คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : [SF] Say hi my dog - Krisyeol (6)
SAY HI MY DOG
rate : PG-15
author : @__Jyjcy
tag on twt : #ซฮมด
หลังจากออกมาจากร้านไอศกรีมคริสดูวิติกกังวลอย่างเห็นได้ชัด หลายครั้งที่ชานยอลเรียกชื่อเขาแต่เขากลับได้แต่ขมวดคิ้วอย่างครุ่นคริดและไม่ตอบโต้อะไร เมื่อกลับถึงหอ คริสก็ขอตัวไปนอนก่อน เขาไม่อยากคิดให้ปวดหัวไปมากกว่านี้ ไม่อยากจะมองร่างกายของตนที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป เขากลัวไปหมด กลัวแม้จะบอกความผิดปกติของเขาให้ชานยอลฟัง
“ ไม่สบายรึเปล่า ” ชานยอลรั้งแขนอีกคนไว้ก่อนจะยกมือเรียวแนบหน้าผากอีกคนอย่างเป็นห่วง
“ ผมสบายดี ” คริสฝืนยิ้มทั้งที่ในใจกลับไม่ได้รู้สึกแบบนั้น เขากำลังไม่สบายใจอย่างหนัก มือหนาคว้าเอวชานยอลเข้ากอดแน่นแล้วเกยคางบนไหล่อีกคน
“ ผมรักคุณ ”
“ …… ”
“ อย่างที่ไม่เคยรักใคร ”
ชานยอลเผยยิ้มกว้างก่อนจะยกมือขึ้นกอดอีกคนแน่น ผิดกับคริสในตอนนี้ที่น้ำตาของเขากำลังเอ่อล้น ขอกอดแบบนี้อีกซักพักจนกว่าน้ำตาจะเหือดหายไป ไม่อยากให้ชานยอลเห็นเขาร้องไห้ ไม่อยากให้ชานยอลเจ็บปวด ไม่อยากให้ชานยอลรับรู้บางอย่างที่กำลังเกิดขึ้น
พระเจ้ากำลังเล่นตลกอะไรกับผมอยู่ …
เมื่อตกดึกคริสแอบออกไปเปิดแง้มประตูหอไว้อย่างคาดเดาเหตุการณ์ข้างหน้าออกก่อนจะกลับมาห้องนอนดังเดิม ร่างทั้งสองกอดก่ายกันอย่างอบอุ่นเช่นทุกวัน หากความรู้สึกภายในหัวใจกลับต่างกัน คนหนึ่งหลับไปพร้อมกับรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความสุข ขณะที่อีกคนหนึ่งหลับไปพร้อมกับความคิดมากมายวนเวียนอยู่ในหัว คนหนึ่งที่คิดว่ามันคือการเริ่มต้นและคนหนึ่งที่คิดว่ามันคือการบอกลา
ฝันถึงฉันด้วยนะหมาหื่นขี้หวง
ฝันดีในทุกๆ คืนนะชานยอล
จมูกโด่งได้รูปกดลงบนหน้าผากมนอย่างอ่อนโยนก่อนจะเลื่อนริมฝีปากบางมาดูดดึงริมฝีปากอวบอิ่มเบาๆ น้ำตาใสไหลอาบแก้ม เขากระชับกอดอีกคนแน่นกว่าที่เคยและนี่คงเป็นครั้งสุดท้าย
สิ่งที่คริสคาดเดามันถูกต้องเสมอ ในคืนที่ชานยอลหลับใหลกลับกลายเป็นคืนที่คริสต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับมา ร่างกายของเขาแปรเปลี่ยนเป็นสุนัขโกลเด้นตัวโต แขนขาที่ยาวเหยียดจนแทบจะเกินปลายเตียงกลับหดเล็กและถูกปกคลุมไปด้วยขนสีทองหนา ใบหน้าหล่อคมดังรูปปั้นค่อยๆ กลับกลายเป็นสัตว์หน้าขนดังเดิม คริสคลานออกมาจากผ้าห่มผืนหนาผืนเดียวกับชานยอล นั่งจ้องใบหน้าเจ้านายอันเป็นที่แรกอย่างโหยหา ภาพเก่าๆ ตั้งแต่วันแรกปรากฎเด่นชัดเหมือนเทปที่ถูกกรอซ้ำไปซ้ำมา แม้ว่าเขาจะรักชานยอลมากขนาดไหน แต่สิ่งที่เป็นอยู่มันไม่สามารถทำให้รักของคนสองคนดำเนินต่อไปได้ ไม่มีมือที่จะคอยโอบกอดให้ชานยอลอบอุ่น ไม่มีเสียงที่คอยบอกรักชานยอลให้หายเหนื่อย ไม่มีแม้สัมผัสของคนรักที่สามารถหยิบยื่นให้กันได้ หมดเวลาของเขาแล้ว พระเจ้าคงลงโทษที่เขาฝืนธรรมชาติ แต่หากมองอีกมุม เขาคิดว่ามันคือพรวิเศษที่ทำให้เขาได้รักใครสักคน ไม่รู้จะอยู่ต่อไปให้ชานยอลเจ็บปวดทำไม หากตื่นขึ้นมาพบว่าเขากลายเป็นสุนัขแบบนี้คงจะแย่ยิ่งกว่าเขาหายตัวไป
ลาก่อนที่รักของผม …
.
.
.
แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างบานใหญ่ ชานยอลลุกขึ้นนั่งเหยียดแขนขายาวเพื่อกำจัดความขี้เกียจออก เมื่อมองไปยังที่นอนข้างๆ กลับว่างเปล่า น่าแปลกใจที่วันนี้คริสตื่นเร็วกว่าเขา
“ คริส คริส ” ชานยอลตะโกนเรียกชื่อคนรักพลางเปิดประตูห้องน้ำออกแต่ก็ว่างเปล่า เขาเดินไปห้องนั่งเล่น ห้องครัว นอกระเบียงก็ไม่มีวี่แวว หัวใจชานยอลเต้นรัวอีกครั้งด้วยความหวาดหวั่น คริสหายไปไหนกัน ชานยอลพยายามหาเหตุผลดีๆ ปลอบใจตัวเองแต่ก็ห้ามปรามความคิดที่เลวร้ายนั่นไม่ได้ เมื่อเหลือบตามองประตูที่เชื่อมระหว่างทางเดินส่วมรวมกับห้องของเขาที่แง้มไว้ก็รีบคว้าเสื้อคลุมสีเทาและวิ่งออกไปตามหาอีกคนให้เร็วที่สุด ทั้งดาดฟ้า สวนหย่อมด้านข้างหน้าหอ ชั้นหนึ่ง ชั้นสอง ชั้นสามและทุกๆ ชั้นกลับไม่พบ ชานยอลพยายามตั้งสติหาเรื่องดีๆ เข้ามาในหัวแต่กลับทำไม่ได้ อยากจะคิดว่าคริสหายไปซื้อของข้างนอกแต่ก็ดูเป็นเหตุผลที่ไม่เพียงพอ เพราะคริสไม่เคยหายไปโดยไม่บอกกล่าวเขาเลยสักครั้ง เหงื่อเม็ดใสผุดไหลด้วยความเหนื่อยหอบพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อล้นเต็มสองข้างเมื่อกระพริบเพียงครั้งก็หยดไหลอาบแก้มใส
“ นายอยู่ไหน กล้าทิ้งเจ้านายแบบนี้ได้ยังไง ”
ชานยอลกลับขึ้นห้องของตนเพื่อตั้งหลักใหม่ เขาวางก้นลงบนเตียงสีขาวสะอาด ยกมือขึ้นปาดเหงื่อและน้ำตาของตนออก เมื่อก้มตาลงต่ำกลับพบบางอย่างกระจายอยู่เต็มเตียง ขนสีทองสะส้อนแสงเมื่อแสงแดดยามสายสาดส่องมากระทบ มันทำให้หัวใจของเขาสั่นไหวและเจ็บปวดยิ่งกว่าเดิม คำถามเก่าที่ฝังไว้มานานถูกขุดขึ้นอีกครั้ง
ร่างโปร่งคว้าเสื้อแขนยาวตัวเดินก่อนจะขึ้นรถบัสตรงไปยังสถานที่ที่คริสและเขาเคยไป ทั้งสวนสาธารณะริมแม่น้ำฮัน ห้าง ศูนย์การค้า ถนนหนทางกลับไร้วี่แวว ชานยอลหยุดร่างกายที่เหนื่อยล้าไว้บนเก้าอี้ตัวยาวที่คุ้นเคยซึ่งตั้งไว้อยู่ใกล้กับร้านไอศกรีมในสวนสาธารณะ
“ ห้ามทำแบบนี้อีกนะ ”
“ หืม ”
“ ห้ามเลียคนอื่นแบบนี้ ”
“ มนุษย์เลียกันไม่ได้เหรอ ”
น้ำตาของเขาไหลไม่หยุด ยิ่งนึกถึงภาพเก่าในที่ที่นี้หัวใจกลับยิ่งเจ็บปวด ไม่ว่าคริสจะอยู่ในร่างไหนเขาก็ยินดีจะอยู่เคียงข้างคริสเสมอ แค่ได้กอดก็มีความสุขมากแล้ว ทำไมคริสทิ้งเขาไปแบบนี้แม้แต่คำบอกลาสักคำยังไม่มี …
ตอนนี้ชานยอลหมดหนทางแล้ว ไม่รู้จะเริ่มต้นหาคริสอีกครั้งได้ที่ไหนอีก เขาได้แต่นั่งคิดเรื่องราวเก่าๆ ราวกับว่าจะย้อนเวลากลับไปได้ ขณะนั้นสุนัขโกลเด้นตัวโตเดินมานั่งจ้องหน้าชานยอล แลบลิ้นอย่างน่าเอ็นดู
คริส !
ชานยอลเบิกตาโตก่อนจะกระโจนเข้าไปกอดไว้อย่างแนบแน่นก่อนที่เสียงตะโกนของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น
“ บิ๊ก ! กลับบ้าน ”
“ โฮ่งๆๆ ! ” สุนัขตัวโตเห่าเป็นสัญญาณตอบรับแล้วผละตัวเองออกจากอ้อมกอดของคนแปลกหน้า มันวิ่งตรงไปหาเจ้าของที่แท้จริง ชานยอลถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อรู้ว่ามันไม่ใช่คริส ตอนนี้เขาแทบจะเป็นบ้าแล้วจริงๆ ชีวิตก่อนหน้านี้ที่ไม่มีคริส เขาอยู่ได้อย่างไม่มีปัญหา แต่ทำไมเวลาแบบนี้กลับหมดแรง ไม่เป็นอันทำอะไรทั้งที่วันนี้เขามีเรียนกลับต้องมาตามหาคริสจนเหนื่อยหอบ ร่างโปร่งเดินไปตามทางเดินที่ถูกปูด้วยแผ่นปูนสีสวยเหมือนร่างที่ไร้วิญญาณ น้ำตายังคงไหลไม่หยุด ทางข้างหน้าช่างพร่ามัว เขาแทบจะทรุดนั่งตรงนี้ให้ได้ เหนื่อยทั้งกายและใจ เจ็บปวดจนอยากจะดึงหัวใจของตนเองโยนทิ้งแม่น้ำฮันเสียให้สิ้นเรื่อง
“ นายทำอะไรอยู่ ฉันกำลังร้องไห้ เพราะนาย … ”
เอี้ยดดดดดดดดดดดดด ! ปังงงงงงงงงงงงงงงง !
เสียงรถเบรกดังขึ้นตามมาด้วยเสียงรถชนเข้าอย่างจังจนชานยอลต้องหันไปมอง ภาพข้างหน้าคือรถยนต์คันหรูที่ชนเข้ากับรถกระบะอีกเลนที่สวนมา ผู้คนเริ่มมามุงดูพร้อมกับเสียงตะโกนลั่นของหญิงวัยกลางคน “ หมาโดนชน ! ”
ทันเท่าความคิด ชานยอลวิ่งไปจุดเกิดเหตุให้เร็วที่สุด จะบอกว่าเขาบ้าไปแล้วก็พูดได้ ไม่ว่าใครจูดถึงสุนัขอะไร เจอสุนัขพันธุ์โกลเด้นที่ไหนเขาก็แทบจะไปหาในทันทีเช่นเดียวกับตอนนี้ เขาแหวกผ่าฝูงคนที่มุงดูก็พบร่างของสุนัขขนสีทองที่คุ้ยตานอนจมกองเลือด หายใจอย่างหมดแรง ดวงตาดำกรอกมองมาที่ชานยอล ห้วงนาทีนั้นช่างผ่านไปอย่างเชื่องช้า ชานยอลรวบรวมสติก่อนจะวิ่งเข้าไปกอดสุนัขที่นอนแน่นิ่ง
เป็นคริสแน่ๆ เขาจำสายตาคู่นั้นได้ดี
“ คริส ทำไมเป็นแบบนี้ … ฮึก” น้ำตาไหลเป็นสายด้วยความเจ็บปวด อยากจะเป็นอีกครั้งที่เขาจำผิด แต่ครั้งนี้ไม่ผิดแน่นอน
“ ได้โปรด ฮึก … คริส อย่าทิ้งฉันไป ได้โปรด ” ชานยอลยกร่างที่เต็มไปด้วยแผงขนสีทองและเลือดสีแดงสด ตาดำของคริสค่อยๆ ปิดลงช้าๆ ด้วยความทรมาน เขาไม่อยากเห็นชานยอลร้องไห้แบบนี้ เขาไม่อยากทิ้งชานยอลไป แต่ร่างกายที่อ่อนแอนี้มันพร้อมจะหมดลมหายใจลงแล้ว อวัยวะทุกส่วนบอบช้ำและเจ็บปวดแต่คงไม่เท่ากับหัวใจที่ได้แต่กรีดร้องหาคนตรงหน้า เขาไม่มีกล่องเสียง ไม่มีปากเหมือนมนุษย์อีกแล้ว หากประโยคสุดท้ายที่เด่นชัดในหัวของเขาตอนนี้
ผมรักคุณ …
…
หัวใจดวงเล็กหยุดเต้นพร้อมกับหยาดน้ำใสๆ ที่ไหลออกมาจากหางตา ชานยอลได้แต่โอบกอดสัตว์เลี้ยงของตนราวกับคนบ้า ไม่สนใจสายตาของคนรอบข้างที่มองมา พลเมืองดีเข้ามาช่วยอุ้มร่างที่ไร้วิญญาณขึ้นรถเพื่อไปส่งโรงพยาบาลสัตว์ ชานยอลที่นั่งมาด้วยได้แต่เรียกชื่อคนรัก น้ำตาไหลราวสายธาร ทั้งดวงตาโต จมูกและหูเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างเห็นได้ชัด
พระเจ้าใจร้ายกับผมเกินไปแล้ว …
ผมรู้ว่าหน้าตาของคุณเป็นอย่างไร
ผมรู้ว่าเสียงไหนคือเสียงของคุณ
ผมจำกลิ่นหอมของตัวคุณได้
ผมรู้ชื่อของคุณ
ผมจำเบอร์โทรศัพท์ของคุณได้
ผมรู้จักที่ที่คุณอยู่
ผมรู้ถึงอุณหภูมิร่างกายของคุณ
ผมรู้จักนิสัยใจคอของคุณ
ถึงแม้ว่าผมจะรู้จักคุณมากขึ้น
แต่ยังมีอีกหลายสิ่งที่บอกว่าผมยังร้จักคุณไม่ดีพอ
ผมเริ่มกลัวตัวเองว่าบางที
ผมอาจจะชอบทุกอย่างที่เป็นคุณ
________________________
เมื่อถึงที่หมาย พลเมืองดีคนนั้นรับเสื้อกาวน์สีน้ำเงินจากผู้ช่วยมาสวมใส่อย่างชำนาญก่อนจะจับไหล่ชานยอลให้นั่งลงกับเก้าอี้หน้าห้องผ่าตัด หน้ากากอนามัยถูกสวมใส่พร้อมกับถุงมือ ชานยอลได้แต่ร้องไห้ฟูมฟายไม่คิดแม่แต่จะเงยหน้าขึ้นมองใครทั้งนั้น เขาได้แต่เรียกชื่อคนรักราวกับคนบ้า ชีวิตของชานยอลไม่เคยสูญเสียใครไปและไม่เคยคิดว่าหากสูญเสียใครไป เขาจะเป็นเช่นไร ผ่านไปไม่นานร่างสูงที่มองไม่ยากว่าเป็นสัตวแพทย์ก็ออกมาจากห้องผ่าตัดขนาดไม่ใหญ่นัก
“ นั่น … สุนัขของคุณใช่ไหมครับ ”
“ ครับ ” ชานยอลตอบไปอย่างลำบากเพราะต้องอดกลั้นไม่ให้สะอื้นจนพูดไม่เป็นภาษา
“ ผมเสียใจด้วยนะครับ มันหลับสบายแล้ว ”
วินาทีนั้นหัวใจชานยอลแทบหยุดเต้น ร่างที่นั่งอยู่บนเก้าอี้แทบจะทรุดไปกองลงกับพื้น
อยากจะให้มันไม่ใช่เรื่องจริง ขอให้มันเป็นฝันร้าย ได้โปรด คริส ปลุกฉันที …
“ ผ…ผม ขอเข้าไปหามันหน่อยได้ไหมครับ ”
“ เชิญครับ ” ร่างสูงเดินนำก่อนจะปล่อยให้ชานยอลอยู่กับสัตว์เลี้ยงแบบเป็นการส่วนตัว
ชานยอลนั่งลงข้างๆ ร่างที่ไร้วิญญาณ ไฟผ่าตัดยังถูกเปิดส่องมายังตัวของคริส ดวงตาทั้งสองข้างปิดสนิท มือเรียวยกขึ้นกุมขาหน้าของคริสไว้ข้างหนึ่ง อยากให้คริสได้รับรู้ความทรมานที่เขาได้รับในตอนนี้ หากคริสสัมผัสและรับรู้ได้เขาต้องตื่นขึ้นมาปลอบโยนชานยอลแน่ๆ แต่ทว่าร่างตรงหน้าเป็นเพียงร่างที่แน่นิ่งไม่มีการรับรู้ใดๆ อีกต่อไปแล้ว น้ำตาไหลไม่เคยหยุดจนดวงตาแดงก่ำ พระเจ้ากำลังลงโทษเขาอยู่หรืออย่างไร ร่างกายที่เหนื่อยล้าเผลอฟุบหลับลงข้างร่างของคริสพร้อมกับน้ำตาที่ค่อยๆ เลือนหาย เวลาล่วงเลยจนโรงพยาบาลแห่งนี้ใกล้จะปิดบริการ ผู้ช่วยสัตว์แพทย์เปิดประตูห้องผ่าตัดเข้ามาเพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยแต่ก็ต้องยืนหยุดนิ่งกับภาพตรงหน้า
“ มีอะไรเหรอครับคุณผู้ช่วยคิม ” เสียงใหญ่ดังขึ้นจากด้านหลังคนที่ยืนนิ่งอยู่
“ เด็กคนนี้ยังไม่กลับเลยค่ะ เคสนี้ตั้งแต่เที่ยงแล้ว ” เห็นแล้วอดเศร้าตามไม่ได้ ภาพที่ปรากฏตรงหน้าคือภาพของเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักที่ฟุบหลับข้างๆ สุนัขของตน มือข้างหนึ่งกุมอุ้งเท้าของสัตว์เลี้ยงไว้ สัตวแพทย์ร่างสูงพยักหน้าน้อยๆ กับภาพตรงหน้าก่อนจะออกบอกให้ผู้ช่วยกลับบ้านไปก่อน “ คุณกลับไปก่อน เดี๋ยวผมจัดการเอง ”
“ เธอ ” นิ้วยาวสะกิดเบาๆ ที่ไหล่ของคนที่หลับอยู่ เมื่อรู้สึกตัว ชานยอลค่อยๆ ปรือตาขึ้นมองต้นเหตุที่ปลุกเขา
“ คุณหมอ ”
“ ทำไมยังไม่กลับอีก ” คนตัวสูงในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวธรรมดาแต่ทว่าดูดีอย่างบอกไม่ถูก ใบหน้าถูกปิดด้วยหน้ากากอนามัยและกรอบแว่นสายตาสีดำ เขาหย่อนตัวลงบนเก้าอี้ตรงข้ามชานยอลก่อนจะยกมือขึ้นลูบที่ลำตัวของคริสเบาๆ
“ ขอบคุณที่พามันมาแล้วก็ช่วยรักษามันนะครับ ” เสียงสั่นกล่าวขอบคุณก่อนจะก้มหัวลงอย่างอ่อนน้อม
“ แต่มันก็ไม่กลับมาอยู่ดี ” คนเป็นแพทย์พูดต่อจนทำให้ชานยอลรู้สึกสะอึก น้ำตาเริ่มคลอที่ดวงตากลมอีกครั้ง
“ ตอนนี้ผมไม่ได้พกเงินมากพอที่จะจ่ายให้ เดี๋ยวผมจะกลับไปเอามาให้นะครับ ” ร่างโปร่งทำท่าจะลุกขึ้นแต่มือหนาก็เอื้อมมารั้งไว้เสียก่อน
“ ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฉันช่วยเรื่องค่ารักษา ”
“ ได้ยังไงหละครับ คุณหมออุตส่าห์ช่วยไว้ เห็นผมเป็นเด็กแบบนี้ผมก็มีเงินเก็บนะ ”
“ เก็บเงินไว้เรียนนั่นแหละ เรื่องแค่นี้เอง ”
“ ถ้าคุณหมอจ่าย ผมโกรธจริงๆ นะครับ ”
เห็นหน้าคนตัวเล็กกว่าแล้วอดยิ้มออกมาไม่ได้แต่อีกฝ่ายไม่เห็นเพราะถูกหน้ากากอนามัยปิดทับไว้ รู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าเขาจับแขนเด็กตรงหน้าไว้แน่น ร่างสูงกระแอมอย่างขัดเขินก่อนจะปล่อยแขนอีกคนให้เป็นอิสระแล้วทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ตัวเดิม
“ นั่งก่อนสิ ฉันมีอะไรจะเล่าให้ฟัง ถ้าเธอฟัง ก็ถือเป็นการจ่ายค่าผ่าตัด ”
ชานยอลนั่งลงที่เดิมอย่างว่าง่ายก่อนจะจับจ้องไปที่อีกฝ่ายอย่างตั้งใจ
“ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ”
“ ….. ”
“ กลางทุ่งหญ้าเขียวขจี มีต้นไม้สองต้นซึ่งถูกปลูกไว้ใกล้ๆ กัน ต้นหนึ่งเป็นพันธุ์ดี เมื่อเติบใหญ่ก็แตกกิ่งให้ร่มเงา มีผล มีดอกออกมากมาย
“ ส่วนอีกต้นหนึ่งเป็นพันธุ์ที่อ่อนแอ ต้นใหญ่ไม่เท่าต้นข้างๆ แถมยังใช้กิ่งใบของต้นข้างๆ บังลม บังฝน บังแดด ”
“ ต้นไม้ที่แข็งแกร่งนั้นถูกการบำรุงอย่างดี ไม่เคยโดนสัตว์ทำลาย ไม่เคยขาดสารอาหาร และมันเต็มใจที่จะให้ร่มเงากับต้นข้างๆ มันดีใจที่มีต้นข้างๆ ยืนเป็นเพื่อนทั้งวันทั้งคืน ”
“ จนวันหนึ่ง เกิดพายุโหมอย่างหนัก ต้นไม้ที่อ่อนแอก็ล้มลง ต้นไม้ใหญ่ได้แต่ยืนนิ่งมองต้นไม้ที่อ่อนแอล้มลงต่อหน้า เมื่อพายุสงบลง วันเวลาล่วงเลยไป ต้นไม้ใหญ่กลับรู้สึกอ่อนแอ ยืนอยู่ต้นเดียวกลางทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่ เหงาเสียจนอยากจะถอนรากที่ยาวใหญ่ของตนออกแต่ก็ทำไม่ได้ ”
“ มันสียใจที่ต้นไม้ข้างๆ ล้มตาย แต่ทว่าต้นไม้ที่อ่อนแอนั้นกลับแปรเปลี่ยนเป็นซากปุ๋ยไปตามกาลเวลา มันทำให้ต้นไม้ใหญ่แข็งแรงยิ่งกว่าเดิม
“ ทุกความสูญเสีย มันทำให้เราแข็งแกร่งกว่าเดิม ”
ภายใต้หน้ากากอนามัยมีรอยยิ้มบางๆ ส่งให้อีกคนอย่างปลอบโยน เขาเข้าใจความรู้สึกของชานยอล ภาพเหล่านี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนชินตาของผู้เป็นสัตวแพทย์
น้ำตาหยดสุดท้ายของวันนี้ไหลลงอาบแก้มขาว คนเป็นผู้ใหญ่กว่าโอบกอดเด็กมหาวิทยาลัยอย่างเอ็นดู เขาอาสาไปส่งชานยอลที่บ้านและนำร่างของคริสขึ้นรถมาด้วย ในที่สุดซูเปอร์คาร์คันหรูก็จอดหน้าบ้านหลังใหญ่โดยมีชายวัยกลางคนเดินมาเปิดรับ ชานยอลลงจากรถก่อนจะโค้งเคารพลุงคนสวนที่บ้านอย่างไม่ถือตัว ร่างสูงอุ้มสุนัขออกมาจากเบาะหลังโดยไม่คิดรังเกียจก่อนจะเดินตามชานยอลเข้าไปในบ้าน ผู้เป็นแม่ในชุดนอนลูกไม้สีขาวเดินมาห้องรับแขกขนาดใหญ่เมื่อรู้ว่าลูกชายกลับบ้านโดยไม่ได้บอกล่วงหน้า ชานยอลโผกอดผู้ให้กำเนิดพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลเพราะเขาได้สัญญากับคุณหมอไว้แล้ว ร่างสูงที่ตามมาโค้งให้แม่ของชานยอลอย่างอ่อนน้อม เธอพยักหน้ารับและยิ้มบางๆ ให้ ถึงแม้ว่าใบหน้าหล่อคมจะถูกปิดด้วยหน้ากาอนามัยและแว่นสายตาแต่เมื่อมองสายตาคมผ่านเลนส์หนานั้น เธอจำไม่ผิดแน่ นี่คือ คริส ชายหนุ่มลึกลับที่ปาร์คแฮมิคาดเดาว่าไม่ใช่แค่เพื่อนชายของชานยอล
“ ไปนั่งพักก่อนไหมจ้ะ ”
“ ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมต้องขอตัวกลับเลย สวัสดีครับ ”
ร่างสูงก้มโค้งอย่างสุภาพก่อนจะหันกลับทางเดิมและฝากเรื่องศพของคริสให้ลุงคนสวนดูแลต่อ
“ ขอบคุณมากนะครับคุณหมอ ” ชานยอลละกอดจากแฮมิแล้วหันมาโค้งขอบคุณอีกฝ่าย
ไม่ใช่เล่นๆ นะลูกชายฉัน ได้หมอซะด้วย
ในคืนนั้นเองไฟในสวนหลังบ้านถูกเปิดจนสว่าง ชานยอลและลุงคนสวนช่วยกันขุดหลุมขนาดไม่ใหญ่นักพอที่จะใส่ร่างของคริส มือเรียวคว้าจอบขุดแต่ก็ถูกห้ามปรามเพราะจะทำให้มือบางนั้นเจ็บเอา ชานยอลไม่สนใจ ดื้อที่จะทำต่อไปไม่สนใจมือของตนที่กำลังมีเลือดไหลซิบ หากความด้านชาของร่างกายมีมากพอกับหัวใจนั่นก็คงจะดีไม่น้อย เขาพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล อย่าร้องนะชานยอล …
“ ถ้าเธอร้องไห้ เจ้าหมาตัวนี้มันจะมีความสุขหรือ ”
“ ครับ ผมจะไม่ร้อง ผมสัญญา ”
.
.
.
“ ชานยอล”
“ ครับแม่ ” ร่างสูงนอนกอดแม่ของตนเหมือนเด็กๆ ภายในห้องนอนสีครีมที่เปิดโคมไฟแสงสีส้มนวลไว้ข้างเตียง
“ มีอะไรที่แม่ควรรู้ไหม ”
“ …… ”
คำถามของผู้เป็นมารดาทำเอาชานยอลแทบสะอึก อย่างที่เคยบอกว่าชานยอลไม่เคยมีความลับกับแฮมิเลยสักเรื่องเดียวจนมาพบกับคริส อยู่ๆ น้ำตาก็ไหลออกมาเสียดื้อๆ ชานยอลกระชับกอดผู้เป็นแม่แน่น ตอนนี้เขาอยากระบาย อยากเล่าทุกอย่างให้แฮมิฟัง เรื่องราวน่าเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นถูกถ่ายทอดให้ผู้เป็นแม่ฟังพลางสะอื้นออกมา มันเหมือนนิทานหลอกเด็กหรือนิยายรักน้ำเน่าทำนองนั้น ชานยอลไม่ใช่เด็กขี้โกหก เธอรู้ดี แต่สิ่งพวกนี้มันเหลือเชื่อเกินกว่าเธอจะคล้อยตาม
“ ชานยอล ถ้าหมาตัวนั้นคือคริสที่ตายไปแล้ว แล้วคนที่มาส่งลูกวันนี้คือใครหละจ้ะ ”
“ ค … ครับ ” ชานยอลเงยหน้ามองย้อนถามอย่างสงสัย
“ นั่นไม่ใช่คริสหรอกเหรอ ”
“ นั่นคุณหมอที่ผ่าตัดให้คริสครับ คริสตายไปแล้ว ” จบประโยคชานยอลยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม เธอโอบกอดลูกน้อยจนดวงตากลมโตปิดลงพร้อมกับน้ำตาที่จางหาย ยิ่งคิดยิ่งแปลกใจ เธอจำไม่ผิดแน่ๆ สายตาคมนั้นเป็นของคริส เธอจำได้ดี
.
.
.
สามเดือนผ่านไป
.
.
.
ทุกอาทิตย์ชานยอลจะกลับบ้านเพื่อนำดอกไม้ช่อสวยมาวางไว้บนหลุมศพของคริสซึ่งตั้งไว้ในสวนหย่อมหลังบ้าน ความเจ็บปวดได้แปรเปลี่ยนเป็นความทรงจำดีๆ วันนี้เขาเข้มแข็งขึ้นแล้ว อย่างที่คุณหมอเคยเล่าให้เขาฟัง หากมีโอกาสก็อยากจะขอบคุณอีกสักครั้ง
“ นายสบายดีไหม อาทิตย์นี้มีรายงานเยอะมากเลย พี่ยุนโฮขอฉันเป็นแฟนด้วยหละ หึงรึเปล่า ”
“ แต่ฉันปฏิเสธไปเพราะฉันรักเค้าแบบพี่น้อง ”
สายลมแผ่วเบาพัดผ่านร่างโปร่งที่นั่งคุกเข่าอยู่ เส้นผมดำพลิ้วไปตามแรงลม เสียงนกในสวนที่เกาะกิ่งไม้ดังขึ้นให้รู้สึกอุ่นใจ แสงแดดยาวสายสาดส่องให้ร่างกายอบอุ่น หญิงวัยกลางคนยืนมองลูกชายของตนจากบนระเบียง เธอเผยยิ้มออกมาบางๆ ไม่มีน้ำตาที่หยดไหลลงบนหญ้าที่เริ่มงอกขึ้นมาอีกแล้ว มีแต่รอยยิ้มของชานยอลที่ส่งให้ร่างที่อยู่ใต้ดินละเอียด ตกเย็นชานยอลก็ขอตัวกลับหอหลังจากหอมแก้มผู้เป็นพ่อและแม่ฟอดใหญ่ ยกนาฬิกาขึ้นดูมันยังไม่ใช่เวลาฉายการ์ตูนเรื่องโปรดจึงแวะมาเดินเล่นสวนสาธารณะริมแม่น้ำฮันก่อน ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาอยากกลับมาที่นี่อีก ตั้งแต่คริสจากไป เขาอ่อนแอและไม่อยากแม้แต่จะผ่านที่แห่งนี้ สองขายาวเดินไปตามทรงอิฐสีส้มที่ปูอย่างสวยงาม หย่อนก้นลงบนเก้าไม้ตัวยาวที่สามารถทำให้เขานั่งมองแม่น้ำที่เอื่อยไหลได้อย่างสบายใจ ดวงตากลับรู้สึกชุ่มชื้นอีกครั้งเหมือนมีบางอย่างล้นตรงขอบตา หากแต่ไม่ใช่ความรู้สึกเจ็บปวดหรือทุกข์ระทม แต่เพราะภาพความทรงจำดีๆ มันย้อนกลับเข้ามาในหัว
“ คริส ! ใช่ นายชื่อคริส ”
“ จากนี้ไปฉันจะเป็นเจ้านายชั่วคราวของนายจนกว่าจะเจอเจ้าของของนาย โอเคไหม ”
“ ไหนสัญญาว่าจะไม่ร้องไห้ ” เสียงทุ้มที่คุ้นหูดังขึ้นจนชานยอลหลุดจากภวังค์ ร่างสูงในชุดเสื้อกล้ามกางเกงวอร์มและผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่ที่คล้องคอไว้นั่งลงข้างๆ เขาโดยไม่ขออนุญาต ใบหน้าที่คุ้นตา โครงหน้าเรียวได้รูป คิ้วเข้มหนา ดวงตาคมประกอบกับจมูกโด่งและริมฝีปากสีธรรมชาติไร้ซึ่งที่ติทำให้ชานยอลหยุดทุกอย่างไว้ตรงหน้า
คริส
คนๆ นี้ไม่ต่างอะไรกับคริสของเขาเลยยกเว้นเสียจากทรงผมที่ไม่ได้เป็นสีทองและยาวเท่าคริส แต่มันเป็นสีดำและถูกตัดสั้นทว่ากลับดูดีอย่างบอกไม่ถูก กรอบแว่นสีดำพาดคั่นจมูกโด่ง มือหนายกผ้าที่คล้องคอขึ้นเช็ดหน้าผากที่เหงื่อกำลังผุดไหลไม่หยุด เขาหันมาส่งยิ้มให้ชานยอลก่อนจะเลื่อนมือหนามาขยี้หัวอย่างเอ็นดู
“ จำฉันไม่ได้เหรอ ”
…
“ กระผมชื่ออู๋อี้ฟาน อายุ 23 ปี เป็นสัตวแพทย์คนที่ผ่าตัดให้สุนัขของคุณไงครับ ” เขาพูดน้ำสำเนียงยียวนกวนประสาทก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเห็นใบหน้าเหวอของอีกฝ่าย มือหนายกขึ้นปัดไปมาด้านหน้าของชานยอลที่กำลังจ้องเขาไม่ละ
เด็กคนนี้ตลกชะมัด
แต่ก็ … น่ารักดี
“ คุณหมอ ”
“ ใช่ ฉันเอง ตอนนั้นฉันปิดหน้าปิดตา เธอคงจะจำไม่ได้ ”
“ เธอรู้ชื่อฉันแล้ว แต่ฉันยังไม่รู้ชื่อเธอเลย ”
“ ผ…ผมชื่อชานยอลครับ ปาร์คชานยอล ”
บางที พระเจ้าไม่ได้ใจร้ายเสมอไป เพียงแต่หยิบยื่นความเจ็บปวดเพื่อที่จะได้เดินไปหาเส้นทางที่เหมาะสมและมีความสุขมากกว่า โชคชะตาที่ทำให้คนๆ หนึ่งเข้มแข็งกว่าเดิม เรียนรู้ที่จะพบความสูญเสียในวันข้างหน้า
ใครบางคนที่มองลงมาจากข้างบนและยิ้มให้กับโชคชะตาที่กำหนดไว้
ดูแลชานยอล เจ้านายที่น่ารักของผมด้วยนะครับ
จบบริบูรณ์ ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบนะคะ อนุญาตให้ด่าไรเตอร์ได้ กร้าก U_U เห็นรีดเดอร์เม้นขอให้พี่คริสอยู่กับชานยอลตลอดไป ไรเตอร์ก็แบบ เอาแล้วไง 555555555555555555 สุดท้านชานยอลก็คู่กับคุณหมออู๋ฟาหล่อฉลาด อย่าเศร้าไปเลย ชานยอลไม่ลืมหมาพี่คริสหรอก รักแรกเลย ไม่อยากให้ทุกคนเศร้า อยากให้เก็บหมาพี่คริสไว้ในความทรงจำประทับใจนะคะ ฮือ T_T คิดอยู่ว่าจะมีภาคต่อความรักระหว่างชานยอลกับสัตวแพทย์อี้ฟานดีไหม ยังไงก็ติดตามช็อตฟิคเรื่องต่อๆไปด้วยนะคะ พยายามเต็มที่มาก คำพูดอาจไม่สวยหรู ไรเตอร์ไม่ค่อยเก่งแต่ก็อยากพัฒนาฝีมือไปเรื่อย ขอบคุณทุกคนมากเลยค่า ด๊วฟ <3
ความคิดเห็น