ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    « Vengeance StorieS ™ . เพลิงแค้น »

    ลำดับตอนที่ #8 : :: CHAPTER 3 ::

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 64
      0
      6 พ.ค. 52

    />

     

                      ผับแห่งนึงย่านฮงอิเป็นที่รู้จักกันทั่วในนาม NB PUB ที่ใครต่างก็พากันมาแสวงหาความบังเทิงและความสนุกสนานกันไม่เว้นแต่ละวัน พนักงานต่างก็ดูวุ่นวายกับการต้อนรับบริการลูกค้า.. ใครบางคนที่หลบมุมในสุดของร้านที่คิดว่าจะหลบออกมาพักเพราะตั้งแต่เปิดร้านมาเธอเองก็ยังไม่ได้หยุดพักเลยสักนิด มือเล็กกำแน่นอยู่ที่สร้อยล็อคเก็ตรูปหัวใจที่คล้องไว้ที่คอดูยังไงก็รู้ว่าจะต้องเป็นของรักของหวงของเธอแน่..

     

    ..กริ๊ก..

     

                    เมื่อล็อคเก็ตถูกเปิดออก รอยยิ้มเบาบางก็ปรากฎขึ้นอย่างเลือนลอย ดวงตาเศร้าสร้อยซึ่งกำลังคิดคำนึงถึงมารดา แม้ใบหน้าที่ดูเหนื่อยก็ยังดูมีเสน่ห์ ชายหนุ่มผอมบางยืนจ้องมองจากที่ไกลๆ ทุกวัน..เขาจะแอบมองดูเธออยู่ในที่ไกลแสนไกล เขาได้เห็นทุกอิริยาบทของเธอ แต่เธอกลับไม่เคยเห็นเขาในสายตา..

     

                    รูปครอบครัวสุขสันต์ถูกใส่ไว้ในสร้อยล็อคเก็ต..พ่อ แม่ เธอ....และพี่ชาย สิ่งเดียวที่ผู้เป็นมารดาหลงเหลือไว้ให้กลับเป็นสิ่งที่ตอกย้ำรอยแผลที่อยู่ในใจทุกครั้งที่สัมผัสหรือได้เห็น ครั้งนึงเธอเคยเป็นเด็กที่สดใสร่าเริง แต่หลังจากวันนั้น...

     

                    วันที่พ่อกับแม่ของเธอทะเลาะกันอย่างรุนแรง เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเพียงแต่ถูกผู้เป็นแม่ไล่ตะเพิดเข้าห้องไป เมื่อทุกอย่างสงบลง... สายตาที่เคยอ่อนโยนของพี่ชายกลับกลายเป็นสายตาที่เย็นชา เธอรู้สึกและสัมผัสได้ถึงความชิงชัง ไม่นานพ่อของเธอก็ได้จากไป...

     

                    ตั้งแต่นั้นมาเธอก็ต้องทนอยู่กับความเจ็บปวดกับการกระทำที่แสดงออกถึงความเกลียดชังที่พี่ชายมีต่อเธอ และนั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงต้องมาทนลำบากลำบนเป็นพนักงานในผับแบบนี้ในเมื่อเธอมีพี่ชายที่กำลังจะเป็นดาราดัง...

     

     

     

                    " จะนั่งที่ไหนดีเนี่ย? เอาหน้าฟอลล์เลยมั้ย? " คยูฮยอนตะโกนถามฮีเจงแข่งกับเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มแบบไม่เกรงใจใคร คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน ปากบางเชิ่ดขึ้นดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยชอบหรือพอใจกับสถานที่แบบนี้เลย

     

                    " ไม่เอา เลือกที่นั่งให้มันไกลจากผู้คนหน่อย ฉันไม่ชอบ " หญิงสาวหน้าบูดไม่พอใจพูดเสียงเฉียบขาดทำเอาคยูฮยอนสะอึกไปเล็กน้อย และแน่นอนว่าเขายอมทำตามสิ่งที่ฮีเจงบอกแต่โดยดี

     

                    เมื่อเห็นว่ามีลูกค้าเดินมา ปาร์ค อีซึล รีบปิดสร้อยล็อคเก็ตแล้วปั้นสีหน้ายิ้มแย้มสดใสให้กับผู้มาเยือนสองคน คยูฮยอนเดินตรงเข้าไปที่โต๊ะในสุดตั้งแต่แรกแล้ว จึงทำให้อีซึลเดินตามฮีเจงไปทีหลัง

     

                    " จะรับอะไรดีค่ะ? "

     

                    " ขอเป็นวอดก้าก็แล้วกัน..หรือโซจูดี? " คำถามสุดท้ายดูเหมือนคยูฮยอนจะจงใจหันไปถามฮีเจงมากกว่า

     

                    " ปัญญาอ่อนหรือไง? ถ้าอยากดื่มโซจูก็ไม่เห็นต้องหอบสังขารมาถึงในผับเลย " เสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้นเบาๆจากอีซึล แต่เมื่อรู้ว่าเป็นการเสียมารยาทเธอจึงหยุดทันที ถึงแม้ว่าทั้งคยูฮยอนและฮีเจงไม่ได้ถือสาหาความเลยก็ตาม

     

                    " งั้นวอดก้าก็ได้ เอาเป็นค็อกเทลบรัดดีแมรีนะ " อีซึลพยักหน้ารับยิ้มๆ ก่อนที่จะหันหน้ามาทางฮีเจงเพื่อรอรับออเดอร์แล้วเธอก็ต้องชะงักไปเล็กน้อย เมื่อกี้ไม่ค่อยเห็นใบหน้าของลูกค้าคนนี้ได้ชัดเจนนัก แต่เมื่อได้เห็นจริงๆเธอก็รู้สึกตะลึงเหมือนกัน.. ผู้หญิงคนนี้ดูเป็นคนที่มีเสน่ห์จริงๆ ใบหน้าที่สละสวยแต่ก็เป็นใบหน้าที่หล่อเหลามากเช่นกัน เมื่อได้มองครั้งแรกก็ยากที่จะละสายตาจากไปได้..

     

                    " ฉันขอ...แค่น้ำพั้นซ์ก็พอ "

     

                    " ถ้าอยากดื่มน้ำพั้นซ์ก็ไม่เห็นต้องหอบสังขารมาถึงในผับเลย~ " แน่นอนว่านั่นเป็นคำพูดล้อเลียนของคยูฮยอน และเขาก็ต้องหยุดเมื่อรู้สึกได้ถึงรังสีความอำมหิตที่แผ่ซ่านมาจากด้านข้าง

     

                    " ที่มาเนี่ยเพราะนายบอกให้ฉันมาเป็นเพื่อนนายไม่ใช่หรอไง " สาวหน้าสวย(หล่อ)ตอบกลับเสียงเย็น ปรายตามองเพื่อนรัก(หักเหลี่ยมโหด?) ปฎิกิริยาของคยูฮยอนก็ดูจะลุกลี้ลุกลนขึ้นมาทันที

     

                    " งั้นสรุปว่าเป็นวอดก้าค็อกเทลบรัดดีแมรีกับน้ำพั้นซ์นะคะ " อีซึลพูดสรุปกับออเดอร์อีกครั้งอย่างยิ้มๆ เมื่อคยูฮยอนขานรับกิบรายการที่สั่งอีซึลจึงขอตัวแยกจากไป..

     

     

                    ...ชายหนุ่มรูปงามใบหน้าที่ขาวดุจดั่งงาช้างเมื่อได้มาอยู่ภายใต้แสงสีในที่แห่งนี้ดูเหมือนจะเป็นที่สนใจของคนในร้านได้ดี แต่ใบหน้าของเขากลับนิ่งเฉยไร้อารมณ์ราวกับว่าผู้คนเป็นเพียงอากาศที่มองไม่เห็นเท่านั้น

     

                    ' เฮอะ เจ้าพวกกระจอก มีปัญญามาผับห่วยๆแค่นี้น่ะหรอ '

     

                    สองเท้ายาวก้าวเร็วขึ้นเมื่อเห็นเป้าหมายก่อนที่จะลากไปยังประตูทางออกด้านหลัง...

     

     

                    " เดี๋ยวฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ " ฮีเจงเอ่ยขอตัวกับเพื่อนรักเพื่อที่จะไปทำธุระ เมื่อมาถึงทางที่จะผ่านเข้าห้องน้ำจู่ๆก็เกิดไดยินเสียงของคนพูดคุยกัน..

     

     

                    " เป็นยังไงล่ะลำบากดีมั้ยที่นี้? "

     

                    " ไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ สำหรับพี่.... "

     

                    " หุบปาก กล้าดียังไงที่เอาฉันไปนับเป็นญาติกับเลือดชั่วๆอย่างเธอ "

     

                    ฮีเจงเลิกคิ้วมองหาต้นเสียง.. ' ใครกันนะ? '

     

                    " ฮึก... "

     

                    " คิดว่าร้องไห้ออกมาแบบนี้มันจะลบล้างความผิดให้กับตัวเองได้หรือไง? ต่อให้ร้องไห้ไปตลอดชีวิตก็ไม่มีทางชดใช้ได้หรอก.. เห่อะ ฉันจะบอกอะไรให้เธอมันก็เป็นเพียงแค่เรื่องผิดพลาด... ไม่สิ เป็นเพียงแค่ตราบาปของผู้หญิงคนที่ชื่อว่า คิม ฮานึล เท่านั้นแหละ "

     

                    ฮีเจงที่เจอต้นเสียงได้แล้วก็แอบดูอยู่ตรงมุมหลืบ รอยยิ้มที่น่ารังเกียจของผู้ชายคนนั้น ใบหน้าที่ดูคุ้นเคย... รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นว่าคนที่พูดด่าด้วยถ้อยคำเสียดสีใส่อีกคนจะเป็นนายแบบคนใหม่ คิม ฮีชอล  แล้วเธอก็ต้องสะดุดเมื่อเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นก็คือพนักงานที่มารับออเดอร์เมื่อกี้นั่นเอง...

     

                    ' สองคนนี้เขาเป็นอะไรกัน? '

     

                    " อีกไม่กี่วันฉันก็จะได้กลายเป็น คิม ฮีชอล คนใหม่.. นักแสดงหน้าใหม่ดาวรุ่งอย่างฉันไม่รู้จักกับคนอย่างเธอ เพราะฉะนั้นอย่าได้เที่ยวเอาความดังของฉันไปพูดให้ใครต่อใครฟังเพื่ออวดตัวเอง เหอะ ถึงพูดไปก็ไม่มีใครเชื่ออยู่ดี ฉันกับเธอมันต่างกัน... อย่างน้อยเลือดฉันก็ไม่ใช่เลือดชั่วแบบพวกเธอ หึ แล้วถ้าหากว่าเรื่องนี้เล็ดลอดออกไปเมื่อไหร่ฉันจะส่งเธอไปหาเสี่ยหน้าโง่แทนการมาทำงานในผับนี้ซะ "

     

                    ...เมื่อพูดเสร็จเขาก็ตีตัวเดินจากไปทันทีทิ้งให้เด็กผู้หญิงน่าสงสารยืนร้องไห้กับการกดขี่ข่มแหงจากผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็น พี่ ส่วนใครอีกคนเมื่อเห็นการเคลื่อนไหวก็รีบหลบเข้าไปอยู่ในห้องน้ำหญิงทันที แต่เธอก็ได้ทำบางอย่างพลาดไป...

     

                    นามบัตรสีขาวสะอาดตกหล่น..ฮีชอลชำเลืองมองผู้ที่ไม่ได้รับเชิญจากด้านนอกของประตู ก่อนที่จะก้มลงหยิบนามบัตรของคนนิรนาม เมื่อมองดูชื่อก็เผยรอยยิ้มแห่งชัยชนะออกมา ก่อนที่จะทิ้งเพียงคำพูดปริศนาเอาไว้...

     

                    " อยากจะได้ข่าวของฉันมากสินะ เจ้าพวกสอดรู้สอดเห็น... ฉันจะเล่นงานให้แกไม่ได้กลับไปทำงานได้อีกต่อไป "

     

                    ฮีเจงเลิกคิ้วสงสัยกับคำพูดนั้น.. แต่ยังไงซะเธอก็ต้องสืบรู้ให้ได้ว่าพนักงานคนนั้นเป็นอะไรกับฮีชอล ด้วยสัญชาตญานการเอาตัวรอด เมื่อรู้สึกถึงความปลอดคนด้านนอกเธอจึงออกมาและพุ่งเข้าหาเด็กสาวที่ยังคงยืนร้องไห้อยู่

     

                    " ฮึก! ค..คุณ!! " การจู่โจมของฮีเจงแน่นอนว่านั่นมันทำให้อีซึลตกใจมาก เธอมองฮีเจงด้วยสายตาไม่ไว้ใจ..

     

                    " เช็ดซะ " ฮีเจงยื่นผ้าเช็ดหน้าของตัวเองให้กับอีซึล และอีซึลเองก็รับผ้ามาเช็ดคราบน้ำตาอย่างว่าง่าย ' คงจะไม่ได้ยินเรื่องที่คุยกับพี่ฮีชอลเมื่อกี้นะ.. ' ความเศร้าเสียใจเมื่อกี้แปรเปลี่ยนมาเป็นความกังวลแทนกลัวว่าจะทำให้พี่ชายตัวเองเดือดร้อน...

     

                    " รู้จักกับผู้ชายคนเมื่อกี้หรอ? " และคำถามที่อีซึลกลัวมากที่สุดก็มา...

     

                    " ป...เปล่า "

     

                    " ถ้าอย่างนั้นทำไมเธอถึงร้องไห้ล่ะ? "

     

                    " ขอตัวก่อนะค่ะ! ฉันต้องไปทำงานแล้ว! ขอบคุณสำหรับผ้าเช็ดหน้านะ " อีซึลส่งคืนผ้าเช็ดหน้าให้กับฮีเจง แต่ฮีเจงกลับนิ่งเฉย แววตาที่มุ่งมั่นจดจ้องอยู่กับใบหน้าที่พยายามหลบสายตาเธออยู่ตรงหน้า

     

                    " ก็ดี.. ฉันจะไปเอาเรื่องกับหมอนั่น เพราะเธอบอกว่าไม่รู้จักกับเขา แต่เขากลับพูดจาเพ้อเจ้อจนทำให้เธอต้องร้องไห้... "

     

                    " คุณได้ยินเรื่องทั้งหมดเลยหรอ! " อีซึลตาโต..ตกใจสุดขีด สิ่งที่เธอกลัวกลับกลายเป็นจริงขึ้นมา ความเงียบเกิดขึ้นชั่วคณะทั้งเธอและฮีเจงต่างปิดปากเงียบเพื่อรออีกฝ่ายปริปากเป็นฝ่ายพูดออกมาก่อน

     

                    " เฮ้ เธอหายไปไหนมา... อ้าว!!? นี่เธอทำเด็กร้องไห้หรอ " คยูฮยอนที่นั่งรอเพื่อนรักซึ่งบอกจะไปเข้าห้องน้ำตั้งแต่เมื่อกี้แล้วยังไม่ออกมา นึกเป็นห่วงจึงได้พาตัวเองไปยังห้องน้ำหญิง และเมื่อไปถึงก็บังเอิญเห็นหลังของฮีเจงแว่บๆจึงได้เดินตรงหรี่เข้าไปทันที

     

                    พนักงานสาวส่ายหน้าไปมาทันที เธอเหลือบขึ้นมองหญิงสาวคนที่สูงกว่าตรงหน้าสายตาวิงวอนขออย่าให้บอกเรื่องเมื่อกี้กับใคร

     

                    " เมื่อกี้เธอคนนี้...พอดีหกล้มฉันก็เลยเข้ามาช่วย " ฮีเจงเบือนหน้าออกจากอีซึลหันไปตอบคยูฮยอนแทน

     

                    " ไปกันเถอะ " และลากคยูฮยอนออกจากตรงนั้นก่อนที่เขาจะถามอะไรมากไปกว่านี้ ทิ้งให้เด็กสาวมองตามในมือยังคงถือผ้าเช็ดหน้าของฮีเจง ไม่รู้เพราะอะไร...ทำไมเธอถึงได้รู้สึกไว้ใจผู้หญิงคนนั้น... อีซึลคิดพลางจัดการเช็ดหน้าเช็ดตาอีกครั้งแล้วออกไปทำงานตามปกติ

     

     

              --------------------------------------------------------------------------

     

     

                    " อะไรนะ!!! "

     

                    " .............. "

     

                    " โดนไล่ออก!? "

     

                    เป็นครั้งแรกที่คยูฮยอนเห็นเพื่อนรักของเขาดูจะเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเขา คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน มือทั้งสองข้างพยายามฉุดดึงให้อีกคนนั่งลง

     

                    " อืม เมื่อเช้าฉันเข้าบริษัท มีคนบอกว่าบอสเรียกฉันให้เข้าไปหา ตอนแรกฉันก็นึกว่าจะเรียกเข้าไปชมเรื่องข่าวของดาราคู่รักอะไรนั่นซะอีก แต่ผิดคาด เขาบอกว่าฉันจะต้องออกจากบริษัทไม่อย่างนั้นบริษัทก็จะไม่สามารถอยู่ต่อไปได้ "  คยูฮยอนอธิบายอย่างยาวเหยียด แต่คนที่ฟังก็ยิ่งทำหน้าไม่เข้าใจ อะไรกัน ตั้งแต่ที่รู้ว่าคยูฮยอนได้เข้าทำงานเป็นนักข่าว ดูเหมือนจะไม่เคยทำเรื่องอะไรเสียหายนอกจากจะรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองได้ดี แล้วทำไมจู่ๆถึงได้โดนไล่ออกมาแบบนี้ละ

     

                    " ตอนนั้นฉันก็ไม่ค่อยจะตกใจเท่าไหร่หรอก แต่..เธอรู้อะไรมั้ย? บอสยื่นนามบัตรใบนึงมาให้ฉัน " ชายหนุ่มพูดพลางควักเอานามบัตรใบเดียวกันกับที่เขากำลังพูดถึงออกมาจากกระเป๋ากางเกงและส่งให้กับฮีเจง

     

                    " เมื่อวานนายก็เพิ่งให้นามบัตรแบบนี้มากับฉันนี่ แล้วมัน..ยังไงล่ะ? "

     

                    " ฉันมีนามบัตรแค่ใบเดียว ตอนแรกก็คิดว่าจะเอามาให้เธอดูก่อนว่าแบบนี้ดีมั้ย... "

     

                    " ใช่ แล้วนายก็บอกว่าให้ฉันเก็บไว้เพราะฉันจะเป็นคนแรกที่ได้นามบัตรจากนาย "

     

                    " เพราะฉะนั้นใบนั้นที่เธอถืออยู่ก็เป็นใบเดียวกับเมื่อสองวันก่อน "

                   

     

                    ' อยากจะได้ข่าวของฉันมากสินะ เจ้าพวกสอดรู้สอดเห็น... ฉันจะเล่นงานให้แกไม่ได้กลับไปทำงานได้อีกต่อไป '

     

                    แล้วคำพูดปริศนาของฮีชอลก็ผุดขึ้นมาให้ได้ยินอีกครั้ง เข้าใจแล้ว..เขาจะต้องเป็นคนทำนามบัตรใบนี้ตกตอนที่แอบดูฮีชอลกับพนักงานคนนั้นแน่ๆ ถ้าบอกว่าเป็นสองวันก่อนมันก็เข้าล็อคพอดี เพราะเมื่อสองวันก่อนก็เป็นวันที่คยูฮยอนพาไปผับ

     

                    " ไอ้เจ้าเลวนี่.. ใช้วิธีสกปรกหรอ " คนหน้าสวยนั่งพึมพำกำนามบัตรแน่นจนยับ คนที่มองดูอยู่ก็รู้สึกประหลาดใจ

     

                    " เฮ้ ฉันโดนไล่ออกนะ ไม่ใช่เธอสักหน่อย " คยูฮยอนพูดแซว ความจริงแล้วเขาก็ไม่ได้ซีเรียสเรื่องโดนไล่ออกสักเท่าไหร่หรอก งานแบบนี้ยังไงซะเดี๋ยวเขาก็ต้องหาใหม่ได้อีก

     

     

              --------------------------------------------------------------------------

     

     

    ตอนสามมาแล้ว ดูเหมือนจะยาว

    แต่เป็นแค่เรื่องของไม่กี่คนเอง เรียวพยายามจะมาแต่งต่อ

    แต่รู้สึกว่าคนจะเข้ามาอ่านเรื่องนี้น้อยนะ

    เลิกแต่งเลยดีมั้ย T_____T

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×