ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic HxH : Hunter x Hunter] CHECKMATE

    ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 6 | ไข่ต้มกลางหุบเขา

    • อัปเดตล่าสุด 26 มี.ค. 63



    Chapter 6



    กล้ามากนะที่มาถีบก้นฉัน! ยัย— ยัย!”


    เจ้าของเสียงเขย่าตัวตัวคนถีบหัวสั่นหัวคลอนทันทีที่โผล่หน้ามา ภาพตอนหน้ากระทบน้ำฉายขึ้นแบบสโลโมชั่น เจ็บใจจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่า ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น เพิ่มแรงเขย่าเข้าไปอีก!

    “คิรัวร์ ใจเย็นก๊อนน” กอร์นรีบวิ่งเข้ามาแยก ก่อนคนถูกเขย่าจะมึนเพราะหัวโคลงไปมา ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้เอ่ยแก้ต่าง

    “ก็เล่นหนีบฉันไม่ปล่อยนี่ ไม่จับหัวนายกดน้ำก็ดีแค่ไหนแล้ว” ยังไปซ้ำเติมเขาอีกต่างหาก

    “หน็อย ฝากไว้ก่อนเถอะ!”

    คุเรฮะยักไหล่ไม่สะทกสะท้าน “แล้ว… เมื่อไหร่การสอบจะจบล่ะ?” เธอมองไปที่เม็นจิที่กำลังโยนซูชิรูปร่างแปลกประหลาดไปทางอื่นแบบหัวเสียอยู่เรื่อย ๆ

    คุราปิก้ากำลังไปต่อแถวให้ชิม พอเพ่งมองก็ต้องเลิกคิ้วแปลกใจ ไอ้ข้าวห่อปลาที่ยังดุ๊กดิ๊กอยู่นั่นมันอะไรกัน ซูชิรูปแบบใหม่ที่ปลายังมีชีวิตเรอะ?

    “ว่าแต่กลับมาเร็วกว่าที่คิดนะเนี่ย นึกว่าเธอจะหาที่นอน แล้วนอนจนการสอบจบไปเลยซะอีก” เลโอลีโอทักตามที่คิรัวร์บ่นก่อนหน้านี้ให้ฟัง

    “อ้อ… พอดีมีตัวก่อกวนน่ะ เลยย้อนกลับมา” เธอตอบเรียบ ๆ ขณะปิดปากหาวเหมือนนอนไม่เต็มอิ่ม

    “ตัวก่อกวน?” กอร์นทวนอย่างสงสัย


    คุเรฮะพยักหน้า “ตัวเบ้อเริ่มเชียวล่ะ”


    “พอดีมือมันลั่นน่ะ ♥”

    นั่นคือคำแถของตัวตลกที่ปาไพ่ใส่ตอนกำลังนั่งหลับ ทำเอาเจ้าของผมสีปีกกาต้องลืมตาขึ้นมาปัด ๆ ตบ ๆ ไพ่ออกอย่างไม่สบอารมณ์ อยู่ใกล้กับไอ้หมอนี่ทีไรไม่เคยได้นอนอย่างสงบเลยสักครั้ง

    ฮิโซกะฉีกยิ้มเมื่อเด็กสาวทำหน้านิ่งชูนิ้วขึ้นมาชี้หน้า ทำเหมือนเขาเป็นเด็กที่ต้องถูกผู้ใหญ่สั่งสอน

    “ถ้ายังซนไม่เลิก เดี๋ยวฉันจะมือลั่นบ้าง”


    ซน


    เจ้าเด็กขี้เซาใช้คำว่า ‘ซน’ กับเขาที่อายุห่างกันรอบหนึ่งอย่างหน้าตาเฉย ไม่เคยมีเด็กคนไหนกล้าพูดเหมือนเขาเด็กกว่าแบบนี้เลยสักคน

    ผู้ใหญ่จอมซนเลิกคิ้วท้าทาย “จะสู้กันอีกรอบก็ย่อมได้ ♦”

    “ใครว่าฉันจะสู้”

    “หืม?”

    จู่ ๆ ร่างเล็กกว่าก็โผล่เข้ามาในระยะประชิด มือสองข้างพุ่งเข้าใส่ราวกับจะโจมตี ฮิโซกะหัวเราะหึเมื่อคว้าข้อมือเล็กได้ทันอย่างรวดเร็ว แต่สัมผัสที่ได้กลับแปลกกว่าทุกที

    และ—


    ฟุ่บ!


    ตามมาด้วยเสียงคนตกน้ำดังตูม น้ำในลำธารกระจายออกเป็นวงกว้าง ร่างสูงที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามลอยอยู่กลางธารน้ำในสภาพ— เปลือยเปล่า

    "!!"

    เสื้อผ้าที่ไร้คนใส่ในพริบตาปลิวหล่นทับกันบนพื้นหญ้า คุเรฮะยืนปัดฝุ่นออกจากมือหน้าตาย “ไม่ต้องขอบคุณก็ได้ที่ฉันมือลั่น... โดยไม่ให้เสื้อผ้านายเปียก”

    “เดี๋ยวสิ—”

    ไม่อยู่ฟัง แล้วหมุนตัวเดินกลับไปทางสถานที่สอบชิล ๆ ทิ้งตัวตลกที่กลายสภาพเป็นลูกหมาตกน้ำเฉียบพลันไว้ข้างหลัง พอได้ยินเสียงคนขึ้นจากน้ำขาก็เร่งความเร็วทันที

    นั่นแหละสาเหตุ


    ส่วนคนโดนเล่นตอนนี้ก็กลับมายืนหัวเปียกอยู่แถว ๆ นี้แหละ


    เสียงเม็นจิที่โวยวายเสียงดังเรียกให้สายตาทุกคู่หันไปมอง

    “ไม่ได้เรื่องเล๊ย— โง่เหมือนกันหมดเลย! ช่างไม่รู้จักสังเกต! ไม่มีพิจารณา! ไม่มีเซนส์เอาซะเลยยย!!” เธอชูไม้ชูมือไม่ได้ดั่งใจเหมือนเด็ก ๆ ถ้าลงไปดีดดิ้นกับพื้นได้เธอคงทำไปแล้ว

    ใจจริงคือเกรี้ยวกราดเพราะหิว เธอยังไม่ได้กินไอ้ที่เป็นซูชิจริง ๆ สักจานเลยนะ!

    “หึหึหึ ในที่สุดก็ถึงคิวฉันซะที” และตอนนั้นเองนินจาหัวไร้ผมก็เดินถือจานเข้ามา ฮันโซยิ้มอย่างมั่นใจว่าตัวเองต้องผ่านแน่นอน มือเปิดฝาครอบออก

    “เป็นไง! นี่แหละซูชิล่ะ!”

    ข้าวปั้นเรียบ ๆ พอดีคำโปะด้วยเนื้อปลาแล่ปรากฏต่อสายตาทุกคน กรรมการสาวยิ้มพอใจขณะหยิบเจ้าก้อนซูชินั่นขึ้นมา “ในที่สุดอันที่ดูเป็นซูชิก็โผล่มาซะที ไหนดูซิ”

    เธอหยิบมันเข้าปาก เคี้ยว ๆ แล้วกลืนมันเข้าไป

    “ไม่ได้เรื่องเลย ไม่อร่อย กลับไปทำมาใหม่ไป”

    คุเรฮะที่มองอยู่ถอนหายใจพรืด ไม่แปลกใจเลยที่ฮิโซกะหลบมานั่งจ้องหน้ากันแก้เซ็ง ก็ดูกรรมการสิ…

    เรื่องมากชะมัด

    ฮันโซหน้าหงิก โพล่งออกมาเสียงดังอย่างเหลืออด “ว่าไงนะ—! นิงิริซูชิมันก็แค่ปั้นข้าวขนาดพอดีคำ ข้างบนทาวาซาบินิดหน่อยแล้วตัดเนื้อปลาดิบวางลงไปแค่นี้ไม่ใช่เรอะ!

    ไอ้ของพรรค์นี้ให้ใครทำรสชาติมันก็เหมือนๆ กันหมดนั่นแหละ!!”

    เด็กสาวยกตัวขึ้นนั่งบนโต๊ะครัวที่ถูกเตรียมเอาไว้ให้ ดึงกอร์นที่อยู่ใกล้สุดเข้ามายืนตรงหว่างขา ตบหัวตั้ง ๆ ที่กำลังงงงวยนั่นสองสามทีแล้วซุกหัวลงไป

    ถึงจะไม่นุ่มเท่าผมฮิโซกะ แต่ก็พอให้วางคางได้


    (กลิ่นเหมือน…แสงแดดกับต้นหญ้า)


    “เอ่อ... คุเรฮะ”

    “อือ” เธอครางในลำคอตอบกลับ

    “นอนแบบนี้มันจะสบายเหรอ เดี๋ยวฉันวางกระเป๋าให้หนุนดี ๆ ดีกว่าไหม?”

    “ไม่ได้จะนอนหรอก” เธอซุกเข้าไปอีก หามุมดี ๆ โดยแขนสองข้างค้ำหัวเด็กชายเอาไว้เป็นฐานรองคาง “แค่อยากได้ที่ตั้งคางนิดหน่อย”

    “คอหักรึไงถึงต้องใช้หัวคนอื่นตั้งคาง” เสียงแซะลอยมา คิรัวร์ที่ตัวเปียกชื้นเพราะถูกถีบตกน้ำย่นจมูกใส่

    “อือ คอไม่มีกระดูก” ประชดกลับเรียบ ๆ ให้เด็กชายผมขาวเจ็บใจเล่น ว่าแล้วก็มองภาพตรงหน้าต่อราวกับกำลังดูหนัง ขาดก็แค่ป๊อปคอร์นให้จกกิน

    “หืม... ไอ้ของพรรค์นี้.. ให้ใครทำรสชาติมันก็เหมือน ๆ กันหมดงั้นเรอะ…” เม็นจิเอ่ยเสียงลอดไรฟัน เส้นเลือดบนขมับปูดเป็นทางสี่แยก

    ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาตะเบ็งเสียงดังลั่น


    อย่ามาพูดพล่อย ๆ นะยะ! กว่าจะปั้นซูชิให้อร่อยเลิศล้ำ เขาต้องฝึกมากันเป็นสิบ ๆ ปีเชียวนะ!” มือกระชากคอเสื้อนินจาหนุ่มขึ้นมาชิดหน้า แยกเขี้ยวใส่ “พวกแกมันก็แค่มือสมัครเล่น ต่อให้ทำเลียนแบบแค่ไหนก็ได้แค่รูปร่าง แต่รสชาติมันต่างกันราวฟ้ากับดิน! รู้ไว้ซะด้วย— ไอ้โง่เอ๊ย!!


    คำว่า ไอ้โง่ ดังจนอาคารแทบสะเทือน เจ๊แกจะรู้มั้ยน่ะว่าที่พูดมาตบหน้าผู้เข้าสอบหลายคนแทบจะชาไปหมดแล้ว

    “แล้วเจ๊เอาของพรรค์นี้มาทดสอบทำม๊ายย!!” ฮันโซสั่นเหม่งสู้ เหงื่อไหลโจ๊กเป็นน้ำตก

    “หนวกหูไอ้เหม่ง เดี๋ยวแม่เจื๋อนซะนี่!”

    คุเรฮะมองภาพตรงหน้าด้วยแววตาสะลึมสะลือ เหมือนจะหลับแต่ยังถ่างตาไหวอยู่ แต่สักพักก็ไหลลงไปนอนหนุนกระเป๋ากอร์นด้านล่าง ส่วนเม็นจิก็นั่งลงแล้วประกาศให้เอาซูชิมาส่งต่อ เธอจะตัดสินด้วยรสชาติแทน

    เสียงผู้เข้าสอบพากันทำซูชิที่รู้สูตรแล้วไปให้กรรมการชิมดังตึง ๆ ตัง ๆ เข้าหูไม่ขาดสาย คนทำก็ทำหน้าตั้ง คนนอนก็นอนแบบไม่สนอะไรทั้งนั้น


    นอนแบบพร้อมจะสอบตกอย่างแท้จริง



    ตื่นมาอีกทีก็เห็นหมายเลข 255 ทุบโต๊ะดังโครม ครัวกลายเป็นเศษไม้พังเละเทะ นักมวยปล้ำโทโดมองตรงไปที่กรรมการสาวตาขวาง

    “ไม่มีใครผ่านงั้นสิ” เจ้าของผมสีปีกกาลุกขึ้นบิดขี้เกียจ กอร์นหัวเราะเบา ๆ กับท่าทีคนเพิ่งตื่น

    “อื้อ คุณเม็นจิไม่ให้ใครผ่านเลย แถมไม่ยอมให้สอบใหม่อีก”

    คิรัวร์เอ่ยเสริม “พวกสมาคมโทรมากล่อมก็แล้ว แต่เจ๊แกก็ยืนยันไม่ยอมเปลี่ยนผลการตัดสินอยู่ดี”

    “ฉันรับไม่ได้ว่ะ” โทโดเอ่ยอย่างมีโทสะ “ฉันมาเข้าสอบเพื่อเป็นฮันเตอร์ ไม่ใช่กุ๊กหรือนักชิม! แถมต้องการเป็นฮันเตอร์นักล่าค่าหัวด้วย! กะอีแค่พวกฮันเตอร์เลิศรสฉันไม่ต้องการให้มาตัดสินว่าจะให้ผ่านหรือตกหรอก!!”

    “งั้นก็แย่หน่อยนะ” เม็นจิยักไหล่ไม่สนใจ “ปีนี้นายไม่มีโชคเรื่องกรรมการคุมสอบ ปีหน้าค่อยลองใหม่ดีมะ?”

    “มะ… มันจะมากไปแล้ว—!!”

    นัยน์ตาคมมองตามร่างที่ถลาเข้าไปหมายจะโจมตีกรรมการ ผลคือถูกฝ่ามืออรหันต์ของบูฮาร่าตบ เปรี้ยง!

    นู่น ปลิวทะลุกระจกข้างบนออกไปข้างนอกนู่น


    “บูฮาร่า ทีหลังนายอย่าสอดได้มั้ย?”

    “ก็— ถ้าฉันไม่ลงมือ มีหวังเม็นจิฆ่ามันแน่ ๆ ใช่มะ?”

    “หึ คงงั้นมั้ง”


    เม็นจิมองตาขุ่น ในมือถือมีดล่าสัตว์ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ “ฮันเตอร์ล่าค่าหัวเรอะ? จะขำตาย! โดนฮันเตอร์เลิศรสเล่นงานเป้งเดียวก็หมอบกระแต—”

    แล้วเจ๊แกก็บ่นยาวเหยียด มีลุกขึ้นโชว์ควงมีด 8 เล่มอีกต่างหาก ปิดท้ายด้วยการบอกว่าที่ทดสอบไปคืออยากเห็นสปิริตที่กล้าจะเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่รู้จักอีก

    “ของลูกนี่ไม่น่าเรียกว่าไม่มีสปิริต แต่ลูกไม่อยากทำว่างั้นเถอะ?” เสียงพ่อแทรกขึ้นมาหลังจากหายไปสักพัก

    “แค่ขี้เกียจ”

    “ลูกก็พูดงี้ทั้งปี”

    คุเรฮะกลอกตาวน ก่อนจะเอ่ยแทรกอย่างไม่สนใจสายตาคนรอบข้าง เจาะจงไปที่กรรมการเม็นจิ

    “คุณบอกเองไม่ใช่เหรอว่ามันเป็นอาหารพื้นเมืองของประเทศเล็ก ๆ”

    “ว่าไงนะ?” สาวเจ้าหันขวับ

    “ซูชิมีคนส่วนน้อยที่จะรู้ว่ามันเป็นยังไง คุณให้คำใบ้มา ให้เราสังเกต ให้เราเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่รู้” เด็กสาวกอดอกเอ่ยเสียงเรียบ

    “แต่พอทุกคนทำได้ คุณกลับอ้างว่าเรามันเป็นมือสมัครเล่น รสชาติไม่ถูกปากคุณก็ไม่เอาไปซะหมด”

    เม็นจิขมวดคิ้วแย้งเมื่อสังเกตว่าคนที่พูดคือคราวน์ “พูดให้ดีนะนังหนู ที่ว่าทุกคนทำได้น่ะมันเป็นเพราะมีคนสะเออะรู้วิธีทำ แล้วไอ้เหม่งงี่เง่านั่นก็ดันปูดให้คนอื่นรู้กันไปหมด!”

    “นั่นมันก็เป็นเรื่องที่กรรมการอย่างคุณพลาดเอง”

    “อึก…!” หญิงสาวผมสีเขียวมิ้นท์สะอึกไป เข้าใจว่าเด็กตรงหน้าจะสื่ออะไร

    เธอคิดเอาเองว่าโจทย์นี้จะไม่มีใครรู้แล้วผู้เข้าสอบต้องหาทางทำกันเอง ไม่ได้คิดเผื่อว่าถ้ามีคนรู้แล้วบอกคนอื่นด้วยการสอบมันจะเป็นยังไงต่อ

    ความโกรธที่ได้ยินคนดูถูกอาหาร ทำให้เธอแบ่งแยกกันที่รสชาติของมืออาชีพและมือสมัครเล่น ผลคือเธอตัดสินว่าทุกคนสอบตกและเธอไม่คิดจะให้ใครผ่าน

    เธอ พลาด เองจริง ๆ …


    “โฮ่โฮ่โฮ่ พูดได้ดีนี่นานังหนู!”


    เสียงดังมาจากลำโพงด้านบนหลายสิบฟุต เรือเหาะอันใหญ่ที่มีตราสัญลักษณ์เด่นชัดปรากฏแก่สายตาฝูงคนเบื้องล่าง แต่คนถูกชมกลับไม่มีท่าทีแปลกใจอะไร มือปัดฝุ่นออกจากเสื้อโค้ทด้วยสีหน้าปกติราวกับรู้ล่วงหน้าแล้ว

    เสียงใบพัดเรือเหาะลอยเข้าหูมาจาง ๆ ตาแก่นั่นจงใจให้เธอรู้ตัวชัดขนาดนี้ ถ้าไม่รู้ก็คงเสียชื่อคลาวน์หมด

    “อ๊ะ! นั่นมัน—”

    “เครื่องหมายของสมาคม -- คณะกรรมการเรอะ!?”

    เหล่าผู้เข้าสอบพากันตื่นตกใจ ก่อนจะรีบขยับหนีเป็นวงกว้างเมื่อเห็นชายแก่ในชุดยูกาตะประยุกต์โดดลงมาจากเรือเหาะตัวเปล่า!


    ตึงงงง!!


    “ไม่ได้พบกันซะนานเลยนะ ยัยหนูคุเรฮะ”

    ร่างสมส่วนชำเลืองมองคนที่หันหน้ามาทักทาย ตรงพื้นที่โดดลงมากลายเป็นหลุมกว้าง ทำอะไรได้แปลกประหลาดสมกับเป็นตาแก่เหมือนเดิม “เช่นกันค่ะ ท่านประธานเนเทโล่” เธอทักตอบ

    พวกกอร์นทำท่าเหมือนจะอ้าปากถามว่าชายแก่ที่ลงมาจากเรือเหาะนี่เป็นคนรู้จักคุเรฮะเหรอ ผู้เข้าสอบคนอื่น ๆ เองก็พากันกระซิบถามกันไปมาว่าคนผู้นี้เป็นใคร ซึ่งเม็นจิก็เป็นผู้ชี้แจงให้

    “ประธานเนเทโล่ ผู้รับผิดชอบสูงสุดของการสอบฮันเตอร์”

    “!!”

    เนเทโล่ลูบเครายาวของตัวเองขณะยิ้มรับ “อืม— ถึงจะบอกว่าเป็นผู้รับผิดชอบ แต่จริง ๆ ก็แค่คนอยู่หลังฉากละนะ ออกมาจัดการเฉพาะตอนเกิดปัญหาเหมือนกับตอนนี้นั่นแหละ”

    ก่อนจะพาเข้าเรื่องโดยไม่ให้เสียเวลา

    “หนูเม็นจิ”

    “คะ!” คนถูกเรียกยืนตัวเกร็ง

    “อย่างที่ยัยหนูคราวน์บอก ตัวเองคิดว่ายังไงบ้างล่ะ?”

    เม็นจิหันมามองเด็กตัวเล็กกว่าที่เอ่ยแย้งจนเธอต้องกลับมาทบทวนตัวเองใหม่ ต่างจากคนถูกมองที่หรี่ตาจ้องตาแก่ชุดยูกาตะโทนขาวหน้าตาย

    รู้นะว่านั่นจ้องนมเจ๊แกอยู่ ตาแก่นี่…

    “ค่ะ อย่างที่หมายเลข 45 บอก หนูพลาดเองที่มีโทสะจนลืมตัว ขอยอมรับว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติพอจะเป็นกรรมการคุมสอบได้ งั้น... หนูขอลาออกจากการเป็นกรรมการคุมสอบ และขอให้ผลการตัดสินเป็นโมฆะค่ะ!”

    “แบบนี้ก็คือสอบใหม่?” คิรัวร์เอียงคอถามเจ้าของดวงตาสีผสม คนถูกถามยักไหล่เอื่อยเฉื่อย

    “คงงั้น แต่จะให้หากรรมการคุมสอบคนใหม่ตอนนี้ก็คงไม่ทัน น่าจะเปลี่ยนรูปแบบการสอบแทน”

    ผลสรุปคือเม็นจิได้อยู่คุมสอบต่อ แต่การสอบรอบแก้ตัวเธอจำเป็นต้องเข้าร่วมเพื่อแสดงเป็นตัวอย่างให้แก่ผู้เข้าสอบ

    หญิงสาวคลี่ยิ้มเมื่อคิดหัวข้อการสอบออก


    “งั้นเอาเป็น— ไข่ต้ม!



    เสียงลมหวีดวิ้วดังขึ้นมาจากช่องตรงกลางของหุบเขาผ่าครึ่ง เม็นจิขอให้ประธานพาผู้เข้าสอบทุกคนขึ้นเรือเหาะมาหา ‘ไข่ต้ม’ ที่นี่

    คุเรฮะยืนชิดขอบหน้าผา เอียงหน้าก้มลงไปมองเบื้องล่างที่เต็มไปด้วยหมอกบางเบา แต่ก็พอเห็นใยสีขาวห้อยระโยงระยางอยู่ระหว่างหน้าผาสองด้านอยู่

    แน่นอน คุราปิก้าจับคอเสื้อโค้ทไว้แน่นเชียวละ

    “อย่าเชียวนะคุเรฮะ หลับแล้วตกลงไปนี่งานงอกเลยนะ” เจ้าตัวเอ่ยกำชับ เหงื่อเม็ดนึงไหลลงกรอบคาง เด็กคนนี้ยิ่งเดาไม่ถูกอยู่

    เดาไม่ถูกว่าจะหลับหรือจะตื่น

    เม็นจิถอดรองเท้าส้นสูงออก วอร์มร่างกายโดยการยืดขาสองสามทีพร้อมกับพูดไปด้วย

    “สบายใจได้ ข้างล่างเป็นแม่น้ำลึกแต่น้ำไหลเชี่ยว ถ้าหล่นลงไปละก็โดนพัดรวดเดียวออกทะเลไปไกลลิบเลยแหละ”

    ฟังแล้วชวนให้สบายใจมากครับเจ๊… เหล่าผู้เข้าสอบจิตอ่อนลอบกลืนน้ำลายกันไปแถว

    แล้วร่างผอมเพรียวแสดงตัวอย่างง่าย ๆ (?) ให้ดู โดยการโดดลงไปตัวเปล่า ไต่ใยสีขาวเป็นไอ้แมงมุม แล้วค่อย ๆ ปีนหน้าผากลับมาพร้อมกับไข่ฟองใหญ่ที่ยัดเอาไว้ตรงร่องนมแบบ Full HD ท่ามกลางสีหน้าหลากหลายของผู้ที่ก้มมอง

    เหยี่ยวแมงมุม ที่อยู่ที่ภูเขามาฟุทัตสึ เค้าลงไปเก็บไข่มาน่ะ” ชายชราอธิบายเสริม “เพื่อป้องกันไข่จากสัตว์บก เหยี่ยวแมงมุมจะห้อยไข่ไว้กับเส้นใยแข็งแรงที่อยู่ระหว่างช่องเขา”

    เม็นจิโผล่หัวขึ้นมาจากขอบหน้าผาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

    “แล้วก็เอาไข่นี่แหละไปต้ม!”

    มือชูไข่สีขาวงาช้างขึ้นให้ดูกันแบบชัด ๆ ฮันเตอร์ที่ต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อเสาะหาอาหารรสชาติใหม่ ๆ นี่แหละคือฮันเตอร์เลิศรสล่ะ!

    แต่ยังไม่ทันได้ให้สัญญาณเริ่มโดด…



    โค้ทที่คุราปิก้าดึงไว้ก็หลุดพรืด!



    “คุเรฮ้—า!!”

    “ยัยบ้านั่นหลับผิดเวลาอีกแล้วเร๊อะะ!”

    กอร์นและคิรัวร์แทบประสานเสียงกัน คุราปิก้าจ้องโค้ทในมือตาปริบ ๆ ราวกับกำลังวิเคราะห์ว่าเจ้าของเสื้อโค้ทหลุดไปอีท่าไหน เลโอลีโอนี่อ้าปากค้างแล้วตามไปเกาะขอบหน้าผาส่องหาตัวคนที่กลิ้งหล่นลงไป

    เหล่ากรรมการยิ้มขำ ส่วนเนเทโล่หัวเราะชอบใจใหญ่

    “ยังขี้เซาเหมือนเดิม โฮะโฮะโฮะ”

    ซึ่งคนที่ร่วงลงมาก็กำลังห้อยหัวต่องแต่งท่ามกลางเส้นใยและกองไข่เหยี่ยวแมงมุม ปลายรองเท้าหนังเกี่ยวเส้นใยเอาไว้เส้นหนึ่งได้อย่างหวุดหวิด เมื่อไร้ซึ่งโค้ทสีเทาตัวยาว เสื้อเชิ้ตสีแดงเลือดนกก็กลายเป็นจุดเด่นที่มองเห็นได้ง่ายในทันที

    คุเรฮะชะเง้อหน้ามองคนด้านบนตาปรือ ในมือชูไข่ฟองใหญ่ขึ้นมาเหมือนยกเหรียญทองนักกีฬา



    “ยัง…ยังอยู่”



    __________C H E C K M A T E__________


    ภาค 1999 เม็นจิกระโดดลงไปเก็บไข่และปีนหน้าผากลับมา ส่วนภาค 2011 อาศัยกระแสลมจากใต้หุบเขา

    /คุณผู้อ่านทุกท่านสามารถติชมฟิคเรื่องนี้ได้เสมอนะคะ หมีง่วงพร้อมรับฟังและนำไปปรับปรุงอยู่เสมอ

    รักส์ ♥


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×