ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    STORY OF } PLuT♡ *CLose

    ลำดับตอนที่ #8 : [2] 彼岸花

    • อัปเดตล่าสุด 24 ต.ค. 59


    REGISTRATION FORM

    | หน้านี้มีเพลงอัตโนมัตินะคะ |

     

    Every word I say is true
    ทุกคำที่ฉันพูดออกไปเป็นความจริง



    “เราต่างรู้ๆกันว่า คนประเภทไหนที่ควรเงียบด้วยเป็นที่สุด...”


    [ And all that surround you,
    และทุกสิ่งที่รายล้อมเธอ
    Are secrets and lies
    ล้วนมีแต่ความลับและคำหลอกลวง ]


    .

    .

    .

    [This is a battle we've won
    นี่คือสงครามที่เราได้ชัยชนะมาแล้ว

    And with this vow,
    และด้วยคำมั่นนี้

    Forever has now begun...
    ความเป็นนิรันดรได้เริ่มขึ้นเดี๋ยวนี้แล้ว]


    - Ninghueng To Kou -


    นามสกุล - ชื่อ :  จาง หนิงหวง [ Zhang Ninghuang ]

    • จาง - จือจาง , สีจาง #ผิด แปลว่า แล , มอง ต่างหาก !

    • หนิงหวง - แสงสว่างแห่งสันติสุข

    • รวม ๆ แล้วจะได้ความหมายว่า จาง หนิงหวง [ การแลมองของแสงสว่างผู้มีสันติสุข ] ค่ะ


    ชื่อเล่น : หนิงหวง [ Ninghuang ] , อาซะ [ Aza ]

    • อาซะเป็นชื่อที่แม่ชาวญี่ปุ่นได้ตั้งไว้ให้ค่ะ เพื่อให้คนญี่ปุ่นที่ออกเสียงชื่อนางไม่ได้ ให้เรียกชื่อนี้แทน แต่ทุกวันนี้หนิงหวงก็ไม่เคยบอกใครค่ะ ว่า ตัวเองมีอีกชื่อว่าอาซะ

    • อาซะ - รุ่งอรุณ


    สัญชาติ : จีน [ เชื้อชาติ : จีน - ญี่ปุ่น ]

    • หนิงหวงเป็นลูกเสี้ยวค่ะ ไม่ได้เป็นลูกครึ่ง หรือคนจีนคนญี่ปุ่นแท้ ๆ ญาติทางฝั่งพ่อเป็นคนจีน ส่วนฝั่งแม่เป็นคนญี่ปุ่นค่ะ สรุปแล้วในสายเลือดของหนิงหวงจะมีเลือดของสองเชื้อชาติดังนี้ [ จีน - 75 % , ญี่ปุ่น - 25 % ]


    อายุ : 17

    ลักษณะภายนอก : เธอคือหญิงสาวผู้มีใบหน้าเรียบนิ่งซึ่งแทบไม่แสดงอาการทางอารมณ์ใดออกมาให้เห็นทั้งนั้น จะเรียกได้ว่าเป็นคนที่ใบหน้านิ่งเรียบเฉยเหมือนเจ้าหญิงน้ำแข็งก็ไม่ต่างเท่าใดนัก แต่หากพอแย้มรอยยิ้มออกมา รอยยิ้มของเธอกลับงดงามประหนึ่งนางฟ้านางสวรรค์ ริมฝีปากมักจะถูกทาลิปสีแดงอ่อนไว้ ใบหน้าสวยด้วยความวิจิตรพิสดารลึกล้ำ ตามแบบฉบับของชาวดอกเหมยทั่วไป นัยน์ตาสีไพลินหม่นหมอง แลดูให้ความรู้สึกเศร้าและสง่าเหมือนเจ้าหญิงในเวลาเดียวกัน มันดูแสนเศร้า.. เธอมีไฝเล็ก ๆ ใต้นัยน์ตาทำให้เธอดูมีเสน่ห์มากขึ้น ผิวขาวเนียน ขาวจนเหมือนเป็นดั่งหิมะของเทือกเขาหิมาลัย ใบหน้าสวยที่ประกอบไปด้วยริมฝีปากงดงามอวบอิ่มสีแดงหวานสวยรับกับเรือนผิวอันงดงาม เรือนผมมีความพลิ้วไหวตามไปกับสายลมเสมอ ๆ ราวผิวน้ำ ด้วยความที่ว่าเรือนผมยาวสยายพลิ้วไหวกับสายลมนั้น เป็นสีน้ำเงิน ให้ความรู้สึกคลับคล้ายเกลียวคลื่นก็มิปาน เป็นคนร่างเพรียวบาง เอวคอด รับเข้ากับทรวดทรงของหน้าอก สะโพกผายของเธอก็ว่าได้ สูง 168 น้ำหนัก 53


    อุปนิสัย :       เจ้าหญิงน้ำแข็งผู้เย็นชาและปราศจากรอยยิ้ม เธอเป็นผู้หญิงที่เรียกได้ว่ามีมาดสงบนิ่งโดยแท้จริง หากแต่ดวงตาคู่นั้นนอกจากจะดูเย็นชาแต่กลับไร้วี่แววของความแข็งกร้าว แต่เป็นแววตาที่ออกจะดูทุกข์ระทมก็มิปาน จาง หนิงหวง เป็นผู้หญิงที่นิ่งและสงบเอาเสียมาก เป็นคนที่พูดน้อยไม่ค่อยพูด ทั้งยังมีบรรยากาศคลับคล้ายผู้ใหญ่กว่าวัยเสียด้วยซ้ำ ผู้หญิงที่มีบรรยากาสกดดันคนอื่นก็ว่าได้ เป็นคนที่รักสันโดษ ชอบที่จะอยู่คนเดียวและไม่ข้องแวะกับใคร รักสงบ ไม่ชอบอะไรที่วุ่นวายหรือยุ่งยาก เป็นพิธีรีตองอะไรแม้แต่น้อย ค่อนข้างชอบแล้วตั้งอยู่ในความเรียบง่าย

          หนิงหวงเป็นผู้หญิงเรียบง่ายไม่หวือหวา หรือ ผาดโผนอะไรทั้งนั้น เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่ยิ้ม จนแทบจะเรียกได้ว่ามีใบหน้าไร้อารมณ์ ก็คือ หนิงหวงเป็นประเภทเสือยิ้มยากค่ะ ไม่ค่อยยิ้มออกมาให้ใครเห็นหรอก ถ้ายิ้มทีวันนั้นอาจหิมะตก… หรือ ไม่ก็คงจะเป็นวันที่โชคร้ายไม่ก็โชคดี (?) เป็นประเภทคิดมาก ชอบเก็บความคิดมากไว้กับตัวเอง มีอะไรก็ไม่พูด ชอบเก็บไปคิดคนเดียว มักจะคิดคนเดียว ทำอะไรเองคนเดียว ไม่บอกไม่กล่าวกับใคร นอกจากนี้เธอเป็นผู้หญิงที่จิตใจต้องเรียกได้ว่าค่อนข้างจะมั่นคง ไม่ได้จิตใจอ่อนแอและโอนเอนง่าย เป็นคนมีอุดมการณ์ในความตั้งมั่นของตนเอง ตั้งมั่นที่จะทำอะไรแล้วก็จะทำให้สำเร็จด้วยตัวคนเดียว…

          คนเดียวคำๆนี้น่าจะเหมาะกับเธอกระมัง ทำอะไรก็ทำโดดเดี่ยว เป็นคนโดดเดี่ยวมาก ไม่ได้มีมิตรรอบกายแบบใคร ๆ  เธอเป็นคนที่เข้ากับใครไม่ได้ ด้วยอุปนิสัยเป็นคนเงียบๆ เรียบๆ นิ่งๆ ไม่ค่อยพูดค่อยจา เหมือนเป็นคนไร้มนุษยสัมพันธ์ แต่ถ้าหากรู้จักก็เป็นคนที่น่าคบหรือคุยด้วยคนหนึ่ง เข้าสังคมไม่เก่งและไม่รู้จะเข้าไปในสังคมยังไง ทำให้ต้องโดดเดี่ยวเป็นเหตุผลของความโดดเดี่ยวของเธอที่มีเหตุผลที่สุดค่ะ

          พูดน้อย แต่จริงใจ เป็นคนพูดน้อย นาน ๆ ทีจะพูดประโยคยาวๆออกมา ไม่ค่อยพูด แต่คำพูดแสนน้อยถ้อยคำนั้น กลับเปี่ยมด้วยความเต็มใจในทุกอย่าง เธอเต็มใจที่จะพูดออกไป เป็นคนพูดอะไรด้วยความจริงใจ จริงใจที่จะพูด ไม่ได้พูดอะไรที่ไม่หวังดีกับใคร เธอไม่พูดนินทาใครโดยปกติ ไม่เคยว่าไม่เคยด่าใครนะ แต่ถ้าหากเธอด่าใคร เขาคงต้องประพฤตตัวใหม่ได้สักทีแล้วล่ะ

          เป๊ะในด้านมารยาทและการวางตัวในสังคม วางตัวอ่ะวางได้นะ แต่เข้าสังคมไม่เก่งแบบคนอื่น ฮาาา ก็มันเป็นมารยาทพื้นฐานอยู่แล้วทำให้หนิงหวงปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และเมื่อปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อย่างเคร่งครัด ทำให้ดูเป็นคนจริงจัง ไม่มีใครกล้าจะคบด้วยอีกระรอก (?) เพราะนอกจากพูดน้อยและก็จริงจังน่ะแหล่ะ

          ขี้เหงาแต่ไม่พูดไม่บอกอะไรใคร เห็นแบบนี้ก็จะชอบแอบมองคนอื่นๆ ที่มีเพื่อนเสมอเลยนะ แต่มองเงียบ ๆ ไม่พูดอะไรออกมาเลยแม้แต่น้อย กลายเป็นอยู่คนเดียวจนชินชา แต่หัวใจยังปรับตัวไม่ได้ทุกทีเลยให้ตายสิ.. อยากมีเพื่อนนะคะ หนิงหวงอยากมีเพื่อน อยากคุยอะไร ๆ กับเพื่อนได้แบบที่เด็กคนอื่นทำได้และได้ทำบ้าง มีความรับผิดชอบในทุกเรื่องทั้งหน้าที่ ทั้งเรื่องการเรียน หรือ การรับผิดชอบต่อตนเอง เป็นผู้หญิงที่มีความรับผิดชอบ และทำงานอย่างฉับไว ไม่เกียจคร้านหรืออยู่เฉยๆเเบบคนอื่น

          ค่อนข้างมีความเป็นแม่บ้านแม่เรือนอยู่ระดับปานกลาง เป็นคนทำอาหารได้มีเสน่ห์ เธอทำอาหารเก่งนะคะ เรียกได้ว่าอร่อยเลยล่ะค่ะ คบกับเธอไม่มีอดตายแน่นอนค่ะจุดนี้ เย็บได้พอประมาณ เธอเป็นคนขี้รำคาญเล็กน้อย แต่ถึงจะรำคาญอะไรใคร ก็ทำอะไรไม่ได้ค่ะ ก็มีความปลงเกิดขึ้น โดยส่วนตัว

        หนิงหวงเป็นคนสุภาพ มีมารยาทสูง และเป็นคนพูดจริงทำจริง เป็นผู้หญิงเอาจริงเอาจัง และ จริงจังกับทุกเรื่อง แต่ถึงกระนั้นเป็นคนที่มีความเหม่อในสายเลือดค่อนข้างสูง มักจะชอบคิดมากแล้วจนเหม่อไม่ได้ฟังคนอื่นก็มี

          หนิงหวงเป็นผู้หญิงที่ขี้อายมากพอสมควร ราวกับว่าใบหน้านิ่งออกตาย ๆ ฉาบด้วยบุคลิกเย็นชาประหนึ่งเจ้าหญิงน้ำแข็งจะซ่อนตัวตนที่แท้จริงของหนิงหวงเอาไว้ก็มิปาน หนิงหวงเป็นคนไม่กล้าแสดงออก ไม่กล้าพูด ไม่กล้าที่จะสนิทกับใคร ไม่กล้าในหลาย ๆ ความหมาย

          ผู้หญิงที่ชื่อว่า จาง หนิงหวงเป็นผู้หญิงที่เข้ากับมุขตลกไม่ได้ และไม่มีวันที่จะเข้าในสายตาของคนทั่วไป เป็นผู้หญิงที่มีมุมแอบรั้น แม้ตัวจริงจะเป็นคนขี้อาย แต่เธอก็เป็นคนที่เรียกได้ว่าหัวรั้นพอสมควรเลยล่ะค่ะ เป็นคนหัวรั้นและไม่ชอบทำตามคำสั่งใคร เธอไม่ชอบถูกบังคับเป็นอย่างมาก หนิงหวงเป็นประเภทที่มีอคติกับคนตีสองหน้าด้วยซ้ำไป

          รักสะอาด ไม่ชอบสิ่งสกปรก หรืออะไรที่ดูโสโครก เธอไม่ชอบ เธอเป็นคนที่ชอบหมั่นดูแลตัวเอง ตามแบบฉบับของผู้หญิงทั่วไป ก็จะมีแต่งหน้าบ้างอะไรบ้าง หนิงหวงก็เป็นประเภทนั้น แต่ก็ไม่ได้ติดจนเป็นคนสำอางอะไร และเธอไม่ชอบความสกปรก ไม่ชอบกลิ่นเหงื่อเอาเสียมาก ๆ

          จู้จี้จุกจิกบ้าง ตามภาษาของผู้หญิง แต่เธอจะไม่ไปตอแยหรือบังคับอะไรมากมาย ส่วนตัวก็แค่ปรายตามองพลางเอ่ยตักเตือนน้อยๆ ไม่ได้เสียมาดของความเรียบนิ่งและไม่ทำให้เธอดูเป็นคนน่ารำคาญ หรือ เจ้าระเบียบจนมากเกินไป

          เป็นผู้หญิงที่ไม่เปิดใจรับรู้เรื่องของคนอื่น และ ไม่กล้าให้ใครเข้ามาในใจของตัวเอง จึงไม่มีสังคม เพราะไม่กล้าให้ใครเข้ามาเปิดประตูของเธอเข้ามา แค่ไม่เปิดใจเท่านั้น… เป็นคนใจแข็ง ไม่ได้ใจอ่อนและสงสารอะไรใคร มีความกลัวว่าถ้าใจอ่อนกับใคร คนๆนั้นอาจคิดร้ายก็เป็นได้ จะเรียกว่ามองโลกแคบและโลกในแง่ร้ายก็ถูกที่สุด

          ถึงจะมองโลกแคบและโลกในแง่ร้าย แต่เธอไม่เคยบังคับหรือยีดเหยียดความคิดมองโลกในแง่ร้ายของตัวเองให้แก่คนอื่นเลยนะคะ เพราะเธอเชื่อว่าทุกคนมีเหตุผลเป็นของตัวเอง เป็นคนทำอะไรแบบมีเหตุผล เหมือนตัวเองที่มีบุคลิกความเป็นผู้ใหญ่ด้วยล่ะนะคะ คือทำอะไรก็ล้วนมีเหตุผล และ ฟังเหตุผลของคนอื่นก่อนเสมอ

          ต่อให้คนอื่นจะงี่เง่าหรือเอาแต่ใจยังไง เธอก็เป็นคนที่ไม่ค่อยไปว่าอะไรใครหรอก เธอก็จะเงียบเสียมากกว่า ปล่อยให้อีกคนเบื่อไปเองแหล่ะ เพราะอะไรน่ะเหรอคะ… ก็ สัญชาตญาณของมนุษย์บอกเราเสมอค่ะ ว่า เราควรจะเงียบกับคนบางประเภทดีกว่าไปพูดอะไรมากมาย

          เม้ามอยไม่เก่ง ไม่ใช่สายเม้าค่ะ ข้ามไปได้เลยเรื่องความคิดจะมาเม้าใครให้เธอฟังน่ะ

          เป็นคนสุภาพ แต่มืออ่ะหนักมากนะ อย่าให้ตีหรือตบใครเลย เจ็บจะตายไป ตบหน้าคนทีนี้หน้าอีกฝ่ายแดงเป็นรอยมือเลยค่ะ แม้จะไม่ใช่คนชอบใช้กำลัง แต่ชอบตบหน้าคนอื่นแล้วมองด้วยสายตาที่จริงจังค่ะ ให้อารมณ์ประมาณว่าเรียกสติอีกฝ่ายก็ว่าได้ เธอเป็นคนที่แม้ว่าจะเหมือนไม่สนใจใคร แต่ว่าก็อดไม่ได้ที่จะเห็นคนอื่นวู่วามหรือไม่มีสติ ทำให้มือมักไปไว สุดท้ายก็แอบไปขอโทษอีกฝ่ายนอกรอบตลอดเลยค่ะ เห็นได้ชัดว่าอายไม่กล้าขอโทษต่อหน้าคนอื่น

          ไม่ชอบที่จะโกหกอะไรทั้งนั้น ก็บอกไงว่าเธอน่ะเป็นคนที่พูดน้อยแต่จริงใจ พูดแต่ละที่มีแต่ความจริงใจออกมา แต่ถ้าจำเป็นต้องโกหก เธอก็จะไม่พูดมันออกมาก็แค่นั้น หรือ ก็คือเธอไม่ได้โกหก เธอก็แค่ไม่บอกความจริงก็แค่นั้น ไม่บอกก็ไม่ผิดนี่น่า…

          หนิงหวงเป็นคนมีความแอบทะเยอทะยานและค่อนข้างให้ความสำคัญกับเป้าหมายไม่มากก็น้อย

          เป็นคนฉลาด เธอเป็นผู้หญิงที่เก่งในด้านคำนวน ด้านวิชาการ ตามหลักสูตรที่เรียนแต่ถ้าไม่เรียนหรือไม่มีคนอธิบายก็ไม่ได้ นับได้ว่าเรียนเก่งนะคะ ไม่ได้ฉลาดเวอร์แบบสามารถคำนวนอะไรได้แม่นยำ ก็บอกไงเก่งในตำราก็พอค่ะ ไม่ต้องเวอร์หรอก…

          หนิงหวงเป็นคนแข็งนอกอ่อนในค่ะ เธอเป็นคนที่ภายนอกออกจะเหมือนคนเข้มแข็ง และ ดูเย็นชา หากแต่ภายในทั้งขี้เหงา ทั้งน่าสงสาร เหมือนเป็นคนที่โดดเดี่ยว ไม่มีใครอยู่ข้าง ๆ นี่แหล่ะค่ะ ที่ทำให้หนิงหวงน่าสงสาร เธอไม่ได้เข้มแข็งพอที่จะอยู่คนเดียว ใช่ค่ะ หนิงหวงไม่สามารถอยู่ได้ด้วยตัวคนเดียวได้…

          แท้ที่จริงหนิงหวงใจไม่ได้เข้มแข็งเป็นคนที่มักจะแอบร้องไห้มากกว่าให้ใครเห็นน้ำตา แต่ถ้าหากใครเห็นน้ำตาคนๆนั้นต้องสำคัญขนาดที่ว่าหนิงหวงอยากให้อยู่ ให้รับรู้ถึงความรู้สึกของเธอตลอดไปก็ว่าได้ อาจฟังดูน้ำเน่ามากๆเลยล่ะ...แต่มันก็คือความจริง

          หนิงหวงชอบเสียงของเครื่องดนตรีที่เรียกว่ากู่เจิง หนิงหวงชอบอาหารประเภทเส้น เป็นคนชอบแต่งหน้าอ่อน ๆ ชอบพวกสุนัข หนิงหวงเป็นคนชอบฟังเสียงดนตรีมากกว่าเสียงร้องเพลง หนิงหวงเป็นผู้หญิงที่ชอบการวางตัวอย่างมีมารยาท ชอบความสะอาด ชอบการอ่านหนังสือ

          หนิงหวงเกลียดและไม่ชอบกลิ่นของโรงพยาบาลและบรรยากาศของโรงพยาบาล เธอไม่ต้องการที่จะเข้าไปที่โรงพยาบาล เธอเกลียดกลิ่นของแอลกอฮอล์ฉุน ๆนั่น หนิงหวงเกลียดสัตว์น่าขยะแขยง เกลียดความสกปรก เกลียดคนตีสองหน้า เกลียดคนโกหก และเธอไม่ชอบทานของดิบเช่นเนื้อปลาดิบ เพราะเธอทานไม่ได้นั้นเอง...

          หนิงหวงกลัวสายตาจากสังคมที่จ้องมามอง และ กลัวโรงพยาบาล นอกจากนี้กลัวใจของมนุษย์ยังไงเล่า

          ความรักในความฝันของหนิงหวง ความรักของหนิงหวง.. หนิงหวงต้องการความรักที่ขอแค่ซื่อสัตย์ต่อกันก็พอ ขอแค่ไม่โกหกนั่นเอง สำหรับหนิงหวง

          

    ประวัติเบื้องลึก :       บุตรสาวคนกลางบุญธรรมของครอบครัวเนื่องจากพ่อแม่ของเธอเสียชีวิตไปนานมากตั้งแต่ที่จาง หนิงหวงยังจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่รู้แค่ว่าตั้งแต่พ่อแม่เสียไปทุกสิ่งทุกอย่างก็เหมือนเริ่มใหม่ กับบ้านหลังใหม่อันเป็นครอบครัวของลุงเธอ ‘อาซะ’ ชื่อที่แม่เรียกก็หายไปจากสมอง ไม่มีใครเรียกชื่อนั้นนอกจาก ‘หนิงหวง’’ อีกเลย

          ชีวิตราบเรียบปกติดี ไม่ได้ทะเลาะอะไรกับญาติ ๆ หรอกนะคะ ชีวิตของเธอมันก็ปกติสุข คลุกอยู่กับไดอารี่ของผู้เป็นแม่ที่เหลือเป็นสิ่งสุดท้ายในชีวิตก็แค่นั้นตั้งแต่อายุ 7 ปีเห็นจะได้ ไดอารี่ของแม่ที่เหลือไว้แล้วลุงของเธอได้เล่าว่าแม่ของเธอกอดไดอารี่แน่นมากก่อนจะหลับตาลงไปสู่สวรรค์


          [ ถึง อาซะ ( จาง หนิงหวง ) ลูกรัก

                 แม่อยากให้ลูกอ่านบันทึกของแม่เล่มนี้มากๆเลยล่ะนะ แม่รู้ว่าลูกเป็นเด็กดี อยู่กับคุณลุงเรียวมะก็ต้องเป็นเด็กดีแบบที่อยู่กับคุณพ่อคุณแม่นะคะ หนิงหวงฟังแม่นะคะ ก่อนแม่จะสิ้นลมแม่เคยบอกกับหนูเนอะ ว่า แม่มีความฝันอยากจะทำให้ได้ และ...ฝันของแม่ก็คือ…. ]


          “หนิงหวงมากินข้าวเร็วลูก”เสียงเรียกของคุณแม่บุญธรรมดังขึ้น หนิงหลงปิดไดอารี่ของแม่ตน พร้อมก้าวลงมาทานอาหารเย็นอย่างรวดเร็ว อาหารตรงหน้าถูกวางไว้ ทั้งพี่ชายคนโตผู้เป็นลูกคนแรกของคุณลุงผู้มีศักดิ์เป็นลูกน้อง และ น้องสาวคนเล็กผู้มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องเช่นกัน


          [ ‘ท่านผู้นั้น’ ความฝันของแม่คือท่านผู้นั้นและแม่อยากให้ลูกของขวัญแสนสำคัญของแม่ รักในตัวของท่านผู้นั้น ไม่ว่าเขาจะเป็นใครหรือลูกไม่อาจได้เห็นหน้าก็ตาม ]


          หลังจากอาบน้ำทำธุระหนิงหวงก็อ่านบันทึกต่อ เธอตั้งมั่นในตัวท่านผู้นั้นในไดอารี่ที่แม่ของเธอกล่าวถึง หนิงหวงอ่านมันต่อไปเรื่อย ๆ [ อาซะ ลูกจะช่วยทำให้ความฝันของแม่เป็นจริงได้ไหม เพื่อท่านผู้นั้นอาซะ เห็นแก่แม่ ถ้าลูกรักแม่ ลูกต้องเปิดบันทึกนี้อ่านทุกๆวัน ให้มันซึมซับเข้าไปในสมองของลูก..  จาก ซาเอริ ]

          จุดเริ่มต้นตอนเด็กก็ไม่คิดอะไรเธอได้เศร้าเสียใจกับการจากไปของแม่ ทำให้อ่านบันทึกนั้นตามที่แม่ของเธอบอกทุกครั้ง จะเรีบกได้ว่าบันทึกแค่หน้าเดียวมันเลี้ยงเธอมาก็ได้..

          ท่านผู้นั้น… ท่องต่อไป เพื่อท่านผู้นั้น ไม่ว่าท่านผู้นั้นจะเป็นใครก็ตาม


          หนิงหวงเมื่อโตขึ้น ลุงก็ส่งไปเรียนในโรงเรียนรัฐบาลที่เป็นหอ ซึ่งตัวเธอก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร แม้ว่าจะไม่ถูกกับเพื่อนร่วมห้องก็ตาม วันแรกที่ย้ายมาอยู่หอและห้องเดียวกันกับผู้หญิงสามคนนั้นมองหนิงหวงแปลก ๆ

          “ฉัน จาง หนิงหวง ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” หนิงหวงในตอนนั้นแนะนำตัวตามสไตล์ของเธอเอ่ยอย่างมีมารยาทพร้อมโค้งหัวให้ทั้งสามคน แต่ทั้งสามคนกลับเบะปากออกมา… ในตอนนั้นหนิงหวงยังไม่เข้าใจอะไร เด็กสาววัย 15 ย่าง 16 ยังไม่เข้าใจอะไรจริงๆ


          ในห้องเรียนหนิงหวงเข้ากับใครไม่ได้ เธอเป็นคนที่หมดธุระก็จะกลับหอมานั่งอ่านไดอารี่ตอนดึกๆ ซึ่งแรก ๆ ก็ไม่มีอะไรหรอก...พอหลังจากนั้น เธออายุได้เข้า 16 เต็มๆแล้ว รูมเมทผู้หญิงทั้งสามของเธอแอบลักลอบพาผู้ชายเข้าห้องมา…

          หนิงหวงพยายามค้านรูมเมทของเธอจนหนึ่งในผู้ชายเหล่านั้น (พวกเขามา 4 คน) ได้ลากเธอออกมาจากห้องเพื่อหวังจะพาเธอไปข่มขืนที่อื่น หนิงหวงขัดขืนจนกระทั่งเกิดเหตุที่ทำให้หนิงหวงต้องบาดเจ็บเมื่ออีกฝ่ายเหวี่ยงเธอเข้ากระแทกกับเสา เลือด..ค่อยๆไหลออกมาจากศีรษะของเธอ


          หนิงหวงตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาล บรรยากาศในโรงพยาบาลทำเธอหวาดกลัวเอาเสียมาก มันดูอึดอัดสำหรับใครหลายคนรวมไปถึงเธอ เธอเสียแม่ที่โรงพยาบาล เธอเห็นคนร้องไห้ที่โรงพยาบาล..สำหรับเธอมันหดหู่มากเลยนะ

          “ฟื้นแล้วเหรอ”เสียงหวานใสของผู้หญิงที่เธอไม่คุ้นดังขึ้น

          มิตรภาพครั้งแรกของเธอมอบให้ผู้หญิงคนนั้น เพราะเป็นคนที่จริงใจต่อเธอ ทำให้เธอยอมถึงขั้นให้อ่านไดอารี่เลยล่ะ ไดอารี่ของแม่เธอน่ะ เธอกล้าเล่าเรื่องของเธอให้อีกฝ่ายฟัง


          แต่มันก็ถูกทำลาย..

          อีกฝ่ายชั่งโกหกและตีสองหน้า อีกฝ่สยเอาเรื่องทั้งหมดไปบอกทุกคนแทบในชั้นปี นางนินทาเธอให้คนอื่นฟัง แต่พออยู่กับเธอกลับชื่นชมเธอ คนอื่นเริ่มหัวเราะเยาะเธอ

          “แหม่...หลงรักท่านผู้นั้น โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร”

          “น้ำเน่าว่ะ น้ำเน่าโคตรๆ”

          “โถ่ ๆ เด็กดีทำตามคำสั่งแม่ ขาดความอบอุ่น”

          “เห็นชีเงียบ แต่ชีว้อนมากนะจ๊ะ”


          สายตาที่ชิงชัง….

          เยาะเย้ยจากสังคม..


          ฉันไม่ต้องการ !!!!!!!!


          หลงรักท่านผู้นั้น..ก็จริง หลงรักแม้จะไม่รู้ว่าเป็นใคร


          แต่หลังจากวันนั้น หากพูดถึงท่านผู้นั้นปฏิกิริยาตอบสนองของเธอกลับไม่เหมือนเดิม….

          เพราะพวกนั้นทำให้คำว่าท่านผู้นั้น ทำให้เธอเห็นภาพของรอยยิ้มเย้ยพวกนั้น เธอเกลียดที่สุดเลย..เกลียด…


          แต่เธอหลงรักท่านผู้นั้นไปแล้วจริงๆนะ…….

          หลงรักจากบันทึกของแม่…...


    สิ่งที่ชอบ :

    • ท่านผู้นั้น - ก็บอกไงค่ะว่า มันเป็นเพราะบันทึกของแม่ของเธอที่ทำให้เธอท่องมาตลอด จนเผลอไปหลงรักท่านผู้นั้นตามคำกล่าวของแม่ เสียดายตรงที่ว่าเธอไม่รู้ว่าท่านผู้นั้นเป็นใครแล้วมีนิสัยอย่างไรเท่านั้นเอง

    • เสียงของกู่เจิง - เสียงมันกังวาลไพเราะเพราะพริ้งมากค่ะ สำหรับเธอ

    • อาหารประเภทเส้น - เธอชอบทานพวกเส้นค่ะ เช่น วุ้นเส้น เส้นก๋วยเตี๋ยว เส้นหมี่เป็นต้น

    • ความสะอาด - ก็ยังดีกว่าสกปรกนะคะ 555

    • ดนตรี -ชอบฟังเสียงดนตรีเพียว ๆ โดยไม่มีเนื้อร้องค่ะ

    • มารยาท - เรื่องพื้นฐานทางสังคมเนอะ… ฟฟฟ

    • อ่านหนังสือ - ทั้งฆ่าเวลา ทั้งทำให้ชีวิตดูมีประโยนช์มากขึ้น

    • ความสงบ - เธอไม่ชอบอะไรที่วุ่นวายค่ะ
       

    สิ่งที่เกลียด :

    • คนโกหก /คนตีสองหน้า - เหตุการณ์ในอดีตเลยค่ะ มันทำให้รู้สึกแย่นะคะ..แล้วก็เจ็บปวดมากด้วย

    • โรงพยาบาล - ทั้งบรรยากาศ ทั้งกลิ่น มันไม่น่าอยู่เลยแม้แต่น้อย

    • ความสกปรก - มันทำให้รกรุงรัง ทั้งยังอาจมีพวกสัตว์น่าขยะแขยงก็รวมอยู่ด้วยก็ได้

    • รอยยิ้มเย้ยหยัน - เกลียดมากค่ะ เธอเกลียดมากๆ เลย

    • สัตว์น่าขยะแขยง - พวกมันน่าขยะแขยงไง…

    • อาหารที่ปรุงไม่สุก - เธอกินไม่ได้ค่ะ แบบพวกปลาดิบอะไรแบบนี้ หนิงหวงกินไม่ได้ ฟฟ
       

    สิ่งที่กลัว :

    • การอยู่ในโรงพยาบาล - บางทีมันอาจเป็นปฏิกิริยาสำหรับคนที่เคยอยู่แล้วก็ได้ เธอจะรู้สึกใจไม่ดีเลยแม้แต่น้อยค่ะ ตอนอยู่ในโรงพยาบาลน่ะ

    • สายตาของคนอื่นที่จ้องมองมา - เห็นภาพซ้อนทับจากเหตุการณ์ค่ะ อันนี้ทำให้อาจรู้สึกซึมเศร้าจนแทบบ้าก็ว่าได้

    • ใจมนุษย์ - ใครๆก็ล้วนกลัวใจของมนุษย์ค่ะ มันยากนะที่จะรับมือกับหัวใจของคนอื่น
       

    งานอดิเรก :

    • อ่านหนังสือ / อ่านไดอารี่ของแม่

    • ทำอาหาร #บางเวลาค่ะ

    • ทำความสะอาดบ้าน , ดูแลความสะอาดของตัวเอง
       

    ความสามารถพิเศษ :

    • ฉลาดในตำรา

    • หากต้องโกหกจะเป็นคนที่โกหกได้เนียนมาก เพราะ ไม่พูดออกไปเลยแม้แต่น้อย

    • แสดงสีหน้าที่ยังคงไร้อารมณ์ออกมาได้ ไม่ว่าจะมีเหตุการณ์ใด

    • ทำอาหาร

    • เล่นกู่เจิง

    • การวางตัวอย่างมีมารยาท

    • แบดมินตัน
       

    คู่ : มุคามิ โคว

    เพิ่มเติม :

    • ครอบครัว

      • หนิงหวงแท้จริงเป็นลูกคนเดียวของบ้านค่ะ ตอนแรกอยู่กับพ่อแม่แค่สามคนพ่อแม่ลูก พ่อของเธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังไม่มองดูโลก ส่วนแม่เสียชีวิตด้วยโรคค่ะ สรุปได้ว่า 7 ปีบนโลกของหนิงหวงโตมากับแม่ค่ะ

      • ชีวิตต่อมาของหนิงหวงโตมากับครอบครัวของลุงเธอค่ะ ซึ่งมีคุณลุงและภรรยาของเขาพร้อมกับลูกอีกสองคนซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของหนิงหวงค่ะ

    • ลักษณะคำพูดคำจา

      • น้ำเสียงนิ่ง ๆ เรียบ ๆ ไม่ดูโฮกฮากและดูหวานนิ่มนวลจนเกินไป เป็นเสียงที่แอบทำให้รู้สึกเย็นเล็กน้อย คำพูดคำจามักจะสุภาพและมีมารยาทเสมอ ๆ มักจะแทนตัวเองว่า “ฉัน” และ เรียกคนอื่นด้วย “คุณ (นามสกุล)” นอกจากนี้ มักจะลงหางเสียงท้ายประโยคต่อๆมา

      • สรรพนามที่ถูกเรียกด้วยนามสกุล ไม่ได้ถูกเรียกด้วยชือจริงหรือชื่อเล่นมากเท่าไร มีน้อยคนที่จะเรียก

    • การแต่งกาย

      • ชุดไปรเวท - เป็นแค่เสื้อยืดลายทางธรรมดาๆ กับกางเกงขายาวแค่นั้นเองค่ะ

      • ชุดนักเรียน - เป็นชุดแบบที่ทางโรงเรียนจัดเอาไว้ กระโปรงยาวเท่าเข่า มีเนคไทเป็นสีน้ำเงิน

    • การศึกษา

      • หนิงหวงเรียนโรงเรียนรัฐบาลตั้งแต่เด็กจนโตค่ะ

      • ระดับประถมเกรดเฉลี่ยของปีที่ต่ำที่สุดคือ 3.83 ค่ะ

      • ระดับมัธยมเกรดเฉลี่ยของเทอมที่ต่ำที่สุดอยู่ที่ 3.89

      • ปัจจุบันเรียนโรงเรียนหญิงล้วนของรัฐบาล ศึกษาในระดับมัธยมปลายปีสองค่ะ (ม. 2)

    • เรื่องรัก

      • ไม่เคยคบกับใครค่ะ ยังบริสุทธิ์อยู่ด้วย

      • แต่เห็นแบบนี้ทางนี้ก็ค่อนข้างมีผู้ชายติดเยอะเหมือนกันนะ….

    • สาวกรุ๊ปเลือด AB

    • สาวราศีมังกร เกิดในวันที่ 6 มกราคม

      • นับตามสากลได้ราศีมังกร แต่ถ้านับตามโหราศาตร์ไทยเธอจะเป็นสาวราศีธนูค่ะ

    • เป็นผู้หญิงที่ถนัดมือซ้ายค่ะ

      • แม่เธอเคยกะจะฝึกให้ใช้มือขวานะแต่ก็ล้มเลิกความคิดไป เพราะลุงของเธอเคยแนะนำว่าเอาที่ลูกสบายใจดีกว่าบังคับ..

    • แนวทางความคิดของผปค. #ไม่อ่านข้ามได้ค่ะ ฮาา

      • ตอนแรกไม่คิดจะวางออกมาในรูปแบบนี้ค่ะ ฮาาา ต้องเรียกได้ว่าหน้าคาร์ช่วยชีวิต ตรง ถึงหัวใจทำไมต้องเป็นเขา ก็เลยได้แนวความคิดหลงรักมาค่--- เพราะนางก็ยังไม่รู้เนอะว่าท่านผู้นั้นคือใคร ส่วนเรื่องนิสัยพิมพ์ไปพิมพ์มาก็วนแล้วค่ะ วนแบบใครวนกว่านี้มีอีกไหม แต่โดยส่วนตัวก็ไม่รู้ว่าจะตีโจทย์ได้โอเคไหม คือวางนางให้เก่งในตำรา ไม่ได้เก่งและสามารถเอามาปฏิบัติได้จริงและพยายามวางประวัติไม่ให้โอเวอร์เกินไปเลยสุดท้ายอาจดราม่าไม่หนักเท่าไร #หรือหนักก็ไม่รู้-- คือใสความคิดของทางนี้นะคะ ว่า อยากจะสื่อสังคมที่น้องอยู่มามากกว่า 5555 ว่าทำไมน้องถึงเย็นชา ไม่ใช่ว่าน้องเข้าสังคมไม่ได้ แต่สังคมไม่ต้อนรับน้องเอง และ พอเจอเหตุการณ์ก็เลยทำให้กลัวสังคมขึ้นมา ทำไมแลดูมั่ว ๆ จัง ทั้งนี้อาจเขียนสั้นไม่เท่าคนอื่น แต่ก็อยากให้รับไว้พิจารณานะคะ ! //กอดขาเอมซังเลย ฮือ

         

    ส่วนโรลเพลย์สำหรับตัวละคร

    นัยน์ตาสีแดงเลือดนกเหลือบมองเด็กสาวที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ๆด้วยสายตาพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยคำทักทาย "สวัสดียัยเหยื่อสังเวย เมื่อคืนเป็นคืนแรกที่ได้อยู่ร่วมห้องกับท่านผู้นั้นของเธอแล้วเป็นยังไงบ้างล่ะหืม"

     

      [  “สวัสดีค่ะ”นัยน์ตาสีน้ำเงินมองนัยน์ตาของสีตรงข้ามของตนพลางก้มหัวโค้งให้ช้า ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาเริ่มบทสนทนาอีกครั้ง “สำหรับฉัน...อธิบายไม่ถูกค่ะ” ]

    หญิงสาวในผ้าคลุมฮู้ดสีดำสนิทส่งเสียงหัวเราะน่าขนลุกเบาๆพลางไหวไหล่เหมือนจะบอกว่า มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้และมันก็ไม่ใช่เรื่องของเธอเสียหน่อย "แล้วยังไงล่ะ อยากจะหนีเหรอ" เธอถามแล้วเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้น


         [ อาจเป็นเพราะมันเป็นสิ่งที่เธอตามหามาตลอด… “ไม่ค่ะ” ]

    "เอาน่า แรกๆก็แบบนี้นั่นแหละ อีกไม่นานก็คงจะชิน อีกอย่างจะหนีไปไหนได้ล่ะหืม" เสียงนั้นเจือความสงสารปนสมเพชอย่างชัดเจน รอยยิ้มเยาะเย้ยปรากฏขึ้นข้างริมฝีปาก "เธอก็เห็นด้วยใช่ไหมล่ะ เรามาเปลี่ยนหัวข้อกันดีกว่า อืม...ถ้าสมมตินะ ท่านผู้นั้นของเธอล่ามเธอไว้แค่ภายในห้องเท่านั้นล่ะ ไม่ให้อิสระเธอที่จะออกไปไหนหรือทำอะไรได้ เธอจะทำยังไงเหรอ"

     

         [ นัยน์ตาสีน้ำเงินแฝงแววบอกไม่ถูกขึ้นมา แต่ก็ตอบกลับไปอย่างเรียบๆ  “ขึ้นอยู่ที่ว่าฉันจะหนีหรือไม่ก็แค่นั้นเองค่ะ” ]

    นัยน์ตาที่เคยกวนประสาทเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย "ฉันว่าอีกไม่นานคงจะมีเรื่องสนุกๆเกิดขึ้นแน่ๆเลย หึๆ จะทนรอไม่ไหวแล้วสิ เอาล่ะ มาถึงคำถามสุดท้ายที่ควรถามเป็นคำถามแรกแล้วล่ะนะ ความประทับแรกของเธอที่ตื่นขึ้นมาโดยมีท่านผู้นั้นจ้องมองอยู่เป็นยังไงเหรอ"
      

        [ คำถามข้อนี้ถ้าให้พูดออกไป...ก็นะ… “สำหรับฉันครั้งแรกรู้สึกดีใจที่ได้เจอเขาค่ะ” ทำไมรู้สึกว่าวันนี้เธอจำเป็นต้องพูดมากกว่าปกติกันนะ “แต่พอได้ทำความรู้จักเขาเป็นประเภทที่ฉันเกลียดค่ะ…” ]


    ส่วนตอบคำถามสำหรับผู้ปกครอง

    ก่อนอื่นเลย สวัสดีค่ะ ผู้ปกครองของว่าที่นางเอกของเอมฯ ขอทราบชื่อหน่อยได้ไหมคะ : สวัสดีเช่นกันอีกครั้งนะคะ มีนามว่า แมวน้ำค่ะ เป็นคนน่ารัก #ผิด

    ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ขอบคุณที่อุตส่าห์เสียเวลามานั่งพิมพ์ใบสมัครนะคะ : ตัวนี้อาจไม่ยาวเท่าไรนะคะ อาจยาวไม่เท่าชาวบ้าน แต่เขียนด้วยรักค่ะ ♡

    ทำไมถึงเข้ามาสมัครเรื่องนี้คะ หรือว่าชอบใครในเรื่องเป็นพิเศษเอ่ย : เหตุผลส่วนใหญ่น่าจะอยู่ในใบแรกไปแล้ว แต่ที่เลือกโควเราชอบคนตีสองหน้าค่ะ 555

    ว่าแต่ลบวงเล็บทั้งหมดออกแล้วใช่ไหมคะ อย่าลืมลบด้วยน้า : น่าจะหมดแล้วนะคะ แต่ถ้าหากหลุดมาก็ขออภัยค่ะ ฮรือว์

    เอ้อ เรื่องใบสมัครส่งตอนที่ 1 และส่งเป็นลิ้งค์เท่านั้นนะคะ ไม่งั้นเท : รับทราบค่ะ !

    สุดท้ายและท้ายสุด อย่าลืมกดสับตะไคร้ เอ๊ย fav. แฟนพันธุ์แท้กันด้วยนะคะ บ๊ายบายจ้า! : เอ็นดูทางนี้ด้วยนะคะ ! XD


     
    O W E N TM.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×