คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #72 : บทที่ 23 : จากลาไม่หวนคืน
บทที่ 23 จากลาไม่หวนคืน
เฮเลนหายใจหอบเอื้อมมือไปจับชายเสื้อของเดรโกเอาไว้แน่น
เขาสะดุ้งและหันกลับมาประคองร่างของเธอเอาไว้ในอ้อมแขน
เฮเลนเห็นเบลทริกซ์ยืนรัดคอเฮอร์ไมโอนี่ ซึ่งดูเหมือนจะหมดสติไปแล้ว
มือถือมีดเงินสั้นจ่อเอาไว้ที่คอหอยของเธอ
“ทิ้งไม้กายสิทธิ์” เธอกระซิบ “ทิ้งไป
หรือไม่งั้นเราก็จะได้เห็นกันว่าเลือดของหล่อนโสโครกจริงไหม!”
เฮเลนตัวแข็งทื่อ
เหลือบไปมองไม้กายสิทธิ์ที่เดรโกเป็นคนถือเอาไว้ มันมีทั้งไม้กายสิทธิ์ของเธอ
เฮอร์ไมโอนี่ รอน ไม้หักๆ ของแฮร์รี่
ไม้แบล็กทอร์นและไม้ของแท็คที่เฮเลนเคยยึดมาเมื่อครั้งก่อน
เธอดึงไม้ของตัวเองจากมือของเดรโก เขาสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้โวยวายอะไร ดวงตาคมกริบหันกลับไปจ้องเขม็งที่เบลาทริกซ์ดูเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
“ฉันบอกให้ทิ้งไม้!” เธอกรีดเสียง
กดใบมีดลงบนคอของเฮอร์ไมโอนี่
“ตกลง!”
แฮร์รี่ตะโกนแล้วทิ้งไม้ของเบลาทริกซ์ลงข้างเท้า
รอนทำเช่นเดียวกันกับไม้ของหางหนอน ทั้งสองยกมือขึ้นเสมอบ่า
“เอาไม้ไป” เดรโกหันมากระซิบแล้วส่งไม้กายสิทธิ์ทั้งหมดที่ถือมาให้เธอ
“เดี๋ยวฉันจะไปเอาไม้ของพวกนั้นมา เอาไปสิ!”
เดรโกผละออกจากเฮเลนแล้ววิ่งไปเก็บไม้ของทั้งสองที่อยู่บนพื้นขึ้นมาก่อนจะวิ่งกลับมายืนอยู่ตรงหน้าเธอเหมือนเดิม
แผลเป็นบนหน้าผากรู้สึกเจ็บปวดเหมือนจะระเบิก เธอรู้สึกได้ว่าโวลเดอมอร์กำลังบินข้ามฟ้ามาจากที่ไกลแสนไกล
ผ่านทะเลบ้าคลั่งและมืดมิด ในไม่ช้าเขาก็จะมาใกล้พอแล้วที่จะหายตัวมาที่นี่ได้
เฮเลนไม่เห็นหนทางที่จะหนีเลย
“เอาล่ะ” เบลาทริกซ์พูดเสียงนุ่มนวล
ขณะที่เดรโกเอื้อมมือมาจับมือของเฮเลนเอาไว้แน่น “ซิสซี่
ฉันคิดว่าเราต้องมัดเจ้าวีรบุรุษจิ๋วๆ
พวกนี้อีกครั้งระหว่างที่เกรย์แบ็กจัดการกับแม่สาวเลือดสีโคลน
ฉันแน่ใจว่าจอมมารจะไม่ว่าแกหรอกเรื่องแม่เด็กนี่ หลังจากความดีที่แกทำในคืนนี้”
เมื่อเธอพูดจบ
มีเสียงครืดคราดพิกลดังมาจากเบื้องบน ทุกคนแหงนขึ้นมองเห็นโคมระย้าสั่นไหว
ทันใดนั้นก็มีเสียงแตกร้าว เสียงสั่นกรุ๊งกริ๊งอย่างน่ากลัว
แล้วโคมระย้าก็ร่วงลงมา เบลาทริกซ์อยู่ใต้โคมพอดี
เธอปล่อยตัวเฮอร์ไมโอนี่และโผไปข้างๆ พร้อมกับกรีดร้องลั่น โคมระย้าตกลงกระแทกพื้นเสียงดังสนั่น
แก้วเจียระไนและสายโซ่ตกใส่เฮอร์ไมโอนี่และก๊อบลินซึ่งยังกอดดาบของกริฟฟินดอร์อยู่
เศษแก้วแวววาวกระจายเกลื่อนทุกทิศทุกทาง เดรโกหันหลังดึงเฮเลนหลบไปอยู่ข้างๆ
กับนาร์ซิสซาซึ่งอยู่ห่างจากเบลาทริกซ์ที่ยืนเกาะอยู่กับแท็ค
“หนีไปซะเดรโก” นาร์ซิสซากระซิบ “ไปซะ
ไปกับพวกเขา”
“แต่แม่... ผม...”
“ไปซะเดรโก” นาร์ซิซาย้ำ “เราจะต้องไม่เป็นไร”
ขณะที่รอนวิ่งไปฉุดมือเฮอร์ไมโอนี่ออกมาจากซากปรักหักพัง
แฮร์รี่ก็วิ่งมาจากฝั่งตรงข้ามเข้ามาที่ทั้งสามและดึงไม้กายสิทธิ์ทั้งหมดจากมือของเดรโกไป
– แต่เขาไม่เห็นไม้กายสิทธิ์ด้ามอื่นๆ ที่อยู่ในมือเฮเลน – จากนั้นเขาก็ชี้ไม้ไปที่เกรย์แบ็กและร้องว่า
สตูเปฟาย! เสียงดัง หนุษย์หมาป่าตัวลอยขึ้นด้วยแรงคาถาตรีคูณ
กระเด็นขึ้นไปปะทะเพดานแล้วหล่นลงมากระแทกพื้น
“ด๊อบบี้!” เบลาทริกซ์กรีดร้อง “แก! แกทิ้งโคมระย้าลงมา – ”
เอลฟ์ตัวกระจ้อยเดินเตาะแตะเข้ามาในห้อง
นิ้วสั่นๆ ชี้ไปที่อดีตนายหญิง
“คุณต้องไม่ทำร้ายแฝดพอตเตอร์”
มันพูดเสียงแหลม
“ฆ่ามัน ซิสซี่!” เบลาทริกซ์กรีดเสียง นาร์ซิสซายกไม้กายสิทธิ์ขึ้นมา
แต่มีเสียงเปรี้ยงดังขึ้นอีกครั้ง
แล้วไม้กายสิทธิ์ของนาร์ซิสซาก็เหินลอยไปตกที่อีกฟากของห้อง
“แก ไอ้ลิงขี้ประติ๋วโสโครก!” เบลาทริกซ์ร้องลั่น “แกกล้าดียังไงถึงเอาไม้กายสิทธิ์ของแม่มดไป
แกกล้าท้าทายเจ้านายของแก่เหรอ!”
“ด๊อบบี้ไม่มีเจ้านาย!” เอลฟ์ตอบเสียงแหลม “ด๊อบบี้เป็นเอลฟ์อิสระและด๊อบบี้มาช่วยแฝดพอตเตอร์กับพวกพ้องของเขา!”
แผลเป็นของเฮเลนเจ็บปวดรวดร้าวจนแทบมองอะไรไม่เห็น
ในท่ามกลางความมืดมัวและชุลมุนวุ่นวายนี้ เธอรู้ว่ามีเวลาเพียงไม่กี่นาที
ไม่กี่วินาทีก่อนที่โวลเดอมอร์จะมาถึง ร่างของครีเชอร์ปรากฏขึ้นใกล้ๆ กับด๊อบบี้ เอลฟ์ทั้งสองยืนจังก้าอยู่ที่หน้าประตูทางออก
“ไป เดรโก!” นาร์ซิสซาพูดลอดไรฟัน “ไป!”
เธอออกแรงผลักทั้งสองจนกระเด็นไปหาครีเชอร์
เฮเลนเห็นแฮร์รี่อุ้มก๊อบลินที่ยังคงกอดดาบขึ้นมาพาดบ่าเธอจึงไม่รอช้ากระชากตัวเดรโกวิ่งไปจับมือครีเชอร์เอาไว้ทันที
ขณะที่หมุนตัวเข้าไปในความมืดมิด
เธอเห็นภาพห้องนั่งเล่นเป็นครั้งสุดท้าย เห็นร่างซีดเผือดของนาร์ซิสซาและใบหน้าที่แสนเจ็บปวดและแสงสีเงินพร่ามัวที่บินหวือ
เธอไม่รู้ว่าจะต้องไปอยู่ที่ไหน ได้แต่หวังว่าการจับมือแน่นๆ คงเพียงพอที่จะพาเธอไปถึงจุดหมายปลายทาง
ความเจ็บปวดบนหน้าผากนั้นยังคงกรีดแทงลงมา
และแล้วทั้งหมดก็ลงมาอยู่บนพื้นโลกแข็งๆ เฮเลนได้กลิ่นเกลือลอยอยู่ในอากาศ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองตกโครมลงบนพื้นอย่างรุนแรง
เธอปล่อยมือครีเชอร์และกอดร่างของเดรโกเอาไว้แน่น
“เป็นยังไงบ้าง” เฮเลนกระซิบ “ปลอดภัยดีหรือเปล่า”
“ก็พอได้” เขากระซิบตอบเสียงแผ่ว “หวังว่าแม่คงไม่เป็นไร”
เฮเลนไม่ได้ตอบอะไร
เธอรู้ได้ทันทีว่าครีเชอร์พาพวกเขามาอยู่ที่กระท่อมเปลือกหอย ดวงตากลมเหลือบไปมองไม้กายสิทธิ์ที่ถืออยู่ในมือขวาพลางนับว่ามันยังอยู่ครบทุกอันหรือเปล่า
โชคดีที่มันยังอยู่ครบทุกอัน
“ด๊อบบี้!”
เฮเลนสะดุ้ง
เธอได้ยินเสียงของแฮร์รี่ตะโกนลั่น
เดรโกกับเธอลุกพรวดขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนแทบลืมความเจ็บปวด พวกเขาหันมองหาแฮร์รี่ในทันทีและพบว่าเจ้าของเสียงนั่งคุกเข่าอยู่ไม่ไกลนัก
เฮเลนลุกขึ้นและวิ่งเข้าไปหาแฮร์รี่ในทันที แฮร์รี่อุ้มด๊อบบี้เอาไว้แนบอก
ด้ามมีดสีเงินยื่นออกมาจากอกที่พองยุบขึ้นยุบลงของเอลฟ์
“ด๊อบบี้ อย่า อย่าตาย อย่าตายนะ – ”
แฮร์รี่พูดเสียงสั่น “ช่วยที เฮอร์ไมโอนี่ เฮเลน ใครก็ได้”
เฮเลนเม้มปาก พูดอะไรไม่ออกเลยแม้แต่คำเดียว
ของที่เคยอยู่ในกระเป๋าถูกพวกนักต้อนเก็บไปเกือบหมด ไม่ว่าจะเป็นหนังสือทองเกลเลียนที่มีอยู่เพียงน้อยนิด
สิ่งที่ยังอยู่กับเธอตอนนี้มีอยู่เพียงอย่างเดียวคือกระเป๋าลูกปัดของบิลที่เขาให้เธอมาเป็นของขวัญวันคริสมาสต์...
“ใช่แล้ว!” เฮเลนอุทานออกมาเสียงดังพร้อมกับขากางเกงขึ้นมา
เธอดึงกระเป๋าลูกปัดเล็กๆ ออกมาจากถุงเท้า “ฉันมีน้ำมันสกัดจากหนวดเมิร์ตแลปกับหัวสมุนไพรดิตทานีอยู่นี่!”
“อย่ามัวแต่ดีใจอยู่ได้ไหม!” แฮร์รี่ตวาด เฮเลนจึงรีบใช้มือข้างที่ว่างอยู่คว้าหัวสมุนไพรดิตทานีออกมาจากกระเป๋าลูกปัดทันที
ดวงตาของเอลฟ์มองฝาแฝดสลับกันไปมา ริมฝีปากของมันสั่นระริก
พยายามจะพูดออกมาให้เป็นคำ
“อดทนหน่อยนะด๊อบบี้”
เฮเลนพูดเสียงสั่น “เราจะไม่ปล่อยให้เธอตาย”
“พอต – ” ด๊อบบี้ส่งเสียงออกมาเบาๆ “—
เตอร์”
เฮเลนหยดน้ำยาลงไปที่อกของด๊อบบี้
แต่ไม่ว่าจะหยดแล้วหยดเล่าการทำงานของน้ำยาก็ดูเหมือนจะไม่สัมฤทธิ์ผล
“มันสายไปแล้วขอรับ”
ครีเชอร์เดินเข้ามาพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “ด๊อบบี้ ได้จากไปแล้ว”
เฮเลนมองร่างของเอลฟ์ที่สั่นน้อยๆ
แล้วก็แน่นิ่งไป ดวงตาของมันไม่ฉายแววอื่นใด เป็นเหมือนดังลูกแก้วใสลูกโต
สะท้อนแสงจากดวงดาวซึ่งมันไม่อาจมองเห็นได้
ราวกับจมดิ่งลงไปในฝันร้ายเรื่องเดิม
ชั่วขณะหนึ่งภาพของดัมเบิลดอร์ร่วงลงไปจากหอคอยผุดขึ้นมาในหัวอีกครั้ง
ร่างที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นหญ้าสีเขียวบนฐานหอคอยที่สูงที่สุดในฮอกวอตส์
แต่ความเป็นจริงเธอแค่กำลังมองดูร่างเล็กๆ ขดตัวอยู่ในอ้อมกอดของแฮร์รี่ที่ถูกแทงด้วยมีดสั้นสีเงินของเบลาทริกซ์
แฮร์รี่ยังคงร้องเรียกเอลฟ์ทั้งที่รู้ว่ามันได้จากไปแล้ว
ไปสู่สถานที่ที่เราไม่อาจได้กลับคืนมา
เดรโกเดินเข้ามาหาเฮเลนจากทางด้านหลัง
เขาดึงร่างบางเข้ามาสวมกอดและดึงใบหน้าให้ซุกลงไปบนแผงอกกว้าง
เฮเลนปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาจากดวงตาทั้งสองข้างอย่างไม่อาจกลั้น
การร้องไห้ครั้งนี้ราวกับกำลังปลดปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างที่แบกรับเอาไว้ออกมา
เสียงสะอื้นดังก้องไปโดยรอบ
หลังจากนั้นอึดใจหนึ่ง
เฮเลนจึงรู้ตัวว่าตอนนี้บิล เฟลอร์
ดีนและลูน่ายืนล้อมรอบพวกเขาอยู่ขณะที่ทั้งสามร่างยังคุกเข่าอยู่ข้างเอลฟ์
“เฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่พูดขึ้น “เธออยู่ไหน”
“รอนพาเข้าไปข้างในแล้ว” บิลตอบ “เธอไม่เป็นไรหรอก”
เฮเลนผละออกจากเดรโก
หันไปมองด๊อบบี้อีกครั้ง แฮร์รี่ดึงมีดออกจากร่างของเอลฟ์แล้ว
เขาถอดเสื้อแจ็กเกตออกและคลุมร่างด๊อบบี้ราวกับเป็นผ้าห่ม
ดีนอุ้มก๊อบลินที่บาดเจ็บเข้าไปในบ้าน เฟลอร์รีบเร่งตามไป
พวกเขาพูดคุยเรื่องอะไรสักอย่างกับเดรโกที่เฮเลนไม่ได้ฟังเลย
ส่วนหนึ่งในใจเฮเลนเห็นโวลเดอมอร์กำลังลงโทษพวกคนที่คฤหาสน์มัลฟอย
โทสะของเขาช่างรุนแรงร้ายกาจ เธอรู้สึกเป็นห่วงนาร์ซิสซาขึ้นมาจับใจ
แต่ความเศร้าโศกที่มีต่อด๊อบบี้ก็ทำให้มันเหมือนเป็นสิ่งที่อยู่ไกลจนไม่อาจจะรู้สึกอันใดไปมากกว่าแค่เป็นห่วง
“ผมอยากฝังเขาเอง” แฮร์รี่พูดขึ้น “ผมไม่อยากใช้เวทมนตร์
คุณมีเสียมไหมครับ”
เดรโกพาเฮเลนกลับมาพักที่กระท่อมเปลือกหอยและออกไปช่วยแฮร์รี่ขุดหลุมฝังด๊อบบี้
เขาบอกกับเธอว่าอย่างน้อยเอลฟ์ก็เป็นผู้ที่ดูแลเขามาตั้งแต่วัยเด็กถึงแม้ว่ามันจะเป็นไทไปเมื่อหลายปีก่อน
แต่เขาก็เสียใจที่มันถูกเบลาทริกซ์ฆ่าตาย
นอกจากนั้นเดรโกก็ยังนึกขอบคุณที่ครั้งหนึ่งอย่างน้อยด๊อบบี้ก็ช่วยสืบความลับให้กับพวกเขา
แผลเป็นยังคงแสบร้อน
ตอนนี้โวลเดอมอร์ไม่อาจเข้าควบคุมเธอได้และเธอก็ไม่สามารถเข้าถึงเขาได้เช่นกัน เมื่อใดที่เธอรู้สึกเศร้าโศก
ความคิดของโวลเดอมอร์ก็ไม่อาจสอดแทรกเข้ามาถึงใจเธอได้ แต่บางทีถ้าดัมเบิลดอร์ยังอยู่
เขาก็คงจะพูดว่ามันคือ ความรัก
เฮเลนเอนตัวลงบนโซฟาตัวเดิมที่เธอเคยนอนเล่นเมื่อตอนคริสมาสต์
เสียงของเฟลอร์บนชั้นสองและเสียงรอนกับบิลพูดคุยกันดังแข่งกับเสียงคลื่น
เหตุการณ์ต่างๆ ที่คฤหาสน์มัลฟอยหวงกลับมาแล้วเธอก็เริ่มทำความเข้าใจมัน
แผลเป็นปวดแสบปวดร้อนมากขึ้น แต่เฮเลนไม่ได้สนใจว่ามันจะเจ็บสักแค่ไหน
เธอทำเพียงแค่หลับตาและทบทวน โวลเดอมอร์ไปที่นูร์เมนการ์ดและเขาฆ่ากรินเดลวัลด์
ฆ่าเพราะเขาไม่ได้รับคำตอบที่ต้องการ
เสียงเด็กร้องดังอื้ออึงในห้องมืดๆ
มีเพียงแสงสว่างส่องลงมาประปราย ให้พอแค่ได้เห็น เขากำลังยืนยิ้มอยู่หน้าเปลเด็ก เฮเลนได้ยินหัวเราะอย่างบ้าคลั่งดังก้องอยู่ในหู
รู้สึกเหมือนว่าเขา มีความสุขอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มันเป็นความร่าเริง
ปลื้มปิติ ยินดีราวกับได้รับชัยชนะ มันมหัศจรรย์ เป็นสิ่งวิเศษที่กำลังเคยเกิดขึ้น
‘เดลฟินี่’ เขาพูด ‘เด็กคนนี้จะต้องมีชื่อที่สมกับสายเลือดของเธอ
เดลฟินี่ เลสแตรงจ์ นั่นคือชื่อของเธอ’
เฮือก! เฮเลนสะดุ้งตื่นขึ้นและพบว่าท้องฟ้าทางด้านนอกเริ่มสว่างขึ้นมาแล้ว
เธอจำไม่ได้ว่าตนเองเผลอหลับไปตอนไหน
เธอมองเห็นรอนและดีนเดินออกไปข้างนอกกระท่อมเพื่อไปสมทบกับเดรโกและแฮร์รี่
ร่างบางลุกขึ้นจากโซฟาเพื่อเดินไปล้างหน้าที่อ่างล้างมือในห้องครัวสมองคิดทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นในความฝันไปพลาง
เฮอร์ไมโอนี่ลงมาจากชั้นสองโดยสวมเสื้อคลุมอาบน้ำที่ขอยืมมา
เฮเลนเข้าไปประคองเธอเอาไว้เพราะดูเหมือนเธอจะยืนได้ไม่มั่นคงนัก
เฟลอร์คาดผ้ากันเปื้อนสีขาวเดินตามลงมา
คาดว่ากำลังจะลงมาทำอาหารเช้าตามด้วยบิลที่สวมเสื้อคลุมเดินทาง
ลูน่าเดินลงมาเป็นคนสุดท้าย ทั้งห้าคนตัดสินใจที่จะออกไปหาแฮร์รี่ข้างนอกนั่นพร้อมกัน
เธอเดินไปหาพวกเขาอย่างเงียบเชียบพร้อมกับคนอื่นๆ
ที่เดินตามหลังมา เฮเลนเห็นแฮร์รี่ห่อร่างของเอลฟ์ด้วยเสื้อแจ็กเก็ตของเขา
รอนนั่งลงที่ขอบหลุม ถอดถุงเท้าและสวมให้กับมัน ดีนหยิบหมวกขนสัตว์ออกมา
แฮร์รี่วางมันลงบนหัวของเอลฟ์อย่างเบามือ จัดให้คลุมหูที่เหมือนหูค้างคาว เดรโกดึงผ้าพันคอผืนบางออกมาจากเสื้อนอก
แฮร์รี่พันมันเอาไว้รอบคอของเอลฟ์
“เราควรปิดตาเขาด้วยนะ”
เฮเลนเอ่ยขึ้นทำให้ทั้งหมดหันหน้ามา
เฮอร์ไมโอนี่เดินเข้าไปหารอน ลูน่าเดินเข้าไปตรงนั้นและคุกเข่าลงวางนิ้วลงบนเปลือกตาแต่ละข้างของเอลฟ์อย่างอ่อนโยน
เลื่อนมันปิดทับดวงตาใสแจ๋วที่ว่างเปล่า
“นี่แหละ” ลูน่าพูด “ครั้งนี้เขาก็จะได้หลับสนิท”
แฮร์รี่ทอดร่างของเอลฟ์ลงไปในหลุมศพ
จัดวางแขนขาเล็กน้อยให้เหมือนกับว่ามันกำลังพักผ่อน จากนั้นเขาจึงปีนกลับขึ้นมามองดูร่างนั้นเป็นครั้งสุดท้ายพร้อมกับทุกคน
เดรโกเดินเข้ามาโอบกอดเฮเลนเอาไว้ เธอคิดถึงดัมเบิลดอร์
เธอไม่ได้แม้แต่จะไปร่วมงานศพของเขาเสียด้วยซ้ำ
“ฉันว่าเราควรกล่าวอะไรสักหน่อย”
ลูน่าส่งเสียงขึ้นมา “ฉันขอพูดเป็นคนแรกนะ”
และในขณะที่ทุกคนมองเธอ
ลูน่าก็เริ่มพูดกับศพเอลฟ์ที่นอนอยู้ก้นหลุม
“ขอบคุณมากๆ
ด๊อบบี้ที่ช่วยฉันออกมาจากห้องใต้ดินนั้น ไม่ยุติธรรมเลยที่คุณต้องตาย
เพราะคุณเป็นคนดีและกล้าหาญมากๆ ฉันจะจดจำไว้เสมอว่าคุณได้ตายเพื่อพวกเรา ฉันหวังว่าเวลานี้คุณคงมีความสุขแล้ว”
เธอหันหน้ามามองรอน
หวังว่าเขาจะพูดเป็นคนต่อไป รอนกระแอม แล้วพูดออกมาเป็นเสียงอู้อี้
“ขอบคุณมากด๊อบบี้”
“ขอบคุณ” ดีนพึมพำ
แฮร์รี่กลืนน้ำลายเสียงดังแล้วพูดว่า
“ลาก่อนด๊อบบี้”
“ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง” เดรโกพูด
“ลาก่อน” เฮเลนพึมพำ บิลชูไม้กายสิทธิ์ขึ้น กองดินข้างหลุมลอยขึ้นในอากาศแล้วตกลงกลบหลุมจนกลายเป็นเนินเล็กๆ สีน้ำตาลแดง
จากนั้นทุกคนก็เดินกลับไปกระท่อม
เหลือเพียงแฮร์รี่ เฮเลนและเดรโกเท่านั้นที่ยังคงอยู่ เฮเลนรู้สึกคุ้นเคยราวกับว่าเคยสัมผัสกับการตายแบบนี้มาก่อนแล้ว
แฮร์รี่กับเดรโกเดินไปหยิบก้อนหินก้อนใหญ่ที่ถูกน้ำทะเลกัดจนเกลี้ยงเกลามาวางเหนือศีรษะของด๊อบบี้ราวกับเป็นหมอน
จากนั้นเขาก็ล้วงเอาไม้กายสิทธิ์ออกมาจากในกระเป๋า
“นั่นไม้ของฉันนี่” เดรโกพูด
“นายจะเอาคืนไปไหมล่ะ”
แฮร์รี่ถามเสียงเรียบ
“เฮเลนบอกว่านายไม่มีไม้กายสิทธิ์ไม่ใช่เหรอ”
เขาว่า “ใช้เจ้านั่นไปก่อนก็ได้ ส่วนฉันจะใช้อีกอันหนึ่ง”
“นายมีเหรอ”
แฮร์รี่เลิกคิ้วมองใบหน้าเดรโกเล็กน้อย
“มี” เฮเลนตอบ “ไม้กายสิทธิ์ที่เราชิงมาจากแท็คตอนที่ฉันถูกขังอยู่ที่คฤหาสน์
เดรโกเอาไม้กายสิทธิ์ที่พวกนักต้อนให้ซิสซี่... เอ่อ นาร์ซิสซามาไว้ที่ฉันน่ะ”
แฮร์รี่พนักหน้าเล็กน้อย
เขาใช้ไม้ของเดรโกชี้ไปที่ก้อนหิน พึมพำคำสั่ง
แล้วรอยเซาะลึกก็ปรากฏขึ้นบนหน้าหินอย่างช้าๆ
เฮเลนคิดว่าตนเองน่าจะทำได้เรียบร้อยกว่านี้แต่ถ้าหากให้แฮร์รี่จารึกมันด้วยตัวเองเขาคงจะรู้สึกดีมากกว่า
เหมือนที่เขาอยากขุดหลุมศพฝังเอลฟ์ด้วยตัวเองนั่นล่ะ
นี่คือที่พำนักของด๊อบบี้
เอลฟ์ผู้เป็นไท
พวกเขามองป้ายอยู่อึดใจหนึ่ง
จากนั้นก็เดินกลับไปที่กระท่อม แผลเป็นบนหน้าผากยังคงเจ็บแปลบๆ
ในใจเต็มไปด้วยสิ่งที่คิดและความฝันที่เพิ่งจะฝันถึงเมื่อสักครู่
ความคิดที่เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาในความมืด ความคิดที่ทั้งน่าอัศจรรย์และน่าสะพรึงกลัว
คนอื่นๆ
นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นตอนที่ทั้งสามเดินไปถึงบ้าน
บิลกำลังพูดอะไรบางอย่างและทุกคนก็ฟังกันอย่างตั้งใจ
กองไฟลุกโชติช่วงอยู่ในเตาผิงพวกเขาเดินไปรวมด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน
“โชคดีที่จินนี่กลับมาบ้านช่วงวันหยุดพอดี
ถ้ายังอยู่ที่ฮอกวอตส์ ฉันว่าคงโดนจับไปแล้ว ตอนนี้ก็เป็นอันว่าเธอปลอดภัยดี”
บิลบอก “ฉันเพิ่งพาทุกคนย้ายออกจากบ้านโพรงกระต่ายไปอยู่บ้านคุณยายมิวเรียล
พวกผู้เสพความตายรู้แล้วว่าตอนนี้รอนอยู่กับพวกเธอ พวกมันเล็งเป้าไปที่คอบครัวแน่นอน
– ไม่ต้องขอโทษหรอก” เขาเสริมเมื่อสีหน้าของเฮเลนและแฮร์รี่เปลี่ยนไปไม่ดีนัก “มันต้องเป็นแบบนี้ไม่ช้าก็เร็ว
พ่อบอกมาตั้งหลายเดือนแล้ว เราเป็นครอบครัวทรยศต่อเลือดที่ใหญ่ที่สุด”
“แล้วมีอะไรคุ้มครองพวกเขาบ้างครับ”
แฮร์รี่ถาม
“คาถาฟิเดลลิอัส
พ่อเป็นผู้รักษาความลับเอง แล้วเราก็เสกคาถาคุ้มครองกระท่อมนี้ด้วย
ฉันเลยเป็นผู้รักษาความลับที่นี่ ตอนนี้ไม่มีใครไปทำงานกันแล้ว
แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุดแล้วล่ะ เดี๋ยวโอลลิแวนเดอร์กับกริ๊บฮุก อาการดีขึ้นเมื่อไหร่
ก็จะพาไปอยู่บ้านคุณยายมิวเรียลเหมือนกัน
บ้านนี้ที่ทางไม่กว้างพอแต่บ้านคุณยายมีที่เหลือแหล่ ขาของกริ๊บฮุกค่อยยังชั่วแล้ว
เฟลอร์ให้กินยาปลูกกระดูกใหม่ เดี๋ยวอีกชั่วโมงคงจะย้ายได้ หรือ – ”
“อย่าครับ” แฮร์รี่พูด
ทำให้บิลสะดุ้ง “ผมยังอยากให้ทั้งสองคนอยู่ที่นี่ ผมจำเป็นต้องพูดกับพวกเขา
เฮเลนด้วย มันสำคัญมาก”
เฮเลนได้ยินเสียงแห่งอำนาจดังออกมาจากปากแฮร์รี่
เธอกลืนน้ำลายลงคอเบาๆ
“เราอยากพบพวกเขาทันทีเลยค่ะ”
เธอบอก
แผลเป็นยังคงเจ็บแปลบ
เธอรู้ว่าโวลเดอมอร์กำลังจะไปที่ไหนสักแห่ง เธอยังไม่รู้และยังไม่เข้าใจ
แต่สัญชาตญาณบอกให้เธอทำตามเขาไป ทำตามพี่ชายฝาแฝดอย่างแฮร์รี่ พอตเตอร์
ขณะนั้นเองแผลเป็นก็เต้นตุ้บๆ อย่างกราดเกรี้ยว
โครงร่างของอาคารที่เธอไม่เคยเห็นแว้บเข้ามาในใจอย่างรวดเร็ว
“ไม่ได้หรอกนะ” เฟลอร์พูด “เธอต้องคอยก่อน
พวกเขาเจ็บมาก – ”
“ผมขอโทษ” แฮร์รี่พูดนิ่งๆ “แต่เรารอไม่ได้ครับ
เราต้องพูดกับพวกเขาตอนนี้ – ทีละคน เป็นเรื่องเร่งด่วนมาก”
“พอตเตอร์ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน”
บิลถาม “พวกเธอโผล่มาที่นี่พร้อมกับศพเอลฟ์ประจำบ้านแล้วก็ก๊อบลินที่เกือบหมดสติ พวกเธอพาเดรโก มัลฟอยมาด้วย เฮอร์ไมโอนี่ก็เหมือนถูกทรมานมา แล้วรอนก็ไม่ยอมบอกอะไรฉันเลยสักอย่าง – ”
“เราบอกคุณไม่ได้ว่าเราทำอะไรกันอยู่
บิล” เฮเลนพูด “คุณเองก็อยู่ในภาคี คุณรู้ว่าดัมเบิลดอร์ทิ้งอะไรไว้ให้พวกเราทำ
เราต้องไม่พูดเรื่องนี้กับใครทั้งนั้น”
เฟลอร์ทำเสียงรำคาญใจ
แต่บิลไม่ได้มองเธอ เขาจ้องมองฝาแฝดสลับกันไปมา
ใบหน้าที่มีรอยแผลนั้นยากที่จะอ่านได้ ในที่สุดบิลก็พูดว่า “ตกลง
พวกเธออยากพูดกับใครก่อนล่ะ”
เฮเลนเห็นแฮร์รี่ลังเล
นาทีนี้เธอรู้ว่าเขาต้องตัดสินใจระหว่าสองสิ่ง ฮอร์ครักซ์หรือเครื่องราง
“กริ๊บฮุกครับ” แฮร์รี่พูด “ผมจะพูดกับกริ๊บฮุกก่อน”
“ถ้างั้นก็ตามมาสิ”
บิลลุกขึ้นยืนและเดินนำทางพวกเขาไป
ติดตามตอนต่อไป...
เนื่องจากไรท์ถอดตัวเองออกมาจากการประกวด ปั้นหมึกคอนเทส เป็นที่เรียบร้อยแล้ว (ถอดตัวเอง ไม่รอให้ใครมาถอดด้วย 5555) ก็เลยเอามาวางลงใน raw เด็กดี fictionlog และ ธัญวลัย ในรูปแบบที่ติดเหรียญ แม้อาจจะไม่มีใครเข้ามาอ่าน 555555555555555555555 (ร้องไห้หนักมาก)
แต่ถ้าหากนักอ่านท่านใดสะดวกที่จะเข้าไปอ่านและติดตามผลงาน Ori ของไรท์เบลอๆ คนนี้ก็ติดตามได้ทางช่องทางนี้จ้า
ขอขอบพระคุณล่วงหน้างับ ♥
ชื่อเรื่อง : Time reverse ฉีกกฏเวลา ย้อนกลับมารัก
เรื่องราวของสาวน้อยที่เกิดใหม่หลายรอบจนพระเจ้าเหนื่อยใจ รอบนี้ย้อนเวลาให้อีกรอบก็เลยให้จำได้ซะเลยว่าตัวเองทำตัวแบบไหนมาแล้วถึงได้ตายซ้ำตายซาก แล้วมันก็ถึงเวลาแล้วที่จะต้องแก้ไขทุกอย่างและทำให้ทั้งคู่ได้รักกันสักที! เฮ้อ! พระเจ้าก็เหนื่อยเป็น (เอเดน ♥ ของขวัญ)
RAW >> https://www.readawrite.com/a/b73379daf113540832d8649bb4c89fd2
Dek - D >> https://writer.dek-d.com/dekdee/writer/view.php?id=2280680
Thanwalai >> https://www.tunwalai.com/v2/story/603542
Fiction log >> https://fictionlog.co/b/61ba150b3e481a001ccc3414
และ
ชื่อเรื่อง : Protective H! ภารกิจลับ ฉบับยัยตัวร้าย
เรื่องของเจ้าเด็กอวดดีที่วันๆ เอาแต่คิดว่าตัวเองอยากจะได้อิสระในชีวิต จนลืมไปว่าก็ต้องใช้ชีวิตให้มันปลอดภัยด้วย ทำให้พ่อแม่ต้องหาบอดี้การ์ดส่วนตัวมาให้ แต่ไม่ได้หามาให้แบบให้รู้นะ บอดี้การ์ดนอกเครื่องแบบไปอีก! ทำไมต้องทำตัวให้มันมีปัญหามากขนาดนั้นด้วยนะ! (เฮอร์วิน ♥ วัตสัน)
RAW >> https://www.readawrite.com/a/4b182a370f1a804e0984381bbf124cc5
Dek - D >> https://writer.dek-d.com/dekdee/writer/view.php?id=2280855
Thanwalai >> https://www.tunwalai.com/v2/story/610542?rc=2
Fiction log >> https://fictionlog.co/b/61b72c4af17a2b001d610d2a
ปล. ช่วงนี้จะขายนิยายเก่งหน่อย อดทนนิดนึงนะคะ 5555555555555555555555
ความคิดเห็น