ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SHinee JONGKEY INNOCENT XX รักร้ายคุณชายตัวเเสบ 18+ part II

    ลำดับตอนที่ #8 : CHAPTER 7 INNOCENT II 100%

    • อัปเดตล่าสุด 15 มิ.ย. 55


    THE'FARRY

    CHAPTER   7   INNOCENT  II

     

    “ ถ้าพามินฮวานมาด้วยก็คงดี”       ผมถอดรองเท้าผ้าใบก่อนจะพับขากางเกงขึ้น

     อย่างระมัดระวัง  หลังจากที่คว้าจักรยานหนึ่งคันเที่ยวเล่นริมทะเลสาบ  ทว่านั่งลง

     ได้ไม่เท่าไหร่ผมจึงรู้สึกผวาตกใจสุดขีด   เมื่อดันมีผู้ชายที่น่าจะรู้จักเขาเป็นอย่าง

     ดีนั่งลงตรงข้ามกัน   

     

     

     “ มองหน้าหาเรื่องรึไง   

     

     

     

    “ แค่คิดว่าพี่จะแอบตามผมมารึเปล่า      

     

     

     

      ฮ่าๆ  ที่นี้อากาศดีจังนะ      พี่มินโฮหัวเราะก่อนสีหน้าจะเรียบนิ่งเหมือนเคย

     

     

     

    “ พี่มีเรื่องอะไรรึเปล่า

     

     

     

    “ ไม่นิ  ก็แค่เบื่อๆ    

     

     

     

    “ เพราะพี่สาวสิใช่มั้ย ”   

     

     

     

     

    “ ถ้าเป็นเพราะเธอ  ฉันก็กลายเป็นคนไม่มีศักดิ์ศรีน่ะสิ  แม้ว่าฉันยังจะรู้สึกกับเธอ

    แบบนั้น    ในเมื่อทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ฉันควรจะรักษาระยะห่าง

    กับเธอไม่ใช่หรือแทมิน ”     พี่มินโฮพับขากางเกงแล้วเดินลงไปยืนเล่นในทะเลสาบ 

    มีผมคนเดียวล่ะที่รู้ว่าเขาคิดอะไร  เขามักจะแสร้งทำว่าไม่เป็นไร  ดังนั้นการจะตัด

    ใจจากใครซักคนมันยากสำหรับเขา

     

     

     “ ทำไมน้ำเย็นเงี่ย   เป็นตะคริวได้เลยนะเนี่ย “       ผมนั่งมองพี่มินโฮอยู่ห่างๆ  เขา

    กระโดดโลดเต้นไปมา  ทันใดนั้นดวงตาเราประสานกันด้วยความบังเอิญ    ผมรีบๆ

    เบนสายตาไปทางอื่น ถึงกระนั้นเสียงล้อเลียนก็ทำให้ผมนึกโมโหเขาอยู่ได้ทุกทีสิน่า 

     

     

    “ รู้นะว่าแอบมอง     งั้นเอามาห้าร้อยวอน ”  

     

     

     

    “ ห้าร้อย  ฮะ!! ใครจะให้” 

     

     

     

    “ ก็ค่ามองไง   สมัยนี้อะไรๆมันเป็นเงินเป็นทองไปหมดแล้ว ”  เขาแบมือมาข้างหน้า

    ผมกลอกตามองเขาขึ้นๆลงๆ  ปัดมือออกห่างตัดสินใจลุกขึ้นไปคว้าจักรยานที่จอด

    ด้านหลังขี่กลับ    เขาบอกให้ผมลงไปนั่งแต่ผมทำเป็นไม่สนใจเขาแล้วปั่นจักรยานออก

    จากบริเวณนั้นทันที


                  >>>>>>>>>>>>>><<<<<<<<<<<<<<<<<<<<

     

    “ คุณผู้หญิงจะดีหรือครับ คุณผู้ชายสั่งไว้ว่าแม้แต่คนในครอบครัวก็ห้ามเข้าน่ะ ” 

    ฉันตบหน้าผากตัวเอง  นี่มันอะไรกัน!! แม้แต่คนในครอบครัวก็ห้ามเข้างั้นหรือ  จะ

    บ้าตาย   เขาคิดจะทำอะไรของเขาอีก   ธุระสำคัญอะไรถึงได้คุยกันสองต่อสองใน

    ห้องทำงานล่ะเนี่ย 

     

     

    “ แบคฮยอน!  ส่งถาดไวน์มาให้ฉัน ”

     

     

     

    “ อ๋อ  ครับ ”     ฉันรับถาดไวน์มาจากมือแบคฮยอน ก่อนจะเดินตรงไปยังห้องทำงาน

    พลางสูดอากาศบริสุทธ์เข้าปอดลึกๆ   มือผลุนผลันเลื่อนประตูเข้าไปข้างใน ฉัน
    ได้ยินเสียง
    หัวร่อต่อกระซิกใกล้ๆนี้   และจึงพบว่าหนุ่มสาวคู่หนึ่งกำลังสวีตหวานอยู่ข้างๆ  

     

     

       เราต่างอยู่ใกล้กันแค่เอื้อมฉันเห็นคุณจงฮยอนใช้มือยันกำแพง  โน้มใบหน้าจะจูบ

    ริมฝีปากหล่อนพอดิบพอดี   และแล้วสิ่งที่ทำให้ตกใจยิ่งกว่าปรากฏการสึนามิ…..  

    คุณคิมจงฮยอนจูบเธอต่อหน้าฉัน 

     

     

      เอ่อ คุณคะ    

     

     

    “ อะไร ทำไม     เขาผละจูบหล่อน พร้อมกับหันมายิ้มให้    ฉันซึ่งยืนถือถาด

    ไวน์รักษาความนิ่งไว้อย่างมีสติ

     

     

    “ หวัดดีฉันเเค่จะเอาไวน์มาให้หวังว่าคุณจะดื่มมันอย่างมีความสุขนะ ” 

     

     

    “ ขอบใจ      เขาหยิบแก้วไวน์ไปถือ  ก่อนจะหยิบอีกใบให้เธอได้ดื่ม  ฉันรีบออก

    เดินออกมาจากห้องพร้อมกับถาดเปล่าๆ ก้าวเท้าให้ไวที่สุด  ถ้าเขารู้ฉันโกหก

    ว่าไวน์ที่เขาดื่มฉันแอบใส่เกลือลงไปสองช้อนจะเป็นไงนะ  คิกๆ ^_^

     

     

     คิดจะฆ่ากันเลยรึไงว่ะเนี่ย!!!!! ”        

     

     

     

    ++บ่อน้ำอันดง++

     

       คืนนั้นฉันเอนศีรษะพิงลงไปกับขอบบ่อ  เอามือปิดตาทั้งสองข้างขณะนอนแช่ใน

    อ่างน้ำ  เพียงลำพัง    ฉันทั้งรู้สึกโมโหและโกรธเขากับยัยจอนฮโยซองอยู่เนื่องๆ

    มาคราวนี้คุณสามีดันพาสาวน้อยที่ไหนโผล่มาอีกก็ไม่รู้   มาวันนี้สามีก็มาจูบกับ

    หญิงอื่นๆ  ปวดหัว!!!! ฉันเป็นเสาอิฐเสาปูนรึไงถึงคิดว่าฉันจะไม่รู้สึกอะไรเลย   

     

     

    “ ให้ตายเหอะ!!!  

     

     

    “ เดี๋ยวก็ไม่สบายเอาหรอก ”   =_= คนอะไร!!ช่างตายยากตายเย็นจริงๆเลย  เขายืน

    พิงกับประตูก่อนหน้า  ฉันทำเป็นไม่สนใจสายตาคู่นั้นแล้วพยุงตัวขึ้นจากบ่อ  คว้า

    ชุดคลุมอาบน้ำแบบญี่ปุ่นสวมใส่อย่างรู้ทันความหมาย   

     

     

    “ จะไปไหนล่ะ อยู่ด้วยกันก่อนสิ ”   คุณคิมจงฮยอนรั้งข้อศอกฉันไปทางเขา      

     

     

     

    “ คุณคิดจะฆ่าผมด้วยไวน์สุดห่วยแตกนั่นรึไง ”          

     

     

     

     ฉันพอใจจะทำ คุณจะทำไม ” 

     

     

     

      ทำไมน่ะเหรอ   ผมก็มีวิธีจัดการยัยแม่มดแถวๆนี้น่ะสิ ”  

     

     

     

     ขอโทษนะ บังเอิญว่าฉันไม่ใช่ยัยแม่มดน่ะ   ฉันชื่อ..คิมคีซุนน้องสาวฝาแฝด

    คิมคีย์บอม    เชิญคุณจัดการกับยัยแม่มดที่ว่านั่นไปแล้วกัน   บ้ายบาย~    ฉันยิ้ม

    หวานจับมือเขาออกจากแขนฉัน    เหนือฟ้ายังมีฟ้า TOT ขณะที่ฉันเปิดประตูเลื่อน

    กำลังจะเดินออกไปอยู่นั่นเอง     ทันใดนั้นเขากับรั้งสะโพกถือโอกาสนี้โอบกอดเสีย

     

     

     

    “ ทำไงดีล่ะ บังเอิญว่ายัยแม่มดหน้าตาเหมือนคุณซะด้วยสิ ” 

     

     

     

    “ อย่ามากอดฉันนะ !! 

     

     

     

    “ โกรธผมอยู่เหรอ    

     

     

     

    “ ฉันจะโกรธไม่โกรธมันก็เรื่องของฉัน!!ไม่ใช่รึไง  ” ฉันจัดการกระทุ้งศอกกระแทก

    เข้ากับหน้าท้องเขาด้วยความรู้สึกโกรธ   ตาคนนี้กลับยื่นหน้าเข้ามาได้หน้าตาเฉย

     

     

    “ รุนแรงขนาดนี้สงสัยคงโกรธผมจริงๆสินะ ”   

     

     

     

     ไปให้พ้นนะ  ถ้าไม่อยากให้ฉันฟ้องเรื่องคุณกับแม่สาวน้อยคนนั้นกับคุณตาล่ะก็

     เพราะงั้น….รีบๆปล่อยฉันซะ”

     

     

     

     ดุจริง!โทษทีนะ  ผมเป็นพวกยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุน่ะ ”   ให้มันได้อย่างงี้สิ ถึงจะเรียก

    ว่าเป็นคิมจงฮยอน   ง่าา   ฮือๆ    เขาจับใบหน้าฉันหันไปทางเขาด้วยแรงทั้งหมด

    นิ้วแต่ละนิ้วแตะลงบนใบหน้าค่อยๆสอดเข้าไปในชุดคลุมฉันทีละนิด    รสจูบนุ่ม

    ละมุนจากช้าๆผ่อนขึ้นจนฉันหายใจแทบไม่ทัน      ทว่ากลับหนักหน่วงด้วยแรง

    ปรารถนา  ความโกรธจึงอันตรธานหายไปจากหัวสมองสายฟ้าแลบ   

     

     

     

      คุณคิมจงฮยอนจูงมือฉันกลับไปยังห้องพัก  ท่ามกลางแสงจันทร์บนท้องฟ้าที่มืด

    สลัว    ฉันโกหกไม่ค่อยเก่งโดยเฉพาะกับเขา    ทันทีที่เสียงประตูเลื่อนปิดลง  เขายืน

    กอดอกระบายยิ้ม ถึงจะมองไม่ชัดแต่ฉันกลับรู้สึกได้ว่าดวงตาคู่นั้นเป็นประกายขึ้น

    มาก

     

     

    “ ยิ้มอะไร    ฉันยืนมองเขาจนหัวคิ้วย่น    

     

     

     

     

    หึๆ….เห็นๆอยู่ว่าคุณออกจะชอบมันมาก ”

     

     

     

      เอาอะไรมาพูด!     

     

     

     

    “ เหรอแต่ผมสงสัยจริงๆเลยนะว่าไอ้ที่สองสามวันต่อสัปดาห์นี้   มันคืออะไร

    กันแน่   ถ้าไม่ชอบแล้วจะให้เรียกว่าอะไร ” 

     

     

     

    “ คุณนี่มันประสาทแดกรึไงเนี่ย  คุณขืนใจฉันแล้วยังจะมีหน้ามาพูดอีกเหรอ!   ฉัน

    กำหมัดแน่นขบเคี้ยวเขี้ยวฟันด้วยความคับแค้นใจ   แต่ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นข้อเท็จ

    จริงที่ปฏิเสธยังไงก็ปฎิเสธไม่หลุดซะด้วย

     

     

     

    “ คุณเองก็สมยอมไม่ใช่เหรอ   แค่ผมหยอกล้อคุณนิดเดียวคุณก็ไปแล้ว  เรื่องอย่างว่า

    นี้ คุณยังจะบอกให้ผมเปลี่ยนมันด้วยรึเปล่าล่ะคิมคีซุน      เขาก้มหน้าลงต่ำกระตุก

    ยิ้มร้ายพร้อมกับก้าวเท้าขวามาข้างหน้า ซ้ำร้ายฉันยังถูกเขาไล่ต้อนจนมุมติดกับขอบ

    โต๊ะเครื่องแป้ง  และพื้นที่ว่างๆนั้นจึงกลายเป็นพื้นที่สำหรับฉันและเขา

     

     

     

    “ อื้อฮะอืมมฮื้อ ”  เสียงหอบหายใจของเขาดังกว่าทุกๆครั้ง ทันทีที่ปลายจมูก

    โด่งก้มต่ำลงมายังเนินอก  ส่งผลให้ชุดคลุมอาบน้ำเลิ่กออกจากตัวครึ่งหนึ่งก่อนจะ

    หล่นไปกองอยู่ที่พื้น  เมื่อริมฝีปากคู่สวยและปลายลิ้นอุ่นยึดครองยอดอกส่วนไวต่อ

    สัมผัสเป็นการชั่วคราว 

     

     

    “ นั่นอะไรน่ะ ~   ฉันสะดุ้งตื่นทันทีที่บางอย่างหยดลงบนหลังฉัน  ตามด้วยกลิ่น

    หอมอ่อนๆคล้ายกับเบบี้ออยส์สำหรับเด็กทารกมันเยิ้มทั่วทั้งแผ่นหลังด้วยฝีมือที่

    แสนจะร้ายกาจ   

     

     

     “ อย่าบอกนะว่า….คุณจะใช้มัน ”   ฉันไม่ได้ยินเสียงเขา  นอกจากเสียงหอบหาย

    ใจถี่ระรัวนี้เท่านั้น  เขารวบผมฉันขึ้นขณะพรมจูบด้านหลังลำคอ มือซ้ายลูบขึ้นมา

    ตามเรียวขาขยับไปมาไม่หยุดนิ่ง

     

     

     

    “ หันหน้ามาหน่อยสิ ”    ความวาบหวามพพลันก่อเกิดขึ้นในใจฉัน    ยังไม่ทันได้

    หันไปด้วยซ้ำเขากลับยื่นริมฝีปากประกบจูบลงมาเป็นอันดับแรก   ปลายนิ้วสอด

    เข้ามาสำรวจภายใต้ผ้าลูกไม้   จนกระทั่งมันเปียกชื้นไปทั้งผืนจัดการพลิกร่างฉัน

    หันกลับ      

     

     

     

      หมดฤทธิ์แล้วสิ….ค่อยง่ายหน่อยผมจะได้ไม่เหนื่อย ”  ถึงตอนนี้สติฉันหลุดลอย

    ไปไกลพอสมควร  ทำได้แค่มองเขาถอดชุดคลุมบนตัวไปเงียบๆ    และความรู้สึกที่ว่านี้แทบ

    จะไม่มีใครปฏิเสธลงได้     นอกจากจะแค่รอการปลดปล่อยจากเขาเท่านั้น 

     

     

    “ อ้าาา~    เสียงคำรามเบาๆในลำคอดังขึ้นเป็นระยะ และเสียงของฉันจึงถูกปิดด้วยจูบ
    ที่เร่าร้อนนั่นเหมือนเคย  ตามจังหวะบท
    รักซึ่งมันกำลังแผดเผาร่างเราทั้งคู่เข้าไว้ด้วยกัน   

     

     

      ที่รักคะ~ อ๊ะ อาา  อ้าาา  ที่รัก~ ” ฉันโอบกอดรอบๆคอเขาไว้หลวม รู้สึกว่าตัวเอง

    กำลังหมุนลอยเคว้งคว้างกลางอากาศ  มองเห็นขอบสายปลายรุ้งหลากสีเด่นมาแต่

    ไกลลิบ    เขาขยับสะโพกหนักๆส่งเสียงคำรามดังก้องไปทั่วห้องนอน  แม้แอร์ภายใน

    ห้องซึ่งดูเหมือนจะเย็นช่ำ ทว่ามันกลับร้อนอบอ้าวสุดๆ    

     

     

     

     

     

    วันนี้ผมมีธุระที่โซล  แล้วจะรีบกลับ   

     กระดาษโน้ตสีเหลืองถูกแปะไว้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ฉันหยิบมันออกมาอ่านก่อนจะ

    หากล่องเก็บมันแล้วทิ้งตัวลงนั่งเช็ดผมให้แห้ง เหตุการณ์เมื่อคืนนี้ฉันจำได้แม่น 

    คุณสามีอาบน้ำแต่งตัวเนี้ยบออกไปแต่เช้าทิ้งกระดาษโน้ตกับข้อความสั้นๆไว้ให้     

     

     

    “ กู๊ด มอร์นิ่งฮะ แม่ ”   มินฮวานโผล่หน้าเข้ามาทางประตูด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม วิ่งขึ้น

    มานั่งบนเตียงโผล่เข้ากอดคอฉันแต่เช้า 

     

     

    “ ไงจ๊ะ มาอ้อนถึงที่แสดงว่าลูกต้องมีอะไรแน่ๆใช่มั้ย ” 

     

     

     

    “ แฮะๆ  ไปปั่นจักรยานกันนะฮะ ”

     

     

     

    “ งั้นแม่ขอทานข้าวเช้าก่อนแล้วกันนะจ๊ะ   แม่ท้องร้องจะแย่อยู่แล้ว ”

     

     

     

    “ ไม่ต้องห่วงหรอกนะฮะ  ผมให้พี่แบคฮยอนยกข้าวเช้ามาให้แล้ว ”  มินฮวานเดินไปยก

    ถาดอาหารมาวางบนตัก ซาบซึ้งใจได้ไม่นานแต่ก็ต้องหุบยิ้มแยกเขี้ยวใส่เด็กน้อยอย่าง

    นางมาร   เพราะน้อยครั้งมากที่เด็กแสบจะเอาใจแม่แท้ๆ  ถ้าไม่เป็นเพราะว่าหาเรื่อง

    ออกไปเที่ยวข้างนอก   

     

     

     

      ฉันพามินฮวานและแมวจอมแสบที่ไม่ทราบว่าตามมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เดินขึ้นเขาไปวัด

    พุลกุกซาที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสวนกับพวกเด็กๆซึ่งพากันเดินกลับลงมา  กระทั่งถึงปากทาง

    เข้ามินฮวานจึงเลิกเก็บเต่าทองตามข้างทางปล่อยมันลงบนพื้นด้านหน้าวัด   

     

     

    “ มินฮวานเข้าไปข้างในกันเถอะ”  ฉันจูงมือมินฮวานเข้าไปข้างใน ทำไมฉันถึงรู้สึกแปลกๆ

    เหมือนกับมีใครบางคนกำลังจ้องมองฉันอยู่     เมื่อพบว่าไม่มีใครเราสองคนจึงเดินไปต่อ  

     ชายกลางคนซึ่งอยู่ในชุดสีดำสนิทท่าทางไม่น่าไว้ใจเท่าไหร่   พวกเขาทำเป็นกระซิบกัน

    แล้ว ทันใดนั้นเองตัวฉันจึงเป็นจุดศูนย์รวมสายตาของคนพวกนั้นเข้าให้ซะแล้ว  

     

     

    “ มินฮวานแม่ว่า….ไว้วันหลังเราค่อยมาดีกว่านะ ”   

     

     

    “ ทำไม่ล่ะฮะ”  

     

     

    “ อย่าถามมากได้มั้ย  เราต้องวิ่งกันแล้วล่ะ ”

     

     

    “ วิ่งเหรอ  ทำไมเราสองคนต้องวิ่งเร็วขนาดนี้ด้วยล่ะฮะแม่ ”   แล้วคนพวกนั้นก็วิ่งตามฉัน

    มาในที่สุด   นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย  คุณจงฮยอนทำไมคุณต้องไปโซลวันนี้ด้วยนะ!!

    ฝีมือใครกัน  สงสัยจังว่าคนเดียวที่คิดทำเรื่องแบบนี้  มีคนเดียว   

     

     

    “ จะหนีไปไหนไม่ทราบ ” 

     

     

    “ว๊าย!!!  นายหญิง  อ๊ะ    ฉันล้มหัวเข่ากระแทกพื้น  ผวาตกใจกลัวทันทีที่หญิงวัยกลาง

    คน ใบหน้าที่ซึ่งมีแต่ความเหี้ยมเกี้ยมคุ้นหน้าคุ้นตาฉันเป็นอย่างดี   ยืนปรากฏกายอยู่

    ตรงหน้า  ฉันเวียนหัวอย่างแรงไม่คิดว่าจะโดนเธอตบหน้ากะทันหันเช่นนั้น   ทันใดนั้น

    มินฮวานผู้ไม่ประสีประสาจึงวิ่งเข้ามาขว้าง

    >>>>>>    ต่อ  <<<<<<



    “ อย่ามายุ่งกับแม่ผมนะ ”

     

     

     

    “ มินฮวานถอยออกไปก่อน ”  ฉันคว้าตัวมินฮวานไปด้านหลัง   แม้ไม่อาจหลี่กเลี่ยง

    แต่ฉันก็ไม่อยากจะเห็นหน้าผู้หญิงคนนี้เลยจริงๆ     

     

     

     

       นึกไม่ว่าถึงว่าจะเจอเธอที่นี่นะคิมคีซุน     เธอหัวเราะกลอกตามองฉันขึ้นลงแล้วขยับมา

    ข้างหน้า  สี่ปีที่ฉันยังจำได้เสมอมา  นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ฉันก็ยังไม่เคยจะถูก

    ชะตากับเธอเลยสักครั้ง  

     

     

     

    “ ตกใจที่เห็นฉันมากเลยเหรอ   

     

     

     

     

    “ คุณต้องการอะไร ”  

     

     

     

     

    “ เธอพอจะมีเวลาคุยกับฉันมั้ย ”  ฉันตัดสินใจคิดอยู่นานทีเดียว   ผู้หญิงคนนี้ฉัน

    กลับไม่ไว้ใจเธอเท่าไหร่ ดีไม่ดีเธออาจจะคิดไม่ซื่อก็เป็นได้    เธอชวนฉันมายังร้าน

    กาแฟแถวๆนั้น  ก่อนจะเปิดประเด็นเรื่องที่ว่าพร้อมกับยื่นซองสีน้ำตาลให้

     

     

     

    “ นี่อะไรค่ะ  

     

     

     

    “ เธอก็ดูเอาเองสิ ” ฉันเงยหน้ามองเธอครู่หนึ่ง    เทสิ่งที่อยู่ในซองสีน้ำตาลออก

    จนหมด    บัตรพนักงาน   เอกสารการสมรส   และเอกสารอื่นๆที่ฉันไม่คิดว่าจะ

    ไปอยู่ในมือเธอเล่นเอาฉันอึ้งไปชั่วขณะ   

     

     

       นี่มันอะไร

     

     

    “ถึงเธอจะไม่ได้แต่งงานกับลูกชายฉันแต่ฉันก็เตรียมเรื่องนี้ไว้นานแล้ว    เอกสารการ

    สมรส   บัตรพนักงาน   เอกสารที่รับรองว่าโอนเงินให้เธอหนึ่งร้อยล้านวอนอยู่ในบัญชี

    นี้เรียบร้อย   ต่อแต่นี้เธอจะปฎิเสธฉันไม่ได้เหมือนเมื่อก่อน  ต่อให้เธอหนีฉันก็แจ้งเธอใน

    ข้อหาทุจริตหรือไม่”

     

     

    “ ทำไมคุณถึงต้องคอยมาบงการชีวิตฉัน   ทำแบบนี้ทำไม   ฉันไม่เคยขอร้องคุณเลย

    นะ      

     

     

     

      เธอน่าจะดีใจนะ ที่ฉันไม่คิดฆ่าเธอก็บุญแล้ว  อาทิตย์หน้าฉันจะให้เธอเริ่มงานใน

    บริษัทได้    และอีกเรื่องที่ฉันจะบอกฉันไม่รู้ว่าทำไมคนถึงได้ชอบ เข้าใจผิดๆไม่สงสัย

    บ้างเหรอว่าทำไมเขาถึงใช่นามสกุลคิมแทนที่จะเป็นปาร์คน่ะ   เธอไม่สงสัยเลยใช่มั้ย ”

     

     

     

    “ คุณต้องการจะบอกอะไรฉันกันแน่    ถ้าคุณจะมาคุยอะไรไร้สาระกับฉัน  งั้นฉัน

    ลาล่ะ ”

     

     

     

    “ ปาร์คยูซอนไม่ใช่พ่อของเขา ” ทันทีที่ฉันตัดสินใจลุกออกจากเก้าอี้    คุณนายลีโบยอง

    จึงพูดมันออกมาในที่สุด   จนโต๊ะข้างๆถึงกับหันมามองด้วยความอยากรู้อยากเห็น  ฉัน

    ส่ายหน้าปฎิเสธราวกับสิ่งที่ฉันได้ยินเป็นเรื่องโกหก  เมินเฉยต่อคำพูดไร้สาระตัดสินใจ

    พาคิมมินฮวานกลับบ้าน

     

     

     

     เย็นวันนั้น    ฉันรีบซ่อนซองสีน้ำตาลที่ดันถือติดมือมาด้วยอย่างหวุดหวิด  แต่ใคร

    จะคิดล่ะว่าระหว่างที่ฉันจัดการหาที่ซ่อนมัน  คุณเชวมินโฮดันเปิดประตูเข้ามาพอดี    

    ซวยแล้วมั้ยล่ะ   สงสัยไม่พอยังสอดรู้สอดเห็นอีกต่างหาก =_=

     

     

    “ นั่นอะไร       

     

     

     

    “ ไม่มีอะไรหรอกน่า ”     

     

     

     

    “ เธอดูแปลกๆตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ ”  

     

     

     

    “ ก็บอกแล้วไงว่าไม่มีอะไร      เขาเอื้อมมือมาด้านหลังก้าวเท้ามาข้างหน้า  ในระยะ

    ประชั้นชิด  ฉันจึงเบี่ยงตัวหลบไปอยู่ด้านหลังเขาเดินเปิดประตูออกมาโดยเร็ว   และ

    เหมือนว่าฉันจะเดินชนใครเข้าอย่างจัง    เขาคนนั้นถึงได้มีริ้วรอยบนใบหน้าเพิ่มขึ้น

    เป็นจำนวนมาก          

     

     

    “ จงฮยอน!! 

     

     

     

    “ กลับมาแล้วเหรอคะ ”   

     

     

     

     

     

    “ ฉันดีใจจังที่คุณกะ.. 

     

     

     

     นี่คุณกำลังดูถูกผมอยู่รึไง!!!     

     

     

     

    “ ว่าไงนะ~ ดะ..ดูถูกงั้นเหรอ ”   ชั่ววินาทีนั้นแผ่นหลังคุณจงฮยอนค่อยๆไกลออก

    ไปเรื่อยๆ  ฉันวิ่งตามเขาไปติดๆ ยิ่งเดินเข้าไปใกล้เขาเท่าไหร่ รู้สึกว่าตัวเขาแทบจะเล็ก

    ลงทุกๆที  แล้วบานประตูเลื่อนจึงส่งเสียงอึกทึกคึกโครมชุดใหญ่    เรื่องอะไรฉันจะ

    ยอมให้คุณทิ้งฉันไว้ข้างนอกโดยไม่มีเหตุผลแบบนี้ล่ะ!!!  

     
    “ คุณจงฮยอน~ เปิดประตูให้ฉันเข้าไปเดี๋ยวนี้นะ   

     

     

      ปังงงๆๆๆ   ปังงงๆๆๆๆ

     

     

    “ นี่~   ฉันบอกให้เปิดไงล่ะ   คุณกำลังเข้าใจฉันผิดอยู่นะ ”

     

     

     

      เสียใจนะ  แต่ผมไม่มีอะไรจะพูด   ไปให้พ้นๆจากหน้าห้องซะที!!  น่ารำคาญ  

     

     

     

    “ ว่าไงนะ  น่ารำคาญเหรอ!!   คุณพูดแบบนี้กับฉันได้ยังไงฮะ จงฮยอน!!!   ทัน

    ใดนั้นประตูเลื่อนจึงเปิดออกพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา เล่นเอาฉัน

    ถึงกับอึ้งไปสนิท

     

     

     

      คุณก็รู้นี่ว่าผมรู้สึกยังไง   ผมอึดอัดมากต่อไปนี้เราก็ต่างคนต่างอยู่กันดีกว่า   

    คุณจะไปคบกับไอ้เลวที่ไหนก็เชิญเลยผมอนุญาต    ดีซะอีกนะที่ผมจะได้ทำในสิ่งที่

    ผมอยากทำบ้าง      เขายิ้มกว้างปิดงับประตูใส่หน้าฉันจัดการล็อคมันทันที  ฉันเคาะ
    บานประตูนั้นอีกครั้งทว่าบานประตูยังคงนิ่งเงียบไม่ขยับ

          


    ป.ล  เอาเเล้วสิเรื่องมันชักจะมีปมซ่อนเงื่อนเกิ้น 
    จะบอกว่าเพลง  I  knew  it   - beast  ได้โหมด 
    อีเป็ดจงกะม่าพอดีเเดะ!!!    ติดตามๆ หุ หุ
     

     



     


     

     

     

     

     


     

     

     

     


     

     


     

     

     

     

     

        

     

     

     




     

     

     


     

     

     


     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     


     

     

     


     

     

     

     

     


     

     


     

     


     

     


     

     

     


      

     

     

     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×