ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Harry Potter fic แปลRescued (เดร/เฮอร์)

    ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 8 การช่วยเหลือและ คืนแห่งการปรับความเข้าใจ

    • อัปเดตล่าสุด 4 เม.ย. 53


    Chapter 8 การช่วยเหลือและ คืนแห่งการปรับความเข้าใจ

     

    เสียงเคาะประตูดังขึ้น สองสามครั้งก่อนเจ้าของบ้านร่างใหญ่จะเดินจากห้องสมุดออกมาดู วิคเตอร์ค่อยๆเปิดประตูพลางชะโงกหน้าออกมาดูอย่างแปลกใจ

     

     “ว่าไงฮะ”เขาถามอย่างหวาดระแวงเมื่อสังเกตเห็นชายหญิงที่เขาไม่รู้จักยืนอยู่หน้าประตูบ้านของเขา

     

    ”ผมช่วยอะไรคุณได้บ้างไหมฮะ”วิดเตอร์ถามแต่มือที่ไข้วไว้ด้านหลังของเขากระชับจับไม้วิเศษประจำตัวของเขาไว้แน่น

     

    “อ้อค่ะ ฉันรู้จักกับเฮอร์ไมโอนี่ พวกเรามีธุระอยากจะคุยกับเธอสักหน่อยจะได้ไหมค่ะ”มาเรียถามอย่างสุภาพ

     

    ธุระอะไรวิกเตอร์ถามอย่างสงสัย เขาจ้องดูมาเรียอย่างพิจารณา

     

    ”คือฉันจะจัดงานปาร์ตี้นค่ะมันเป็นงานเล็กๆแล้วฉันเคยบอกกับเฮอร์ไมโอนี่เอาไว้แล้วด้วยเธอรับอาสาเรื่องการจัดสถานที่กับเรื่องอาหารไว้ฉันอยากจะมาคุยรายรายละเอียดกับเธอนะค่ะและเธอบอกกับฉันเองว่าให้มาคุยกันที่นี่เพราะเธอจะกลับมาที่นี่นะค่ะ”เธอกล่าวคำโกหกอย่างไหลลื่น วิกเตอร์มองหน้ามาเรียและเบลส อย่างพิจารณาในเวลานี้เขาไว้ใจใครไม่ได้เลย วิกเตอร์เหมือนวัวสันหลังหวะหวาดกลัวไปเสียทุกเรื่องและในตอนนี้ดูเขาเองก็ไม่ค่อยไว้ใจสักเท่าไหร่นัก แต่ถ้าปฎิเสธมันดูออกจะเป็นพิรุธจนเกินไป เขาแสร้งยิ้มกว้างให้กับมาเรียอย่างใจเย็น

     

    “ผมจะไปพาเธอมาหาพวกคุณเองมาดาม”เขากล่าวและจูบที่หลังมือของเธออย่างสุภาพบุรุษพึงมีต่อสตรีที่สูงวัยกว่ามาเรียแสร้งมีรอยยิ้มอย่างพอใจกลับไปให้เขาเช่นกัน

    เมื่อเขาปิดประตูมาเรียทำสีหน้ารังเกียจและป้ายมือของเธอเช็ดกับเสื้อผ้าพร้อมกับพึมพำเบาๆ

     

    น่าขยะแขยงจริงๆ  เบลสจ้องมองมารดาพร้อมยิ้มขันเล็กน้อยให้กับเธอพลางกระซิบกับแม่ของเขา

     

    เบาๆซิฮะ เดี๊ยวแผนก็แตกหรอก

     

    ประตูเปิดออกในเวลาต่อมาเฮอร์ไมโอนี่ดูเหมือนเหนื่อยอ่อนและดูเหมือนสีหน้าของเธอดูไม่ดีนัก

     

    ”มาเรีย”เธออุทานออกมาอย่างตกใจสีหน้าดูตื่นตระหนก

     

    ”ค...คุณมาทำอะไรที่นี่ค่ะ”เฮอร์ไมโอนี่มองผ่านไปยังด้านหลังของมาเรียและเห็นเบลส อยู่ไม่ห่างกันสักเท่าไหร่เฮอร์ไมโอนี่มองไปทางด้านหลังของเธอเพื่อดูวิกเตอร์อย่างหวาดกลัวว่าเขาจะยืนฟังอยู่ด้านหลังของเธอและอาจจะจับสังเกตุใบหน้าที่ตื่นตระหนกของเธอได้

     

    มาเรียมองดูสภาพของเฮอร์ไมโอนี่อย่างกังวลพลางกระซิบเบาๆกับเธอ”มันปลอดภัยไหมถ้าเราจะคุยกันที่นี่”

     

    เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าเธอเดินออกมาจากประตูและปิดประตูตามหลังเธอเบาๆ

     

    ”พวกเรามาที่นี่เพื่อพาเธอกลับไปกับพวกเรา”มาเรียกล่าว

     

    “พวกเราจะไม่ฝืนใจคุณถ้าคุณอยากจะกลับไปกับฉัน”มาเรียพูดเพิ่มขึ้นหลังจากพิจารณาแล้ว

     

    เฮอรืไมโอนี่ส่ายหัวไปมาตัวเธอสั่นเทาจนมาเรียสังเกตุเห็น

    “ฉ ฉันไม่สามารถ ไปจากเขาได้อีกแล้ว”เธอบอกกล่าวอย่างเงียบๆ 

     

    เบลสเดินตรงเข้ามาหาเธอนัยน์ตาสีครามดูโกรธจัด

    “ฟังฉันนะเกรนเจอร์ เขาเป็นตัวอันตราย และสุดท้ายแล้วเขาจะฆ่าคุณ “เบลสกระซิบด้วยความโกรธ “คุณไม่ควรยึดติดกับเขาเลยเกรนเจอร์”

     

    “เขาไม่ได้ทำอะไรผิด” เธอตอบกลับเสียงเบาแต่เสียงของเธอกลับสั่นเทาอย่างไม่แน่ใจ ความจริงเธอกลัววิกเตอร์ ครัม ต่างหากและเธอก็ไม่อยากให้ครอบครัวซาบินี่ต้องมาเดือดร้อนกับเธออีกแล้ว เธอรบกวนพวกเขามามากพอแล้ว

    “ไม่ได้ผิด”เบลสกระซิบคุกคาม”เธอพูดออกมาได้ยังไง”

     

    มาเรียตัดบทลูกชาย “เฮอร์ไมโอนี่ ฉันรู้ว่ามันไม่ง่ายที่จะออกไปจากใครบางคนที่ทำให้คุณมีบาดแผลแต่คุณก็ไม่ควรที่จะได้รับจากสิ่งที่เขาทำกับคุณ”เธอหยุด”คุณมากับเราหรือคุณจะอยู่ที่นี่กับเขาสิ่งนั้นคือสิงที่คุณต้องเลือกแต่ฉันพนันกับคุณได้ว่าคุณจะเลือกสิ่งที่ปลอดภัยที่สุด ใช่ไหมที่รัก”

     

    เฮอร์ไมโอนี่กลืนน้ำลายอย่างยากลำบากและเธอก็ตัดสินใจมันในทันทีที่มาเรียพูดจบใช่ เธอจะต้องเลือกสิ่งที่ปลอดภัยที่สุดและการอยู่กับวิกเตอร์มันไม่ใช่สิ่งที่ปลอดภัยสำหรับเธอเลยแม้แต่น้อย เขาไม่ได้สำนึกในเหตุการณ์ที่ผ่านมาเลย เขาได้แต่โทษว่าเป็นความผิดของเธอเท่านั้นและแผนการอื่นๆอีกที่แม่ของเขาวางแผนเอาไว้สิ่งนั้นมันทำให้เธอยากที่จะยอมรับมันได้ เธอพยักหน้าเงียบๆอย่างยอมจำนน

     

    ”เขาเอาไม้กายสิทธิ์?ของฉันไป”เธอยอมรับอย่างหมดหนทาง”เขากักฉันไม่ยอมให้ฉันออกไปจากที่นี่”

     

    มาเรียสบตากับเบลส มาเรียหันไปดูรอบๆอย่างใจเย็นในบริเวณนั้นปราศจากคนอื่นนอกจากพวกเขาเป็นการดีที่จะใช้จังหวะนี้หลบหนีโดยใช้ไม้วิเศษของพวกเขา

     

    “ไม่มีปัญหา พวกเราจะกลับไปกับคุณ  มาตอนนี้เลยพวกเราจะออกไปจากที่นี่”มาเรียรีบเร่ง แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ทำอะไรต่อไปเสียงห้าวๆของชายใจโฉดก็ดังออกมาจากข้างในบ้านเสียก่อน

     

    “เฮอร์มี่ นินนี่ คุณน่าจะเชิญเพื่อนของคุณเข้ามาข้างในนะ”วิกเตอร์ ถามและออกมาจากประตู

    พวกเขาทั้งหมดรีบทำตัวปกติทันที

     

    ”แน่นอนค่ะ มาเรีย เข้าไปข้างในกันเถอะ”เธอกล่าวโดยไม่ทำให้เสียงแตกพร่า แต่หัวใจของเธอกลับเต้นไม่เป็นจังหวะแล้วในตอนนี้พวกเขาทั้งหมดตัดสินใจเข้าไปด้านในตามคำเชิญของเจ้าบ้านที่ยืนอยู่ด้านหลังเฮอร์ไมโอนี่และจ้องเขม็งมาทางพวกเขา มาเรียพยักหน้าให้กับเบลสเหมือนรู้กัน

     

    ”พวกเรามีชาอยู่บ้างด้านใน”เฮอร์ไมโอนี่นำพวกเขาผ่านไปยังบ้านที่โอ่โถง

     

    “ฉันกลัวว่าพวกเราจะอยู่ได้ไม่นานนักที่รักฉันเพียงแต่แวะมาคุยเรื่องรายละเอียดถึงงานเลี้ยงกลางวันในสัปดาห์นี้เธอก็เห็นว่าฉันจะต้องพาเบลสไปซื้อของขวัญสำหรับเพื่อนสุภาพสตรีคนล่าสุดซึ่งเขาไม่มีพรสวรรค์ในการเลือกซื้อของขวัญเลย”มาเรียหัวเราะราวเสียงดนตรีขณะที่พวกเขานั่งลงโดยมีวิกเตอร์นั่งลงข้างๆเฮอร์ไมโอนี่ เขาวางมือของเขาบนเข่าของเฮอร์ไมโอนี่และคลึงมันเบาๆอย่างเอาใจเธอ

     

    "ถ้าสำหรับวิกเตอร์มักจะให้ของขวัญเป็นพวกของมีค่า จริงไหมค่ะที่รัก"เธอกล่าวคำโกหกและชำเลืองมองไปที่คู่หมั้นของเธอ เธอรู้สึกว่าเขาจ้องมองเธออยู่และยิ้มให้กับเธอ ภายในใจของเธอเหมือนอยากจะวิ่งออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

     

     "ฉันพนันได้เลยว่าต้องเป็นเขา"มาเรียผายมือไปที่วิกเตอร์และกล่าวเสียงหวานดูราวกับว่าเธอกำลังชื่นชมอยู่กับคู่รักแห่งทศวรรษในขณะนี้ 

     

    "เอาล่ะจ๊ะเรื่องรายละเอียดของงาน ฉันคิดว่าวันที่ดีเยี่ยมสำหรับงานเลี้ยงควรจะเป็นวันพฤหัสนี้ ที่ร้านหม้อใหญ่รั่วเที่ยงวัน ใช่ไหมจ๊ะเฮอร์ไมโอนี่"เธอถามเฮอร์ไมโอนี่และจ้องเขม็งไปที่เธอเฮอร์ไมโอนี่พยักหน้ารับอย่างงงๆ

     

    โอ้ว เธอเลือกสถานที่ได้เหมาะเหม็งดีจริง ขอบใจมากนะจ๊ะ อีกอย่างนะเฮอร์ไมโอนี่ในวันงานคุณจะต้องเล่าเรื่องเกี่ยวกับแฟนหนุ่มที่หล่อเหลาของคุณให้ฉันฟังด้วยล่ะ"มาเรียแสร้งทำเสียงอ่อนเสียงหวานเอาใจวิกเตอร์เพื่อทำให้เขาคลายความหวาดระแวงลงและมันดูเหมือนจะได้ผล วิกเตอร์ยิ้มกว้างตลอดเวลาเมื่อได้คุยกับมาเรีย

     

    ถ้าไม่ใช่สถานการณ์ที่น่าหวาดเสียวแบบนี้ เฮอร์ไมโอนี่คงจะนั่งหัวเราะจนตัวโยนกับการแสดงละครที่สมจริงของมาเรียเป็นแน่

    “ตกลงค่ะมาเรีย”เฮอร์ไมโอนี่ตกลง

     

    คู่หมั้นครับ คุณนายไม่ใช่แฟน”วิกเตอร์แก้ไขให้ถูกต้องเขายิ้มลงบนฝีปากของเขาพร้อมพูดเสริมอีกนิดและผมกับเฮอร์ไมโอนี่คงจะแต่งงานกันในอีกวันสองวันนี้เขาจ้องมองเฮอร์ไมโอนี่และยิ้มให้อย่างอ่อนหวานที่สุดเท่าที่จะทำได้

     

    “โอ้วจริงเหรอ ช่างน่าตื่นเต้นจริงๆ “เธอแกล้งตื่นเต้นและดีใจไปกับเฮอร์ไมโอนี่ แต่เฮอร์ไมโอนี่กลับยิ้มเล็กน้อยสงวนท่าที

     

    วิกเตอร์มองไปที่พวกเขาอย่างไม่มีข้อสงสัยใดๆพร้อมทั้งยกคิ้วสูงไปที่พฤติกรรมของเฮอร์ไมโอนี่ เธอรู้สึกใบหน้าของเธอเหมือนไหม้เกรียมกับการจ้องมองของเขา มันทำให้หัวใจของเธอเต้นรัวเร็วอย่างหวาดหวั่น โอ้ เบอลิน เขาช่างเป็นผู้ชายที่น่ากลัวจริงๆ

     

    เบลสมองผ่านไปที่นาฬิกาของเขาที่กระเป๋ากางเกง"มันได้เวลาที่พวกเราจะต้องไปกันแล้ว แม่พวกเรามีเวลาจำกัด"เบลสพูดอย่างมีเลศนัยให้กับแม่ของเขา มาเรียก้มลงมองดูนาฬิกาข้อมือของเธออีกครั้งก่อนพยักหน้า

     

    "ตกลงจ๊ะ ฉันขอโทษด้วยนะจ๊ะที่รัก แต่ฉันคงจะได้เห็นคุณในวันพฤหัสนี้นะ"เธอกล่าวพร้อมรอยยิ้มหวานบนใบหน้าของเธอ"คุณจะออกเดินไปส่งพวกเราไหม"เธอถามเฮอร์ไมโอนี่ ทำเสียงให้เป็นปกติที่สุด

     

    "แน่นอนฮะ” วิคเตอร์ยืนยัน"ฉันจะอยู่ในห้องหนังสือนะ เฮอมีนินนี่"เขากล่าวและออกจากห้องไป

     

    วิกเตอร์ควรจะปล่อยให้เธอหายใจบ้างและเขาเองก็ไม่คิดว่าเธอจะหลบหนีเขาไปอีกแล้ว โดยไม่ทันได้เฉลียวใจ วิกเตอร์เดินเข้าห้องหนังสือโดยไม่ได้หันกลับมามองพวกเขาอีกเลย

     

    พวกเขาเดินมาที่ประตูและทำเป็นว่ากำลังคุยกันและอย่างรวดเร็วเฮอร์ไมโอนี่ปิดประตูด้านหลังของเธอ เธอถอนหายใจออกมา  และเอามือของมาเรียโอบไว้ข้างๆเหมือนปกป้องเธอจากการหนีออกมาจากวิกเตอร์พวกเขาใช้เวทมนต์โดยใช้ไม้วิเศษของเบลสและหายตัวออกมา อย่างง่ายดาย

     

    พวกเขามาถึงคฤหาสน์ซาบินี่ในเวลาสองสามนาทีต่อมาพวกเขายืนอยู่ชั่วครู่ในความเงียบและถอนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก

     

    เฮอร์ไมโอนี่ยังคงจับมือของมาเรียและถอนลมหายใจอย่างหนัก เธอควบคุมน้ำตาโดยการสูดอากาศเข้าเต็มปอด

     

    ”ขอบคุณมากค่ะ”เธอเริ่มพูดด้วยตัวเองได้แล้ว โดยที่มาเรียกอดเธอไว้แน่น

     

    มาเรียยิ้มและกอดหญิงสาวที่กลับมา ถูนวดไปมาบนหลังของเธอในขณะที่มีเสียงสะอื้นบนบ่าของเธอ

    "มันไม่เป็นไรแล้วที่รักคุณปลอดภัยแล้ว ตอนนี้"

     

    เบลสถอนหายใจเมื่อเขาได้ยินเดรโกเข้ามาในห้อง

    "พวกคุณกลับมาแล้วงั้นเหรอ เป็นไงบ้าง"เขากล่าว  และไม่ทันสังเกตเห็นเฮอร์ไมโอนี่ที่ถูกมาเรียกอดไว้แนบอก

     

    “เราช่วยเธอออกมาได้สำเร็จแล้ว เธออยู่นี่ไง”มาเรียกล่าวและเดรโกก็เห็นเฮอร์ไมโอนี่ที่ก้มหน้าไม่ยอมสบตาเขา  เดรโกหันมามองเธอเขม็ง เขากำลังคิดว่า ไอ้เลวนั่นมันทำกับเธอไว้มากมาย แต่เธอก็ยังคงกลับไปหาเขาอย่างรวดเร็วความโกรธเกิดขึ้นมาภายในใจของเขา จนเขาเองไม่สามารถระงับอารมณ์อันร้อนแรงของเขาไว้ได้

     

    "เกรนเจอร์"เขาตะโกนและเธอสะดุ้งอย่างตกใจ"คุณคิดอะไรของคุณที่กลับไปหาไอ้เลวนั่น"เขาคุกคามและเดินตรงไปหาเธอก่อนกระชากร่างอันปวกปียกของเธอออกจากอ้อมกอดของมาเรียเธอพยายามดึงตัวเธอออกมาจากเดรโกและเช็ดน้ำตาของเธอจากวงหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด

     

    "ฉัน นไม่รู้"เธอกล่าวอย่างเอ่อนแรงพลางสะอื้นฮักตัวโยนอย่างน่าสงสาร

    "มันงี่เง่ามากเลยที่คุณกลับไปหาเขา คุณไม่เข้าใจหรือไงว่ามาเรียเป็นห่วงคุณแค่ไหน"

     

    “ดังนั้นคุณควรอยู่ที่นี่”เบลสพูดตัดบทโดยไม่พยายามให้เดรโกพูดอะไรมากไปกว่านั้นเพราะเขารู้ดีว่าเดรโกในตอนนี้มีโทสะที่รุนแรงแค่ไหนแต่ดูท่าทางเดรโกไม่ยอมหยุดแค่นั้น

     

    “ใช่  พวกเราวิตกกับคุณมากแค่ไหนคุณรู้ไหม เขาฆ่าคุณได้นะ”เดรโกยังตะโกนด้วยความขุ่นเคืองใจ

     

    “ฉันขอโทษ”เธอตะโกนไปที่เขา”ฉันเสียใจ ตกลงไหม ฉันโกรธ และกลัว ฉันคิดว่า”

     

    “คิดอะไรเกรนเจอร์ คิดว่าเขาจะเปลี่ยนเหตุการณ์ในวันนั้นได้ คิดว่าเขาจะไม่ทำให้คุณเจ็บอีกงั้น

    เหรอ ”เดรโกหัวเราะเยาะ”ฉันพนันได้ว่าเขาทำให้คุณเจ็บอีกแน่นอนใช่ไหมและเขาก็สนุกกับสิ่งที่เขาได้ทำมันด้วย”เขาพูดอย่างเดือดดาล

     

    เฮอร์ไมโอนี่ย่นหลังด้วยความหวาดกลัวและมาเรียดึงแขนเธอมาโอบกอดเพื่อปกป้องเธอ

     

    “เดรโก มัลฟอย”มาเรียว่ากล่าว”เธอผ่านอะไรมาเพียงพอแล้ว”ดังนั้น มาเรียจึงพาเฮอร์ไมโอนี่ออกห่างจากพวกเขาและพาเข้าไปในห้องเธอ

     

    “เดรโก นายอย่าไปลงที่เธอได้ไหมเธอผ่านมันมามากเพียงพอแล้วนายมาที่นี่และตะโกนใส่เธอ  นายมันผู้ชายงี่เง่า “ เบลสกล่าว และเดินออกไปจากเดรโกตามลำพังอย่างหงุดหงิด

     

    เดรโกถอนหายใจเขาสางผมสีบลอนส์ผ่านมือของเขา มันไม่น่าจะเกิดขึ้นกับเธอแต่เบลสและมาเรียพูดถุก เขาควบคุมอารมณ์ไม่ได้  เขาไม่ควรพูดสิ่งเหล่านั้นกับเธอ ถึงแม้เขาจะโกรธเธอที่ตัดสินใจโง่ๆแบบนั้นก็ตาม เขาทำมากเกินไป

    @@@@@@@@@@@@

     

    เฮอร์ไมโอนี่นอนอยู่บนเตียงของเธอ เธอใช้มือของเธอปืดตาตัวเองเพื่อหยุดความคิดต่างๆที่มารบกวนการนอนของเธอ มันเป็นเวลาตีสี่กว่าๆ ซึ่งเป็นช่วงเวลาการพักผ่อน

    เธอครางและกลิ้งตัวไปมา  ในขณะที่เธอเพิกเฉยต่อร่างกายที่เจ็บปวดของเธอ

     

    มาสิ เฮอร์ไมโอนี่นอนหลับได้แล้วเธอพยายามข่มตาให้หลับ แต่มันยากเสียเหลือเกินเมื่อสมองของเธอไม่ยอมทำตามที่ใจเธอต้องการดังนั้นเธอจึงตระหนักได้ว่าการนอนไม่ได้สามารถเอาชนะทุกสิ่งทุกอย่างได้

     

    ก็ได้เฮอร์ไมโอนี่ดึงตัวเธอและกล้ามเนื้อที่ปวดระบมออกมาจากเตึยง

     

    เธอเปิดประตูออกไป และแอบมองไปตามทางเดินระเบียงที่กว้างขวาง มันว่างเปล่า และมืดสนิทเฮอร์ไมโอนี่สบถเบาๆ เธอหวังว่ามาเรียคงจะยังคงพักผ่อนอยู่ โชคไม่ดีที่เธอไม่มีไม้กายสิทธ์เพื่อจุดไฟนำทางตามทางเดินที่มืดมิดแบบนี้เธอหวังว่าเธอจะออกไปเดินเล่นรอบๆโดยไม่สร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นจากการเดินเหมือนคนตาบอด

     

    โอ้ว ดีเลยเธอกระซิบกับตัวเธอเอง การเดินชนเล็กๆน้อยๆคงไม่ถึงกับฆ่าฉันได้หรอกเธอพยายามทำตัวเองให้สงบในขณะที่เธอปิดประตูด้านหลังของเธอลงและค่อยๆเดินออกมายังระเบียงทางเดินที่เย็นเฉียบและมืดมิดนั้น

     

    ความรู้สึกเย็นยะเยือกอยู่รอบๆฝ่ามือของเธอเฮอร์ไมโอนี่พยายามเดินคลำทางที่มืดมิดเพื่อหาบันไดและเธอก็พบมันเธอเดินลงมาด้านล่างอย่างช้าๆร่างกายของเธอหนาวเย็นจากข้างนอกเข้าสู่ภายใน

     

    ที่กลางบันไดเธอจับราวบันไดไว้แน่นในขณะที่เธอก้าวเท้าเดินอย่างระมัดระวัง ในขณะนั้นมีแสงสว่างวาบเป็นจุดเล็กๆอยู่ที่ชั้นบนมันค่อยๆเคลื่อนแสงตรงมายังเธอ

     

    เกรนเจอร์มีเสียงร้องถามอย่างมึนงง เฮอร์ไมโอนี่มองฝ่าไปยังเบื้องหลังไม้กายสิทธิ์ที่เป็นต้นกำเนิดของแสงสว่างนั้น

     

    คุณตื่นขึ้นมาทำอะไรเดรโกถามในขณะที่ยืนอยู่เหนือบันไดและกำลังดูเธอที่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่ตรงบันไดชั้นล่างต่อจากที่เขายืน

     

    ฉัน เออ ฉันนอนไม่หลับเธอกล่าวอย่างอ่อนล้าก่อนจะเป็นน้ำเสียงที่เย็นชาใส่เขา เกี่ยวอะไรกับคุณ มัลฟอย แล้วทำไมคุณไม่กลับบ้านไปซะล่ะ

     

    เขาเดินลงบันไดมาหยุดอยู่ที่เธอก่อนที่จะมองเธอไม่มาด้วยกันเหรอเขาพยักหน้าลงไปยังบันไดด้านล่างและเดินวางมาดยักคิ้วให้กับเธอ

     

    เธอยังคงยืนตัวแข็งในขณะที่เขายืนค้ำตัวเธอก็คงจะดีนะเธอพูดตะกุกตะกัก และพยายามบังคับตัวเองให้เดินลงบันไดมา

     

    เกรนเจอร์ ฉันจะไม่ทำร้ายคุณหรอก  คุณไม่ต้องกลัวฉัน หรอกน่าเขาแกล้งพูดเล่นกับเธอเพื่อทำลายความอึดอัดที่เกิดขึ้นกับเขาและเธอ ฉันไม่ใช่สัตว์ประหลาดนะ

     

    เธอหัวเราะเล็กน้อยกับคำพูดของเขาแล้วถ้านายเป็นนายควรเป็นสัตว์ประหลาดประเภทไหนกันล่ะ เฮอร์ไมโฮนี่ถามกลับในโทนเสียงที่เริ่มผ่อนคลายและนั่นมันทำให้เดรโกรู้สึกดีขึ้น

     

    เขายกคิ้วขึ้นสูง ขณะก้าวเดิน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความขบขันคุณจะต้องค้นพบด้วยตัวคุณเองแล้วล่ะเกรนเจอร์เดรโกเล่นสำนวน

     

    เธอกรอกตาของเธอไปมากับคำพูดเจ้าเล่ร์ของเขาเดรโกนำเธอไปยังครัวซึ่งพวกเขาได้เปิดไฟบางส่วนและนั่งลงด้วยกันที่โต๊ะ

     

    อยากได้ช๊อกโกแลตร้อนไหมเธอถาม

     

    ก็ดีเขากล่าวอยางสุภาพ และพยายามหาคำพูดเพื่อเตรียมจะพูดกับเธอ เขามองดูเธอที่ทำช๊อกโกแลตร้อนด้วยตัวของเธอเองโดยไม่ใช้เวทมนต์ซึ่งมันทำให้เขาแปลกใจ

     

    เกรนเจอร์ ทำไมคุณทำเครื่องดื่มนั่นแบบพวกมักเกิ้ลเขาทำกันล่ะเขาถามอย่างสงสัย

     

    นายไม่เข้าใจมันหรอก มัลฟอย ดังนั้นหยุดบ่นเสียทีเธอพูดเสียงแหลมเขาหัวเราะเบาๆฉันไม่ได้บ่นเกรนเจอร์ฉันเพียงแต่ต้องการรู้ว่าทำไม

     

    เฮอร์ไมโอนี่หันมาเผชิญหน้ากับเขาและมองเขาถ้าคุณอยากรู้ว่าทำไมฉันจะบอกให้ก็ได้ฉันทำเหมือนพวกมักเกิ้ลเพราะว่ามันทำให้ฉันได้เคลื่อนย้ายตัวเองและฉันก็จะได้ไม่ลืมมรดกที่ฉันได้รับมาไม่ว่าคุณจะพูดว่ามันไม่ดีสักแค่ไหนก็ตาม

     

    คิ้วของเขายกขึ้นสูงพระเจ้าฉันไม่ได้หมายความแบบนั้นฉันเพียงแค่อยากรู้เท่านั้น

     

    เธอหันหลังกลับดังนั้นเขาถึงไม่เห็นแก้มที่แดงของเธอเมื่อเธอตระหนักถึงเรื่องบางอย่างที่เกิดขึ้นที่บ้านของวิกเตอร์

     

    และฉันก็ไม่มีไม้กายสิทธิ์ในตอนนี้ด้วยเธอบ่นเบาๆแต่เขาก็ยังคงได้ยิน

    ทำไม แล้วไม้กายสิทธิ์ของคุณอยู่ที่ไหน

     

    เธอถอนหายใจในขณะที่เธอเทช๊อกโกแลคลงไปยังแก้วมันอยู่ที่วิกเตอร์เธอกล่าวอย่างคลุมเครือขณะที่ขากรรไกรเธอค้างแน่นเมื่อเธอคิดถึงชั่วโมงที่เจ็บปวด เธอไม่สามารถใช้ไม้กายสิทธิ์หนีจากเขาได้ความทรงจำมันทำให้เธอร้องไห้ออกมาเต็มใบหน้าและมันทำให้เข่าของเฮอร์ไมโอนี่อ่อนแรงในความโหดร้ายที่เกิดขึ้น

     

    เดรโกเห็นเธอคว้าจับโต๊ะและกอดตัวเองแน่น เขาก้าวเท้าของเขามายืนอยู่ข้างหลังเธอ และวางมือบนไหล่ของเธอเพื่อปลอบโยนเกรนเจอร์ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า

     

    เธอเบี่ยงตัวออกจากมือของเขาราวกับแตะต้องของร้อนอย่าแตะต้องฉันเธอเตือน และเบือนหน้าหนีห่างจากเขา

     

    ฉันเสียใจ ฉันไม่ได้ตั้งใจสะกิดแผลในใจของคุณเขาพึมพำในขณะที่เธอผสมช๊อกโกแลตร้อนอีกครั้งหนึ่ง

     

    แล้วมันคงจะดีขึ้นเธอสูดลมหายใจลึกๆและหันหน้ามาหาเขาฉันขอโทษนะเธอเช็ดน้ำตาออกไปฉันเปิดเผยไปหน่อยเธอยอมรับและหัวเราะเล็กน้อยฉันไม่ควรจะร้องไห้เลย เธอปล่อยเสียงสะอึกสะอื้นเบาๆ

     

    ไม่เกรนเจอiร์ มันถูกแล้วที่คุณร้องไห้คุณสามารถร้องไห้ได้ ถ้ามันเกิดกับฉันฉันเองก็คงทำแบบเดียวกับคุณเขากล่าวตามจริงและในวันนี้ เมื่อคุณอยู่ที่นี่ ฉันไม่ควรพูดอะไรขึ้นมาอีก ฉันหมายถึง ฉันไม่ได้ตั้งใจคำพูดของเขาหายไปในลำคอในขณะที่เธอนั่งลงบนพื้นและเริ่มร้องไห้เธอกอดหัวเข่าของเธอ มัลฟอยเหมือนถูกสาปแช่ง เมอลิน ฉันมันโง่เองฉันทำให้คุณร้องไห้อีกแล้วกับคำพูดอันบ้าบอของฉัน

     

    ไม่...มันไม่ใช่ เฮอร์ไมโอนี่พยายามพูดแต่ก็ไม่สามารถพูดออกมาได้

     

    ฉันน่าจะหาอะไรมาอุดปากของฉันไว้เพื่อฉันจะได้ไม่ต้องพูดอะไรเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายอีกมองดูในสิ่งที่ฉันทำลงไปสิกับคำพูดโง่ๆของฉันฉันเคยทำให้เธอวิ่งหนีกลับไปหาเขาและตอนนี้ฉันก็ทำให้คุณร้องไห้อีกอย่างน้อยก็สองครั้ง

     

    มัลฟอยเธอพูดด้วยเสียงอันดังเขาหยุดในทันทีและมองไปที่เธอที่มีใบหน้าที่บึ้งตึงดูน่าขัน

     

    ฉันขอโทษเขาบอกเธอสีหน้าเขาแสดงความขวยเขิน

     

    ช่วยฉันทีฉันจะได้ทำช๊อกโกแลกของพวกเราให้เสร็จเสียทีเดรโกทำตามคำแนะนำและด้วยแขนอันแข็งแรงของเขาได้ดึงเธอจากพื้นเธอสะดุดและเข้าไปหายังอกของเขาเต็มแรงเขาจับเธอไว้มั่นและดูอ่อนโยน

     

    ฉันขอโทษเธอกล่าวแล้วดึงตัวเธอออกมาจากการช่วยเหลือของเขาเธอหันกลับไปที่เตาและเทช๊อกโกแลกร้อนออกจากเตาและเทใส่แก้วสองถ้วยเธอวางไปที่โต๊ะในขณะที่เขานั่งลงขอบคุณเขากล่าวอย่างตะขิดตะขวงใจ

     

    เธอพยักหน้าและนั่งลงพร้อมจิบเครื่องดื่มร้อนๆที่อยู่ตรงหน้าเธอมัลฟอยคุณยังไม่ได้ตอบคำถามของฉันเลยนะ ทำไมคุณถึงไม่กลับบ้านล่ะเธอถามอย่างใจเย็นในขณะที่เขาจิบช๊อกโกแลตร้อน

    เขาไม่แสดงอาการใดๆขณะที่ตอบมีเรื่องยุ่งๆที่บ้านนิดหน่อย

    เรื่องยุ่งเหรอเธอทวนคำและนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด

    เดรโกยิ้มใช่เกรนเจอร์เรื่องยุ่งยากเขากล่าว คุณอย่าได้วิตกเกี่ยวกับเรื่องไม่เป็นเรื่องเลยเขายิ้มเ

    เธอถอนหายใจคุณบอกฉันได้นะฉันไม่บอกใครหรอกเธอกระซิบกระซาบ

     

    ไม่เขายิ้มไปที่เธอแม้ว่าสิ่งนั้นไม่ได้เป็นอันตรายอะไร แต่เขาก็ไม่อยากให้เธอรู้ เขาอยากจะเก็บมันไว้คนเดียว เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่นวกับเธอและเขาไม่อยากให้เธอพลอยกลุ้มใจไปกับเขาด้วย

     

    ได้โปรดเธอขอร้อง และทำตาละห้อย

    เขายิ้มก็ได้เขากล่าวเธอนี่เป็นตัวจุ้นประจำบ้านเลยนะเขาเคลื่อนมาใกล้เธอและพูดคุยกันเหมือนกระซิบ

     

    ใช่ นายจะว่าฉันอย่างงั้นก็ได้ แต่เรื่องอะไรเหรอเธอพูดเหมือนกระหายอยากรู้

    ที่บ้านของฉันเก็บเหล่าบรรดาผู้หญิงไว้ที่หอนอนพวกเธอคิดจะไล่จับฉัน

    เธอมองมาที่เขาอย่างสงสัยก่อนที่เธอจะยิ้มบนใบหน้าและหัวเราะออกมาอย่างยั้งไม่อยู่

     

    "ความเป็นจริงคุณเป็นพวกรักร่วมเพศอย่างงั้นเหรอ ถึงไม่ได้สนใจสาวๆน่ะ "เธอถามและยังคงหัวเราะอยุ่"ดูเหมือนว่าคุณจะวิตกกังวลกับเรื่องนี้นะ ซึ่งฉันดูแล้วคนอย่างมัลฟอยไม่น่าจะหนีผู้หญิงนี่นา "เธอหัวเราะอีกครั้ง

     

    เดรโกยิ้มและยังคงอยู่ในท่าเดิมในขณะที่เธอพยายามที่จะควบคุมการหัวเราะและนั่งอยู่บนเก้าอี้ ใบหน้าของเธอแดงและผมหลุดลุ่ย เขาเข้ามาใกล้เธออีกครั้ง

    คุณอยากรู้ความจริงเหรอเธอพยักหน้าและควบคุมไม่ให้ตัวเองหัวเราะออกมา

     

    มีนางจิ้งจอกสาวๆอยู่ที่บ้านของฉัน นั่นคือความจริงและเธอพยายามที่จะแต่งงานกับฉัน

     

    เฮอร์ไมโอนี่เลิกคิ้วเล็กน้อยจริงๆนะเหรอ แล้วมันยุ่งยากตรงไหน คุณเพียงแค่ตอบปฎิเสธก็แค่นั้น ทำไมต้องปิดเป็นความลับมากมายด้วยล่ะ

    เดรโกหัวเราะ "มันก็ไม่ถึงกับเลวร้ายเสียทีเดียวหรอก ก็แค่ผู้หญิง พวกเธอเป็นผู้หญิงเจ้าเสน่ห์มันทำให้ฉันพยายามเลี่ยงพวกเธอ เพราะฉันหวาดกลัวต่อผู้หญิงแบบนี้"เขาพูดและมองเธออย่างรำคาญ"ดังนั้นฉันจึงมาที่นี่เพื่อหลบพวกเธอและแม่ของฉัน ถ้าจะสังเกตให้ดีนะเกรนเจอร์เธอจะเห็นนกฮูกอินทรีตัวใหญ่ส่งมาหาฉันเป็นประจำ นั่นน่ะเป็นนกฮูกจากแม่ของฉันเอง ซึ่งฉันก็มักจะแกล้งทำเมินเฉยต่อมันเสมอๆ"เขากล่าวอย่างเบื่อหน่าย

     

    พวกเธอไม่ดียังไงเฮอร์ไมโอนี่ถามรู้สึกโกรธเคืองแทนเด็กผู้หญิงเหล่านั้นที่เดรโกทำเหมือนไม่สนใจพวกเธอ

     

    ไม่มีอะไรที่ไม่ดีเกี่ยวกับตัวเธอ ขนาดว่าผู้หญิงที่ดีอย่างแพนซี่ฉันก็ยังไม่สามารถที่จะแต่งงานกับเธอได้ นับประสาอะไรกับคนอื่นเขาอธิบาย

     

    เธอย่นจมูกของเธอไปที่เขาความจริงแล้วผู้หญิงพวกนั้นแทบจะอยู่แทบเท้าของคุณด้วยซ้ำไป  ที่คุณวิ่งหนีพวกเธอมาเพราะว่าคุณไม่ต้องการที่จะรู้จักพวกเธอต่างหากเฮอร์ไมโอนี่พูดเธอยังคงโกรธเคืองแทนผู้หญิงเหล่านั้นอยู่

     

    "ฉันรู้ว่าคุณโกรธแทนพวกผู้หญิงพวกนั้น"เขากล่าวใบหน้าดูเหมือนสบายใจในขณะที่เขาดื่มเครื่องดื่มของเขารวดเดียวหมด

     

    เธอจ้องมองเขาอย่างเกลียดชังในความประพฤติของเขาที่มองเห็นผู้หญิงไร้ค่าคุณมันน่ารังเกลียดสิ้นดี มัลฟอยและเธอก็ทิ้งเขาไว้ในครัว โดยที่เขากรอกตาไปมาอย่างเหนื่อยใจ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×