คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : between us - 6
เวลาพบเจอกับความเจ็บปวด.. เรามักจะมองเห็นบางสิ่งที่ทำให้เรายิ้มได้เสมอ
‘กลับมาแล้วครับ!!’ ตะโกนลั่นหลังจากก้าวเท้าเข้ามาในบ้าน
‘จะตะโกนหาอะไรห๊า!! แม่ตกใจชอคตายขึ้นมาทำยังไง’ ผู้เป็นแม่ที่ทำอาหารอยู่ในครัวต้องรีบวิ่งออกมาดุเสียงเข้ม
‘ก็เห็นบ้านเงียบอ่ะนึกว่าไม่มีใครอยู่’ ฮยอกแจยักไหล่อย่างไม่ค่อยสนใจกับคำดุนั้น
ทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟากลางบ้านพลางเปิดทีวีดูอย่างสบายใจ คุณนายอีก็เดินกลับไปทำกับข้าวตามเดิม
‘พ่อยังไม่กลับ ส่วนซึงแจออกไปงานวันเกิดเพื่อน’ ฮยอกแจเบ้ปากเมื่อได้ฟังประโยคหลังของผู้เป็นแม่
อีซึงแจ... พี่ชายคนที่สามของเขาหนีออกไปเที่ยวอีกแล้ว คงกลับดึกหรือไม่ก็ไม่กลับอีกตามเคย พอคิดก็แอบน้อยใจเขาเป็นลูกคนเล็กแต่พ่อกับแม่ก็ยังไม่ปล่อยให้เที่ยวอย่างอิสระอย่างพี่ชายบ้าง ลำเอียงชัดๆ!
♬ ~날 사랑에 눈뜨게 했고
이런 감정이 있다는 걸
나도 이럴 수 있다는 걸~♬
‘ว่าไงซองมิน’
‘ถึงบ้านแล้วใช่มั้ย?’
‘อือ สักพักแล้ว.. มีอะไรป่าววะ? เสียงเครียดเชียว’ ปากพูดแต่ตาก็ยังคงจ้องไปที่จอสี่เหลี่ยมตรงหน้า
‘มีเรื่องจะบอกน่ะ คิดว่ามึงควรรู้’
‘ทางการสัด มีไรพูดมาเลยพี่วอนบินกูจะมาละ’ เป็นที่รู้กันในหมู่คนสนิทว่าถ้าละครหรือรายการที่มีวอนบินนักแสดงในดวงใจของฮยอกแจมา ร่างบางจะตัดขาดจากโลกภายนอกทันที
ก็คนมันชอบอ่ะ!
‘ทงเฮชอบมึง’
‘พ่อง! เข้าเรื่องเถอะเพื่อนรัก อย่าตลก’ แทบหลุกขำออกมากับประโยคนั้นของซองมิน
‘ไม่ตลกนะ นี่เรื่องจริงและมึงก็ควรรู้ไว้’ ซองมินบอกเสียงเรียบ
‘กูไม่เชื่อ นี่ไม่ใช่ April Fool Day นะครับอีซองมิน เลิกโม้ได้ละ’
‘แล้วแต่มึง ที่กูบอกก็แค่อยากให้มึงรู้และทำตัวถูกเวลาอยู่กับมัน...’
‘หมายความว่าไง?...’ ฮยอกแจถามเสียงเบา
‘มันรู้แล้วว่ามึงกับคยูฮยอนชอบกัน ... ให้เวลามันทำใจสักพักละกันนะ’
‘
..’
‘มันอาจจะเป็นเหมือนที่จุนซูเคยเป็น... กูอยากให้มึงเข้าใจมัน’
‘ไม่เข้าใจ กูไม่เข้าใจอ่ะซองมิน... นี่แค่เรื่องตลกที่มึงล้อกูเล่นใช่มั้ย?’
‘กูรู้ว่ามันน่าตกใจ แต่เชื่อกูสิกูฟังมาจากปากมัน ช่วงนี้มึงก็อย่าไปสนใจอะไรมันมากเลย เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีเอง’
พูดง่ายแต่ทำยาก... คนเป็นเพื่อนสนิทกัน กลุ่มเดียวกัน ไปไหนไปด้วยกันอยู่ๆจะมาทำตัวเหินห่างกันมันง่ายซะที่ไหน
‘คยูฮยอนรู้เรื่องนี้หรือเปล่า?’
‘รู้แล้ว มันก็เครียดๆอยู่’
นี่แหละที่ทำให้เขาเครียดยิ่งกว่าเดิม คยูฮยอนเป็นคนที่ดูภายนอกไม่คิดอะไร ชอบเก็บเรื่องเครียดไว้คิดมากคนเดียว มันยิ่งทำให้ฮยอกแจรู้สึกแย่
เฮ้อ.........
‘โทรมาบอกเท่านี้แหละ พรุ่งนี้จะไปรอมึงแต่เช้ารีบมาละ!’ พูดจบซองมินก็ตัดสายทิ้งไปทันที
ทิ้งเรื่องไว้ให้เขาเครียดและก็ชิ่งไปนอนนะซองมิน..
‘แม่ไม่กินข้าวนะ! จะนอนเลยไม่ต้องเรียก!’ ตะโกนบอกผู้เป็นแม่ในครัว ก่อนจะวิ่งขึ้นห้องนอนตัวเอง
เช้าวันรุ่งขึ้น..
ฮยอกแจและซองมินเดินเข้าโรงเรียนเช้ากว่าปกติ เป็นเพราะฮยอกแจต้องการตั้งรับกับทงเฮที่ไม่รู้จะเมินใส่เขาเหมือนที่จุนซูเคยทำ หรือจะเปลี่ยนไปในทิศทางไหน ซองมินก็ได้แต่ปลอบไม่ให้เครียดจนเกินไป
‘กูเข้าห้องก่อนนะ เช้าแบบนี้ทงเฮมันคงยังไม่มาหรอก’ ซองมินตบบ่าสองสามทีก่อนจะแยกเข้าห้องไป
แต่ดูจะผิดคลาดไปสักหน่อย... เพราะทันทีที่เปิดประตู้ห้องเข้าไปก็เจอกับร่างโปร่งของทงเฮที่นั่งอยู่หลังห้องเป็นคนแรก และที่สำคัญคือคนเดียวในห้องด้วยน่ะสิ
‘อ.. อ้าว มาเช้าจังมึง’ ฮยอกแจแสร้งยิ้มให้เหมือนปกติหวังว่าทงเฮคงจะวิ่งมาตบหัวเขาอย่างเคย... แต่เปล่าเลย ร่างโปร่งทำเหมือนไม่เห็นฮยอกแจ ไม่ได้ยินคำทักทายเดินผ่านออกจากห้องไปด้วยใบหน้าที่เย็นชา
เหตุการณ์เดิมที่เคยเกิดขึ้นมันกลับมาอีกแล้ว... ถูกเพื่อนเมินสองครั้งแล้วนะอีฮยอกแจ..
จุนซูพึ่งกลับมาคุยกับเขาได้ไม่นานวันนี้ทงเฮดันทำตัวเฉยชาใส่เขาอีกแล้ว ถึงจะรู้เหตุผลว่าทำไมเพื่อนสนิทถึงเป็นแบบนี้ แต่ก็ยังทำใจได้ลำบากอยู่ดี เขาไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้ ถ้าความรักของเขามันทำให้เพื่อนหรือคนที่เขาแคร์หลายคนต้องเจ็บปวดและรู้สึกแย่เขาขอกลับไปเป็นแบบเดิมยังดีซะกว่า..
เวลาเรียนช่วงเข้าผ่านพ้นไปและเพราะวันนี้โรงเรียนสั่งให้เลิกครึ่งวันเพื่อให้นักเรียนชั้นปีที่สามซื้อของหรือวางแผนสำหรับงานกีฬาสีอีกหนึ่งอาทิตย์ข้างหน้า ทงเฮยังคงนิ่งและไม่พูดคุยกับเขาแม้กระทั่งในห้องเรียน
ร่างบางเดินคู่กับซองมินตามหลังทงเฮ กีกวัง อีจุน ส่วนคยูฮยอนติดงานในห้องคงจะลงมาช้ากว่าทุกคน
‘รอไอคยูฮยอนตรงนี้ละกัน’ อีจุนว่าก่อนจะนั่งลงริมฟุตบาทหน้าโรงเรียน ทงเฮยังคงหยอกล้อกับเพื่อนในกลุ่มเหมือนปกติถ้าไม่สังเกตคงไม่รู้ว่ามีแต่ฮยอกแจคนเดียวที่ทงเฮยังไม่เปิดปากพูดด้วยสักคำ
‘ทงเฮซื้อไรให้บัดดี้วะ กูพอจะรู้นะว่าบัดดี้มึงเป็นใคร~’ กีกวังเอ่ยแซว เขาพอจะรู้อยู่แล้วว่าบัดดี้ของทงเฮคือฮยอกแจ ก็ทั้งเขา อีจุนและคยูฮยอนไม่ได้เป็นคนซื้อชอคโกแลตนั่นให้ร่างบาง.. งั้นทงเฮเนี่ยแหละชัวร์!
‘ไม่ได้ซื้อ’ ร่างโปร่งตอบเสียงเรียบ
‘อ้าวเห้ย แล้วให้อะไรอ่ะ? กูว่ามึงแห้วแล้วฮยอกแจ’ ประโยคหลังหันมาพูดกับร่างบางที่ยืนอยู่ข้างซองมิน
‘พูดมากนะมึง เงียบๆไปเลย’ กีกวังเงียบทันทีเมื่อเจอทงเฮโหมดโหด คงกำลังหงุดหงิดอะไรอยู่แน่ๆ
จังหวะนั้นคยูฮยอนก็เดินออกมาจากโรงเรียนพอดี
‘โทษทีว่ะ สีกูแม่งดราม่ากันเลยออกมาช้า’ ทุกคนพยักหน้ารับเป็นเชิงเข้าใจก่อนจะเดินไปเรียกรถแท๊กซี่
‘ฮยอกแจ’ ร่างบางหันมาตามเสียงเรียกของคยูฮยอนที่เดินตามหลัง
‘เป็นไรป่าววะ? หน้ามึงดูไม่ค่อยดี’ ถามไปอย่างนั้น แต่เขาก็รู้อยู่แล้วว่าฮยอกแจเป็นอะไร ซองมินเล่าให้เขาฟังเรื่องที่ทงเฮไม่พูดกับฮยอกแจทั้งวัน ถึงแม้ทงเฮจะคุยกับเขาปกติก็เถอะพอเห็นฮยอกแจเป็นแบบนี้ก็อดไม่สบายใจไม่ได้
‘อ่อ ไม่หนิ สงสัยเครียดเรื่องกีฬาสีน่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า’ หัวเราะเสียงใสแสร้งให้คยูฮยอนสบายใจ
สองคนที่ไม่พูดอะไร... แต่ก็รับรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังรู้สึกแย่ไม่ต่างกัน รู้สึกแย่ที่ความรู้สึกของเขาสองคนทำให้เพื่อนคนนึงต้องเสียใจ
คยูฮยอนเดินมายืนข้างกันก่อนจะขยี้หัวร่างบางเหมือนที่ชอบทำเวลาอีกคนไม่สบายใจ
‘เลวมาก! มึงเลวมากอ่ะซองมิน เป็นบัดดี้ที่เลวที่สุดเลย’ เสียงอีจุนโวยวายหลังจากรู้ว่าซองมินคือบัดดี้ทีเขาก่นด่าอยู่ทุกวัน
‘ไรวะ กูคนเดียวซะที่ไหนละ คยูฮยอนมันก็ไม่ได้ให้อะไรกูเหมือนกันแหละ’ ร่างอวบแย้ง
‘กูก็เห็นมีแค่ฮยอกแจคนเดียวที่ได้ของจากทงเฮอ่ะ เชดดดดด สเปเชี่ยลสัดอ่ะ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า’ ซองมินตบหัวกีกวังทำโทษที่พูดอะไรไม่เข้ากับสถาการณ์
คนที่ถูกกล่าวถึงสองคนต่างนิ่งเงียบ ....
‘กูว่าไปซื้อตั๋วเหอะ จะได้รีบๆดู’ คยูฮยอนตัดบทสนทนาเดินไปไปซื้อตั๋วหนังทันที คนอื่นๆต่างทยอยเดินตามจะมีก็แต่ฮยอกแจที่ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
ทงเฮไม่พูดกับเขาสักคำ.. อะไรที่เลี่ยงได้ทงเฮจะเลี่ยงไม่พูดไม่คุยไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับเขาหมด...
อยากกลับบ้าน.. ไม่อยากเจอหน้าใครแล้วในตอนนี้
‘ทนหน่อยนะ.. เดี๋ยวมันทำใจได้ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมเองแหละ’ ซองมินที่ไม่เห็นร่างบางอยู่ในกลุ่มจึงเดินมาตาม
‘...ไม่อยากทนแล้ว กู... แบกรับอะไรแบบนี้ไม่ไหวหรอกนะ’ น้ำตาที่คลออยู่ในดวงตาเรียวเป็นเครื่องพิสูจน์อย่างดีว่าฮยอกแจก็เจ็บไม่ต่างจากทงเฮ.. และคยูฮยอน
‘ไม่ใช่มึงที่แบกรับคนเดียวหรอก ไอคยูฮยอนมันก็เจ็บไม่ต่างกัน แต่เรื่องแบบนี้ก็โทษใครไม่ได้หรอก’ ร่างอวบบีบไหล่บางอย่างให้กำลังใจ ฮยอกแจพยักหน้ารับน้อยๆก่อนจะเดินตามซองมินไป
สองชั่วโมงครึ่งผ่านไปกับการดูหนัง แต่เรื่องราวในหนังไม่ได้เขามาในโสตประสาทของฮยอกแจเลยแม้แต่น้อย ร่างบางให้ของขวัญบัดดี้กับคยูฮยอนตั้งแต่อยู่ในโรงหนังเพราะไม่อยากให้ทงเฮเห็นภาพอะไรก็ตามที่เขาอยู่กับคยูฮยอน มันคงสร้างความเจ็บปวดและเพิ่มความอึดอัดไม่น้อย
‘แยกกันกลับเลยละกัน พรุ่งนี้ค่อยเจอกันกูง่วงละ หนังแม่งยืดสัด’ อีจุนเปิดปากหาวพร้อมขยี้หัวไปด้วย
‘อือ ดีเหมือนกัน’ ฮยอกแจรีบเอ่ยสมทบเพราะเขาก็อยากเก็บบ้านเต็มทน
‘กลับบ้านดีๆละ’ ซองมินตบบ่าร่างบางอย่างให้กำลังใจ ฮยอกแจพยักหน้ารับก่อนจะเดินแยกออกมากับกีกวัง
‘มึงเป็นอะไรหรือเปล่าวะ? กูว่าวันนี้มึงกับทงเฮดูแปลกๆนะ’ กีกวังเอ่ยถามขณะเดินมาขึ้นแท๊กซี่หน้าห้าง
‘
. เปล่าหนิ’
‘กูก็เพื่อนพวกมึงนะ ทำไมมีอะไรไม่เคยบอกกันเลยวะ ดูเหมือนกูกับอีจุนจะไม่รู้เรื่องอะไรของพวกมึงเลยนะ’ ร่ายยาวอย่างน้อยใจ สี่คนนี้ทำเหมือนมีความลับกันตลอดเวลาโดยที่เขาสองคนไม่เคยรับรู้ด้วยเลย
‘ไม่ใช่อย่างนั้นนะ... เฮ้อ..’ ถอนหายใจอย่างไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี เรื่องมันเยอะซะจนเริ่มไม่ถูก
‘พวกมึงคิดว่าทงเฮชอบกูใช่มั้ย?... ใช่มันชอบกู’
‘งั้นก็ดีดิ! มึงกับมันก็เหมาะกันดีออก’ กีกวังกล่าวอย่างดีใจ
‘จะคบกันได้ยังไง ... ในเมื่อคนที่กูชอบไม่ใช่ทงเฮ’
‘
.’
‘กูชอบคยูฮยอน’
‘ห..ห๊า... แสดงว่าที่วันนี้ทงเฮมันไม่ค่อยเล่นกันมึงเพราะมันรู้แล้วสินะ’ ฮยอกแจพยักหน้ารับ สีหน้าที่แย่ขึ้นของฮยอกแจทำให้กีกวังต้องดึงเข้ามากอดปลอบ..
‘ฮึก... กู... ไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเลย... ฮือ’ ฮยอกแจเองก็กอดตอบกีกวังแน่นอย่างหาที่พึ่ง
‘ทงเฮ.. ฮึก ไม่มองหน้ากูเลยอ่ะมึง ฮืออ .. มันเกลียดกูแล้ว.. ฮึก’
‘มันจะเกลียดคนที่มันรักได้ยังไงฮยอกแจ’ ลูบหัวคนในอ้อมกอดไปด้วย ฮยอกแจส่ายหน้าไปมาเหมือนไม่เห็นด้วยกับกีกวัง
‘พอๆ เลิกร้องได้แล้ว หน้าตายิ่งดูไม่ได้ยิ่งกว่าเดิม ไม่รู้ทงเฮมันมารักมึงได้ยังไงว่ะ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า’ ถูกคนในอ้อมกอดผลักออกหลังจากพูดจาไม่น่าฟัง
‘เออ ว่าแต่คยูฮยอนมันชอบมึงป่ะวะ?’
‘ไม่รู้! อยากรู้ก็ไปถามมันเองสิ’ ยู่ปากใส่อย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะเดินนำขึ้นแท๊กซี่
หลังจากกลับถึงบ้านฮยอกแจก็ตรงดิ่งขึ้นห้องตัวเองทันที ถ้าพ่อกับแม่เห็นหน้าตาเขาตอนนี้ต้องรู้แน่ๆว่าร้องไห้มา เปิดคอมฯ ออนเอ็มเพื่อคุยกับซองมินโดยเฉพาะ แต่คนที่ทักมาดันเป็นคยูฮยอนคนแรกเลยนี่สิแถมมาแบบเปิดกล้องซะด้วย
‘เปิดกล้องทำเชี่ยไร?’ พิมพ์ด่าไปแต่หน้าก็ยังยิ้ม..
‘จะโชว์ให้ดูไง’ อีกคนก็พิมพ์กลับมาอย่างรวดเร็ว
‘โชว์เชี่ยไร?! มึงโรคจิตหรอห๊ะ!’ โชคดีที่ฮยอกแจไม่ได้เปิดกล้องด้วย ไม่อย่างนั้นคยูฮยอนคงขำหน้าตาเขาตอนนี้น่าดู
‘55555555555555 แค่จะโชว์นี่อ่ะโรคจิตหรอ?’
ภาพร่างสูงที่อยู่ในหน้าจอคอมฯกำลังแกะกระดุมเสื้อนักเรียนสองเม็ดบนทำให้ฮยอกแจเบิกตากว้าง แต่สิ่งที่ได้เห็นก็ทำให้ยิ้มออกมา
สร้อยคอที่เขาให้คยูฮยอนไปวันนี้....
‘ทำตามสัญญาแล้วนะ’ ฮยอกแจจะไม่เขินมากขนาดนี้เลย ถ้าคยูฮยอนไม่ได้ยิ้มแป้นอยู่ในตอนนี้
‘โว๊ะ ใครเขาอยากเห็นล่ะ’
‘สัญญาว่าจะใส่ตลอดเวลา ไม่เห็นวันไหนให้มึงเตะเลย’
‘อือ..’
‘อย่าเครียดอะไรมาก เดี๋ยวก็ผ่านไปเอง’ ฮยอกแจยิ้มออกมากับประโยคนี้
จนถึงตอนนี้เขาสองคนก็ยังไม่เคยสารภาพกันเลยว่ารู้สึกยังไงต่อกัน ฮยอกแจรู้ความรู้สึกของคยูฮยอนเพราะซองมินบอก คยูฮยอนเองก็คงรู้จากซองมินเช่นกัน
แต่คำพูดก็ไม่สำคัญเท่าการกระทำของคนสองคนไม่ใช่หรอ?
ฮยอกแจรู้ว่าคยูฮยอนก็เครียดไม่ต่างกัน เพียงแต่แสดงออกมาในด้านตรงกันข้ามเพื่อให้เขาและคนรอบข้างไม่รู้สึกแย่ไปกว่านี้ บางทีเรื่องแย่ๆก็ทำให้เราพบเจอกับสิ่งดีๆเหมือนกันนะ...
เย็นวันนี้ฮยอกแจต้องกลับบ้านเพียงลำพัง เพราะแต่ละสีเริ่มซ้อมกันอย่างจริงจัง กีกวังและทงเฮต้องอยู่ซ้อมฟุตบอลกันจนดึก ซองมินและอีจุนก็ต้องไปซื้อของเพื่อตกแต่งสแตนเชียร์ของสีตัวเอง คยูฮยอนต้องซ้อมเชียร์ลีดเดอร์ที่ถูกบังคับให้เป็น จะมีก็แต่ฮยอกแจที่วันนี้มีหน้าที่เพียงแค่ประชุมสรุปสีแดงก็เท่านั้น
‘ไอแห้ง!’ เสียงตะโกนจากบนตึกเรียกความสนใจจากร่างบางที่กำลังเดินเลาะสนามฟุตบอลเพื่อกลับบ้าน
‘เรียกทำเชี่ยไร?’
‘กลับบ้านคนเดียวหรอ?’ คยูฮยอนยังคงตะโกนถามอย่างไม่กลัวว่าจะโดนอาจารย์ด่า
‘เออดิ พวกมันติดภารกิจกันหมดเลยหนิ’
‘รออยู่ตรงนั้นแหละ อย่าพึ่งไปไหน’ พูดจบก็วิ่งหายไปจากบานหน้าต่างที่ใช้ตะโกนหาเขาอยู่เมื้อกี้
‘ไม่ซ้อมลีดฯหรอ?’ เลิกคิ้วถามคนที่พึ่งวิ่งลงมาจากตึกเรียน
‘ซ้อมดิ แต่เดี๋ยวเดินไปส่งเด็กน้อยขึ้นรถกลับบ้านก่อน กลัวหลง’ คยูฮยอนกอดคอลากฮยอกแจเดินไปตามทางข้างสนามบอล
โชคดีที่ทงเฮไม่อยู่ตอนนี้....
‘เด็กน้อยบ้าไร ปล่อยกูแล้วมึงก็ไปซ้อมเลยอย่าอู้’
‘อย่าทำตัวเป็นยูริสองได้ป่ะ แค่กูฟังมันบ่นทุกเย็นก็เบื่อจะตายละ ขอพักบ้างเหอะ’
ควอนยูริ.. เพื่อนร่วมห้องของคยูฮยอนตัวแม่ที่มาบังคับให้ร่างสูงไปเป็นเชียร์ลีดเดอร์ แถมเวลาซ้อมยังโหดมากๆ คยูฮยอนมาบ่นให้ฟังทุกวัน
‘กูเดินไปคนเดียวได้นะ สถานีรถไฟ้ตั้งไกล มึงไปนั่งพักซื้อน้ำมากินเถอะ’ ระยะทางจากโรงเรียนไปรถไฟ้ใต้ดินไม่ใช่ใกล้ๆ กว่าจะเดินกลับมาคยูฮยอนคงโดนยูริสวดยับแน่ๆ
‘ก็บอกแล้วว่าเดี๋ยวเด็กน้อยอย่างมึงหลงทาง ถ้าไม่อยากให้กูโดนยูริด่าก็อย่าขัดแล้วรีบเดินครับไอแห้ง’ ฮยอกแจพยักหน้ารับแล้วยอมเดินไปด้วยกันในที่สุด..
___________________________
ขอโทษที่หายไปนาน
555555555555555555555555
ขอบคุณที่ยังเข้ามาดูฟิคเรื่องนี้กันอยู่นะคะ (^^)
ตอนนี้ไม่ค่อยมีอะไรฟินเลยอ่ะ.. *sorry*
ตอนหน้าจบแล้ว~
Bonus
nu
eng
ความคิดเห็น