NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (ss1+2+3) | Fic Jujutsu Kaisen x OC | The Grim reaper eye

    ลำดับตอนที่ #72 : ความจริงหลังม่าน

    • อัปเดตล่าสุด 26 พ.ย. 67


    ~’

    กำลังกล่อมลูกนอนเหรอ’ 

    อืม’ ณ บ้านหลังหนึ่งในญี่ปุ่น มีหญิงสาวกำลังฮัมเพลงและไกวเปลที่มีเด็กทารกหญิงผมแดงตัวน้อยอยู่ จากนั้นก็มีชายหนุ่มเรือนผมสีแดงเช่นเดียวกับเด็กน้อยเดินมาทักถาม

    แต่หน้าเธอดูเครียดๆนะ เกิดเรื่องอะไรรึเปล่า’ แต่เหมือนชายหนุ่มเห็นว่าสีหน้าภรรยาของเขานั้นมีความเคร่งเครียดบางจึงถามออกไป

    ‘...รู้ใช่มั้ยว่าตระกูลพวกฉันโดนคนจ้องจะเอาชีวิตอยู่น่ะ คาสึยะ’ หญิงสาวเอ่ยปากพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ชายหนุ่มเจ้าของชื่อได้ยินแล้วก็เงียบไปพักนึง

    รู้สิ เพราะงั้นฉันถึงได้คบกับเธอไงฮิโรมิ

    ‘?’ หญิงสาวเรือนผมสีดำ นัยน์ตาสีม่วง หรือฟุบูกิ ฮิโรมิมองด้วยความฉงน

    เธออาจจะยังไม่รู้ เมื่อก่อนฉันเคยโดนคนของบ้านฮิรามารุตามตื๊ออยู่ ตอนแรกฉันก็สงสัยว่าทำไมจนฉันแอบไปได้ยินว่าพวกนั้นกะจะเอาพลังฉันไปฆ่าพวกเธอ

    เจ้าพวกนั้นรู้เหรอว่าเธอมีเจตจำนงค์แห่งความวินาศ แล้วก็เป็นลูกหลานของจักรพรรดิสุโตคุน่ะ?’ ฮิโรมิถาม

    เรื่องพลังฉันว่ารู้ แต่เรื่องสองฉันไม่แน่ใจ’ คาสึยะตอบ ‘พอฉันได้ยินแบบนั้นแล้ว ก็เลยตัดสินใจคบกับเธอ เพราะฉันไม่อยากเห็นเธอตายต่อหน้าฉันน่ะ’

    งั้นเหรอ…’ หญิงสาวว่าพลางเอามือเท้าคาง ‘แต่ว่านะ คาสึยะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น…’

    ‘?’

    เราต้องปกป้องอากาเนะให้ได้’ ประโยคของฮิโรมิ ทำเอาชายหนุ่มอึ้งไปพักนึงก่อนจะยิ้มบางๆ

    นั่นสินะ

    จะว่าไป ช่วงนี้ฉันฝันแปลกๆด้วยล่ะ

    ฝันเรื่องอะไร

    เป็นเงาตะคุ่มดำๆ เสียงก็แยกไม่ออกว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แถมยังพูดกับฉันว่า—’

     

    อิฟรินแห่งจุดจบ ได้ถือกำเนิดแล้ว

     

     

     

     

    “!?” ตัดกลับมาที่ปัจจุบัน อากาเนะก็ลืมตาและลุกขึ้นหอบหายใจระรัวจากความฝันเมื่อครู่ 

    ‘ฝันเมื่อกี้…พ่อกับแม่- เดี๋ยวก่อน!? ไม่ใช่ว่าฉันตายแล้วไปแล้วเหรอ!?’ แต่แล้วเธอก็มารู้ตัวทีหลังว่าตัวเองยังไม่ตายทั้งๆที่โดนยูตะจัดการไปแล้ว

    “เอ่อ…”

    “?!” เสียงของยูตะดังมาจากข้างตัวเด็กสาว พอหันไปก็พบกับเจ้าของเสียงที่นั่งอยู่ข้างๆ

    แถมข้างตัวยังมีถุงใส่ยาแก้หวัดอยู่ข้างในอีก

    “คุณอคค-ฮ-ฮัดชิ่ว!” แต่ในตอนที่เธอจะเรียกชื่อเขา เธอก็เผลอจามออกมาเพราะยังไม่หายจากหวัด ทว่ายูตะกลับเอาทิชชู่มาปิดจมูกเธอไว้ทันก่อน

    “เดี๋ยวเถอะ ออกมาปัดเป่าคำสาปทั้งๆที่เป็นหวัดแบบนี้มันไม่ได้นะ”

    “เอ๊ะ?”

    “ก็เธอเป็นหวัดอยู่ไม่ใช่เหรอ แต่ยังฝืนตัวเองออกมาปัดเป่าคำสาปแถมยังมาสู้กับผมอีก ตอนที่รู้ว่าเธอไม่สบายนี่ผมรู้สึกผิดมากเลยนะเพราะไปรังแกคนป่วยน่ะ อ้อ! ตอนที่โดนแทง ผมใช้อาคมย้อนกลับช่วยรักษาให้แล้วนะ” มิหนำซ้ำยังโดนชายหนุ่มบ่นชุดใหญ่ด้วย ทำให้เธองงเข้าไปใหญ่ว่าก่อนหน้านี้เขาบอกว่าได้รับคำสั่งให้มาประหารเธอไม่ใช่เหรอ

     

    แล้วไหงถึงได้มาอยู่ที่นี่วะ!!

     

    “เอ่อ…คือ…”

    “อ่าจริงสิ เธออาจจะยังงงๆอยู่ ต้องขอโทษด้วยนะที่จู่ๆมาพูดแบบนี้น่ะ” ดูเหมือนยูตะเห็นแล้วว่าอากาเนะยังไม่เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้เลยรีบขอโทษและอธิบายทุกอย่างให้ฟัง 

    “ที่จริง อาจารย์โกะโจมาไหว้วานให้ผมดูแลเธอกับอิตาโดริคุงเผื่อเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับอาจารย์น่ะ เพราะงั้นผมเลยต้องแสดงละครว่าผมยังทำงานให้ทางเบื้องบนอยู่ แต่พวกเค้าก็ไม่ได้โง่เลยสร้างพันธะให้ผมประหารทั้งสองคน ผมเลยจำเป็นต้องฆ่าพวกเธอจริงๆ-”

    “แล้วหลังจากนั้นก็ใช้อาคมย้อนกลับรักษาฉันกับยูจิคุง…จะพูดประโยคนี้ต่อใช่มั้ยคะ”

    “…ถูกต้อง” คนผมดำพยักหน้ายอมรับประโยคพูดแทรกของเด็กสาว เพราะสิ่งที่เธอพูดมามันคือประโยคที่เขาจะพูดต่อจริงๆ 

    “แปลว่ายูจิคุงก็-”

    “เขายังไม่ตื่นน่ะ” ยูตะเบนหน้าไปอีกทางที่มียูจิที่ยังคงนอนสลบอยู่ เพราะหลังจากที่จัดการอากาเนะและพามายังที่ๆปลอดภัยเสร็จ เขาก็ไปจัดการยูจิต่อทันที และตอนขากลับหลังจากจัดการยูจิ เขาก็ไปหายากับอาหารสำเร็จรูปมาให้อากาเนะด้วย

    “ว่าแต่ผมขอถามอะไรหน่อยได้มั้ย”

    “ถามอะไรคะ”

    “ทำไมถึงฝืนตัวเองออกมาปัดเป่าคำสาปล่ะ”

    “ก็อยู่แต่ในห้องเฉยๆมันน่าเบื่อนี่คะ” พออากาเนะตอบมาแบบนั้น สิ่งที่ได้คือสายตาของชายหนุ่มที่ดูเหมือนโกรธเธออยู่

    “อย่าบอกนะว่าโกรธ-ฮ-ฮัดชิ่ว!” จนกระทั่งอากาเนะจามรอบสอง แต่ยูตะก็เอาทิชชู่มาปิดได้ทันเหมือนรอบก่อน

    “เอาเป็นว่ากินอาหารพวกนี้แล้วค่อยกินยานะ” เขาว่าแล้วลุกไปหยิบซุปกระป๋องที่อุ่นแล้วมาให้ จากนั้นก็ใช้ช้อนตักขึ้นมาแล้วยื่นมาทางอากาเนะ พอเธอเห็นแบบนั้นแล้วก็ยื่นมือเตรียมรับช้อนนั้นมาแต่ยูตะชักมือกลับ

    เดี๋ยวผมป้อน

    “คะ?” ประโยคเมื่อครู่ของอีกฝ่ายทำเอาเด็กสาวถึงกับสตั๊นไปเลย “คือคุณอคคทสึคะ ฉันแค่เป็นหวัด-”

    “…” ในขณะที่เธอจะพูดอยู่ก็โดนสายตารู้สึกผิดของชายหนุ่มที่ไปสู้กับเธอเมื่อตอนนั้นส่งมา เด็กสาวเห็นแล้วถึงกับกุมขมับเลยทีเดียว

    “…ก็ได้ค่ะ” สุดท้ายก็ใจอ่อนยอมให้อีกฝ่ายป้อนอาหารให้จนได้ พอกินเสร็จแล้วก็มากินยาต่อ พอกินเสร็จแล้วยูตะเลยกลับไปนั่งบนซากอิฐ 

    “คือว่า…คุณอคคทสึ-”

    “เรียกยูตะได้นะ” ระหว่างที่อากาเนะเรียกชายหนุ่มด้วยนามสกุล ชายผู้เป็นเจ้าของชื่อก็อนุญาตให้เธอเรียกเขาด้วยชื่อต้นได้ 

    “คุณยูตะ คือว่า…”

    “?” เด็กสาวที่กำลังจะเอ่ยปากกลับเงียบ ทำให้คนที่ถูกเรียกเอียงหัวสงสัย แต่เขาก็หายสงสัยเมื่อเด็กสาวก้มหัวลง

    “คือ…ขอโทษนะคะ”

    “เอ๊ะ?”

    “คุณมาช่วยฉันกับยูจิคุง แต่ฉันกลับไม่รู้เรื่องแถมจ้องจะฆ่าคุณอีก เพราะงั้นต้องขอโทษด้วยจริงๆนะคะ” อากาเนะเอ่ยอย่างรู้สึกผิด เพราะตอนที่สู้กับยูตะเธอก็ตั้งใจจะเอาชีวิตเขาจริงๆ

    “ไม่ต้องรู้สึกผิดหรอก สถานการณ์ในตอนนั้นมันบีบให้พวกเราต้องสู้กันอยู่แล้ว” โชคดีที่ยูตะไม่ได้รู้สึกติดใจอะไร กลับกันเขาเข้าใจด้วยซ้ำ “แต่ผมขอถามอะไรเธอได้รึเปล่า ฟุบูกิจัง”

    “?”

    “ผมได้ยินจากทางเบื้องบนว่าเหตุฆาตกรรมตระกูลฮิรามารุเป็นฝีมือของคนในตระกูลเธอ แต่ผมก็มารู้ทีหลังว่าวันเกิดอุบัติการณ์ชิบุย่า คนของเธอก็ช่วยประชาชนที่อยู่ติดอยู่ที่นั่นด้วยเหมือนกัน เธอตั้งใจจะใช้เรื่องไหนมาบังหน้ากันแน่” คำถามของชายหนุ่มทำเอาอากาเนะเลิกคิ้วประหลาดใจเล็กน้อยก่อนจะยิ้มบางๆ

    “คำถามนี้ไม่มีคำตอบที่ถูกต้องค่ะ”

    “ว่าไงนะ?”

    “ถ้าจะให้ตอบแบบซับซ้อน มันแล้วแต่ว่าคุณมองฉันเป็นคนแบบไหน เพราะทั้งสองเหตุการณ์นั้นเป็นฝีมือคนในตระกูลฉันจริงๆ ส่วนจะเอาเรื่องไหนมาบังหน้า ก็ขึ้นอยู่กับความคิดของคนตอบค่ะ” เด็กสาวไหวไหล่ตอบ “ที่ฉันช่วยคนที่ติดอยู่ชิบุย่าก็เพราะฉันอยากจะลดการสูญเสียให้ได้มากที่สุด ส่วนเรื่องล้างคอกหมานั่นเป็นความแค้นส่วนตัวของฉันเอง แต่คนในบ้านดันถูกใจและรอให้ฉันอนุมัติคำสั่งนี้ สุดท้ายก็ตามที่เบื้องบนรายงานค่ะ”

    “ความแค้นส่วนตัว?”

    “ถ้านับรวมที่ไปทำภารกิจด้วย ฉันเคยเกือบตายเพราะบ้านนั้น 3 รอบค่ะ” อากาเนะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งราวกับไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ยูตะอึ้งไปแล้ว “รอบแรกตอน 5 ขวบจนเสียตาซ้าย รอบสองก็เกือบตายหลังจากทำภารกิจเสร็จแต่รู้ทันเลยรอด รอบล่าสุดก็ชิบุย่า โดนยิงกระสุนพิษจนเกือบตายแต่ก็รอดกลับมาได้อีก นี่ยังไม่นับที่พวกเขาฆ่าพ่อแม่ฉันด้วยนะคะ”

    ‘ดวงแข็งมาก…’ ชายหนุ่มคิดในใจ แต่ก็มาสะดุดตรงที่บอกว่าเสียตาซ้าย

    “เดี๋ยวนะ เมื่อกี้เธอบอกว่าเสียตา-”

    “ความหมายตรงตัวเลยค่ะ ที่จริงฉันควรจะตายตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว แต่ฉันไปทำสัญญาแลกเปลี่ยนมาแล้วได้นี่มาเป็นของต่อชีวิตฉัน” อากาเนะว่าแล้วเอาผ้าปิดตาออกเผยให้เห็นดวงตาที่ซ่อนอยู่ 

    “เนตรยมทูต?” ชายหนุ่มมองแล้วนึกไปถึงที่เบื้องบนเคยพูดไว้ว่าอีกฝ่ายมีดวงตาพิเศษจึงเอ่ยถาม

    “ค่ะ เพราะเจ้านี่ฉันถึงได้รู้ก่อนคนอื่นว่าวันที่ 31 ตุลา จะเกิดเรื่องอะไรบ้าง ฉันเลยวางแผนกับคนในบ้านว่าจะทำอะไรบ้าง แน่นอนว่าฉันรู้เรื่องอาจารย์โกะโจจะโดนผนึกด้วย”

    “แล้วทำไมเธอถึงไม่ไปช่วยอาจารย์ล่ะ” ยูตะที่ได้ยินแบบนั้นถามเสียงเย็น

    “เพราะฉันแก้อนาคตอาจารย์ไม่ได้ค่ะ คนที่แก้ได้มีแต่ตัวเจ้าของอนาคตหรือก็คืออาจารย์เท่านั้น ฉันทำได้มากสุดแค่เตือนกับบอกใบ้ สุดท้ายก็อย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ” อากาเนะตอบด้วยความบริสุทธิ์ใจ “จริงๆฉันก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่อาจารย์จะพลาดท่า เพราะคนตรงหน้าเขาคือเพื่อนสนิทที่ตายไปแล้ว เห็นได้ชัดเลยว่าอาจารย์ยังคงคิดถึงเขาอยู่”

    “หมายถึงคุณเกะโท?” ชายหนุ่มเลิกคิ้วไม่อยากจะเชื่อ

    “อ้าว? เคยเจอเหรอคะ” อากาเนะถาม

    “อืม เคยสู้ด้วยน่ะ”

    “…โอ้ เป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดน่าดูเลยนะคะ”

    “เธอรู้ได้ไง?” 

    “เนตรยมทูตเห็นทั้งอดีตและอนาคตค่ะ เมื่อกี้ฉันมองเห็นเรื่องในอดีตของคุณพอดีก็เลยรู้น่ะค่ะ”

    “อย่างนี้นี่เอง…” ยูตะพยักหน้าเข้าใจ “ผมว่าผมได้คำตอบของคำถามแล้วล่ะ”

    “ที่ถามว่าฉันเอาเรื่องไหนมาบังหน้านั่นเหรอคะ” อากาเนะเลิกคิ้วแปลกใจ “แล้ว…คำตอบล่ะคะ?”

    “ยอมเป็นตัวร้ายในสายตาคนอื่นแต่ก็ยังหาทางที่จะช่วยคนอยู่ให้ได้” เมื่ออากาเนะได้ฟังคำตอบแล้วถึงกับเงียบทันที ยูตะเลยอธิบายขยายความคำตอบตัวเอง

    “เพราเธอไม่ใช่คนไม่ดีอย่างที่เบื้องบนเข้าใจ จากที่ได้คุยกับเธอแล้ว เธอเป็นคนที่เพื่อเป้าหมายแล้วเธอทำได้ทุกอย่างต่อให้ภายหลังจะถูกมองว่าเป็นตัวร้ายก็ตาม แต่ทั้งหมดที่ทำไปก็เพื่อให้ทุกคนได้มีอนาคตที่ดีกว่าเดิม”

    “...ประเมินไว้ซะสูงเลยนะคะ” เด็กสาวยิ้มบางๆ 

    “แต่ว่า…ขอบคุ-ฮ-ฮ-” แต่ในตอนที่อากาเนะกำลังขอบคุณ อาการจามก็เริ่มจะกลับมาอีกรอบ ยูตะเลยรีบตรงมาหาและเอาทิชชู่มาปิดจมูกเธอทันที

    “ฮ-ฮัดชิ่ว!”

    “เอาเป็นว่า นอนพักก่อนก็แล้วนะ ถ้าเกิดมีอะไรเดี๋ยวผมมาปลุก” ชายหนุ่มว่าพลางเอาทิชชู่ไปทิ้ง

    “ที่จริงคุณไม่ต้องดูแลถึงขนาดนี้ก็ได้นะคะ”

    “ไม่ได้ ยิ่งเธอไม่สบายอยู่ยิ่งต้องพักมากกว่าคนอื่นเลย เพราะงั้นพักเถอะ”

    “...เฮ้อ~ ก็ได้ค่ะ” สุดท้ายอากาเนะก็ต้องกลับไปนอนพักตามคำขอของอีกฝ่าย ด้านยูตะก็คอยจัดเก็บพวกขยะที่เหลือไปทิ้ง พลางนึกถึงวันที่อาจารย์มาหาเขาเพื่อไหว้วานเรื่องอากาเนะกับยูจิ

     

     




     

    .

    .

    .

    หลังๆมานี้ผมรู้สึกสังหรณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับผมก็ฝากเธอให้ดูแลปี1 กับปี2 แทนทีนะ

    เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ อย่าบอกนะว่าเรื่องผู้หญิง?”

    เดี๋ยวนี้เล่นมุกเป็นแล้วรึไง

    เปล่านะครับ แค่นึกภาพว่ามีคนทำอะไรอาจารย์ได้ไม่ออกน่ะ” ย้อนกลับไปเมื่อหลายเดือนก่อน โกะโจได้ยังประเทศแอฟริกาเพื่อมาหายูตะและฝากฝังให้ดูแลเด็กปี 1และปี 2 แทนเผื่อเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นกับโกะโจ

    มีอยู่สองคนที่อยากให้เธอดูแลเป็นพิเศษ คนแรกอิตาโดริ ยูจิ เขาโดนโทษประหารแต่ก็เลื่อนออกไปเหมือนกับเธอเมื่อก่อน ผมคิดว่าถ้าฝากเธอดูแลไว้ก็คงสบายใจขึ้นเยอะ” โกะโจอธิบาย

    แล้วคนที่สองล่ะครับ?”

    เป็นเด็กผู้หญิงชื่อฟุบูกิ อากาเนะ มีแววว่าจะโดนโทษประหารเร็วๆนี้เพราะเป็นภาชนะคำสาปเหมือนยูจิ แต่เธอจะต่างจากยูจิตรงที่ไม่ได้เป็นเพราะกินวัตถุต้องสาป แต่เป็นภาชนะมาตั้งแต่เกิดแต่ตัวคำสาปเพิ่งมาตื่นเร็วๆนี้เอง

    เรื่องแบบนั้นมันเกิดขึ้นได้ด้วยเหรอครับ” ยูตะถามด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

    มันเกิดไปแล้วล่ะ แถมผมเจอตัวคำสาปที่ว่าแล้วด้วย โชคดีที่นางไม่ได้มีท่าทีเป็นศัตรูเลยวางใจไปได้นิดหน่อย” คนผมขาวพูดต่อ “แถมอากาเนะยังเป็นผู้ครองเนตรยมทูตคนปัจจุบันด้วย ไม่รู้ทางเบื้องบนจะเล่นเหลี่ยมอะไรรึเปล่า เพราะงั้นฝากเธอดูแลไว้อีกคนก็ไม่เสียหาย

    เนตรยมทูต?” คนผมดำทำหน้างงกับศัพท์ไม่คุ้นหู

    เป็นดวงตาพิเศษที่มีพลังมองเห็นอดีตกับอนาคตได้น่ะ บอกเลยว่าเป็นคนที่น่าสนใจมากๆด้วย ลองไปคุยด้วยซักครั้งแล้วจะเข้าใจเองแหละ

     

     

     

     


    .

    .

    .

    “...” ตัดกลับมาที่ปัจจุบัน ยูตะมานั่งยองๆมองอากาเนะที่หลับอยู่ เมื่อไปนึกถึงตอนที่เธอปากดีท้าสู้กับเขาและตอนที่มานั่งคุยกันอย่างจริงจังเมื่อครู่ทำเอาเขาไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่ว่าเป็นคนเดียวกัน

    “เป็นคนที่…น่าสนใจจริงๆแฮะ”

     

     

     

     

     

     

    .

    .

    .

    “เจ้าจะขวางข้าไม่ให้ออกไปอีกนานมั้ย”

    “ข้าจะดูหนังรักวัยรุ่น ให้เจ้าออกไปมันก็ไม่สนุกสิ” ในเวลาเดียวกัน ณ อาณาเขตป่าหิมะของยูกิฮิเมะ ทัตสึยะขวางเรียวตะไม่ให้ออกไปหาอากาเนะเนื่องจากอยากเห็นช่วงเวลาของยูตะกับอากาเนะเปิดอกคุยกัน

    ที่จริง ต้องบอกว่าเรียวตะเตรียมออกไปตั้งแต่อากาเนะฟื้นแล้ว แต่ทัตสึยะก็ขวางไม่ให้ออกไป แล้วก็ตบตีกันตั้งแต่ต้นยันจบ แถมตอนที่เห็นโมเม้นท์ของสองคนนั้นยมทูตหนุ่มถึงกับรู้สึกหงุดหงิดจนแทบจะบ้า ผิดกับคำสาปหนุ่มที่เห็นแล้วรู้สึกสนุกราวกับได้ดูหนังสั้น

    ส่วนยูกิฮิเมะนั้น นอกจากจะไม่ห้ามแล้ว ยังปล่อยเบลอหนีไปนอนอีก

    “เตรียมรับว่าที่ลูกเขยคนใหม่ได้เลย เรียวตะคุง~”

    “ลูกเขยเxี้ยอะไร ข้าไม่รับโว้ย!!”

     

     

     

     

     

     

    .

    .

    .

    talkๆdesu: อันนี้คือชัดเจนแล้วนะว่าใครพระเอก แม่ยายท่านไหนที่เขม่นพี่ยูตะในตอนแรกก็ใจเย็นๆนะ พี่เค้ามาดีนะค้าบ

    สนุกไม่สนุกยังไงก็เม้นกันมาได้นะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งต่อ

    เจอกันตอนหน้า บ๊ายบายยยยยยยยยยย

     


    S Q W E E Z   T H E M E  @  D E K - D 

    SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×