ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : + + Chapter 7 + + [Fixed : แก้คำผิด] + (BG Music)
เกล็ดเล็กๆ : ในการอ่านให้ได้อรรถรสยิ่งขึ้น แนะนำให้ทำการเปิด BG music ไปพร้อมกับอ่านไป โดยการเปิด tab ขึ้นมาอีก 1 และ Copy ลิงค์ไปใส่ เพื่อความตื่นเต้นที่มากยิ่งขึ้น
------------------------------------------------------------------------------------------------
ความสัมพันธ์ที่ค่อยๆ พัฒนาขึ้นของทั้งคู่ ทำให้ความรักของพวกเธอค่อยๆ ผลิบานขึ้นทีละน้อยๆ ถึงแม้ว่าอาจจะยังเรียกไม่ได้เต็มปากว่ารัก แต่เจสสิก้าก็ไม่ปฎิเสธ ว่าเธอเริ่มรู้สึกชอบยูริขึ้นมาจริงๆ
ความสัมพันธ์ที่ค่อยๆ พัฒนาขึ้นของทั้งคู่ ทำให้ความรักของพวกเธอค่อยๆ ผลิบานขึ้นทีละน้อยๆ ถึงแม้ว่าอาจจะยังเรียกไม่ได้เต็มปากว่ารัก แต่เจสสิก้าก็ไม่ปฎิเสธ ว่าเธอเริ่มรู้สึกชอบยูริขึ้นมาจริงๆ
เช่นเคย เวลา 9.30 นาฬิกา เจสสิก้าจะต้องปรากฏตัวขึ้นที่ร้านกาแฟเสมอๆ ยูริเดินออกไปจากร้านพร้อมกับส่งยิ้มให้และโบกมือทักทาย ซึ่งเจสสิก้าก็เพียแค่ยิ้มตอบกลับมาเท่านั้น
รอยยิ้มที่ดูสดใสของเธอทำเอาหัวใจของยูริแทบจะละลายเลยทีเดียว
ยูริเอื้อมมือไปกุมมือของเจสสิก้าเอาไว้เบาๆ ภาพของหญิงสาวสองคนที่เจสสิก้าเห็นวันนั้นผุดขึ้นมาในหัวอีกครั้ง จนทำให้เธอหน้าแดงจนยูริที่อยู่ข้างๆ หันมามองเธออย่าสงสัย
“เป็นอะไรรึเปล่า หน้าเธอแดงมากเลยอะ ?”
เธอพูดพร้อมกับค่อยๆ ใช้มือของเธอยกขึ้นมาอังที่หน้าผากของเจสสิก้า และนั่นก็ยิ่งทำให้เธอหน้าแดงมากยิ่งขึ้นไปอีก ยูริเห็นดังนั้นจึงยิ้มออกมาอย่างชอบใจ
เธอนี่น่ารักไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ เจสสิก้า
“เธอเคยคิดถึงอนาคตของตัวเองมั่งไหม ?”
ยูริหันไปถามหญิงสาวที่เดินอยู่ข้างๆ ซึ่งเจสสิก้าก็หันมาสบตาเธอและค่อยๆ ตอบกลับมา
“ก็เคยคิดอยู่นะ
ก็คงจะเหมือนๆ กับผู้หญิงคนอื่นๆ ล่ะมั๊ง อยากแต่งงาน มีครอบครัว แล้วก็
มีลูก”
เจสสิก้าพูดด้วยท่าทางเพ้อฝันนิดๆ
“เหรอ
?”
“แล้วแต่ล่ะยูล ?” เธอถามต่อและรอฟังคำตอบจากปากของยูริ
“ก็เหมือนๆ กันแหล่ะ
แต่ของชั้นพิเศษกว่านิดหน่อย”
“ยังไงเหรอ ?” เจสสิก้าถามขึ้นพร้อมกับก้มตัวลงเล็กน้อยและใช้สายตาไร้เดียงสาจดจ้องยูริ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ซึ่งยูริก็หันมาหาเธอและกระซิปที่ข้างหูเบาๆ
“
”
ประโยคดังกล่าวทำเอาเจสสิก้ารู้สึกเขินเป็นอย่างมาก
“บ้า !!”
เธอพูดพร้อมกับตีที่แขนของยูริเป็นการแก้เขิน พร้อมกับเดินนำหน้ายูริขึ้นมาเพราะไม่อยากให้ร่างสูงเห็นว่าหน้าของเธอแดง ยูริเดินตามเธอไปและยิ้มอย่างชอบใจ ก่อนที่เธอจะสวมกอดเจสสิก้าจากทางด้านหลังอย่างอบอุ่น
“แต่ชั้นพูดจริงนะสิก้า
”
อ้อมกอดที่แนบแน่นของร่างสูงค่อยๆ ส่งผ่านความอบอุ่นมายังร่างของเธอ
“เราไปเที่ยวกันไหม ?” ยูริถามขึ้นพร้อมกับค่อยๆ คลายอ้อมกอดออก
“อ
เอาสิ”
รถสปอร์ตคันงามของยูริที่ยังคงขับเคลื่อนต่อไปตามท้องถนน วิวสองข้างทางที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติดูสวยงาม เธอค่อยๆ เลื่อนกระจกลงและสัมผัสกับลมเย็นๆ ตามธรรมชาติ
ยูริขับรถของเธอไปและยิ้มให้กับเจสสิก้าเป็นระยะๆ เธอรู้สึกมีความสุขและอยากจะเก็บช่วงเวลานี้เอาไว้ให้นานที่สุด เท่าที่เธอจะทำได้
“นี่ๆ ยูล
ไม่สิ เรียกเธอว่า ยูริอา ดีกว่า
”
เจสสิก้าพูดขึ้นพร้อมกับหันมาทางยูริที่นั่งอยู่ข้างๆ
“ที่เธอบอกว่า
อยาก อยากจะ
” เจสสิก้าพูดตะกุกตะกัก และหน้าแดงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
“อะไรเหรอ ?”
ยูริยังคงขับรถต่อไปพร้อมกับมองดูที่กระจกหลังเป็นระยะๆ เพราะเธอรู้สึกเหมือนกับมีคนกำลังขับตามเธอมา
“ที่เธอบอกว่า อยากจะแต่งงานกับชั้น
เธอรักชั้นตรงไหนเหรอ ?”
พูดจบเธอก็เบนหน้าออกไปยังนอกรถทันที ยูริหันมาเห้นใบหูของเจสสิก้าที่แดงก่ำจึงรู้ได้ทันทีว่า เธอเองก็มีใจให้ ยูริยิ้มออกมาบางๆ ก่อนที่จะตอบกลับไปเบาๆ
“ก็เพราะว่า
เธอน่ารัก น่าทะนุถนอม
”
“บ
บ้า !! ชั้นไม่ใช่คนแบบนั้นซะหน่อย !”
เจสสิก้าบอกปัดหน้าแดงยิ่งขึ้นกว่าเดิม
“ชั้นพูดจริงนะสิก้า
ยิ่งเวลาที่เธออาย
เธอทำให้หัวใจของชั้นแทบจะละลายเลยล่ะ”
คำพูดที่ออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่แสนอบอุ่น ทำให้เจสสิก้ายิ้มตอบกลับและค่อยๆ เขย่งตัวเข้าไปหายูริและหอมแก้มเธอเบาๆ หนึ่งที
“ทำไมชั้นถึงได้หันมาชอบคนอย่างเธอนะ
”
เจสสิก้าพูดออกมาและเหลือบมองไปยังกระจกหลัง
“เฮ้ ! ยูริ มีคนสะกดรอยตามเรามา
” อยู่ๆ เจสสิก้าก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่จริงจังจนผิดสังเกต
“เธอเองก็รู้สึกเหมือนกันเหรอ ?”
ยูริถามกลับพร้อมกับหันไปมองเจสสิก้า
“คาดเข็มขัดให้แน่นๆ ล่ะ !”
พูดจบเธอก็เลื่อนกระจกขึ้นดังเดิมและเหยียบคันเร่งจนมิด เข็มไมล์วิ่งขึ้น 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนความรู้สึกกำลังเหมือนกับนั่งอยู่ในจรวดเสียมากกว่า
บรืนนนนน !!!!
เสียงคำรามของเครื่องยนต์ที่ดังบาดแก้วหู ยังคงส่งเสียงร้องไปตลอดเส้นทาง
“มันยังตามมาอีกไหม ?”
ยูริถามเจสสิก้าที่นั่งอยู่ข้างๆ พร้อมกับเหลือบมองกระจกข้างรถ และยังคงเห็นรถคันนั้นพยายามไล่บี้ขึ้นมา
“บ้าชะมัด !”
ยูริสบถออกมาเบาๆ สายตายังคงมองกระจกหลัง
“สิก้า เกาะไว้ล่ะ”
พูดจบยูริก็จัดการเร่งเครื่องขึ้นไปอีกครั้ง เจสสิก้าที่นั่งอยู่ข้างๆ หันมามองดูหญิงสาวข้างกายอย่างทึ่งๆ เพราะเธอไม่เคยเห็นใครบ้าระห่ำได้เท่านี้มาก่อนเลย ถ้าไม่นับตัวเธอเอง
ความเร็วรถที่เฉียดขึ้น 260 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้ตัวรถเริ่มมีอาการสั่นเล็กน้อย แต่ยูริกลับขับมันได้อย่างปกติ เหมือนกับความเร็วไม่ถึง 100 เท่านั้น
เอี๊ยดดดดดดดดด !!!!!!!
รถสีขาวอีกคันหนึ่งที่วิ่งสวนกลับมาลักษณะเหมือนจะพุ่งตรงเข้ามาชนเธอเสียมากกว่า ประตูรถที่เปิดออกพร้อมกับคนขับที่กระโดดลงไป ทำให้ยูริตัดสินใจเหยียบเบรค ก่อนที่จะหักหลบรถคันดังกล่าวได้อย่างฉิวเฉียด จนเสียการทรงตัวและเริ่มหมุน
เอี๊ยดดดดดดดด !!!!!
เสียงของยางที่บดไปกับพื้นถนนเป็นรอยยาว ทำให้รถเสียการทรงตัว โชคยังดีที่เธอยังพอมีสติอยู่ ยูริตัดสินใจหักพวงมาลัยกลับขึ้นไปบนถนนทันทีที่รถเริ่มจะหยุดส่าย และเปลี่ยนไปยังทิศตรงข้ามทันทีพร้อมกับลดเกียร์ลงและดึงเบรคมือขึ้นครั้งหนึ่ง เท้าของเธอเหยียบคลัชเร่งให้รอบเครื่องสูงสลับกับการเหยียบคันเร่งเป็นจังหวะ พวงมาลัยที่หักไปยังทิศตรงข้ามค่อยๆ พารถดริฟท์กลับขึ้นมาบนถนนได้อีกครั้ง
แต่เพราะยังเป็นโค้งต่อเนื่อง เธอจึงต้องคอยดึงเบรคมือเป็นระยะๆ พร้อมกับรักษาความเร็วไว้ไม้ให้ตก
ปิ๊นนนนนนน !!!!
รถที่วิ่งสวนมาบีบแตรพร้อมกับหักหลบรถของยูริ ราวกับทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวกลายเป็นภาพสโลว์โมชั่น และทันทีที่รถกลับมาทรงตัวได้อีกครั้ง ยูริจึงปลดเบรคมือและขึ้นเกียร์กลับเข้าสู่การขับตามปกติอีกครั้ง
บรืนนนนนน !!!“ไอพวกนั้นมันตามเราทำไมกัน !?”
เจสสิก้าถามขึ้นอย่างสงสัย พร้อมกับหันมามองยูริที่นั่งอยู่ข้างตัว
สีหน้าของเธอที่ดูจริงจังจนน่ากลัว ทำให้เจสสิก้ารู้สึกประหม่า ยูริยังคงเหยียบคันเร่งต่อไปจนถึงทางเลี้ยวอีกครั้ง
เอี๊ยดดดดดดดด !!!!!
เธอดริฟท์ผ่านไปอย่างไม่ยากเย็นอะไร พร้อมกับเฉี่ยวเข้ากับรถที่วิ่งสวนมาอย่างพอดิบพอดี
“กรี๊ดดดดด !!!”
เจสสิก้าร้องลั่นพร้อมกับหลับตาปี๋ด้วยความตกใจกลัว แต่ยูริกลับขับแซงซ้ายเบียดขวาไปได้อย่างเชี่ยวชาญและไร้ซึ่งรอยขีดข่วนใดๆ ทั้งสิ้น
ฟ้าวววววว !!!
ปิ๊นนนนนน !!!!!
โครมมมมม !!!
รถคันที่ไล่บี้เธอมาชนเข้ากับรถที่สวนไปอย่างแรง
ยูริมองดูกระจกหลังอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ซึ่งก็ไม่มีวี่แววของรถคันดังกล่าวเลย
“มันมาตามไล่เราทำไมกันยูริอา !”
เจสสิก้าถามขึ้นทันทีที่ยูริจอดรถบริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง
“ชั้นก็ไม่รู้
” เธอตอบกลับไปพร้อมกับพยายามใช้ความคิด ก่อนที่ความคิดหนึ่งจะแวบเข้ามาในหัวของเธอ
หรือว่าเพราะประกาศจับ
ทำให้ไอหมอนั่นมันคิดจะฆ่าปิดปากเรา
เธอพยายามคิดทบทวนดูหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีอันไหนที่เข้าเค้าเลย นอกจากความคิดแรกของเธอ
ให้มันได้ยังงี้สิ
เธอคิดอย่างหัวเสีย
ในเมื่อแกต้องการจะเก็บชั้น
ก็ได้ ชั้นจะเป็นฝ่ายไปหา แล้วฆ่าแกแทน !!
“หวังว่ามันคงไม่ตามมาแล้วนะ...”
เจสสิก้าพูดพร้อมกับเหลือบมองไปยังกระจกหลังรถ เมื่อมั่นใจว่าไม่มีใครตามมาแล้ว เธอจึงหันมาหายูริที่กำลังขับรถอยู่ข้างๆ
“เธอขับรถได้บ้ามากเลยรู้ไหม ยูริอา สิก้ากลัวแทบตาย !!”
เธอพูดอย่างงอนๆ พร้อมกับเชิดใส่นิดๆ
“ไม่เอาน่า... ถ้าชั้นไม่เร่งเครื่องเราอาจจะโดนอะไรก็ไม่รู้...”
ยูริตอบกลับ สายตาเธอยังคงจดจ้องอยู่ที่กระจกหลัง เจสสิก้าค่อยๆ หันมามองยูริอีกครั้งอย่างเงียบๆ
สรุปแล้วเธอเป็นคนยังไงกันแน่นะ... ยูริอา
รถที่ค่อยๆ เคลื่อนตัวผ่านออกมาจากเขตป่า ยูริค่อยๆ เลื่อนกระจกลงอีกครั้ง และปล่อยให้สายลมเย็นๆพัดผ่านเข้ามาในตัวรถ ท้องทะเลที่สะท้อนแสงแดดระยิบระยับดูช่างสวยงามเป็นยิ่งนัก
กลิ่นอายของทะเลที่ลอยมาพร้อมกับสายลมทำให้รู้สึกผ่อนคลายลงได้เป็นอย่างดี
“สวยจัง...”
เจสสิก้าพูดพร้อมกับหันออกไปมองยังวิวด้านนอกอย่างเหม่อลอย
ยูริค่อยๆ ชะลอความเร็วลงก่อนที่จะเลี้ยวมาจอดยังจุดพักรถ พร้อมกับค่อยๆ เปิดประตูลงจากรถมา เจสสิก้าที่ลงมาทีหลังเดินตามเธอมาติดๆ และหยุดยืนลงที่ข้างตัว สายตาทอดยาวไปสู่ท้องทะเลที่ไกลสุดลูกหูลูกตา
สายลมที่พัดผ่านไปมาเป็นอย่างไม่ขาดสาย ทำให้ยูริเลือกที่จะตัดสินใจกระโดดข้ามราวกั้นและลงไปยังข้างล่าง ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมาหาเจสสิก้า
“มาสิ !”
พร้อมกับตั้งท่ารอรับ
เจสสิก้าเดินมาหยุดอยู่ที่ขอบรั้ว พร้อมกับมองลงมายังพื้นข้างล่าง ซึ่งอยู่สูงพอสมควร เธอหันไปมองยูริที่รออยู่ข้างล่าง ก่อนที่จะค่อยๆ ยกขาข้ามรั้วมาและกระโดดลงไป
หมั่บบ !!
ยูริคว้าตัวของเจสสิก้าเอาไว้ ก่อนที่เธอจะเซล้มลงไปกับพื้นทรายด้วยกันทั้งคู่
ร่างของเจสสิก้าที่คร่อมอยู่บนตัวของยูริอย่างพอดิบพอดี ใบหน้าของทั้งคู่อยู่ห่างกันไม่เท่าไรนัก จนสามารถสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของกันและกัน ก่อนที่ร่างบางจะค่อยๆ โน้มหน้าเข้ามาหา
ริมฝีปากที่ค่อยๆ สัมผัสกันอย่างช้าๆ ทำให้หัวใจของทั้งคู่เต้นรัวและแรง ก่อนที่เจสสิก้าจะค่อยๆ ถอนริมฝีปากออก และยิ้มออกมาบางๆ แต่ยูริกลับเป็นฝ่ายพลิกตัวขึ้นมาและก้มลงไปจูบกับเจสสิก้าอีกครั้งอย่างดูดดื่ม
มือขวาที่ค่อยๆ สัมผัสกับเนินอกของเจสสิก้าทำให้เธอหน้าแดงขึ้นกว่าเดิม ก่อนที่ยูริจะค่อยๆ ถอนริมฝีปากออก สายสะพานที่เชื่อมต่อระหว่างลิ้นร้อนของทั้งคู่ ค่อยๆ ยืดยาวออก
เจสสิก้าเบนหน้าหนีด้วยความเขินอาย ซึ่งทำให้ยูริกลับยิ่งหลงรักหญิงสาวคนนี้มากยิ่งขึ้น
เธอค่อยๆ ก้มลงไปไซร้ซอกคอขาวอย่างอ่อนโยนจนร่างบางหลุดครางออกมาเบาๆ ก่อนที่เธอจะเม้มปากแน่น
ยูริได้ยินดังนั้นกลับยิ่งชอบใจ เธอค่อยๆ จับใบหน้าของเจสสิก้าหันมาทางเธอและก้มลงไปจูบเธออีกครั้ง กระดุมที่ค่อยๆ ถูกปลดออกทีละเม็ดๆ เผยให้เห็นเนินอกน้อยๆ ก่อนที่ยูริจะละมือจากส่วนบน เลื่อนต่ำลงไปยังส่วนล่างของเจสสิก้าแทน
“ย... ยูริอา...”
เสียงเรียกชื่อคนรักที่แสดงออกถึงความสุขที่ยูริเป็นคนมอบให้
บทรักที่แสนจะร้อนแรงของทั้งคู่ใช้เวลาไม่นานนัก ก่อนที่จะจบลงด้วยการนอนกอดกันอย่างเป็นสุข
“สวยดีนะว่าไหม ?”
ยูริพูดขึ้นพร้อมกับมองไปยังดวงอาทิตย์สีส้มที่กำลังจะลับของฟ้า พร้อมกับดึงร่างของเจสสิก้าเข้ามากอดเอาไว้อย่างอบอุ่น ก่อนที่เจสสิก้าจะพูดขึ้น
“อือ... เป็นครั้งแรกนะ ที่ชั้นได้รู้สึกมีความสุขขนาดนี้...”
“เดี๋ยวเรากลับกันดีกว่า เดี๋ยวจะมืดค่ำซะก่อน...”
ยูริพูดขึ้นก่อนที่จะหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาใส่ และค่อยๆ ลุกขึ้น ในขญะที่เจสสิก้ากำลังแต่งตัวให้เรียบร้อยตามเดิม หลังจากที่แต่งตัวกันเสร็จแล้ว พวกเธอจึงพากันเดินกลับมายังรถที่จอดเอาไว้ และขับกลับบ้านต่อไป
ท้องฟ้าที่ค่อยๆ มืดขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ท้องถนนนี้ดูปล่าวเปลี่ยวเป็นอย่างมาก มีเพียงแสงไฟจากรถของเธอเท่านั้นที่คอยส่องแสงนำทาง ไม่นานนักก็เข้าสู่เขตตัวเมือง
http://www.youtube.com/watch?v=Jaw298fAmDA&feature=related [Background Music]
ท้องฟ้าเบื้องบนที่มืดมือ กับแสงสีจากตัวเมืองที่ตัดกัน ดูช่างสวยงามยิ่งนัก
นครนิวยอร์คแห่งนี้ ถือว่าเป็นนครแห่งแสงและสีเลยก็ว่าได้ ซึ่งมันก็ดูสมกับคำล่ำลือเป็นอย่างมาก
เจสสิก้าเหม่อมองออกไปยังอาคารต่างๆ ที่ถูกประดับประดาไปด้วยแสงไฟหลากสีอย่างชื่นชม
ไม่นานนักรถก็เคลื่อนตัวมาจอดยังหน้าบ้านของยูริ ก่อนที่เธอจะค่อยๆ ถอยรถเข้าไปจอดด้านใน เมื่อจอดรถเสร็จแล้ว ทั้งเธอและเจสสิก้าต่างก็พากันเดินออกมา
ยูริเดินจูงมือคนรักขึ้นมายังชั้นสองของเธอ ยังอีกห้องนอนหนึ่ง ซึ่งกว้างกว่าห้องที่เธอใช้เก็บซ่อนอาวุธและอุปกรณ์ต่างๆ มาก
เมื่อเข้ามาถึง เธอก็ทิ้งตัวนอนลงบนเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน ก่อนที่เจสสิก้าจะค่อยๆ คลานตามเธอขึ้นมาและนอนลงข้างๆ ยูริจึงดึงตัวของเธอขึ้นมากอดเอาไว้อย่างอบอุ่น ซึ่งเจสสิก้าก็ไม่ได้ปฏิเสธต่อการกระทำของยูริเลย
“ปิดไฟก่อนสิ...”
เจสสิก้าพูดขึ้นอย่างขวยเขิน ก่อนที่ยูริจะยิ้มออกมาอย่างชอบใจและลุกขึ้นไปปิดไฟตามคำขอของคนรัก
ทันทีที่ความมือเข้าครอบงำ ยูริก็จัดการกับเหยื่อของเธอทันที
เธอค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อของเจสสิก้าออกอีกครั้ง จนเหลือแต่ร่างที่เปลือยเปล่า ซึ่งสะท้อนกับแสงจันทร์ดูช่างน่าหลงใหลยิ่งนัก เธอยิ้มออกมาบางๆ ก่อนที่จะก้มตัวลงไปจูบกับเจสสิก้าอย่างดูดดื่ม
มือขวาที่เลื่อนตำลงมาล้วงเข้าไปสัมผัสกับผ้าชิ้นบางอย่างอ่อนโยน ก่อนที่เธอจะค่อยๆ ถอดกางเกงของคนรักออกและกองเอาไว้ที่ปลายเตียง
ผิวขาวของเจสสิก้าดูช่างน่าหลงใหลยิ่งนัก ซึ่งทำให้ยูริเผลอมองดูอยู่นานเลยทีเดียว
“มัวแต่จ้องอยู่นั่นแหล่ะ !”
เจสสิก้าพูดด้วยท่าทางอายๆ พร้อมกับยกมือขึ้นมาปกปิดที่อกส่วนบนของเธอ ยูริเห็นดังนั้นจึงค่อยๆ ดึงมือของเจสสิก้าออกอย่างอ่อนโยน และก้มลงไปลิ้มรสยอดอกของคนรัก
“อะ... อา...”
เสียงครางที่บางบอกถึงความสุขของร่างบางทำให้ยูริเองก็ยากที่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเอง
ยูริเลื่อนใบหน้าขึ้นไปประกบริมฝีปากของคนรักเอาไว้อีกครั้ง
ลิ้นร้อนที่เกี่ยวกระหวัดกันในโพรงปาก ต่างก็มอบสัมผัสที่แสนหวานให้แก่กันและกัน เป็นรสจูบที่เธอไม่อยากจะแยกออกไปไหนเลย...
ซึ่งดูเหมือนกับว่าเตียงนอนที่ใช้นั้น จะไม่เพียงพอสำหรับกิจกรรมยามค่ำคืนของทั้งคู่เสียด้วยซ้ำ
เสียงครางในลำคอที่บ่งบอกถึงความสุขยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่ร่างของเจสสิก้าจะกระตุกเพราะถึงฝั่งฝัน
“ช... ชั้นรัก รักเธอนะ ย... ยูริอา...”
เจสสิก้าพูดขึ้นด้วยเสียงที่เหนื่อยหอบ ซึ่งต่างจากยูริโดยสิ้นเชิง
“ชั้นก็รักเธอสิก้า... ชั้นรักเธอ”
พูดจบเธอก็จูบกับเจสสิก้าอีกครั้งอย่างอ่อนโยน ก่อนี่ทั้งคู่จะผลอยหลับไปด้วยกันอย่างมีความสุข
ยูริที่ตื่นขึ้นมากลางดึก เพราะเธอรู้สึกติดใจกับกลุ่มคนไม่ทราบฝ่ายที่หวังจะเล่นงานเธอเมื่อตอนกลางวัน ก่อนที่เธอจะลุกขึ้นจากเตียงมาและเหลือบหันไปมองเจสสิก้าคนรักที่ยังคงหลับสนิท
เธอลุกขึ้นมาและหยุดยืนอยู่ที่ขอบหน้าต่างและมองดูอะไรต่างๆ อย่างเหม่อลอย พลันสายตาก็ไปสะดุดเข้ากับคนๆ หนึ่ง ที่ท่าทางน่าสงสัยกำลังด้อมๆ มองๆ มาทางบ้านของเธอ
ยูริฉากหลบและเอาหลังชิดกับผนังห้องเอาไว้ พร้อมกับเหลือบมองคนๆ นั้นอยู่เป็นระยะๆ
เธอเดินมาหยิบกล้องถ่ายรูปของเธอออกมา และนำเลนส์สั่งทำพิเศษสำหรับใช้งานตอนกลางคืนออกมาติดไว้ และซูมไปที่ชายคนนั้น
นั่นมัน...
ยูรินึกย้อนกลับไปถึงช่วงเมื่อตอนกลางวันในระหว่างที่เธอกำลังขับรถ ในช่วงที่รถคันสีขาวที่สวนมาและพุ่งเข้าใส่รถของเธอ คนๆ หนึ่งก็กระโดดออกจากรถไป
“ไอ้หมอนั่น !”
ยูริไม่รอช้า เธอรีบเปิดประตูออกจากห้องนอนนั้นมาและเข้าไปยังห้องประจำของเธอ
ปืนพกที่ถูกหยิบออกมาพร้อมกับใส่ปลอกเก็บเสียงอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เธอจะเดินออกมาจากบ้านพักจากทางประตูหลัง
ยูริค่อยๆ ย่องเข้าไปอย่างเงียบๆ โดยที่ชายคนนั้นไม่ทันได้ระวัง พร้อมกับเล็งปืนไปและยิงทันที
ปุ !!!!
“อะ... อุ๊บบ !!!”
ไม่ทันที่ชายคนนั้นจะได้ตะโกน ยูริก็ตรงเข้าไปปิดปากและจับล๊อคชายคนนั้นไว้อย่างรวดเร็ว
“ใครส่งแกมา !”
ยูริถามด้วยเสียงเย็น พร้อมกับตั้งท่าจะหักคอชายคนนั้น
แกร๊กกก !!!
ปืนที่จ่อเข้าบริเวณศรีษะของยูริทำให้เธอต้องชะงัก แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถหยุดเธอได้
พลั่คคคค !!!
ยูริตีศอกกลับใส่ชายคนนั้นอย่างรวดเร็วพร้อมกับจับล๊อคที่แขนแล้วบิด ก่อนที่จะเตะตัดขาและเหวี่ยงทุ่มข้ามตัวไปอย่างรวดเร็ว
กร๊อบบบบ !!!
“อะ... อั่คคค !!!”
ยูริไม่รอช้า เธอกระทืบซ้ำเข้าที่บริเวณใบหน้าของชายคนนั้นอย่างไม่ปราณี
“ใคร... ส่ง แกมา
”
เธอถามด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน สายตาแข็งกร้าวจ้องชายหนุ่มตรงหน้าอย่างไม่วางตา
“ใคร !!!”
เธอถามขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเหยียบที่มือชายคนนั้นและใช้เท้าของเธอบี้ซ้ำ
ปังงง !!!
เสียงปืนที่ดังขึ้น พร้อมกับร่างของชายหนุ่มข้างกายที่ปลิวไปตามแรงกระแทก เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ ทำให้ยูริเหลือบหันไปทางชายหนุ่มอีกคน
ปังงง !!!
กระสุนทั้ง 2 นัดถูกยิงเข้าที่กลางหัวของเป้าหมายอย่างแม่นยำ ก่อนที่หญิงสาวคนหนึ่งจะปรากฏตัวขึ้น
http://www.youtube.com/watch?v=5SywEphB8u0&feature=related [Background Music]
หญิงสาวคนนั้นยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากยูริเท่าไรนัก ก่อนที่จะแบกปืนไรเฟิลขึ้นพาดบ่า
ยูริค่อยๆ มองไล่จากส่วนขาขึ้นไปอย่างช้าๆ โดยที่ผู้หญิงคนนั้นยังคงยืนจ้องยูริอย่างไม่วางตา
หมวกและหน้ากากที่ปกปิดใบหน้าทำให้ไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่สายตาที่จ้องมายังเธอนั้น ดุดันไม่แพ้กันเลย ทั้งคู่ยืนประชันหน้ากันอยู่นาน พอสมควร
“คนที่จะฆ่าเธอได้... ต้องเป็นชั้นคนเดียวเท่านั้น ควอนยูริ...”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น