คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #76 : ~ Happy Family ~ 44
งานเลี้ยงประจำปีถูกจัดขึ้นที่ห้องประชุมใหญ่ของบริษัทเหมือนดังเช่นทุกปี พนักงานต่างพร้อมใจกันมาร่วมงานกันอย่างคับคั่งบางคนก็ฉายเดี่ยว บางคนก็มาเป็นคู่หรือคนไหนที่มีครอบครัวแล้วก็พาครอบครัวมาด้วย
รวมไปถึงประธานบริษัทสุดหล่อที่วันนี้ก็พาครอบครัวมางานนี้เหมือน กัน ยุนโฮอุ้มลูกชายพร้อมกับจูงมือภรรยาเดินเข้ามาในงานด้วยรอยยิ้มก่อนจะบอกให้พนักงานทุกคนทำตัวตามสบาย สนุกกันให้เต็มที่เพราะวันนี้มันเป็นวันของทุกคน
“ เต็มที่เลยนะวันนี้ ” ร่างสูงบอกกับพนักงานที่โค้งให้ด้วยท่าทางที่เป็นกันเองก่อนจะอุ้มลูกชายไปนั่งโต๊ะที่จัดเอาไว้ให้สำหรับผู้บริหารและหัวหน้าแผนกต่างๆ
“ คุณพ่อกับคุณแม่ยังไม่มาเหรอ ” แจจุงเอ่ยถามสามีตั้งแต่เดินเข้ามาร่างบางยังไม่เห็นคุณและคุณนายชองเลย ”
“ สงสัยว่าพ่อคงรอแม่กลับมาจากร้านทำผมอยู่มั้ง ” บอกกลั้นยิ้มเมื่อนึกถึงสิ่งที่ตัวเองพูด
คุณนายชองยูนาจะไม่ยอมออกจากบ้านแน่ๆถ้าหากว่าเสื้อหน้าผมยังไม่ได้ดั่งใจ นี่สงสัยว่าที่ยังไม่มาก็เพราะคงยังทำผมไม่เสร็จเป็นแน่
“ ท่านเป็นผู้หญิงก็ต้องรักสวยรักงามเป็นธรรมดา” แจจุงว่าตามจริง ผู้หญิงทุกคนล้วนแล้วแต่อยากดูดีกันทั้งนั้น “ มุนบิน หนูจะไปเล่นกับเพื่อนๆไหมลูก ” ร่างบางก้มลงถามลูกชายที่ตอนนี้กำลังนั่งมองเด็กๆที่น่าจะเป็นลูกของพนักงานที่วิ่งกันอยู่ในบริเวณงาน
“ ไม่เอา หนูจะกินข้าว ” ไม่เอาหรอกตอนนี้มุนบินไม่อยากเล่นมุนบินอยากทานข้าวมากกว่า
“ งั้นหนูนั่งรอคุณแม่อยู่ตรงนี้นะลูกเดียวคุณแม่ไปตักมาให้ ”
“ ไม่เป็นไรแจ แจอยู่กับลูกนี่แหละเดี๋ยวยุนไปตักมาให้เอง ” ร่างสูงรั้งข้อมือเล็กเอาไว้เมื่อเห็นว่าแจจุงกำลังจะลุกขึ้นไปตักอาหารมาให้ลูกชาย
แจจุงนั่งลงตามเดิมแล้วบ่อยให้ร่างสูงทำหน้าที่บริการ ร่างบางหันไปพูดคุยกับหัวหน้าแผนกที่นั่งร่วมโต๊ะด้วยความเป็นกันเองเพราะเคยร่วมงานกันตอนที่เขาเข้าไปช่วยงานยุนโฮ
ก่อนงานเริ่มไม่นานท่านประธานชอง ฮยอนบินกับคุณนายชอง ยูนาก็เดินทางมาถึง พิธีกรเดินขึ้นไปทำหน้าที่ของตนเองทันทีที่ได้เวลา
“ เรียนท่านประธาน และแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ก่อนอื่นผมต้องขออนุญาตใช้ภาษาที่เป็นกันเองนะครับ ” พิธีกรหนุ่มเอ่ยขออนุญาตใช้ภาษากันเองกับคนที่มาร่วมงานเพื่อที่งานเลี้ยงวันนี้จะได้ไม่ดูเป็นทางการจนเกิดไป
ฮยอนบินพยักหน้าอนุญาตเพราะตอนนี้มันอยู่นอกเหนือเวลางานแล้วและวันนี้ทุกคนก็ตั้งใจมาสนุกกันเต็มที่
“ ขอบคุณครับ ” พิธีกรหนุ่มโค้งให้ก่อนจะเริ่มทำหน้าที่ของตนเองต่อ “ ครับ วันนี้ก็ถือว่าเป็นวันที่พวกเรารอคอยกันมาตลอดหนึ่งปีเต็มนะครับ เพราะนอกจากจะได้โบนัสแล้วพวกเรายังได้ปลดปล่อยกันเต็มที่อีกด้วย แต่ก่อนที่เราจะไปสนุกด้วยกัน เรามาดูว่าหนึ่งปีที่ผ่านมามีอะไรเกิดขึ้น บ้างกันก่อนนะครับ ”
สิ้นประโยคของพิธีกรไฟทั้งห้องก็ดับลงเหลือเพียงแสงจากหลอดไฟไม่กี่ดวง มุนบินที่ตกใจกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่รีบคว้าหาที่พึ่งทันที
“ คุณแม่ หนูกลัว ” เจ้าตัวเล็กกอดคนเป็นแม่แน่น ทำไมมันมืดอย่างนี้มุนบินไม่ชอบความมืดอ่ะ
“ ไม่ต้องกลัวนะลูก มันไม่มีอะไรหรอก ” ร่างบางปลอบลูกชายพร้อมกับโยกตัวไปมา
“ แล้วทำไมเขาถึงไม่เปิดไฟอ่ะ แล้วผีมันจะออกมาไหมคุณแม่ ” มุนบินเคยดูในการ์ตูนเวลาที่ไฟดับผีมันชอบออกมา แล้วไฟดับแบบนี้ผีมันจะออกมาไหมอ่ะมุนบินกลัวจริงๆนะ
“ ไม่ออกมาหรอกลูก รออีกแป๊บนึงพี่เขาก็เปิดไฟให้แล้ว ” แจจุงบอกกับลูกชายเพราะตอนนี้กำลังฉายภาพสรุปผลงานตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาจึงทำให้ต้องผิดไฟเพื่อที่จะได้เห็นภาพชัดขึ้น
และไม่นานแสงไฟที่มืดสลัวก็ค่อยๆสว่างขึ้นพร้อมกับเสียงปรบมือของผู้คนในงาน
“ อ่าว มุนบินทำไมหนูถึงได้ไปนั่งตรงนั้นล่ะลูก ” พ่อหมีที่พึ่งหันหน้ากลับมาเอ่ยถามด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นว่าลูกชายขึ้นไปนั่งอยู่บนตักแจจุง
“ เมื่อกี๊ตอนที่ปิดไฟลูกกลัวน่ะ ” ร่างบางบอกสามีก่อนที่จะอุ้มลูกชายให้กลับไปนั่งที่เดิมเมื่อทุกอย่างกลับมาเป็นปกติแล้ว
“ แล้วทำไมหนูถึงไม่เรียกคุณพ่อล่ะลูก ” มือหนาลูบหัวลูกชายเบาๆ
“ หนูเรียกแล้ว ” บอกด้วยน้ำเสียงงอนๆปากเล็กอมลมเข้าจนเต็มแก้ม ทำไมจะไม่เรียกเมื่อกี๊
มุนบินเรียกคุณพ่อแล้วนะแต่คุณพ่อไม่สนใจมุนบินเลยสนใจแต่อะไรก็ไม่รู้
“ อันดับต่อไปเรียนเชิญท่านประธานชอง ฮยอนบินขึ้นมากล่าวอวยพรปีใหม่ให้กับพนักงานทุกคนด้วยครับ ” เสียงพิธีกรดังขึ้นอีกครั้งก่อนจะตามมาด้วยเสียงปรบมือเมื่อคนที่มีอำนาจมากที่สุดลุกขึ้นและเดินขึ้นไปบนเวที
“ สวัสดีทุกคน ก่อนอื่นฉันมีเรื่องอยากจะแจ้งให้ทุกคนทราบ ” เสียงทรงอำนาจดังขึ้น
“ ผมหวังว่าจะเป็นข่าวดีอย่างเช่นขึ้นเงินเดือนให้กับพนักงานทุกคน หรือว่าเพิ่มโบนัสให้พนักงานทุกคนแบบนี้เป็นต้นนะครับ ” พิธีกรเอ่ยปากแซว
“ แน่นอน ว่ามันต้องเป็นข่าวดีฉลองที่บริษัทเราสามารถทำกำไรเพิ่มขึ้นถึง 20% ในไตรมาสสุดท้ายนี้ ”
“ ว้าว....ผมชักตื่นเต้นแล้วสิครับ ทุกท่านก็คงจะตื่นเต้นไม่แพ้ผมใช่มั๊ยครับ ” พิธีกรเล่นกับคนดู
“ เรื่องแรก บริษัทเราได้มีบริษัทลูกที่เป็นสาขาต่างประเทศเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งบริษัทซึ่งบริษัทนี้ตั้งอยู่ที่ฮ่องกงได้แต่ บริษัท D.S ”
พนักงานต่างประมือแสดงความยินดีที่ทางบริษัทได้มีสาขาเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งสาขา จะยกเว้นก็แต่บุคคลที่นั่งอยู่บนโต๊ะผู้บริหารเพราะต่างก็รู้ดีว่าบริษัท D.S. ที่ท่านประธานฮยอนบินพูดถึงเมื่อสักครู่นั้นเป็นบริษัทเดียวกับที่บริษัทที่เข้ามาทำให้ชองกรุ๊ปปั่นป่วน
และดูเหมือนว่าคนที่จะช็อคที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นยุนโฮที่โดนบิดาปั่นหัวเข้าไปเต็มๆ แจจุงเองก็ดูจะช็อคอยู่ไม่น้อยเพราะไม่คิดว่าฮยอนบินจะลงทุนกับการทดสอบยุนโฮขนาดนี้
ยุนโฮจ้องมองบิดาอย่างคนที่ขอคำอธิบายว่าตกลงว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นมันเป็นแผนของฮยอนบินตั้งแต่ต้นเลยใช่ไหม หากแต่คำตอบที่ร่างสูงได้รับนั่นคือการเบือนสายตาหนี
“ และเรื่องที่สองที่ฉันจะแจ้งให้ทุกคนทราบ ” ฮยอนบินหันมามองลูกชายกับลูกสะใภ้ “ ยุนโฮ แจจุงขึ้นมาบนนี้หน่อยสิ ” เสียงทรงอำนาจเรียกบุคคลทั้งสองขึ้นไปบนเวที
แจจุงกับยุนโฮหันมาสบตากันด้วยความไม่เข้าใจว่าฮยอนบินกำลังคิดที่จะทำอะไร ก่อนจะเดินขึ้นไปบนเวทีอย่างเลี่ยงไม่ได้ร่างสูงก้มลงอุ้มเจ้าตัวเล็กให้ขึ้นไปด้วยกันเมื่อยูนาบอกพร้อมรอยยิ้มว่าให้พามุนบินขึ้นไปด้วย
“ สำหรับยุนโฮแล้วฉันคิดว่าทุกคนคงจะรู้จักกันดีเพราะเขาเข้าไปรับผิดชอบงานต่อจากฉันมาได้สักพัก แต่วันนี้ฉันมีคนอีกสองคนที่จะแนะนำให้ทุกคนรู้จัก ออกมายืนข้างหน้าสิแจจุง ” พูดกับพนักงานท้ายประโยคหันไปบอกกับลูกสะใภ้
แจจุงก้าวออกไปด้านหน้าด้วยอาการประหม่าเล็กน้อย มือบางกำเข้าหากันแน่นเพื่อช่วยลดอาการตื่นเต้น
“ ฉันคิดว่าวันนี้เป็นโอกาสที่ดีที่ฉันจะได้แนะนำลูกสะใภ้กับหลานชายให้ทุกคนได้รู้จัก นี่คือคิม แจจุงภรรยาของยุนโฮส่วนเจ้าตัวเล็กนั้นคือหลานชายของฉันชอง มุนบิน ”
สิ้นประโยคของฮยอนบินแจจุงถึงกับอึ้งทำอะไรไม่ถูก ร่างบางหันกลับไปมองสามีก่อนที่
ยุนโฮจะอุ้มมุนบินเดินเข้ามาหา ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยประกายแห่งความดีใจและความตื้นตันเพราะการที่ฮยอนบินทำแบบนี้เท่ากับว่าชายชรายอมรับเขาเป็นลูกสะใภ้แล้ว ร่างบางมองพ่อสามีด้วยแววตาทราบซึ้งและขอบคุณซึ่งฮยอนบินก็ส่งยิ้มบางๆกลับมาให้
“ ฉันคิดว่าทุกคนคงจะได้รับข่าวดีในเร็วๆนี้ เตรียมจัดชุดไปงานแต่ง งานกันด้วยล่ะ ” ชายชราเอ่ยกับพนักงาน
และยุนโฮกับแจจุงก็ต้องอึ้งอีกเป็นครั้งที่สองกับคำพูดของฮยอนบิน ชายชราทำอย่างที่พูดเอาไว้จริงๆว่าถ้าหากวันใดที่ยุนโฮสามารถพิสูจน์ตัวเองได้ว่าตัวเองมีความรับผิดชอบมากพอที่จะเป็นหัวหน้าครอบครัวและหัวหน้าคนได้วันนั้นเขาจะเป็นคนจัดงานแต่งงานให้กับทั้งคู่เอง และการที่ฮยอนบินบอกว่าจะมีงานแต่งงานเกิดขึ้นเร็วๆนี้ก็แสดงว่าเขากับแจจุงผ่านบททดสอบนั้นได้แล้ว
***** กลับมาแล้วคร่า ^^ อัพเรื่องกุญแจหัวใจให้แล้วน๊า ^_^
ความคิดเห็น