คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Byakuya || Rare Alpha 4 (α x α) (end)
Rare Alpha 4 .
แรร์อัลฟ่า 4 .
R || Short Fic (2-4ตอน)
Kuchiki Byakuyax Hitsugaya Toshiro
_____________________________________________
ตั้งแต่วันนั้นมาผมก็ไม่ได้เข้าไปยังเรือนรับรองของประมุขคุจิกิอีกเลย หนึ่งในเหตุผลหลักก็คือไม่กล้าสู้หน้าแต่สำหรับเหตุผลบังหน้าก็คือในเมื่อผู้มีตำแหน่งสูงกว่าไม่เรียก ผมก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องเข้าไปพบเขาโดยพลการ
“คุณชายจะไม่เข้าไปพบเขาจริง ๆ หรือครับ”
“ถ้าเขาไม่ได้เรียกผมก็ไม่มีเหตุผลอะไร”
“ผมอยากจะขอให้คุณชายลองทบทวนอีกครั้ง” เป็นครั้งที่สิบแล้วที่ผมได้ยินคำนี้จากเลขประจำตัว
“เข้าใจแล้ว” และผมก็พูดปัดเรื่องเสมอ
แน่นอน ว่ายังไม่มีใครในตระกูลของผมล่วงรู้ถึงรายละเอียดของเรื่องที่เกิดขึ้น แม้แต่เลขาคนสนิทก็ด้วย ถึงแม้เขาจะรับรู้ได้ถึงสัญญาสมรสในวันนั้นจนเอาแต่ไถ่ถามผมเรื่องเดิมในเวลาพักไม่มีเบื่อ
แต่ก็ผ่านมาเป็นเดือนแล้วทำไมไม่ติดต่อมา?
พอว่างทีไรผมก็จะมีคำถามนี้คิดวนอยู่ในหัวอย่างช่วยไม่ได้ ปฎิกิริยาอัตโนมัติของการลูบหลังคอตนเองก็เกิดขึ้นบ่อยครั้งกับผมทั้งที่บริเวณนั้นของผมไม่มีรอยอะไร
คนที่มีรอยกัดเป็นเขาต่างหาก แต่ทำไมผมถึงร้อนรนราวกับเป็นคนถูกกัดซะเองอย่างนี้
เคยได้ยินมาว่าเมื่อผูกพันธะแล้ว ถ้าหากอยู่ห่างกันนานก็จะยิ่งคิดถึงจนทนไม่ไหว
แต่ดูเหมือนว่านี่จะเป็นผมฝ่ายเดียวหรือเปล่าที่รู้สึกอย่างนั้น อาจะเป็นเพราะที่เขาลือกันนั่นไม่ใช่ความจริง แต่ความรู้สึกประทับใจของผมที่มีต่อเขามันสั่งสมจนล้นทะลักออกมาโดยไม่รู้ตัว
“คุณชาย คุณชายครับ ท่านประมุขเรียกตัวด่วน!”
“ประมุขไหน”
“คุณพ่อของคุณสิครับ”
จากตอนแรกที่ลุกพรวดหลงนึกว่าเป็นคุจิกิ เบียคุยะในแวบแรก ตอนนี้ก็เลยหันกลับไปสวมสูท แต่งตัวเดินออกไปอย่างสุขุมแทน
ทว่าความคิดแวบแรกของผมนั้นไม่ผิดพลาด
“เข้ามาก่อนสิลูกชาย” คำพูดของท่านประมุขสึนะยาชิโระแปลกไปอย่างไม่น่าเชื่อ
แต่ก็เข้าใจได้เมื่อเหลือบไปเห็นคนที่นั่งอยู่ข้างๆ
“ผ่านไปหนึ่งเดือนคงไม่ได้ลืมครั้งหลังสุดที่พบฉันหรอกใช่ไหม”
ถึงแม้ในใจจะตะโกนว่าวันนั้นทำแบบนั้นทำไม หรือคิดถึงจะตายอยู่แล้วแบบโง่ๆ แต่สีหน้าเรียบนิ่งและคำตอบสั้น ๆ สมฐานะ
“ไม่ครับ”
“ดี วันนี้ฉันมาเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับข้อตกลงซึ่งได้ให้เอกสารเบื้องต้นกับพ่อเธอแล้ว”
“ครับ”
“และต้องการพูดคุยถึงฤกษ์ประกาศสมรสโดยตรงกับเธอด้วย”
“หา-“
จะไม่อึ้งได้ยังไง ผ่านไปหนึ่งเดือนก็เดินกลับมาพร้อมเอกสารแบ่งเปอร์เซนต์และแผนสำหรับไตรมาสในอนาคตพร้อมกับขอแต่งงานบอกท่านประมุขหรือพ่อของผมโดยไม่ปรึกษาอะไรเลยเนี่ยนะ!?
พอเห็นข้อมูลในเอกสารนั่นแล้วก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงหายไปนานนักกับหนึ่งเดือนที่ผ่านมา
“มานั่งนี่มา”
คุจิกิ เบียคุยะ เรียกผมอย่างไม่คิดจะขออนุญาติจากประมุขสึนะยาชิโระแต่อย่างใด
ผมไม่อาจขัดเมื่อประมุขผู้เป็นพ่อของผมไม่คิดจะขัด จึงเดินไปนั่งข้างๆ
“ไม่คิดถึงฉันหรือเด็กน้อย” คำเรียกแลดูเย้าแหย่มากขึ้นเมื่อเขาเบาเสียงลง แต่เพราะการเปลี่ยนแปลงกระทันหันทำให้ผมไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี
“…”
“พูดความจริง”
“ครับ นิดหน่อยครับ” ผมตอบอย่างจำใจ ไม่รู้สึกตัวว่าหูแดงเริ่มลามไปถึงแก้มเสียแล้ว
“งั้นเธอควรจะตัดสินใจกำหนดการให้เร็วเท่าที่จะทำได้”
“นั่นมัน-”
“เพื่อผมประโยชน์ที่เธอจะได้ไว้ในกำมือตัวเองอย่างเร็วที่สุดด้วย”
กระดาษปึกที่บางกว่าถูกยัดเข้ามาในมือของผม รายงานอย่างละเอียดของหุ้นตัวที่ต้องการจะชิงมาเป็นชื่อของผมนั้นละเอียดจนน่าตกใจที่คนของตระกูลคุจิกิมาสืบรู้ได้
ถ้าหากเป็นศัตรูก็ย่อมน่ากลัว แต่ตอนนี้คงไม่เป็นเช่นนั้น
“ตกลงเธอจะตัดสินใจประกาศสมรสและจัดงานประเพณีเป็นวันไหน”
ผมเห็นประมุขสึนะยาชิโระจ้องผมเขม็งจนรู้สึกกดดันจนอยากจะประวิงเวลาคิดอีกหน่อย แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็เห็นประมุขคุจิกิผู้ถามจ้องมองมาด้วยความคาดหวัง รูปลักษณ์ของเขายังคงน่าเกรงขามประทับใจไม่เคยเปลี่ยน นอกจากรายละเอียดเพียงเล็กน้อยที่ผมเพิ่งจะสังเกตเห็น
ผมดำขลับของเขาที่มักจะถูกปล่อยระยาว บัดนี้ถูกรวบมัดขึ้นไปเป็นทรงหางม้าสูง เผยให้เห็นรอยกัดนั่นแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย
ถ้าคู่ของผมทำขนาดนี้แล้ว ผมจะลังเลหวาดกลัวไปอีกทำไม
“ประกาศได้เดี๋ยวนี้เลย”
“แล้ววันสมรส” พ่อบุญธรรมถามต่อด้วยสีหน้าที่เริ่มเป็นกังวลเหงื่อตก
“ในวันที่สามารถจัดสถานที่และพิธีการเสร็จได้อย่างไม่เร่งรีบคือกี่วัน”
“ประมาณไม่เกินอาทิตย์ครับคุณชาย” เลขาของผมเองก็ตอบได้รวดเร็ว ทำหน้าที่ได้ดีเกินคาด
“ถ้าอย่างนั้น งานสมรสจะเกิดขึ้นในหนึ่งอาทิตย์ถัดจากนี้ไป”
ประมุขแห่งสึนะยาชิโระกัดฟันกรอด เวลาหนึ่งอาทิตย์ไม่พอเลยสำหรับการโยกย้ายปัจจัยสำคัญของแต่ละส่วนในธุรกิจให้มาอยู่ในสังกัดที่อยู่นอกเหนือข้อตกลงที่จะมอบให้ ฮิตสึกายะ โทชิโร่ ก่อนงานสมรสเพื่อยกระดับคู่ของท่านประมุขคุจิกิตามสัญญาที่ทางฝั่งคุจิกิได้ออกมา
ต่างกันราวกับฟ้ากับเหวเมื่อท่านประมุขคุจิกิมีสีหน้าเรียบนิ่ง จ้องมองคู่ของตนด้วยแววตาสุดแสนจะพอใจ
ใช่ ผมรับรู้ได้ดีจากพันธะระหว่างเราอย่างชัดเจนว่าผมทำถูกแล้ว
และทำได้ดีมาก..
.
งานสมรสสร้างความสัมพันธ์แน่นแฟ้นระหว่างตระกูลคุจิกิกับตระกูลสึนะยาชิโระให้เป็นหนึ่งเดียวนั้นโด่งดังไปทั่วทั้งประเทศเพียงข้ามคืน
มีคำวิพากษ์วิจารณ์มากมายเมื่อเห็นว่าผู้นำตระกูลคุจิกิเป็นผู้ถูกผูกพันธะจากเด็กที่เป็นเพียงทายาทของระกูลที่อยู่ในยุคมืดอย่างสึนะยาชิโระ แต่คำปรามาสเหล่านั้นก็เริ่มน้อยลงเมื่อพวกเขาเห็นการพัฒนาของธุรกิจทั้งสองฝั่ง
ความน่าเกรงขามของประมุขคุจิกิไม่ได้น้อยลงเลยซ้ำยังมากขึ้น มีเพียงส่วนน้อยที่ยังยึดติดในธรรมเนียมเก่าขอถอนตัวจากหุ้นส่วนตระกูลคุจิกิ
แน่นอนว่าไม่มีผลอะไรเพราะเป็นส่วนอันน้อยนิดสำหรับตระกูลใหญ่อย่างเขา และแน่นอนว่าเป็นผลประโยชน์ของคุจิกิ เบียคุยะ ในทางอ้อมได้อีกด้วย
“เปอร์เซนต์หุ้นเหล่านี้ ถูกถอนออกไปจะไม่กระทบแน่หรือครับ”
“แค่นี้เอง” แปลให้ชัดคือไม่คณามือ คุจิกิ เบียคุยะหรอก
“แต่ท่านประมุขก็น่าจะคิดลงไปดูให้แน่ใจบ้าง”
“คุจิกิไม่ใช่สึนะยาชิโระ”
“ผมรู้”
“แต่ถ้าเธอไม่แน่ใจ จะลองไปตรวจดูด้วยตนเองก็ได้”
ผมที่ไม่ใช่คนของคุจิกิจะไปรู้อะไรจัดการอะไรได้เล่า!
อดบ่นในใจไม่ได้ว่าคำพูดที่สั้นเกินความจำเป็นของประมุขคุจิกิบางทีก็ทำให้ผมสับสน
แต่ในรอบนี้เขาก็ไม่ได้ปล่อยให้ผมสับสนนาน
“ถอนไปเท่าไหร่ก็ดีสิ ทรัพย์สินส่วนนั้นฉันตั้งใจว่าจะโอนให้เป็นของเธอทั้งหมด”
เขาแทบจะยื่นแทบเล็ตข้อมูลส่วนตัวของบริษัทให้ผมตรงหน้าจนผมตกใจ เอาเข้าจริงผมยังดูเป็นผู้นำไม่ได้เท่าครึ่งของเขาเลย คิดแบบนั้นก็เกิดกังวลขึ้นมาฉับพลัน
“ทรัพย์สินที่กำลังโอนเข้ามาจากตระกูลของผมที่จะต้องดูแลก็เยอะมากแล้ว ถ้าคุณให้ผมเพิ่มอีกมันก็ออกจะ-“
“ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นสนามให้เธอได้ลองเพราะอย่างน้อยก็เป็นหุ้นส่วนใต้อาณัติของฉัน ฉันสามารถเข้าไปจัดการแก้ไขได้ทุกเมื่อ”
ในวินาทีนั้น ผมก็ได้เข้าใจถึงความชำนาญสามารถที่ประมุขของสี่ตระกูลหลักพึงมี เช่นเดียวกันกับความพิเศษเฉพาะอีกอย่างของเขา..
“ไม่ว่าสิ่งไหนถ้าอยู่กับฉันอย่าได้กังวล ไม่ว่าเรื่องไหนฉันก็ทำได้ แม้กระทั่งเรื่องลูก หากไม่มีการรับเลี้ยงบุญธรรมก็ย่อมเป็นไปได้”
“เหมือนผม?”
“อาจจะใช่ เพราะแข็งแกร่งเหมือนเธอ แต่ก็ไม่ใช่ เพราะพวกเขาจะถูกเลี้ยงด้วยความรักที่แท้จริงไม่ใช่แค่ธุรกิจ”
“และความสัมพันธ์ของสองตระกูลที่ยิ่งใหญ่กว่าเก่าเป็นไหนๆ”
“เธอพูดถูก”
ผมก้มหัวให้เขาเช่นเคย ตั้งแต่ที่ผ่านข้อตกลงมาผมก็สัมผัสถึงความยิ่งใหญ่ที่เขามอบให้ได้จริงไม่เว้นวัน แม้จะยังไม่ได้เป็นผู้นำตระกูลอย่างเต็มตัวแต่แค่ตอนนี้ก็รับรู้ได้ถึงอำนาจที่มีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเกินกว่าจินตนาการ
“ว่าแต่จะหยุดก้มหัวให้ฉันได้หรือยัง”
“ครับ?”
ผมไม่เข้าใจว่าตัวเองผิดตรงไหน เช่นเดียวกันกับที่ไม่เข้าใจในความเปลี่ยนแปลงในการปฎิบัติจากหน้ามือเป็นหลังมือของท่านประมุขคุจิกิที่มีต่อผม
“เพียงแค่วันเดียวก็จะมีงานสมรสอย่างเป็นทางการ เธอไม่คิดจะพูดกับคู่ของตัวเองเช่นนี้ตลอดไปใช่ไหม”
“งั้นจะให้ผมเรียกประมุขคุจิกิเหมือนคนในตระกูล?”
“ด้วยชื่อต้นก็พอ เรียกว่า พี่เบียคุยะ”
เกินความคาดหมายมาก แต่สีหน้านิ่งนั่นกลับเต็มไปด้วยแววตาคาดหวังผมจึงพยายามพูดมันออกมาอย่างกระดากปาก
“พี่เบียคุยะ”
“เด็กดี”
มือใหญ่ของเขาวางลูบฝ่ามืออย่างอ่อนโยน กลิ่นไม้ดอกหอมของเขาฟุ้งกระจายชวนลุ่มหลงไม่ต่างจากครั้งนั้น
ผมไม่เคยคิดว่า คุจิกิ เบียคุยะ ทายาทผู้น่าเกรงขามที่ผมสุดแสนประทับใจมาแต่เริ่มต้นจนกลายเป็นประมุขตระกูลจะมีมุมแบบนี้
“เพียงอยู่กับฉันก็จะไม่มีสิ่งใดที่เธอจะต้องกังวลอีกต่อไปโทชิโร่”
เป็นอีกมุมที่พิเศษและแสนประทับใจไม่รู้ลืม
[ END ]
____________________
จบแล้วค่ะกรี้ดดด ทำไมจบแบบนี้//ตอนจบท่านเบียเหมือนoocไปเลย
มีความคอนทราสต์จาความตึงมาเป็นหวานขนาดนี้ได้ไงไม่รู้
ถือว่าต้อนรับด้วยความฟินช่วงปีใหม่นะคะ ฮีลใจกันไปกับปีที่เริ่มต้นได้เฮงซวย;_;
ชอบหรือจะติดยังไงก็คอมเม้นหันหน่อยนะคะจะได้รู้ว่ามีคนอ่านรออยู่
ถ้าอยากอ่านคู่กับใครก็ขอกันมาได้เช่นกันนะคะ รักรีดค่า<3
ความคิดเห็น