ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ระบำอารมณ์

    ลำดับตอนที่ #8 : หวานรักในลอนดอน---100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 165
      0
      1 มี.ค. 60



    ตอนที่ 7 หวานรักในลอนดอน

              หลังจากหลับยาวไปร่วมสามชั่วโมง ครั้นตื่นขึ้นมาภูริชรู้สึกดีขึ้นมากศีรษะไม่หนักอึ้งไม่ครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนก่อนหน้านี้ แต่สิ่งที่ทำให้หัวใจปลาบแปลบทันทีที่ตื่นขึ้นมาก็คือไม่เห็นปนาลีนั่งอยู่ที่เดิมก่อนที่เขาจะหลับไป เขาลุกพรวดขึ้นมานั่งหันซ้ายหันขวากลอกตามองหาจนทั่วแต่ไม่พบ ชายหนุ่มนั่งคอตกพูดรำพึงรำพันเหมือนคนหมดอาลัยตายอยากในชีวิต

              ปนาลี... ทำไมต้องหนีผมไปอีก เรื่องของเรามันไม่มีวันเป็นไปได้จริงๆ ใช่ไหม

    ฉันยังไม่ได้ไปไหนนี่คะ

    ปนาลี!” ภูริชอุทานด้วยความดีใจแล้วยิ้มกว้างรีบถลันเข้าไปหาเจ้าของน้ำเสียงหวานปนเศร้าที่กำลังเดินออกมาจากมุมหนึ่งซึ่งเป็นทางเดินไปห้องน้ำ รั้งตัวเธอเข้ามาสวมกอดไว้แนบแน่น ตอนนี้หัวใจที่แฟ่บลงพองฟูจนคับอก เธอยังไม่ได้จากไปไหนแสดงว่าเขายังพอมีความหวังและเขาจะไม่ทำให้ความหวังที่เหลืออยู่น้อยนิดหลุดลอยไปเด็ดขาด

    ปล่อยค่ะ ตอนนี้คุณหายดีแล้วฉันก็ควรจะต้องกลับเสียทีเจ้าของร่างบางที่ถูกกอดรัดจนแน่นอึดอัดพยายามแข็งขืนบอกด้วยน้ำเสียงมั่นคง

    ไม่ปนาลี ต่อไปผมจะไม่ปล่อยคุณอีกแล้ว สามเดือนที่ผมพยายามตามมาง้องอนคุณมันยังไม่มากพอที่จะทำให้คุณเชื่อใจใช่ไหม ว่าผมจริงใจกับคุณมากแค่ไหน เขาโยกตัวเธอออกห่างพอให้มองเห็นหน้ากันแต่ยังคงกอดรัดไว้อย่างเหนียวแน่นกันเธอคิดหนี สายตาคมสบตาเธอเหมือนอยากจะให้มองเห็นความจริงใจตามที่เขาได้ลั่นวาจาออกไป

    กลับไปเถอะค่ะ เรื่องระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้ ถ้าคุณเป็นคนอื่นฉันอาจไม่คิดอะไรมาก แต่นี่คุณเป็นพี่น้องกัน ฉันจะทำแบบนั้นกับภูบดินทร์ได้ยังไงในเมื่อเขายังรอฉันอยู่ ฉันทำไม่ได้หรอกภูริช ฉันทำไม่ได้...

    ปนาลีพูดปนเสียงสะอื้นอย่างกักเก็บไม่ไหว ก่อนปล่อยโฮแล้วโผเข้าสวมกอดภูริชร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความรู้สึกสะท้านสะเทือนใจ แม้เธอจะไม่ได้รักเขามาก่อน ทว่าการมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งแม้จะเกิดจากความไม่ตั้งใจ แต่เธอก็แพ้ความพยายามของเขาที่ตามตื๊อและแสดงความรับผิดชอบหลังจากทั้งเขาและเธอทำบางสิ่งผิดพลาดไป ทำให้เธอรู้สึกใกล้ชิดเขามากขึ้น ดังนั้นหัวใจเธอจึงเอนเอียงออกห่างภูบดินทร์โดยไม่รู้ตัว

    ปนาลี เป็นเพราะเหตุนี้ใช่ไหมที่คุณปฏิเสธผมและหลบหน้าผมและภูบดินทร์มาตลอด ผมดีใจมากที่รู้เหตุผลแท้จริงของคุณ ผมหลงเสียใจมาตั้งนานคิดว่าเป็นเพราะคุณยังลืมภูบดินทร์ไม่ได้

    มือหนาทั้งสองข้างยกขึ้นประคองใบหน้าเรียวสวยที่อาบนองด้วยน้ำตาเธอพยักหน้าขึ้นลงช้าๆ อย่างน่าสงสาร แล้วค่อยๆ เกลี่ยไล้อย่างเบามือจนคราบน้ำตาแห้งเหือดไปจากใบหน้าหญิงสาว ความอ่อนโยน ความอบอุ่นที่ได้รับเมื่อบวกกับความถวิลหากันและกันมาแสนนาน หญิงสาวเจ้าของใบหน้าเรียวสวยจึงหลับตาพริ้มลงหัวใจเริ่มสั่นรัว เมื่อเขาโน้มใบหน้าเคลื่อนเข้าหาและต่ำลงมาเรื่อยๆ กลิ่นลมหายใจอุ่นๆ ที่พ่นรดใบหน้ายังคงติดปลายจมูกของเธอ และเธอก็ยังจดจำกลิ่นกายอ่อนๆ นี้ของเขาได้อย่างไม่ลืมเลือน ทว่าเธอกลับลืมตาโพลงก่อนริมฝีปากอุ่นแตะลงที่กลีบปากนุ่ม หัวใจเธอเต้นตึกตักเหมือนจะหายใจตามไม่ทันจังหวะของมัน มือบางรีบดันใบหน้าเขาออกห่างด้วยความสับสนระคนหวาดกลัวกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

    ยะ อย่าค่ะ ฉันไม่อยากทำผิดต่อภูบดินทร์อีกเธอร้องห้ามเสียงสั่นพลางบ่ายหน้าหนี

    ไม่ปนาลี คุณไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ถ้าคุณจะกลับไปคบกับภูบดินทร์ในฐานะคนรักเหมือนเดิมต่างหากคือสิ่งที่ผิด และมันก็เป็นสิ่งที่ผมจะยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้เสียด้วย ผมรักคุณ... ได้ยินไหมว่าผมรักคุณ มือใหญ่ของภูริชประคองใบหน้าเรียวสวยของปนาลีให้หันกลับมาเผชิญหน้าแล้วสบตากันนิ่งนาน น้ำเสียงมั่นคงหนักแน่นของเขาที่เอ่ยคำว่ารักทำให้เธอเกิดความหวั่นไหวขึ้นในใจอีกครั้ง หญิงสาวจึงค่อยๆ หลับตาพริ้มลงอีกครั้งก่อนที่ริมฝีปากอุ่นจะเคลื่อนเข้ามาปิดทับเรียวปากอิ่ม

    ภูริชค่อยๆ แซะปลายลิ้นไปทั่วริมฝีปากบางอย่างอ้อยอิ่งหลอกล่อเธอให้เผยอริมฝีปากก่อนที่ลิ้นอุ่นชื้นจะชอนไชเข้าไปเก็บเกี่ยวความนุ่มลื่นจากเรียวลิ้นเล็กภายใน เขาพลิกเรียวลิ้นตวัดหยอกล้อลิ้นเล็กอย่างแสนรัก และดูดดื่มความหวานจากภายในโพรงปากหอม เขาจูบจนหญิงสาวร่างบางหอบหายใจไม่ทัน จนต้องเบือนหน้าหนีไปหาอากาศหายใจและเขาก็ยอมแต่โดยดี เขาตวัดเลียความหวานที่ติดอยู่ริมฝีปากตัวเองด้วยอารมณ์ติดพัน ใบหน้าแดงก่ำเสียงหายใจหอบของเธอทำให้เลือดในกายเขาสูบฉีดแรงขึ้น เร่งเร้าให้เขาเริ่มจูบรอบใหม่ที่ดูดดื่มหนักหน่วงกว่าเดิม

    *** ตัดเลิฟซีนออกเยอะมาก ป้องกันโดนแบนค่ะ***

     ผมคุณหอมจัง

    อื้อ...ไม่แล้วนะ ถ้าเป็นเพียงคำพูดหวานหูอย่างเดียวคงไม่ทำให้ร่างบางที่เกยอยู่บนอกแกร่งต้องผงกศีรษะขึ้นมาร้องห้าม แต่เป็นเพราะมือซุกซนอีกข้างหนึ่งเริ่มลูบไล้แผ่นหลังนุ่มลื่นปลุกปั่นร่างกายที่เริ่มสงบของเธอให้ตื่นขึ้น ก่อนเลื่อนลงไปบั้นท้ายหนั่นแน่นแล้วออกแรงบีบเค้นอย่างสนุกมือ

    ทำไมล่ะ คุณไม่รักผมเหรอ เขาแกล้งพูดตัดพ้อแล้วพลิกร่างบางลงด้านล่างโดยมีตัวเขาคร่อมทับเอาไว้

    ต้องแบบนี้อย่างเดียวเหรอคะ ที่จะแสดงออกถึงความรัก เธอประท้วงด้วยคำพูดแล้วค้อนใส่ตาเขาอย่างแง่งอน ภูริชหัวเราะหึๆ แล้วแกล้งบีบจมูกโด่งๆ ของคนใต้ร่างที่ช่างค่อนแคะดีนัก เธอไม่รู้เลยหรือเขารอคอยวันนี้ วันที่เธอกับเขาปรับความเข้าใจกันและมีความสุขร่วมกันมานานแค่ไหน ดังนั้นเมื่อวันที่รอคอยมาถึงแล้วไยเล่าเขาจะให้มันผ่านไปได้ง่ายๆ

    ก็แบบนี้มันทำให้เรามีความสุขนี่ครับ หรือคุณว่าไม่จริง เขาแกล้งพูดสัพยอกและมันก็ทำเอาคนใต้ร่างเขินจนหน้าแดงจัดจนพูดไม่ออก ต้องอนุญาตให้ริมฝีปากอุ่นก้มลงไปควานหาความหอมหวานจากกลีบปากบางอ่อนนุ่มอย่างอ่อนใจ และมันก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่ตรงนั้น เขายังคงเพลิดเพลินอยู่กับเรือนร่างงดงามและสัมผัสเนื้อเนียนนุ่มแทบทุกตารางนิ้ว ขยันปลุกปั่นสร้างความสุขให้แก่เธอไม่หยุดหย่อนเหมือนจะต้องการชดเชยให้กับวันเวลาที่รอคอยเธอมาแสนนาน

    หลังจากผ่านศึกรักไปหลายยกจนหญิงสาวที่เขาเฝ้าตามง้อมานานหมดแรงนอนพับคาอก ภูริชยกมือขึ้นก่ายหน้าผากครุ่นคิดหาวิธีที่จะทำให้เขาและเธอสามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างเปิดเผย แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ยังคิดไม่ออกว่าควรทำอย่างไรที่จะกระทบกระเทือนจิตใจพี่ชายฝาแฝดน้อยที่สุด

     

    ภายในร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองหลวงหลังจากพันโทธันวา วิษณุเทพ วัยสามสิบห้าปีเขาเป็นทหารสื่อสารฝ่ายช่วยเหลือทางเทคนิคด้านงานสื่อสารสังกัดเหล่าสนับสนุนการรบ ไปรับชญานินถึงที่ทำงานแล้วพาเธอมาทานอาหารมื้อค่ำเพื่อให้เกิดความรู้สึกสนิทสนมกับหญิงสาวตามคำบัญชาของท่านนายพลกับคุณหญิงพ่อและแม่ของเขา

    ระหว่างมื้ออาหารธันวาทำหน้าที่ดูแลเทกแคร์หญิงสาวคู่เดตอย่างสุภาพ ทว่าก็มาพลาดตกม้าตายเผยตัวตนแท้จริงที่ซ่อนอยู่ออกมาจนได้ เมื่อถูกลองของด้วยการแกล้งปัดแก้วน้ำส้มคั้นเย็นเจี๊ยบอย่างแรงจนล้มคว่ำไปหกราดเสื้อยืดคอโปโลสีขาวบริเวณหน้าอกไหลเป็นทางยาวไปจนถึงกางเกงจากฝีมือของชญานิน

    ว้าย! แหก...แหก...แหก นิ้วยาวเรียวกระดิกไหวระริกอยู่ระดับอก เผลอพูดเสียงแหลมออกมาอย่างลืมตัวขณะก้มมองเสื้อผ้าตัวเอง

    ตายจริง! เจสซี่ขอโทษค่ะพี่ธันวา เจสซี่นี่ซุ่มซ่ามจริงๆ เลยเชียว

    ชญานินแกล้งตีหน้าใสซื่อเธอรีบพูดขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ หากแต่ลอบยิ้มขณะอีกฝ่ายมัวแต่สนใจเสื้อผ้าที่เปรอะเลอะเทอะ ทว่าพอเงยหน้าขึ้นมาทันได้เห็นรอยยิ้มแปลกๆ ของเธอ ธันวาจึงได้สติเขาก็รีบปรับสีหน้าให้สมกับเป็นชายชาตรีพูดเสียงเข้มแข็งเหมือนเดิม

    ไม่เป็นไรครับน้องเจสซี่แค่นี้เอง ยังมีเสื้อแขวนไว้ในรถอีกตัวเดี๋ยวค่อยไปเปลี่ยนก็ได้

    ไม่เป็นอะไรได้ยังไงกันคะ เอาอย่างนี้ดีกว่าค่ะ เดี๋ยวทานข้าวเสร็จแล้วเราไปนั่งฟังเพลงที่อื่นกันต่อดีกว่า เจสซี่จะเลี้ยงเหล้าพี่ธันวาเพื่อเป็นการไถ่โทษ พี่ธันวาห้ามปฏิเสธนะคะ ไม่งั้นต่อไปเจสซี่คงไม่กล้ารับนัดพี่ธันวาอีกแล้วค่ะเจสซี่เกรงใจ ฝ่ายที่ต้องการพิสูจน์ความจริงเอาให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลยพูดจาออดอ้อนเหมือนเด็กๆ

    ก็ได้ครับ แต่น้องเจสซี่ดื่มเหล้าด้วยเหรอ แล้วคุณอาประวิทย์จะว่าพี่หรือเปล่า?” ธันวายอมตกปากรับคำง่ายดาย ปกติเขาไม่ค่อยได้ออกไปเที่ยวยามราตรีตามสถานบันเทิงบ่อยนัก ทั้งๆ ที่อยากไปแสดงออกถึงความเป็นตัวตนที่แท้จริงให้หายอึดอัด ด้วยตำแหน่งหน้าที่การงานมันบังคับอีกทั้งผู้เป็นพ่อและแม่ก็ค่อนข้างเข้มงวด วันนี้จึงเป็นโอกาสดีที่ชญานินออกปากชวนเขาจะได้มีข้ออ้าง อีกอย่างพรุ่งนี้ก็เป็นวันหยุดท่านทั้งสองคงอนุญาต

    เจสซี่เป็นเด็กใจแตก ตอนแรกๆ ก็เลยถูกคุณพ่อท่านว่าเอาบ่อยๆ แต่ตอนนี้ท่านว่าจนขี้เกียจจะว่าแล้วละค่ะ พี่ธันวาไม่ต้องกังวลนะคะ ชญานินหัวเราะเสียงใสอย่างไม่สะทกสะท้าน เธอพูดความจริงโดยไม่ปิดบังเพื่อให้อีกฝ่ายเชื่อใจ และเธอก็หวังว่าเขาจะกล้าพูดความจริงกับเธอด้วยเช่นกัน

    ทำไมน้องเจสซี่พูดว่าตัวเองแบบนั้นครับ ธันวาคัดค้านอย่างไม่เห็นด้วย ถึงแม้เพิ่งรู้จักได้ไม่นานแต่เขาก็ค่อนข้างมั่นใจว่าชะนีสาวคนนี้ เธอไม่ได้เลวร้ายอย่างที่พูดว่าตัวเองอย่างแน่นอนที่สำคัญเธอค่อนข้างมีความเป็นมิตร ดังนั้นเขาจึงตั้งใจว่าจะเปิดอกพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมาเชื่อว่าทั้งเขาและเธอน่าจะได้รับประโยชน์ร่วมกัน

     

    หลังจากออกรอบกับลูกค้าและทานอาหารค่ำร่วมกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ภูบดินทร์รู้สึกเซ็งอย่างไม่รู้สาเหตุจึงโทรเรียกปิติภัทรมานั่งดื่มต่อที่ผับแห่งหนึ่ง บรรยากาศสลัวเสียงเพลงไพเราะหวานซึ้งจากนักร้องสาวสวย แต่ท่าทางเพื่อนรักกลับเครียดไม่ร่าเริงเหมือนเคยเหมือนมีเรื่องขบคิดอยู่ในใจ  ปิติภัทรอดเป็นห่วงไม่ได้จึงเอ่ยถามขึ้น

    ภู ท่าทางแกเครียดๆ คิดอะไรอยู่วะ หรือว่าเรื่องงาน

    เปล่า คนถูกถามตอบเสียงราบเรียบ พลางส่ายหน้าแล้วยกเบียร์เย็นๆ ในแก้วขึ้นดื่มสายตามองเหม่อออกไป

    หรือว่าขาดคนรู้ใจ เอาไหมฉันจะโทรเรียกพริตตี้รายล่าสุดที่แกเล็งไว้ในงานมอเตอร์โชว์ ฉันเพิ่งได้เบอร์โทรศัทพ์มา

    เฮ้ย ไม่เอาวันนี้ไม่มีอารมณ์ว่ะ อยากดื่มเงียบๆ มากกว่า ภูบดินทร์หันขวับกลับมาแล้วโบกมือห้าม เมื่อเห็นปิติภัทรหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทำท่าจะกดเรียกพริตตี้สาวอย่างที่พูด วันนี้เขารู้สึกเซ็งจนอารมณ์หดหาย ยิ่งเห็นชายหญิงคู่หนึ่งโต๊ะในสุดยืนซบกันแล้วโยกย้ายร่างกายเคลื่อนไหวไปตามจังหวะเพลงช้าอย่างอ้อยอิ่ง เขาก็ยิ่งรู้สึกหมั่นไส้ เพราะมันทำให้เขาอดคิดถึงเรือนร่างสวยงามของใครบางคนที่เคยอยู่ในอ้อมกอดตัวเองไม่ได้ ยิ่งหุ่นใกล้เคียงกันมากจนเหมือนเป็นคนเดียวกัน ทำให้ภูบดินทร์ต้องขยี้ตาแรงๆ เพ่งมองในความมืดสลัวอยู่บ่อยครั้ง

     

    เมื่อเหล้าเข้าปากจนเริ่มกรึ่มๆ กันทั้งคู่ความลับจึงไม่เป็นความลับอีกต่อไป ธันวาเองก็ต้องการระบายความในใจออกมาให้เธอรับรู้ด้วยเหมือนกัน เขาจึงตอบคำถามโดยไม่ปิดบัง

    พี่ธันวาคิดจะแต่งงานตอนอายุเท่าไรคะ

    แต่งงานเหรอ... พี่คงไม่มีวันนั้นหรอก คนถูกถามถอนหายใจดังเฮือกเอ่ยตอบด้วยใบหน้าเคร่งเครียด การแต่งงานไม่ได้อยู่ความคิดของเขาเลย เขาขอเพียงพื้นที่ที่จะใช้ชีวิตร่วมกับคนที่รักได้อย่างเปิดเผยก็เพียงพอแล้ว แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไรเพราะคนที่เขารักเป็นชาย แต่เรื่องนี้ไม่ได้กดดันเขามากเท่ากับการที่เขาเป็นลูกชายคนเดียวของนายทหาร ซึ่งได้ขีดเส้นให้เขาเดินตามแนวทางของท่าน ดังนั้นความเป็นชายชาติทหารนี่แหละมันเหมือนแอกค้ำคอ ทำให้เขาไม่สามารถแหกคอกออกมาแสดงตัวตนและใช้ชีวิตอย่างที่อยากจะทำได้

    เพราะว่าพี่ธันวาไม่ได้รักผู้หญิง แต่รักเพศเดียวกัน

    เธอรู้เหรอเจสซี่ เธอดูออกใช่ไหม ธันวาเลิกคิ้วสูงสีหน้ามีความกังวลกับผู้หญิงคนนี้เพิ่งเจอกันแค่สองครั้งยังรู้ว่าเขาเป็นเกย์ แล้วพ่อแม่ล่ะจะรู้หรือระแคะระคายอะไรบ้างหรือไม่ แต่เขาก็ค่อนข้างมั่นใจว่าพวกท่านคงไม่รู้เพราะที่ผ่านมาพวกท่านไม่เคยพูดหรือถามอะไรทำนองนี้เลย

    เจอกันครั้งแรกเจสซี่ไม่มั่นใจหรอกค่ะ เพิ่งมั่นใจเมื่อกี้ตอนที่พี่ธันวาอุทาน” หญิงสาวหัวเราะเบาๆ

    “ใช่ พี่เป็นอย่างที่ว่างั้นแหละ”

    “ขอบคุณนะคะพี่ธันวาที่ยอมเปิดเผยความจริง ต่อไปเราจะได้เป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นน้องกัน เพราะว่าที่เมืองไทยเจสซี่ไม่มีเพื่อนไม่มีใครเลยสักคน ชญานินแหงนหน้ามองผู้ชายหุ่นสูงล่ำที่กำลังพาเธอเคลื่อนไหวช้าๆ พร้อมทั้งเปิดยิ้มกว้างด้วยความรู้สึกสบายใจปนขบขัน แทนที่เธอจะมีแฟนหุ่นล่ำแต่เธอกลับมีทั้งเพื่อน พี่ชาย และมีพี่สาวในร่างเดียวกัน

    เธอนี่มันร้ายจริงๆ ล้วงตับไตไส้พุงพี่ออกมาจนหมด แต่พี่ก็สบายใจนะที่ได้เปิดเผยตัวตนออกมา

    พี่ธันวาไม่ต้องกังวลนะคะ เรื่องที่เราคุยกันมันจะเป็นความลับตลอดไป

    พี่เชื่อเธอนะเจสซี่ และก็ขอบใจมากด้วย

    ความจริงเจสซี่อยากมีพี่สาวนะ ทำไมพี่ธันวาไม่เป็นพี่สาวล่ะ จะได้เปลี่ยนชื่อเป็นธันญ่า พี่ธันญ่า ฮิ ฮิ ฮิ ถูกคนตัวสูงหุ่นล่ำค้อนปะหลับปะเหลือกเป็นอะไรที่ดูตลก ชญานินกำลังกรึ่มๆ เธอหัวเราะเขาเสียงดังลั่นลืมตัวว่าผับแห่งนี้ค่อนข้างสงบ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบมานั่งดื่มเหล้าและฟังเพลงเบาๆ ธันวารู้สึกอายสายตาคนมอง จึงเลิกเต้นรำแล้วฉุดเธอให้นั่งลงที่โต๊ะก่อนจะเปิดปากบ่นกระปอดกระแปดไปตามเรื่อง

    เมาจนเพี้ยนหรือไงเจสซี่ หัวเราะซะดังลั่น พี่อายผู้คนจริงๆ

    ยอมรับว่าเมาค่ะแต่ไม่ได้เพี้ยน ก็มันขำนี่นาผู้ชายหล่อล่ำอย่างพี่ธันวาเล่นค้อนเจสซี่จนตาคว่ำจะไม่ให้ขำได้ไงล่ะ ชญานินยังคงหัวเราะคิกคักไม่เลิก คนถูกล้อเลียนต้องเอื้อมมือใหญ่มาปิดปากเธอเอาไว้กันไม่ให้เสียงหัวเราะแสบแก้วหูดังเล็ดลอดออกไปพร้อมทั้งพูดขู่สำทับ

    ถ้ายังขืนหัวเราะต่อมันจะไม่ใช่แค่มือนะเจสซี่ ฉันจะใช้ปากของฉันนี่แหละอุดปากเธอ ธันวาจีบปากจีบคอพูดข่มขู่ก่อนปล่อยมือออก ทว่ากลับเป็นฝ่ายตาเหลือกเสียเอง เมื่อหญิงสาวหน้าทะเล้นยื่นหน้าข้ามโต๊ะกลมตัวเล็กเอาริมฝีปากอิ่มมาจุ๊บริมฝีปากหนาของเขาแล้วถอนออกอย่างรวดเร็วก่อนผละออกไปแล้วส่งเสียงหัวเราะคิกคัก

    ไงคะหวานไหมคนขี้แกล้งถามพลางทำตาหวานใส่

    ยัยบ้า ยัยตัวแสบทำอะไรของเธอเนี่ย ฉันจะไปเช็ดปากในห้องน้ำอย่าตามเข้าไปอีกล่ะ

    ผู้ชายหุ่นล่ำทำท่าสยดสยอง ก่นเสียงต่อว่าพอได้ยินกันแค่สองคน ก่อนจะลุกขึ้นแต่ไม่ลืมมาดแมนเดินตรงไปยังห้องน้ำ ชญานินมองตามแล้วหัวเราะคนเดียวอย่างครึ้มอกครึ้มใจ วันนี้เธอมีความสุขที่สุดวันหนึ่ง และเธอก็ไม่เคยได้หัวเราะอย่างนี้มานานเหลือเกินตั้งแต่กลับมาอยู่เมืองไทย

    ครั้นธันวาหายไปเข้าห้องน้ำนานผิดปกติ เธอเองก็เริ่มปวดปัสสาวะจึงลุกขึ้นเดินโซเซไปยังห้องน้ำ ป้ายชื่อที่ติดไว้หน้าห้องน้ำเป็นภาษาอังกฤษคำว่า ‘Men’ และ ‘Women’ ถ้าเงยหน้าขึ้นมองรับรองว่าเธออ่านออกและแปลได้เป็นอย่างดี ทว่าการดื่มสุราจนมึนเมาทำให้สติสัมปชัญญะบกพร่อง ครั้นเธอเดินพรวดพราดเข้าไปจนถึงภายในห้องน้ำชาย เสียงฮือๆ จากคนข้างในและสายตาหลายคู่มองเธอแบบงงๆ กระนั้นยังไม่ทำให้เธอมีสติ เพียงแต่เริ่มแปลกใจว่าทำไมห้องน้ำผู้หญิงเปลี่ยนไป

    ฮึ ทำไมไม่เหมือนเดิม

    เจสซี่ เธอเข้ามาทำไม?” ธันวารีบปราดเข้ามาดึงแขนเรียวแบบถูลู่ถูกังรีบพาชญานินออกไปให้พ้นสายตาหลายคู่ของผู้ชายที่จ้องมองเธอด้วยความรู้สึกงงงัน บ้างก็ยิ้มอย่างขำขัน

    โอ๊ย!”

    ชญานินเจ็บหัวไหล่จนตาสว่าง เมื่อหัวไหล่มนไปกระแทกเข้ากับไหล่หนาของใครบางคนอย่างแรง จนรู้สึกเจ็บแปลบหลังถูกดึงออกมาจากห้องน้ำ ถ้าธันวาไม่ดึงแขนเอาไว้เธอคงกระเด็นร่วงกองกับพื้นเป็นแน่

    ขอโทษครับ ฮะ... เจสซี่!” แม้ไม่ได้เป็นฝ่ายผิดเพราะสุภาพสตรีขี้เมาคนนี้จู่ๆ ก็โผล่พรวดออกมาชนเขาอย่างแรง กระนั้นภูบดินทร์ก็รีบเอ่ยคำขอโทษโดยที่ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่พอเห็นเต็มตาเขาถึงกับตะลึงตาโตที่เห็น ชญานินยืนโงนเงนอยู่ในวงแขนผู้ชายรูปร่างหุ่นล่ำสัน เขาบอกอารมณ์ตัวเองไม่ถูกว่าตอนนี้คิดอะไรและรู้สึกอย่างไรกับภาพที่เห็นตรงหน้า รู้แต่ว่าเขาต้องขบกรามและกำหมัดไว้แน่นเพื่อระงับอารมณ์ แต่กระนั้นใจเขาก็ยังรุ่มร้อนไม่เลิก ยิ่งเห็นตาโตหยาดเยิ้มเพราะความเมาปรือขึ้นมองอารมณ์เขาก็ยิ่งเดือดปุดๆ

    เธอเป็นคนยังไงกันนะชญานิน เป็นผู้หญิงแต่เมาหยำเปแถมยังปล่อยเนื้อปล่อยตัว

              “คุณภูบดินทร์...

    คุณนั่นเองที่เจสซี่พูดถึง ธันวาเปิดยิ้มกว้างอย่างเป็นมิตร

    คงพูดถึงแต่เรื่องแย่ๆ ละมั้งหางเสียงภูบดินทร์เริ่มแกว่ง เธอกับผู้ชายคนนี้รู้จักมักจี่กันขนาดไหนเชียว ถึงได้เล่าเรื่องอะไรต่อมิอะไรสู่กันฟัง และกล้าดียังไงเอาเรื่องของเขาไปพูดให้คนอื่นฟัง

    เปล่าครับ เจสซี่บอกแค่ว่าเธอเป็นหนี้คุณอยู่เกือบแสน และกำลังหาเงินไปใช้หนี้คุณอยู่ ผมพันโทธันวายินดีที่ได้รู้จักครับ

    รอยยิ้มของชายชาติทหารรูปร่างบึกบึนที่ส่งยิ้มมาให้ก่อนจะพา  ชญานินที่เมาเบียดเสียดผู้คนเดินห่างออกไป ภูบดินทร์ถึงกับงุนงงมันหวานเกินหุ่นก้านและรูปร่างล่ำสันไปหรือเปล่าหรือว่าเขาเมาจนตาลายแล้วคิดไปเอง ถึงกระนั้นเขาก้าวขายาวๆ พาตัวเองเดินตามออกไปอย่างไม่ไว้วางใจ

    ภู นั่นแกจะไปไหนวะ ปิติภัทรตะโกนถามไล่หลังเขากำลังจะเดินไปห้องน้ำด้วยเช่นกัน จึงเห็นหลังเพื่อนไวๆ กำลังเดินรีบเร่งออกไปจากผับ ไม่มีเสียงตอบมีแต่มีเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ทันทีเมื่อกดรับก็ได้ยินคำพูดสั้นๆ ก่อนสัญญาณจะถูกตัด

    ฉันมีธุระ ปิติภัทรยืนเกาศีรษะแกรกๆ ด้วยความงุนงง คำพูดของเพื่อนไม่ได้ให้ความกระจ่างอะไรเลย

    รถเก๋งสองคันแล่นตามกันไปอย่างชนิดไม่ให้คลาดสายตาโดยที่คันแรกไม่รู้ตัวว่าถูกตาม กระทั่งธันวานำรถไปจอดหน้าคอนโดมิเนียมของชญานิน อีกคันแล่นเลยไปจอดซุ่มดูอยู่ไม่ห่างนัก สักพักหนึ่งจึงเห็นชญานินก้าวออกมาจากรถโดยมีผู้ชายล่ำสันเปิดประตูให้แล้วช่วยประคองออกมายืนนอกรถ สายตาแข็งกร้าวของภูบดินทร์จ้องมองไม่วางตา เขาอยากรู้ว่าผู้ที่พาเธอมาส่งจะทำอย่างไรต่อไป

    เฮ้อ... เขาผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อเห็นมือเรียวโบกเป็นระวิงเป็นการปฏิเสธความช่วยเหลือจากคนที่พยายามจะช่วยหิ้วปีก แต่เธอกลับไม่ปล่อยให้เขาหายใจโล่งๆ อยู่นานนัก ดวงตาคมกล้าลุกโชนขึ้นทันทีกับภาพที่เห็นต่อจากนั้น

    กู๊ดไนต์ค่ะพี่ธันวา ชญานินยื่นหน้าไปหอมแก้มชายชาติทหารหนึ่งฟอดก่อนเอ่ยคำอำลา ครั้นเห็นอีกฝ่ายตกใจจนตาเหลือก เธอก็ยิ่งหัวเราะคิกๆ ที่ได้กลั่นแกล้งเขาก่อนโบกไม้โบกมือแล้วเดินโซเซตรงไปยังลิฟต์

    เธอนี่จริงๆ เลยนะเจสซี่ ธันวาว่าพลางส่ายหน้า ครั้นเห็นเธอเดินเลี้ยวจนลับตาไปแล้วเขาจึงกลับเข้าไปในรถแล้วขับออกไป หากแต่ในรถเก๋งหรูอีกคันหนึ่งที่ยังจอดอยู่ตอนนี้คนในรถกำลังอารมณ์เดือดพล่าน พวงมาลัยรถไม่รู้อีโหน่อีเหน่ถูกมือหนาของคนเป็นเจ้าของกำไว้แน่นและแน่นขึ้นเรื่อยๆ เหมือนอยากจะถ่ายเทหรือระบายความร้อนรุ่มออกไปจากตัว ถ้ามันมีชีวิตมันคงร้องครวญเพราะความเจ็บปวดเป็นแน่

    หยุดอัพแล้วค่ะ

    ขอขอบคุณทุกการติดตามนะคะ เลิฟซีนที่ตัดไป สามารถไปโหลดตัวอย่าง อีบุ๊กจากเมพ มาอ่านได้ค่ะ มีตัวอย่างตั้งแต่เริ่มแรก - ตอนที่ 7 

    ปล. ถ้าอ่านแล้วถูกใจ ช่วยอุดหนุนอีบุ๊ก ในเว็บเมพ ด้วยนะคะ สาวๆ ที่รัก


    ระบำอารมณ์
    จันทร์กระจ่าง
    www.mebmarket.com
    “ที่เหลือจัดการเองนะ ผมจะออกไปรอด้านนอก” เขาพูดเสียงแข็งเพื่อสยบความหวามไหวแล้วรีบเดินออกไปทันที“เดี๋ยวค่ะคุณภูบดินทร์ มันยังรูดต่อไม่ได้ค่ะ” “อะไรของคุณอีกนะเจสซี่ยุ่ง ชะ...มัด...เลย…” เขาสบถเสียงขุ่นทำเหมือนกำลังหัวเสียเต็มประดาแต่ก็ยอมหันกลับมา ทว่าเมื่อหันมาพบกับร่างกายงดงามตรงหน้าที่ต้องการยั่วยวนและเขาก็รู้ดี แต่เธอทำให้เขาตกตะลึงพรึงเพริดเสียจนหูตาลายใจสั่นหวิว“ช่วยปลดตะขอให้หน่อยสิคะคุณภูบดินทร์ เจสซี่แกะไม่ออกอีกแล้ว” ชญานินสูดลมหายใจลึกๆ เพื่อเรียกความมั่นใจและสยบความหนาวเยือกเมื่อต้องโชว์หวิวต่อหน้าเขา เธอออดอ้อนน้ำเสียงกระเส่า มือเรียวจับปลายเนกไทขึ้นไปแตะริมฝีปากเขาอย่างอ้อยอิ่ง จากนั้นจึงเอามาแตะกลีบปากอิ่มสีชมพูของเธอแล้วทำเสียงดังจ๊วบ ตาโตสีน้ำตาลหวานซึ้งหรี่มองเขา จึงเห็นสายตาหวามไหวจากคนสูงกว่า แต่ว่าร่างกายเขายังยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหวไม่รู้ว่าทนอดหรืออดทนกันแน่ แต่เธอจะไม่หยุดอยู่แค่นี้หรอกถ้ายังใจแข็งอยู่ได้ก็นับว่าเขาแน่มาก จะได้รู้กันไปว่าเสน่ห์ของเธอใช้ไม่ได้จริงกับเสือผู้หญิงคนนี้ มือเรียวยกขึ้นลูบไล้แผงอกหนาผ่านเสื้อเชิ้ตแขนยาวราคาแพงที่เขาสวม ครั้นไปสะดุดกับตุ่มไตแข็งทั้งสองข้าง เธอจึงซบหน้าลงกับอกกว้างเพื่อซ่อนรอยยิ้ม ฝ่ามือนุ่มลูบไล้หมุนวนจุดอ่อนไหวอย่างแผ่วผิว เธอกำลังมีชัยชนะเหนือเขา และจะลบล้างคำสบประมาทได้อย่างสวยงาม“เจสซี่”
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×