คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Fic TonJames ตอนพิเศษ Just brothers 2/2
ประกาศ !! ขอเตือนก่อนว่ามี NC เบาๆๆๆๆ นะคะ เตือนไว้ก่อนเผื่อคนไม่ชอบนะคะ
นี่เป็นfic ที่กาน้ำรับดำเนินการต่อจากท่านRINA แห่งสตูฯนะคะ
คือเอามารีไรท์ใหม่และจะแต่งต่อ สำนวนภาษาอาจจะดูงงๆบ้างก็ไม่ต้องแปลกใจนะคะ
ซึ่งจะมีแค่สองตอนค่ะ
Fic นี้เป็นเพียงจินตนาการส่วนตัวของผู้แต่ง
ไม่ได้อิงชีวิตจริงแต่อย่างใด
ใช้เพื่อความบันเทิงเท่านั้นนะคะ
ถ้าไม่ชอบกรุณาปิดไปนะคะ เราไม่ตีกะใคร ขอบคุณค่ะ
......
อยากให้มองเป็นผลงานการเขียนเรื่องหนึ่ง เป็นเพียงบทละคร ไม่ควรนำมาเกี่ยวข้องกับชีวิตจริงแต่อย่างใด
......
Fic TonJames ตอนพิเศษ Just brothers.2/2
Type: AU PG-15 และ NC-20บางตอน
เขียนขึ้นโดยจินตนาการล้วนๆ ไม่ได้มีพื้นฐานมาจากเรื่องจริงแต่อย่างใด จะคงไว้แค่เพียงหน้าตาตัวละคร และอาจจะเป็นลักษณะนิสัยเล็กๆน้อยๆ ใช้เพื่อความบันเทิงเท่านั้นนะคะ
....ความรักเป็นสิ่งสวยงาม
ที่เกิดขึ้นจากคนสองคน
แต่ความรักที่มีคำว่าพี่น้องกั้น
มันทรมานเหมือนดั่งไฟแผดเผาตัวเอง...
…………………………………………………..
...........
“...อย่าทำอย่างนี้ไม่ว่ากับใคร เข้าใจไหม หากไม่รักไม่ต้องไปทำแบบนี้ให้ใคร...” เสียงพี่คชาฮัมเพลงอย่างคนอารมณ์ดีขณะที่เดินผ่านผม ผมจะไม่รู้สึกอะไรเลยถ้าพี่คชาไม่เหลือบมองผมด้วยสายตารู้ทัน การโดนมองแบบนั้นมันจุดอารมณ์หงุดหงิดของผมขึ้นมาได้พอสมควร
ตอนนี้ทุกคนในบ้านกำลังจัดการกับมื้อเย็นสุดอร่อยอยู่ ยกเว้นผมที่นั่งเหม่ออยู่ริมสระ ผมบอกทุกคนที่มไม่ร่วมวงกินข้าวด้วยเหตุผลง่ายๆว่า ...เจมส์ลดน้ำหนัก...
ผมก็อยากลดน้ำหนักนะ แต่มันไม่จำเป็นถึงกับว่าต่องไม่กินข้าวหรอก ที่จริงแล้วผมตั้งใจจะหลบหน้าพี่ต้นตาหาก หลังจากเรื่องที่ผมทำไป ไม่ใช่ผมคนเดียวที่หลบหน้า พี่ต้นเองก็หลบหน้าผมเหมือนกัน
เดินสวนกัน แม้แต่หน้ายังไม่มอง...
แล้วมันก็เป็นเหมือนเดิมเวลาเรางอนกันโกรธกัน พี่ต้นก็ไปอยู่กับพี่คชา ส่วนผมก็คุยเล่นกับเฟรม มันเป็นแบบนี้เสมอ ยิ่งคนเหลือน้อยลง เพื่อนๆในบ้านยิ่งรู้สึกได้เร็วว่าผมกับพี่ต้นไม่เหมือนเดิม
........
.................
จริงๆแล้ว
มันไม่เคยมีอะไรเหมือนเดิม
ไม่ใช่พี่ต้นหรอกที่เปลี่ยนไป พี่ต้นไม่ได้เปลี่ยน ยังคงเป็นพี่ชายคนเก่ง พี่ต้นคนขยัน ยังคงเป็นคนที่ดูแลผมมากกว่าใครๆ เป็นคนที่ใส่ใจผมมากกว่าใคร เป็นคนที่หวังดีกับผมมากกว่าใคร และเป็นคนที่ยอมผมมากกว่าใคร
แต่เป็นผมต่างหาก ผมเองที่เปลี่ยนไป ความรู้สึกที่มีให้พี่ต้นไม่เคยเหมือนเดิม มันมีแต่จะมากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้น
ผมไม่ชอบใจเวลาที่พี่ต้นบอกว่าฝันดีกับพี่เต๋า ผมไม่ชอบใจทุกครั้งที่พี่ต้นเข้าไปคุยกับพี่คชา ผมไม่ชอบที่พี่ต้นสนใจใครที่ไม่ใช่ผม
ผมเองต่างหาก เป็นผมเองจริงๆ... ที่เปลี่ยนไป ....นั่นสิ แล้วอะไรล่ะที่เปลี่ยนไป...
................
ผมอดที่จะเอามือลูบปากตัวเองไม่ได้เมื่อนึกถึงความหวานของรสสัมผัสจากริมฝีปากนุ่มนิ่มและลิ้นเรียวนั้น มันยังติดปลายลิ้นแต่ฝังแน่นในใจผม
ใช่ว่าผมจะไม่เคยมีแฟน.. ใช่ว่าผมจะไม่เคยจูบผู้หญิง แต่.. ครั้งนี้มันต่างออกไป แตกต่างทั้งความรู้สึกที่มีให้ แตกต่างทั้งความรู้สึกที่ได้รับ
...ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมทำแบบนั้นกับพี่ต้น
ไม่สิ.. จริงๆผมรู้ แต่ผมแค่ไม่กล้ายอมรับ
ผมพยายามคิดว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นเพราะธรรมชาติของร่างกายเท่านั้น แต่ธรรมชาติบ้าบออะไรที่ทำให้ใจผมสั่นไหวทุกครั้งที่พี่ต้นเข้ามาใกล้ ธรรมชาติบ้าบออะไรที่ทำให้ในหัวผมมีแต่เรื่องของพี่ต้นตลอดเวลา ธรรมชาติบ้าบออะไรที่ทำให้ผมเจ็บทุกครั้งเมื่อพี่ต้นพูดคำว่าพี่น้อง ...ใช่แล้วล่ะ ที่ผมเป็นอยู่มันไม่ใช่เรื่องของธรรมชาติแน่นอน
มีหลายคนเคยพูดไว้ว่า หลอกใครหลอกได้ หลอกใจตัวเองมันยาก ผมเห็นด้วยกับคำพูดนี้
ใช่...ใจผมรู้สึกกับพี่ต้นมากไปกว่านั้น...มากกว่าคำว่า พี่น้อง...
ถึงผมไม่รู้ว่ามันมากกว่าแค่ไหน รู้แค่มันมากพอที่จะอยากกอด อยากสัมผัสริมฝีปากนั้น อยากจะกลืนกินร่างบางๆนั้นให้หายเข้าไปในตัวผม มันมากพอที่จะทำอะไรเลวๆเพื่อทำลายไอ้กำแพงคำว่าพี่น้อง
..............
....
“เจมส์” เสียงพี่แพรวดังขึ้นดึงผมออกจากโลกส่วนตัว
“อ้าว กินข้าวเสร็จแล้วเหรอพี่” ผมปั้นเสียงสดใส ผมไม่อยากให้คนอื่นต้องมานั่งนอยด์ไปกับผม
“กินเสร็จแล้ว เจมส์จะเก็บอะไรไว้กินรึเปล่า” ต้องขอบคุณพี่แพรวจริงๆที่ดูแลผมตอนที่ต้นไม่ดูแล
“ไม่คร๊าบบบบบบบบ ขอบคุณครับพี่แพรว” ผมแกล้งลากเสียงคำว่าครับยาวๆ พร้อมกับยิ้มทะเล้นให้กับสาวห้าวเพียงคนเดียวในบ้าน
“ยังจะเล่นอยู่อีกหมี” พี่แพรวบ่นเบาๆ ใช้มือลูบหัวผมพร้อมกับทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ผมรู้ว่าพี่แพรวมาหาผมด้วยเรื่องอะไร ผมว่าพี่แพรวดูออก อาจจะดูผมกับพี่ต้นออกมากกว่าที่ผมกับพี่ต้นดูตัวเองอีก
“งอนอะไรกันอีกล่ะ” พี่แพรวถามถึงผมกับพี่ต้น พี่สาวผมคนนี้คงจะเป็นห่วงเราสองคนจริงๆ
“ไม่ได้งอน” ผมตอบความจริงกลับไป เพราะเราไม่ได้งอนกันจริงๆ
“แล้วต้นเป็นอะไร” นั้นซิ พี่ต้นเป็นอะไร ถึงได้หลบหน้าหลบตา นิ่งเฉยแบบนี้ คงจะโกรธผมอยู่แน่ๆ
“....”
“พี่ก็ไม่อยากยุ่งหรอกนะ แต่..” ผมสบตากับพี่แพรว ผมเห็นความกังวลและอึดอัดของพี่เขา อย่างที่ผมบอกไป ผมรู้ว่าพี่แพรวเข้าใจผมกับพี่ต้นมากกว่าที่ผมกับพี่ต้นเข้าใจตัวเองซะอีก
“เอาเถอะ พี่จะบอกเจมส์ไว้...พี่ต้นไม่ได้โกรธเจมส์หรอก” ผมตั้งใจฟังทุกคำที่พี่แพรวต้องการจะสื่อ
“แต่พี่ต้นเขาเสียใจ...เอาเหอะ มีไรก็คุยๆกันซะ พี่น้องไม่ทะเลาะกันนะ” พี่แพรวตบบ่าของผมก่อนจะเดินผละไป
พี่น้อง คำนี้อีกแล้ว.. ผมชักจะเริ่มเกลียดคำนี้ซะแล้วซิ
.....................
............
บรรยากาศในบ้านอึดอัดจนทุกคนรู้สึกได้ การเข้าคลาสเรียนทำให้ผมกับพี่ต้นไม่ต้องเผชิญหน้ากันมากนัก แต่ตาบวมๆของพี่ต้นกับหน้านิ่งๆของผมก็มากพอที่จะบอกถึงอารมณ์ทะเลาะกัน
“ต้น” ผมเรียกชื่อคนที่กำลังชงโกโก้ดื่มก่อนขึ้นนอน
“....” มือที่กำลังคนแก้วกาแฟชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินเสียงของผม ผมรู้ว่าพี่ต้นไม่ได้ใส่ไวเลสเพราะกำลังจะขึ้นนอน ส่วนผมเองก็จงใจที่จะไม่ใส่
“ผม...ตั้งใจนะ” ผมสบตากับคนตัวเล็ก ผมเห็นความสับสน ความไม่เข้าใจในดวงตาคู่นั้น
“ทุกอย่าง...ทุกการกระทำ” ผมกระซิบกับพี่ต้นก่อนจะเดินไปขึ้นห้องนอนไป
ผมเป็นคนพูดมากก็จริง แต่ไม่ใช่กับเรื่องความรัก
ผมไม่กลัวที่จะรัก ไม่กลัวที่จะถูกรัก ต่างจากคนที่เรียกตัวเองว่าพี่ พี่ต้นกลัวที่จะรักและถูกรัก
ผมไม่รู้หรอกว่าพี่ต้นเจอเรื่องอะไรมา แต่มันไม่ได้สำคัญกับผมเท่าไหร่ เพราะผมมั่นใจว่าถ้าเราได้รักกัน ผมจะรักพี่ต้นตลอดไปไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
.....................
..........
ผมสวดมนตร์ได้ยังไม่ทันจบบทผมรู้สึกได้ถึงแรงสั่นไหวจากเตียงข้างตัว พี่ต้นขึ้นมานอนแล้ว ผมเข้าใจได้ทันทีว่าเขาต้องการคุยกับผมสองต่อสอง ไม่อย่างงั้นคงนั่งชิวกินโกโก้อยู่ข้างล่างยังไม่ขึ้นมาเร็วแบบนี้หรอก ผมสวดมนตร์ต่อไปคนตัวเล็กข้างๆก็ทาครีมไปตามปกติ เราพยายามทำอะไรนิ่งๆนานๆซ้ำๆ เพราะอยากให้กล้องตัดไปที่อื่น ผมได้ยินเสียงวงโคตรหล่อจากห้องว๊อยซ์ ซึ่งมั่นใจว่ากล้องต้องตัดไปแน่นอน
ผมรีบล้มตัวลงนอนโดยไม่ลืมที่นะดึงคนตัวเล็กที่แกล้งทาครีมไปเรื่อยๆ ให้ล้มตัวลงมานอนข้างกันพร้อมกับโยนผ้าห่มออกคลุมตัวเราทั้งคู่ให้มิชิดตั้งแต่หัวจรดเท้า
“พี่ต้น...” ผมเรียกคนข้างกาย เขาไม่ยอมมองสบตาผม
“พี่ต้นครับ” ผมเรียกเขาอีกครั้ง มือวางลงบนตัวบางๆนั่นแล้วดึงตัวเขาเข้ามาใกล้ พี่ต้นยังไม่ยอมสบตาผมแต่อย่างน้อยก็ไม่สบัดตัวหนี
“พี่ต้น...เรามาคุยกันดีๆได้มั๊ย...” คนขี้เหวี่ยงยังคงเงียบ เหมือนไม่ได้ยินเสียงผม ตัวผมไม่ใช่คนใจเย็นนักในเมื่อผมตั้งหลักจะพูดด้วยดีๆแล้วยังจะมาทำนิ่งใส่ งั้นก็ไม่จำเป็นต้องพูดกันดีๆแล้วล่ะ
..........................................
............................................ NC เบาๆ
http://www.4shared.com/document/HfGfSZhV/SP-Fic-Rewrite2.html...............................
.................................จบNC
...............................
“..อึก..ฮือ..ฮือ..” เสียงสะอื้นดังมาจากคนขี้เหวี่ยง พี่ต้นกำลังร้องไห้ ถึงจะไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟายแต่ก็มีน้ำตาไหลลงมาให้เห็นตลอดเวลา ผมขยับตัวเข้าหาใช้ริมฝีปากจูบซับน้ำตาให้
“..ฮือ...เจมส์...อย่าทำแบบนี้...” พี่ต้นกระซิกบอกผม เจ้าตัวยังคงร้องไห้เบาๆ ถามว่าผมสงสารมั๊ย ถามว่าผมเจ็บมั๊ย ที่เห็นคนตัวเล็กร้องไห้ ..โคตรเจ็บ..แต่จะให้ผมทำยังไงในเมื่อผมต้องการจะกระชากความสัมพันธ์แบบพี่น้องออกซะที ต่อให้ต้องทำให้เราสองคนเจ็บปวดมากแค่ไหนผมก็จะทำ เราจะได้หลุดออกจากคำว่าพี่น้องบ้าบอนี่ซะที
“...เจมส์..พี่น้อง..เขาไม่ทำกันแบบนี้นะ” พี่ต้นมองผมด้วยสายตาเว้าวอน เหมือนต้องการให้ผมหยุดแกล้งเขาได้แล้ว
“ผมไม่ได้ทำ เพราะเป็นพี่น้อง...แต่ผมทำ...เพราะผมไม่อยากเป็นพี่น้อง...” ผมเห็นสายตาของความไม่เข้าใจส่งมาให้ผม
“พี่จะบ้าหรอไงเนี่ย...แค่นี้ก็ไม่เข้าใจ” ผมเหวี่ยงใส่คนตัวเล็ก ยอมรับว่าอารมณ์เสียขึ้นมาเบาๆ ทีเรื่องอื่นล่ะฉลาดทีเรื่องแบบนี้ทำเป็น...ไม่เข้าใจ
“อ้าว...ไอ้เด็กบ้า...มาทำคนอื่นเขาแบบนี้แล้วยังจะมาเหวี่ยงใส่” พี่ต้นเหวี่ยงผมกลับ เจ้าตัวดูจะน้อยใจที่ผมไปเหวี่ยงใส่ เอาเถอะ เห็นว่าวันนี้ผมทำร้ายกาจเกินไปจริงๆจะยอมๆสักวันล่ะกัน
“พี่ต้น...ผมขอโทษ” ดูคนขี้เหวี่ยงจะพอใจที่ผมขอโทษ เพราะเขากลับมามองหน้าผมตรงๆแล้ว
“เจมส์ไม่อยากเป็นพี่น้องกับพี่ต้นแล้วอ่ะ” ผมพูดไปด้วยจัดการจัดเสื้อผ้าคนตัวเล็กให้เข้าที่เข้าทาง เสียงดนตรีจากห้องวอยซ์เงียบไปซะพักแล้ว เดี๋ยวพวกโคตรหล่อขึ้นมาจะสงสัยได้ ผมเปิดผ้านวมที่เราคลุมอยู่ออกนิดๆ
“แล้วเจมส์อยากเป็นอะไรล่ะ” เหมือนจะถามกวนๆ แต่ผมรู้ว่าพี่เขาอยากรู้จริงๆ มันสื่อออกมาจากแววตาที่ดูจะลุ้นกับคำตอบของผมอย่างที่สุด
“เจมส์อยากเป็นแฟนพี่ต้น...ได้มั๊ยครับ” ผมพูดจริงๆ ไม่ได้ทำเสียงล้อเล่นแบบทุกทีที่ผมใช้แหย่เขาเล่น
“ไม่รู้...ไม่บอก” อ้าว ไรเนี่ย พูดดีๆด้วยแล้วกวนกลับซะนี่ เดี๋ยวทำเหมือนเมื้อกี้อีกรอบซะเลยดีมั๊ย
“รอออกนอกบ้านก่อนแล้วจะบอก” คนตัวเล็กทิ้งท้ายไว้แล้วพลิกตัวหันหลังให้ผม เออ..คนเรา ตอบเลยไม่ได้หรอไงผมไม่ชอบการรอคอย
ผมว่าจะถามต่อแต่เสียงเปิดประตูห้องนอนดังขึ้นพร้อมกับขบวนโคตรหล่อเดินเข้าห้องนอนมา ผมจึงต้องเก็บคำถามไว้ ไม่เป็นไรเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าค่อยถามต่อก็ได้ แล้วถ้าพี่ต้นยังเล่นตัวไม่ตอบผมอีกล่ะก็ ผมจะลากเข้าห้องน้ำให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย คอยดูซิ
..............................................................................
จบแล้วจ้า กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
รู้สึกค้างคาใจกันชิมิล่ะ หุหุหุหุ
กาน้ำไม่ได้แกล้งนะคะ แต่ตกลงกับท่านรินะ ผู้เป็นต้นฉบับไว้แล้วว่า
จะจบแบบค้างคาให้ผู้อ่านเอาไปมโนเองนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ
ความคิดเห็น