คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่5
ตอนที่ 5
หลังจากที่คืนแรกของการแต่งงานผ่านไปอย่างเรียบง่าย(?) ฉันก็เริ่มไม่กล้าสบตาพี่ยงฮวาเหมือนอย่างเคย ทำไงได้หล่ะก็ฉันไม่เคยเจอผู้ชายระยะประชิดขนาดนั้นนี่นาTT^TT จูบแรกของฉันพี่ยงฮวาก็เป็นคนครอบครองมันไป ไหนจะมากอดแรกอีกต่างหาก แค่คิดหัวใจของฉันก็เหมือนจะหลุดออกมาอยู่นอกอกจริงๆนะ
สัมผัสที่แผ่วเบา
สายตาที่อ่อนโยน
ริมฝีปากที่นุ่มนวล
มันชวนให้หวนคิดถึงจริงๆ
”
” นั่นไงตัวต้นเหตุที่ทำให้ฉันเป็นบ้าเป็นหลังอยู่นี่เดินออกมาจากห้องน้ำแล้ว
”มากินข้าวเช้าสิคะ” ฉันกระแทกเสียงเล็กน้อยก่อนจะเดินหนีเข้าห้องนอนไป
”
” เหมือนพี่ยงฮวาจะตกใจกับอาการต่อต้านของฉัน แต่ฉันไม่สนแล้ว ขืนยืนอยู่ตรงนั้นนานกว่านี้นะ ฉันต้องเป็นลมจริงๆแน่
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
”ฉันหลับแล้วไม่ต้องเคาะหรอกค่ะ!” คนนอนหลับที่ไหนตอบคนอื่นได้เนี่ยซอจูฮยอน = =
”
”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
”
”
”
”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
”
”
”โอเคๆๆ พี่คะหยุดเคาะได้แล้วฉันจะออกไปแล้วค่ะ” และในที่สุดฉันก็ต้องยอมออกไปง้อเขาจนได้สินะ ขืนรอให้เขามาพูดง้อฉันคงได้รอจนแก่แน่นอน
เมื่อฉันเดินออกมาจากห้องนอนแล้วนั้นก็ต้องปะทะเข้าอย่างจังกับสายตาขี้เล่นกับรอยยิ้มมุมปากอย่างได้ใจจากผู้ชายคนนั้น! โธ่~พี่คะอย่าแกล้งให้ฉันหวั่นไหวอย่างนี้สิคะ T^T
”วันนี้ฉันจะไปหาคุณแม่ที่บ้าน แต่พี่ไม่ต้องไปหรอกนะคะ ฉันกะว่าจะไปกับมินฮยอก” ระหว่างที่เรานั่งกินอาหารเช้ากันเงียบๆอยู่ที่ห้องรับแขกฉันก็พูดขึ้นมาขัดความเงียบ
”
” สายตาของเขา
เหมือนจะถามว่า ’ไปทำไม’ สินะ
”ฉันแค่จะไปเยี่ยมท่านน่ะค่ะ” โกหกให้เนียนนะจูฮยอน ไม่งั้นแผนแตกแน่!
”
”
”ทำไมฉันไม่พาพี่ไปด้วยน่ะหรอคะ อืม
ความลับ J ”
”
” พี่ยงฮวาเปลี่ยนจากสีหน้าที่สงสัยกลายเป็นใบหน้าแสนงอนของเด็กประถม
”พี่คะ ฉันมีธุระนิดหน่อย วันนี้พี่ไปซ้อมดนตรีกับจงฮยอนแล้วก็จองชินนะคะ”
”
” แก้มป่องๆกับปากจู๋ๆนั่นมันท่าทางของเด็กน้อยที่งอนพ่อแม่ตอนไม่ได้อมยิ้มไม่ใช่หรอ ตะ
แต่ว่า ทำไมสามีฉันถึงทำท่าทางอย่างนั้นล่ะ O[]o
”คิก
คิก
> <” ท่าทางของพี่ยงฮวาตอนนี้น่าขำจริงๆนะ ไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้ชายที่แต่งงานแล้วจะยังแอบมีมุมเหมือนเด็กไม่รู้จักโตแบบนี้ด้วย สงสัยคนง้อก็คงต้องเป็นฉันอีกสินะ
”
” ฉันค่อยๆเอื้อมมือออกไปสัมผัสมือของพี่ยงฮวาเบาๆ ก่อนจะเฉลยในที่สุดถึงสาเหตุที่ฉันจะไปทำธุระกับมินฮยอก
”ฉันแค่จะไปถามท่านว่าลูกชายท่านเป็นคนยังไง ชอบกินอะไร ชอบไปเที่ยวไหน ชอบดูหนังเรื่องอะไร ทำนองนี้เฉยๆน่ะค่ะ ฉันอยากเซอร์ไพรส์พี่ไง แต่พี่มารู้แบบนี้ เฮ้อออ~ฉันเลยอดเซอร์ไพรส์เลยสินะ” ฉันแกล้งทำท่าทางผิดหวังสุดๆเพื่อปกปิดความลับที่แท้จริงเอาไว้
” J ” นั่นปะไร! ตอนนี้พี่ยงฮวาต้องย้อนกลับไปอยู่ในช่วงอายุ8ขวบแน่เลย ทันทีที่ฉันพูดจบรอยยิ้มกว้างก็ถูกระบายลงบนใบหน้าหล่อเหลาอีกครั้ง รอยยิ้มแบบผู้(ที่คิดว่าตัวเอง)ชนะ 5555
”ฉันจะรีบไปรีบมานะคะ พี่ก็ไปอยู่ห้องจองชินละกัน เผื่อพวกพี่จะมีอะไรพูดคุยกันแบบลูกผู้ชายบ้าง”
”
” พี่ยงฮวาพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะเอื้อมมือของเขามาหยิบเม็ดข้าวที่ติดอยู่บนปากของฉันออกให้
”อะ เอ่อ
งั้นพี่ล้างจานเองนะคะวันนี้ ฉัน
ฉันไปแต่งตัวก่อน
ดีกว่า แหะๆ -////-”
” J ” ให้ตายสิจูฮยอน!! เธอไม่เคยเสียการควบคุมตัวเองอย่างนี้มาก่อนเลยนะ แค่สัมผัสแผ่วเบาจากเขาหัวใจของเธอก็เริ่มบ้าคลั่งแล้วงั้นหรอ
> <
ตอนนี้ฉันก็ยืนอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่ของตระกูลจองแล้ว ความจริงฉันมาคนเดียวหรอกนะ มินฮยอกก็แค่ตัวอ้างไม่ให้เขาเป็นห่วงเท่านั้นแหละ วันนี้ฉันตั้งใจจะมาคุยกับคุณแม่เรื่องพี่ยงฮวานิดหน่อย แต่ทว่าพอเดินเข้าไปในบ้าน สาวใช้คนหนึ่งก็เดินมาบอกว่าคุณท่านทั้งสองเข้าไปที่มหาวิทยาลัย ฉันเลยบอกว่าไม่เป็นไร แล้วเปลี่ยนมาใช้เป้าหมายรองแทนนั่นคือการเข้าไปดูห้องของพี่ยงฮวาน่ะสิ อ้อ!พ่อกับแม่ของพี่ยงฮวาท่านเป็นอธิการบดีของมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆของเกาหลีเลยนะ แต่ทำไมพี่ยงฮวาถึงเลือกมาเป็นนักดนตรีฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน
ห้องของพี่ยงฮวาดูแปลกตาไปเล็กน้อย เพราะหนังสือและอัลบั้มเพลงบางเพลงถูกขนย้ายไปไว้ที่เรือนหอของเรา ที่จะยังอยู่ที่เดิมก็คงเป็นพวกคีบอร์ดกับคอมพิวเตอร์ละมั้ง ฉันเดินไปนั่งเล่นที่คอมพิวเตอร์ของพี่ยงฮวา ระหว่างรอเครื่องเปิดฉันก็เห็นหนังสือเล่มนึงวางอยู่หัวเตียง ฉันเอื้อมมือไปหยิบมาเปิดดูก่อนจะพบว่ามันเป็นหนังสือเกี่ยวกับวรรณกรรม นี่เขามีรสนิยมแบบนี้หรือไงนะ? น่าสนใจดีจัง อย่างน้อยเราก็ชอบหนังสือเหมือนๆกัน พอคอมเปิดได้ฉันก็เลยวางมันกลับไปไว้ที่เดิม แต่ฉันวางพลาดไปหน่อยทำให้หนังสือหล่นลงบนพื้น และประจวบเหมาะกับที่มันเปิดไปยังหน้าๆหนึ่งที่มีดินสอเขียนจางๆเอาไว้ว่า ‘ปาร์กชินเฮ 21/07/xx ยงซื้อให้เนื่องในวันครบรอบ5เดือนที่ยงสารภาพรัก^^’(จากไรท์เตอร์ : ที่ใช้ว่าวันครบรอบยงสารภาพรักคือ สองคนยังไม่ได้คบกัน แต่ก็มีใจให้กันนะคะ)
”ปาร์กชินเฮ ?” ซอฮยอนที่ได้อ่านใจความในหนังสือแล้วก็แทบค้างอยู่กับที่ ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกันนะ ถ้าเขามีคนรักอยู่แล้ว แล้วทำไมเธอจะต้องเป็นคนที่มาแต่งงานกับเขาด้วยนะ? ในใจของเธอตอนนี้ร้อนรุ่มยิ่งกว่ากระทะร้อนๆ สมองก็คิดหาเหตุผลล้านแปดมาไขข้อข้องใจของตนเองว่า
ทำไมไม่เป็นผู้หญิงคนนั้น? แล้วทำไมคนที่มาแทนที่ต้องเป็นซอจูฮยอน?
หรือจริงๆแล้วเขาเขียนไดอารี่ถึงผู้หญิงคนนั้น แต่เพราะหญิงผู้เป็นมารดาของเขาไม่รู้ว่าจะติดต่อเธอคนนั้นได้ยังไง หรืออาจพยายามติดต่อให้เธอมาสวมชุดเจ้าสาวแต่เธอปฏิเสธ? มารดาของเขาจึงเล็งเห็นว่าจูฮยอนเป็นเป้าหมายเดียวที่จะไม่มีทางปฏิเสธ งั้นสินะเหตุผล?
เรื่องจริงมันเป็นยังไงกันแน่คะพี่ยงฮวา?
”ไม่เอาๆๆ เลิกคิดดีกว่า ฟู่ววว~” แต่นั่นก็เป็นเพียงวูบนึงของความคิดเท่านั้นเอง คนอย่างซอจูฮยอนมีเหตุผลอยู่แล้ว และเหตุผลที่คุณป้าเลือกเธอมาเป็นลูกสะใภ้ต้องไม่ใช่เหตุผลงี่เง่าที่ว่าติดต่อปาร์กชินเฮไม่ได้ พี่ยงฮวาต้องเขียนไดอารี่ถึงเธอแน่นอน! ไม่งั้นคุณป้าจะมั่นใจได้ไงว่าเป็นตัวเรา เลิกคิดๆๆ กลับบ้านไปชวนพี่ยงฮวาไปเที่ยวดีกว่าเนอะจูฮยอน เธอต้องไม่เก็บมาคิดแล้วนะ เอาหล่ะยิ้มแล้วกลับบ้านดีกว่า
J
”พี่ยงฮวาาาาา~” ฉันวิ่งไปเคาะประตูห้องของสามหนุ่มแต่ไม่มีใครมาเปิดสักทีฉันจึงถือวิสาสะใส่รหัสแล้วเปิดเข้าไปเลย ภาพที่ฉันเห็นคือห้องรับแขกที่กว้างขวางได้กลายเป็นเวทีเล็กๆสำหรับสี่หนุ่มหล่อผู้ทรงเสน่ห์ไปแล้ว ฉันมาที่ห้องนี้ก็หลายครั้งแต่ไม่เคยได้สังเกตเลยว่าผนังห้องรับแขกนั้นถูกบุไว้ด้วยฟูกเก็บเสียงอย่างดีเพื่อใช้สำหรับการซ้อมดนตรีอย่างหนักหน่วงของหนุ่มๆผู้มีออร่าสี่คนนี้ยังไงล่ะ
”โว้ววววว~!” เมื่อการแสดงย่อยๆจบลงพี่จงฮยอนที่ตอนนี้ทำหน้าที่เป็นนักร้องนำก็หันไปแท็กมือกับจองชินผู้เล่นเป็นมือเบสอย่างมีความสุข ก่อนจะหันไปแท็กมือกับมินฮยอกที่นั่งตีกลองอยู่ด้านหลังและหันมาหาพี่ยงฮวาที่ยืนดีดกีต้าร์อยู่ข้างๆ เสน่ห์ที่ฉันไม่เคยพบเห็นในตัวพวกเขาปรากฏขึ้นมาแล้ว ในความรู้สึกตอนนี้ของฉันพวกเขาไม่ใช่จองชินชินกู พี่จงฮยอนหรือมินฮยอกที่ฉันรู้จัก แต่เมื่อยามที่ฝ่ามือสวยของแต่ละคนได้หยิบจับเครื่องดนตรีที่ใช่สำหรับตนนั้น พวกเขาจะกลายเป็น อีจองชิน คังมินฮยอก อีจงฮยอนและจองยงฮวา สี่หนุ่มที่เต็มไปด้วยความสามารถต่างหากล่ะ!!!
”พี่สะใภ้ฮะ!! เราต้องเคลียร์กันนะ พี่เอาชื่อผมไปบอกพี่ยงฮวาอย่างนั้นได้ไงเนี่ย ผมเลยจะโดนพี่ยงฮวาโกรธเอานะฮะที่ปล่อยให้พี่สะใภ้ไปคนเดียวน่ะ” มินฮยอกเป็นคนแรกที่เดินมางอนใส่ฉัน แก้มป่องๆปากจู๋ๆของมินฮยอกฉันว่าเขาทำแล้วมันดูน่ารักกว่าตอนพี่ยงฮวาทำยังไงไม่รู้สิ 5555
”ขอโทษจริงๆนะมินฮยอก แต่ฉันก็ไม่ได้ไปทำอะไรไม่ดีนี่นา แล้วฉันก็กลับมาอย่างปลอดภัยแล้วด้วย”
”เธอไม่รู้หรอกจูฮยอนว่าพี่ยงฮวาที่ไม่ยอมพูด พอได้เห็นหน้ามินฮยอกเท่านั้นแหละเขาก็ยิ่งไม่พูดเข้าไปใหญ่”
”หมายความว่าไงน่ะจองชินชินกู = =”
”ก็เพราะพอพี่เขารู้ว่าเธอไปคนเดียวไม่ได้เอามินฮยอกไปด้วยอย่างที่พูด เขาก็เป็นห่วงเธอ อยากจะออกไปตามเธอ แต่พวกเราคิดว่าเธอคงมีเหตุผลที่ต้องโกหกพวกเราเลยรั้งพี่ยงฮวาเอาไว้น่ะสิ”
”อ่า
ขอโทษจริงๆนะคะที่ทำให้ทุกคนวุ่นวาย”
”ตอนนี้เธอไปคุยกับพี่ยงฮวาเถอะจูฮยอน ตั้งแต่เห็นหน้ามินฮยอกตอนนั้นเขายังไม่ยอมมองหน้ามินฮยอกอีกเลย” พี่จงฮยอนบอกฉันอย่างกลัวๆก่อนจะหันไปเก็บกีต้าร์ใส่ถุง แล้วสามแสบก็รีบจรลีหายออกไปจากอาณาเขตห้องนั่งเล่นทันที ทิ้งฉันเอาไว้คนเดียวกับพายุลูกใหญ่ที่แสนจะแปรปรวนลูกนี้ได้ยังไนนะ T^T
”พี่คะ~ ” ฉันค่อยๆเนียนเดินเข้าไปนั่งข้างๆพี่ยงฮวาที่ตอนนี้ยังคงจ้องแต่หน้าจอทีวี
”ฉันไม่ได้ตั้งใจโกหกพี่จริงๆนะ
” เอาหล่ะต้องใช้ลูกอ้อนหน่อยแล้ว
”พี่โกรธฉันจริงหรอคะ ฉันแค่อยากเซอร์ไพรส์พี่จริงๆนะ
”
”
”
”ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าพี่โกรธฉันอยู่งั้นฉันไปดูหนังคนเดียวก็ได้ ไอ้เราก็อุตส่าห์รีบกลับมาจะชวนไปดูหนังซะหน่อย แต่ไม่เป็นไรนะคะพี่โกรธฉัน ฉันเข้าใจค่ะ ฉันไปคนเดียวก็ได้” ไม่หายงอนฉันใช่ไหม งั้นซอจูฮยอนไม่ง้อแล้วนะ!!
”อ๊ะ
!” แต่ทว่าพี่ยงฮวากลับรีบคว้าข้อมือของฉันเอาไว้ก่อนจะเดินมาขนาบข้างฉันทันที
”ไหนว่าพี่โกรธฉันอยู่ไงคะ แล้วพี่จะมากับฉันทำไมหล่ะ”
”
”
”พี่โกรธฉันไม่ได้นานหรอกเชื่อฉันสิคะ ฮ่าๆ” ตอนนี้ฉันขำกับท่าทางของพี่ยงฮวามากๆเลยหล่ะ ก็เขาน่ะกอดแขนฉันไม่ปล่อยเลย ทำเหมือนกับว่าฉันจะหนีเขาไปคนเดียวจริงๆงั้นแหละ พอเราสองคนกำลังจะออกจากห้องพักของสามหนุ่ม เสียงแซวที่ฉันคิดว่าคงไม่ได้ยินก็ดังขึ้นมา
”อะไรกันฮะ พอพี่สะใภ้มาพี่ก็จะทิ้งพวกผมเลยสินะ” เป็นมินฮยอกนั่นเองที่เปิดประเด็นขึ้นมา
”ไม่เอาน่ามินฮยอก ก็ตอนนี้คนสำคัญของพี่ยงฮวาคือพี่สะใภ้จูฮยอนนี่นา นายจะไปหวงพี่อะไรตอนนี้เล่า” จองชินชินกูเดินเข้ามาล็อกคอมินฮยอกจากด้านหลังก่อนจะลากมินฮยอกเข้าห้องไปทันที( writer say : ไปทำอะไรกันวะเฮ้ยยย ไอ้มักเน่ตัวโย่งสองคนนั้นนี่ =.,=)
”เที่ยวให้สนุกนะพี่สะใภ้ ฝากพี่ยงฮวาด้วยนะ ดูเหมือนว่าตอนอยู่กับพวกเราพี่เขาจะไม่มีความสุขยังไงก็ไม่รู้ ฮ่าๆ” พี่จงฮยอนเดินออกมาปิดประตูก่อนจะแซวฉันกับพี่ยงฮวาเป็นคนสุดท้าย
”ไม่หรอกค่ะ อยู่กับทุกคนพี่ยงฮวาดูมีเสน่ห์มากกว่าอยู่กับฉันอีก อ้ออีกอย่างฉันลืมบอกไป พี่จงฮยอนร้องเพลงเพราะมากเลยนะคะ”
”เธอรอฟังตอนพี่ยงฮวากลับมาพูดได้อีกครั้งเถอะ ตอนนั้นถ้าเธอได้ฟังพี่เขาร้องเพลงนะเธอจะคิดว่าเสียงฉันไม่เพราะเลยหล่ะ”
”ฉันเคยได้ยินแล้วนะคะ ของพี่ยงฮวาดูหนักแน่นแต่ของพี่จงฮยอนดูนุ่มนวลมากกว่า
อ๊ะ!” ตายหล่ะ นี่ฉันเผลอหลุดออกไปว่าเคยได้ยินพี่ยงฮวาร้องเพลง พี่จงฮยอนจะสงสัยอะไรมั๊ยนะ
”
” เป็นจังหวะที่พี่ยงฮวากระตุกแขนฉันเบาๆก่อนจะเดินนำออกไปรอนอกห้อง
”งั้นเราไปก่อนนะคะพี่จงฮยอน”
”อืม
”
ทันทีที่คู่รักข้าวใหม่ปลามันก้าวพ้นธรณีประตูออกไป อีจงฮยอนก็ได้แต่ครุ่นคิดถึงประโยคที่ซอฮยอนพูดออกมาอย่างสนอกสนใจ
”พี่สะใภ้ไปได้ยินพี่ยงฮวาร้องเพลงตอนไหนนะ
ไม่หรอกมั้ง พี่ยงฮวาคงไม่สามารถร้องเพลงได้ในเร็ววันนี้หรอก คิดมากไปแล้วเรา” แล้วจงฮยอนก็ตัดสินใจยุติความคิดของตนเอาไว้เพียงแค่นั้น
ณ. โรงภาพยนตร์
”พี่อยากดูเรื่องอะไรคะ บอกฉันเลยนะ”
”
” ตอนนี้ภาพที่ผู้คนพบเห็นก็คงจะดูแปลกตาไม่น้อยเพราะแทนที่ฝ่ายหญิงจะเป็นคนควงแขนฝ่ายชาย แต่คู่รักคู่นี้กลับสลับตำแหน่งกันซะอย่างนั้น ซอจูฮยอนที่ตอนนี้อยู่ในสภาพของสามี และมีภรรยายงฮวาเกาะแขนแน่นเหมือนเด็กๆอยู่ข้างๆ ราวกับว่าถ้ายงฮวาตัวเล็กลงกว่านี้ผู้คนคงจะคิดว่าเธอพาลูกชายวัยประถมมาดูหนังอย่างแน่นอน
”ฉันอยากดูอวตาร!” ฉันโพล่งขึ้นมาเพราะไม่มีทีท่าว่าพี่ยงฮวาจะเลือกหนังสักที
”
!” แต่พอฉันหันไปมองหน้าก็เหมือนกับว่าพี่ยงฮวาเองก็จะเลือกเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน
”พี่ก็อยากดูเรื่องนี้ใช่มั๊ยคะ พี่อยากดูเรื่องอวตารเหมือนกันใช่มั๊ย”
”
” และฉันก็แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองอีกครั้ง เพราะแม้พี่ยงฮวาไม่เปิดปากพูดอะไรออกมา แต่ฉันสามารถรับรู้ได้ว่าเขากำลังบอกฉันว่า ‘เขาอยากดูเรื่องอวตาร’
”งั้นเราไปจองตั๋วกันเถอะค่ะ^ ^” ฉันรีบพาพี่ยงฮวาเดินไปที่เคาท์เตอร์เพื่อซื้อตั๋วทันที แล้วหลังจากรอเวลาประมาณสิบนาทีก็ถีงรอบหนังของเรา ระหว่างที่นั่งอยู่ในโรงหนังนั้นฉันกับพี่ยงฮวาไม่ได้พูดคุยกันเลยแม้แต่น้อย ต่างคนต่างก็จ้องไปที่จอหนังขนาดใหญ่ด้านหน้าของตน ต่างคนต่างก็มีแก้วน้ำคนละแก้วและมันวางอยู่คนละฝั่ง นั่นจึงทำให้ฉันกับพี่ยงฮวาเรียกได้ว่าเหมือนไม่ได้มาด้วยกันเลยหล่ะ
แต่ฉันอาจจะคิดผิดก็ได้ เพราะพอหนังฉายไปสักพักพี่ยงฮวาก็เริ่มนั่งไม่นิ่ง เขาขยับตัวไปมา ถอดแว่น 3D ออกมาบ้าง ฉันคิดว่าพี่เขาคงจะปวดตา ฉันเลยหันไปหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋าก่อนจะใส่น้ำแข็งเอาไว้แล้วยื่นไปให้พี่ยงฮวา
”พี่คะ
เอานี่ประคบไว้มั๊ย”
”
” พี่ยงฮวาพยักหน้าน้อยๆก่อนใช้น้ำแข็งประคบบริเวณรอบดวงตาเบาๆ และพอฉันหันมาอีกทีก็พบว่ามีบางอย่างๆหนักๆกำลังทิ้งตัวลงบนไหล่ของฉัน ใช่เลย!มันคือหัวของสามีฉันนั่นเอง = =
ใครก็ได้บอกฉันทีว่าฉันเป็นสามีหรือภรรยาของพี่ยงฮวากันแน่
พอหนังจบฉันก็ปลุกพี่ยงฮวาก่อนเราจะเดินออกมาจากโรงหนังด้วยกัน พี่ยงฮวาพยายามเล่าว่าหนังสนุกมากแค่ไหนผ่านทางสายตาจองเขา และทำเหมือนกับว่าเขาไม่ได้หลับไปอย่างงั้นแหละ
”พี่คะพอเถอะค่ะ นั่นมันตลกมากเลยล่ะสิ่งที่พี่กำลังทำ ฮ่าๆ”
”
”
”ไม่เอาน่า~ แค่เดทแรกของเราพี่ก็หลับพิงไหล่ฉันเท่านั้นเองค่ะ คิก
> <”
”
” ตอนนี้ยงเด็กประถมเริ่มกลับมาแล้วสินะ ก็พี่เขาพองแก้มอีกแล้วน่ะสิ
”พี่คะฉันล้อเล่น เราไปหาอะไรกินกันดีกว่าเนอะ”
”
” พี่ยงฮวารั้งแขนฉันไว้ช้าๆตอนที่เราเดินผ่านชั้นของเล่น
”อะไรหรอคะ?” ฉันหันไปมองตามระดับสายตาที่พี่ยงฮวามองไป
”นั่นมันของเล่นจากหนังเรื่องอวตารนี่นา ว้าววว~พี่คะมันสุดยอดไปเลย” และเป็นฉันเองที่วิ่งนำหน้าพี่ยงฮวาเข้าไปดูของเล่นพวกนั้น
”
” พอฉันหันหน้าไปสบตากับคนร่างสูงที่ยืนอมยิ้มอยู่ข้างหลังก็เหมือนกับว่า สายตาของพี่ยงฮวาจะถามฉันว่า ‘อยากได้หรอ’ ฉันจึงพยักหน้าน้อยๆแทนคำตอบ
”
” ‘งั้นก็ซื้อสิ เราใช้มันแต่งตรงระเบียงที่บ้านได้นะ’
”พี่คะ! ฉันขออีกรอบนึงนะ มองฉันแบบเมื่อกี้อีกรอบ”
”
” ฉันจ้องตาพี่ยงฮวาอย่างตั้งใจก่อนจะค่อยๆตีความ
“พี่คิดว่าเราสามารถแต่งระเบียงให้เป็นโลกของอวตารได้ใช่มั๊ยคะ?”
”
” พี่ยงฮวาพยักหน้าให้ฉันก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ฉันคิดว่าพี่เขาต้องดีใจมากแน่ๆเลยที่ฉันตีความหมายในสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อได้
”งั้นเรามาช่วยกันเลือกเถอะค่ะ > <”
เราใช้เวลาอยู่ที่แผนกของเล่นนั้นนานพอสมควรจนกระทั่งตอนนี้เราสองคนต่างถือถุงใส่ของเล่นเต็มสองมือไปหมด ฉันเดินตามพี่ยงฮวาไปช้าๆและปรากฏว่าพี่ยงฮวาพาฉันมาแวะทีร้านไอศกรีมโฮมเมดเจ้าประจำของฉันที่ฉันมักจะมากินกับบรรดาพี่สาวโซนยอชิแดเป็นประจำตอนที่เรามีเวลาว่าง
พูดแล้วก็คิดถึงแฮะ
พี่ๆจะเป็นยังไงกันบ้างนะ ?
”
” พี่ยงฮวาเดินมาสะกิดแขนฉันช้าๆก่อนจะชี้ไปที่ตู้ไอศกรีม เหมือนจะถามว่าฉันจะกินรสอะไร
”เอารสมันหวานกับวานิลลาค่ะ”
”
” เหมือนพี่ยงฮวาไม่เชื่อว่าฉันจะชอบกินมันหวาน แต่อย่าให้ฉันพูดเลยนะ นั่นน่ะของโปรดฉันเลยหล่ะ J
”
” ของพี่ยงฮวาเป็นรสช็อกโกแล็ตชิพกับบลูเบอรี่ ทำไมสีมันดูน่ากินจังเลยนะ ดูของฉันแล้วเหมือนอาหารเพื่อสุขภาพยังไงก็ไม่รู้แฮะ = =
”เราจะไปไหนกันต่อดีคะ พี่คิดไว้รึยัง”
”
”
”
”
”
”
”พี่กำลังปิดใจตัวเองอยู่หรอ ทำไมฉันอ่านสายตาของพี่ไม่ออกเลยหล่ะคะ” ฉันเอียงคอถามอย่างสงสัยเพราะจู่ๆฉันก็รู้สึกว่าพี่ยงฮวากำลังคิดอะไรอยู่
”
”
”เอ๋? พี่จะเอาจริงหรอ”
”
” พี่ยงฮวาพยักหน้าเป็นคำตอบก่อนจะลุกขึ้นจูงมือฉันออกไปจากร้านอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้เราสองคำกำลังแบกของแต่งบ้านสองถุงใหญ่ๆขึ้นรถเมลล์ไปยังที่แห่งหนึ่ง ที่ๆตอนฉันอ่านสายตาของพี่ยงฮวาได้ฉันก็ไม่อยากเชื่อตัวเองเหมือนกัน สถานที่ที่คู่รักต่างก็ต้องมาให้ได้ เพราะมันเปรียบเสมือนสถานที่ประกาศความเป็นคู่รักอย่างแท้จริง
โซลทาวเวอร์
”
” พี่ยงฮวากุมมือฉันแน่นขึ้นเมื่อเราเดินใกล้โซลทาวเวอร์เข้าไปเรื่อยๆ ก่อนที่พี่ยงฮวาจะออกไปซื้อแม่กุญแจ ฉันก็เดินอ่านบนข้อความอื่นๆบนแม่กุญแจและบังเอิญที่ฉันไปสะดุดกับแม่กุญแจขนาดกลางสองอันเกี่ยวคล้องกันอยู่ อันหนึ่งสีน้ำเงิน อีกอันสีชมพู ราวกับเป็นตัวแทนจากสีของวงนั้นๆ
ซูเปอร์จูเนียร์ กับ โซนยอชิแด
อย่างนั้นหรอ?
และเมื่ออ่านชื่อที่ลงเป็นลายลักษณ์อักษรบนแม่กุญแจทั้งสองอันแล้วนั้นหัวใจของซอจูฮยอนก็ยิ่งเต้นแรงมากขึ้นไปกว่าเก่า
”นี่มันอะไรกันนะ
พี่คยูฮยอนกับ
พี่
ยุนอา !?” ข้อความของคนสองคนนั้นมาเกี่ยวกันอยู่ที่นี่ได้ยังไงนะ มันจะบังเอิญเกินไปแล้วล่ะมั้ง ระหว่างที่ความคิดอันฉับไวของซอฮยอนกำลังประมวลผลเพื่อหาถึงสาเหตุที่มาที่ชื่อของพี่ชายและพี่สาวที่เธอรู้จักจะมาคล้องเกี่ยวกันอยู่อย่างนี้ในที่ๆคู่รักพากันมาให้คำมั่นผูกพันต่อกัน
”
” ยังไม่ทันได้คิดอะไรไปไกลพี่ยงฮวาก็เดินมาอยู่ข้างๆก่อนจะยื่นแม่กุญแจสองสีที่ดูคล้ายกับของคู่ที่เธอเพิ่งละสายตาไป ต่างกันแค่สีของฝ่ายชายเปลี่ยนจากสีน้ำเงินเป็นสีฟ้าสดใส
”ขอบคุณนะคะพี่
” ฉันพูดแค่นั้นก่อนจะเริ่มเขียนข้อความในใจถึงพี่ยงฮวา อืม
พี่ยงฮวาต้องลงชื่อว่า ‘ยงนัมพยอน’ แน่เลย! งั้นฉันก็จะลงชื่อว่า ‘ฮยอนบูอิน’ ด้วยดีกว่า >//<
”พี่เขียนเสร็จรึยังคะ” ฉันชะโงกหน้าไปแอบมองแม่กุญแจสีฟ้าในมือของพี่ยงฮวา แต่พี่เขาก็หลบฉันได้อย่างว่องไวก่อนจะหมุนตัวกลับมาแล้วกลายเป็นว่า พี่ยงฮวากำลังรวบฉันเอาไว้ในอ้อนแขนแข็งแรงของเขาแทน
”อะ อะไรกันคะพี่
ปล่อยฉันนะ นี่มันที่สาธารณะนะคะ >///<” ฉันพยายามสะบัดตัวเองให้หลุดออกจากอ้อมแขนของเขา แต่ทว่ามันไม่เป็นผล พี่ยงฮวากระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นก่อนจะบังคับให้ฉันเดินไปยังราวแขวนแม่กุญแจ พี่ยงฮวาแขวนแม่กุญแจสีฟ้าของเขาลงไปโดยที่ฉันก็ยังคงอยู่ในอ้อมแขนของเขา เมื่อพี่ยงฮวาแขวนของตัวเองเสร็จมือที่ว่างงานของเขาก็รวบเข้าเบาๆที่เอวของฉัน
”อ๊ะ! ถ้าพี่ไม่ปล่อยฉันจะโกรธจริงๆด้วยนะคะ” ฉันพยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่นมากไปกว่านี้ เพราะถ้าพี่เขารู้ว่าฉันเขินเขาก็จะยิ่งได้ใจน่ะสิ > <
”
” เมื่อเห็นว่าคำขู่ไม่เป็นผล ฉันเลยหัวเราะเบาๆให้กับความเด็กของเขาแล้วบรรจงคล้องแม่กุญแจสีชมพูของฉันลงไปเกี่ยวกับของพี่ยงฮวาช้าๆ
”ฉันแขวนเสร็จแล้วค่ะ
” ฉันพูดเสียงอู้อี้ผ่านอ้อมกอดแข็งแรงที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยง่ายๆ
”
” พี่ยงฮวาค่อยๆคลายลำแขนแข็งแรงของเขาลงช้าๆก่อนจะหมุนตัวฉันให้หันมาสบตากับเขาก่อนเขาจะยื่นกุญแจที่ใช้ไขแม่กุญแจของเขามาให้ฉัน
”อะไรคะ
”
”
” พี่เขากำลังจะสื่อว่าให้ฉันรับกุญแจดอกนี้ของเขาไปแล้วส่งดอกของฉันให้เขาไปอย่างนั้นสินะ
”พี่อยากให้ฉันรับกุญแจของพี่ไว้?”
”
” พี่ยงฮวาพยักหน้าช้าๆสองครั้งเป็นคำตอบ
”แล้วพี่ก็อยากเก็บดอกของฉันไว้ด้วยใช่มั๊ยคะ?”
”
” พยักหน้าขึ้นลงอย่างชัดเจนเป็นคำตอบว่า ฉันกับเขาต้องแลกกันเก็บกุญแจของแต่ละคนอย่างแน่นอน
”พี่ห้ามแอบหนีฉันมาไขปลดแม่กุญแจของตัวเองออกนะคะ ถ้าฉันรู้ว่าพี่หนีมาปลดออกละก็ ฉันจะโกรธพี่ไม่พูดด้วยอีกเลยนะคอยดู” ฉันยื่นคำขู่น้อยๆก่อนจะยื่นแม่กุญแจของฉันให้เขา
”
” พี่ยงฮวารับกุญแจของฉันไปก่อนจะจับไหล่ฉันไว้แล้วเชิดคางฉันขึ้นเบาๆ
”
” พี่คะถอยออกไปหน่อยสิ ฉันร้อนไปหมดแล้วนะคะ >/////< แต่ฉันก็ขัดเขาได้แค่ในความคิดเท่านั้นแหละน่า
”
” พี่ยงฮวาพยายามใช้สายตาสื่อบางอย่างกับฉัน
”พี่จะดูแลกุญแจดอกนี้ จะดูแลแม่กุญแจอันนี้
?”
”
” และอีกครั้งที่พี่ยงฮวาพยักหน้าให้ฉันอย่างหนักแน่น
”และพี่จะดูแลเจ้าของสิ่งของสองสิ่งนี้อย่างดี
พี่ต้องการจะบอกฉันอย่างนี้ใช่มั๊ยคะ”
”
” พี่ยงฮวายิ้มให้ฉันบางๆหนึ่งทีก่อนจะเอื้อมมือมาปัดผมที่ปลิวมาปิดหน้าออกให้ฉัน
”ฮึก
พี่คะ พี่ยงฮวา
ฮือออ~” ฉันไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้อีกต่อไปแล้ว น้ำตาแห่งความตื้นตันใจของฉันมันกำลังไหลลงมาอย่างไม่อายใคร หากแต่ชายผู้เป็นสามีของฉันกลับทำแค่เพียงเอื้อมมือมาสัมผัสน้ำตาของฉันอย่างเบามือและส่งยิ้มอ่อนโยนที่แสนอบอุ่นมาให้ฉันอยู่ตลอดเวลา ใบหน้าของเขาค่อยๆเคลื่อนเข้ามาใกล้กับฉันช้าๆ ฉันเองก็หลับตาพริ้มลงอย่างอัตโนมัติ ราวกับรู้ว่าจูบที่สองกำลังจะเกิดขึ้น
”
” แต่แล้วลมหายใจและริมฝีปากอุ่นๆกลับจรดลงบนเปลือกตาทั้งสองข้างของฉันแทน
”พี่คะ
”
”
”
”พี่รู้ว่าฉันยังไม่พร้อมอย่างนั้นหรอคะ?”
”
” คราวนี้พี่ยงฮวาไม่พยักหน้าเหมือนอย่างเคย หากแต่เอื้อมมือมาลูบผมเบาๆเป็นการปลอบประโลมฉัน
”พี่จะรอวันที่จูฮยอนพร้อมจะเป็นภรรยาของพี่จากใจ ไม่ใช่ทำเพราะคุณแม่พี่ไปขอร้อง”
”
.O____o!!!!”
”พี่จะรอวันที่เราแต่งงานกันด้วยความรัก การแต่งงานที่เกิดจากความผิดพลาดแบบนี้ พี่ไม่ได้ต้องการมัน เพียงแต่ว่า
”
”
!!!”
”มันเป็นทางเดียว ทีพี่จะได้อยู่ใกล้กับนางฟ้าในฝันของพี่ พี่จึงยอมแต่งงานโดยไม่ได้นึกถึงความรู้สึกของเธอ”
”
”
”พี่ขอโทษนะจูฮยอน ต่อไปนี้พี่จะดูแลเธอเอง เธอดูแลพี่มามากแล้ว เธอพยายามกับพี่มามากแล้ว ต่อไปให้พี่ได้ทำเพื่อเธอบ้างเถอะนะ”
”พี่ยงฮวา
”
”
”
”อย่าเงียบอีกเลยค่ะพี่ พี่พูดออกมาได้มากขนาดนี้ฉันเหลือเชื่อมากจริงๆ เพราะฉะนั้นพี่อย่าเงียบอีกนะคะ”
”พี่ไม่รับปากเธอนะ เพราะเวลาพี่อยู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่เธอพี่ไม่รู้วิธีพูดจริงๆ”
”พี่หมายความว่า
”
”พี่จะพูดก็แต่ได้อยู่กับเธอเท่านั้น
เธอคนเดียวเท่านั้นทีพี่สามารถเปิดปากพูดได้แบบนี้
.”
"-------------------------------------------------------------
Talk with writer :
คิดถึงทุกคนมากกกกกกกก มากแบบมากๆอ่ะ TT^TT
เอาแล้วไง ไรท์เตอร์เริ่มส่อแววอู้แล้วไง 55555
อย่างอนหวานนะคะรีดเดอร์คนดี เค้ามาส่งยงซอหวานๆน้ำตาลเรียกพี่ให้แล้ว
ทดแทนเวลาที่หวานหายไป พี่ยงสามารถพูดกับน้องซอได้แล้วนะคะ > <
เรามาฉลองกันเถอะ ฮี่ๆๆ แต่รู้สึกจะมีอีกคู่โผล่มาสร้างสีสันซะแล้ว
คยูยุน? ไม่หรอกมั้ง
อาจจะใช่ หรืออาจจะไม่
แต่หวานชอบคู่นี้นะ อร๊ายยย >3<
ตอนต่อไปยังคงร่าเริงบ้าบอโรแมนติกอบอุ่นเบาๆสไตล์ยงซอ
ดราม่าจางๆไปก่อนเดี๋ยวค่อยโหมกระหน่ำตอนท้ายๆ
ขอบคุณทุกกำลังใจ ไรท์เตอร์จะพยายามเขียนให้ดีที่สุด
ถ้าไม่ดีก็ไม่อยากเอามาลง ไม่อยากรีบปั่นเอามาลงเพื่อเอาใจรีดเดอร์
แต่มันไม่สนุกหรือมันไม่โอเคหวานก็ไม่อยากเอามาลงอ่ะค่ะ
เข้าใจหนูหน่อยน้าาาาา ~
แต่ว่ายอดคนแอดแฟบกับคอมเมนท์ขึ้นตลอดเลย
หวานมีความสุขมาก ขอบคุณสำหรับกำลังใจอันสำคัญนะคะ
พวกคุณคือคนสำคัญ J
ปล.ตอนนี้หวานจัดฟันสีฟ้าชมพู คึคึคึ~ ว่างๆจะถ่ายรูปมาให้ดูน้า
เจอกันตอนหน้าค่ะมายรีดเดอร์ <3
ปล.คำผิดเยอะมั๊ยคะ ยังไม่ทวนเลยอ่า ขอโทษไว้ก่อนเน้ออ _ _))
ไอแอมพีเอสสึ
ความคิดเห็น