ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fanfic Harry Potter] [OCxDM] If Harry Potter has a sister!

    ลำดับตอนที่ #8 : บทที่ 7 : ทรยศต่อสายเลือด (Re.03)

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.ค. 64


    UP : 23/07/60

    Re-write : 16/08/60

    Re-write 2 : 20/09/61

    Re-write 3 : 09/06/64

     

    บทที่ 7 : ทรยศต่อสายเลือด

     

    “สวัสดีค่ะศาสตราจารย์บินส์” นักเรียนทุกคนกล่าวทักทายเมื่อศาสตราจารย์บินส์ลอยเข้ามาในห้องเรียน น่าแปลกใจที่เฮเลนไม่สะดุ้งสักนิดราวกับว่าเคยชินกับมันอย่างไรอย่างนั้น ชั่วโมงนี้เริ่มต้นด้วยความน่าเบื่อของนักเรียนทุกคนในห้อง พวกเขาสัปหงก หลับและฟุบอย่างไม่เกรงใจ ส่วนเฮเลนนั้นเธอกลับไม่รู้สึกเบื่อแต่อย่างใดแถมยังรู้สึกดีที่ได้ฟังศาสตราจารย์บินส์เล่าถึงประวัติศาสตร์เวทมนตร์ในยุคอีกด้วย 

    “ฉันไม่เคยเห็นเธอตั้งใจขนาดนี้มาก่อนเลย” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางเอียงคอมองหน้าเฮเลนเล็กน้อย

    “ก็เปล่าหรอก” เฮเลนยักไหล่ ในหัวเริ่มคิดหาเรื่องโกหก “ฉันก็แค่รู้สึกว่าวิชานี้น่าสนใจมากขึ้นแค่นั้นแหละ”

    “แต่เธอเคยบ่นว่ามันน่าเบื่อ เมื่อเทอมที่แล้ว” เฮอร์ไมโอนี่ว่า “แถมยังหลับเหมือนรอนด้วย”

    เฮเลนไม่ตอบอะไร เธอทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้และตั้งใจฟังที่ศาสตราจารย์บินส์พูดต่อไป เฮเลนแค่คิดว่าการนั่งฟังอะไรหลายๆ อย่างจากศาสตราจารย์บินส์ มันอาจจะทำให้เธอได้รู้วิธีกลับไปยังโลกเดิมที่เคยอยู่ก็ได้ อย่างน้อยก็เพื่อไม่ให้ตัวเองหลงระเริงกับโลกที่เต็มไปด้วยความรักจากเพื่อและครอบครัวแห่งนี้ เธอต้องพยายามไม่เผลอใจไปกับความรู้สึกที่แสนเปราะบางพวกนี้ เพราะอย่างนั้นมันทำให้เฮเลนไม่อาจลืมว่าในโลกเดิมนั้นเธอเหงาและอ้างว้างมากมายเพียงใด...

    ในที่สุดศาสตราจารย์บินส์ก็ให้ค้นคว้าทำรายงานในชั่วโมงพร้อมกับตอบคำถามห้าข้อ เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของพ่อมดในยุคเก่า เฮเลนเปิดหนังสือและนั่งทำงานเงียบๆ โดยมีสายตาไม่ชอบใจของเพื่อนร่วมบ้านคอยจับจ้องมองอยู่ แฮร์รี่เคยย้ำเอาไว้ว่าอย่าไปสนใจพวกเขา ถึงแม้จะถูกมองไม่ดีมากแค่ไหน ในเมื่อไม่ได้ผิดก็ไม่จำเป็นต้องแคร์

    “เออนี่ จะว่าไปตอนอยู่ที่กริมโมลด์เพลซ ฉันลืมพูดเรื่องนี้ไปเลย” เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นแล้วหันมาทางเฮเลนกับแฮร์รี่ รอนที่ก้มหน้าก้มตาเขียนรายงานอยู่อีกฝั่งหนึ่งจึงเงยหน้าขึ้นทำท่าสนอกสนใจไปด้วย “เธอได้อ่านเดลี่พรอเฟ็ตฉบับปลายเดือนมิถุนาหรือเปล่า ฉันจำไม่ได้ว่าของวันไหน”

    “ไม่” แฮร์รี่ตอบ “พวกเราไม่ได้ออกจากบ้านเลยตลอดหน้าร้อนหลังจากได้รับจดหมายจากกระทรวง มีอะไรงั้นเหรอเฮอร์ไมโอนี่”

    “ที่จริงฉันก็ตัดมันเก็บเอาไว้ให้พวกเธออ่านอยู่หรอก” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ “เอาไว้หลังเลิกเรียนแล้วกันนะ”

    “พูดให้อยากรู้นะเนี่ย” รอนพูด

    “เธอก็รู้เรื่องนั้นพร้อมฉัน โรนัลด์!” เฮอร์ไมโอนี่กัดฟันพูด “ตอนนั้นเธอเองก็ตกใจไม่แพ้ฉันหรอก”

    “แล้วมันคือเรื่องอะไรกันแน่ล่ะ” เฮเลนถามขึ้นบ้างหลังจากเริ่มเขียนรายงานไปได้ครึ่งหนึ่ง

    “รอเลิกเรียน” เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงเฉียบและก้มหน้าลงทำงานต่อไป

    เฮเลนยักไหล่เล็กน้อย การที่เฮอร์ไมโอนี่พูดแบบนี้แสดงว่าจะต้องมีอะไรสำคัญอย่างแน่นอน บางทีอาจเป็นเรื่องของโวลเดอมอร์หรือว่าเรื่องภายในกระทรวงที่พวกเขาขุดขึ้นมา หรือบางทีอาจเป็นกระแสล้อเลียนเกี่ยวกับฝาแฝดพอตเตอร์ก็ได้ มันมีความน่าจะเป็นเต็มไปหมดในหัวของเธอ 

    ต้องขอบใจหัวสมองของเฮเลน พอตเตอร์ รายงานและคำถามห้าข้อเสร็จอย่างรวดเร็วราวกับว่าเธอรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว บางทีเธออาจจะรู้เรื่องนี้อยู่ตั้งแต่แรกแล้วก็ได้แต่เพราะว่ามักเกิ้ลอย่างเฮเลน วินเทอร์ที่อยู่ๆ ก็ถูกส่งพรวดเข้ามาอยู่ที่นี่ผ่านหนังสือก็เลยยังคงงงๆ กับเรื่องนี้อยู่

    “นี่เฮอร์ไมโอนี่ ตรงนี้ต้องทำยังไง” รอนถามพลางเกาศีรษะด้วยปากกาขนนก เฮเลนยังจำภาพตอนที่รอนโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงเรื่องแท็คเมื่อเช้าได้อยู่เลย เธอไม่อยากคิดเลยว่าถ้าเขาไม่ใจเย็นแล้วคุยกันในห้องนั่งเล่นตอนนี้รอนจะทำยังไงนะ เขาจะกล้าเรียกเฮอร์ไมโอนี่ให้ช่วยหรือเปล่า

    “เธอดีขึ้นไหม” แฮร์รี่พูด เฮเลนละสายตาจากสองคนข้างๆ ไปยังแฮร์รี่ “เมื่อเช้าเกิดเรื่องขึ้น เธอก็เลยไม่ได้พักสมองเลย แถมยังต้องมาเรียนอีก”

    “ไม่หรอก” เฮเลนส่ายหน้า “ดีซะอีกที่ได้เข้ามาเรียน อย่างน้อยชั่วโมงนี้ก็ไม่มีมัลฟอย”

    “แต่วิชาถัดไปยังไงก็เจอ” แฮร์รี่ทำเสียงเบื่อหน่าย

    “เอาเถอะ” เฮเลนยกมือขึ้นมาเท้าคาง “อย่างน้อยก็ไม่ต้องเจอตลอดเวลาล่ะนะ”

    แฮร์รี่ยักไหล่ เขาทำงานต่ออย่างเงียบๆ เชมัสทำท่าจะเข้ามาคุยเกี่ยวกับเรื่องรายงาน แต่เมื่อเขาเห็นแฮร์รี่ (ไม่แน่ใจว่าลืมรึเปล่าว่าฝาแฝดต้องนั่งด้วยกัน) เชมัสก็หันหลังกลับไปที่เดิมในทันที เฮเลนได้แต่รู้สึกดีอยู่ในใจลึกๆ เพราะถ้าเกิดเขาเข้ามาถามเธอก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะตอบคำถามที่เขาถามได้หรือเปล่า

    ใช้เวลาประมาณสองสามนาที เฮเลนก็นึกขึ้นมาได้ถึงเรื่องที่น่าจะเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เมื่อเฮอร์ไมโอนี่พูดถึงเรื่องงานเต้นรำเมื่อเทอมที่แล้ว ว่าเธอกับมัลฟอยจูบกัน นั่นก็หมายความว่าลอร์ดมือจะต้องฟื้นคืนชีพขึ้นมาแล้วและนอกจากนั้นเซตริก ดิกกอรี่เองก็คงตายแล้วเหมือนกัน เธอมั่นใจที่สุดถึงเรื่องที่เธอกับแฮร์รี่ถูกประณามและออกข่าวเดลี่พรอเฟ็ตนั้นจะต้องเป็นเรื่องหลังจากที่แฮร์รี่ พอตเตอร์ออกมาจากเขาวงกตพร้อมถ้วยเวทไตรภาคี

    แน่นอนว่ามันจะต้องพาเขาไปที่อื่นก่อนจะกลับมา นั่นหมายความว่าแฮร์รี่ได้ถูกลอร์ดมืดใช้เลือดในตัวคืนชีพตัวเองขึ้นมา แต่ว่าเมื่อพอตเตอร์มีฝาแฝด ตอนนี้เขาจะสามารถคืนชีพขึ้นมาได้จริงๆ งั้นเหรอ มันจะเป็นไปตามเรื่องเดิมจริงๆ งั้นเหรอที่ว่าเขากลับมาอย่างสมบูรณ์แบบ อีกอย่างเขาบอกอะไรกับเธอหลังจากกลับมาจากสุสานและเรื่องของเซตริกกันแน่นะ

    “แฮร์รี่” เฮเลนพูดชื่อฝาแฝดด้วยเสียงที่เบาผิดปกติ แฮร์รี่เลิกคิ้วและมองเธอด้วยสายตาสงสัย เขาวางปากกาขนนกลงบนโต๊ะและดึงข้อนิ้วแก้เมื่อยเล็กน้อย เธอรู้สึกลังเลใจที่จะถามเขาแต่ว่ายังไงเธอก็จำเป็นต้องถามเขาให้มั่นใจว่าตัวเองควรจะเดินไปตามที่เป็นหรือหาทางแก้ไขทุกสิ่งดี “คือถ้าฉันถามเรื่องหนึ่ง นายจะโกรธฉันไหม”

    “ลองพูดมาสิ” เขาบอก พลางวางมือลงบนโต๊ะ

    “เรื่องที่ฉันอยากจะถามคือ – ” เฮเลนสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ หนึ่งครั้ง “ – เรื่องของ โวลเดอมอร์

    เฮเลนลดเสียงคำสุดท้ายให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ แฮร์รี่ผงะเล็กน้อย เขาคงไม่คิดว่าเธอจะถามเรื่องนี้ในห้องเรียนกระมัง ครู่เดียวเท่านั้นเขาก็ขมวดคิ้วและถอนหายใจ

    “ถ้าเธอจะถามเรื่องที่เซ็ตตายจริงหรือไม่จริง ก็ไม่ต้อง – ” แฮร์รี่พูดเสียงเข้มขึ้นและรวบรัดคำตอบ

    “เปล่า ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น” เฮเลนรีบแย้ง “ฉันอยากถามเรื่องความสมบูรณ์ของตัวโวลเดอมอร์ต่างหาก”

    “หมายความว่าไง” แฮร์รี่เปลี่ยนสีหน้า เขาเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม “เธออยากจะรู้ว่าเขาฟื้นคืนมาเต็มที่แล้วรึยังงั้นสิ ฉันเคยบอกเธอไปแล้วนี่ว่าเขากลับมาอย่างเต็มตัวแล้ว ถึงแม้มันจะขาดอะไรไปอย่างหนึ่งก็เถอะ”

    “เลือดของฉัน อย่างนั้นใช่ไหม” เฮเลนพูด

    “ใช่” แฮร์รี่พยักหน้า “ก็จำได้นี่ แบบนี้ก็ไม่เห็นต้องถามซ้ำเลยนะ – เพราะแบบนี้ฉันก็ต้องระวังเธอจากมัลฟอยมากขึ้น ขอโทษทีที่โกรธ ขนาดนั้น แต่ฉันก็ไม่ชอบใจจริงๆ ที่เธอไปงานเต้นรำกับหมอนั่น”

    “ไม่หรอก ฉันก็พอจะเข้าใจว่าทำไมนายถึงโกรธเขาเมื่อเช้า” เฮเลนบอก “ที่จริงมันก็ – ”

    ยังไม่ทันพูดจบประโยคเสียงของศาสตราจารย์บินส์ก็ดังขึ้นประกาศให้ทุกคนรีบนำรายงานมาส่งเพราะใกล้จะหมดชั่วโมงเรียนแล้ว เฮเลนและเฮอร์ไมโอนี่หยิบกระดาษไปส่งก่อนเป็นสองคนแรกของห้องเรียน หลังจากส่งรายงานแล้วทั้งคู่ก็ต้องกลับมาช่วยรอนกับแฮร์รี่ตอบคำถามห้าข้อที่พวกเขายังทำไม่เสร็จจนออกจากห้องเรียนช้าไปสิบนาที

    ทั้งสี่คนเข้ามารับประทานอาหารกลางวันในห้องโถง เฮเลนอยากจะถามคำถามอีกหลายคำถามกับแฮร์รี่เหลือเกินแต่ว่าเธอควรจะเก็บมันเอาไว้ก่อน ตอนนี้เธอรู้ข้อหนึ่งแล้วว่าโวลเดอมอร์ไม่ได้กลับมาอย่างสมบูรณ์แบบเพราะยังคงขาดเลือดของเธอในพิธี แต่ถึงอย่างนั้นตอนนี้เขาก็กลับมาแล้ว กลับมาเพื่อเอาเลือดของเธอไปและฟื้นคืนชีพอย่างสมบูรณ์ในอนาคตอันใกล้นี้เอง

    วันนี้แท็คเข้ามานั่งร่วมวงกับพวกเขาด้วยเงียบๆ พร้อมกับท่าทางไม่พอใจของรอนที่ออกนอกหน้ายิ่งกว่าอะไร น่าแปลกใจที่ปกติแล้วแต่ละบ้านจะนั่งทานอาหารแยกกันตามโต๊ะของแต่ละบ้าน แต่ว่าวันนี้ดูเหมือนพวกเขาจะนั่งกันสะเปะสะปะ คละกันจนหลากสีสันไปทั่วห้องโถง

    “เกิดอะไรขึ้นกันล่ะเนี่ย” รอนถาม “ทำไมพวกนี้ถึงนั่งมั่วกันแบบนี้ เด็กปีหนึ่งเริ่มเหรอ”

    “คงจะแบบนั้น” เฮอร์ไมโอนี่พูด “เด็กที่ไม่ได้ถูกคัดเลือกมาให้อยู่บ้านเดียวกันทั้งที่ตอนแรกรู้จักกันมาก่อนก็คงจะอยากอยู่ด้วยกันล่ะมั้ง”

    “แต่ฉันว่ามันยากมากนะ” แฮร์รี่เสริม เมื่อทั้งสี่คนตักอาหารมาใส่ในจานของตัวเอง “ตอนแรกที่เข้ามา เราไม่ได้รู้จักกันมาก่อนเลยสักคน”

    “แต่มันอาจจะมีก็ได้นี่” เฮเลนพูดพลางตักซุบเข้าปาก “บางทีพวกเขาอาจจะเป็นเพื่อนบ้านกัน อะไรทำนองนี้”

    “เป็นทฤษฎีที่น่าสนใจนะครับ” แท็คพูดต่อ ดวงตาสีเข้มสบเข้ากับดวงตาของเฮเลน ร่างบางสะดุ้งและหันหน้าหนีไปอีกทาง เรื่องเมื่อคืนวานวนกลับเข้ามาในหัวพร้อมกับใบหน้าของแท็คที่ปรากฏขึ้นในระหว่างนั้นมันทำให้เฮเลนรู้สึกอยากจะหนีไปไกลๆ ให้พ้นจากตรงนี้เสียจริง

    “จะว่าไป เมื่อไหร่เธอจะให้เราดูข่าวเดลี่พรอเฟ็ตที่เธอว่านั่นสักทีล่ะ เฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่เอ่ยเมื่อเขาเริ่มหยิบทาร์ตน้ำตาลข้นขึ้นมาจากจานขนม

    “ฉันว่ารอให้พวกเธอกินให้เสร็จก่อนดีกว่านะ” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ

    “จะบอกเรื่องนั้นเหรอครับ เฮอร์ไมโอนี่” แท็กเลิกคิ้ว หันไปหาเฮอร์ไมโอนี่ เธอพยักหน้ารับ “มั่นใจแล้วจริงๆ น่ะเหรอ ว่าจะบอกพวกเขา”

    “แน่ละ นายจะปล่อยเอาไว้จริงๆ เหรอ” รอนว่า “มันสำคัญกับเฮเลน แล้วก็แฮร์รี่มากเลยนะ”

    “ผมว่าก็ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ” แท็คแย้ง มองรอนด้วยสายตาแปลกๆ “แต่ถ้าหากสำหรับแฮร์รี่ ผมว่าก็สำคัญอยู่”

    นั่นยิ่งทำให้ฝาแฝดพอตเตอร์อยากรู้อยากเห็นมากขึ้นไปอีก สำหรับเฮเลนแล้วคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ มันคงจะเป็นข่าวโจมตีหนักๆ ของพวกเขาและอาจโจมตีแฮร์รี่หนักกว่าที่เฮอร์ไมโอนี่เล่าให้ฟัง เธอไม่อยากคิดเลยว่าพวกเขาจะต้องเจออะไรอีก ถูกแบน ถูกประณาม ยังไม่พอใจริต้า สกีตเตอร์งั้นสินะ

    เฮเลนเห็นแฮร์รี่รีบกลืนทาร์ตน้ำตาลข้นลงท้องไปสองสามชิ้นอย่างรวดเร็วในขณะที่เฮเลนเล็มพายมันฝรั่งอย่างเชื่องช้าอย่างไม่กลัวเวลาหมดก่อนได้รู้เรื่องที่เฮอร์ไมโอนี่จะบอก ซึ่งยังไงเฮเลนก็ยังมั่นใจว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน ในขณะเดียวกันนั่นเอง ฝาแฝดวีสลีย์ก็ปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแก้มแทบปริ

    “สวัสดีพวก!” จอร์จเอ่ยขึ้นก่อนเมื่อพวกเขาเข้ามาถึงโต๊ะ “ทำไมวันนี้นายมานั่งตรงนี้ล่ะ สลิธีริน”

    “เขาสืบราชการลับ นายก็เงียบๆ ไว้สิพวก” เฟร็ดพูดเชิงล้อเลียน

    “คงงั้นล่ะครับ” แท็คพูดเรียบๆ “พอดีช่วงนี้บ้านผมมีปัญหากันก็เลยต้องหลีกเลี่ยงการปะทะกันสักหน่อย”

    แท็คทำท่ายักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ เฮเลนเข้าใจว่าเขาพยายามพูดให้ตรงกับคำถามที่เฟร็ดกับจอร์จพูด แม้มันจะขัดกับความจริงไปสักหน่อยที่วันนี้เด็กนักเรียนนั่งคละโต๊ะกันอย่างไม่สนใจรอบข้าง

    “มีอะไรงั้นเหรอ จอร์จ” รอนถามพร้อมกับกัดพายมันฝรั่งคำโต “มีสิ่งประดิษฐ์ใหม่รึไง”

    “เปล่าหรอก” จอร์จยักไหล่ทั้งยิ้ม “ตอนนี้เราสองคนก็แค่หัวตันๆ คิดว่าตัวเองควรจะใช้อะไรผสมในกล่องอาหารเลี่ยงงานกับยาแก้พิษของตังเมเลือดกำเดาน่ะ”

    “ถูกต้องเลย” เฟร็ดพูด “มันน่าจะมีคนเก่งปรุงยาอยู่ในหมู่พวกเราบ้างนะ เกรนเจอร์ เธอล่ะว่าไง”

    “ฉันไม่ช่วยเธอสองคนหรอกนะ” เฮอร์ไมโอนี่หรี่ตามองทั้งคู่ เฟร็ดกับจอร์จหัวเราะกันคิกคัก

    “จะตึงไปถึงไหน แม่คุณ” จอร์จว่า “ดูเฮเลนสิ ไม่เห็นตึงเท่าเธอเลย”

    แฝดวีสลีย์หันมาทางเฮเลนที่เพิ่งจะใช้ส้อมจิ้มพายที่ตัดแบ่งพอดีคำขึ้นมาใส่ปาก

    “อะไรนะ” เฮเลนกลืนพายลงคออย่างฝืนๆ และรีบคว้าน้ำฟักทองเข้ามาดื่มตามลงไป “ฉันเกี่ยวอะไรด้วย”

    “เปล่า!” แฝดวีสลีย์พูดพร้อมกัน

    “โอ้ ฉันว่าเรามีเรื่องที่ต้องคุยกับลีนะ” จอร์จพูดพลางก้มลงมองดูนาฬิกาข้อมือ “ไปกันเถอะเฟร็ด – ลีคงรออยู่ตรงต้นบีชนั่นแน่ะ”

    ก่อนที่เฟร็ดกับจอร์จจะลุกขึ้นจากโต๊ะ เฮเลนก็รั้งพวกเขาเอาไว้ก่อน

    “เอ่อ – ไม่ทานอาหารด้วยกันก่อนเหรอ” เธอพูด

    “พวกเขาทานมาแล้วน่ะ” จอร์จบอก “เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเดี๋ยวนี้เธอห่วงพวกเราด้วย”

    “แต่มันก็สายไปแล้วล่ะ สาวน้อย” เฟร็ดขยิบตา “แล้วเจอกันที่ห้องนั่งเล่นนะ”

    ทั้งสองคนเดินออกไปจากห้อง ทิ้งคำถามมากมายเอาไว้ในหัวของเธออีกแล้ว เฮเลนหันไปมองแฮร์รี่ที่วางมือลงบนโต๊ะอย่างเรียบร้อยเพื่อบ่งบอกว่าตัวเองทานอาหารเสร็จแล้ว

    “อะไร” แฮร์รี่ถาม “เมื่อก่อนเฟร็ดกับจอร์จเคยชอบเธอ ลืมไปแล้วเหรอ”

    “หา” เฮเลนร้อง “จริงจังใช่ไหม”

    “มีเหตุผลอะไรที่ต้องโกหกไม่ทราบ” รอนว่า “เธอนั่นแหละ แกล้งอำพวกเราว่าไม่รู้อยู่ล่ะสิ”

    เฮเลนเงียบไป อย่างน้อยที่เฟร็ดพูดนั่นก็หมายความเอาไว้ว่าทั้งสองคนเลิกชอบเฮเลนแล้วในตอนนี้ดังนั้นมันก็ไม่จำเป็นต้องเก็บเอามาใส่ใจให้มากเท่ากับมัลฟอยในตอนนี้ ดูเหมือนยังมีอีกหลายอย่างที่ตัวเองคงยังไม่ได้เล่าให้เฮอร์ไมโอนี่ฟัง ในความทรงจำเหล่านั้นยังมีเรื่องราวอีกมากมายระหว่างเฮเลน พอตเตอร์กับเดรโก มัลฟอย ซึ่งเฮเลนมั่นใจว่าแม้แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่มีทางรู้แน่นอน

    “ใครบอกนายว่าฉันอำล่ะรอน!” เฮเลนขมวดคิ้วใส่ รอนยักไหล่เล็กน้อย

    “แล้วตอนนี้เราจะพูดถึงเรื่องที่เธอจะบอกได้รึยังเฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่พูดและมองไปยังเฮอร์ไมโอนี่

    “ได้เลย แต่ว่า – ” เด็กสาวผมฟูเหล่มองไปทางแท็คเล็กน้อยอย่างอึดอัดใจ

    เหมือนเจ้าตัวจะรู้ตัวว่าเป็นส่วนเกินเขาจึงทำท่าสื่ออารมณ์ประมาณ ไม่อยู่ก็ได้ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปหากลุ่มเพื่อนสลิธีรินที่โต๊ะอาหารของเขา เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

    “เชื่อว่าถ้าแท็คยังอยู่ตรงนี้ เราไม่ได้คุยกันอย่างสงบสุขแน่” เธอกล่าว

    มือเล็กๆ เอื้อมลงไปหยิบกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ถูกตัดออกเป็นชิ้นขึ้นมาวางบนโต๊ะ กระดาษชิ้นแรกเป็นพาดหัวข่าวขนาดเล็กที่ถ้าไม่สนใจก็คงไม่ได้อ่าน แต่ถ้าหากเป็นเฮอร์ไมโอนี่มันก็คงไม่น่าแปลกใจที่เธอยังคงเก็บมันเอาไว้ อีกชิ้นหนึ่งเป็นรายงานข่าวสั้นๆ และชิ้นสุดท้ายดูเหมือนจะเป็นรายงานข่าวทั้งหมดของหัวข้อข่าวนี้ เฮเลนรู้สึกโล่งใจนิดหน่อยที่ข่าวที่เฮอร์ไมโอนี่ว่ามันไม่ได้เป็นพาดหัวข่าวใหญ่ๆ ถ้าหากเธอต้องมารับเรื่องอะไรที่มันมากไปกว่านี้เธอคงอยากจะกัดลิ้นตายไปสักวันแน่ๆ

     

    ประกาศกร้าว ปฏิเสธการแต่งงาน!

     

    หัวข้อหลักถูกเขียนเอาไว้แบบนั้น เฮเลนเลิกคิ้วมองเฮอร์ไมโอนี่อย่างมีคำถาม การปฏิเสธการแต่งงานเกี่ยวอะไรกับเธอหรือแฮร์รี่ด้วย  

     

    ทรยศต่อสายเลือดลูเซียส มัลฟอยตวาดเสียงแข็งใส่ลูกชายคนเดียวของบ้านอย่างโกรธเกรี้ยวในวันงานเลี้ยงอาหารค่ำอันยิ่งใหญ่ของครอบครัว

    ข่าวล่าสุดของตระกูลเก่าแก่ ‘มัลฟอย’ ได้มีเสียงเล่าอ้างถึง ‘เดรโก มัลฟอย’ ทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลได้ประกาศกร้าวกลางงานเต้นรำของครอบครัวเมื่อเดือนก่อนว่าต้องการแต่งงานกับคนอื่นที่ไม่ใช่เลือดบริสุทธิ์ลูเซียส มัลฟอยมีท่าทีไม่พอใจเป็นอย่างมาก ถึงขั้นออกปากต่อว่าบุตรชายคนเดียวของตระกูลด้วยอารมณ์ที่เต็มไปด้วยโทสะ

    จากสายข่าวของเดลี่พรอเฟ็ตรายงานว่าสาวน้อยผู้โชคดีคนนั้นก็คือ ‘เฮเลน พอตเตอร์’ เด็กสาวเลือดผสมผู้รอดชีวิตจากการถูกสังหารจากคนที่คุณรู้ว่าใคร!! ยังไม่ทราบว่า ‘ลูเซียส มัลฟอย’ พ่อของเขาจะจัดการเรื่องนี้ต่อไปยังไง (อ่านต่อหน้าสิบ)

     

    อะไรนะเฮเลนสบถในใจอย่างห้ามไม่ได้ ถูกอย่างที่แท็คพูดคือข่าวนี้สำคัญกับพวกเขามาก แม้ว่าแฮร์รี่จะไม่รู้ว่ามัลฟอยจะกลายไปเป็นพวกผู้เสพความตายในอนาคตก็ตาม ที่มันสำคัญมากก็เพราะว่ามันลดความเป็นไปได้ที่มัลฟอยจะไปเป็นผู้เสพความตายลงไปเกือบครึ่งหนึ่งเพราะถ้าหากเขาปฏิเสธที่จะแต่งงานกับเลือดบริสุทธิ์ที่พ่อของเขาหามาให้มันก็หมายถึงเขาสามารถปฏิเสธการเป็นผู้เสพความตายได้

    “เดี๋ยว” แฮร์รี่พูดขึ้น “นี่ฉันไม่ต้องเดาเลยว่าใครเป็นคนเขียนหัวข้อนี้”

    “ก็คนเดิมที่เธอรู้ ไม่ต้องเดาหรอกแฮร์รี่” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วถอนหายใจเบาๆ “อ่านต่อเถอะ”

     

    จากการสัมภาษณ์ สายข่าวของเราได้ความว่าลูเซียส มัลฟอยพยายามปฏิเสธทุกอย่างที่ลูกชายของเขาพูด ในขณะที่นาร์ซิสซา มัลฟอยขอไม่เอ่ยอะไรเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นแม้ว่าตัวเดรโกเองจะย้ำและยืนยันหนักแน่นเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ตาม

    นอกจากนั้นยังมีรายงานอีกว่าสาวน้อย ‘เฮเลน พอตเตอร์’ ของพวกเรานั้นได้มีความสัมพันธ์มากเกินกว่าแค่เพื่อนกับเดรโก มัลฟอยเสียด้วย เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เราได้พบในฮอกวอตส์ให้สัมภาษณ์โดยไม่เปิดเผยตัวตนว่าเฮเลนและเดรโกนั้นมักจะอยู่ด้วยกันทุกวันโดยไม่สนใจแฮร์รี่ พอตเตอร์พี่ชายฝาแฝดของฝ่ายหญิงเลยแม้แต่น้อย

    'พวกเขาจะอยู่ด้วยกันทุกครั้งที่มีโอกาส' เด็กหนุ่มกล่าว 'และทุกครั้งนั่นก็จะบังเอิญเป็นผมทุกครั้งที่ได้เห็น แต่พวกเขาก็คงไม่ทันได้เห็นผมหรอกมั้ง แถมยิ่งกว่านั้น -- ไม่พูดดีกว่าครับ ผมว่ามันจะไม่งาม'

    'แล้วถ้าหากว่าผมเป็นเขา ผมคงไม่ค่อยชอบหรอกที่จะพูดเรื่องนี้' เพื่อนชายของเขากล่าวพลางหยอกเพื่อนของตนและหัวเราะ 'เพราะไม่ว่าใครๆ ก็ต่างหลงใหลเฮเลน แล้วคิดว่าเราจะไม่ชอบเธอเหมือนกันเหรอครับ!'

    'มัลฟอยน่ะ ทำตัวเองให้เป็นศัตรูของคนครึ่งโรงเรียนเลยเชียวล่ะ'

    จากใจของริต้า สกีตเตอร์ พนันได้เลยว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นต้องไปไกลกว่าที่เราได้ยินมาอย่างแน่นอน แล้วถ้าหากลูเซียส มัลฟอยได้รับรู้เรื่องนี้ความรักของทั้งสองคนจะถูกกีดกันงั้นหรือ? หรือว่าลูเซียสและนาร์ซิสซาจะทำใจยอมรับในความรักอันบริสุทธิ์ของทั้งคู่กันแน่ สามารถติดตามได้ในข่าวฉบับถัดไป!

     

    “เรื่องของฉันมันน่าติดตามมากขนาดนั้นเลยเหรอ! เฮเลนขมวดคิ้วแล้วเงยหน้าขึ้นถามเฮอร์ไมโอนี่ เธอส่ายหน้าเล็กน้อยอย่างไม่เข้าใจเช่นเดียวกัน "แล้วนี่มันอะไรกัน! ถ้าพูดแล้วมันจะไม่งามงั้นเหรอ เรื่องบ้าอะไรเนี่ย"

    “ฉันว่าสิ่งที่น่าสนใจไม่ใช่เธอหรอกเฮเลน” แฮร์รี่พูดเสียงเรียบ “ฉันว่าสิ่งที่พวกเขากำลังให้ความสนใจอยู่ก็คือมัลฟอยมากกว่า”

    “ฉันคิดเหมือนแฮร์รี่นะ” รอนพูด “ฉันว่าสิ่งที่พวกนั้นกำลังจับตามองคือการที่มัลฟอยปฏิเสธการแต่งงาน แต่เพราะว่าเขาคอยตามติดอยู่กับเธอ มันก็เลยมีเรื่องให้เขียนเพิ่มขึ้น”

    “อีกอย่าง ตอนนี้เรารู้แน่นอนแล้วว่าลูเซียส มัลฟอยเป็นผู้เสพความตาย” เฮอร์ไมโอนี่ว่า “เขาอาจจะแกล้งทำเป็นปล่อยข่าวปลอมแล้วใช้ให้มัลฟอยมาเข้าหาเธอแล้วใช้โอกาสพวกนั้นเพื่อทำร้ายเธอก็ได้” เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจเบาๆ ครั้งหนึ่ง “มันไม่ง่ายเลยที่เราจะเชื่อใจมัลฟอยในตอนนี้ เธอเข้าใจใช่ไหมเฮเลน – เรื่องการพนันนั่นอีก – ไม่มีอะไรพิสูจน์ได้อีกแล้วว่าตอนนี้มัลฟอยไม่ได้กำลังทำตามคำสั่งพ่อของเขาอยู่”

    “แต่ถ้าเขาไม่ชนะพนัน ทุกอย่างก็จบใช่ไหม” เฮเลนพูด รอน แฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่พยักหน้ารับ

    “เธอแค่พยายามกันเขาออกไปให้มากที่สุดก็พอ” รอนว่า

    “แต่ฉันว่ามันน่าจะมีทางที่ดีกว่านั้น” เฮเลนพูด ในขณะที่แฮร์รี่พับหนังสือพิมพ์ส่งคืนให้เฮอร์ไมโอนี่ “ถ้าเรากล้าเสี่ยงสักหน่อย ฉันคิดว่าบางทีเราอาจจะได้พวกมาด้วยนะ”

    “ให้เป็นพวกกับมัลฟอยน่ะนะ” รอนทำท่าขยะแขยง “ให้เมอร์ลินเป็นพยาน ไม่มีทางทำได้แน่ ตอนอยู่ปีสองเขาหัวเราะฉันที่ฉันต้องนอนโรงพยาบาลเพราะแขนหัก หมอนั่นตามมาหัวเราะใส่หน้าฉันถึงห้องพยาบาลเลยด้วยซ้ำ ฉันไม่มีวันลืมเลย!

    “ฉันก็คิดเหมือนรอนนะ” แฮร์รี่เสริม

    “เป็นเรื่องยากมากเลยนะเฮเลน” เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงเครียด “การที่จะให้คนแบบนั้นมาเป็นพวก...”

    “แต่ถ้าเขาชอบฉันอยู่จริงๆ มันก็ไม่ยากใช่ไหมล่ะ” เฮเลนพูด ทำท่าทางมั่นใจอย่างออกหน้าออกตาจนแฮร์รี่ขมวดคิ้วใส่เธออย่างหงุดหงิด นอกจากถามเรื่องโวลเดอมอร์ตอนเรียนประวัติศาสตร์แล้วยังทำแบบนี้อีกงั้นเหรอ เฮเลนไปเอาความมั่นใจแบบนี้มาจากไหนกัน “ฉันก็แค่คิดว่าบางทีฉันอาจจะใช้จุดนี้มาดึงเขาเข้ามาร่วมกับเราได้ แค่นั้นก็พอใช่ไหมล่ะ”

    “แต่มันเสี่ยงเกินไปนะ” แฮร์รี่พูดด้วยน้ำเสียงเครียดๆ เขาคิดถึงเรื่องที่เขาพนันกับมัลฟอยเอาไว้ แฮร์รี่กลัวว่าน้องสาวฝาแฝดจะตกหลุมรักมัลฟอยเข้าสักวัน “ฉันว่าเธอไม่ควรเอาตัวเองไปเสี่ยง”

    “การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง จริงไหมแฮร์รี่” เฮเลนสบตาพี่ชายแล้วยกยิ้มขึ้นบางๆ

    บางทีเธออาจจะเปลี่ยนเรื่องราวนี้ได้ก็เป็นได้ ถ้าหากเธอเอามัลฟอยมาเป็นพวกได้ล่ะก็เรื่องราวหลายอย่างจะต้องเปลี่ยนไปแน่ๆ บางทีซีเรียสอาจจะไม่ต้องตายหรือบางทีก็อาจจะไม่ต้องเสียอะไรสักอย่างเลยก็ได้

    แฮร์รี่ถอนหายใจเบาๆ “เอางั้นก็ได้ – แต่ระวังด้วยแล้วกัน”

    “ได้” เฮเลนพยักหน้ารับ “ฉันจะระวังตัว”

     

    ติดตามตอนต่อไป...

     

    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×