ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ KyuMin] Help Me!!! ช่วยด้วย แฟนผมหื่น

    ลำดับตอนที่ #7 : [Fic SJ KyuMin] Help Me!!! ช่วยด้วย แฟนผมหื่น 7

    • อัปเดตล่าสุด 10 ส.ค. 54


    Chepter 7
     
    ก๊อก ก๊อก
     
    “ ขออนุญาตครับ ”
    ร่างเล็กเคาะประตูหน้าห้องพักอาจารย์ก่อนจะเปิดเข้าไปเมื่อได้รับอนุญาต
     
    “ อ้าวซองมิน มีอะไรหรือ ”
    ชายหนุ่มร่างบางเงยหน้าขึ้นมากองเอกสารที่ตั้งกองพะเนินบนโต๊ะพลางส่งยิ้มให้ลูกศิษย์คนโปรด
     
    “ ผมไม่ค่อยเข้าใจหัวข้อโปรเจ็คที่อาจารย์สั่งน่ะครับ ข้อนี้ฮะ ”
    ซองมินอธิบาย ก่อนจะหย่อนตัวนั่งบนเก้าอี้ว่างตรงข้ามอาจารย์คนสวยแล้วหยิบเอกสารใบงานออกมา นิ้วเรียวจิ้มไปยังหัวข้อที่สงสัย
     
    “ อ๋อ ข้อนี้นี่เอง เธอต้อง...... ”
    อาจารย์อีทึกอธิบายให้ลูกศิษย์คนเก่งที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ดวงตาคู่งามไล่มองไปยังดวงหน้าสวยหวาน คนถูกมองไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิดเพราะมัวแต่ตั้งใจจดคำอธิบายที่ได้รับฟังลงสมุด
     
    “ ซองมิน... ”
     
    “ ครับ ”
    ซองมินเงยหน้าขึ้นตอบรับ เมื่ออยู่อาจารย์อีทึกก็เรียกชื่อเค้า ซ้ำยังจ้องหน้าเค้าตาไม่กะพริบอีกต่างหาก
     
    “ เธอ...คบกับคยูฮยอนอยู่หรือ ”
     
    ประโยคนี้ทำให้ซองมินชะงันทันที ทำไม...อาจารย์ถึงถามแบบนี้ล่ะ
     
    “ อ..อาจารย์ ว่าอะไรนะฮะ ผมว่าผมได้ยินไม่ชัด ”
     
    อีทึกยิ้มมุมปาก เค้ารู้ว่าซองมินได้ยินชัดเจน แต่ถ้าต้องการให้ย้ำอีกรอบก็ย่อมได้
     
    “ ครูถามว่า เธอคบกับคยูฮยอนอยู่หรือ ”
     
    ซองมินมองใบหน้าสวยที่จ้องมองเค้าอยู่แล้ว ในใจก็นึกหาเหตุผลว่าทำไมอาจารย์ถึงถามเค้าเรื่องนี้ แล้วเค้าควรจะตอบไปว่ายังไงดีล่ะเนี่ย
     
    “ เอ่อ...ครับ ว่าแต่อาจารย์รู้ได้ยังไงฮะ ”
     
    แทนที่จะให้คำตอบ อาจารย์อีทึกจุดยิ้มมุมปากบางๆ แล้วจะรวบกองหนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา ก่อนจะลุกขึ้นยืนเป็นการยุติการสนทนา
     
    “ ครูมีสอนต่อ คงต้องขอตัวก่อนนะ ”
    แล้วอาจารย์คนสวยก็จากไป ทิ้งลูกศิษย์ที่สวยไม่แพ้กันนั่งงงต่อไป ซองมินคิดแล้วคิดอีกก็ยังนึกไม่ออก ว่าอาจารย์อีทึกรู้เรื่องของเค้ากับคยูฮยอนได้ยังไง ในเมื่อพวกเค้าเพิ่งจะตกลงคบกันได้แค่สองวัน ยังไม่น่าจะมีใครได้รับรู้เรื่องนี้เลยนี่นา
     
    “ เอ...หรือว่าคยูฮยอนจะเป็นคนบอก ”
    ซองมินได้แต่สันนิษฐาน แต่แล้วก็ฉุกคิดขึ้นมาได้
     
    “ แล้วคยูฮยอนสนิทกับอาจารย์อึทึกขนาดนั้นเลยเหรอ ”
    คิ้วเรียวขมวดฉับพลับเมื่อคิดถึงความสัมพันธ์ของคยูฮยอนกับอาจารย์อีทึก มีเรื่องอะไรที่เค้ายังไม่รู้เกี่ยวกับคยูฮยอนอีกมาก สงสัยคงมีเรื่องให้ใช้งานเพื่อนซันนี่อีกแล้วล่ะสิ
     
     
    ที่ร้านอาหาร
     
    “ รอนานมั๊ย ”
    ซองมินเอ่ยทักเพื่อนสาวที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะแล้ว ซันนี่ส่ายหน้าแล้วยื่นเมนูให้ซองมิน
     
    “ สั่งอะไรก่อนสิ ”
    ซองมินรับเมนูมาจากมือเพื่อน ดวงตากลมโตไล่ดูไม่นานก็ได้เมนูที่อยากกิน จึงเรียกพนักงานมาสั่งอาหาร เมื่อสั่งอาหารเรียบร้อยก็คุยกับเพื่อนต่อ
     
    “ เอาล่ะ ว่ามา เมื่อวานเป็นไงมั่ง ”
     
    “ ก่อนที่ฉันจะเล่า นายต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่ปรี๊ดแตก ”
    คำพูดของซันนี่ทำให้ซองมินงง สรุปว่าเมื่อวานมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมถึงต้องปรี๊ดแตกด้วยล่ะ
     
    “ ทำไมฉันจะต้อง... เออๆ โอเค ฉันรับปาก ”
    ซองมินรับปากเพราะขี้เกียจจะถาม ถ้าซันนี่พูดมาแบบนี้แสดงว่าคงต้องมีเรื่องอะไรที่ชวนให้เหวี่ยงแน่ๆ
     
    “ ฟังนะ พ่อสุดสวาทขาดใจของนายไม่ธรรมดาเลยนะ เมื่อวานฉันสะกดรอยตามน้องคยูฮยอน แล้วก็เห็นเขากอดกับซูยองของฉัน ”
    ซองมินได้ฟังก็ตาโต คยูฮยอนน่ะเหรอ จะทำแบบนั้น
     
    “ จริงเหรอซันนี่ ”
     
    “ ก็จริงน่ะสิ แถมเขายังหอมแก้มกันด้วยนะ และแค่นั้นยังไม่พอ แฟนนายยังทำท่าอี๋อ๋อกับซีวอนอีกด้วยนะ ”
     
    “ ชเวซีวอน คณะมนุษย์ฯน่ะเหรอ ”
     
    “ ใช่ ”
    เมื่อได้เห็นว่าซันนี่ตอบอย่างแข็งขันขนาดนี้กฺเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมซันนี่ถึงเตือนไม่ให้เค้าของขึ้น นี่คยูฮยอนทำแบบนั้นจริงๆเหรอ น่าโมโหจริงๆเลย
     
    “ เออใช่ ฉันมีเรื่องจะเล่าให้เธอฟังเหมือนกัน
     
    “ อะไรเหรอ ”
    ซันนี่เอ่ยถามกลับ ซองมินจึงเล่าเรื่องของอาจารย์อีทึกให้ฟัง ซึ่งพอซันนี่ได้ฟังก็ตกใจ
     
    “ อะไรนะ นายบอกว่าอาจารย์อีทึกอาจรู้จักคยูฮยอนเป็นการส่วนตัวเหรอ ”
     
    “ ใช่ เธอลองคิดดูสิ ฉันคบกับคยูฮยอนได้แค่สองวันเองนะ ถ้าจะมีคนรู้ ก็น่าจะเป็นเพื่อนของคยูฮยอนมากกว่าที่จะเป็นอาจารย์อีทึก แต่นี่เมื่อเช้าฉันเจอเพื่อนของคยูฮยอน ก็ไม่เห็นว่าพวกเขาจะมีท่าทีเปลี่ยนไปเลยนะ ปกติเด็กพวกนั้นปากเสียจะตาย ถ้ารู้ว่าฉันคบกับคยูฮยอนก็น่าจะแซวกันบ้างแหล่ะ แต่นี่ไม่มีเลย ฉันเลยคิดว่าเพื่อนของคยูฮยอนน่าจะยังไม่รู้ ”
     
    “ อืมใช่ จริงของนาย ฉันเห็นด้วย ”
    ซันนี่เห็นด้วยกับความคิดของซองมิน แล้วถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็แสดงว่าคยูฮยอนต้องรู้จักอาจารย์อีทึกแบบสนิทสนม แต่ทั้งสองคนสนิทกันด้วยความสัมพันธ์แบบไหนล่ะ
     
    “ แล้วนายจะเอาไงต่อล่ะซองมิน ”
     
    “ ทำตามแผนเดิม ส่วนเรื่องอาจารย์อีทึก ฉันจะสืบเอง อ้อ แล้วอย่าให้คยูฮยอนรู้ตัวล่ะ ”
    ซองมินบอกอย่างมุ่งมั่น เค้าต้องรู้ให้ได้ว่าเรื่องทุกอย่างมันเป็นมายังไง
     
    ที่ซองมินระแวงสงสัยในตัวคยูฮยอนขนาดนี้ก็ไม่ใช่เพราะอะไร แต่เพราะว่ารักมาก จึงอยากแน่ใจในตัวคนที่รักก็เท่านั้นเอง ซองมินยอมรับกับตัวเองเลยว่าไม่อยากเสียใจที่ถูกคนรักทำร้าย นี่เค้าไม่ได้เห็นแก่ตัวเกินไปใช่มั๊ย
     
    ขณะที่สองเพื่อนนั่งปรึกษาหารือกันอย่างเคร่งเครียด บุคคลคนหนึ่งที่ดูจะเคร่งเครียดไม่แพ้กัน เค้าคนนี้นั่งถัดจากโต๊ะของซองมิน แต่เนื่องจากมีฉากกั้นระหว่างสองโต๊ะ ซองมินจึงไม่รู้เลยว่าคนที่เค้าพูดถึงนั่งอยู่อีกด้านหนึ่ง และได้รับฟังทุกประโยคที่ทั้งสองคุยกัน
     
    “ ... ”
     
    ไม่มีพูดใดๆหลุดออกมา แต่ภายในใจกำลังคิดอย่างหนัก ที่พี่ซองมินบอกว่าให้ทำตามแผนเดิม มันหมายถึงอะไรกัน พี่ซองมินวางแผนอะไรไว้เหรอ แล้วทำไมต้องไม่ให้เค้ารู้ด้วย ยิ่งฟังก็ยิ่งอยากรู้ อยากจะลุกออกไปถามกันตรงๆเลยด้วยซ้ำ แต่คยูฮยอนรู้ว่าถามตอนนี้ซองมินคงไม่ยอมตอบ ซ้ำยังจะทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายกว่าเดิม เพราะฉะนั้นเค้าต้องใจเย็นแล้วก็มีสติที่สุด ตอนนี้คยูฮยอนรู้แล้วว่าเค้าจะได้รู้เรื่องแผนการณ์ต่างๆที่ซองมินวางไว้ได้อย่างไร คนๆนี้จะทำให้คยูฮยอนได้รู้เรื่องทุกอย่าง และคยูฮยอนก็มั่นใจด้วยว่าเค้ามีวิธีที่จะทำให้คนๆนี้คายความลับออกมา หึหึ
     
    ระหว่างที่เราปล่อยให้สามคนนั้นเค้าคิดหาทางของตัวเองไปก่อน เรามาดูพี่หมีสุดหล่อของกระต่ายน้อยกันบ้างดีกว่า
     
    วันนี้คังอินมีเวลาว่างในช่วงบ่ายหลังจากไปส่งต้นฉบับที่สำนักพิมพ์มาแล้วเมื่อเช้า คาดว่าจะได้พิมพ์และออกวางจำหน่ายในเร็วๆนี้ คิดแล้วก็ภูมิใจจริงๆ คังอินยึดอาชีพนักเขียนแนวจิตวิทยา ใช้อาชีพนี้เลี้ยงตัวเองและส่งน้องเรียน มันอาจจะเป็นอาชีพที่ไม่ได้ทำเงินให้มากมายนัก แต่ก็ทำให้คังอินภูมิใจมากไม่น้อย ร่างสูงใหญ่เดินเล่นไปเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่หน้าร้านหนังสือร้านใหญ่ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เช็คเรทติ้งหนังสือของตัวเองซะหน่อยดีกว่า
     
    คังอินรีบก้าวเท้าเข้าไปในร้านแล้วตรงไปยังหมดหนังสือจิตวิทยา สายตาคมไล่หาอยู่ไม่นานก็เจอกลุ่มหนังสือกลุ่มหนึ่ง ถึงสีสันหน้าปกและชื่อเรื่องแตกต่างกัน แต่ชื่อผู้แต่งก็เป็นคนเดียวกัน “คังอิน” ชื่อนี้ไม่ใช่ชื่อจริงของเค้า แต่เป็นฉายาที่น้องชายตัวแสบตั้งให้ และเค้าก็ชอบชื่อนี้ไม่น้อย จึงเอามาตั้งเป็นนามปากกา ชื่อจริงของเค้าคือ คิมยองอุน คังอินใช้นามสกุลพ่อ ส่วนซองมินใช้นามสกุลแม่
     
    “ อยู่นี่เอง ”
    มือใหญ่หยิบหนังสือที่อยู่บนชั้น “Best Seller” ขึ้นมาดู เห็นผลงานของตัวเองทีไรก็อดยิ้มไม่ได้ จะว่าไปแล้วคังอินเพิ่งจะเป็นที่รู้จักในฐานะนักเขียนมือใหม่ไฟแรงได้ไม่นาน แต่เค้ากลับได้รับรางวัลมากมาย แถมหนังสือทุกเล่มของเค้าก็ติดอันดับหนังสือขายดีมาตลอด นี่ถ้าพ่อกับแม่ยังอยู่คงจะดีใจมากๆแน่
     
    “ อยู่นี่เอง ”
     
    ขณะที่คังอินกำลังยืนชื่นชมผลงานของตัวเองอยู่ เสียงหวานใสพร้อมประโยคที่คังอินเพิ่งจะพูดไปเมื่อสักครู่ก็ดังขึ้น ก่อนที่มือบางจะเอื้อมมือมาคว้าหนังสือที่เค้าเขียนเล่มนึงไป คังอินอดไม่ได้ที่จะหันไปมองนักอ่านคนล่าสุดของเค้า
     
    “ ...... ”
     
    ทันทีที่เห็นหน้า คำพูดต่างๆที่ตั้งใจจะกล่าวกับลูกค้าของเค้าก็ถูกกลืนลงไปหมด ให้ตายเถอะ ตั้งแต่เกิดมา เค้ายังไม่เคยเจอใครยิ้มได้สวยเท่านี้มาก่อน รอยยิ้มแสนหวานที่ประดับบนใบหน้าหวาน ยิ่งทำให้ชวนหลงใหล
     
    “ นางฟ้า ”
    เสียงทุ้มที่เพ้อออกมาเรียกสายตาคนสวยที่กำลังดีใจให้หันไปมอง
     
    “ คุณพูดว่าอะไรนะครับ ”
     
    “ อ..เอ่อ..อ๋อ เปล่า ไม่มีอะไรหรอกครับ ”
    คังอินรีบแก้ตัว นานๆทีจะได้เจอคนสวยแบบนี้ก็ต้องเคลิ้มเป็นธรรมดา ว่าแล้วร่างสูงก็รีบหาเรื่องคุยกลบเกลื่อน
     
    “ คุณชอบหนังสือเล่มนี้เหรอครับ ”
     
    “ ใช่ครับ ผมชอบหนังสือของนักเขียนคนนี้มากเลย อ่านแล้วได้ข้อคิดดีๆหลายข้อเลย คุณก็ลองอ่านดูสิครับ ”
     
    “ คุณพอจะแนะนำไดมั๊ยครับว่าเล่มไหนดี ”
     
    “ ผมคงจะแนะนำไม่ได้หรอกครับ เพราะผมชอบทุกเล่มเลย”
    คังอินแทบไม่ได้ฟังเสียงหวานที่เจื้อยแจ้วอยู่เลยด้วยซ้ำ เค้ามัวแต่มองคนตรงหน้า ยิ่งมองก็ยิ่งสวย
    “ เอ่อ...ผมคงต้องไปแล้ว ถ้ายังไงคุณลองอ่านดูนะครับ ”
    ฝ่ายคนสวยเมื่อเห็นว่าคู่สนทนาไม่พูดอะไร ได้แต่จ้องหน้าเค้าก็รู้สึกแปลกๆแต่ก็ไม่คิดะไร จึงกล่าวขอตัวแล้วเดินจากไปทันที
     
    “ .... ”
    ไม่มีคำพูดอะไรออกจากร่างหนานอกจากมองจนลับตา นี่เค้าเป็นอะไรไป ทำไมถึงควบคุมตัวเองไม่ได้เลยนะ คังอินเกาหัวตัวเองแก้เก้อ แต่แล้วสาวตาก็เหลือบไปเห็นบางอย่างตกอยู่ที่พื้น
     
    “ นี่มัน... ”
    แผ่นพลาสติกขนาดเท่านามบัตร ด้านหน้าระบุทั้งรูปเจ้าของบัตรและรายละเอียดไว้อย่างชัดเจน
     
    “ ปาร์ค จองซู อาจารย์สาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย S ”
    คังอินมองเจ้าของบัตรในรูป ว๊าว เป็นอาจารย์ซะด้วย แถมอยู่มหาวิทยาลัยที่ซองมินเรียนอีกต่างหาก คังอินยิ้มกริ่ม บางทีมันคงถึงเวลาที่เค้าต้องไปเยี่ยมน้องสุดที่รักซะแล้ว ^^
     
    TBC.

    .................................................................................................................................................................................................................


        สวัสดีค่ะ แฟนฟิคที่น่ารักทุกคน ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้กันนะคะ สำหรับแฟนฟิคที่ถามมาว่าจะทำเป็นรูปเล่มมั๊ย ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจเลยค่ะ ขอรอดูเรทติ้งก่อนดีกว่านะคะ แล้วก็อยากจะจอแรงแฟนฟิคเล็กน้อยนะคะ รบกวนช่วยกดโหวตให้หน่อย คงไมยากเกินไปใช่มั๊ยคะ ขอบคุณล่วงหน้านะคะ แล้วเจอกันตอนต่อไปจ้า ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×