด้อยที่เจ้าตัวไม่ชอบแล้วล่ะก็  จากนางฟ้าแสนสวยก็สามารถกลายร่างไปเป็นนางพญาจอมโหดได้ทันที

         “ ก็เรื่องเดิมๆนั่นแหละ ” ยูชอนบอกพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆทะเลาะกันแต่เรื่องเดิมๆเหมือนเด็กๆ

         และยุนโฮก็รู้โดยไม่ต้องเสียเวลาคิดเลยว่าเรื่องเดิมๆที่ยูชอนว่าหมายถึงเรื่องอะไร ใบหน้าหล่อพยักขึ้นลงเบาๆ “ อ่อ....แล้วนี่พวกนายโทรสั่งอาหารกันหรือ ยัง ”

         “ ยังเลย...กำลังจะสั่งเนี่ยแหละ ” จุนซูบอก  เขากำลังจะโทรสั่งอาหารอยู่แล้วเชียวแต่ว่าชางมินก็มาหาเรื่องชวนทะเลาะซะก่อน

         “ สั่งเผื่อผมด้วยสิฮะ ” ชางมินแทรกขึ้นมาเพราะเขาก็ยังไม่ได้ทานอาหารเช้าเหมือนกัน    และที่ชางมินต้องหอบสังขารขึ้นมาถึงห้องอขงยุนโฮก็เพราะว่าวันนี้ยูฮวานไม่อยู่ชางมินไม่อยากนั่งทานข้าวคนเดียวเลยขึ้นมาหาแจจุงกับยุนโฮที่ห้องหวังจะมาฝากท้องที่ห้องนี้สักมื้อ

          “ ไม่....อยากกินก็สั่งเองสิ ” บอกด้วยน้ำเสียงห้วนๆ จุนซูยังไม่หายเคืองที่โดนชางมินล้อความสูง

           “ โห....อะไรอ่ะ ไม่สวยแล้วยังใจร้ายอีก ”  ช่วยแค่นี้ก็ไม่ได้  ไม่เห็นเหมือนพี่แจจุงเลยที่ถึงแม้จะงอนให้เขาแค่ไหนแต่ยังอุตส่าห์สั่งมาเผื่อเขา

         “ อะ แฮ่มๆ  ” ชายปาร์คที่นั่งฟังอยู่ถึงกับต้องกระแอมเบาๆให้กับคำพูดของชางมินที่บังอาจมาวิพากวิจารณ์แม่โลมาน้อยของเขา

         ขอโทษนะไอ้น้องถึงแม้ว่าแฟนพี่จะไม่สวยแต่แฟนพี่น่ารักโคตรๆเลยนะจะบอกให้  แกมีปัญญาหาแฟนได้น่ารักเท่าจุนซูหรือเปล่า

        “ อ่าว ....ชางมิน ” เสียงหวานเอ่ยทักผู้มาใหม่เมื่อเห็นว่าในห้องมีสมาชิกมาเพิ่ม

        “ อรุณสวัสดิ์ฮะพี่  วันนี้ผมมาทานข้าวเช้าด้วยนะ ” เอ่ยทักทายยามเช้าพร้อมกับยิ้มโชว์ฟันขาว

        “ อืม ...แล้วนี่เขายังไม่เอาอาหารขึ้นมาส่งอีกเหรอ ” 

         “ จะเอามาส่งได้ยังไงล่ะ....ยังไม่ได้โทรไปสั่งเลย ” ยุนโฮเอ่ยฟ้องคนรัก

        เพราะจุนซูกับชางมินมัวแต่ทะเลาะกันเลยทำให้ยังไม่ทันได้โทรไปสั่งอาหารเลย  ซึ่งแต่ก่อนแจจุงกับชางมินก็เป็นแบบนี้แหละ   แต่พอแจจุงเริ่มท้องชางมินก็เลยยอมให้เพราะเจ้าตัวไม่อยากเห็นแจจุงร้องไห้เวลาที่สู้ไม่ได้

         “ เป็นงั้นไป ” แจจุงหัวเราะออกมาเบาๆ

        “ จริงสิ...ตอนนี้พี่ท้องได้กี่เดือนแล้วอ่ะ ” ชางมินเอ่ยถามพร้อมกับสังเกตหน้าท้องของแจจุงไปด้วย

         “ ใช่ๆฉันก็ว่าจะถามเหมือนกัน  ทำไมท้องนายยังดูเรียบๆอยู่เลยอ่ะ ” จุนซูก็ว่าจะถามอยู่เหมือนกันเพราะยังเห็นท้องของแจจุงยังเป็นปกติอยู่

          “ จะสามเดือนแล้ว....คุณหมอบอกว่าท้องแรกก็แบบนี้แหละเห็นไม่ค่อยชัดเท่า   ไหร่กว่าจะดูออกว่าท้องก็ต้องเข้าสู่เดือนที่สี่ที่ห้าน่ะ ” มือขาวลูบหน้าท้องของตัวเองเบาๆ

         ตอนแรกแจจุงก็แปลกใจอยู่เหมือนกันว่าทำไมท้องเขาถึงไม่โตซักทีเพราะนี่ก็ใกล้จะเข้าสู่เดือนที่สามแล้ว  ยิ่งยุนโฮยิ่งไม่ต้องพูดถึงเพราะรายนั้นน่ะโทรไปถามหมอด้วยตัวเองเลยเพราะกลัวว่าที่ท้องเขาไม่โตนั้นอาจจะเกิดจากการที่ลูกไม่แข็งแรงหรือมีความผิดปกติอะไรบางอย่างเกิดขึ้น  

         “ อ่อ...เข้าใจแล้ว ” ชางมินพยักหน้ารับเบาๆก่อนจะหันมาพูดกับจุนซูเมื่อเห็นว่าจุนซูยังคงนั่งเฉยโดยที่ในมือถือโทรศัพท์เอาไว้

         “ พี่จุนซูโทรไปสั่งอาหารสักทีสิ  ผมหิวแล้วนะ ” เจ้าน้องเล็กเริ่มโมโหหิว

         เสียงของชางมินเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนในห้องยกเว้นจุนซูที่จิ๊จ๊ะอยู่ในลำคอเพราะโดนคนที่อายุน้อยกว่าสั่ง

     

    ................................................................................


     

          ในเดือนที่สามนี้ทารกอาจจะเริ่มดูดได้แล้ว ปุ่มรับความรู้สึกที่ลิ้นที่จะทำหน้าที่รับรู้รสชาติของอาหารและต่อมน้ำลายมีการพัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และเมื่อมีการพัฒนาการกลืนได้แล้วทารกก็จะเริ่มกลืนน้ำคร่ำเข้าไป น้ำคร่ำนี้จะเข้าไปอยู่ในกระเพาะอาหารที่เพิ่งจะสร้างเสร็จใหม่ๆเช่นกัน ในน้ำคร่ำจะมีสารอาหารที่จะช่วยให้ทารกเจริญเติบโต และการกลืนน้ำคร่ำเข้าไปก็จะทำให้ไตเริ่มทำงาน เมื่อไตทำงานมีการกรองเกิดขึ้นทารกก็จะมีการปัสสาวะ แต่คุณแม่ไม่ต้องกังวลเพราะปัสสาวะของทารกจะสะอาดปราศจากเชื้อและหมุนเวียนกลับไปเป็นน้ำคร่ำใหม่

          เมื่อสิ้นสุดเดือนที่สามนี้ทารกจะมีน้ำหนักประมาณ 18 กรัม ยาวประมาณ 9 เซนติเมตร ทารกในตอนนี้มีรูปร่างเป็นมนุษย์ตัวจิ๋ว

            ภายในห้องนอนกว้างในตอนนี้ว่าที่คุณพ่อกำลังนั่งอ่านพัฒนาการของลูกน้อยโดยมีว่าที่คุณแม่นอนฟังอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าเป็นสุขเมื่อนึกจินตนาการภาพเจ้าตัวเล็กในท้องตามไปด้วย

          9 เซนติเองเหรอ   งั้นแสดงว่าลูกต้องตัวเล็กมากเลยน่ะสิ ” เสียงหวานเอ่ยถามหลังจากที่ยุนโฮอ่านจบ

         ตอนนี้ลูกเขาตัวแค่นี้เองเหรอ   โหย....แล้วเมื่อไหร่หนูจะดิ้นล่ะลูกคุณแม่อยากคุยกับหนูเต็มทีแล้วนะคนเก่ง    รีบๆโตแล้วมาคุยเป็นเพื่อนคุณแม่ตอนที่คุณพ่อไปเรียนนะลูกนะคุณแม่เหงาจะแย่อยู่แล้ว

         “ ใช่ ....ตัวเท่านี้เองมั้ง ” ยุนโฮทำมือขึ้นกะขนาดก่อนที่ร่างสูงจะอ่านต่อเมื่อเห็นประโยคต่อไปน่าสนใจ  “ แต่เดี๋ยวนะ  ในนี้เขาบอกว่า ตอนนี้หัวใจทำงานได้สมบูรณ์แล้ว  สามารถให้คุณหมอตรวจเพื่อฟังเสียงหัวใจของเด็กได้ ”

         “ ฟังเสียงหัวใจเหรอ ” แจจุงอุทานออกมาเบาๆ ตากลมโตเบิกกว้างเขาจะสามารถได้ยินเสียงหัวใจอีกหนึ่งดวงที่เต้นอยู่ในตัวเขาได้จริงๆเหรอ

         “ อืม....เอาไว้ไปตรวจครั้งหน้าเราขอคุณหมอฟังเสียงหัวใจของลูกกันนะ ” ยุนโฮพยักหน้าบอก

         “ แจตื่นเต้นยังเลยยุน ”  แค่คิดว่าจะได้ฟังเสียงหัวใจลูกแจจุงก็ตื่นเต้นแล้ว  ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าถึงวันจริงเขาจะตื่นเต้นมากกว่านี้แค่ไหน

         “ ยุนก็ตื่นเต้นเหมือนกัน ” เขาก็ตื่นเต้นไม่แพ้แจจุงเหมือนกันครั้งแรกของคนเป็นพ่อที่จะได้ฟังเสียงหัวใจของลูกเขาไม่อยากจะคิดเลยว่าวันนั้นเขาจะมีความสุขมากแค่ไหน     และถ้ายุนโฮเดาไม่ผิดวันนั้นต้องเป็นวันที่แจจุงปล่อยโฮอีกรอบแน่ๆ ช่วงนี้ยิ่งอยู่ในช่วงอารมณ์อ่อนไหวอยู่ด้วย

         “ แล้วถ้าเรารู้เพศลูกแล้วเราไปซื้อของมาแต่งห้องให้ลูกกันนะ ”

         “ อืม...แต่ให้ลูกนอนห้องเดียวกับเรานะ ”

         “ แน่นอนอยู่แล้ว ”

         สองสามีภรรยาช่วยกันวางแผนอนาคตของเจ้าตัวเล็กเอาไว้คร่าวๆ  เริ่มต้นจากการที่ให้ลูกน้อยนอนห้องเดียวกับเขา   แน่นอนว่าทั้งสองคิดเหมือนกันเพราะไม่มีทางที่พวกเขาจะห่างจากลูกแน่ๆ

         “ ยุนว่าลูกเราจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ” ร่างบางเอ่ยถาม  หัวกลมหนุนอยู่บนลำแขนแกร่งมือบางข้างหนึ่งลากวนอยู่แผ่นอกแข็งแรงเพราะไม่มีอะไรทำ

         “ ยุนอยากได้ผู้ชายน่ะ  ขอให้เป็นผู้ชายทีเถอะ” บอกตามจริงก่อนที่มือหนาจะลูบที่หน้าท้องเนียนเบาๆคล้ายกับบอกกับเจ้าตัวเล็กในท้องว่าขอให้หนูเป็นผู้ชายนะลูก

              “ ทำไมล่ะ ” ตากลมช้อนมองใบหน้าคม  แจจุงอยากรู้จังว่าทำไมยุนโฮถึงอยากให้ลูกเป็นผู้ชาย

         “ ก็เพราะว่าเขาจะได้ปกป้องน้องสาวได้ยังไงล่ะ ” ยุนโฮก้มลงตอบยิ้มๆก่อนจะจุมพิตลงบนหน้าผากมนเบาๆ

         “ น้องสาว? ” คิ้วเรียวขวมดนิดๆ ยุนโฮจะให้ลูกไปปกป้องน้องสาวที่ไหนอ่ะ  อย่าบอกนะว่ายุนโฮคิดจะมีลูกคนที่สองต่อ “ อย่าบอกนะว่า..... ”

         “ อ่าฮะ....แจคิดว่ายุนจะหยุดอยู่ที่คนเดียวหรือไงครับ ” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าคม  

         นี่แจจุงคิดว่าเขาอยากมีลูกกับแจจุงแค่คนเดียวหรือไง   ไม่มีทางอ่ะอย่างน้อยต้องสองคนเป็นอย่างต่ำ   ดีจะตายมีลูกหลายๆคนแสดงว่าเขารักกับแจจุงรักกันมากไงล่ะ

         “ โหย....แค่คนเดียวแจก็จะแย่แล้วน๊า ” เสียงหวานโอดครวญ

          แค่ท้องลูกคนนี้แจจุงก็แทบจะเอาตัวไม่รอดแล้ว   แพ้ท้องแต่ล่ะทีเล่นเอาเกือบตายแจจุงเข็ดแล้วจริงๆ   ขอมีแค่คนเดียวแล้วก็เลี้ยงดูเขาให้ดีที่สุดเท่านี้ก็น่าจะพอแล้ว

          “ ถ้างั้นท้องนี้ต้องเป็นลูกแฝดยุนถึงจะยอมให้แจท้องแค่ครั้งเดียว ” ยังไงซะยุนโฮก็จะมีลูกมากกว่าหนึ่งคนให้ได้

          ก็แหม....พ่อแม่ออกจะหน้าตาดีขนาดนี้เขาก็อยากจะผลิตทรัพยากรมนุษย์หน้าตาดีๆเอาไว้ให้ประเทศเยอะๆน่ะสิ

          “ เรื่องแบบนี้มันบังคับกันได้ที่ไหนเล่า ”  ปากอิ่มอมลมเข้าจนเต็มแก้ม   เรื่องแบบนี้มันบังคับกันได้ที่ไหนเล่า  ถ้าบังคับได้คนทั้งโลกคงมีลูกเป็นเพศตามที่ตัวเองต้องการกันหมดแล้ว

          “ ฮ่าๆ ก็ยุนกลัวลูกเหงานี่นา ”  บอกกลั้วหัวเราะ  ก็เขากลัวว่าถ้าเกิดเป็นลูกคนเดียวแล้วลูกจะเหงานี่นาเขาก็เลยอยากจะหาเพื่อนเล่นให้ลูก

          “ ลูกไม่เหงาหรอก  เพราะแจจะเล่นเป็นเพื่อนลูกเอง ”

          “ จะกระชากวัยว่างั้น ” เอ่ยแหย่คนรัก 

          “ เขาเรียกว่าปรับตัวให้เข้ากับลูกต่างหากล่ะ ”  แก้คำให้ใหม่  เพราะลูกยังเด็กยังปรับตัวไม่ได้เขาเป็นแม่จึงยอมเสียสละที่จะป็นฝ่ายปรับเข้าหาลูกเอง

           “ เหรอ............ ”  ลากเสียงยาว เขาเรียกแบบนั้นจริงๆเหรอครับคุณคิมแจจุง

            “ ใช่ ” ลากเสียงยาวตอบกลับมาเช่นกัน  ใบหน้าหวานวาดยิ้มมีความสุขเมื่อนึกถึงวันนั้น

            “ แล้วช่วงนี้แจยังแพ้อยู่หรือเปล่า ” ถามไถ่ด้วยความห่วงใยเพราะคุณหมอบอกว่าช่วงเดือนที่สามคุณแม่เริ่มแพ้น้อยลงแล้ว

           “ ก็มีแพ้บ้าง  แต่ก็ดีขึ้นกว่าเดือนที่แล้ว ”  ถึงจะไม่หายขาดแต่ก็ถือว่าดีขึ้นมากๆเลยล่ะเพราะช่วงนี้เขาจะรู้สึกอยากอาเจียนแค่ตอนที่ได้กลิ่นอาหารฉุนๆเท่านั้น

           “ ดีแล้วล่ะ   แจจะได้ทานอาหารได้มากกว่าเดิม” ดีแล้วล่ะแจจุงจะได้ทานอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้นเพราะช่วงที่แพ้ท้องแม้ว่าเขาจะหาอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการมาให้แจจุงทานแต่สุดท้ายแล้วร่างบางก็อาเจียนออกมาทางเดิมทุกครั้ง ก่อนจะถามถึงอีกอาการที่น่าเป็นห่วง “แล้วเลิกท้องผูกหรือยัง ”

           “ ยังเลยอ่ะ  ยุนถามเหมือนตอนที่ไปตรวจกับคุณหมอเลย ” ร่างบางหัวเราะคิกคักเพราะยุนโฮถามเหมือนตอนที่เขาไปหาหมอเลย

           “ ก็ยุนเป็นหมอนนี่นา  หมอประจำตัวของแจไงล่ะ ”  มือหนาบีบจมูกเล็กด้วยความหมั่นเขี้ยว

           “ ก็ลองไปเป็นประจำตัวให้คนอื่นดูสิจะหอบลูกหนีกลับเกาหลีให้ดู ” ใบหน้าหวานเงยขึ้นมองหน้าคนรักพร้อมด้วยแววตาขู่ว่าถ้ายุนโฮกล้าไปเป็นหมอประจำตัวให้คนอื่นละก็แจจุงจะพาลูกหนีกลับเกาหลีจริงๆ

           “ แล้วแจคิดว่ายุนจะยอมให้แจพาลูกหนีเหรอ ” เอ่ยถามกลั้นยิ้ม  คิดว่าผมจะให้คุณพาลูกหนีไปง่ายๆงั้นเหรอไม่มีทางอ่ะ  

           เขาต้องใช้ความพยายามตั้งกี่รอบกว่าจะปั้นขึ้นมาได้เพราะฉะนั้นไม่มีทางที่แจจุงกับลูกจะหนีเขาไปได้ง่ายๆหรอก

           “ ถ้าไม่ยอมก็ต้องทำตัวดีๆเข้าใจไหม  ต้องดูแลลูกให้ดีๆและที่สำคัญต้องรักแม่ให้มากๆ ”

           “ แน่นอนอยู่แล้ว  ” บอกด้วยน้ำเสียงหนักแน่น  แค่นี้ก็รักมากจนไม่รู้จะมากยังไงแล้วเนี่ย

            “ ดีมาก  นอนกันดีกว่าพรุ่งนี้จะได้ไปฟังเสียงหัวใจลูกกันไง ” หัวเราะชอบใจก่อนจะดึงผ้าห่มที่อยู่ช่วงเอวให้ขึ้นมาคลุมถึงช่วงอกเป็นการบังคับให้ยุนโฮเลื่อนตัวลงมานอนกลายๆ

            “ ครับผม  ฝันดีนะครับคุณแม่  ฝันดีนะครับลูกรักของพ่อ ”  จุ๊บราตรีสวัสดิ์ที่กลีบปากอิ่มก่อนจะเลื่อนลงมาจุ๊บเบาๆที่หน้าท้องเนียนที่นูนออกมานิดๆ 








    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×