ลำดับตอนที่ #73
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #73 : Ozymandias : มหาฟาโรห์แห่งอียิปต์
Rider : โอซิแมนเดียส (Ozymandias)
มหาฟาโรห์แห่งอียิปต์
โอซิแมนเดียส หรือ รามเซสที่ 2 (Ramesses II) หรือเรียกอีกชื่อว่า เมอเรียเมน (Meryamen) เป็นฟาโรห์แห่งอียิปต์โบราณในคริสต์ศตวรรษที่ 13 - 14 นับว่าเป็นฟาโรห์ที่ปกครองอียิปต์ได้ยาวนานที่สุด
โอซิแมนเดียสเป็นยอดนักปกครองผู้ชาญฉลาดและเต็มไปด้วยพรสวรรค์ เขาได้ต่อสู้กับพวกฮิตไทท์ (Hittites) และนำความสงบสุขเข้ามาสู่อาณาจักรอียิปต์ เขาได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและสร้างความสัมพันธ์กับอาณาจักรอื่น ๆ โอซิแมนเดียสได้แต่งงานกับหญิงสาวผู้สวยงามหลายคน และได้มีลูกหลานเป็นจำนวนกว่าร้อยคน จนมาถึงยุคปัจจุบัน ผลงานของเขาด้านสถาปัตยกรรมก็ได้หลงเหลือให้ชื่นชมจนถึงทุกวันนี้
โอซิแมนเดียสรักประชาชนของเขาเหมือนกับเทพเจ้าโอซิริส (Osiris) รัก ประชาชนภายใต้การปกครองของเขาต่างก็รักเขาเช่นกัน นับได้ว่ายุคของโอซิแมนเดียสเป็นยุคทองของอียิปต์ที่ยาวนานกว่า 70 กว่าปี มีหลายทฤษฎีเล่าว่า โมเสสได้ถูกเลี้ยงดูไปพร้อม ๆ กับโอซิแมนเดียส
วีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่แห่งอียิปต์และเป็นฟาโรห์ลำดับที่ 3 แห่งราชวงศ์ที่ 19 ของอียิปต์ เขาเป็นเพื่อนกับโมเสสและรักเนเฟอร์ตารี (Nefertari) สุดหัวใจ อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและโมเสสก็ถูกทดสอบด้วยการที่โมเสสกลายเป็นศาสดาแห่งฮีบรู (Hebrew) หรือพวกยิว และเริ่มเผยแผ่คำสอนที่ต่อต้านเทพเจ้าแห่งอียิปต์
เมื่อโมเสสบอกว่าเขาจะปลดปล่อยพวกยิว แต่โอซิแมนเดียสกลับปฏิเสธ ภัยพิบัติอันยิ่งใหญ่ทั้ง 10 ของอียิปต์ก็ได้เริ่มขึ้น ได้แก่ แหล่งน้ำจะกลายเป็นเลือด ทุก ๆ ที่จะเต็มไปด้วยกบ ตัวริ้นบุกทำลาย ตัวเหลือบบุกโจมตี สัตว์ล้มป่วยเป็นโรคระบาด กลุ่มควันที่แสบร้อน พายุลูกเห็บ ฝูงตั๊กแตนปกคลุมแผ่นดิน ท้องฟ้ามืดมืด 3 วัน 3 คืน และลูกคนแรกของทุก ๆ คนจะต้องตาย ถ้าไม่ใช่เพราะอำนาจของเทพอียิปต์และตัวของโอซิแมนเดียส อียิปต์คงล่มสลายตั้งนานแล้ว ในที่สุดโอซิแมนเดียสต้องยอมรับคำขอของโมเสส ในตอนที่ลูกคนแรกของเขาและเนเฟอร์ตารีถูกฆ่าตายจะภัยพิบัติลำดับสุดท้าย
โอซิแมนเดียส แม้ว่าจะอดทน ยอมไม่เกลียดโมเสส แต่เขาก็ยังรู้สึกโกรธจากการตายของลูกชายคนแรกของเขากับเนเฟอร์ตารี ผู้ปรึกษาของฟาโรห์คนหนึ่งได้โน้มน้าวให้เขาส่งกองทัพรถม้าบุกโจมตีพวกยิว เมื่อโมเสสเห็นกองทัพที่บุกมา เขาก็ได้แสดงปาฏิหารย์แห่งพระเจ้าให้เห็นด้วยการแยกทะเลแดงออกมา และพาพวกยิวเดินข้ามฝั่งไป ทำให้โอซิแมนเดียสยอมปล่อยให้ผู้ที่เปรียบเป็นเพื่อนและน้องชายของตนหนีจากไป
ปรกติแล้ว การตายของฟาโรห์จะถือว่าเป็นการหลับชั่วคราวเท่านั้น เขาจะกลับมาเกิดใหม่ในช่วงสุดท้ายของเวลา เขาบอกว่าระหว่างนี้ ฟาโรห์จะเดินทางไปสู่ดินแดนแห่งเทพเจ้า แต่อย่างไรก็ตาม โอซิแมนเดียสก็ไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้ได้ มันก็เพราะว่าถ้าเขาเป็นผู้กุมอำนาจโลกแห่งนี้ในกำมือ แล้วที่เขาอ่อนแอและอาฆาตแค้น มันทำให้เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากต้องยอมตายในฐานะฟาโรห์ผู้ประสบความสำเร็จงั้นหรือ เขาจึงสาปส่งความจริงที่ว่าฟาโรห์ต้องหลับไปตลอดกาล เขาสัญญาว่าเขาจะกลับมาเกิดใหม่และมีชีวิตอยู่ในสรวงสวรรค์แห่งความเป็นนิรันดร์ต่อไป
โอซิแมนเดียสผู้ซึ่งจารึกตัวเองไว้ในประวัติศาสตร์มนุษย์ก็ได้กลายเป็นวิญญาณวีรชน ร่างกายของเขาถูกเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ในกรุงไคโร (Cairo) ทำให้เขาต้องปรากฏตัวในรูปวิญญาณ ตั้งแต่ที่ร่างของเขาถูกย้ายออกไปจากสุสาน เขาก็ไม่สามารถกลับไปมีชีวิตในร่างเดิมได้ในฐานะฟาโรห์ผู้ประสบความสำเร็จ และถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เขาจะทำอะไรก็ได้ตามที่ตนปรารถนา ไม่ว่าจะเป็นการเป็นอมตะ การกำจัดพวกมาสเตอร์อวดดี หรือการครอบครองโลกและนำความสงบสุขมาให้แก่ผู้คน
โอซิแมนเดียสปรากฏตัวในร่างของชายผิวแทนสูง 180 เซนติเมตรซึ่งเป็นส่วนสูงในขณะที่เขามีชีวิต เขามีดวงตาที่เหมือนกับดวงอาทิตย์และอาบไปด้วยกลิ่นอายของราชา ไม่เหมือนกับกิลกาเมซ เขาปรากฏตัวในเครื่องแต่งกายยุคปัจจุบัน เว้นแต่ว่ามีสร้อยคอสีทองพร้อมกับกำไรข้อมือ
โอซิแมนเดียสเป็นฟาโรห์ที่มีความมั่นใจในตัวเองอย่างเหลือล้น มันไม่ใช่ความหยิ่งทะนงหรือจองหอง แต่โอซิแมนเดียสประพฤติตนเหมือนกับพระเจ้าและฟาโรห์ ทำให้เขาเป็นคนตรงไปตรงมา เขาเป็นลูกของเทพรา (Ra) เทพแห่งพระอาทิตย์ ในขณะเดียวกันเขาก็ถือว่าเป็นผู้ที่อยู่เหนือทุกสิ่งเหมือนกับนกที่บินไปบนท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ เหมือนกับปลาที่ว่ายน้ำในมหาสมุทร และเหมือนกับดอกไม้ที่เบิกบานในทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ เขาเป็นดั่งราชาแห่งพระเจ้าจริง ๆ
โอซิแมนเดียสเป็นคนอีโก้สูง มองตัวเองว่าเป็นเทพเจ้าแต่เขาก็ไม่เคยดูถูกพระเจ้าเลย ไม่เหมือนกับพวกครึ่งคนครึ่งเทพ แต่ถึงแบบนั้นเขาก็ประกาศว่าตัวเองเป็นเทพแห่งสรวงสวรรค์เหมือนกับฮอรัสและรา เขาเชื่อว่าเทพเจ้าโปรดปรานเขาเป็นอย่างมากและรวมไปถึงเนเฟอร์ตารีเองก็ด้วย ในขณะที่เขามีชีวิตอยู่ เขาได้เรียกเนเฟอร์ตารีว่าเป็นตัวแทนของฮาธอร์ (Hathor) เทพีแห่งท้องฟ้าและความรัก
การที่เขาพบกับคนอื่นที่มีอำนาจ เขาคิดว่ากษัตริย์ก็ยังไม่สูงส่งเท่าฟาโรห์ โดยปรกติแล้วฟาโรห์จะเฝ้าดูและคอยแนะนำสั่งสอนกษัตริย์ผู้ที่ไม่ใช่ฟาโรห์ ทำให้โอซิแมนเดียสต้องคอยดูแลคนเหล่านั้น และถ้าหากเขาพบกับคนที่มีกลิ่นอายคล้ายกับนักบวช หรือเพื่อนเก่าของเขา โมเสส เขาจะให้ความสนใจและอยากเห็นใบหน้าของพวกเขามาก สำหรับเขาแล้ว คนที่เขารักมากที่สุดก็คือเนเฟอร์ตารี และเพื่อนที่ไม่มีใครจะทดแทนได้ก็คือโมเสส เท่านั้น
ความสัมพันธ์กับเซอร์แวนท์ตนอื่น ๆ
โมเสส (Moses)
เปรียบเหมือนน้องชายของเขา เขาถูกเลี้ยงดูมาพร้อม ๆ กันกับโอซิแมนเดียส โมเสสเป็นผู้ที่มีความสามารถจะเป็นผู้ปกครอง ทำให้เขาก็มีโอกาสที่จะเป็นฟาโรห์ได้เหมือนกัน แต่เขากลับเลือกที่จะไปเป็นนักบวชแทน
กรรณะ (Karna)
บุตรแห่งดวงอาทิตย์ แต่ว่าความเข้าขาในการต่อสู้ของพวกเรามันไม่ค่อยจะดีนัก
ทามาโมะ โนะ มาเอะ (Tamamo no Mae)
ตัวแทนแห่งดวงอาทิตย์ แน่นอน ข้าเป็นพี่ชายของเธออยู่แล้ว
เควตซาลโคทล์ (Quetzalcoatl)
โห เทพแห่งดวงอาทิตย์จากต่างแดนงั้นหรอ
ชายชราแห่งขุนเขา (Old Man of the Mountain)
ฟุ....
อราช/อาเทอร์ เพนดราก้อน (Arash / Arthur Pendragon)
ข้าสนใจในวีรชนผู้มีจิตใจงดงามและซื่อสัตย์ และยิ่งถ้าเป็นวีรชนผู้อยากจะช่วยเหลือโลกด้วยล่ะก็นะ
คลีโอพัตรา/อิซกันดาร์ (Cleopatra / Iskandar)
ฟาโรห์ ยังไงก็เปรียบเทียบกับฉันไม่ได้หรอก มันก็ไม่แย่นะ หากพวกเจ้าจะไปเที่ยวรอบโลกไปพร้อม ๆ กับ นิโตคริสน่ะ
นิโตคริส (Nitrocris)
ฟาโรห์โบราณ เธอผ่านการต่อสู้กับราชาราชสีห์มาแล้ว เธอสมควรถูกเปรียบเทียบว่าเป็นคุณแม่นะ แต่ข้าตัดสินใจแล้วจะดูแลเธอในฐานะบริวารของฉัน เพราะนั่นคือสิ่งที่เธอปรารถนา
กิลกาเมซ (Gilgamesh)
เข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เนเฟอร์ตารี (Nefertari)
ผู้ที่ข้ารักและเทิดทูนยิ่งกว่าใคร ๆ ไม่ว่าฉันจะมีภรรยามากเท่าใด ก็มิอาจสู้เนเฟอร์ตารีที่อยู่เคียงข้างข้าตลอดได้ ข้าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องชอบนางสนมเลยแม้แต่น้อย
โอซิแมนเดียสปรากฏตัวครั้งในเฟท/โปรโตไทป์ : เสียดเสี้ยวแห่งท้องฟ้าสีเงิน (Fate/Prototype : Fragment of Sky Silver) และปรากฏตัวในเกมเฟท/แกรนด์ ออเดอร์ (Fate/Grand Order) ในบทคาเมล็อต : อาณาจักรโต๊ะกลมอันศักดิ์สิทธิ์ (Camelot : The Sacred Round Table Realm) และบทซาโลม่อน วิหารแห่งกาลเวลาอันยิ่งใหญ่ (Salomon : The Grand Time Temple)
ความสามารถเฉพาะคลาส
ความต้านทานเวทย์มนต์ (Magic Resistance) B
สามารถต่อต้านเวทย์ท่ามีคำร่าย 3 บทลงมา หรือ เวทย์ที่ระดับต่ำกว่านั้น
การขับขี่ (Riding) A+
สามารถขับขี่ยานพาหนะทุกชนิดได้อย่างยอดเยี่ยมรวมถึงเหล่าสัตว์มายา ยกเว้นเผ่ามังกร
ความสามารถเฉพาะตัว
ความเป็นเทพ (Divinity) B
ตามตำนานแล้วเขาคือบุตรและร่างอวตารของสุริยะเทพ รา
อภิสิทธิ์ของกษัตริย์ (Imperial Privilege) A
ทำให้ได้รับสกิลที่ปกติไม่สามารถมีครอบครองได้
ความน่านับถือ (Charisma) B
หนึ่งในฟาโรห์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งอียิปย์
การปกป้องของสุริยะเทพ (Protection of the Sun God) A+
เขาได้รับการปกป้องจากสุริยะเทพ รา
สมบัติวีรชนที่ครอบครอง
"พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ จงเป็นพยานให้แก่ข้า และต้องศิโรราบต่อข้า ความสามารถอันไม่จำกัดของข้า ดวงอาทิตย์เริ่มตกลง รามาเซี่ยม เทนธีริส!"
Ramesseum Tentyris รามาเซี่ยม เทนธีริส : มหาวิหารประกายแสงอันซับซ้อน
ประเภท : ต่อต้าน-ป้อมปราการ
ระดับ : EX
ความสามารถในการอัญเชิญโลกจำลองที่มีรูปแบบเป็นมหาวิหารต่าง ๆ ที่เรียงตัวกันอย่างซับซ้อนออกมาโดยมีศูนย์กลางการควบคุมคือพีระมิดที่เป็นท้องพระโรงของรามเซส มันคือการรวมมหาวิหารต่าง ๆ ให้กลายเป็นหนึ่งเดียวกันโดยไม่สนใจหลักฟิสิกส์หรือความเป็นจริง แม้แต่วิหารที่ไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาของเขาก็ถูกอัญเชิญมาด้วย เหตุก็เพราะรามเซสคิดว่าทุกวิหารทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ล้วนมีเพื่อเขา เขาจึงสลักชื่อลงเป็นวิหารและจารึกมากมาย บูรณะพวกมันแล้วเปลี่ยนมันให้เป็นของเขาเอง
ความสามารถของมหาวิหารนี้มีอยู่หลากหลายได้แก่
การมอบความเป็นอมตะให้กับรามเซสและเหล่าสัตว์ผู้พิทักษ์ ทำให้การจะจัดการเขาต้องทำลายวิหารลงให้ได้ก่อน
คำสาปของเทพโบราณที่มาในรูปแบบพิษที่จะพรากชีวิตใน 2 วินาทีและลดความสามารถต่อสู้ของเซอร์แวนท์ลง ถึงแม้จะมีภูมิคุ้มกันพิษก็ไม่สามารถป้องกันพิษนี้ได้
ความสามารถในการผนึกสมบัติวีรชน เว้นแต่พวกที่เป็นเทพ เคยเป็น หรือมีความเกี่ยวข้องกับเทพจะไม่ได้รับผลนี้
ผนังวิหารคลุมด้วยโลหะเทวะที่สามารถป้องกันและสะท้อนกลับสมบัติวีรชนประเภทต่อต้านกองทัพระดับกลางได้ และยังสามารถป้องกันการชำระล้างได้ด้วย
มันมีหลอดไฟเดนเดร่าที่ทำหน้าที่เหมือนปืนใหญ่ในการโจมตีศัตรู พลังทำลายของมันนั้นเท่ากับไฟของพระอาทิตย์ และสามารถทำให้เมืองหนึ่งเมืองระเหิดได้ในพริบตา
รามเสสยังสามารถควบคุมให้วิหารโผล่บนท้องฟ้าเพื่อใช้มันบนขยี้ศัตรูที่อยู่ด้านล้าง
อบู โอล สฟิงซ์ Abu Hol Sphinx : อสูรกายราชสีห์แห่งทรายร้อน
ประเภท : ต่อต้าน-กองทัพ
ระดับ : A
ความสามารถในการอัญเชิญสฟิงซ์รูปแบบต่างๆออกมาได้ กล่าวกันว่ามันคืออวตารแห่งเทพนภา โฮรัส หน้าเป็นคนตัวเป็นสิงโตมีปีก มันยังได้รับฉายาว่า บิดาแห่งความกลัว (Abu El Hol) พวกมันมีพลังในการปราบวิญญาณวีรชนสามตน มีความมารถในเพิ่มความร้อนให้กรงเล็บ และถ้าหากมันตายก็จะเกิดเปลวไฟคลุมทั่วร่างและหลอมละลายทุกสิ่งที่เข้ามาใกล้
ภายในมหาวิหารยังมีสฟิงซ์สายพัน6ธ์ราชาชื่อว่า สฟิงซ์ เวเฮม เมซุท (Sphinx Wehem-Mesut) ที่สามารถควบคุมสฟิงซ์ทั้งหมดได้ ร่างกายของมันนั้นมีลวดลายเหมือนจักรวาล จึงมีอีกชื่อว่า คอสมอส สฟิงซ์ (Cosmos Sphinx) รามเซสยังสามารถสร้างร่างโคลนของมันออกมาเรียกว่า สฟิงซ์ อาวแลด (Sphinx Awlad) ซึ่งจะมีขนาดเท่ากับลูกสิงโตและนิสัยเหมือนกับลูกสิงโต
เมเซคเตท Mesektet : นาวาสุริยันย์แห่งคืนมืดมิด
ประเภท : ต่อต้าน-กองทัพ
ระดับ : A+
มันคือเรือที่สุริยะเทพ ราห์ เดินทางไปยังนรกและเนื่องจากรามเซสถือตนว่าเป็นอวตารของราห์ เรือนี้จึงถือว่าเป็นเรือของเขาด้วย มันสามารถยิงลำแสงจำนวนมากหรือสำแสงขนาดใหญ่ออกมาโจมตีได้ ราเสสยังสามารถเรียกมันออกมาได้เฉพาะส่วนตามใจของเขา และเนื่องจากมันมีความแข็งแกร่งและขนาดใหญ่มาก แม้เรียกมาแค่ส่วนด้านหน้าเรือก็สามารถบดขยี้เมืองทั้งเมืองได้
-------------------------------------------------------------------------
Facebook Fanpage : Kokowa ฉันแค่อยากแปล
-------------------------------------------------------------------------
จบไปแล้วนะครับ กับประวัติของวีรชนท่านนี้ ท่านราชาดิโอ-- เอ้ยย! ท่านโอซิแมนเดียส ถ้าข้อมูลน้อยไปหรือผิดพลาดก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยครับ เอาเป็นว่าใครที่ชอบก็อย่าลืมกดไลค์แฟนเพจ กดหัวใจ กดเรท กดแชร์ให้กับเรื่องนี้ต่อไปด้วยนะครับ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น