ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [yaoi]How dare U D9 me...เรื่องของพี่ไม่เกี่ยวกับผม

    ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 6 : กับข้าวคุณภรรยา

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ย. 55


    Chapter 6

     

                    เมื่อผมตื่นขึ้นมาตอนเช้า บนโต๊ะกลางห้องก็มีโจ๊กวางรอไว้ให้แล้ว เป็นโจ๊กเปล่าๆ ไม่มีเนื้อสัตว์หรือว่าไข่อะไรเลย ตอนแรกผมก็นึกอยากถามคนทำว่าทำไม แต่นึกได้ว่าตัวเองไม่เคยซื้อขอสดมาใส่ตู้เย็นนานแล้ว ถ้าวันนี้ฮาโลไม่ไปแวะตลาด ผมอาจจะฝากให้คุณเลขาจัดการให้

                    ก่อนจะออกจากห้อง ผมแวะเข้าไปเอาเนคไทในห้องนอน เห็นฮาโลนอนพริ้มหลับอย่างเป็นสุขอยู่บนเตียง เมื่อคืนเขาร้องไห้จนฟุบหลับไปทั้งๆที่กอดผมอยู่ คงจะเหนื่อยมาก แล้วตื่นมาทำกับข้าวให้ผมแต่เช้าก่อนผมจะตื่นอีก ผมลังเลที่จะปลุก เลยเขียนโน๊ตแปะไว้บนหัวเตียง

                    วันนี้พี่จะรีบกลับมากินข้าว ถ้ามีปัญหาโทรหาเลขาพี่นะ

                    ปล. ไอโฟนพี่พัง

                    ปปล . โจ๊กอร่อยดี แต่จะดีกว่านี้ถ้ามีหมู แล้วเจอกัน

     

                    “อาไหน่ตี๋ ผมขอรายงานนับไพ่ ประวัติ แล้วก็ข้อมูลของนายคนนั้นด่วนเลยนะ”

                    ลูกน้องผู้ขยันที่สุดในทีมพยักหน้ารับก่อนจะรีบกระเดือกคาเฟอีนสกัดเข้มข้นยี่ห้อกระทิงแดงลงท้อง รับงานในมือผมไปสานต่ออย่างมุ่งมั่น

                    “มี่ซู คุณติดต่อหัวหน้าดีลเลอร์โต๊ะโปกเกอร์ของโรงแรมพ่อผมให้ที”

                    มี่ซูพยักหน้ารับ เธอทำท่าจะเดินกลับไป แต่แล้วก็เขย่งเท้าเดินกลับมา “โรงแรมไหนคะบอส”

                    ลืมสนิท พ่อผมเป็นบอร์ดกี่โรงแรมมั่งวะ รู้แต่ว่าเยอะ

                    “ใช่โรงแรมแถวๆคอสเวย์เบย์รึเปล่า”

                    น่าจะใช่นะ

                    ผมยุ่งตั้งแต่มาถึงก็เพราะคุณพ่อบังเกิดเกล้าโทรติดต่อผมไม่ได้ ก็เลยฝากระเบิดเวลาลูกบะเริ่มไว้ที่เลขาลี่เสวียนคนเก่ง เรื่องมันมีอยู่ว่า เจ้าเด็กฮิปปี้ที่คิดว่าจัดการไปเรียบร้อยแล้วนั้น มันไปป่วนที่บ่อนเถื่อนในโรงแรมพ่อ กวาดเอาเงินไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียว แถมคอยเวย์เบย์ยังเป็นถิ่นพ่อมัน (หมอนั่นเป็นลูกมาเฟียท้องถิ่นนี่นะ) พ่อก็เลยให้ผมช่วยจัดการให้ทีว่า จะทำยังไงดี

                    สำหรับผม ง่ายสุดคือไม่ต้องให้มันเข้าไปในบ่อน แต่จะทำไงได้ล่ะ รปภบ่อนก็ไม่ได้เก่งเมพสู้พวกมัน หมอนั่นก็เลยเดินตัวปลิวเข้าไปเปลืองสมองนับไพ่ ก่อนจะเดินส่ายอาดๆจากไป

                    ผมต้องออกโรงงัดข้อกับหมอนั่นด้วยตัวเองรึเปล่าเนี่ย ดรีมทีมอยู่กันไม่ครบด้วยสิ นับไพ่คนเดียวได้ที่ไหน

                    “ได้แล้วฮะบอส”แฮกเกอร์หนุ่มหลี่ไหน่ตี๋เดินมาพร้อมกับประวัติย่อๆของหนุ่มนักพนันที่ดีกรีจบมาจากบอสตัน เอ เหมือนจะเป็นที่เดียวกับผมเลยนะเนี่ย ไม่เสียแรง ต้องฉลาดสิถึงจะโกงได้

                    “ทีมเค้ามีกันห้าคนฮะ ตามที่ให้ไป ขืนบอสจับเข้าคุกเสียดายแย่เลยนะเนี่ย”

                    พวกเด็กไอทีดีกรีจบนอกกันทั้งนั้น อืม เอาเข้าคุกคงเสียดายความสามารถอยู่เหมือนกันน่ะแหละ แต่ใครใช้ให้พวกมันมาเหยียบถิ่นผมล่ะ ผมเอาหัวเป็นประกันว่าที่ไหนจ้างผมเป็นที่ปรึกษา ไอ้พวกอัจฉริยะเหนือเมฆจะเข้ามาโกงไม่ได้เป็นอันขาด อุตส่าห์ซุ่มเรียนโทด้านนี้อยู่เป็นปี เรื่องนี้ยังไงก็ยอมไม่ได้

                    “ผมว่า ถ้าหมอนั่นไปที่ไหนที่พ่อผมคุมถึง บอกดีลเลอร์ว่า กันลูกค้าคนอื่นออกแล้วให้โกงกลับได้เลย แค่วันนี้วันเดียว”

     

                    บ้านผมทำธุรกิจด้านสาธารณสุขมาตั้งแต่ปู่ทวดหอบเข็มฉีดยาจากเมกามาขายถึงฮ่องกง จนกระทั่งพี่ใหญ่ของผมเป็นเจ้าของโรงพยาบาลชื่อดัง พ่อผมจบด้านไบโอเคมีจากแอลเอ ส่วนผม หลับหูหลับตาเรียนด้านเมดเทคตามใบสั่ง แล้วมาต่อด้านจิตวิทยาที่ออสเตรเลีย ว่าไปเราก็หนีจากเรื่องชีวิตคนได้ไม่ไกลเท่าไหร่นัก บ่อยครั้งที่ผมต้องทำหน้าที่บำบัดจิตคนใกล้ตัวด้วยหลายๆพฤติกรรมชวนทนไม่ได้

                    “สิบโมงแล้วบอส กินกาแฟดำกับติ่มซำเหมือนเดิมนะครับ” เลขาผู้เปรียบเสมือนแม่เรียกพวกเราออกไปนั่งกินติ่มซำสุดหรูกันที่โต๊ะประชุม พักสมองจากเรื่องงานครึ่งชั่วโมง ก่อนจะลุยไม่หยุดจนกระทั่งมื้อเที่ยงตอนบ่ายโมง(ช้ากว่าแผนกอื่นมากเลยทีเดียว ก็ดี ไม่ต้องแย่งใคร)

                    “ที่โรงแรมมีบาร์ซูชิ วันนี้บอสเลี้ยงหน่อยนะคะ”

                    “บอสเลี้ยงข้าวพวกเราหน่อยนะ ครั้งแรกในรอบสามเดือน”อาตี๋รีบเป็นลูกคู่ทันที พร้อมกับทำสายตาออดอ้อนประสานกัน ชนิดที่ผมอยากเอาเท้าเสยคางกันคนละทีสองทีด้วยความหมั่นไส้

                    “รู้สึกว่าบอสจะเอาข้าวกล่องมาไม่ใช่เหรอฮะ”คุณเลขาพูดสวนขึ้นมา หยิบกล่องพลาสติกเรียบๆมาจากไหนก็ไม่รู้ วางตรงกลางโต๊ะกระจกเรียกสายตาอยากรู้อยากเห็นจากทุกคน

                    “บอสทำกับข้าว”มี่ซูร้องเสียงแหลม

                    “ห๊า บอสเนี่ยนะทำกับข้าว”อาตี๋ร้องเสียงสูงยิ่งกว่า โอ๊ย พวกนายมองหน้าชั้นแล้วช่วยใช้สมองคิดอย่างถี่ถ้วนทีว่า ขนาดข้าวกลางวันชั้นยังแทบไม่เคยพาไปเลี้ยง ชั้นจะเอาปัญญาที่ไหนมาทำกินเองวะ

                    ผมเปิดกล่อง เห็นข้าวปั้นเป็นก้อนๆขนาดพอดีคำวางเรียงกันอยู่ในนั้น

                    ฝีมือฮาโลน่ะสิ

                    “คุณภรรยาบอสทำอะไรแบบนี้เป็นด้วยเหรอ”มี่ซูถามเสียงหวาดๆ

                    “เค้าทำกับข้าวอร่อยนะ ค่อนข้างอร่อยมากเลยล่ะ”

                    พูดไปก็รู้สึกร้อนหน้าขึ้นมาแปลกๆ

                    ป่านนี้เจ้าตัวแสบจะเป็นยังไงบ้างนะ

                    “แอล ผมให้เบอร์คุณกับเจ้านั่นไว้ ถ้าเค้ามีปัญหาอะไรก็ช่วยๆทีนะ ตอนบ่ายๆผมว่าจะรีบเคลียร์งานที่นี่ให้เสร็จแล้วขอตัวกลับเร็วสักหน่อย”

                    คุณเลขาหน้าเด็กพยักหน้ารับ หยิบไอแพดมาบันทึกอะไรยิกๆ “โอเค วันนี้บอสขอตัวกลับเร็ว ไปกินข้าวฝีมือคุณภรรยา รับทราบฮะ”

                    ใช่ที่ไหนเล่า ต้องเคลียร์เรื่องวุ่นให้ป่ะป๊าต่างหาก

                    แต่ก็เหมือนลูกทีมจะไม่สนใจ เอาแต่ทำหน้าล้อเลียนผมไปต่างๆนานา

                    “ถ้าไม่หยุดจะหักโบนัส”

                    มี่ซูกับอาตี๋ทำหน้าตกใจ แต่ก็แอบหันไปหัวเราะเบาๆไม่ให้ผมได้ยิน ผมเดินถือกล่องข้าวกลับไปที่โต๊ะตัวเอง ระหว่างทางสาวๆแผนกทรัพยากรบุคคลเอาแต่มองหน้าผมแล้วก็หันไปซุบซิบกัน

                    อะไร ไม่เคยเห็นคนหน้าแดงรึไง

     

                    ช่วงเย็นๆคนใช้บริการเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากเยอะอย่างเหลือเชื่อ ฮ่องกงค่อนข้างแออัด มีไม่น้อยเลยที่ต้องทำงานอยู่บนฝั่งแผ่นดินใหญ่ ผมก็คนหนึ่ง เดินทางวันละห้าหกชั่วโมง ต่อรถราง ต่อเรือ ต่อแท็กซี่ไม่ใช่เรื่องน่าสนุกเลย แต่ผมรู้สึกชินเสียแล้ว ถ้าต้องเนรเทศตัวเองไปอยู่ในที่สงบๆ ไม่มีรถราวิ่งไปมา ผมอาจจะนอนไม่หลับก็เป็นได้นะ

                    หลังจากซื้อซัมซุงเครื่องใหม่มาแทนไอโฟนที่เสียชีวิตไปจากการหล่นกระแทกพื้น ผมรีบบึ่งไปหาพ่อที่จุดนัดพบประจำทันที โรงแรมแชงกรีล่าที่พ่อจะไปนั่งปล่อยอารมณ์อยู่บ่อยๆ และก็ไม่ไกลจากที่พักผมมากนัก

                    “ไม่เจอกันนานนะแก”

                    “ดีฮะพ่อ เป็นไงมั่ง หน้าเครียดๆหรือว่าแก่ลงเนี่ย”ผมทักอย่างกวนๆ ได้หมัดประเคนกลับมาเบาๆ

                    ผมโตมากับพ่อที่ไม่ค่อยมีเวลาให้ผมมากเท่าไหร่นัก พ่อสนใจดีเอ็นเอกับตลาดหุ้นมากกว่าลูกชายอย่างผม แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ผมก็รู้ว่าพ่อให้ความสำคัญกับผมมากที่สุด พ่อไม่เคยลืมวันสำคัญ เราต้องกินข้าวเย็นด้วยกันอย่างน้อยเดือนละครั้ง จนถึงตอนนี้ผมก็ยังโทรคุยกับพ่ออยู่บ่อยๆ

                    พ่อชอบกินกาแฟดำเหมือนผม แต่เวลาที่พ่อเครียด พ่อจะเปลี่ยนไปกินคาปูชิโนแทน

                    “ผมให้เลขาคุยกับดีลเลอร์ให้แล้วล่ะ พ่ออย่าคิดมาก”

                    พ่อยิ้มจนรอยย่นเพิ่มขึ้นบนบนหน้าอีกสิบกว่ารอย “ชั้นคิดเรื่องของแกอยู่ แกกับฮาโล”

                    เรื่องของฮาโล เป็นไปไม่ได้ที่พ่อจะไม่รู้สินะ พ่อเห็นเจ้าเด็กนั่นมาตั้งแต่อยู่ในเปล พี่ใหญ่จะทำอะไรคงไม่ลืมนึกถึงพ่อของผมหรอก

                    “ได้ข่าวว่าแกลืมไปเข้าพิธีแต่งงาน ลืมไปจดทะเบียน แล้วยังงี้มันจะไปรอดหรือวะ แต่งงานทั้งทีแกยังไม่สนใจเลย”

                    “กระทันหันครับพ่อ พี่ใหญ่โทรมาบอก วันต่อมาก็ให้ไปแต่งเลย ผมก็นึกว่าฝันอ่ะสิ เป็นพ่อ พ่อไม่คิดแบบผมเหรอ”แล้วผมก็ไม่ได้นึกว่าฝันธรรมดานะ นึกว่าฝันร้ายด้วยแหละ จนถึงตอนนี้ยังเชื่อครึ่ง ไม่เชื่อครึ่งอยู่เลย

                    พ่อหัวเราะ รู้สึกว่าหน้าตาพ่อดูสดใสขึ้นอีกเป็นกอง “ฮาซันมันคิดอะไรของมัน แกนึกออกมั้ย”

                    “ท่าทางคุณยายจะเสีย ไม่ก็มีเรื่องอะไรซักอย่าง พี่เค้าเลยต้องเอาน้องมาฝากไว้กับผม แล้วก็เหมือนพี่จะรู้จักผมดี ไม่ได้ฝากเฉย จับเซ็นสัญญาบ้าบออีกเพียบ”

                    ทีนี้พ่อหัวเราะใหญ่เลย ผมทึกทักว่าแม่ยายของพ่อตายพ่อยังจะมีอารมณ์ขัน เห็นดีเห็นงามไปด้วยเหรอฮะ

                    “ยายแกเกลียดพ่อแทบตาย ตอนแต่งกับแม่แก แกเอาไวน์แดงราดหัวพ่อต่อหน้าบาทหลวงเลยด้วย แสบได้โล่ห์ ตอนเจ้าฮาโลมันเล็กๆนะ ยอมบินมาถึงนี่เอาเด็กไปเลี้ยงเองซะอีกแน่ะ แกคิดดูแล้วกันว่าถ้าตอนแม่แกตายแล้วพ่อยอมง่ายๆ ป่านนี้แกจะเป็นไง คิดซะว่าฮาโลมันพ้นเคราะห์แล้วกัน ดูแลน้องดีๆล่ะ”พ่อเอามือตบบ่าผมเบาๆ

                    เกือบลืมเลยว่าพ่อพาแม่หนีตามกันไป บ้านผมนี่มันยังไงนะ

                    อ้อ แม่ผมกับแม่ฮาโลเป็นพี่น้องกัน พ่อผมกับพ่อฮาโลเป็นลูกคนละแม่กัน

                    โป๊ะเชะ ถ้าฮาโลเป็นผู้หญิงแล้วเรามีลูกกัน ลูกออกมาคงได้ยีนส์ด้อยไปเต็มๆ และเพราะอย่างนี้ครอบครัวเราจึงสนิทกันมากถึงมากที่สุด ยกเว้นแค่ยายเท่านั้นแหละ แกเกลียดครอบครัวฝ่ายพ่อผมยังไงก็ไม่รู้ แต่รักพี่ใหญ่กับฮาโลถึงที่สุด

                    “แกช่วยจัดการไอ้เด็กฮิปปี้นั่นที ความเสียหายไม่เยอะหรอก แต่พ่อไม่อยากยุ่งกับลูกมาเฟีย คนอื่นๆก็ไม่อยากยุ่ง แกหาวิธีที่ได้ผลดีหน่อยแล้วกัน พ่อไปก่อนล่ะ”

                    “แล้วเจอกันนะพ่อ ว่างๆไปทำทรีทเมนต์ฉีดโบท็อกซ์ด้วย เหี่ยวหมดแล้ว”

                    พ่อประเคนตบหัวผมเต็มรัก ก่อนจะเดินจากไป

                    ข้าวกล่องที่หยิบติดมือมาด้วยเป็นข้าวปั้นที่เอาของเหลือติดตู้เย็นมาทำ ทั้งแตงกวา(มันยังไม่งอกอีกเรอะผมทิ้งไว้สามเดือนแล้วนะ) แครอทเหี่ยวๆที่ซื้อมาจากตลาด ผักดอง เป็นเมนูชีวจิตจืดๆ แต่เดี๋ยวก่อน ฮาโลเอาซีอิ๊วญี่ปุ่นใส่มาให้ด้วย ข้าวปั้นยัดไส้ของเหลือเลยอร่อยขึ้นมาทันตาเห็น ไปชอปปิ้งคราวหน้าผมคงจะต้องซื้อเครื่องปรุงมาติดบ้านไว้เยอะๆแล้วล่ะ ถ้าคุณภรรยาจะทำกับข้าวเก่งซะขนาดนี้

                    คืนนี้จะได้กลับไปกินข้าวบ้านมั้ยน้า






    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×