ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic EXO x SNSD] ...."Operation Evil Nightmare"....

    ลำดับตอนที่ #7 : C H A P T E R 4 : Dubious

    • อัปเดตล่าสุด 6 ส.ค. 55


     



    C H A P T E R  4 : Dubious

     

     

     

     






    ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก

     


     


    เสียงฝีเท้าวิ่งไปตามทาง ผ่านบ้านเรือนต่างๆมากมาย ถนนที่ดูรกร้างว่างเปล่า ทุกอย่างดูเงียบเชียบจนน่ากลัว ไม่มีแม้แต่เสียงสรรพสิ่งใดๆ นอกจากเสียงหอบและเสียงฝีเท้าของคนสองคน

     

     

    “ใกล้ถึง....หรือยัง...เนี่ย...แฮ่กๆ”ตอนนี้คยองซูหอบจนแทบจะกลายเป็นหมาบ้าอยู่แล้ว= =; ดีนะ ที่วิ่งหลบฝูงซอมบี้คุณป้า คุณลุง มาได้แล้ว ไม่งั้นเขาคงได้นอนไปชักกับพื้นแน่ๆ-*- เพราะไอ้บ้ากัมจงคนเดียว!!

    “นิ๊สสสสสสสเดียว”

    “นายพูดคำนี้...มาตั้ง...5 ครั้ง แล้วนะ!!”ไอ้นิ๊สเดียวของเพื่อนบ้านี่มัน เป็น 10 กว่ากิโลเลยใช่ไหม?- - พูดอย่างนี้มาตั้ง 5 ครั้งแล้วนะ

    “โหหหหห!! อย่าพึ่งบ่นดิ๊ ซอยข้างหน้าเนี่ย เลี้ยวขวาๆ”ไคชี้ไปยังซอยด้านหน้ามีป้ายเขียนว่า ซอยบ้านคุณคิมจงอินสุดหล่อ








    “เอิ่มมมมมมม...........=__________________________=”คยองซูทำหน้าเอือมๆ นี่มันไม่อายใครเลยเหรอฟะ?

     

    ในที่สุดสารวัตรนักเรียนสุดหล่อไคก็พาท่านประธานโดคยองซูมาถึงบ้านจนได้ ประตูรั้วเล็กสีดำตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้าโดยมีบ้านสไตล์โมเดิร์นแบบตะวันตกตั้งอยู่ด้านหลัง อันที่จริงเขาอยู่บ้านกับคนใช้อีกสองคน แต่ไม่รู้ท่านพ่อกับท่านแม่จะสร้างให้ใหญ่อะไรนักหนา-*-

     

    “ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่านี่บ้านนาย”

    “ป่ะ เข้าบ้านกันเหอะ”ไคเอื้อมไปกดปุ่มด้านข้างของเสา ซักพักรูปแกะสลักของเสาก็แยกออกจากกัน นิ้วยาวกดรหัสผ่านอย่างคล่องแคล่ว

     







    กึง! ครืดดดดดดด

     








    ประตูเหล็กสีดำค่อยๆเคลื่อนเปิดออก ร่างสูงเดินนำเพื่อนตัวเล็กไปด้วยท่าทางสบายๆ ประตูบ้านด้านในเปิดออกปรากฏร่างชายวัยประมาณ 50 กว่าๆ สองคนวิ่งออกมาด้วยสีหน้าดีใจสุดขีด

    “คุณชาย!!!

    “โอ้!! ผมนึกแล้วว่าคุณชายจะต้องไม่เป็นอะไร ขอบคุณพระเจ้า”พ่อบ้านอีกคนพูดด้วยความดีใจจนตัวสั่นไปหมด ทั้งสองนั่งรอคุณชายของบ้านตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น

    “ผมไม่เป็นอะไรหรอกครับ ผมเก่งแถมผมยังแบกถังแก๊สมาได้ด้วย 555”

    “ (=___=+)” ชิ้งงงง!! สายตาพิฆาตจากถังแก๊ส(?)ถูกส่งไปยังคนตัวสูงที่อยู่ข้างๆ

    “คุณหนูคยองซูเข้าบ้านก่อนเลยดีกว่าครับ เหนื่อยๆกันมา”

    “ทำไมเรียกผมว่าคุณหนูอ่ะครับ”

    “คุณหนูน่ารักเกินกว่าจะเรียกว่าคุณชายได้น่ะครับ เรียกคุณหนูดีกว่า”พ่อบ้านอีกคุณพูดอย่างสุภาพ

     

     

    “ฮิๆๆ ต๊ายยยย!! ตัวเธอว์ไม่มีความแมนเลยนะยะ!”ไคแกล้งบีบเสียงเล็ก แล้วก็ทำท่าสะดีดสะดิ้งให้พองามก่อนจะเดินสะบัดก้อนอันแสนกลมกลึง(?)เดินนำหน้าไป ทิ้งให้ถังแก๊สตราคยองซูยืนหน้าง้ำหน้างออยู่คนเดียว

     

     

     










    หลังจากที่พักผ่อนกินอะไรกันหายเหนื่อยแล้ว ท่านสารวัตรไคก็ไล่ให้ท่านประธานไปอาบน้ำ ตอนแรกคนตัวเล็กก็ไม่ยอมไปแต่พอเจอสายตาดุๆนั่นก็เลยต้องไปซะเอง ขาสั้นๆก้าวขึ้นบันไดอย่างรวดเร็ว ที่จริงคยองซูก็เคยมาค้างที่นี่แล้ว ก็เลยรู้ว่าตรงไหนเป็นตรงไหนบ้าง

    “คุณชายจะไปจริงๆเหรอครับ”พ่อบ้านทั้งสองมีสีหน้ากังวลอย่างชัดเจนเมื่อรู้ว่าคุณชายของพวกเขาตั้งใจจะออกเดินทาง ทั้งๆที่มันอันตรายอย่างนี้

    “ใช่ครับ ผมจะค้างที่นี่ซักคืนแล้วค่อยออกเดินทางพรุ่งนี้”

    “มันอันตรายมากนะครับ คุณชายอยู่ที่นี่ดีกว่านะครับ”

    “ถ้าผมอยู่ที่นี่ไปเรื่อย ซักวันเสบียงของเราก็จะหมดและมันจะเกิดปัญหาตามมาที่หลัง ผมจะหาคนมาช่วย และผมอยากให้คุณพ่อบ้านอยู่ที่นี่แล้วมาผมจะมารับ”

     “แต่ว่า...”พ่อบ้านทั้งสองกำลังจะเอ่ยค้าน กลับถูกคุณชายของบ้านขัดเสียก่อน

    “เชื่อผมสิครับ ผมเคยทำให้ผิดหวังซะที่ไหนกัน”

    “ก็ได้ครับ”

    “งั้นผมขอตัวขึ้นไปข้างบนก่อนนะครับ”ไคลุกขึ้นและเดินขึ้นไปข้างบน แววตาอันเศร้าสร้อยของพ่อบ้านมองดูคุณชายที่พวกเขารักยิ่งชีพ ไม่อยากให้ไปเพราะมันอันตราย

     

     









    “กัมจงงงงงงงงง”ทันทีที่ร่างสูงเปิดประตูห้องเข้าไป เสียงใสๆก็ตะโกนออกมาจากห้องน้ำทันที

    “อารายยยยยยยยยย”

    “.................ฉันลืมเอาผ้าเช็ดตัวเข้ามาง่ะTT”คยองซูมัวแต่เพลิดเพลินกับน้ำอุ่นจากฝักบัวจนลืมไปว่าตัวเองลืมหยิบผ้าขนหนูสำหรับเช็ดตัวเข้า

    “นายไม่ต้องใช้หรอก ออกมาทั้งอย่างนั้นแหละ 5555”

    “ไอ้บ้า!! งั้นฉันก็โป๊สิโว้ยยยย เอามาให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ!!”เสียงใสเริ่มตะโกนดังขึ้นเรื่อยๆ สื่อให้รู้ว่าคนในห้องน้ำเริ่มจะมีน้ำโหแล้ว

    “ออกมาเอาเองดิ 555”

    “ไอ้บ้าไค ไอ้คนใจร้าย ไอ้คนลามก ไอ้คนผีทะเล ไอ้คนแล้งน้ำใจ ไอ้เพื่อนนิสัยไม่ดี ไอ้บ้ากัมจง!!!”คำพูดต่างๆนาๆไหลพรั่งพรูออกมาจากปากเล็กราวกับปืนกลที่รัวไม่หยุด-*-

    “โหหหหหหหหห!!! มาเป็นชุดเลยนะพ่อคุณ อ่ะๆผ้าขนหนูอยู่นี่”มือยาวหยิบผ้าเช็ดตัวผืนยาวยื่นให้เพื่อนซี้ที่ยื่นมือออกมาจากห้องน้ำ ถ้าช้ากว่านี้อาจมีไปถึงโคตร= =*

     

     





    “กัมจงงงงงงงงงงงงงงงงง”

    “-*- เรียกอีกล่ะ ไม่สนเชอะ!!

    “ไคคคคคคคคคคคคคคคคคค”

    “-3-“

    จงอินนี่~~~

    “คร๊าบบบบบบบบบบบบบบบ”ทุกที-*- แพ้ทุกทีเวลาโดนเจ้าเพื่อนตัวเล็กอ้อนเนี่ย- -*

    "แล้วฉันจะใส่ชุดอะไรอ่า”

    “เดี๋ยวเอาชุดฉันใส่ก่อนละกัน เดี๋ยวหยิบให้”ไคลุกขึ้นเต็มความสูงก่อนจะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเลือกเสื้อและกางเกงที่ตัวเล็กที่สุดแล้ววางบนมือเล็กที่ยื่นรออยู่

     

     

     


    คยองซูใช้เวลาอาบน้ำทั้งสิ้น 30 นาที ทำเอาคนรอผล็อยหลับไปซะก่อน ร่างเล็กเดินไปปลุกเพื่อนสนิทที่นอนขึ้นอืดอยู่บนเตียง-*-

    “จงอิน”

    “อืมมมมม.....ว่าไง”ไคลืมตาขึ้นมาข้างหนึ่งก็เห็นเพื่อนซี้นั่งอยู่ข้างๆ กลิ่นหอมอ่อนๆของสบู่ลอยมาแตะจมูก

    “จะเดินทางพรุ่งนี้เหรอ”

    “ใช่ อย่าพึ่งคิดเรื่องเดินทางเลย นอนก่อนเหอะ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”มือยาวๆลากคอถังแก๊สที่พึ่งอาบน้ำเสร็จลงมานอนด้วย กลิ่นเหงื่อของไคลอยมาแตะจมูกคยองซู ทำเอาต้องรีบปิดจมูกแทบไม่ทัน

    “ไค นายไปอาบเดี๋ยวนี้เลยนะโว้ยยย!!

    “ทีหลังละกัน อาบพรุ่งนี้ก็ได้ นอนๆๆ”

    “ไป อาบ น้ำ!!”คยองซูเน้นทีละคำแบบชัดเจน แต่ไอ้เพื่อนบ้ามันดั๊นมุดเข้าไปอยู่ใต้ผ้าห่มซะละ เดี๋ยวแม่จัดหนัก!!!

     

     





    โครม!!!!

     







    “โอ๊ยยยย!!! ไรวะเนี่ยT^T”เท้างามๆของคยองซูถูกส่งไปที่สะโพกกลมกลึง(?)ของไคจนลงไปจูจู๊บกับพื้นห้อง ทำเอาไคร้องเสียงหลง ใบหน้าคมเหยเกพลางลูบก้นตัวเองป้อยๆ

    “๐--(-___-)”แม้ไม่มีเสียงแต่ไคก็เข้าใจทันที ถังแก๊สแม่งโหดโว้ยยยย!!!

    “ไปแล้วค้าบๆๆๆ”

    “ฮึ่ยยย ต้องให้โหดอยู่เรื่อย -3-“คยองซูหยิบนิตยสารเกมส์ขึ้นอ่านฆ่าเวลา เขาไม่ได้ชอบอ่านหรอกนะ แต่มันมีแต่แบบนี้อ่ะ-*- ก็เลยต้องอ่าน สักพักถังแก๊สตราโดคยองซูก็ไปเข้าเฝ้าพระอินทร์ ไคที่พึ่งอาบน้ำเสร็จเดินออกมาในชุดกางเกงวอร์มขายาว เสื้อกล้ามสีขาว

    “ยี๋.!! โด้นอนน้ำลายยืดด้วยเหรอวะเนี่ย? จริงๆเลย”ไคส่ายหัวแบบเอือมๆก่อนจะหยิบกระดาษชิชชู่มาเช็ดให้เจ้าเพื่อนตัวเล็ก

    “ฝันดี ถังแก๊ส”ไคล้มตัวลงนอนบนเตียงและไม่ลืมที่จะห่มผ้าห่มให้คนข้างๆด้วย ไม่นานไคก็ได้ไปเข้าเฝ้าพระพรหมด้วยอีกคน= =

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     









    “อีกไกลมั้ยคะ? พี่ทิฟฟานี่”เด็กสาวแก้มป่องเอ่ยถามพี่สาวที่เดินนำอยู่ข้างหน้าด้วยอาการเหนื่อยอ่อน นี่ก็เดินมาประมาณ 3 ชั่วโมงได้แล้วมั้งเนี่ย เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว!

     

    “เหนื่อยเหรอ? งั้นเดี๋ยวหาที่พักก่อนก็ได้”ทิฟฟานี่หันไปมองซันนี่สลับกับลู่หาน ซันนี่นั้นดูเหนื่อยอ่อนมาก ผิดกับลู่หานที่ดูไม่เหนื่อยเลยซักนิด อาจเป็นเพราะซันนี่เป็นผู้หญิงด้วยละมั้ง เอ๊ะ? แล้วเธอไม่ใช่ผู้หญิงหรือไง-*-
    “ผมว่าตรงนั้นน่าจะปลอดภัยนะ”นิ้วเรียวขาวของลู่หานชี้ไปยังร้านขายของกิ๊ฟช๊อป ทิฟฟานี่พยักหน้าเห็นด้วย มือบางจูงมือซันนี่มาด้วยพร้อมกับเดินไปยังร้านนั้น

    “เดี๋ยวผมเข้าไปดูข้างในให้เอง”ลู่หานค่อยๆเดินเข้าไปในร้านที่มีแสงไฟริบหรี่ ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดสวิชต์ไฟ

     




    พรึบ!

     






    “กิ๊ซซซซซซซซซซซซซซซซซซ!!!!!”ทันทีที่ไฟทั้งร้านสว่างขึ้น ผนังห้องกลับเต็มไปด้วยสัตว์กลายพันธุ์หน้าตาน่าขยะแขยง ศพที่อยู่ตามพื้นถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆตามพื้นและผนังมีรอยกรงเล็บขนาดใหญ่ซึ่งเกิดจากฝีมือของพวกมัน

     

    Licker

    Licker เป็น B.O.W. ซึ่งกลายพันธุ์มาจาก Zombies ให้กลายเป็นนักล่าที่รวดเร็วและเป็นตัวอันตราย

    การเปลี่ยนแปลงของซอมบี้เป็นลิคเกอร์จะทำให้เกิดอาการสมองบวมและมองไม่เห็น มัดกล้ามมีการพัฒนาสูญเสียผิวไปทั้งหมดและสร้างขึ้นมาใหม่ เนื้อเยื่อใหม่เหล่านี้ช่วยให้มันสามารถทำในสิ่งที่ซอมบี้ ทำไม่ได้ มันกระโดดได้สูงและไกลอย่างไม่น่าเชื่อ สามารถเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วขณะเดียวกันโครงสร้างกระดูกที่บิดเบี้ยวทำให้มันต้องเคลื่อนที่ด้วยการคลาน มันยังใช้กรงเล็บปีนตามผนังหรือเพดานได้อย่างง่ายดาย มันล่าเหยื่อโดยไม่ทันตั้งตัวซึ่งถือว่ายังฉลาด ลิ้นของมันมีพลังมีกำลังมหาศาลซึ่งเหมาะกับการตัดเนื้อคนและมักจะใช้ในการตัดหัวเหยื่อ ถึงแม้ว่าธรรมดามันจะอยู่อย่างเงียบๆและเป็นเจ้าแห่งการลอบสังหาร มันจะมาพร้อมเสียงกรงเล็บกระทบกับสิ่งที่มันเกาะและเสียงเบาๆของมัน เมื่อถูกโจมตีหรือได้รับบาดเจ็บมันจะกรีดร้องซึ่งไม่ค่อยน่าฟัง มันจะร้องอย่างเจ็บปวดมากเมื่อมันถูกสังหาร

    ลิคเกอร์ได้สูญเสียประสาทการมองเห็นทั้งหมดและไม่สามารถติดตามเหยื่อด้วยการมองแต่ประสาทการได้ยินก็ถูกพัฒนาเพื่อชดเชย เมื่อพบเหยื่อมันจะโจมตีด้วยฟัน ลิ้น และกรงเล็บอย่างเต็มที่จนกว่าเหยื่อจะตาย

     

     

     

     

    “ลู่หาน ระวัง!!!!”ทิฟฟานี่ตะโกนบอกลู่หานที่อยู่ในร้าน

    “ก๊าซซซซซซซ!!!”ลิคเกอร์ตัวที่อยู่ด้านข้างกระโจนใส่ลู่หาน แต่ร่างสูงไหวตัวทันกลิ้งตัวหลบและรีบวิ่งออกมานอกร้าน

     

     





    ปัง!! ปัง!!! ปัง!!

     

     






    “ทิฟฟานี่คุณพาซันนี่หนีไปก่อน เดี๋ยวผมตามไป!!

    “ลู่หาน คุณจะบ้าเหรอ!?!

    “เร็ว!!!!

     





    ลู่หานยืนประจันกับฝูงลิคเกอร์ทั้งหมดกว่า 8-9 ตัว ร่างโปร่งหยิบมีดที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อออกมา ใบหน้าหวานที่ละม้ายคล้ายกับผู้หญิงยกยิ้มขึ้น แต่มันเป็นรอยยิ้มที่ดูเยือกเย็นและน่ากลัว

    “กิ๊ซซซซซซซซซ!!!!!”ลิคเกอร์ตัวแรกพุ่งเข้ามา ลู่หานกระโดดหลบไปยังอีกด้านหนึ่ง ลิคเกอร์อีกตัวตวัดลิ้นมาหมายจะให้โดนลู่หาน มือเรียวจับลิ้นยาวนั่นเอาไว้และตัดมันออก

     





    ฉั่วะ!!!!!!!!

     










    “กิ๊ซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ!!!!”มันร้องโหยหวนด้วยความทรมาณ พรรคพวกตัวอื่นๆที่เหลือของมันคำรามด้วยความโกรธก่อนจะพุ่งเข้าใส่พร้อมกัน

     








    โครม!!!

     








    ลู่หานกระโดดหลบอีกครั้งส่งผลให้พวกมันกระโจนชนกล่องสิ่งของล้มไม่เป็นท่า ลู่หานใช้จังหวะนี้วิ่งเข้าไปใช้มีดเฉือนเข้าที่สมองของพวกมันรวดเดียว 3 ตัว





     ฉั่วะ!!! ฉั่วะ!!! ฉั่วะ!!!

     





    “ก๊าซซซซซซ!!!”มันร้องอย่างทรมาณก่อนจะล้มลงไปแน่นิ่ง ลิคเกอร์อีกประมาณ 6 ตัวรวมทั้งตัวที่ถูกลู่หานตัดลิ้นขาดต่างพุ่งเข้ามาพร้อมกับกรงเล็บที่สามารถฆ่ามนุษย์ได้ในเพียงพริบตา

     



    ฉึก!!

     






    มีดคมเสียบเข้ากลางอกของหนึ่งในลิคเกอร์ที่พุ่งเข้ามา เสียงร้องโหยหวนของมันดังไปทั่ว ลู่หานใช้ศพของมันบังลิคเกอร์ตัวอื่นๆเอาไว้ก่อนจะโยนศพของมันใส่ลิคเกอร์ตัวที่อยู่ด้านซ้าย

     




    ฟ้าวววว!! ฉึก!!

     







    ลิคเกอร์ 2 ตัว ที่ล้อมลู่หานเอาไว้ ตวัดลิ้นใส่ลู่หานแต่ร่างสูงนั้นก้มตัวหลบทำให้ลิ้นของพวกมันต่างแทงเข้าที่สมองของทั้งสองตัว เลือดสีแดงกระเด็นเปื้อนใส่ลู่หาน

    “กิ๊ซซซ!!! ก๊าซซซ!!”ลิคเกอร์ที่เหลืออยู่อีก 3 ตัว ส่งเสียงขู่ใส่ลู่หาน มันไม่สามารถมองเห็น ได้แค่เพียงได้ยิน ตอนนี้มันเริ่มจะรู้สึกกลัวสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามัน สิ่งที่สามารถฆ่าพรรคพวกของมันไปได้ถึง 6 ตัว

     




    ตึก ตึก ตึก

     






    เสียงฝีเท้าเดินเข้าใกล้พวกมันมากขึ้นเรื่อยๆ ลู่หานรู้ว่าพวกมันกำลังกลัว ลิคเกอร์ที่อยู่ทางด้านซ้ายเริ่มตวัดลิ้นใส่ลู่หานอีกครั้ง  ลู่หานเอี้ยวตัวหลบซึ่งมันหวิดหน้าเขาไปเพียงเส้นยาแดงผ่าแปด

     




    ฟ้าววววววว!!! ฉึกกก!!!

     







    มีดคมถูกปาจากมือเรียว ตรงไปยังหัวของลิคเกอร์ที่ตวัดลิ้นมาเมื่อกี๊ มีดคมเสียบเข้ากลางสมองของมัน เลือดสีแดงสดไหลออกมามากมาย มันกรีดร้องสุดเสียงก่อนจะสิ้นใจไป ลิคเกอร์อีก 2 ตัวที่เหลือ รีบพากันกระโดดหนีไปทันที ลู่หานหัวเราะในลำคอ

     






    “หึ!”ฉับพลันใบหน้าที่ดูน่ากลัวในตอนที่ต่อสู้กับลิคเกอร์แปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าที่ใสซื่อทันที่ เมื่อได้ยินเสียงของซันนี่และทิฟฟานี่เรียก

    “ลู่หาน!!! คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?”ทิฟฟานี่วิ่งมาด้วยความรวดเร็ว ดวงตากลมโตมองไปรอบๆที่มีแต่ศพลิคเกอร์เกลื่อนเต็มไปหมด

    “ผมไม่เป็นอะไรครับ”

    “พี่ลู่หาน พี่ทำได้ยังไง อย่างกับพี่หลุดออกมาจากเกมส์ที่ฉันเล่นเลยอ่ะ”ซันนี่ที่เฝ้าดูลู่หานต่อสู้ตั้งแต่ต้นจนจบ ถึงกับตกตะลึง ไม่คิดว่าคุณหมอคนนี้จะเก่งได้ขนาดนี้

    “ฮ่ะๆ พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน”

     

    ทิฟฟานี่เดินไปรอบๆของศพลิคเกอร์ ดวงตาหวานเต็มไปด้วยความสงสัย ศพลิคเกอร์ทั้งหมด 7 ตัว คนธรรมดาคงทำไม่ได้ขนาดนี้แน่ ทิฟฟานี่มองลู่หานด้วยแววตาสงสัยและเริ่มจะไม่ไว้ใจ คนๆนี้ ไม่ใช่แค่หมอแน่นอน

    “เราไปหาที่พักที่ปลอดภัยกว่านี้เถอะ”ทิฟฟานี่เดินนำทั้งสองไปโดยมีซันนี่ที่พูดคุยกับลู่หานอย่างตื่นเต้นเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อกี๊

     

     

     

     









     

    “เคลียร์!!! ในนี้ปลอดภัย”ในที่สุดหลังจากเดินทางมานาน ทิฟฟานี่เจอป้อมตำรวจจึงเข้าไปสำรวจด้านใน ก็พบว่าปลอดภัยไร้ซึ่งสิ่งใดๆ ลู่หานเดินเข้ามาพร้อมกับซันนี่ ร่างบางของทิฟฟานี่ทิ้งตัวลงบนโซฟาที่มีคราบเลือดนิดหน่อยก่อนจะถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน

    “พี่นี่สุดยอดจริงๆนะคะ ฉันนับถือเลย ไม่เคยเห็นใครเก่งเท่าพี่มาก่อนเลย”ซันนี่พูดตาเป็นประกาย ตอนนี้ดูเหมือนร่างเล็กจะคลั่งไคล้คุณหมอตรงหน้าเข้าให้แล้วล่ะสิ

    “ฮ่าๆ พี่ไม่เก่งขนาดนั้นหรอก แค่เคยฝึกมานิดหน่อยน่ะ”

    “นี่ขนาดฝึกนิดหน่อย พี่ลู่หานยังได้ขนาดนี้ ถ้าฝึกหนัก นี่สงสัยคงเป็นสุดยอดปรมาจารย์เลยมั้งคะเนี่ย”

    “555 ซันนี่พูดเกินไป พี่ไม่เน้นขนาดนั้นหรอก”ลู่หานหัวเราะกับท่าทางอันกระตือรือร้นของเด็กผู้หญิงคนนี้ก่อนจะเหลือบไปมองทิฟฟานี่ที่ผลอยหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วก็ไม่รู้ คงจะเหนื่อยจากการเดินทาง

     

    “จุ๊ๆคุณทิฟฟานี่หลับไปแล้ว”ลู่หานหันไปทำท่าจุ๊ๆกับซันนี่ เด็กสาวหันไปมองทิฟฟานี่ก่อนจะพยักหน้าอย่างเข้าใจ

    “ถ้าง่วงก็หลับไปก่อนได้นะครับ เดี๋ยวพี่จะคอยเฝ้าให้เอง”

    “ค่ะ”ซันนี่ล้มตัวลงนอนโซฟาข้างๆทิฟฟานี่และเข้าสู่นิทราไป ลู่หานมองดูหญิงสาวตรงหน้าสองคนด้วยสายตาเย็นชา ใบหน้าหวานที่ขี้เล่นแปรเปลี่ยนเป็นสีหน้านิ่ง ดวงตากลมมองดูทิฟฟานี่ไม่วางตา ซักพักก็เปลี่ยนเป็นอ่านเอกสารที่อยู่ในกระเป๋าแทน....

     

     

     


     

    “อืมมมม.....”หญิงสาวขยับตัวไปมา ดวงตาหวานค่อยๆลืมตาขึ้นพลางมองไปรอบๆห้อง เห็นเพียงซันนี่ที่ยังนอนอยู่แต่กลับไม่เห็นลู่หาน ทิฟฟานี่รีบลุกขึ้นแล้วเดินไปที่หน้าต่างมองออกไปด้านนอกก็พบว่ามืดแล้ว  ขาเรียวเดินไปค้นอีกห้องหนึ่งก็พบแต่ความว่างเปล่า คิ้วเรียวขมวดกันจนเป็นปม





    ฟึบ!

     



     

    เงาดำปริศนาผ่านหางตาทิฟฟานี่ไป มือบางหยิบปืนขึ้นมาตั้งท่าโดยสัญชาตญาณ เงาดำนั่นยืนนิ่งอยู่ที่เสา ทิฟฟานี่เดินเข้าไปใกล้เรื่อยๆ

    “ใครน่ะ!

    “โว้วๆ คุณจะยิงผมเหรอ นี่ผมลู่หานเอง”แสงสว่างจากแสงจันทร์ที่ลอดผ่านหน้าต่างกระทบกับใบหน้าเรียวของลู่หาน ลู่หานมีท่าทีตกใจที่ทิฟฟานี่ทำเหมือนจะยิงเขา

    “ฉันก็นึกว่าใคร”ร่างบางถอนหายใจด้วยความโล่งอก พร้อมกับเก็บปืนเข้าที่เดิม

    “ผมออกไปหาอาหารข้างนอกมา ได้มานิดหน่อยแต่ก็พอกินสำหรับมื้อนี้”ลู่หานโชว์อาหารที่เขาหามาได้ให้ทิฟฟานี่ดู มันเป็นเนื้อสุกสำเร็จรูปในถุงและเดินไปเปิดไฟให้สว่างขึ้น

     


    ทิฟฟานี่พยักหน้ารับ ขาเรียวพาตัวเองไปยังซันนี่ก่อนจะสะกิดเด็กสาวแก้มป่องให้ตื่นขึ้นมา ซันนี่ลุกขึ้นมาด้วยท่าทางสะลึมสะลือและเดินไปนั่งข้างลู่หานที่กำลังแกะเนื้อในถุง

    “เนื้อเหรอคะ พี่ลู่หาน”

    “ใช่แล้ว สำหรับมื้อนี้”ลู่หานค่อยๆเทเนื้อลงบนกระดาษอย่างเท่าๆกันและยื่นให้ทิฟฟานี่กับซันนี่

    “อีกไกลมั้ยครับ คุณทิฟฟานี่ เราถึงจะถึงฐานทัพทหาร”

    “อีก 40 กิโลเมตรค่ะ ถ้าจะให้เร็วเราคงต้องหารถ แต่ก็ต้องรอให้ถึงพรุ่งนี้ก่อน กลางคืนมันอันตรายเกินไป”ที่จริงทิฟฟานี่อยากจะถามว่าลู่หานออกไปข้างนอกคนเดียวได้ยังไงตอนกลางคืนแต่เธอก็เลือกที่จะเก็บไว้ก่อน

    “ครับ”

    “พี่คุยกันอยู่สองคน ไม่สนใจฉันบ้างเลยน้าาาาา -)3(-”ซันนี่เรียกร้องความสนใจด้วยพองลมที่แก้ม ทิฟฟานี่ยิ้มออกมาน้อยๆส่วนลู่หานอดหมั่นเขี้ยวไม่ได้ที่จะขยี้หัวตัวเล็กข้างๆ เขาและซันนี่สนิทกันอย่างรวดเร็วคงเป็นเพราะซันนี่นั้นเป็นคนร่าเริงก็เลยสนิทกันได้ไม่ยาก

    “โอ๊ยยย!! พี่ลู่อ่า ขยี้หัวฉันยุ่งหมด-*-“ซันนี่ยู่ปากพลางตีมือลู่หานที่มาขยี้หัวเธอซะยุ่งไปหมด

     “55555555”ลู่หานหัวเราะร่าจนตาปิด ทิฟฟานี่มองดูคนตรงหน้าทั้งสองด้วยสายตาที่บอกไม่ถูก สมองนึกถึงภาพในอดีต ที่เธอยังมีคู่หูคนหนึ่งที่เคยทำงานร่วมกัน

     

     












    “ยัยเตี้ย=w=

    “อะไรเนี่ย?? อยู่ๆนายก็มาว่าฉันว่าเตี้ย นี่กะจะหาเรื่องกันเรอะ??”ทิฟฟานี่ค้อนตาขวางใส่คู่หูที่บังอาจมาว่าเธอเตี้ยได้ยังไงกัน!!!

    “เปล๊าาาาาาา เห็นเธอชอบทำหน้าเครียดตลอด ก็เลยแกล้งบ้างไม่อยากให้เครียด”ร่างสูงยู่ปากพยายามทำตัวให้น่ารักๆ เพราะเขาไม่อยากให้เพื่อนตัวเล็กคนนี้เครียดกับงานมากเกินไป

    “แต่นายจะทำให้ฉันเครียดหนักกว่าเดิมอีกนะ ชานยอล =3=

    “คนเครียดที่ไหนเขายิ้มจนหน้าบานขนาดนี้เล่า”ชานยอลยื่นมือไปขยี้หัวร่างบางตรงหน้าอย่างหมั่นเขี้ยว

    “โอ๊ยยย หัวฉันยุ่งหมด”

    “5555 กลายเป็นยัยสิงโตฟานี่ไปซะแล้ว”ชานยอลหัวเราะร่า ก่อนจะทำท่าแลบลิ้นปลิ้นตาแล้ววิ่งหนีอย่างรวดเร็ว แกล้งแล้วชิ่งครับ=w=

    “หยุดเดี๋ยวนี้นะ!! นายปาร์คชานยอล!!!!”ร่างบางรีบวิ่งตามคู่หูตัวแสบไปทันที หนอย!! อย่างนี้ต้องจับมาลงโทษซะให้เข็ด!!!

     

     

     


    นึกถึงวันวานก็ทำเอาทิฟฟานี่นึกถึงคนๆนั้นจนได้ แต่ก็คงจะไม่มีวันนั้นอีกแล้ว เพราะเพื่อนที่เธอรักมากที่สุดได้จากเธอไปแล้วตลอดกาล.....

     

     

     




     

    “หยุด!! นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ! วางอาวุธลงเดี๋ยวนี้!!”คนร้ายถูกตำรวจล้อมไว้รอบโกดัง ทำให้ไม่สามารถหนีไปไหนได้ ชานยอลถือปืนจ่ออยู่ไกลๆอย่างระมัดระวังและค่อยเดินเข้าไปใกล้เรื่อยๆ คนร้ายดูมีท่าทีหวาดกลัวและลนลาน ก่อนจะยกปืนขึ้นมาขู่ไม่ให้ชานยอลเข้าใกล้มากกว่านี้

    “ออกไปนะเว้ย!!!

    “วางอาวุธลงเดี๋ยวนี้!!

    “กูไม่วาง!!”สิ้นเสียงคนร้ายรีบวิ่งเข้าไปอีกห้องทันที โดยมีชานยอลวิ่งตามไปติดๆ

    “ชานยอล อย่าเข้าไปใกล้เกินไป!!”เสียงหวานของทิฟฟานี่ตะโกนตามหลังชานยอลไป

     

     


    ปัง!!!! ปัง!!!!

     


    ตุบ!

     

    “ชานยอลลลลลลลลลลลล!!!!!!!!!!!!!”เหมือนกับหัวจะแตกสลายออกเป็นเสี่ยงๆ เพื่อนรักของเธอล้มลงไปต่อหน้าต่อตา ทิฟฟานี่รีบวิ่งเข้าประคองชานยอลขึ้นมา เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เหลือต่างตามจับคนร้ายทันที

    “นายต้องไม่เป็นไรนะ ต้องไม่เป็นไร”เสียงใสเริ่มสั่นเครือขึ้นเรื่อยๆ มือเรียวเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดของชานยอลที่ไหลออกมาไม่ขาดสาย

    “ทิฟ.....”ใบหน้าคมที่เคยดูมีชีวิตชีวากลับซีดลงจนน่ากลัว ริมฝีปากขยับพูดอย่างยากลำบาก

    “ฉันจะพานาย...ไปโรงพยาบาลเองนะ”ร่างบางรู้สึกถึงขอบตาที่เริ่มร้อนผ่าว ดวงตาใสเต็มไปด้วยม่านน้ำตา

    “ไม่...ต้อง”ชานยอลดึงมือหญิงสาวตรงหน้าเอาไว้

    “ทำไมล่ะ??”

    “ฉันไม่...รอดหรอก”ได้ยินอย่างนั้น ทำเอาทิฟฟานี่กลั้นน้ำตาไม่อยู่ ปล่อยให้น้ำตาเม็ดใสมากมายไหลรินออกมา

     

    “ทำไมนายพูดอย่างนี้...ฮึก...”

    “อย่าร้องไห้เพราะฉันเลยนะ ฉันไม่อยากเห็น....น้ำตาของเธอ ฉัน..อยากเห็นรอยยิ้ม..ของเธอ...มากกว่า”ชานยอลเอื้อมมือไปปาดน้ำตาออกจากใบหน้าสวยของคนตรงหน้าออก

    “ฮึก....ฮือๆ”

    “ทำไม...เธอนี่ชอบ...ทำอะไรที่...ขัดคำสั่งฉันอยู่เรื่อย”

    “นายก็เหมือนกัน...ฮึก”

    “ฮ่ะๆ นี่...ร้องเพลงให้ฉัน...ฟังหน่อยสิ เพลงที่เธอ...ชอบร้องให้..ฉันฟัง”ทิฟฟานี่ปาดน้ำตาออกลวกๆก่อนจะเริ่มร้องเพลงที่เธอชอบร้องให้ชานยอลฟัง

    “มี-อาน-ฮา-ดาน มัล ฮา-จี มา-รา-โย
    แน-เก ซา-รา-งึล กือ-ที อา-นิน-เด
    อี-รอ-เค อู-รี เฮ-ออ-จิน-ดา-มยอน
    ออ-ตอก-แค-โย ออ-ตอก-แค-โย
    ซา-ราง ฮา-นา ปู-นิน-เด ซา-ราง-ฮัล ซู ออบ-โก
    ชอง-มัล ฮา-โก-ชิ-พึน มัล ฮัล ซู-โด ออบ-นึน-เด
    จอม-จอม มอ-รอ-จยอ-กา-นึน ซา-รา-งี จี-กี-จี โม-ทัล มัล-ดือ-รี
    นัล อุล-เก ฮา-เน-โย 
    โค-มับ-ตา-นึน มัล ฮา-จี มา-รา-โย
    ซา-ราง-แฮ-โย ซา-ราง-แฮ-ซอ”


    “ขอบคุณ...ฉัน..ก็รักเธอเหมือนกัน”สิ้นเสียง มือที่เคยกุมมือบางของทิฟฟานี่เอาไว้ก็คลายออก ร่างสูงแน่นิ่งไม่มีแม้แต่การหายใจ

    “ชานยอล!! ไม่เอานะ!! ชานยอล!! นายอย่าทิ้งฉันไปสิ!! ชานยอล!!! ฮือๆฮึก..ฮือๆ ม่ายยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!

     

     

     

     

     

     

     



     

    “พี่ทิฟฟานี่คะ พี่ทิฟฟานี่!”เสียงใสดังก้องเข้าหูของทิฟฟานี่ เรียกเอาสติกลับมาอีกครั้ง

    “อะ อะไรเหรอ”

    “พี่ร้องไห้ทำไมคะ?”มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลออกมา นี่เธอร้องไห้ออกมาโดยไม่รู้ตัวเหรอเนี่ย?...

    “เปล่าหรอก ไม่มีอะไรๆ”ทิฟฟานี่รีบเช็ดน้ำตาออกทันที นึกถึงคนๆนั้นทีไร พาลน้ำตาไหลทุกที

    “มีอะไรก็บอกได้นะคะ เก็บไว้คนเดียวเดี๋ยวจะเครียด”ซันนี่ลูบหลังทิฟฟานี่เบาๆเพื่อเป็นการปลอบ

    “จ้ะ ขอบใจมากนะ ไปนอนพักผ่อนเถอะ ลู่หานด้วย เดี๋ยวฉันจะเฝ้าเอง”

    “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมเฝ้าเองดีกว่า”

    “คุณไปนอนเถอะค่ะ เมื่อกี๊ฉันก็ได้นอนไปบ้างเลย คุณพักผ่อนก่อนเลยค่ะ”ลู่หานพยักหน้ารับน้อยๆก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนโซฟา

     

    ดวงตากลมโตดุงหมีมองดูพระจันทร์ที่เต็มดวงผ่านหน้าต่าง แสงสว่างของดวงจันทร์สว่างไปทั่ว ทิฟฟานี่ถอนหายใจยาว ตอนนี้เธอรู้สึกโดดเดี่ยวถึงแม้ว่าจะมีซันนี่และลู่หานก็เถอะ

     

     

     



    “ฉันคิดถึงนายจัง ชานยอล”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    คุยกันซักติ๊ส!!!! 

    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!

    เสร็จไปอีกหนึ่งตอนนน เยสสสส!!! ขอโทษนะค้าที่นานะมาอัพช้าT^T  รู้สึกว่าตอนนี้มันจะยาวมาก

    และรู้สึกว่าแต่งไปแต่งมาจะกลายเป็น ฟิค y ไคโด้แล้วมั้งเนี่ย!! 555+ เอาฮุนฮานด้วยดีมั้ยๆ 555

    หรือว่าจะเอาชานแบคดี>< เพลงที่หมีทิฟร้องให้เอ๋อฟังคือเพลง Because of you ที่หมีร้องประกอบละครนะคะ
    นานะอ่านคอมเม้นท์แล้วพบว่ามีรีดเดอร์เรียกร้องแพคสิก
    !! อินังนานะมันดันมีคริสสิกโผล่มาซะงั้น-3-* ในเมื่อรีดเดอร์ต้องการ ไรเตอร์ก็ต้องตอบสนองสิเคอะ!!! เดี๋ยวนานะจัดแพคสิกสักดอกสองดอกให้รีดเดอร์ได้ชื่นใจ^w^ สำหรับ B.O.W ย่อมาจาก Bio Organic Weapon แปลว่าอาวุธชีวภาพค่ะ^^ ในบรรดาอาวุธชีวภาพทั้งหลาย นานะเลิฟๆ licker มากที่สุดแล้ว อ่ะฮิๆ อย่าหาว่าโรคจิตนะ นานะว่ามันน่ารักดีอ่ะ-..- ตอนนี้แม่นางเสี่ยวลู่บู๊เดี่ยวกระจาย ฆ่าลิคเกอร์ที่รักของนานะT^T (รีดเดอร์ : อินังนานะโรคจิต!!!) = =* ไม่เป็นไรนานะยอมรับ!!! สุดท้ายนานะขอขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์ รักทุกคนนะค้าาาาาา ^O^!!!


     


    ^
    ^
    ^
    ^
    ^
    น่ารักเน๊อะ!!!! 55555555

     




     

    The Room ! ,,MINUS

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×