คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : บทที่ 8 : อย่าให้ทุกอย่างสายเกินไป 100%
บทที่ 8 : อย่าให้ทุกอย่างสายเกินไป
ขอโทษที่รู้ว่ารักคุณเมื่อสายเกินไป
ถึงแม้ว่าจะอยู่กับคุณตรงนี้ ผมก็ไม่รู้อยู่ดีว่ากำลังมีความรัก
จนเมื่อคุณจากผมไปแล้ว ผมยังก็ไม่รู้อยู่ดีว่าผมเคยมีความรัก
แต่ตอนนี้ หัวใจของผมกำลังเจ็บเพราะคุณ
ผมเสียใจจริงๆที่รู้ตัวว่ารักคุณ
ช้าเกินไป
Cin-Taem
[ “ อาจารย์กับแทมิน เอ่อ
. ” ]
“ ฉันไม่มีอะไรเกินเลยกับเด็กนั่น นายไม่ต้องกังวล ”
[ “ แต่แทมินเขา
.. ” ]
“ อย่าห่วง หมอนั่นก็ไม่คิดอะไรกับฉันหรอก ทำไม หวงน้องชายรึไง ”
[ “ การที่ได้เจอแทมินอีกครั้ง ถึงแม้จะเป็นคนละคนกัน แต่ก็ถือเป็นโชคชะตาของพวกเรา ผมไม่อยากเสียแทมินไปอีกครั้ง ผมไม่อยากเห็นน้องชายร้องไห้เสียใจทุกคืน ผม
. ” ]
“ แล้วไง ”
[ “ เอ่อ
.ผมขอโทษที่ต้องพูดแบบนี้กับอาจารย์ แต่ว่า
.อย่าเจอแทมินอีกได้มั้ยครับ ” ]
“ แล้วทำไมฉันต้องเชื่อนายด้วยล่ะ ”
“ เอ๋??????
. ”
“ ถ้าฉันบอกว่าสนใจน้องชายคนใหม่ของนาย นายจะห้ามฉันได้อย่างนั้น???? ”
[ “ อาจารย์สนใจแทมินหรือครับ จริงจังหรือแค่ชั่วคราวกัน อาจารย์จะรู้มั้ยว่าน้องชายผมเสียใจแค่ไหน ตั้งแต่ครั้งที่พวกเราออกจากบ้านหลังนั้น ไม่มีคืนไหนที่แทมินจะไม่นอนร้องไห้ น้องชายที่ร่าเริงของผมกลายเป็นคนหมกตัว ถึงจะยิ้มมันก็แค่การฝืนใจ น้ำตานั่น หรือแม้แต่เสียงสะอื้นนั่น ผมไม่อยากได้ยินอีกแล้ว ถ้าอาจารย์คิดแค่เล่นๆกับแทมินล่ะก็ หยุดเถอะนะครับ ผมขอร้อง ” ]
“ แล้วนายคิดว่าฉันไม่รู้สึกอย่างนั้นหรือ นายคิดว่าฉันนอนหลับอย่างสบายใจในทุกๆคืน หัวเราะได้ในทุกๆวันหลังจากที่หมอนั่นจากไปใช่มั้ย ”
[ “ แต่แทมิน
.” ]
“ หยุดพูดเรื่องนี้สักทีเถอะ ฉันเองก็พยายามกันตัวเองให้ห่างจากเด็กนั่น แต่ยิ่งพยายามเท่าไร ก็ยิ่งล้มเหลวมากขึ้นเท่านั้น ”
[ “ อาจารย์????? ” ]
“ บางทีฉันอาจจะรักหมอนั่นขึ้นมาจริงๆแล้วก็ได้ ”
[ “ แต่แทมินคนนี้ ไม่ใช่คนเก่า เขาเป็นคนละคนกัน อาจารย์ไม่คิดหรือว่าทำแบบนี้มันเป็นการแทนที่ ” ]
“ ก็เพราะแบบนี้ไงล่ะ ฉันถึงต้องเจ็บปวดอยู่อย่างนี้ ”
“
.. ”
“ ไม่ใช่แค่พวกเราหรอกนะที่เจ็บปวด ไม่ใช่แค่ฉัน ไม่ใช่แค่นาย แต่น้องชายของนายในหัวใจของฉันกำลังร้องไห้ เขาร้องไห้ทุกครั้งที่ฉันทำไม่ดีกับหมอนั่น เราทุกคนเจ็บปวด เจ็บปวดกับความรัก
..ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกหรือ???? ”
[ “ อาจารย์????? ” ]
“ แต่ไม่ต้องห่วง จากนี้ไป ฉันจะพยายามไม่ไปเจอเด็กนั่นอีกแล้ว ”
[ “ อาจารย์????? ” ]
“ ขอโทษนะ ฉันคงคุยกับนายได้เท่านี้ ”
ตู๊ด ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
สิ้นเสียงสัญญาณฮยอกแจมองโทรศัพท์ในมือสักครู่ พร้อมกับรำพึงในใจ
“ ฉันคงไม่ได้ตัดสินใจอะไรผิดไปหรอกนะ ”
.
.
.
หนึ่งเดือนต่อมา
“ ผมไปก่อนนะฮะพี่ชาย ”
“ อื้ม
.รีบกลับนะ ”
“ ฮะ ” เด็กชายโค้งลาผู้เป็นพี่ก่อนจะรีบวิ่งออกไปทำงานพิเศษหลังเลิกเรียน งานแจกใบปลิวที่หลายคนคิดว่าหมูๆแต่มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเลยแม้แต่น้อย ผู้คนที่เดินผ่านไปมาบนทางเส้นทางแห่งนี้แม้จะมีมากมายหากแต่มีเพียงไม่กี่คนที่จะสนใจรับแจกใบปลิวร้านอาหารที่เพิ่งเปิดตัว หลายคนที่รับไปแต่ดูเพียงครู่แล้วยัดมันลงถังขยะ แทมินได้แต่ก้มหน้าเพราะไม่อาจไปต่อว่าได้
“ สามพันใบ เอาให้หมดก่อนหกโมงเย็นนะ ” เสียงทุ้มของผู้จัดการสาขาที่เอ่ยก่อนหน้านั้นทำเอาแทมินหน้าเสีย เพราะขณะนี้ก็ปาเข้าไปห้าโมงเย็นแล้ว เขายังแจกได้ไม่ถึงครึ่ง
“ เฮ้อ!!!! ทำไมไม่มีคนรับเลยนะ ” คนตัวเล็กบ่นอุบพร้อมเอามือซับเหงื่อบนใบหน้า ก่อนจะตกใจอย่างหนักเมื่อแหงนขึ้นมองท้องฟ้าที่มืดมิดด้วยเมฆหมอกอย่างรวดเร็วและไม่นานที่ลมพายุก็พัดมาโดยไม่ทันตั้งตัว แทมินรีบเก็บใบปลิวทั้งหมดเข้ากระเป๋าอย่างรวดเร็วแต่ก็ไม่ทันที่ฝนเทลงมาอย่างมืดฟ้ามัวดิน มือเรียวหอบกระเป๋าไว้เป็นอย่างดีด้วยเกรงว่าใบปลิวจะเปียกและเสียหาย
“ แย่แล้ว!!!! คุณยุนโฮฆ่าฉันตายแน่ ” สองเท้ารีบวิ่งเข้าไปหลบฝนยังคอนวีเนียนใกล้ๆแต่ที่ตรงนั้นก็ถูกหลายต่อหลายคนจับจอง จนเจ้าตัวต้องวิ่งไปหลบที่อื่น พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นร้านอาหารอิตาเลี่ยนฝั่งตรงข้าม ไม่รอช้าที่แทมินจะวิ่งข้ามไปโดยที่ไม่ทันได้สังเกตว่ามีรถวิ่งมาด้วยความเร็วสูงเช่นกัน
..
เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
โครม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ”
สิ้นเสียงเบรกรถและการปะทะกันเข้าอย่างจังของสิ่งสองสิ่ง เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ ช่วยด้วย!!!!!!!!!!!!! มีคนถูกรถชน ”
“ อ๊า ~ ทำไมเสียงดังกันจังนะ ” ร่างที่นอนแน่นิ่งได้แต่คิดในใจ เขาไม่ได้เจ็บปวดหากแต่ดวงตาเริ่มพร่าเลือน น้ำสีแดงข้นไหลออกมาจากศีรษะโดยที่เจ้าตัวไม่รู้สึก ใบปลิวยังคงลอยละล่องก่อนจะร่วงลงมากระจัดกระจายเต็มพื้น โลกทั้งใบเริ่มมืดลง แต่เสียงหนึ่งยังคงแจ่มชัดอยู่ในความทรงจำ
“ แทมิน แทมิน ”
“ นายอย่าเป็นอะไรนะ ”
“ ฉันไม่ให้นายเป็นอะไร ฟื้นสิ ฟื้น อย่าหลับนะ อย่าหลับ ห้ามหลับเด็ดขาด ”
“ เสียงเหมือนคุณเลยนะฮะ คุณ
ฮะ ”
LAST รักสุดท้ายที่ใจปรารถนา
Won-Kyu
“ อะไร???? ”
“ ไอศกรีมไง อยากกินไม่ใช่หรือ ”
“ ใครบอก ”
“ นายไง ”
“ ฉันไม่เคยบอก ”
“ นายละเมอคืนก่อน จำไม่ได้ล่ะสิ ”
“ จำได้เขาจะเรียกละเมอมั้ยล่ะ ”
“ แล้วไง จะกินมั้ย เดี๋ยวละลายหมดนะ ”
“ ฉันเพิ่งหายไข้ นายจะให้ฉันกินไอ้นี่ จนไข้ขึ้นตายไปเลยใช่มั้ย ”
“ ไม่ใช่สักหน่อย ”
“ ไม่ใช่อะไร รอให้ฉันตายแล้วจะหาแฟนใหม่ล่ะสิ ”
“ ไปกันใหญ่แล้ว ตกลงไม่กินใช่มั้ย ”
“ กิน ”
.
.
.
“ อะไรของนาย??? ” คยูฮยอนเหลือบตามองเมื่ออยู่ๆซีวอนก็ยื่นจอยสติ๊กให้แก่ตน
“ ก็เกมไง นายอยากเล่นไม่ใช่รึไง ”
“ เมื่อก่อนน่ะอยาก แต่ตอนนี้ไม่แล้ว ”
“ ทำไมล่ะ ”
“ แค่เห็นหน้านายมันก็เบื่อทุกสิ่งอย่างแล้วล่ะ ”
“ หน้าฉันมีอะไรติดอยู่รึไง ”
“ หยุดล้อเล่นได้แล้ว ชเวซีวอน เกิดอะไรขึ้น อยู่ๆมาทำดีกับฉันทำไมหรือจะแก้ตัวที่ทิ้งให้ฉันนอนหนาวปางตายอยู่กลางไร่ พอเจอฉันก็ดีแต่ด่าเอาๆ หยุดทำแบบนี้กับฉันได้แล้ว ”
“ ล้อเล่นที่ไหน ฉันจริงจังนะ ”
“ ก็แบบนี้ไงล้อเล่น พาฉันไปหาพ่อกับแม่ ซื้อไอติมให้กิน แถมยังอนุญาตให้เล่นเกมทั้งๆที่นายเอาแต่สั่งห้าม ”
“ ฉันแค่ทำตามสิ่งที่นายอยากได้ก็เท่านั้น ”
“ ฉันไปบอกนายเมื่อไรว่าอยากได้ ”
“ ก็ตอนที่นายเป็นไข้แล้วละเมออกมาไง ”
“ เชอะ!!!! ก็แล้วไง ให้ฉันหมดทุกอย่างรึยังล่ะ ”
“ อื้ม
.ให้แล้ว ทุกอย่าง ที่นายขอเลย ” ชายหนุ่มยิ้มที่มุมปาก ก่อนที่ภาพความทรงจำในคืนนั้นจะย้อนกลับคืนมาอีกครั้ง ภาพที่เขามั่นใจว่าคนตัวเล็กคงจำไม่ได้เป็นแน่
“ ละเมออกมาเป็นชุดเลยนะหมอนี่ ” ชายหนุ่มนั่งยิ้มอยู่ข้างๆเตียง
“ ซีวอน ”
“ คราวนี้อะไรอีกล่ะ ”
“ ฉันหนาว ”
“ หนาวหรือครับ ” มือหนากระชับผ้าห่มให้แนบกับลำตัวมากขึ้นก่อนที่ประโยคต่อมาของคนที่กำลังนอนเพ้อด้วยพิษไข้จะทำให้หัวใจของร่างสูงสั่นระรัวไม่เป็นจังหวะ
“ ฉันหนาว
..กอดฉัน
.ได้มั้ย ” ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะโต้ตอบ มือเรียวเล็กก็กุมมือของร่างสูงไว้แน่น ก่อนที่ซีวอนกุมมือตอบ แล้วโน้มตัวลงจุมพิตคนที่นอนละเมออย่างแผ่วเบา ความร้อนจากกายคนป่วยทำให้ชายหนุ่มก็รู้สึกร้อนขึ้นมาซะดื้อๆ จนเขาต้องผละตัวออกมา นี่ถ้าหากคยูฮยอนไม่นอนซมอยู่อย่างนี้ เขาคงอดใจไม่ไหวแน่ๆ มือหนากระซับผ้าห่มของร่างเพรียวไว้แน่นโดยที่มืออีกข้างยังคงกุมอยู่ด้วยกันเช่นนั้น ก่อนที่ร่างสูงจะทิ้งตัวลงนอนเคียงข้าง พร้อมกับโอบกอดคนป่วยที่หันศีรษะมาซุกแผงอกแกร่งของตนเหมือนลูกแมวตัวเล็กๆที่ไร้พิษสง ใบหน้าเปื้อนยิ้มของร่างบางที่ใกล้แค่ปลายนิ้ว ก็ทำเอาเขานอนไม่หลับตลอดคืนนั้นเลยก็ว่าได้
“ นี่ ยิ้มอะไรอยู่คนเดียว ” คยูฮยอนเหร่ตามอง
“ ยิ้มเพราะกำลังคิดถึงนายไง ”
“ อย่ามาเลี่ยน!!!!! จะไปไหนก็รีบไปเลยปะ ”
“ วันนี้ฉันต้องไปทำธุระที่โซลอีกแล้ว นายอยู่คนเดียวได้มั้ย ฉันจะรีบไปรีบกลับ ”
“ ไม่ต้องมาบอกฉันหรอก จะไปหาใครก็ไปเถอะ แต่ถ้าอยากเจอกันทุกวันก็ไม่ลองชวนเขามาอยู่บ้านด้วยเลยล่ะ ” คยูฮยอนเบ้ปาก
“ ฉันทำแบบนั้นได้จริงๆใช่มั้ย ” ชายหนุ่มยิ้มถาม
“ นี่!!!!! ถ้าอยากนักจะทำอะไรก็เชิญ ที่นี่มันบ้านของนาย ฉันกลับไปอยู่บ้านฉันก็ได้ ” ร่างเพรียวตะคอกเสียงแข็งพร้อมลุกขึ้นยืนมองใบหน้าคมตรงหน้าด้วยความฉุนเฉียวก่อนจะตั้งท่าวิ่งหนีไป แต่ซีวอนก็ลุกขึ้นคว้าเอวบางมาสวมกอดไว้ทันท่วงที
“ โกรธหรือ??? อย่าโกรธสิ แค่ล้อเล่นเองนะ ”
“ ไม่ต้องมาพูดดี ปล่อยได้แล้ว ” คนที่ถูกกอดสะบัดเองไปมา
“ ฉันมีธุระสำคัญ ไม่ได้จะไปพบผู้หญิงคนไหนสักหน่อย ”
“ ธุระอะไรของนาย ทำไมเดี๋ยวนี้มีธุระเยอะเหลือเกิน เดี๋ยวไปเดี๋ยวไป ”
“ เอ่อ
.เรื่องงานนั่นแหละ ไม่มีอะไรมากหรอก ”
“ ก็บอกแล้วไง นายจะทำอะไรก็ไม่ต้องบอกฉัน ปล่อยได้แล้ว ฉันจะขึ้นห้อง ”
“ ไม่บอกนายแล้วจะให้ฉันไปบอกใคร นายเป็นภรรยาฉันนะ ”
“ ก็แล้วไง พ่อบังคับให้ฉันแต่ง ฉันไม่ได้เต็มใจเลยสักนิด ” คยูฮยอนเอ่ยเสียงเรียบโดยที่ไม่ทันได้คิดว่าคำพูดนั้นจะทำร้ายอีกฝ่ายหรือไม่เพียงใด ซีวอนละออกจากเอวบางอย่างเชื่องช้า มองหน้าร่างบางนิ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาเสียงแผ่วเบา
“ นาย
.ขึ้นไปพักผ่อนเถอะนะ ” ร่างสูงเดินหันหลังออกไป คยูฮยอนมองด้วยความไม่เข้าใจ เขารู้สึกว่าไม่ควรพูดแบบนั้น ปากเรียวตั้งท่าจะเอ่ยขึ้น หากแต่ความทิฐิในใจก็ทำให้ร่างบางเดินกระแทกเท้าขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านด้วยความไม่พอใจเช่นกัน
“ ทำไมต้องทำเหมือนว่าฉันเป็นคนผิด นายต่างหากที่ผิด
แค่ง้อฉันมันยากนักรึไง ฉันใกล้จะใจอ่อนอยู่แล้วนะ ”
“ ใช่ว่าฉันคนเดียวซะเมื่อไรที่ไม่เต็มใจที่เราต้องแต่งงานกัน นายเองก็ไม่ชอบไม่ใช่รึไง
. แต่ไอ้นิสัยสุภาพบุรุษของนาย ทำให้นายไม่ปฏิเสธพ่อฉันใช่มั้ยล่ะ ”
“ แล้วทำไมต้องทำหน้าแย่ขนาดนั้นด้วย
. ทำแบบนี้กะจะโยนความผิดให้ฉันใช่มั้ยล่ะ เมินซะเถอะ ชเวซีวอน ฉันไม่ผิด นายต่างหากที่ผิด ” คยูฮยอนนั่งบ่นอุบอยู่บนเตียงก่อนที่เสียงรถของผู้เป็นสามีจะสตาร์ทออกไป
“ นี่ขนาดฉันกำลังงอนอยู่ นายก็ยังจะออกไปงั้นสิ
.. ใช่ซี่!!!! โซลมีอะไรหลายๆอย่างที่นายอยากเจอ อยากทำ อยากไปหา มันก็ไม่มีความจำเป็นที่นายจะต้องมาอยู่กับเด็กเอาแต่ใจอย่างฉันนี่ โอ๊ย!!!!!หงุดหงิดๆ น่าเบื่อชะมัด เฮ้อ!!!! ” ร่างบางถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะล้มตัวลงกับเตียง และเพียงไม่นานเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
RRRRRRRRRRRRRRRRRRrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr
“ ลืมอะไรอีกล่ะทีนี้ ”
[ “ ซีวอน
.. ” ] เสียงผู้เป็นมารดาของสามีดังขึ้นมาปลายสาย
“ คะ ครับ สวัสดีครับคุณแม่ ”
[ “ คยูฮยอนหรือลูก ซีวอนมาโซลหรือยัง ” ]
“ ครับ เพิ่งออกไปเมื่อสักครู่นี่เอง ”
[ “ ค่อยยังชั่วหน่อย นึกว่าจะผิดนัดอีกแล้ว ” ]
“ ผิดนัด???? ผิดนัดอะไรครับ ”
[ “ อะ เปล่าๆจ้ะ ไม่มีอะไร แค่นี้ก่อนนะจ๊ะ” ]
ตู๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
“ ผิดนัดเหรอ นัดอะไร เกี่ยวข้องกับที่หมอนั่นไปโซลบ่อยๆหรือเปล่านะ
.. หรือว่า หมอนั่น
. ”
LAST รักสุดท้ายที่ใจปรารถนา
Hyun-Hyuk
“ ถ้าเป็นไปได้
..” ฮยอนจุงเอ่ยเสียงเบา จนทำให้ร่างบางผิดสังเกต
“ หืม???? ”
“ ถึงนายจะเป็นลูกจ้างที่ทั้งโหด ทั้งเค็ม เถียงฉันคำไม่ตกฟาก แต่ฉันดีใจที่มีนายมาอยู่ข้างๆนะ ”
“
. ”
“ อย่าจากฉันไปไหน จนกว่าจะถึงตอนนั้นจะได้มั้ย ”
“ มะ หมายความว่ายังไง ”
“ จนกว่าจะถึงวันนั้น วันที่ฉันจะ
. ”
“ ทะ ทำไมนายเป็นอะไรฮยอนจุง ” ฮยอกแจถามด้วยน้ำเสียงสั่นเทา ร่างสูงหันมามองใบหน้าหวานเพียงครู่เดียวก่อนจะหันไปสนใจเส้นทางข้างหน้าดังเดิม
“ มีอะไรบอกฉันมาสิ ”
“ ไม่มีอะไรหรอก ”
“ ไม่จริง ทั้งสีหน้า แววตาและน้ำเสียงของนายไม่ได้บอกเลยนะว่านายล้อเล่น จอดรถเดี๋ยวนี้นะ อธิบายมา ว่านายเป็นอะไร ” ฮยอกแจเขย่าแขนหนาเป็นพัลวันจนชายหนุ่มต้องหยุดรถและหันมาจ้องใบหน้าหวานอีกครั้ง
“ ฉันน่ะ
. ” ฮยอนจุงเอ่ยขึ้น
“
. ”
“ ฉันอยากให้นายอยู่กับฉันจนกว่า
. ” มือเรียวเอื้อมไปแตะไหล่คนตรงหน้า ไหล่บางที่สั่นสะท้านมากขึ้นกว่าเดิม ยิ่งชายหนุ่มมีใบหน้าหม่นหมองลงเท่าไร ฮยอกแจก็ยิ่งสั่นสะท้านมากขึ้นเท่านั้น ร่างบางตั้งใจฟังสิ่งที่จะหลุดออกจากปากของชายหนุ่มด้วยความตั้งใจ และภาวนาอยู่ในใจไม่ให้สิ่งที่กำลังจะได้ยินนั้นพรากใครต่อใครไปจากเขาอีกเลย
“
. ”
“ จนกว่าจะถึงวันนั้น
.วันที่ฉันเบื่อนาย ฮ่าๆๆๆๆๆ ” พูดจบก็ก้มหน้าหัวเราะด้วยความพอใจที่หลอกให้อีกคนหน้าซีดเป็นไก่ต้มเช่นนั้นได้ ผิดกับอีกคนที่นั่งนิ่ง มือเรียวสั่นนิดๆก่อนจะค่อยๆเปิดประตูรถแล้วเดินออกไป
“ ฮยอกแจ???? ” ร่างสูงเดินลงจากรถอย่างรวดเร็วก่อนจะวิ่งมาคว้าข้อมือเรียวไว้แน่น
“ สนุกมากมั้ย ???? ” คนตัวเล็กถามเสียงเรียบ
“ นายโกรธหรือ???? ฉันแค่ล้อนายเล่นนิดเดียวเท่านั้นนะ ”
“ ล้อเล่น??? นายคงชอบล้อเล่นกับความรู้สึกของคนอื่นอย่างนี้เสมอสินะ ”
“ ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันแค่ไม่อยากให้นายเครียดก็เท่านั้น ”
“ แล้วตอนนี้ฉันดูเป็นไงบ้างล่ะ สนุกกับคำล้อเล่นของนายอย่างนั้นใช่มั้ย ”
“ แล้วไง??? ” ฮยอนจุงกระชากฮยอกแจเข้ามาใกล้
“ แล้วไง นายหมายความว่าไง แล้วไงอะไรของนาย ”
“ นายอยากได้ยินคำว่า ฉันป่วย ใกล้ตาย ถ้าอย่างนั้นแล้ว นายจะมีความสุขมากกว่านี้ใช่มั้ย ”
“ นายอย่าเปลี่ยนประเด็น เรื่องมันมีอยู่ว่า นายโกหกฉันเพราะความคะนองปากของนายต่างหาก ”
“ ไม่จริง ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น หรือการที่นายทำท่าทางแบบนี้เพราะเป็นห่วงฉันอย่างนั้นน่ะสิ ” ฮยอนจุงจ้องตาฮยอกแจเขม็ง
“ มะ ไม่จริง ฉันไม่ได้เป็นห่วงนาย ” ร่างบางหลบตา
“ จริง นายห่วงฉัน ”
“ ฉันเปล่า ”
“ อย่าโกหกหน่อยเลย ”
“ ไม่ได้โกหก ฉันไม่ได้ห่วงนาย ฉันแค่ห่วงตัวเอง ฉันแค่
..ฉันแค่ กลัว
.. ” คนตัวเล็กเอ่ยเสียงสั่นนั่นมันก็เพียงพอที่จะทำให้ฮยอนจุงใจเย็นลงมาได้บ้าง
“ ไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องกลัว ฉันจะไม่ทิ้งนายไปเหมือนหมอนั่นแน่ๆ ” มือหนาดึงลำตัวฮยอกแจมากอดไว้อย่างแผ่วเบาโดยที่เจ้าตัวเองก็มิได้ขัดขืน
“
”
“ ฉันขอโทษ ต่อไปฉันจะไม่แกล้งนายอย่างนี้อีกแล้ว ”
“ ความจริง
..ฉันไม่อยากให้นายหรือคนที่อยู่กับฉันต้องมีใครเป็นอะไรไปอีกแล้ว ฉันเองถึงจะเคยเจอเรื่องราวของการสูญเสีย แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังไม่เคยเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้ได้เลย บ่อยครั้งที่ฉันพยายามเข้มแข็ง แต่ยิ่งทำ ใจฉันก็ยิ่งเจ็บ ฉัน
.ไม่อยากอ่อนแอ อีกต่อไปแล้ว ”
“ ฮยอกแจ
..” ฮยอนจุงดันร่างบางออกจากลำตัว
“ หืม??? ”
“ ฉันอาจจะไม่ใช่คนที่ดีสำหรับนาย แต่นาย
..นายไม่ต้องเข้มแข็ง นายอ่อนแอได้ นายร้องไห้ได้ ถึงตัวฉันจะดูเหมือนว่าไม่สามารถดูแลใครได้ แต่ฉัน ฉันจะคุ้มครองและโอบกอดในเวลาที่นายต้องการ ”
“ ฮยอนจุง
”
“ ฮยอกแจ
” ใบหน้าคมเอ่ยเสียงเบาก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าหาร่างบางตรงหน้า ฮยอกแจค่อยๆหลับตาอย่างช้าๆ ด้วยหัวใจที่เต้นแรงผิดจังหวะ
“ พระเจ้า นี่ลูกกำลังทำอะไรอยู่ ทำไมเรื่องราวมันถึงลงเอยอย่างนี้ เมื่อกี๊เราทะเลาะกันอยู่ไม่ใช่หรือ แล้วนี่ นี่ลูกกำลังจะถูกจูบอย่างนั้นหรือครับ ”
************* ต่อ 100 % *************
Cin-Taem
“ ครั้งแรกที่ฉันชวน ดูเหมือนคุณไม่อยากมาทาน แต่ดูตอนนี้สิ มาทานทุกวันเลย นี่สี่วันแล้วนะคะ อร่อยล่ะสิ แต่ครั้งหน้าเราไปร้านอาหารฝรั่งเศสบ้างนะคะ ”
“ อืม ” ตอบออกมาเพียงสั้นๆ เพราะสายตาและความสนใจของคิมฮีชอลถูกเด็กหนุ่มคนหนึ่งตรึงเอาไว้ เด็กชายที่ไม่ได้เจอกันมาร่วมเดือน แต่ด้วยความบังเอิญเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเขามาทานอาหารที่ร้านแห่งนี้และได้พบเด็กชายยืนแจกใบปลิวอยู่ฝั่งตรงข้าม เด็กชายที่ยังมีรอยยิ้มสวยงามและดวงตากลมโต แม้ในยามที่กำลังเหน็ดเหนื่อยก็ตาม
“ ฮีชอลคะ คุณมองอะไรอยู่หรือเปล่าคะ อึมจองเห็นคุณเอาแต่มองไปข้างนอกบ่อยๆ ”
“ ฉันกำลังมองเด็กคนนั้นอยู่ ”
“ เด็ก? เด็กคนไหนคะ ” หญิงสาวปรายตามอง ก็พบเด็กคนที่ฮีชอลเอ่ยถึง แม้อยากจะแสดงความไม่พอใจ แต่เธอก็ไม่สามารถทำได้เพราะรู้ดีว่าถ้าหากโวยวายขึ้นมาเธอต้องถูกผู้ชายคนนี้ทิ้งได้อย่างง่ายดายแน่ๆ วิธีเดียวที่จะอยู่ข้างๆต่อไปได้ คือการเก็บความชิงชังไว้เพียงในใจ แต่ความอดทนก็ต้องสิ้นสุดลงเมื่อเธอทั้งเอาอกเอาใจสารพัดแต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้สนใจเธอแม้แต่น้อย แววตาของคนตรงหน้ามีเพียงเด็กชายคนนั้นเท่านั้น
“ ฮีชอลคะ ที่คุณมาที่นี่เพราะเด็กคนนั้นใช่มั้ย ”
“ อืม ” อีกครั้งที่ชายหนุ่มยังคงตอบกลับเสียงเรียบ
“ มันเป็นอะไรกับคุณ บอกอึมจองมาเดี๋ยวนี้นะ ”
“ เขาจะเป็นอะไรกับฉันมันไม่เกี่ยวกับเธอหรอกนะ ”
“ ไม่เกี่ยวงั้นเหรอ แต่อึมจองเป็นแฟนคุณนะ ”
“ แฟน? เธอก็น่าจะรู้ดีว่ามันไม่ใช่ ”
“ คุณฮีชอล!!!!! ”
“ ฉันไม่ชอบให้ใครมาขึ้นเสียงแบบนี้ ถ้าไม่พอใจก็ออกไปซะ ”
“ คุณมัน
.. ” หญิงสาวลุกขึ้นก่อนจะคว้ากระเป๋าแล้วเดินออกจากร้านความรู้สึกไม่พอใจ ขาเรียวเดินไปยังรถของตน ความโมโหยิ่งทวีคูณขึ้นเป็นสองเท่า เมื่อเธอมองรถแล้วคิดว่าทั้งๆที่ฮีชอลออกรถให้เธอแต่เขาไม่เคยคิดจะแตะมันและเธอเองก็ไม่เคยได้ย่างกายขึ้นไปนั่งบนรถของชายหนุ่มได้เลยสักหน เธอขัยรถออกไปด้วยความเร็วสูง ความอิจฉาริษยาบังเกิดขึ้นในจิตใจ แม้เด็กชายตัวเล็กจะไม่ได้ทำอะไรให้เธอ แต่แค่คิมฮีชอลให้ความสนใจมันก็มากเกินพอที่เธอจะนิ่งเฉยอยู่ได้ ดังนั้นเธอจึงขับรถกลับมาเพื่อที่จะได้กลับไปหาเด็กชาย จะคุยเรื่องอะไรหล่อนยังไม่ทราบได้ แต่ตอนนี้ห่างออกไปไม่ไกลนักเด็กคนที่ว่ากำลังจะวิ่งข้ามถนน เธอมองด้วยความรู้สึกโกรธเกรี้ยวในใจอย่างคนไร้สติ
“ อยากตายรึไง วิ่งมาอย่างนั้นน่ะ ” หญิงสาวบ่นอุบ แต่เพียงแว้บเดียวที่ความคิดชั่วร้ายผ่านเข้ามาแทนที่จะชะลอรถเธอกลับเหยียบคันเร่งให้เร็วขึ้นและกว่าที่เธอจะได้สติกลับคืนมา ร่างของเด็กชายก็นอนราบอยู่บนพื้นที่เต็มไปด้วยเลือดแดงฉาน
เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
โครม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ”
“ ช่วยด้วย!!!!!!!!!!!!! มีคนถูกรถชน ”
สิ้นเสียงกรีดร้องฮีชอลรีบวิ่งออกมาดูเด็กชาย ชายหนุ่มมองคนขับรถด้วยใบหน้าโกรธแค้น ก่อนจะหันมาสนใจร่างที่นอนไร้สติต่อไป
“ แทมิน แทมิน ” ฮีชอลเรียกชื่อคนตัวเล็กด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ นายอย่าเป็นอะไรนะ ”
“ ฉันไม่ให้นายเป็นอะไร ฟื้นสิ ฟื้น อย่าหลับนะ อย่าหลับ ห้ามหลับเด็ดขาด ”
“ เสียงเหมือนคุณเลยนะฮะ คุณ
ฮะ ”
.
.
.
สามวันต่อมา ณ โรงพยาบาลโซล
“ อาจารย์คิม ทำไมยังไม่กลับไปอีก ” ฮยอกแจเอ่ยถามอาจารย์หนุ่มหลังจากที่เขารู้ข่าวและรีบมายังโรงพยาบาลเพื่อดูแลน้องชาย ฮีชอลเองก็เช่นกันเขาเฝ้าแทมินมาโดยตลอดโดยไม่ยอมห่างไปไหน
“ ฉันอยากเห็นว่าเขาเป็นปกติแล้ว ”
“ อาจารย์คิดจะทำอะไรอีก แค่นี้แทมินยังเจ็บไม่พอใช่มั้ยครับ อยากให้เขาฟื้นขึ้นมาเห็นหน้าอาจารย์อย่างนั้นเหรอ ” ร่างบางแกล้งเอ่ยถามแม้ว่าเขาจะรู้ดีก็ตามว่าอาจารย์คนนี้รักน้องชายเขามากแค่ไหนหลังจากที่เห็นฮีชอลหลั่งน้ำตาให้กับแทมินเมื่อสามวันก่อน
“ ฉันจำได้ว่าเคยบอกกับนาย ว่าจะไม่พบแทมินอีก แต่ฉันทำไม่ได้ ฉันผิดคำสัญญา ฉันขอโทษ ” ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้าและใบหน้าที่อ่อนแรง นั่นอาจจะเพราะว่าตลอดเวลาที่แทมินเข้าโรงพยาบาล ฮีชอลไม่ได้หลับตาลงแม้แต่น้อยเพราะต้องคอยเฝ้าเด็กชายที่ยังคงไม่ได้สติอยู่ทั้งคืน
“ อาจารย์คิม
..” น้ำเสียงของร่างบางค่อยๆสงบลง พร้อมกับหัวใจที่พร้อมจะเปิดรับอีกครั้ง
“ ฉันขอโอกาสอีกสักครั้งจะได้มั้ยฮยอกแจ ”
“ ทำไมอยู่ๆถึงพูดแบบนี้ล่ะครับ ”
“ ในตอนนั้น ที่ฉันเห็นแทมินนอนอยู่บนพื้นถนนที่เต็มไปด้วยเลือด หัวใจของฉันก็แทบจะหยุดเต้น แล้วคำถามหนึ่งก็ผุดขึ้นในหัวใจ ฉันจะอยู่ได้มั้ยถ้าไม่มีเด็กคนนี้ คำตอบก็คือไม่ ฉันคงไม่สามารถอยู่ต่อไปได้อีกแล้ว ฉันนอนหลับแต่ไม่เคยหลับสนิท ฉันกินทั้งๆที่ไม่รู้สึกว่ามันหิว ฉันหัวเราะทั้งๆที่อยากจะร้องไห้ ฉันมีคนรักแต่ไม่เคยมีความรัก ฉันปฏิเสธแทมินแต่หัวใจของฉันกลับเรียกหาเขาทุกวันคืน ฉัน
..รักแทมิน ”
“ ผมเป็นคนที่เชื่อมั่นในการกระทำมากกว่าคำพูด ”
“ หมายความว่า
. ”
“ ครับ ผมจะให้โอกาสกับอาจารย์ แค่ครั้งนี้เท่านั้นนะครับ ต่อไปคงไม่มีแทมินให้อาจารย์ทำร้ายได้อีกต่อไปแล้ว นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของอาจารย์ ถ้าแทมินยังคงร้องไห้อีก แม้จะต้องไปสุดขอบโลก ผมก็จะพาแทมินไป ”
“ ขอบใจมากฮยอกแจ ”
“ พี่ชาย
ฮะ ” น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้นมา เรียกให้คนสองคนหันไปมองคนบนเตียงพยาบาลพร้อมๆกัน ก่อนที่ฮยอกแจจะหันไปยิ้มให้กับอาจารย์หนุ่ม
“ โอกาสของอาจารย์มาแล้วนะครับ ” พูดจบก็เดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆด้วยหัวใจที่หวังว่าน้องชายคงจะหลุดพ้นจากความเจ็บปวดได้ในสักวัน
LAST รักสุดท้ายที่ใจปรารถนา
Won-Kyu
“ ผิดนัด??? หมอนั่นไม่ไปตามนัดอะไร แล้วไปนัดใครไว้อีก ”
“ ผู้หญิงงั้นเหรอ???? ”
“ ไม่น่าจะใช่ ในเมื่อคุณแม่โทรมาเองแบบนี้ แล้วมันเรื่องอะไรกันล่ะ ”
“ เดี๋ยวนี้หมอนั่นไปโซลบ่อยๆด้วย ”
“ พอถามก็ตอบไม่ตรงคำถามบ้างล่ะ ตะกุกตะกักบ้างล่ะ แอบมีกิ๊กรึไง
.แต่หมอนั่นไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย ไม่นะ ฉันไม่ได้บอกว่าหมอนั่นเป็นคนดีสักหน่อย ฉันจำผู้หญิงคนนั้นได้ดี หนอย พามาเย้ยฉันถึงบ้าน แต่มันไม่เกี่ยวกับเรื่องผิดนัดนี้แน่ๆ หรือนายว่าไงโจวคยูฮยอน??? ” คยูฮยอนถามรูปถ่ายที่ถืออยู่ในมือตลอดทั้งวัน
“ คิดเท่าไรก็คิดไม่ออก แต่ที่แน่ๆ มันต้องสำคัญมากแน่ๆ คุณแม่ถึงได้โทรมาย้ำ แถมทำน้ำเสียงแบบนั้น หรือว่า
. ”
.
.
.
“ กลับมาแล้วหรือ???? ” เด็กหนุ่มวิ่งออกไปรับสามีถึงหน้าบ้าน ทันทีที่รถจอดลง ร่างโปร่งช่วยถือกระเป๋าเอกสารในมือสามีอย่างรวดเร็วทำเอาซีวอนถึงกับออกอาการงง
“ มีอะไรหรือเปล่า ทำไมอยู่ๆถึงได้ยิ้มแย้มแบบนี้ ”
“ โหย!!! ฉันน้อยใจนะ นายพูดเหมือนกับว่าฉันหน้าบูดใส่นายอยู่ทุกวันไปได้ ”
“ เปล่า ฉันเห็นว่านายงอนฉันอยู่ไม่ใช่รึไง ”
“ ไม่ได้งอนสักหน่อย ”
“ ยังไม่หายป่วยดี ออกมาทำไมล่ะ ”
“ ฉันหายแล้ว สบายดีมากๆเลย ดูสิ ” ร่างเพรียวยิ้มร่าก่อนจะกระโดดโหยงๆให้สามีดูถึงความแข็งแรงของตนซึ่งก็เรียกรอยยิ้มของซีวอนได้เป็นอย่างดี
“ ฉันเชื่อนาย หยุดกระโดดสักทีเถอะ ฉันเริ่มเวียนหัวแล้ว ”
“ นะ นายปวดหัวเหรอ งั้นเรารีบเข้าไปข้างในกันเถอะ ” ทันที่ที่ร่างสูงบ่น คยูฮยอนก็หยุดกระโดดแล้วรีบจูงมือสามีเข้าไปในบ้านทันที
“ ดื่มนี่ก่อนนะ ฉันทำเองกับมือ นายจะได้หายเหนื่อยไง ” คยูฮยอนยกน้ำให้สามีดื่ม ซีวอนมองหน้าเล็กน้อยแล้วค่อยๆยกน้ำในแก้วขึ้นมาดื่มก่อนจะสำลักออกมาในสัมผัสแรกที่ได้ชิม
“ แค่ก แค่ก นายเอาอะไรให้ฉันกินเนี่ย คิดจะแก้แค้นฉันใช่มั้ยคยูฮยอน ”
“ กะ แก้แค้นอะไร น้ำมะนาวนี่ฉันตั้งใจทำสุดฝีมือเลยนะ ทั้งๆที่ฉันตั้งใจทำ นายดื่มเข้าไปนิดเดียวแถมยังบ้วนทิ้งแล้วยังมาบอกว่าฉันแก้แค้น นี่ฉันไม่มีอะไรดีในสายตานายเลยใช่มั้ยเนี่ย ” คยูฮยอนเริ่มหน้าบูดอีกครั้ง
“ ฉันไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย แต่ไอ้น้ำมะนาวของนายมันทำไมหวานอย่างนี้ล่ะ ”
“ ก็ตอนแรกใส่มะนาวลงไปแล้วมันเปรี้ยวมาก ฉันก็เลยใส่น้ำผึ้งลงไปด้วยเผื่อมันจะหวานขึ้นมาบ้าง ”
“ นี่เขาไม่เรียกว่าบ้างนะ มันหวานมากกกกกกกก ” ซีวอนลากเสียงยาว
“ แต่นายเป็นสามีนะ นายจะแกล้งชมสักนิดไม่ได้รึไง ว่ามันอร่อยน่ะ ”
“ ถ้าบอกแบบนั้น นายก็จะไม่พัฒนาอะไรเลยน่ะสิ ”
“ ใช่สิ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงในเมืองหลวงของนายนี่ ที่จะได้ทำอะไรให้นายได้ทุกอย่างน่ะ ” พูดจบคยูฮยอนก็กระแทกก้นลงบนโซฟาหนา ทำหน้ามุ่ยไม่พอใจ ทั้งๆที่เขาคิดเอาไว้ว่าจะเอาใจซีวอนให้มากเพราะซีวอนคงไม่สบาย แม่สามีถึงโทรตามเรื่องนัด แต่ที่ไหนได้ซีวอนกลับขัดใจเขาสารพัด
“ งอนอีกแล้ว ”
“ เปล่า ”
“ เปล่า แล้วทำไมหน้าบูดอย่างนั้น ”
“ แล้วจะให้ฉันนั่งยิ้มให้กับคนที่ตำหนิให้กับเครื่องดื่มที่ฉันทำรึไง ฉันไม่ได้ใจกว้างขนาดนั้นหรอกนะ ”
“ ที่พูดไปไม่ได้หมายความแบบนั้น ” ร่างสูงก้าวมานั่งลงข้างๆเด็กเอาแต่ใจ มือหนากุมมือภรรยาเบาๆ
“ ไม่ต้องมายุ่งด้วยเลย ” คยูฮยอนสะบัดมือหนี แต่ร่างสูงก็คว้าเอาไว้อีกครั้ง
“ ทำยังไงถึงจะหายงอนนะเด็กดื้อของฉัน
..ถ้าดื่มจนหมดแก้ว นายจะหายงอนมั้ย ” ซีวอนหันไปหยิบแก้วน้ำมะนาวเชื่อมของภรรยาก่อนจะยกขึ้นดื่มจนหมดแก้ว คยูฮยอนแอบยิ้มเล็กๆแต่ก็ต้องตีหน้าบึ้งเข้าไว้ เพื่อไม่ให้สามีเห็นว่าเขาพอใจมากแค่ไหน
“ อ๊ะ!!!! อื้อออออออออออ ” ร่างโปร่งร้องเสียงหลงก่อนจะครางเบาๆในลำคอ เมื่ออยู่ๆสามีหนุ่มก็จับใบหน้าหวานหันกลับมาแล้วมอบจูบอันแสนดูดดื่มให้ยาวนาน ก่อนจะค่อยๆผละตัวออกมาเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจะขาดลมหายใจ
“ เป็นไงบ้าง
.หวานมั้ยน้ำมะนาวของนาย ” ร่างสูงถาม
“ ถามมาได้ ไม่รู้ รู้แค่หายใจไม่ออก ทำอะไรไม่บอกล่วงหน้าเลยนะ ”
“ หืม
หมายความว่าต่อไปถ้าจะจูบนาย ต้องขอนายก่อนใช่มั้ย ”
“ ใช่ อ๊ะ!!!! ไม่ใช่ เอ้ย ใช่ เฮ้อ!!! ไม่รู้ด้วยแล้ว รู้แค่ว่านายไม่ต้องมายุ่งกับฉันเลยคนผีทะเล ”
“ ถ้าไม่ให้ยุ่งกับเมียแล้วจะให้ไปยุ่งกับใครครับ ”
“ จะไปรู้เหรอ มีตั้งเยอะแยะนี่ เลือกเอาสักคนสิ ”
“ เยอะแยะที่ไหน มีนายคนเดียวนะ ” พูดพร้อมรั้งร่างบางเข้ามาโอบกอดอีกครั้ง จมูกโด่งเป็นสันได้รูปโน้มลงสัมผัสซอกคอหอมกรุ่นหากแต่ว่าคยูฮยอนก็ดันร่างสูงเอาไว้
“ เหม็น!!!! ไปอาบน้ำได้แล้ว อย่ามาเกาะแกะน่า ”
“ ถ้าอาบน้ำแล้ว นายจะให้ใช่มั้ย ”
“ อย่ามาโมเม อาบน้ำเสร็จก็มากินข้าวไง มั่วแล้วนะนาย ”
“ โอเคๆ มั่วก็มั่ว งั้นฉันไปอาบน้ำก่อนนะ ” ชายหนุ่มลุกขึ้นก่อนจะเซเล็กน้อย จนทำให้คยูฮยอนรีบลุกขึ้นมาประคองด้วยความตกใจ
“ ซีวอน !!!!! ” ร่างโปร่งอุทาน มือเรียวรับร่างของสามีไว้ด้วยมือไม้สันเท่า ใบหน้าซีดยิ่งกว่าชายหนุ่มหลายเท่า
“ คยูฮยอน นายเป็นอะไร ”
“ ฉะ ฉันไม่เป็นไร แล้วนายล่ะ นายเป็นอะไรไปรึเปล่า ”
“ ฉันไม่เป็นอะไร แค่หน้ามืดนิดหน่อยเท่านั้น ”
“ ไม่จริง นายบ่นว่าเวียนหัว นายเซแบบนี้ แถมตอนเช้าคุณแม่ก็โทรมาถามว่านายไปตามนัดหรือเปล่า
. ซีวอน โรคนายกำเริบใช่มั้ย แล้วนายก็ต้องไปพบหมอที่โซลใช่มั้ย ”
“ คยูฮยอน
.. ”
“ ซีวอน อย่าเป็นอะไรไปนะ ” ร่างบางซบลงบนอกแกร่ง ซีวอนยิ้มเล็กน้อย เขาไม่รู้จะพูดยังไงกับคนตัวเล็กที่ชอบคิดเองเออเองคนนี้ดี คนตัวเล็กที่อารมณ์แปรปรวนยิ่งกว่าคลื่นในทะเล คนตัวเล็กที่กำลังกอดเขามือไม้สั่นเกรงว่าโรคเก่าเขาจะกำเริบ ซีวอนกำลังจะอ้าปากบอกความจริงที่ว่าเขาแค่ทำงานหนักจนไม่มีเวลาไปตรวจสุขภาพประจำปี คุณแม่เลยโทรมาเร่ง ทั้งๆที่ตั้งใจอย่างนั้น แต่ซีวอนก็ลบความคิดนั้นทิ้ง ก่อนที่ความคิดใหม่ๆจะแทรกเข้ามา ความคิดที่จะสามารถพิสูจน์ความรักที่คยูฮยอนมีต่อเขาว่ามากน้อยเพียงใด
LAST รักสุดท้ายที่ใจปรารถนา
Hyun-Hyuk
“ ฉันอาจจะไม่ใช่คนที่ดีสำหรับนาย แต่นาย
..นายไม่ต้องเข้มแข็ง นายอ่อนแอได้ นายร้องไห้ได้ ถึงตัวฉันจะดูเหมือนว่าไม่สามารถดูแลใครได้ แต่ฉัน ฉันจะคุ้มครองและโอบกอดในเวลาที่นายต้องการ ”
“ ฮยอนจุง
”
“ ฮยอกแจ
” ใบหน้าคมเอ่ยเสียงเบาก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าหาร่างบางตรงหน้า ฮยอกแจค่อยๆหลับตาอย่างช้าๆ ด้วยหัวใจที่เต้นแรงผิดจังหวะ
“ อื้มมมมมมมมม ” คนตัวเล็กครางในลำคออย่างลืมตัว รสจูบแสนอ่อนโยนที่เขาไม่ได้สัมผัสมาเนิ่นนานจนลืมไปแล้วว่ามันเป็นเช่นไร หากแต่วันนี้ฮยอนจุงกลับเป็นผู้มอบจูบที่เขาคิดถึงให้หวนคืนกลับมา
ย็อกแจ รับทอระฉับด้วย ~ ย็อกแจรับทอระฉับด้วย ~ รับทอระฉับซองมินด้วยน้า ~~~~
“ เด็กเปรต โทรมาได้จังหวะจริงๆเลยนะนาย ” ฮยอนจุงบ่นพึมพำหลังจำใจผละจากริมฝีปากนุ่ม ฮยอกแจใบหน้าแดงจนถึงใบหูก่อนเดินปลีกตัวออกไปและหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมากดรับ
[ “ ย็อกแจ ” ] เสียงเล็กๆเอ่ยทักทายอย่างสดใส
“ ว่าไงครับกระต่ายอวบของพี่ ”
[ “ กลับช้าจังเลย ซองมินรอกินข้าวอยู่นะ ” ]
“ เห???? ทำไมไม่กินก่อนล่ะครับ ออกจากโรงพยาบาลไม่ทันไร เดี๋ยวได้กลับเข้าไปอีกนะ ”
[ “ กลัวที่ไหนกัน ซองมินนะเก่งที่สุดในโรงบานเลย คุณหมอยังชมว่าซองมินเก่งไม่กลัวเข็ม ” ]
“ ครับ ซองมินน่ะเก่งที่สุด แต่ว่าทานข้าวก่อนพี่เลยนะครับ
[ “ ย็อกแจยังทำงานไม่เสร็จหยอ ” ]
“ เสร็จแล้วครับ ”
[ “ งั้นก็รีบกลับมาจิ
..หรือว่ามีใครรั้งตัวเอาไว้ ” ]
“ เปล่านะ”
[ “ เน่!!!! น้ำเสียงงี้มีแน่เลย พี่ชายขี้เก๊กคนนั้นป่าวฮับ ” ]
“
.”
[ “ เงียบงี้ ใช่แน่เลย ย็อกแจนอกใจซองมินอ่ะ ” ]
“ ไม่ใช่สักหน่อย พี่รักกระต่ายอวบคนเดียวนะ
..อ๊ะ ” ฮยอกแจร้องเสียงหลงเมื่ออยู่ๆชายหนุ่มก็ฉวยเอาโทรศัพท์ในมือของเขาออกไปและคุยกับซองมินด้วยใบหน้าไม่พอใจ
“ นี่เด็กเปรต คุยอะไรนานนักห๊ะ ฮยอกแจเป็นแฟนฉัน อย่าคุยนานฉันหึง เข้าใจมั้ย ”
[ “ โหย ขี้เก๊กจริงด้วย มายุ่งไรกะมือถือย็อกแจ ” ]
“ นายต่างหากที่โทรมารบกวน ”
“ ฮยอนจุง เอาโทรศัพท์คืนมานะ นายนี่ไม่มีมารยาทเลยรึไง !!!! ”
[ “ นั่นไง ย็อกแจดุแล้ว ฉมน้ำหน้า ” ]
“ เดี๋ยวเจอกันไอ้เตี้ย ” พูดจบฮยอนจุงก็กดวางสาย ก่อนจะกดมือถือของฮยอกแจในโหมดถ่ายรูป แล้วหันมาหาฮยอกแจที่ยืนงงอยู่ไม่ห่าง ร่างสูงรั้งเอวบางเข้ามาใกล้ก่อนจะใช้ปลายจมูกสัมผัสลงบนแก้มของฮยอกแจเต็มแรง
“ ทำอะไรของนายเนี่ย ”
“ รอก่อนแป๊บนึง ” ชายหนุ่มตอบก่อนจะส่งรูปที่ถ่ายไปให้สายเรียกเข้าเมื่อสักครู่ แล้วหันมายิ้มหวานให้คนตัวเล็กข้างๆ
“ อ๊ะ!!! นายส่งไปให้ใครน่ะ ”
“ อ้วนกลมของนายไง ”
“ อย่ามาว่าน้องชายฉันนะ ”
“ น้องชายอะไร เด็กนั่นกะจะจีบนายชัดๆ ”
“ จีบ??? บ้าไปแล้ว ซองมินแค่ห้าขวบเองนะ ”
“ อีกหน่อยก็โตทันนายแล้วน่า ”
“ กว่าซองมินจะโต ฉันก็แก่พอดีเหมือนกันแหละน่า ”
“ ไม่รู้ล่ะ ฉันหึง ”
“ หึงอะไรของนาย ”
“ ก็นายเป็นแฟนฉัน ฉันไม่มีสิทธิ์หึงหรือ ”
“ อย่ามั่วน่า ฉันเป็นแฟนนายตั้งแต่เมื่อไรกัน ”
“ ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ”
“ บ้าเหรอ !!!!”
ย็อกแจ รับทอระฉับด้วย ~ ย็อกแจรับทอระฉับด้วย ~ รับทอระฉับซองมินด้วยน้า ~~~~
“ ซองมิน ”
[ “ ย็อกแจ นี่มันไรกัน ทำไมให้พี่ชายขี้เก๊กหอมแก้มได้อ่ะ” ]
“ เอ่อ คือว่า
”
[ “ ไม่รู้ล่ะ รีบมาบ้านเลย นับหนึ่งถึงสามถ้ามาไม่ทันซองมินโป้ง แล้วซองมินก็จะไม่กินนมด้วย ” ] ไม่ทันที่จะรอคำตอบเด็กชายตัวเล็กก็รีบกดมือถือลงทันที ทิ้งให้ฮยอกแจทำหน้ากลุ้มใจ ก่อนจะหันไปจ้องหน้าฮยอนจุงตาเขม็ง
“ นี่นาย!!!! หาเรื่องให้ฉันอีกจนได้นะ ซองมินงอนแล้วนะ ”
“ เด็กงอนแป๊บเดียว เดี๋ยวก็หาย ”
“ แป๊บที่ไหนล่ะ ซองมินลองได้เกเรขึ้นมาแล้วล่ะก็ ง้อเป็นอาทิตย์ๆเลยนะ ”
“ งั้นรีบไปกันเลย ” ฮยอนจุงคว้ามือฮยอกแจเดินกลับขึ้นรถโดยทันทีทันใด
“ อะไรของนาย ”
“ ไปหาซื้อชองมาง้ออ้วนกลมไง ”
“ ชิ ~ คิดว่าง่ายเหรอ ”
“ งั้นนายก็ต้องช่วยคิดสิ
. เด็กนั่นชอบกินอะไร ”
“ ขนม ของหวาน ไอศกรีม ”
“ แต่ละอย่าง มีแต่ของที่ฉันไม่ชอบทั้งนั้นเลย ”
“ นั่นมันเรื่องของนาย ”
“ แต่ฮยอกแจ
.. ”
“ หืม???? ”
“ ฉันเคยแกล้งเดินไปซื้อไอติมเพราะคนคนหนึ่ง หลอกล่อเด็กคนนึงให้อ้อนพี่ชายซื้อไอติมให้ แล้วก็แกล้งทำเป็นลืมหมวกไว้กับรถขายไอติม เพื่อที่คนที่อยู่ข้างหลังฉันเขาเรียกฉันให้หันกลับไปเอาหมวก ทั้งๆที่คิดแผนเอาไว้อย่างดี พอหันกลับไปเขาคนนั้นก็หายไปซะแล้ว ”
“ ฮยอนจุง
.. ”
โปรดติดตามตอนต่อไป
แม่ยกฮยอกชวนคุย
กลับมาแล้วค่ะ หลังจากหาย(หัว)ไปนาน
ใกล้ปิดเทอมแล้ว คงได้อัพบ่อยขึ้น
และเรื่องราวหลังจากนี้ก็จะมีแต่หวานกับหวานมากเท่านั้น
โยนดราม่าทิ้งไปกับกระแสน้ำ
หวังว่าผู้อ่านคงไม่ทิ้งกันไปไหนนะคะ
ตอนหน้าจะตอบเม้น มีเรื่องอะไรอยากถาม
หรือมีเรื่องอยากแนะนำ ติชม ก็ยินดีเสมอนะคะ
แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ
รักคนอ่าน ^^
ความคิดเห็น