คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Episode6: beside you in full moon night .
Esprit ... ความทรงจำของนางฟ้า
Episode6: beside you in full moon night .
แม้เวลาจะล่วงเลยมาจนกระทั่งท้องฟ้าในยามเย็นเริ่มเปลี่ยนเป็นสีทอง แต่ทั้งสองคนบนศาลาไม้ยังนั่งวาดรูปพลางคุยเล่นกันอย่างสนุกสนาน ซินนั่งมองตัวเองในอดีตที่อยู่กับชายแปลกหน้า แม้พยายามคิดจนหัวแทบแตกแต่ก็คิดไม่ออกว่าชายที่เขามองเห็นอยู่ตรงหน้าเป็นใครกัน
“พี่แสตมป์ครับ เย็นมากแล้ว ซินว่าพรุ่งนี้เราค่อยมาวาดกันใหม่เนอะ” ร่างบางในอดีตส่งยิ้มให้อีกคนอย่างน่ารัก พลางเก็บอุปกรณ์วาดรูปกลับเข้าที่
พี่แสตมป์...? ซินขมวดคิ้วน้อยๆเมื่อได้ยินตัวเองในอดีตเรียกชื่อชายแปลกหน้าอย่างสนิทสนม …ตกลงว่าชายแปลกหน้าที่มาช่วยเขาไว้ชื่อแสตมป์ ...และอีกฝ่ายเคยรู้จักเขาเมื่อแปดปีมาแล้วจริงๆสินะ...
แล้วทำไมแสตมป์ถึงรู้เรื่องเขาเยอะแยะ ? ทั้งๆที่ตอนนี้ดูยังไงชายหนุ่มก็เป็นแค่เพียงคนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นเอง...ร่างบางขบคิดอยู่ในใจคนเดียว ก่อนหันมาให้ความสนใจกับสถานการณ์ตรงหน้า ด้วยความที่อยากรู้ความสัมพันธ์ในอดีตของตนกับชายชื่อแสตมป์ให้มากกว่านี้
“ให้พี่ช่วยไหม?”ร่างสูงมองคนตัวเล็กที่หอบกระดานวาดรูปพร้อมไปด้วยอุปกรณ์พะรุงพะรังอย่างเอ็นดู แสตมป์แย่งกระดานวาดรูปอันใหญ่ของอีกฝ่ายมาถือ ก่อนจะแอบเนียนกุมมือข้างที่ว่างของซินไว้
“เนียนอ่ะพี่” คนถูกฉวยโอกาสกล่าวกับอีกฝ่ายอย่างรู้ทันแต่ก็ไม่ได้สะบัดมือออกจากการเกาะกุมแต่อย่างใด ซินในอดีตลอบยิ้มน้อยๆกับตัวเอง ในหน้าขาวเนียนเริ่มขึ้นสีจาง ...ส่วนซินในปัจจุบันนั้นขมวดคิ้วแล้วขมวดคิ้วอีกพลางมองตามสองร่างที่เดินจับมือกันอย่างสับสน
เฮ้ย...อย่าบอกนะว่าชายแปลกหน้าที่ชื่อแสตมป์เคยเป็นคนรักของเขา ?
“ส่งซินแค่นี้ก็ได้ครับ ป๊าจอดรถอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่” คนตัวเล็กกว่าบอกลา พร้อมกับแย่งของๆตนมาถือไว้คนเดียวในมือ พลางโบกมือลาคนที่อุตสาห์เดินมาส่ง
“ขอบคุณนะครับ บ๊าบาย เจอกันพรุ่งนี้”
“พรุ่งนี้พี่อาจมาเจอซินไม่ได้นะ ญาติที่เมกาจะกลับมาไทยวันพรุ่งนี้ พี่ต้องไปรับมัน ” ชายหนุ่มปฏิเสธอย่างเสียดาย
“จริงเหรอฮะ ...ไม่เป็นไร ถ้างั้นว่างๆก็แนะนำญาติพี่แตมให้ซินรู้จักด้วยนะ”
“ฮ่าๆ ได้สิ น้องชายพี่มันก็น่าจะอายุเท่าซินนี่แหละ ไว้จะพามาให้รู้จักนะครับ กลับบ้านดีนะซิน” ชายหนุ่มกล่าวลาก่อนที่คนคนเล็กกว่าจะเดินออกไป ซินมองตัวเองในวัยเด็กที่เดินออกจากประตูโรงเรียนจนลับตา พลางนึกสงสัย ว่าเขาจะตามไปดีไหม
ไม่ทันคิดให้มากความ อยู่ๆรอบกายของซินที่ปกคลุมไปด้วยหมอกสีขาวฟุ้งเต็มไปหมด ภาพโรงเรียนเก่าค่อยๆเลือนหายไปช้าๆ ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยห้องนอนสีขาวของตนเองตามเดิม
“ไปเที่ยวมาสนุกไหม?”
“เฮ้ย?” ซินร้องอย่างตกใจเมื่อห้องของเขากลับไม่ได้มีเพียงเขาอยู่คนเดียวอย่างเมื่อครู่ ชายแปลกหน้าที่ร่างบางพึ่งรู้จักชื่อสดๆร้อนๆ นั่งอยู่บนโซโฟตัวเล็กในห้องนอนของเขาอย่างสบายอารมณ์
“พี่แตมป์....ใช่ไหมครับ?” ซินกล่าวทักผู้บุกรุก อีกฝ่ายส่งยิ้มอย่างอารมณ์ดีมาให้ พลางตบมือเปาะแปะ
“ใช่ครับ ซินเก่งจังเลย พี่บอกใบ้นิดเดียวก็รู้แล้วว่าต้องกลับมาหาอะไร” ร่างบางยิ้มเจื่อนๆ ให้กับคำชมของอีกฝ่าย ...ไม่อยากจะบอกว่าที่หยิบกล่องใบนั้นขึ้นมาแล้วย้อนอดีตไปนี่เพราะความบังเอิญล้วนๆ
“ตกลงว่าซินต้องตามหาความทรงจำของตัวเองที่หายไปแปดปีให้ครบใช่ไหมครับ แล้ว... ส่วนที่เหลือซินจะไปหาได้จากที่ไหนอีก?”
“จากสิ่งรอบตัว ความทรงจำของซิน ซินก็ต้องเป็นคนประติดประต่อมันเอง พี่ช่วยเราทุกเรื่องไม่ได้หรอกนะ คนดี” ชายร่างสูงเอื้อมมือมาลูบผมของเขาแผ่วเบา ก่อนซินตกใจอีกครั้งที่แสตมป์สามารถที่สัมผัสเขาได้
“พี่แสตมป์เป็นวิญญาณเหมือนกันเหรอครับ” ร่างบางถามอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ ก็ร่างเขาในตอนนี้ ไม่ว่าอะไรก็ไม่สามารถสัมผัสได้ทั้งนั้น ...เว้นซะแต่ว่าภูติผีวิญญาณด้วยกันเอง
“ยังไม่ถึงเวลาที่เราต้องรู้นะ” ชายร่างสูงสลดไปเล็ดน้อย ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องเป็นการกลบเกลื่อน
“ซิน พี่ว่าซินไม่ควรออกห่างจากนัทนะรู้ไหม…ยิ่งออกห่างซิน นัทยิ่งอันตราย”
“ไม่ใช่ยิ่งใกล้ซินยิ่งอันตรายมากกว่าเหรอครับ ก็พี่พึ่งบอกซินว่าวิญญาณร้ายจะจ้องเอาชีวิตนัทเพราะนัทช่วยซิน?” ร่างบางถามอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ
“แต่นัทจะปลอดภัยจากวิญญาณร้าย เมื่ออยู่กับซิน เพราะสร้อยเส้นนั้นมันจะช่วยคุ้มครองทั้งนัทและซินไงล่ะ” แสตมป์เฉลย พลางมองไปที่สร้อยขนนกสีขาวที่ตนเองถอดให้ร่างบางกับมือ
“งั้นก็แสดงว่า...?”
“ยิ่งซินออกห่างากนัทเท่าไหร่ วิญญาณร้ายก็จะเล่นงานนัทได้ง่ายมากขึ้นเท่านั้น”
ซินกลืนน้ำลายเอื้อก ก่อนจะนึกไปถึงคนหน้าโหดแต่ขวัญอ่อน ซินกล่าวลาแสตมป์ก่อยจะรีบกลับไปที่บ้านนัทให้เร็วที่สุดเท่าที่ร่างบางจะทำได้ ในใจหวังเพียงนัทคงจะไม่โดนเหล่าผีร้ายรุมหลอกจนช็อคตายไปซะก่อน
...............................
กลางดึกสงัด พระจันทร์เต็มดวงลอยเด่นจนแสงสาดส่องให้ห้องที่มืดมิดสว่างขึ้นเล็กน้อย วันนี้บรรยากาศรอบตัวทั้งวังเวงทั้งหนาวยะเยือก จนร่างสูงต้องหาเบียร์ในตู้เย็นมาดื่มเพื่อไล่ความหนาว ...อันที่จริงเบียร์เย็นๆมันไม่ได้ช่วยให้หายหนาวหรอก แต่ช่วยให้หายเหงาจากการที่ถูกทิ้งดีไม่น้อย
นึกแล้วชายหนุ่มก็ได้แต่น้อยใจจนต้องยกเบียร์มากระดกอีกรอบ คนอุตส่าห์ช่วยตั้งหลายเรื่อง แต่บทจะมาทิ้งกันไปก็ทิ้งกันไปดื้อๆอย่างไม่บอกเหตุผลสักนิด ทั้งที่เขาเป็นห่วงแทบตายตอนอีกฝ่ายหายไปแท้ๆเชียว
แอ๊ดด...ดดดดด ...ดดดดด
ประตูห้องที่ล็อคกลอนไว้สนิทถูกเปิดออกช้าๆ นัทที่ตอนนี้กำลังกรึ่มๆอยู่กับเบียร์แทบสร่างเมา หันขวับไปตรงประตูอย่างหวาดๆ ภาพเจ้ที่กองอยู่กับพื้นในห้องดับจิตเมื่อตอนกลางวันยังหลอนติดตาไม่หาย
พรึบบบ
นัทแน่ใจว่าเขาไม่เขาไม่ได้เมาจนเห็นภาพหลอน ...ตะกี้ เขาเห็นตัวอะไรไม่รู้ชายสไบสีแดงๆวิ่งผ่านประตูห้องเขาไป...?
พรึ่บบบบบ
นั่นไง ชัดเจนเต็มสองตา ผู้หญิงใส่ชุดไทยวิ่งผ่านประตูหน้าห้องไปด้วยความเร็ว ... คราวนี้ไม่ใช่แค่วิ่งผ่านไปเฉยๆนะ ใบหน้าที่ไร้ตาดำกับปากแดงๆนั่นยังหันมายิ้มให้เขาอย่างสวยงามอีกด้วย
เชี่ย... นัทสบถในใจพลางมองซ้ายมองขวาอย่างหาทางหนีทีไล่ อยากจะเอากระป๋องเบียร์ปาหัวผีแต่ก็เสียดายเบียร์ที่ยังเหลืออีกตั้งครึ่งกระป๋อง ...ขณะที่กำลังคิดเพลินๆ อยู่นั้นแขกชุดไทยสีแดงที่ไม่รู้ว่าเชิญมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ก็โผล่เข้ามาอยู่ในห้องนอนเขาเป็นที่เรียบร้อย
“อ้ากกกกกก” ชายหนุ่มร้องเสียงหลงเบาๆคนเดียว หน้าซีดเหงื่อแตกพลั่ก ก่อนจะถอยร่นไปที่เตียง นัทก้าวถอยหลังช้าๆ พร้อมกับที่เจ้ชุดแดงค่อยๆเดินเข้ามาในห้องเขาช้าๆเช่นกัน แต่จู่ๆผีสาวชุดไทยผีแดงก็หายวับไป พร้อมๆกับที่ร่างสูงที่กำลังถอยหลังอยู่สะดุดกึก ...เมื่อเขาถอยไปชนกับร่างใครบางคนอย่างจัง
เชี่ย...มาพร้อมกันสองตัวเลยเหรอวะ... นัทคิดในใจพลางหลับตาปี๋ ไม่กล้าหันแม้แต่ไปมองร่างที่เขาถอยไปชน ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อผีเจ้ากรรมเอามือมาแตะไหล่ทั้งสองข้างของเขาไว้ นัทสะบัดวืด จนอีกฝ่ายเซไปบนเตียง เป็นจังหวะเดียวกับฝ่ายที่ถูกผลักยึดไหล่เขาไว้แน่น ...ชายหนุ่มลงไปนอนกองทับตัวสิ่งที่ลี้ลับบนเตียงอย่างสวยงาม
“เฮ้ย?” นัทลืมตาโพลงพลางสำรวจสิ่งที่เขานอนทับ ผีร้ายหน้าตาน่ากลัวในจิตนาการถูกแทนด้วยร่างบางที่คุ้นเคย ผมยาวเป็นลอนกับดวงหน้าหวานสวยอยู่หางกันไม่ถึงคืบ นัทมองใบหน้าของคนที่เขากำลังคิดถึงอยู่อย่างเผลอไผล ดวงหน้าคมลดต่ำลงไปเรื่อยๆเกือบจะสัมผัสคนที่ถูกทาบทับอยู่ข้างล่างก่อนจะ...
ป๊าบบบ
“โอ๊ย ”
“จะทำบ้าอะไร? เราหนัก ลุกออกไปได้แล้ว” ซินเอามือมาฟาดเบาๆบนหน้าผากชายหนุ่ม ทำให้นัทต้องผละจากอีกคนอย่างเสียดาย ร่างสูงลุกก่อนจะปล่อยคนในอ้อมกอดที่ถูกทาบทับให้ลุกขึ้นมานั่งบนเตียงด้วยกัน ก่อนนัทจะอุทานอย่างตกใจอีกรอบ
“เฮ้ย ทำไมเราแตะตัวซินได้อ่ะ?”
“คุณกับผมจะสามารถสัมผัสกันได้ในทุกคืนพระจันทร์เต็มดวง ...ไว้พรุ่งนี้ค่อยอธิบายให้ฟังแบบละเอียดนะ ซินเหนื่อยมากทั้งวันแล้ว” ซินทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มของอีกฝ่ายอย่างหมดแรง ก่อนจะนึกขึ้นได้ หันมากล่าวลาร่างสูง
“ฝันดีนะนัท พรุ่งนี้มีเรื่องต้องคุยกันอีกยาวเลย”
“เดี๋ยว...แล้วสรุปว่าคุณจะอยู่กับผมต่อใช่ไหม? จะไม่หนีผมไปแล้วใช่ไหม” นัทเขย่าแขนอีกฝ่ายอย่างดีใจจนลืมตัว
“ขืนทิ้งคุณไปคุณได้โดนผีหลอกจนช็อคตายแน่...คุณยังต้องช่วยให้ผมเข้าร่างได้อย่าลืมสิ แต่ตอนนี้ผมขอนอนก่อนเถอะ วันนี้เหนื่อยทั้งวันจริงๆ” ร่างบางบอกก่อนจะหลับตาเข้าสู่ห้วงนิททราไป ...วิญญาณเมื่ออ่อนแรงก็ต้องอยู่นิ่งๆ หรือนอนหลับเพื่อพักผ่อนเช่นเดียวกัน
“ฝันดีครับซินเซียร์” นัทนั่งมองอีกฝ่ายนอนหลับอยู่บนเตียของเขายิ่งสามารถสัมผัสอีกฝ่ายได้แบบนี้ยิ่งรู้สึกใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูกเมื่ออยู่ใกล้กันขนาดนี้ ชายหนุ่มลอบมองซินอยู่สักพักก่อนที่จะรู้สึกง่วงนอนเช่นเดียวกัน นัทค่อยๆลงไปนอนข้างๆอีกฝ่าย ก่อนจะแอบช่วงชิงความหวานที่ริมฝีปากฝ่ายที่กำลังนอนหลับอยู่อย่างเผลอใจ
“ถือเป็นค่าช่วยกลับคืนร่างแล้วกันนะครับ”
แล้วแขนแกร่งก็โอบกอดร่างบางข้างๆไว้ตลอดคืน....
TBC.
TALK :ขยายตัวษรนิดนึง ...เราเพิ่งรู้ตัวว่าฟร้อนตอนแรกๆเล็กมาก ทำใครปวดตาต้องขอโทษจริงๆค่ะ
มาต่อแล้วนะคะ ก่อนจะหายไปสักสามสี่วัน ไรท์เตอร์จะสอบตรงมศว. ขอเวลาไปอ่านหนังสือก่อนค่ะTT
ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามกันค่ะ♥
ความคิดเห็น