คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : MINICOOPER:)* CHAPTER 6
MINICOOPER:)* CHAPTER 6
(((Good morning Good morning)))
(((Good morning Good morning)))
(((Good morning Good morning)))
“โว้ย! ตื่นแล้วโว้ยยย ไอ้นาฬิกาเฮงซวย”
(((Good morning Good morning)))
เพล้ง!!!!
“ดีแก หุบปากไปซะได้ก็ดี คนจะได้นอนต่อ” เสียงบ่นโอดครวญร้องขึ้นทันทีที่นาฬิกาเจ้ากรรมได้ร้องปลุก แต่ก็เหมือนว่ามีนาฬิกาปลุกไว้ก็จะช่วยไม่ได้ซักเท่าไหร่ เพราะยังไงซะตื่นมาแล้ว ก็ยังคดตัวลงไปนอนต่ออยู่ดี
ร่างบางหดตัวเข้าไปในผ้าห่มอย่างเคย หวังจะให้ความหนาของมันช่วยบังแสงแดดยามเช้าที่สาดส่องเข้ามาให้ห้องนอนได้บ้าง แต่เมื่อพลิกตัวกลับเข้าไปในผ้าห่มนั้น กลับทำให้ร่างบางสะดุงตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เพราะร่างกายอันบอบบางของเค้าในได้ไปสัมผัสกับกล้ามแขนแข็งแรงของใครก็ไม่รู้?? ซึ่งไม่คุ้นมาก่อน
“เฮ้ย! ใครว่ะ ไอ้ฮันหรอ”
“อื้อออ”
“ไอ้ฮันก็ไม่น่าใช่ แล้วมันเป็นใครว่ะ??” เสียงบ่นกับตัวเองนั้นดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แค่เสียงบ่น เพราะมันไปกระตุ้นใครบางคนที่นอนอยู่ข้างๆได้เหมือนกัน
“อรุณสวัสดิ์ครับ คุณเจ้าของบ้าน^^”
“O0O...นาย เอ่อ... นายเป็นใครอ่ะ”
“^^ ผม ก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันครับ ว่าตัวเองเป็นใคร”
“แล้วนาย! นายมาอยู่ที่นี้ได้ไงอ่ะ ออกไป๊! ออกไปจากห้องของฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ!!!!”
“อ้าวว?? คุณจะไล่ผมทำไมอ่ะครับ ในเมื่อเมื่อคืนนี้อ่ะ คุณเป็นแบกผมขึ้นมาเองนะ”
“เมื่อคืนนี้หรอ==’’ ของนึกก่อน...........อ่อ....นายที่ความจำเสื่อมใช่มั้ย”
“ผมไม่รู้ครับ ไม่รู้อะไรทั้งสินเลย^^”
“ไม่ไม่ไม่ไม่ แล้วนายขึ้นมานอนบนเตียงนี้ได้ยังไงห๊ะ!!!! ใครอนุญาตนายไม่ทราบ”
“ก็คุณบอกให้ผมหาที่นอนเองเมื่อคืนนี้ไง ผมก็เลยคิดว่าคุณอนุญาต ก็เลยขึ้นมานอน”
“.....==3333 ฮึ! ยังไงก็แล้วแต่ ลุกออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
“ครับ^^ ลุกออกไปก็ได้ครับ” ถึงแม้ว่าร่างสูงจะไม่ได้ทำอะไรฮีชอลเลยซักนิดเดียว แต่ที่รู้สึกก็คือ หมั้นไส้! ไม่ว่าจะเป็นรอยยิ้มที่ดูดี(?) ท่าท่างที่ดูมีภูมิฐานนั้นอีก มันช่างสร้างความหงุดหงิดและหมั้นไส้แก่คิม ฮีชอลผู้นี้เป็นอย่างมาก
(((Rrrrrrrrrrrrr Rrrrrrrrrrrrrr)))
“ยอโบเซโย ใครว่ะ! โทรมาแต่เช้าเลย”
[นี๊! ฮีชอลแกคิดจะรับโทรศัพท์ดีๆเหมือนคนอื่นได้มั้ย ห๊ะ!!!]
“โว้ย! แล้วแกเป็นใครว่ะ โทรมาปลุกซะแต่เช้าเลย”
[ฉันเป็นแม่แกไง!!!! โทรมาปลุกไม่ได้หรอห๊ะ]
“อ้าววว?? (ซวยแล้วกุ) เอ่อ...ออมม่างี๊>< มีเรื่องอะไรหรอครับ โทรมาหาแต่เช้าเลย”
[แหมมมมมม เปลี่ยนโทนเสียงเชียวนะ]
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า มันก็นิดนึงซิครับออมม่า ว่าแต่มีเรื่องอะไรรึเปล่าครับ??”
ร่างบางเดินอย่างสง่าเข้มาในห้องเสื้อหรู ใจกลางเมียงดงที่ตอนนี้ก็เริ่มมีผู้คนแน่นขึ้นถนัดตา แต่การมาของเค้านั้นก็ไม่ได้เป็นที่สะดุดตาใครนัก
...ลดราคารึไงว่ะเนี่ย คนเยอะจัง....
“อ้าว! คุณคิม ฮีชอล มาพบเจ้าหรอค่ะ”
“ครับ ผมเข้าไปเลยนะครับ”
“ค่ะ แต่เห็นว่าตอนนี้กำลังคุยเรื่องคอลเล็กชั่นใหม่อยู่มั้งค่ะ”
“ครับ”
ก๊อกๆ ๆๆๆ
เสียงเคาะประตุเพื่อบอกเป็นสัญญาณให้คนข้างในได้รับรู้ ถึงแม้ว่าจะได้รับอนุญาตหรือไม่ก็ตาม
“อ้าวแก มาแล้วหรอ”
“มีเรื่องอะไรกันอ่ะแม่ ทำไมต้องโทรไปปลุกแต่เช้าด้วย==”
“เอาน่า... กลับมาเมื่อไหร่ทำไมถึงไม่บอกแม่ก่อนหล่ะ”
“...ก็ไม่อยากมาเจอนิ.....” เสียงกระซิบที่พูดกับตัวเอง เบาราวกับถอนหายใจ แต่ถึงกระนั้น คนที่ได้ฟังก็ยังรับรู้อยู่ดี
“แกว่าอะไรนะ?!!!”
“เปล่าครับ ไม่มีอะไร^^ ;; แล้วสรุปนี้มีเรื่องอะไรรึเปล่าเนี่ย ที่โทรไปปลุกผมอ่ะ”
“อ่อ แกจำแทยอนได้มั้ย??”
“แทยอน แทยอน แทยอน! แฟนเก่าไอ้ฮันอ่ะนะ!!!!”
“เออ แกจะเสียงดังไปทำไมห๊ะ”
“เปล่าครับ ทำไมอ่ะ มีอะไร”
“ตอนนี้น้องเรียนใกล้จบแล้ว แม่เค้าเลยฝากให้น้องมาฝึกงานกับแม่น่ะ เพราะเห็นว่าร้านเราเป็นร้านเสื้อผ้าที่ออกแบบเองพอดี แม่ก็เลยรับปากเค้าไป”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับผมหล่ะครับ”
“แม่เลยจะให้แกช่วยคอยคุมน้องเค้าหน่อย”
“หา! แม่ว่าอะไรนะ ให้ผมคุมน้องเค้านเนี่ยนะ”
“ก็เออน่ะสิ จะโวยวายไปทำไม ที่แต่ก่อนเห็นตัวติดกันอย่างกับอะไร”
...ตัวติดไอ้ฮันน่ะสิไม่ว่า.... ฮีชอลได้เพียงแต่คิดในใจ ก็เพราะว่าเค้ากัยฮันกยองตัวติดกันจะตายไป ไม่แปลกเลยถ้าแทยอนจะตัวติดกับฮันด้วย และยิ่งต้องไปมาหาสู่กันบ่อยๆ นี้แม่คิดว่าเค้ากับแทยอนสนิทกันรึไงเนี่ย โว้ย! น่าอารมณ์เสียนัก แค่นึกถึงผุ้หญิงที่ต้องทำให้ไอ้ฮันเสียใจเป็นบ้าเป็นหลังแล้วอารมณ์เสียจริงๆ
“เอ่อ... แล้วถ้าผมไม่ทำหล่ะครับ”
“ไม่ได้ เพราะแม่นัดแทยอนมาแล้ว”
“อย่างนี้ก็เท่ากับบังคับผมน่ะสิ”
“อ่ะ! ฉลาดนี้ลูกแม่ เอาหล่ะ เดี๋ยวซักสองโมงเข้ามาหาแม่ใหม่นะ”
“ครับ ผมไปก่อนนะ”
ฮีชอลรู้สึกอารมณ์เสียอย่างมากที่ต้องมาเจอกับแทยอนอีก ทั้งที่รู้สึกเกียจคนไม่อยากจะเจอด้วยซ้ำ ไหนจะยังไม่สามารปฏิเสธแม่ตัวเองได้อีก ทำเอาเค้าแทบบ้า
“จะบอกไอ้ฮันดีมั้ยว่ะเนี่ย”
____________________________________________________________________
((Rrrrrrrrrrrrr))
“มีอะไรครับคุณคิมฮี โทรหากระผมแต่เช้าเชียว”
(อย่ามาเล่นลิ้นไอ้ฮัน อารมณ์เสียอยู่โว้ย!)
“เออเออ โทรมาทำไมมีเรื่องอะไรรึเปล่า”
(มี! วันนี้11โมงว่างมั้ย ออกมาเจอฉันหน่อย)
“ไม่อ่ะ ไม่ว่าง ออกไปเจอไม่ได้หรอก โทษที”
(มีประชุมหรอ แกก็ยกเลิกดิ ปกติยังยกเลิกเลย)
“เปล่า ไม่ใช่ช่ประชุม ไม่สำคัญเท่าประชุม แต่ก็ออกไปหาไม่ได้จริงๆ”
(เออ! แล้วว่างอีกทีกี่โมง)
“ไม่รู้ว่ะ ถ้าว่างแล้วจะโทรไปหาหล่ะกัน”
(เออเออ ห้ามลืมนะโว้ย!)
“ครับ ไม่ลืมหรอกครับ”
“เปล่า ไม่ใช่ช่ประชุม ไม่สำคัญเท่าประชุม แต่ก็ออกไปหาไม่ได้จริงๆ” ทำไมถึงพูดอย่างนั้นออกไปนะ ฮันกยองนั่งคิดอบู่คนเดียว เพราะตามปกติแล้วไม่ว่าจะอยู่ในเวลาไหนก็ตาม เค้าจะมีเวลาว่างให้ฮีชอลเสมอ ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะต้องปฏิเสธ แล้วนี้อะไร ทำไมเค้าถึงได้ปฏิเสธออกไปนะ ...เพราะลี ฮยอกแจน่ะหรอ....
ก๊อกๆ
“เชิญ”
“ท่านประธานค่ะ มีคนชื่อลี ฮยอกแจมาขอพบค่ะ”
“ให้เข้ามาได้ครับ ขอบคุณมาก”
“ค่ะ”
“สวัสดีครับ คุณฮันกยอง”
“นั่งก่อนสิฮยอกแจ”
“ครับ”
นี้สินะ! เหตุผลที่เต้ายอมปกิเสธฮีชอล ตัวต้นเหตุอยู่ตรงหน้าแล้วนี้ไง อยากรู้จังว่าถ้าฮีชอลมาเห็นตอนนี้ heจะวีนยังไง?
“มีเรื่องอะไรรึเปล่า ถึงโทรไปหาฉันน่ะ”
“คือ....”
“เออ นี้ยังไม่11โมงเลย ทำไมรีบมาหล่ะ”
“ก็เพราะว่า....”
“แล้วนายกินข้าวมารึยังหล่ะ”
“ผม......”
“วันนี้รีบไปไหนรึเปล่า”
“ไม่.... โอ๊ย! คุณอย่าเพิ่งพูดแทรกได้มั้ย ผมยังไม่ได้ตอบคำถามคุฯสักคำถามเลย”
และดูเหมือนความอดทนของอยอกแจจะสิ้นสุดลง ก็ฮันกยองเล่นพูดแทรกชึ้นมาตอนเค้ากำลงจะตอบคำถาม แล้วยังไม่เว้นโอกาสให้พูดเลย ใครมันจะไม่อารมณ์เสียบ้างหล่ะ และกว่าจะรู้ตัวว่าได้ทำอะไรลงไป ก็ตอนที่หันไปเห็นสีหน้าเหวอของฮันกยองนี้แหละ
...ชิ! คนบ้าไรว่ะ เหวอแล้ยังหล่ออยู่เลย... เหมือนจะได้คิดแค่ในใจเท่านั้นแหละ
“........”
“เอ่อ... ขอโทษครับที่เสียมารยาท”
“ห๊ะห๊ะ! อ่อ.... ไม่เป็นไรหรอก ฮ่าฮ่าฮ่า”
“ยังไงก็ต้องขอโทษจริงๆนะครับ”
“อืม นายเป็นคนแรกเลยนะเนี่ยที่กล้าตวามดใส่หน้าฉันนะ (ยกเว้นฮีชอลไว้คนหนึ่ง)” ประโยคหลังน่ะ ไม่พูดไปหรอก พูดไปก็เสียหน้าตาเลยสิ อุตสาห์วางมาดเก๊กขรึมๆ เดี๋ยวก็เสียฟอร์มกันหมดพอดี
“คือ ผมมีเรื่องอยากจะขอร้องคุณหน่อยนะครับ”
“ขอร้องหรอ ขอร้องเรื่องอะไรหล่ะ”
“ผมอยากฝากเพื่อนผมเข้าทำงานที่นี่น่ะครับ”
“หืม? เพื่อนหรอ ใครกัน”
“เพื่อนสนิทน่ะครับ โปรดิวเซอร์คิม คิบอม ผมว่าคุณน่าจะรู้จักนะ”
“อ่อ โปรดิวเซอรืฝีมือดีขาดความรับผิดชอบคนนั้นน่ะนะ”
“กรุณาอย่างว่าเพื่อนผมนะครับ!!!!” ฮยอกแจต้องพยายามขมอาราณเป็นอย่างมาก เพื่อี่จะไม่ได้เสียมารยาทอีก ก็เค้าไม่ชอบให้ใครมาว่าคิบอมอย่างนี้นิน่า เพื่อนเค้าออกจะเป็นคนดี ถึงบางครั้งจะชอบหาเรื่องใส่ตัวก็เหอะ
“ก็ได้ เดี๋ยวผมจะลองเรียกเค้าเข้ามาฝึกงานหล่ะกัน”
“ขอบคุณครับ งั้นผมขอตัวหล่ะกัน”
“อืม...เชิญ อ๋อเดี๋ยว!ฮยอกแจ”
“ครับ”
“คิม คิบอมกับนายน่ะ แค่เพื่อนจริงๆหรอ”
“ครับ ผมกับเค้า......เราเป็น..แค่เพื่อนกันจริง” ถึงแม้ฮยอกแจจะโกหกยังไงก็ตาม แต่ก็คงซ้อนดวงตาคู่นั้นไม่ได้หรอก ดวงตาแห่งความเศร้า แค่นี้ฮันกยองก็พอมองออกแล้ว
....เฮ้อ แย่จังเรา มีศัตรูหัวใจเป็นเพื่อนสนิทเนี่ย เอาชนะยากชะมัด....
______________________________________________________________
เยอะพอรึยังเอ่ย? 555555
ดองกันข้ามปีเลยทีเดยว ก็ขอโทษหละกันนะค่ะ
ตอนนี้ กำลังมีโปรเจคฟิคเรื่องใหม่
แปะๆ ๆๆๆๆ ตบมือกันหน่อยเร็ว
(เรื่องเก่ายังไม่ไปไหนเลย^^") เรื่องใหม่นี้เป็นฟิคเศร้านะ
แต่จบแล้วด้วย! ยังไงก็ฝากติดตามกันด้วยนะค่ะ
ไปและ เม้นกันหน่อยหละกัน
จะได้รู้ว่ามีคนอ่านอยู่!
ความคิดเห็น