คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : CHAPTER 7
CHAPTER 7
“ไม่ไปได้มั้ยอ่า..”เสียงหวานของเถาเอ่ยขึ้นพร้อมทำหน้างอแงเป็นเด็กๆ มือก็ยกกระตุกชายเสื้อญาติคนสนิทเบาๆ
“ไม่ได้! ลงชื่อไปแล้วก็ต้องไปดิ”ชานยอลหันมาบอกอีกคนด้วยใบหน้าจริงจัง คนฟังได้ยินดังนั้นก็ยิ่งทำหน้างอเข้าไปอีก
“ไอ้เตี้ยมันสั่งไว้ว่าให้เอาเทาเทาไปด้วยนี่หว่า ทำไงได้”
“ก็อยากไปนะ แต่ว่า..”
“แต่ว่าอะไร? อ่อ.. ไม่อยากเจอเฮียคริสรึไง?”
“ไม่ใช่นะยอลลี่! คือ..ฉัน”เถารีบปฏิเสธแต่ก็ไม่รู้จะบอกไปว่ายังไงดี
“คืออะไร?”เสียงทุ้มเข้มเค้นถามพร้อมจ้องใบหน้าอีกคนนิ่ง ปฏิเสธไปก็เท่านั้นในเมื่อท่าทางมันแสดงออกซะขนาดนี้
“
..เฮ้อ”สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้ คนตัวบางกว่าถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน ญาติคนนี้นี่รู้ดีไปหมดทุกอย่าง จริงๆเขาก็ไม่ได้โกรธเฮียคริสเรื่องชานยอลหรอกนะ แต่แค่ได้ยินตอนแรกแล้วมันตกใจ
หมายถึงมันทำให้คิดว่า เฮียนะ เปลี่ยนใจมาชอบเขาจริงๆหรอ? ไม่ใช่แค่รู้สึกอยากหาคนใหม่..
“เทาเทา เฮียคริสนะถึงแม้บางทีมันจะดูขี้เล่น หน้าม่อ หรือเหี้ยอะไรทั้งหลายแหล่ แต่เวลาจีบคนมันจริงจังนะเว้ย! อย่างตอนฉัน ฉันแม่งขนลุกชิบหาย แต่ไอ้เฮียนั่นมันก็ไม่ยอมแพ้เลยสักนิด..”
“
”เถานั่งฟังร่างสูงพูดไปเรื่อยๆโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา
“ฉันโคตรแสดงออกว่าเกลียดที่มันมาจีบ แต่แม่งก็แบบเหมือนปรสิตอ่ะ เกาะหนึบ!”
“ฮ่าๆๆๆ ปรสิตหรอ?”
“เออ นั่นแหละ ที่ฉันพูดไว้นะ คือฉันมั่นใจว่าเฮียมันรักใครรักจริง ไอ้เรื่องเปลี่ยนใจไวปานเปลี่ยนกางเกงในนั่น ช่างแม่งเหอะ! แม่งก็เงี้ย เข้าใจยัง?”
“เข้าใจแล้ววว”ตอบรับเสียงยานคางแล้วอมยิ้มน้อยๆ
“ดีมาก เทาเทา”มือแกร่งยกขึ้นขยี้หัวกลมๆนั่นจนยุ่ง
“เออ แล้วก็เปิดมือถือด้วย ป่านนี้เฮียมันจีบกับคอลเซนเตอร์ไปแล้วมั้ง -____-”ชานยอลบอก เพราะหลังจากที่เมื่อวานเฮียมันโทรมาร้องโอดครวญว่าญาติเขาไม่ยอมรับสายซักที พอตัวเขาบอกว่าจะเดินไปให้คุยเอามั้ย แต่ยังไม่ทันจะทำอะไรอีกคนก็ดันมาได้ยิน ก็เดินปิดประตูเข้าห้องไปทันที
“ไม่เอาอ่ะ..ยังไม่อยากคุย”เถาพูดแค่นั้นก็ล้มตัวลงนอน แล้วเอาผ้าห่มคุมโปงหนี
“เอ้า อะไรวะ แล้วเมื่อไหร่ละครับ เมื่อไหร่มันจะดีกานนน!!”ชานยอลขยี้หัวหยอยของตัวเองด้วยความที่ไม่เข้าใจในอารมณ์ของอีกคนเลยจริงๆ
“เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละยอลลี่” เทาเทาแม่งหัดกวนตีนตั้งแต่เมื่อไหร่วะ = =
“เออๆ ตามใจ ให้เฮียแม่งมาง้อเองละกัน กูละเพลีย”
‘ปัง!’ ทันทีที่ร่างสูงเจ้าของบ้านเดินออกไป เถาก็เปิดผ้าห่มออกแล้วนอนมองเพดานพลางนึกถึงใบหน้าคมที่ดูดีไปซะหมดของรุ่นพี่คนนั้น
“เฮียฮะ.. เทาเทาแค่ยังน้อยใจอยู่นิดๆ เท่านั้นเอง
ขอโทษนะ”
“ไอ้หยอยย เทาเทาของเฮียเป็นไงบ้าง TOT ?”คริสวิ่งเข้ามาถามร่างสูงที่กำลังนั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อนที่ข้างสนามบาสเหมือนเดิม
“ผมว่าคนที่อาการหนักน่าจะเป็นเฮียนะ”ไคที่กำลังเล่นบาสในสนามอยู่กับจงแด เลย์ และแบคฮยอนหันมาตะโกนบอกคนตัวสูงที่ตอนนี้สภาพดูห่อเหี่ยวเอามากๆ
“นั่นดิวะ เฮียโคตรเหมือนผีตายซากกกก”มินซอกที่เดินเข้ามาร่วมวงพร้อมกับลูฮานที่เขาชวนไปด้วยกัน มืออวบวางขนมลงบนโต๊ะก่อนจะเอ่ยสมทบกับเพื่อน
“ก็เฮียโคตรเฉา เพราะไม่ได้เจอเถา”
“อื้อหือ.. มาเป็นกลอนเลยนะมึง”ลูฮานทำหน้าอยากจะอ้วกเต็มที่ก่อนคว้าถุงขนมแล้วเดินลงสนามไป ทางมินซอกที่เห็นรุ่นพี่คนสวยเดินไปก็รีบเดินตาม ปกติเขาไม่เล่นบาสวันนี้ก็เล่นหน่อยแล้วกัน -..-
“เทาเทามันก็ไม่ได้อะไร แต่แม่งบอกว่ายังไม่อยากคุย”ร่างสูงคว้าขนมมาแกะกินแล้วตอบคำถามรุ่นพี่ไปด้วย
“โอย.. ประโยคนี้เจ็บจี้ด”ว่าแล้วก็ทำท่ากุมหัวใจอย่างเจ็บปวด
“เฮียอยู่วงโซคูลรึเปล่าวะเนี่ย? รู้จักมะ บร๊ะเจ้าโจ๊กอะ เสี่ยวพอๆกันเลย”
“อย่าเอาเฮียไปเปรียบกับเขา เพราะเฮียมันคนละคน”
“เฮียพอเหอะ ช่วยรักษาภาพพจน์ให้เหมือนเมื่อก่อนหน่อยดิ -___-”ชานยอลเองก็รู้สึกว่าคนที่นั่งคุยด้วยเนี่ยจะเปลี่ยนไปเหลือเกิน ตั้งแต่เลิกจีบเขา
“เออๆ แล้วเรื่องมึงละเป็นไงบ้าง?”
“ห้ะ? เรื่องอะไรวะ”ละสายตาจากการจ้องมองพวกเพื่อนในสนามแล้วหันมาตีหน้างงใส่คนถาม
“กับแบคฮยอนไง ถึงไหนละ?”
“เห้ยบ้า! เพื่อนกันจะมีอะไร”รีบปฏิเสธซะจนเสียงหลง คริสแสยะยิ้มกับปฏิกิริยาอีกคนเล็กน้อย
ถ้าไม่คิดอะไร แล้วมันจะเขินเพื่ออะไรวะ?
“เวลาโกหกรู้ตัวมั้ย ว่าหน้าแดง”
“รู้ แล้วทำไม”
“หน้าแดงนะไอ้หยอย ^^”
“ก็.. ก็อากาศมันร้อน!”ใบหน้าคมเข้มรีบหันหน้าหนีสายตารุ่นพี่ที่จ้องอยู่
“อ้อหรอ
ระวังนะเว่ย มันคิดไปแล้ว มันย้อนกลับไม่ได้นะ”
“เพื่อนกันจริงๆวะเฮีย ไม่มีไร”
“มึงเล่นกับมันบ่อยนะช่วงนี้”
“ก็แค่เล่นๆอะเฮีย..”
“แล้วถ้ามันคิดจริงจะทำไง?”
“
.”ชานยอลเงียบไป เพราะตัวเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำยังไง ก็จริงที่เขาแหย่ไอ้เตี้ยบ่อยๆช่วงนี้ก็แค่แกล้งเล่นตามที่ไอ้ตุ้ดมันพูดแซว แต่บางครั้งมันก็เป็นไปเองโดยที่เขาไม่อยากแกล้ง.. แต่เขาก็ยังไม่แน่ใจอะไรอยู่ดี
“เกินเพื่อนไปแล้ว แล้วจะให้ย้อนกลับมาเป็นเพื่อนใหม่ พวกมึงสองคนทำไม่ได้หรอก”
“ไม่เกินหรอกเฮีย ผมเองก็ไม่อยากให้เกิน..” มั้งนะ..
ตอนนี้คนตัวเล็กกำลังเดินไล่ป้อนขนมในถุงให้กับนักกีฬาในสนามบาสทั้งหลาย ลูฮานมักจะใจดีแบบนี้เสมอ ซึ่งก็ทำให้ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดสนิทกันมากแล้วก็ว่าได้
มินซอกที่กำลังเล่นบาสแบบไม่จริงจังมากนัก เพราะสายตาก็เอาแต่จ้องรุ่นพี่คนสวย พลางเกิดคำถามขึ้นในใจว่าทำไมลูฮานนั้นจะป้อนเลย์บ่อยเหลือเกิน ทั้งที่เพื่อนเขาก็รับบ้างไม่รับบ้างด้วยท่าทางนิ่งๆ
“ยืนมองอยู่แบบนั้น เดี๋ยวก็โดนแย่งหรอก”เสียงจงแดที่เข้ามากระซิบข้างหูทำเอาร่างอวบสะดุ้งตื่นจากภวังค์ก่อนจะพบว่าลูกบาสในมือนั้นถูกร่างหนาแย่งไปแล้ว
“กล้าแย่งหรอ ไอ้แปะก๊วย!”มินซอกรีบวิ่งเข้าไปขนาบข้างจงแดแล้วเอื้อมมือจะคว้าลูกคืน
“อ้วนเร็วๆดิ กูจะชู้ตๆ”เสียงไคร้องโหวกเหวกดังมาอีกทาง
“พี่จงแด ส่งมาเลยๆ”แบคฮยอนที่วิ่งขึ้นหน้าไปร้องเรียกร่างหนาให้ส่งบาสไปที่เขา เพื่อที่ตัวเองจะได้ชู้ต
แต่ทันทีที่มือหนาปล่อยบาสออกไป เลย์วิ่งมาตัดหน้าแล้วคว้าลูกไปเตรียมจะชู้ตแทน
“ไอ้เลย์ แย่งกูอีกแล้ว T[]T!!!”คนตัวเล็กโวยวายที่โดนขโมยซีน เท้าเล็กก็กระทืบพื้นสนามอย่างขัดใจ
เลย์ที่เลี้ยงมาถึงแป้นบาสก็เตรียมจะชู้ต แต่ร่างอวบก็วิ่งเข้ามาสกัดไว้ได้ซะก่อน ลูฮานที่กำลังตื่นเต้นกับลีลาการเล่นบาสของคนที่ตัวเองปลื้มก็ดูจะตกใจเล็กน้อยที่สองคนนี้เข้ามาแย่งลูกบาสด้วยกัน
มินซอกรีบคว้าลูกบาสแล้วเลี้ยงหนีไปทางฝั่งแป้นบาสของตัวเอง พร้อมสลับเลี้ยงลูกไปกับไคเรื่อยๆ แต่สายตาก็ดันไปเห็นลูฮานป้อนขนมเลย์..อีกแล้ว
ด้วยความที่ยืนเหม่อทำให้มองไม่เห็นว่าเลย์กำลังเข้ามาแย่งลูกบาส ร่างสูงจึงกระแทกเข้าที่ตัวมินซอกเต็มๆ จนล้มคว่ำไปทั้งคู่
“เห้ยยยยย!!!!”เสียงเข้มของชานยอลและคริสร้องขึ้นอย่างตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่ ก่อนขายาวของทั้งสองจะรีบวิ่งเข้ามาในสนาม
“โอ้ยยย เจ็บ!!”ร่างอวบร้องลั่นแล้วกุมท้องไว้ สีหน้าแสดงความเจ็บปวดออกมาอย่างเต็มที่ จงแดรีบเข้าไปดูมินซอกทันที
“กูขอโทษๆ กูนึกว่ามึงจะเลี้ยงหลบ”เลย์ที่ไม่เจ็บมากค่อยๆใช้มือดันพื้นลุกขึ้นนั่ง
“เหี้ยเลย์!! หัวมึงแตก!!”เสียงของไคและแบคฮยอนร้องลั่น หลังจากที่เห็นของเหลวสีแดงสดไหลย้อยออกมาจนถึงหางคิ้ว
“ไหนๆ!”ลูฮานเองก็ดูจะเป็นห่วงเลย์มาก มือบางแหวกไรผมของร่างสูงออกก่อนจะทำหน้าเหยเกทันทีที่เห็นบาดแผล ทุกอย่างทุกการกระทำอยู่ในสายตาของมินซอกตลอด..
“สงสัยคงกระแทกเข็มกู”มินซอกที่พยายามจะปัดมือของจงแดออก แต่สุดท้ายก็ต้องให้ช่วยอยู่ดี ก่อนจะชี้ไปที่เข็มตราโรงเรียงที่ติดไว้ตรงปกเสื้อเขา
“เฮียว่าไปห้องพยาบาลกันก่อนเหอะ”คริสบอกขึ้นพร้อมมองรุ่นน้องของเขาด้วยสายตาเป็นห่วง
“เออๆ ดีเลยกูกลัวเลือด”แบคฮยอนพูดด้วยเสียงสั่น คนตัวสูงข้างๆก็ยื่นมือมาปิดตาไว้ให้ ก่อนที่ชานยอลจะพาเดินไปนั่งที่โต๊ะ
“ไปเหอะ ก่อนที่พวกมึงจะตายห่าอยู่กันตรงนี้”ไคบอก
“นั่นปากหรอห้ะไค! มาช่วยพี่พยุงเลย์เลย”เสียงหวานของลูฮานแว้ดขึ้นมา ทำเอาร่างโปร่งอึ้งไปเล็กร้อย เขาไม่เคยเห็นรุ่นพี่คนสวยหงุดหงิดมากก่อน มือเรียวรีบเข้าไปฉุดให้เพื่อนลุกขึ้นมา
“มึงพาเลย์ไปทำแผลที่ห้องพยาบาล กูจะพามินซอกไปทำแผลที่ห้องพักนิสิต”
จงแดพูดด้วยเสียงที่ดูแข็งๆ พร้อมใบหน้าที่ปกติจะยิ้มแย้มกลับนิ่ง มือหนารีบฉุดข้อมือของมินซอกให้ตามเขาไป บุคคลที่เหลืออยู่ที่สนามทั้งหมดถึงกับงงกันเข้าไปอีก คงเว้นแต่เลย์ ลูฮานและคริสที่พอจะเข้าใจเหตุการณ์ได้
“พี่จงแดแม่งเป็นไรวะ กูว่าแปลกๆ”ไคที่บ่นงึมงำหันไปมองหน้ารุ่นพี่ตัวสูงแล้วเลิกคิ้วเชิงถาม คริสส่ายหัวเล็กน้อยแล้วผลักหัวรุ่นน้องไปหนึ่งที ก่อนจะเดินเข้าข้างสนามไป
“ไปได้ยัง จะตายแล้ว”เลย์หันมาพูดกับคนที่จับแขนเขาไว้ ลูฮานพยักหน้ารับ เมื่อกี้เขากำลังคิดเรื่องของจงแดกับมินซอกอยู่เลยลืมไป ร่างเล็กรีบพาอีกคนเดินออกจากสนามบาสไปที่ห้องพยาบาลทันที
“กูว่า.. กูพอจะเก็ทละครับ”ร่างโปร่งที่ยืนมองนิ่งเงียบไปสักพักพูดกับตัวเอง หลังจากที่ใช้สมองไก่ๆของตัวเองคิดประติดประต่อเรื่องราวทั้งหมด
“ถ้ามึงเข้าใจแล้ว ก็กรุณาเอาก้นมึงมาจูบเก้าอี้ตรงนี้ เพื่อร่วมอภิปรายปัญหารักสี่เศร้าด้วยครับ”
เสียงชานยอลดังมาจากข้างสนามเรียกให้เพื่อนที่ยืนเปลี่ยวอยู่คนเดียวไปนั่งที่โต๊ะด้วยกัน พร้อมกับแบคฮยอนและคริสที่โบกมือเรียกไค ร่างโปร่งไม่รอช้ารีบเข้าไปเม้าท์มอยกับกลุ่มแก๊งทันที
“เบาๆเป็นมั้ยวะเนี่ย!!”มินซอกส่งเสียงว่าคนที่กำลังทำแผลให้เขาอยู่ เพราะตลอดทางมาไอ้บ้านี่ก็ลากเขาเหมือนลืมไปแล้วว่าเป็นคนเจ็บ
“ขอโทษ พอดีพี่หงุดหงิดนิดหน่อย”จงแดตอบพร้อมก้มลงทำแผลที่หัวเข่าให้ร่างอวบที่กำลังนั่งอยู่บนโต๊ะในห้องพักนิสิตนี้ คนอื่นคงไม่ได้สังเกตว่ากางเกงของมินซอกนั้นมีเลือดซึมออกมา แต่เขาก็พอจะรู้ตั้งแต่เห็นว่าร่างอวบล้มโดยเอาเข่าลง
“มึงหงุดหงิดอะไร?”มินซอกที่ไม่กล้ามองแผลตัวเองถามออกมา
“หงุดหงิดแทนคนแถวนี้”
“
.”
“เห็นใช่มั้ย? ลูฮานกับ..”
“ช่างแม่งเหอะ ไม่อยากพูดถึง”
“จะไม่ยอมรับความจริงรึไง? นั่นเพื่อนเรานะ”อยู่ๆเสียงของร่างหนาก็ดูเข้มขึ้น พร้อมทั้งใบหน้าที่ดูจริงจังไม่มีแววขี้เล่นอยู่เลย
“
ฉันไม่ได้มองผิดไปจริงๆหรอ?”
เสียงสั่นแบบนี้.. นี่หรือว่า..?
“มินซอก..”
“ฮึก..”ไม่ทันขาดคำ น้ำใสๆก็ไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย ร่างอวบสะอื้นหนักจนไหล่นั้นสั่นเทิ้ม จงแดมองภาพตรงหน้าก่อนจะคว้าตัวอีกคนมากอดไว้แน่น
“ร้องออกมาให้พอนะ”บอกไปเหมือนเข้มแข็งทั้งๆที่ใจเจ็บปวดกว่าคนในอ้อมกอดหลายเท่า ถึงแม้จะไม่อยากให้คนๆนี้เสียใจ แต่มันคงจะดีกว่านี้ถ้ามินซอกร้องไห้ให้กับเขาไม่ใช่ใครอีกคน..
“ฉัน.. ว่าฉันเตรียม..ใจ ไว้ แต่แม่ง.. ต้องไม่ใช่.. แบบนี้”เสียงที่พูดออกมาอย่างแผ่วเบาสลับกับขาดหายไปเพราะกำลังสะอื้น
“พี่รู้ครับ พี่รู้”มือหนาลูบหลังอีกคนอย่างปลอบโยน ตอนนี้คนในอ้อมกอดเขาเปราะบางกว่าใครแล้วจริงๆ
กอดไว้นานอย่างนั้นจนรู้สึกว่าเสียงร้องไห้ของมินซอกนั้นเงียบหายไป
“ปล่อยได้แล้ว
”เอ่ยเสียงอู้อี้ในลำคอ พร้อมแขนที่เริ่มดันอกร่างหนาออก
“หยุดร้องแล้วก็ไล่เลยนะ”พูดไปแต่ก็ยังกอดไว้เหมือนเดิม
“แล้วจะกอดต่อทำไมเล่า!”
“ก็อยาก”จงแดยกยิ้มอย่างคนอารมณ์ดี มินซอกออกแรงดันออกอีกครั้ง จนตอนนี้ก็ผละออกมาได้แต่มือหนาอีกคนนี่สิ ยังคงคล้องลำตัวเขาไว้เหมือนเดิม
“ยิ้มหาอะไรห้ะ”ใบหน้ากลมขาวนั้นเสมองไปอีกทางหลบสายตากรุ้มกริ่มตรงหน้า
“แล้วเปาละ เขินหาอะไรครับ ^^”รั้งเอวอีกคนเข้ามาอีกนิด
“ใครเขินวะ!!”สะบัดหน้ากลับมาโดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้ระยะห่างของเขาทั้งสองคนลดลงจนปลายจมูกนั้นชนกัน ดวงตากลมโตใสโดนตาคู่คมนั้นดึงดูดไว้จนละสายตาไม่ได้
“อ่ะ.. พี่ขอโทษ”จงแดรีบได้สติก็รีบถอยออก แล้วเกาหัวตัวเองพร้อมส่งยิ้มแหยๆ ตัวเขาเองก็กลัวเหมือนกันว่าถ้าอะไรมันเลยเถิดไป ร่างอวบตรงหน้านี่โกรธเขาไปสามชาติแน่
“อือ..”ตอบกลับเงียบๆ พร้อมก้มหน้างุด ไร้เสียงด่าทอใดๆกลับมา
“แล้วจะเอายังไงต่อไป?”
“ฉันอยากคุยกับเลย์และพี่ลูฮานให้รู้เรื่อง”
“แบบนี้คือยอมรับความจริงได้แล้ว?”
“อือ ก็นิดนึง”
“ให้ช่วยมั้ย?”
“ไม่ต้อง จัดการเองได้”
“ไม่ใช่ หมายถึงช่วยดามใจนะ.. อยากช่วยจริงๆ”สิ้นเสียงของร่างหนา มินซอกก็เงยหน้าขึ้นมามองอีกคนช้าๆ ก่อนจะเบะปากนิดๆแล้วสะบัดหน้าหนีแววตาของอีกคนไป
“ฮยอง..”
“หือ?”เลิกคิ้วขึ้นสูงแปลกใจกับสรรพนามเรียกของอีกคน
“เปาอยากกลับบ้านอ่ะ”
อ้อนขนาดนี้.. จงแดจะไม่ไปส่งที่บ้านได้ยังไงละครับ ^___________^
“อาจารย์ครับ เช้านี้ผมขอลาไม่ลงตรวจนักเรียนนะครับ”ซูโฮที่ตอนนี้กำลังอยู่ในห้องพักอาจารย์วอนบิน พูดขึ้นพร้อมวางเอกสารเรื่องค่ายลงตรงหน้าผู้อาวุโส
“ทำไม? เธอมีเหตุผลอะไร?”ถามทั้งๆที่ไม่ได้มองหน้า
“คือผม.. เอ่อ ไม่ค่อยสบายนะครับ”
“โอเค งั้นก็ได้”
“ขอบคุณมากครับ”ร่างบางก้มหัวให้เล็กน้อยก่อนจะเตรียมเดินออกไป แต่เสียงผู้เป็นอาจารย์ก็ทักขึ้นเสียก่อน
“แว่นเธอละ หายไปไหน?”
“เอ่อ..” โดนไอ้บ้าคนนึงขโมยไปครับ!!! ถึงจะคิดแบบนั้นแต่ก็ตอบออกไปอีกแบบ
“ผมลืมไว้ที่ห้องนะครับ พอดีแวะมาที่นี่ก่อน”
“อืม..”
“งั้นผมขอตัวนะครับ”ก้มหัวลงอีกครั้ง ก่อนจะก้าวขาต่อ
“เธอเปลี่ยนไปนะซูโฮ ปกติเธอไม่เคยลืมอะไรทั้งนั้น พักนี้เธอเองก็ดูจะ.. อ่อนลงด้วยนะ กรุณารักษาระดับประธานนักเรียนไว้ด้วย”
“
ครับ”รับคำแค่นั้นก็ปิดประตูลงทันที
“ฮึ่!.. ก็เพราะนายคนเดียวแหละ โอ เซฮุน!”ซูโฮย่นจมูกแล้วเดินลงส้นเท้าเสียงดังตลอดทาง เขาเองก็งงตัวเองเหมือนกัน พักนี้รู้สึกจะแสดงอารมณ์ออกมาเก่งเหลือเกิน ทั้งที่ปกติเขาแบบจะไม่สนใจอะไรเลย นอกจากตีหน้านิ่ง ทำเสียงเข้ม วางมาด
แต่ตอนนี้มันกำลังลดลงทีละนิด
“ไปไหนมา?”ทันทีที่เปิดประตูเข้าห้องมาก็เห็นคนแปลกหน้าที่เป็นสาเหตุความวุ่นวายของชีวิตเขา นั่งไขว่ห้างกระดิกเท้าอ่านหนังสืออย่างสบายใจ
“ไม่มีมารยาท เข้ามาห้องคนอื่นได้ยังไง”ซูโฮจ้องเขม็งไปที่ร่างสูงที่ยังคงทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ต่อไป
“ประตูมี ก็เข้าดิ”
“เหอะ! ..รีบๆเอาแว่นมาซะ แล้วก็ออกไป”ร่างบางเดินไปวางกระเป๋าลงที่โต๊ะ แล้วมายืนกดอกอยู่ตรงหน้าเซฮุน
“วันนี้ไม่ลงตรวจนักเรียนรึไง?”
ฟังบ้างมั้ยเนี่ย? มีหูไว้แค่ขั้นสมองรึไง -____-!!!
“ฉันลา ขี้เกียจลงไป”
“ขี้เกียจหรือกลัวหลุดมาดคุณประธาน?”
“หึ ก็รู้ดีนิ.. ไม่ได้โง่เหมือนหน้าตา”
“ทำไม? ฉันมันดูโง่ขนาดนั้นเลยรึไง?”ร่างสูงลุกขึ้นยืนเต็มความสูง พร้อมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าหวาน
“ก็ใช่นะสิ!”ขึ้นเสียงเล็กน้อย ซูโฮรีบเบี่ยงตัวหลบแต่เอวบางก็ถูกวงแขนอีกคนรั้งไว้
“ปล่อย!”
“ไม่ปล่อย”เซฮุนยกยิ้มยียวน ก่อนจะดึงตัวอีกคนให้เข้ามาใกล้อีก
“นายจะอะไรกับฉันหนักหนาห้ะ!!”ร่างบางดิ้นไปมา เสียงหวานตอนนี้แว้ดขึ้นจนเริ่มใกล้จะแหกปากเต็มที
“ก็แค่หมันไส้..”
“จะหมันไส้ก็หมันไส้ไปสิ แต่อย่ามายุ่งกับฉัน!!”
“ก็ฉัน.. จะ ยุ่ง”เสียงทุ้มเน้นทีละคำอย่างชัดเจน
“บ้าไปแล้วรึไงห้ะ! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!!”
“หุบปากซะ!!!”ได้ผลร่างบางหยุดดิ้นทันที ใบหน้าหวานดูตื่นตะลึงที่อีกคนพูดเสียงดังใส่ เซฮุนเองก็เริ่มจะหงุดหงิดที่อีกคนเอาแต่ดิ้น ไม่รู้จะรังเกียจอะไรหนักหนา วงแขนเรียวรีบผละออกจากเอวบาง ก่อนจะโยนแว่นคืนเจ้าของไป
“เลิกใส่เหอะแว่น เห็นแล้วหงุดหงิดว่ะ ไม่ชอบ”อีกครั้งที่ร่างสูงพูดจบก็เดินปิดประตูเสียงดังแล้วออกจากห้องไป ทิ้งให้คนที่กำลังจะใส่แว่นถือค้างไว้อย่างนั้น
แค่ใส่แว่นแล้วมันน่าหงุดหงิดขนาดนั้นเลยหรอ?
“เลิกวุ่นวายกับฉันซักทีเถอะ”เสียงของเลย์เอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกหงุดหงิดที่คนตัวเล็กดูจะไม่รู้อะไรเลย ว่ามินซอกน่าจะรู้คนที่รุ่นพี่คนสวยของตัวเองแอบชอบแล้ว
“อย่าเรื่องมากได้มั้ยห้ะ! ตอนนี้ควรทำแผลก่อน”มือเล็กค่อยๆบรรจงทำแผลให้เลย์อย่างเบามือ จนคนบาดเจ็บเองแทบจะไม่รู้สึกเจ็บอะไรเลย
“ไม่รู้ตัวเลยรึไง ว่ามินซอกมองอยู่ตลอด ทุกอย่างที่นายทำให้ฉัน!”อยู่ๆเลย์ก็พูดขึ้นเสียงดังใส่หน้าร่างเล็ก จนอีกคนนิ่งค้างไป ดวงตาคู่ใสเริ่มมีน้ำเอ่อคลอขึ้นมา
“ทำไมนายต้องยัดเยียดฉันให้คนอื่นด้วย ทั้งที่ฉันชอบนายนะ!”
“นั่นมันเพื่อนฉัน! ฉันต้องเห็นเพื่อนสำคัญกว่าอยู่แล้ว นายเป็นอะไรกับฉันด้วยรึไง?”
สิ้นเสียงประโยคนี้ของเลย์ ร่างเล็กที่พยายามกลั้นน้ำตาไว้แต่สุดท้ายก็ต้องปล่อยให้มันไหลออกมา ลูฮานนั่งลงไปกอดเข่าอยู่ที่พื้นทันที
“เลิกร้องไห้ซะ”ร่างสูงบอกพร้อมเงยหน้ามองไปที่อื่น เขาไม่อยากมองอีกคนร้องไห้ เขาไม่อยากใจอ่อน.. เขาไม่อยาทำร้าย’เพื่อน’
“ฮึก..ฮืออ”ลูฮานสะอื้นจนสั่นไปทั้งตัว น้ำตามากมายหลั่งไหลออกมาราวกับเก็บกดมานาน
“โอ้ยย!! เหี้ยอะไรอีกวะเนี่ย!!”
“เงียบซะ..”ทั้งที่เพิ่งจะสบถด่าไปเมื่อกี้ แต่ตอนนี้ร่างสูงก็ลงมานั่งกับพื้นแล้วกอดอีกคนไว้แน่น ลูฮานตกใจอย่างมากแต่ก็ยังไม่หยุดร้องไห้ เสียงสะอื้นยังคงดังอยู่
“ไปคุยกับมินซอกมันให้รู้เรื่อง..”
“ไม่ต้องสนใจฉันสักพัก..”
“หลังจากนั้นอยากทำไรก็ทำ..”
“รวมถึงเรื่องฉันด้วย..”
ใบหน้าสวยที่เปรอะไปด้วยคราบน้ำตาเงยขึ้นมองคนพูด เลย์คลายอ้อมกอดออกแล้วลุกขึ้นยืนแต่ใบหน้าคมยังคงนิ่งเหมือนเดิม ก่อนจะเดินออกจากห้องพยาบาลไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
มือเล็กยกขึ้นปาดน้ำตาออกอย่างลวกๆ ปากแดงยู่เล็กน้อยกับการแสดงออกของร่างสูงที่เขาไม่เคยจะเดาออกได้เลยสักนิด
“เห้ออ... มินซอกพี่ขอโทษนะ”
ตอนนี้นักเรียนชายมัธยมปลายปีสองและปีสามที่เข้าร่วมกิจกรรมค่าย ’เดอะ บราเธอร์ส’ กำลังรวมตัวกันอยู่ที่หอประชุมใหญ่ เพื่อฟังคำชี้แจงเกี่ยวกับกิจกรรมของค่ายทั้งหมด
ก่อนหน้านี้คริสกับลูฮานได้เดินมาหาพวกเขาแล้วบอกว่า มินซอกฝากมาบอกว่าอยากกลับบ้านเลยให้จงแดไปส่ง ทุกคนก็พยักหน้ารับรู้ ตอนนี้พวกเขาเข้าใจหมดแล้วว่าเกิดเรื่องอะไรกัน รวมถึงเซฮุนที่ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์แต่พอฟังชานแบคเล่าก็เข้าใจได้ทันที
แต่ตอนนี้การฟังอภิปรายกำลังกล่อมให้พวกเขาทั้งห้าคนนั้นอยากจะไปฟังในฝันซะมากกว่า =______=;
“ฮ้าววววววว”ไคที่หาวเสียงดังพร้อมอ้าปากกว้างโชว์ลิ้นไก่ พยายามสะบัดหัวไล่ความง่วงออกไป เพราะเขาอยากจะนั่งฟังให้หมดว่าจะได้ไปถล่มอะไรที่ค่ายบ้าง
“ไอ้มืดมึงหาวขนาดนี้ นอนเหอะ”เซฮุนที่นั่งข้างๆหันมาบอก ร่างโปร่งหันมามองก่อนจะสะบัดหน้ากลับ เหมือนกับงอนไอ้คนข้างๆงั้นละ
“เป็นเหี้ยรายยย งอนกูหรา?”นิ้วเรียวสะกิดไหล่ของไคยิกๆ
“อย่ามายุ่งกับกู!”สะบัดไหล่หนี
“นี่มึงงอนจริงๆหรอ -_____-??”
“เปล๊าา กูไม่ได้ง้อนนน” เสียงมึงสูงไปนอกโลกมากไอ้มืด = =
“หรอออ เห้ย มึงเป็นไรก็บอกกูดิว่ะ!”เซฮุนดึงไหล่ของร่างโปร่งให้หันมาเผชิญหน้า ไคปัดมืออีกคนออกก่อนจะยอมตอบ
“เมื่อเช้ามึงไปไหนมา?”อยู่ๆเสียงไคก็ดูต่ำลงจนน่ากลัว
“เอ่อ.. กู กูก็มาสายเหมือนเดิมไง”
“ตอแหลไอ้สัด! เมื่อเช้ากูเห็นรถมึงจอดอยู่แล้ว มึงไปไหนมา!”
“เออๆก็ได้วะ! กูไปหาประธานนักเรียนมา!”
“ไอ้ตุ้ด! มึง มึง มึง!!! มึงมีเมียแล้วทิ้งผัวมึงอย่างกูได้ยังไงห้ะ!!!”ไคเขย่าคอของเซฮุนไปมา มือเรียวรีบแกะมือคนข้างๆออกก่อนที่เขาจะได้ไปเป็นผีเฝ้าหอประชุมซะก่อน
“โอ้ยย มึงแม่งบ้าแล้ว ไอ้ฟวย! กูไม่ได้อะไรกับแม่งเว้ย กูแค่เอาแว่นไปคืน!”
“แว่น??? แว่นแม่งมาอยู่กับมึงอีกแล้วได้ยังไง”
“มึงซักกูขนาดนี้ มึงคิดไรกับกูปะเนี่ย?”ตาของเซฮุนหรี่ลงมองหน้าอีกคน พร้อมเริ่มขยับถอยหนี
“หึ! เดี๋ยวนี้มึงเห็นคนอื่นสำคัญกว่าคนอย่างกูแล้วนี่!!”
“แล้วทีมายเดสตีนี่มึงละห๊า! กูยังไม่โวยวายอะไรเลยนะสัด บ้านพวกมึงก็อยู่ข้างกัน ทีกูไปหาคนอื่นแค่เนี้ยมึงด่าเอาๆ ไอ้หอกกกก”
“เรื่องของกู.. กูหายงอนละ -3-”ไคหันมาส่งจูบให้หนึ่งทีก่อนจะหันหน้าไปทางเวทีเหมือนเดิม
“อะไรของมึงเนี่ย!!! เมนส์ไม่มารึไงวะ”ร่างสูงขยี้ผมอย่างไม่ไหวจะเคลีย์กับอารมณ์ของกัมจง
“พวกมึงครับเบาๆหน่อย คนแม่งมองพวกมึงกันหมดละ”ชานยอลที่นั่งถัดจากไคไปอีกทียื่นหน้ามาบอกไอ้สองตัวที่เถียงกันลั่นอย่างจะเป็นจะตาย แต่เหมือนทั้งสองคนก็ไม่ได้แยแสอะไรเลยสักนิด เซฮุนนั่งกอดอกมองไปรอบๆอย่างเบื่อหน่าย
น่าเบื่อเหี้ยๆ ฝั่งขวาก็ไอ้มืดปากหมากูไม่อยากคุย ฝั่งซ้ายไอ้เลย์แม่งหลับเอาๆ โว้ยยย!!
“ง่วงรึไง?”ชานยอลกระซิบถามคนตัวเล็กที่กำลังนั่งสัปปะหงกเต็มที แบคฮยอนโบกไม้โบกมือเล็กน้อยว่ายังไม่ง่วง แต่สังขารแทบจะร่อแร่แล้ว
“นอนเหอะ เสร็จแล้วเดี๋ยวกูปลุก”ไม่รออีกคนออกความเห็น มือเรียวอ้อมไปด้านหลังอีกคนแล้วผลักศีรษะของร่างบางให้ซบลงบนไหล่ตัวเอง แบคฮยอนเองที่ตอนแรกง่วงเต็มแก่แต่พอถูกจับให้นอนเท่านั้นแหละตาสว่างเลยจ้า
“หยอย กู..”
“หุบปาก.. แล้วนอนไปอย่าพูดมาก”เสียงเข้มตอบกลับมาแล้วกดศีรษะเล็กลงอีก ร่างบางเองที่ตอนนี้ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงรู้สึกเห่อร้อนขึ้นที่หน้า แต่ก็จำใจปิดเปลือกตาลงแล้วหลับไปบนไหล่กว้างของคนข้างๆ
ผ่านไปเกือบสามชั่วโมงของการอภิปรายค่ายตั้งแต่สิ่งเล็กๆยันสิ่งที่โคตรใหญ่ เรียกได้ว่าประชุมครั้งนี้คงทำให้นักเรียนชายมัธยมแทอึนตูดบานกันไปเป็นแถบๆแน่ -___-“
ไคลุกขึ้นยืนบิดซ้ายบิดขวา แล้วรีบเดินออกตามชานยอลที่ปลุกแบคฮยอนแล้วเรียบร้อยออกไป เซฮุนนั้นก็หันไปปลุกเลย์ด้วยเช่นกัน ก่อนทั้งคู่จะเดินตามไป
“พรุ่งนี้พวกมึงห้ามมาสายนะเว่ย! ไม่งั้นกูตามฆ่าแน่!”แบคฮยอนประกาศกร้าวแล้วยืนกอดอกมองหน้าเพื่อนเขา
“เออๆคร้าบบ มึงนี่แม่งอยากไปจริงๆ”เซฮุนรับคำ พร้อมกับเลย์ที่พยักหน้าหงึกหงัก
“พรุ่งนี้มึงกับไอ้อ้วนจะไหวมั้ยเนี่ย เลย์”
“ไหวๆ กูไม่ได้อะไรมาก”
“แต่กูห่วงไอ้อ้วนวะ”ชานยอลบอก เพราะถึงจะดูร่าเริงขนาดนั้นแต่ก็บอบบางใช่ย่อยนะ
“มีพี่จงแดไปดูแลแล้ว พรุ่งนี้พี่เขาก็ต้องมา เดี๋ยวแม่งก็มาด้วยกันนั่นแหละ”ไคบอก
“เตี้ยวันนี้กูไปนอนกับมึงนะ!”อยู่ๆร่างสูงที่สุดก็พูดขึ้น ทำเอาทุกคนหันไปมองกันดังขวับ
“นี่มึงจะนอนด้วยกัน!?!?”
“นอนด้วยเฉยๆเว้ย พวกมึงนี่เสื่อมจริงๆ”
“ไม่! กูไม่ให้ไป”แบคฮยอนยื่นคำขาด พร้อมเชิดปากขึ้น
“มึงไม่ให้ แต่กูจะไป จบ!”ว่าจบแค่นั้นก็ลากร่างบางออกไปโดยไม่ล่ำราเพื่อนเลยซักนิด แบคฮยอนที่ตอนแรกดิ้นสุดท้ายก็ต้องยอมให้คนเอาแต่ใจลากไปโดยดี
“อีสองตัวนี้ตลอดดดดดด”ไคกับเซฮุนลากเสียงอย่างเบื่อหน่ายกับชานแบคที่เอาอีกแล้ว..
“พวกมึงสองคนก็เหมือนพวกมันนั่นแหละ กูไปละ เจอกันพรุ่งนี้”เลย์พูดแค่นั้นก็เดินไปตามทางของตัวเองเพื่อจะกลับบ้านเช่นกัน ทิ้งให้สองคู่หูมองหน้ากันแล้วก็ผลักหัวกันไปมา
พลันสายตาของไคก็เหลือบไปเห็นร่างบางของคนข้างบ้านเข้าพอดี ไม่รอช้าเขารีบวิ่งไปหาทันที เซฮุนเองที่ตอนแรกจะร้องทักพอเห็นว่ามันไปหาใคร ก็ทำหน้าเอือมๆ ก่อนจะตัดสินใจเดินไปทางห้องประธานนักเรียนเล่นๆดีกว่า..?
“มายเดสตีนี่! ไปค่ายใช่มั้ย?”ยื่นหน้ามาจากด้านหลังเข้าไปถามซะใกล้ คยองซูที่ถึงจะตกใจมากแต่พอรู้ว่าเป็นใครก็ยิ้มให้อ่อนๆ ก่อนจะตอบ
“ใช่แล้ว ไคก็ไปด้วยหรอ?”
“ไปอยู่แล้ว แล้วนี่อยู่กลุ่ม..”
“คยองซูอยู่กลุ่มฉัน”เสียงที่สามเอ่ยขัดขึ้นก่อนไคจะพูดจบทำให้ใบหน้าที่ร่าเริงของร่างสูงนั้นเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
“หึ แกนี่กัดไม่ปล่อยจริงๆวะ”ไคเดินเข้ามาประจันหน้ากับแทมิน ทั้งคู่ดูไม่ได้เกรงกลัวกันเลยแม้แต่น้อย ร่างบางที่มองเหตุการณ์ตรงหน้าถึงกับกุมขมับอีกครั้ง
“คนที่มาก่อนอย่างฉัน ไม่จำเป็นต้องปล่อยมืออยู่แล้ว แต่คนมาทีหลังอย่างแกควรจะหัดเจียมตัวซะบ้างนะ”
“หรอวะ? ฮ่าๆ ถ้าไอ้คนมาก่อนแม่งเก่งจริง มันจะมาเดินตามต้อยๆอย่างนี้อยู่อีกทำไมวะ”
“แก..!!!!”แทมินกระชากคอเสื้อไคขึ้นพร้อมเงื้อหมัดเตรียมจะซัดใบหน้ายียวนนั่น แต่แขนบางก็มาฉุดไว้ซะก่อนพร้อมร้องห้าม
“อย่านะแทมิน!!”คยองซูมองไปรอบๆที่ตอนนี้คนเริ่มจะมองมาที่พวกเขาแล้ว ร่างบางเองก็ตกใจมากเพราะปกติแทมินไม่ใช่คนที่โมโหใครได้ง่ายๆเลย
“เห็นรึยังละ ว่าใครที่มันเก่งกว่ากัน ไปกันเหอะโด้ กลับบ้านกัน ^^”ต้นประโยคหันมาเยาะเย้ยใส่อีคนก่อนจะคว้าข้อมือบางแล้วออกแรงดึงให้มาหา
“ทำไมคยองซูต้องกลับกับแกด้วย แกถามเขารึยัง?”แทมินเอ่ยขัดอีกครั้งอย่างไม่ยอมแพ้
“หืมมม? แกอยากรู้จริงๆหรอ โด้ตอบไปดิๆ”ใบหน้าหวานหันมาจ้องคนที่พูดตาโต
ทำไมไม่พูดเองเล่า ฉันไม่กล้าพูดนะ ไม่เอา T^T!!
“โอ๊ะ.. เหมือนมายเดสตีนี่จะไม่กล้าพูดแฮะ งั้นฉันบอกเองแล้วกัน..”ร่างโปร่งก้าวเข้ามาประชิดตัวแทมินอีกครั้ง
“เห็นแล้วใช่มั้ยว่าบ้านโด้เป็นบ้านแฝด..”
“
?”
“แล้วมันก็จะมีบ้านสองฝั่ง โด้อยู่ฝั่งนึง..”
“แก..”
“ใช่ ฉันคือคนที่อยู่อีกฝั่ง ที่แชร์บ้านร่วมกัน.. พูดง่ายๆก็คือ.. ฉันอยู่บ้านเดียวกับโด้ว่ะ”
พูดเสียงดังฟังชัดแล้วผลักไหล่คนที่ยืนนิ่งอยู่ให้เซไปด้านหลังเล็กน้อยๆ ก่อนจะยักคิ้วอย่างผู้ชนะแล้วพาร่างบางออกไปจากตรงนั้นทันที
“ฉันจะต้องหยุดแกให้ได้.. ไอ้ไค คยองซูเป็นของฉันเท่านั้น..” แทมินยืนกำหมัดแน่น ขาเรียวเดินแหวกผู้คนที่มายืนดูออกอย่างไม่ไยดี แล้วตรงไปขึ้นรถที่มาจอดรออยู่ รถยนต์คันหรูรีบแล่นออกไปตามคำสั่งผู้เป็นนาย
“เตี้ยยยย มึงหลับในห้องน้ำปะเนี่ย กูรอนานแล้วนะ”เสียงคนตัวสูงตะโกนถามคนในห้องน้ำที่เข้าไปอาบน้ำนานเหลือเกิน จนเขาเริ่มง่วงแล้ว
“มึงง่วงก็นอนไปก่อนเลยดิ รอกูทำไม!”แบคฮยอนตอบกลับ ความจริงเขานะอาบน้ำเสร็จนานแล้วแต่ไม่กล้าออกไปแค่นั้น ไม่รู้เป็นอะไร ปกติไม่เคยคิดจะอาย แต่วันนี้มันกลับรู้สึกแปลกๆ
“ไม่เอา! กูจะนอนพร้อมมึง”ตะโกนกลับมา ร่างบางจึงได้แต่สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วเดินออกไป พบว่าคนที่เรียกกำลังนอนคว่ำหันมาทางเขาแล้วยิ้มแฉ่ง
“มานอนเร็วๆ พรุ่งนี้ตื่นเช้านะเว่ย”
“เออๆ รู้แล้ว”มือบางเอื้อมไปปิดสวิซต์ไฟ จนเหลือไว้เพียงไฟตรงหัวเตียงที่เปิดไว้สลัวๆ ขาเล็กก้าวไปขึ้นเตียงอย่างช้าๆ ทันทีที่ล้มตัวลงนอนคนข้างๆก็วาดวงแขนมาโอบกอดเขา
“มึงกอดกูทำไม หมอนข้างก็มี”
“กอดมึงนุ่มกว่า หอมด้วย”
มึงอย่าใกล้กูมากได้มั้ย กู..กู กู โอ้ยย กูพูดไม่ออก T____T
“
..”กอดไปได้สักพักทุกอย่างก็ดูเงียบลง ชานยอลชะโงกตัวมองคนในอ้อมกอด แต่เพราะว่าไฟสลัวเขาจึงเห็นไม่ชัดว่าอีกคนหลับไปแล้วรึยัง
“ไอ้เตี้ยมึงหลับไปแล้วหรอ”
“หลับแล้ว”
“หลับแล้วมึงเสือกตอบกูเนี่ยนะ กวนตีนละ”
“
.”
“มึงนอนไม่หลับหรอ?”
“ก็..นิดหน่อย”
“เพราะ.. กู?”
“มึงอย่าคิดมากได้ปะ หยุดถามด้วยกูจะนอน!”อยู่ๆร่างสูงก็พลิกตัวของร่างบางให้หันหน้ามาหา จนตอนนี้เขาเห็นแล้วว่าดวงตาคู่สวยกำลังจ้องใบหน้าเขาไว้
“มึง..”เสียงเล็กพึมพำออกมาก็เงียบหายไปเพราะตอนนี้ริมฝีปากเล็กกำลังถูกปิดด้วยริมฝีปากของคนตรงหน้า แบคฮยอนเบิกตาขึ้นอย่างตกใจ ตัวเขาแข็งทื่อไปหมดทำอะไรไม่ถูกแล้ว
ไม่นานชานยอลก็ผละออก แล้วจ้องมองใบหน้าหวานนั้นอยู่นิ่งๆ ร่างบางเองก็ทำเช่นกัน
“ฝันดีครับ หมาน้อย..”จูบลงที่หน้าผากมนอีกครั้ง พลางกระชับกอดคนตัวเล็กให้แน่นขึ้น คนถูกกระทำที่ตอนนี้นิ่งค้างเหมือนคนไร้สตินอนเปิดตาอยู่อย่างนั้น พูดแบบนี้ ทำแบบนี้ นี่มันอะไรกัน..?
มันไม่ใช่จูบที่ลึกซึ้งเป็นเหมือนเพียงแค่การสัมผัสกันของริมฝีปากแต่ก็ดูอ่อนหวานซะจนแบคฮยอนนั้นสติหลุดลอย รวมทั้งการบอกฝันดีเมื่อครู่ด้วย
ไอ้หยอย กูเขิน กูไม่นอนไม่ได้เพราะมึงแล้ว ไอ้.. ไอ้ โอ้ยย กูด่าไม่ลง T//////^///////T
____________________________________
ตอนนี้คาดว่าคงจะยาวมากกกกกกก
ยัดทุกคู่เลย ฮ่าาา เต็มอิ่มเลยเนอะ!
ค่ายรออีกสักพักนะ ตอนหน้าแน่นอน
*หันไปหยิบกีต้าร์มาเล่น*
โหวตหน่อยได้มั้ย โหวตฉันหน่อย
ถ้าชอบฟิคนี้กัน ไม่ต้องมากต้องมายหรอก
แค่อยากให้เธอโหวตกัน (.__________. )v
ฮ่าๆ ป่านนี้คงกดปิดหน้านี้ทิ้งไปแล้ว
ขอบคุณทุกคอมเม้นเหมือนเดิมฮะ
มีบางคนเม้นหลายอันเลย *จุ้บ*
บางคนก็เม้นยาวมาก บางคนก็เม้นตลอด
ขอบคุณจริงๆฮะ ตอนนี้มีกำลังอยากแต่งมากๆเลย
รักคนอ่านเสมอ เธอคือกำลังใจให้เราก้าวต่อไป : )
ความคิดเห็น