ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Strange Tales Of Panorama Island

    ลำดับตอนที่ #187 : Shalala☆Summertime | Chapter 2

    • อัปเดตล่าสุด 21 ม.ค. 65


    ShalalaSummertime
    Playlist: fromis_9 – WE GO












    .

    และเมื่อทั้งหกคู่สายตาภายในรถนิสสันคันสีดำขนาดกลางจากบริการให้เช่า จะได้มองเห็นป้ายร้านสะดวกซื้อที่ต่างก็คุ้นตากันมาจากบ้านเกิดเมืองนอนที่โตเกียวและไซตามะกันดีอยู่แล้วนั้น เสียงคร่ำครวญตลอดทางของหนึ่งในผู้โดยสารสาวก็จึงแปรเปลี่ยนเป็นเสียงร้อง ไชโย! เจาะจงลงไปยังสาวเจ้าของเบาะหลังคนขับเป็นพิเศษให้ไม่ผิดตัว หลังย้อนกลับไปสิบนาทีก่อนหน้า เมื่อจู่ๆ หล่อนก็จะพลันโพล่งแทรกบทเพลงฤดูร้อนของกลุ่มศิลปินบอยแบนด์จากแผ่นซีดีขึ้นมา หลังรถยนต์ขับเคลื่อนไปบนท้องถนนเกือบชั่วโมงกว่าได้ว่า “หิว หิว หิว! แถมยังมีเสียงโครกครากสำทับตามมาด้วยอีก เล่นเอาอีกหนึ่งสาวที่นั่งข้างๆ เผลอหลุดหัวเราะพรืดออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ แม้จะถูกตีป้าบเข้าไปที่ไหล่บางเสียหนึ่งที ขณะชายหนุ่มประจำตำแหน่งสารถีข้างหน้าก็พลอยหัวเราะขำไปด้วยยกใหญ่ เลยถูกท่าไม้ตายพลังหมัดทะลวงของยูซึเนียนยันเบาะเข้าให้รัวๆ อย่างไรก็ดี ชายหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะต้องร้องแซวและสมน้ำหน้าใส่ เมื่อเขาเป็นคนออกปากแนะนำตั้งแต่ลงจากเครื่องแล้วว่าควรหาอะไรกินรองท้องกันก่อนจะไปถึงรีสอร์ต โดยเฉพาะยัยตัวปัญหาที่ดูเหมือนว่าจะตื่นสายและได้กินแค่อาหารนิดๆ หน่อยๆ บนเครื่องเท่านั้น แต่เจ้าตัวก็ยืนกรานว่าไม่ได้รู้สึกหิว และไม่อยากให้เพื่อนๆ ต้องมาเสียเวลาอยู่ที่สนามบินนาฮาแทนที่จะได้ออกไปสัมผัสกับโอกินาวะที่รอคอยกันไวๆ ทั้งที่เพื่อนๆ ก็ยังไม่ยักมีใครได้อ้าปากพูดอะไรกันสักคำ แล้วก็ทำตัวดื้อแพ่ง ลากกระเป๋าเดินทางนำดุ่มๆ ปะปนไปกับฝูงชนเพื่อยืนยันความหนักแน่นของตัวเองเสียอีก ก็สมกับเป็นชูฮามะ ยูซึกิ ยัยคนหัวแข็งโป๊กซึ่งไม่เข้ากับใบหน้าอ่อนหวานนั้นเลยแม้แต่น้อยอย่างที่พวกเขารู้จักกันดีนั่นแหละ

    แต่แล้ว อาการหิวของคนที่นั่งทำหน้ามุ่ย ก็ทำหน้าที่แพร่ออกไปรอบบริเวณในอีกไม่กี่นาทีถัดมาราวกับโรคระบาด เมื่อคนข้างๆ จะเริ่มโอดครวญตามมาว่าชักคอแห้ง อยากดื่มกาแฟขึ้นมาอย่างไรก็บอกไม่ถูก จากนั้นไม่นาน สารถีหลังพวงมาลัยก็คงเกิดอุปทานขึ้นมาว่าตนก็ชักจะคอแห้งขึ้นมาเหมือนกัน คนหน้ามุ่ยเลยค่อยยิ้มกว้างออกมาได้ ถึงจะเป็นยิ้มเย้ยขันใส่เพื่อนทั้งสองด้วยความรู้สึกเหมือนตนเป็นผู้ชนะในศึกกระจ้อยร่อยนี้ก็ตามที และเมื่อมติลงเห็นเป็นเอกฉันท์ในหมู่กองทัพต้องเดินด้วยนี้แล้ว ต่อให้มีอุปสรรคใดมาขวางกั้น พวกเขาทั้งสามก็จะต้องพุ่งตรงเข้าไปในลอว์สันที่เห็นป้ายร้านอยู่ไม่ไกลนั่นให้จงได้! สารถีเปิดไฟเลี้ยวเบนทิศจากเส้นทางเลียบถนนของนาฮาเข้าไป ซึ่งจะยังไม่มีที่ท่าว่าจะถึงที่หมาย ณ เจเอแอล ไพรเวต รีสอร์ต โอคุมะในอีกราวสองชั่วโมงยาวนานง่ายๆ

    ครั้นรถเข้าจอดเทียบในตำแหน่งที่เหมาะเจาะพอดีแล้วนั้น คนที่หิวโหยอย่างหนักชนิดที่ว่าอาจจะรุมทึ้งกินเบาะหนังแทนได้อยู่แล้วถ้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า ก็จะรีบเผ่นแผล็วลงไปโดยไม่รั้งรอ ทิ้งให้คนที่แค่กระหายเครื่องดื่มทั้งสองซึ่งยังไม่ทันได้พูดหรือทำอะไรสักอย่างต้องนิ่งค้าง ก่อนบังเอิญสบสายตากันผ่านกระจกมองหลังเข้า ที่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะขำปฏิกิริยารวดเร็วดุจสายลมหรือว่าเป็นเพราะขำสีหน้าท่าทางของกันแน่ แต่ต่างก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น แม้ในตอนที่พากันลงมายืนอยู่ข้างนอกพาหนะโดยสารก็ยังไม่ยอมหยุด

    “ลอว์สันโอกินาวะต้องล้มละลายแน่ๆ”

    เธอหัวเราะท้องคัดท้องแข็งไปหมดแล้ว

     

    โมริโมโตะ ชินทาโร่ทำนายได้ไม่ใกล้ก็เกือบเคียง บนโต๊ะตัวยาวที่คั่นกลางระหว่างบานกระจกใสของร้านสะดวกซื้อกับสาวตัวบาง อันมีทั้งชามราเมน ห่อข้าวปั้น กล่องเบนโตะ และเกี๊ยวซ่าวางเรียงรายกันอยู่ แล้วหลังเสร็จสิ้นมื้อนี้ก็จะต้องมีของหวานอีกอย่างน้อยสองรายการล้างปากตบท้ายอย่างแน่นอน อิโซมูระ มาโซระที่ถือแก้วเครื่องดื่มเย็นทั้งสองมือมาจากมาจิคาเฟ่ ก็ยังอดทำหน้าตื่นตะลึงไม่ได้ทั้งที่เคยเห็นหนักหน่วงกว่านี้ในช่วงมหาวิทยาลัยมาจนชินแล้วแท้ๆ ก่อนที่จะทิ้งตัวลงนั่งเคียงข้างพลางดูดกาแฟเย็นไปด้วย ส่วนชาเอิร์ลเกรย์เย็นนั้นเป็นของยูซึกิ

    หรือที่จริงก็อาจไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร หลังเรียนจบ ทุกคนในมหาวิทยาลัยโตเกียวไกโคคุโกะก็แยกย้ายกันไปตามเส้นทางของตัวเอง ยิ่งเป็นมหาวิทยาลัยภาษาต่างประเทศแห่งชาติด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้มีคนขวนขวายตะเกียกตะกายหาโอกาสที่ดีกว่าไกลถึงอีกซีกโลกสมประสบการณ์สี่ปีในรั้วมหาวิทยาลัยกันเยอะแยะเต็มไปหมด แม้บางคนจะยังใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวงเหมือนกันก็ใช่ว่าจะหาเวลาพบปะสังสรรค์กันได้ง่ายๆ เหมือนสมัยยังร่ำยังเรียนอยู่ ไม่ต้องพูดถึงยูซึกิที่กลับไปช่วยธุรกิจออนเซนที่ไซตามะของครอบครัว ดังนั้น การได้มาเที่ยวโอกินาวะด้วยกันเช่นนี้ จึงถือเป็นอีเวนต์รียูเนียนในรอบสี่ปีของชาวแก๊ง ที่หนึ่งในนั้นก็คือหญิงสาวเจ้าของบัตรเชิญงานแต่งงานสีขาวหรูนามคาตาโยเสะ อาคาเนะ อันเป็นต้นเหตุของทริปท่องเที่ยวประจำซัมเมอร์ซึ่งในปีนี้จะไม่เฉื่อยชาอีกต่อไปแล้วให้มีสีสัน

    บัตรเชิญงานแต่งงานใบนั้นส่งตรงมาถึงที่อยู่บ้านของพวกเขาทุกคนตั้งแต่ต้นเดือนที่แล้ว ถึงทุกคนในกลุ่มจะพอรู้เรื่องนี้กันก่อนเลาๆ แล้วก็ตาม หากบัตรเชิญที่เป็นรูปธรรมชัดเจนก็เป็นเหมือนหมายเรียกความพร้อมหน้าของอดีตเพื่อนร่วมก๊วนทั้งห้าคนได้เป็นอย่างดี ทั้งที่ตกปากรับคำกันเป็นมั่นเป็นเหมาะให้เจ้าสาวได้ยิ้มออก ทว่าพอถึงเวลาจริง พี่สาวของมิกิโกะก็ดันล้มป่วยต้องเข้าโรงพยาบาลกันวุ่นวายใหญ่โต เร็นก็ดันถูกลากยาวโปรเจกต์ด่วนที่อังกฤษจนปลีกตัวบินกลับญี่ปุ่นไม่ได้จริงๆ คนที่เหลืออยู่ก็เห็นจะมีแต่พวกเธอทั้งสาม ที่ไม่ทำธุรกิจในครัวเรือนจนกำหนดเวลางานได้ตามใจชอบ ก็เป็นฟรีแลนซ์อิสระที่แทบจะไม่มีงานร่วงมาถึงให้มีเวลาตะลอนโน่นนี่ได้ตามใจชอบนั่นปะไร แน่นอนว่าอิโซมูระ มาโซระจัดอยู่ในประเภทหลัง เธอว่างจากงานเขียนคอลัมน์แนะนำสถานที่น่าสนใจในโตเกียวบนเว็บบล็อกมาได้หลายเดือนแล้วด้วยเหตุผลด้านค่าใช้จ่ายของบริษัท ที่ไม่มีงบมาโปะให้กับคอลัมน์ของเธออย่างน่าใจหาย ขณะที่ยูซึกิและชินทาโร่ต่างทำงานกับธุรกิจเล็กๆ ของครอบครัว ทั้งสามคนได้พบปะกันพร้อมหน้าสักสองสามเดือนครั้งกับเพื่อนคนอื่นๆ ที่ก็ครบบ้าง ไม่ครบบ้าง จนระยะนี้ที่มาโซระและชินทาโร่ได้เจอกันบ่อยขึ้น หลังจากหญิงสาวเช่าหอใหม่ที่บังเอิญอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนสอนเต้นของครอบครัวโมริโมโตะโดยไม่ตั้งใจ เขามักจะชวนเธอไปกินข้าวหรือหาอะไรดื่มด้วยกันตอนเย็นย่ำหลังจากสอนเสร็จ แม้เจ้าหล่อนจะไม่แตะแอลกอฮอล์ ก็ยังตามใจเขาที่ไม่ได้ดึงดันให้ดื่มเป็นเพื่อนด้วยเสมอ สมัยเรียน ทั้งคู่เรียกได้ว่าพอคุยกันได้ในฐานะเพื่อนร่วมกลุ่มเดียวกัน แต่ก็ไม่ได้สนิทอะไรขนาดนั้นเนื่องจากเขามักจะปลีกตัวไปอยู่กับคนรักบ่อยๆ มาบัดนี้ ไม่มีใครมีพันธะผูกพัน ทั้งมาโซระและชินทาโร่ต่างก็ได้ใช้เวลาเรียนรู้กันมากขึ้น เธอชอบตรงที่เขาเป็นคนตลกดี ส่วนเขาก็ชอบตรงที่เธอเป็นคนสนุกดี จะแลกเปลี่ยนกันเรื่องภาพยนตร์หรือดนตรีก็ดูจะตรงต้องกันไปเสียหมด บ้างบางครั้ง เขาจะชวนเธอไปฟังแผ่นเสียงและดื่มด้วยกันที่ห้องส่วนตัวของเขาในบ้าน เหตุผลของชินทาโร่บริสุทธิ์ซื่อตรงอย่างน่าอัศจรรย์ใจ แต่หากไม่ใช่สำหรับหญิงสาวคนที่ค่อยๆ ตกหลุมรักเขาหลังจากได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันอย่างเป็นส่วนตัวเลยแม้แต่น้อย เธอชอบเขามาก และตั้งใจว่าจะไม่ยอมปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไปในการมาถึงเมืองที่เต็มไปด้วยสถานที่โรแมนติกอย่างโอกินาวะแน่นอน

    “ไหนบอกว่าคอแห้งไม่ใช่เหรอ?”

    ยูซึกิที่เพิ่งจะกลืนเส้นราเมนร้อนๆ ลงคอไปได้ทีร้องแซวชินทาโร่ที่เดินมาพร้อมกับแก้วใสจากอุจิคาเฟ่ แทนที่จะเป็นน้ำอัดลมกระป๋องอย่างที่เขาชอบ

    “เฟรปเป้ไม่ใช่เครื่องดื่มตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ?” เขาแกล้งทำสีหน้าตกอกตกใจได้อย่างน่าดูชม จนยูซึกิต้องค้อนเข้าให้ไปหนึ่งดอก

    จากนั้นชายหนุ่มก็พล่ามไปเรื่อยเจื้อยว่าเฟรบเป้มิกซ์ฟรุตโยเกิร์ตให้ความรู้สึกว่าเป็นซัมเมอร์ที่จี๊ดจ๊าดดี นอกจากนั้นก็ยังทำให้หัวสมองโล่งดีด้วย แต่พอดูดเข้าไปอึกหนึ่งก็ไอค่อกแค่กออกมา มือก็เอื้อมไปจะคว้าหยิบแก้วเครื่องดื่มของยูซึกิที่อยู่ใกล้มือที่สุดไปด้วย โชคดีที่หล่อนไหวตัวทัน ฉกชิงแก้วเครื่องดื่มไปวางไว้ข้างเพื่อนสาวที่นั่งอยู่ข้างกันอีกฟากอย่างรวดเร็วจนไม่ว่าใครก็เตรียมตัวเตรียมใจไม่ทัน

    “อย่าหวัง!

    “ฉัน...จะตายอยู่แล้วนะ...ยูซึ”

    “จะตายเพราะสำลักเฟรปเป้ก็ให้มันรู้ไปซี่!

    มาโซระที่นั่งกัดหลอดเครื่องดื่มอยู่แสนอยากจะเสนอความช่วยเหลือผ่านแก้วกาแฟเย็นไปให้แก่เขา แต่ใจไม่กล้าพอถึงได้แต่นั่งมองเงียบๆ แถมยูซึกิก็ยังมาดักทางไว้อีกว่า “โซระจังก็อย่าไปให้นะ คนบ้าอะไรจะสำลักเฟรปเป้ตาย!

    คนใกล้จะตายเพราะเฟรปเป้เลยกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปหยิบขวดน้ำเปล่าในตู้แช่ จ่ายเงิน แล้วยกดื่มอั้กๆ จนค่อยหายใจหายคอได้สะดวกขึ้นหน่อย ถึงหน้าจะยังแดงจากอาการสำลักอยู่บ้างก็ตามที

    “เธอนี่ใจร้ายจริงๆ ใจร้ายคนเดียวไม่พอต้องชวนโซระจังใจร้ายไปด้วยอีก ใจร้ายคูณสอง ใจร้ายอินฟินิตี้!” แล้วก็ทำหน้าบูดเบ้เหมือนจะร้องไห้ แต่ไม่มีอะไรออกมาสักนิด ซ้ำยังหยิบแก้วขึ้นมาดูดเฟรปเป้ครีมชีสเข้าปากต่ออย่างไม่รู้สำนึก ทำให้ยูซึกิต้องตีหน้ายักษ์ใส่ “นายนี่น่าจะสำลักเฟรปเป้ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปจริงๆ!” พร้อมบ่นอุบบ่นอิบเข้าไปอีก ชินทาโร่มองสบตากับมาโซระแล้วก็แกล้งกลอกตาทำหน้าล้อเลียน พอเธอหลุดหัวเราะพรืด ชินทาโร่ก็หัวเราะตาม แล้วทั้งสองคนก็รวมหัวกันระเบิดเสียงหัวเราะรวนขนานใหญ่ เสียงที่ผ่านเข้าหูมาทั้งซ้ายและขวาทำให้ยูซึกิต้องเลือกหันไปแหวใส่ใครคนใดคนหนึ่ง เป้าหมายของเธอไม่มีทางเป็นอื่นนอกจากชินทาโร่ที่ทำให้รำคาญใจมากกว่าเพื่อนสาวคนน่ารักของเธอแหง ชินทาโร่จึงจำยอมลุกถอยไปนั่งตั้งหลักอยู่ข้างมาโซระตามคำขอ ทั้งที่ยังหัวเราะชอบใจกับปฏิกิริยาของหล่อนไม่หยุด ยิ่งเมื่อยูซึกิจะกินไป พอกลืนหมดคำก็บ่นชินทาโร่ต่อได้ไม่หยุดไม่หย่อน ไม่ใช่เหตุการณ์ที่สามารถพบเห็นได้บ่อยนักในสมัยเรียน หรืออย่างน้อยๆ มาโซระที่ตัวติดกับมิกิโกะมากกว่ายูซึกิและชินทาโร่ก็ไม่ค่อยได้เห็น เธอแทบไม่ได้ยินว่าทั้งสองคนโต้ตอบอะไรกันบ้าง แค่มีความสุขเหลือเกินในทุกขณะที่ลมหายใจของเขาอยู่ใกล้ๆ หรือในทุกๆ คราวที่เขามองสบตากับเธอแล้วแตะรอยยิ้มกลั้วเสียงหัวเราะขันมาให้ เธอทอดมองออกไปภายนอกบานกระจกใส แล้วคิดว่าหัวใจของเธอจะพองโตเท่าดวงอาทิตย์หรือยังนะ?

    ทุกคนยังคงนั่งจับจองพื้นที่อยู่ในนั้นอีกครู่ใหญ่ๆ แม้เมื่อยูซึกิจะสวาปามอาหารมื้อหลักจนเกลี้ยงแล้ว เพื่อเตรียมล้างท้องไว้สำหรับเมนูของหวานทั้งหลายแหล่จากอุจิคาเฟ่ มาโซระที่ตั้งใจว่าจะไม่กินอะไรนอกจากกาแฟเย็นแก้วเดียวก็ถูกยัดเยียดมาทั้งแรร์ชีสเค้ก พานาคอตต้าฝรั่ง และเยลลี่มะม่วง ให้จำต้องกินเข้าไปโดยไม่มีสิทธิ์ออกอาการงอแง มิเช่นนั้นยูซึกิก็จะเป็นฝ่ายงอแงให้ได้เห็นเอง เธอไม่ใช่คอของหวานนัก พอกินได้ แต่ถ้าเลือกได้ก็ไม่กินดีกว่า ขนาดสวาปามเข้าไปมากมายจนน่าทึ่งแล้ว ยูซึกิก็ยังมีท้องเหลือสำหรับขนมถุงที่หอบหิ้วกลับไปด้วย ส่วนมาโซระและชินทาโร่ซื้อแค่น้ำอัดลมกระป๋องเย็นเฉียบติดมือไป คงคิดเหมือนกันว่ายังไงก็ได้กินขนมของฟรีที่ยูซึกิมีน้ำใจปันให้เสมออยู่แล้ว ชินทาโร่ชวนเธอไปซื้อไอศกรีมโคนกับยูซึกิที่ลิ่วไปก่อน แต่เจ้าตัวปฏิเสธ ในตอนที่รับเหรียญทอนค่าสไปรท์กระป๋องจากพนักงานและหมุนตัวกลับนั้น ไหล่ของเธอก็จะเฉียดชนเข้าให้กับลูกค้ารายใหม่ที่เพิ่งเดินสวนเข้ามาโดยไม่ตั้งใจ เธอรีบกล่าวคำขอโทษ ที่ชายผมทองก็จะกล่าวสวนมาในเวลาเดียวกัน มาโซระจำใบหน้านั้นได้ว่าเคยเจอเขาที่ออฟฟิศของบริษัทรับเช่ารถ แต่ไม่คิดว่าพูดไปจะได้อะไรขึ้นมา ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าจะได้เจอกันอีกเป็นครั้งที่สามหรือไม่ เธอจึงแค่เพียงค้อมหัวและส่งยิ้มไปให้เขา หน้าตาของเขาตอนปกติดูค่อนข้างถือดี แต่พอยิ้มแล้วก็ดูอัธยาศัยดีทีเดียว หากแต่เป็นเด็กสาวหน้าตาน่ารักที่เดินมาด้วยกันนั้นต่างหากที่ดูไม่ใกล้เคียงกับคำคำนั้นในความคิดของเธอเอาเสียเลย คงจะเป็นแฟนสาวขี้หวงมากแน่ๆ ความรู้สึกเห็นอกเห็นใจแฟนหนุ่มที่คงจะลำบากแย่ก็เอ่อท้นขึ้นมาฉับพลัน มาโซระจึงค้อมหัวให้อีกครั้ง ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามมีสีหน้างุนงงไปเล็กน้อย ค้อมรับเป็นหนสองแทบไม่ทัน เธอไม่ใส่ใจแล้ว เดินผ่านบานประตูเลื่อนอัตโนมัติออกไปสู่อากาศธรรมชาติที่ภายนอก ถอนหายใจเต็มแรง

    การเดินทางในครึ่งหลังที่จะรวดยาวไปจนถึงรีสอร์ตเลยเป็นไปอย่างราบรื่นและแช่มชื่นกว่าเดิมมาก เจ้าของเสียงโอดครวญก่อนหน้าเงียบเสียงไปแล้ว ซึ่งก็หาได้มีเหตุผลใดมากไปกว่าเมื่อหนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อน ไม่ได้ยี่หระต่อความเร็วรถโดยสาร ที่หากว่าเร็วกว่านี้อีกนิด ชินทาโร่ก็ควรพาอีโค่คาร์คันนี้ไปอยู่บนสนามแข่งกับรถสปอร์ตคันอื่นๆ ให้เต็มที่ไปได้เลย

    อย่างไรก็ตาม การขับรถเร็วเกินไปนิดของเขาก็ไม่ได้ก่อปัญหาให้แก่ผู้โดยสารคนไหนในที่นี้แต่อย่างใด แม้กระทั่งกับคนไม่ถูกโฉลกกับความเร็วเอาเสียเลยอย่างมาโซระ มันก็ไม่เลว เมื่อมาอยู่บนท้องถนนสายที่ทอดยาวและไม่ได้อัดแน่นกันด้วยรถปลากระป๋องอย่างในเมืองหลวงที่เพิ่งจะจากมา ผนวกกับกลิ่นไอของทะเล สายลม และแสงแดดด้วยแล้ว ทั้งหมดกลับช่างลงตัวเข้ากันอย่างน่าประหลาด

    ความรู้สึกอย่างที่เคยเห็นในภาพยนตร์มันเป็นเช่นนี้นี่เอง

    “โซระจัง มานั่งข้างหน้านี่ไหม?”

    เธอแน่ใจว่ามันคือประโยคคำถาม หากการที่เขาตบเบาะปึงปังแบบนั้น ถ้าไม่ใช่ประโยคขอร้องก็ต้องเป็นประโยคคำสั่ง มาโซระไม่แสดงท่าทีอิดออด ข้ามเบาะไปทิ้งตัวส่งยิ้มเผล่ให้กับชินทาโร่ที่เอ่ยชมว่า “ดีมาก” จนต้องฉีกยิ้มกว้างขึ้นไปอีก เธอไม่ลืมหันหลังไปสะกิดยูซึกิให้ลงไปนอนสบายๆ แทน สองชั่วโมงยังอีกยาวไกล คงจะไม่สบายนักถ้าต้องนอนสัปหงกไปตลอดทาง เธอคิดถึงความจริงข้อนี้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ครั้นจะขอนั่งข้างชินทาโร่ตั้งแต่ขึ้นรถมาจากลอว์สันก็คิดไปเองว่ามันคงไม่เข้าท่าเท่าไหร่ ถ้ายูซึกิไม่ได้ง่วงนอนและต้องการเพื่อนเมาท์มอยด้วยประสาสาวๆ ก็ต้องเป็นเธอ ไม่มีทางใช่โมริโมโตะ ชินทาโร่ มาโซระนึกขอบคุณอาหารมื้อใหญ่มากจากลอว์สันที่ยูซึกิยัดทะนานเข้าไป และสถานการณ์ที่แสนเป็นใจขณะนี้ ชินทาโร่เปลี่ยนไปลองฟังวิทยุคลื่นท้องถิ่น แล้วชวนเธอคุยเรื่องเซิร์ฟมิวสิคที่กำลังเปิดอยู่บ้าง บางครั้งก็วกไปเรื่องเพื่อนๆ คู่บ่าวสาว แล้วก็โอกินาวะ ดูเหมือนไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็เพลิดเพลินสนุกสนานไปเสียหมด เธอไม่รู้หรอกว่าเขาจะรู้ใจเธอหรือไม่ หรือว่ากำลังรู้สึกอย่างไร แต่คำตอบข้อหนึ่งที่มาโซระรู้อย่างแน่นอนคือตอนนี้ หัวใจของเธอพองโตกว่าดวงอาทิตย์ไปแล้วจริงๆ












    2021年05月28日
    _______________
     ะลึกได้ว่าเป็นตอนที่บ้าพลังที่สุดแล้วจริง แค่ฉากในลอว์สันคือเสิร์ชหาแบบบ้าคลั่งมาก 55555 ถึงไม่ได้ชอบที่สุด แต่ก็เป็นตอนที่แต่งแล้วสนุกมากจริง นี่ชอบความสัมพันธ์ของทั้งสามคนหมดเลยแบบทำไมน่ารักจังวะ บทพระเอกคือเข้ากับชินทาโร่มากแบบเอาซะกูงง เหมือนฟิคหลายเรื่องที่กูเคยแต่งเพื่อรอมาแปลงให้สโตนส์เลยว่ะ ไม่ใช่วงอื่นด้วยนะ พูดแล้วขนลุก วงนี้นี่หลายเรื่องแล้วนะ อาถรรพ์ 666 หรือเปล่า ว้าว / พล็อตไปงานแต่งมาจากเรื่อง My Hawaiian Discovery ที่เอคุระ นานะจังเล่น แต่เป็นที่ฮาวาย (เออ พูดถึงฮาวายแล้วนึกถึงเรื่อง 50 First Kisses ด้วยเหมือนกัน แต่เรื่องนี้ถ่ายฉากไม่ค่อยสวย พล็อตก็ไม่ค่อยสนุก กูไปดูในโรงแล้วภาพมัวด้วยเพราะตอนนั้นไม่รู้ว่าสายตาสั้น ยังไม่มีแว่น ออกโรงมาก็เจอพวกขายตรงอีก อิสัส จะเล่าแค่นี้แหละ)  แบบคนญี่ปุ่นก็ต้องฮาวายเนาะ แล้วไทกะก็เคยพูดถึงด้วย แต่ก็เบื่อแต่งเรื่องรักริมทะเลเหมือนกัน กูแต่งทีไรไม่ค่อยสนุกเลย ถ้าจะแต่งก็คงเป็นฮาวายไฟว์โอเหมือนที่เราคุยกันดีกว่า มึงตำรวจฝรั่ง กูตำรวจญี่ปุ่น 55555 / อ้อ แล้วก็สปอยล์ตรงนี้แบบไม่ต้องลุ้นเลยแล้วกันว่ายูซึจังคือนางเอกที่แท้ของทาโร่จังนะเพื่อน
     ไหนๆ พอใช้เพลงเกาหลีแล้วขอบ่นหน่อยว่าเบื่อกับอีพวกติ่งบางตัวจริงๆ ทำเหมือนว่าตัวเองหูถึง รสนิยมสูงส่งดีมากมั้ง ต้องมาด่าเพลงวงอื่น ทำเหมือนเพลงวงตัวเองหรือที่ตัวเองฟังดีกว่า ทั้งที่แทบทุกวงก็ตั้งใจทำเพลงออกมาเหมือนกันหมด ยิ่งพวกนูกูเค้าก็ยิ่งตั้งใจเต็มที่เพื่อเข็นให้วงดังไหม จะแนวเพลย์เซฟ แนวตลาด ทำแบบเดิมๆ ไม่แหวกแนวแล้วมันจะทำไม คนชอบก็มีป่ะ บอกว่าไม่ชอบ ไม่เพราะนี่กูไม่ว่านะ แต่มาด่าแบบหยาบๆ คายๆ นี่เหี้ยกว่าเพลงที่พวกมึงด่าอีกไหมอ่ะ พอวงตัวเองโดนด่าบ้างก็ยกตนข่มแค่เพราะดังกว่า แหม แล้ววงนูกูเค้าไม่มีแฟนคลับมั้งอิเหี้ย ว่าไปก็สงสารวงเกาหลีว่ะ ทั้งที่อายุวงก็อยู่ไม่นาน เดี๋ยวไม่กี่ปีอิมเมจนางเอกพวกกูก็วงแตกแยกย้ายไปหมดแล้วมั้ง จะทำเพลงแนวเดิมก็โดนด่า เปลี่ยนแนวก็โดนด่า ตัดมาที่เด็กจอนนี่กูออกมาสี่ห้าสิบซิง อยากทำเพลงอะไรก็ทำเถอะ ฟังเพลงให้เป็นเพลงแค่นี้มันยากนักเหรอ มันจะทำไมนักหนาวะ พูดแล้วขึ้น จิบน้ำ คอแห้ง
    double_B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×