คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 7 สั่ตว์ร้ายที่แฝงในกายคน
Chapter 7 สั่ตว์ร้ายที่แฝงในกายคน
“เฮอร์มี่นินนี่ คุณกลับมาหาฉัน” วิกเตอร์สวมกอดเฮอไมโอนี่อย่างรักใคร่และจูบหน้าผากเธอ
“คุณไปอยู่ที่ไหนมา ที่รัก”เขาถามในขณะที่ดึงเธอเข้ามายังภายในห้องชุดสุดหรูของเขา
เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกอยากขย้อนเมื่อวิคเตอร์จูบเธอ เธอต้องการผลักหนีและวิ่งออกไปจากเขากลับไปที่คฤหาสน์ซาบินี่เสียในตอนนี้
“ฉัน ฉันต้องการเวลาสำหรับตัวเอง”เธอบอกเสียงสั่นในขณะที่เขาปิดประตูด้านหลังเธอ
”ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่”เธอกลับมาที่ห้องชุดของเขาหลังเกิดเรื่องขึ้น เธอกำลังคิด ในสิ่งที่เธอทำ เธอทำถูกหรือผิดกันแน่ที่กลับมาหาเขาที่นี่เพื่อต้องการพิสูจน์ในสิ่งที่เธอคาใจบางอย่าง
เขามองเธอที่ดูไม่สดชื่นนัก ดวงตาเขาหรี่แคบเป็นสัญญานอันตราย
“เวลาให้ตัวเอง?คุณต้องการไปทำไม ?คุณหนีผมไปอยู่ที่ไหนมา?”เขาถาม เธออยู่ห่างจากเขาเพียงเล็กน้อย มันเป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงที่เธอกลับมาที่นี่ เธอคิดอย่างหวาดกลัว
” คุณไม่ควรทำมันแบบนั้น” เขาคำรามพลางเดินย่างสามขุมเข้ามาหาเธอ
ดวงตาสีน้ำตาลของเธอเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว”วิคเตอร์ ฉันสาบานได้ว่าฉันไม่เคยคิด...”
“คุณหลบหนีจากผมเกิดอะไรขึ้น?ผมรักคุณและดูแลคุณเสมอ แต่คุณกลับวิ่งไปจากผม”เขาเงื้อมือขึ้นตบหน้าเธออย่างรุนแรงพร้อมกับเสียงหวีดร้องดังก้องส่งให้เฮอร์ไมโอนี่กระเด็นออกไป
”เธอมันผู้หญิงสารเลว เห็นแก่ตัว”เขาดึงเธอขึ้นมาจากพื้นและเหวี่ยงเธอให้ให้ชนกับกำแพง ใบหน้าของเขาใกล้กับเธอเสียจนรู้สึกถึงลมหายใจร้อนๆของเขาปะทะกับพวงแก้มของเธอ
”เธอไม่ควรทำอย่างนี้กับสามีในอนาคตของเธอเอง”เขากระซิบบอกเธอพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยเคราเขียวๆของเขาซุกไซ้ไปตามพวงแก้มและลำคอระหงของเธออย่างหนักหน่วง
เฮอร์ไมโอนี่ร้องครางออกมาเมื่อเขาจับแขนของเธอทั้งสองข้างและบิดไขว้หลัง
เธอนิ่งเงียบเพื่อหาคำขอร้องเพื่อช่วยเหลือตัวเองเฮอร์ไมโอนี่กลืนน้ำลายหัวใจส่วนหนึ่งหวั่นเกรงความโกรธสุมรุมมากมายที่เห็นในแววตาของเขา
"วิคเตอร์ ฉันขอโทษ"เธอพูดเสียงแหบพร่า เขายิ้มอย่างมุ่งร้าย ก่อนที่เขาจะเริ่มรูดซิบกางเกงของเขาลง
"ยังงั้นพวกเรามาเริ่มทำอะไรที่มันค้างคากันให้มันจบๆกันดีกว่า"เขาพูดและจูบคอเธอ
"เพื่อชดเชยความผิดของเธอ"เขาพูดเสียงแหบพล่าอันเต็มไปด้วยความปราถนาที่รุนแรง
เฮอไมโอนี่เลื่อนมือของเธอเข้าไปในเสื้อแจ๊กเก็ตเพื่อค้นหาไม้วิเศษของเธอและพบว่าในกระเป๋าว่างเปล่า วิกเตอร์ยิ้มเยาะ และชูมือที่มีไม้วิเศษของเธอ ที่เขาแอบดึงออกมาจากเสื้อของเธอเขาหักมันจนเป็นแค่เศษไม้เก่าๆแล้วจึงเขวี้ยงมันไปด้านหลังของเขา
"เวลานี้ไม่มีไม้กายสิทธิ์แล้ว ที่รัก" เขาใช้มือถอดเสื้อแจ๊กเก็ตออกจากไหล่ขาวนวลเนียนราวน้ำผึ้ง ออกจากตัวเธอนั่นมันยิ่งทำให้เขาจมลึกไปกับความมัวเมาแห่งแรงปราถนายิ่งขึ้น
"ได้โปรด วิคเตอร์"เธอส่งเสียงร้องเล็กๆ และดิ้นไปมาอยู่ภายใต้สัมผัสของเขา"อย่าทำอย่างนี้"
เขาหัวเราะอย่างโหดร้ายและก้มลงสำรวจเนื้อตัวของเธอ เธอยังคงอยู่ในชุดเสื้อเชิร์ตและกางเกงยีนส์ที่ยังคงเหลืออยู่บนตัวเธอ ซึ่งเขาก็จะเอาเสื้อผ้าเหล่านั้นออกไปจากตัวเธอในไม่ช้าเช่นกัน
วิกเตอร์ดึงเธอขึ้นไปชั้นบนซึ่งเป็นห้องนอนของเขาโดยมีเฮอร์ไมโอนี่ที่พยายามดิ้นรนอย่างเต็มที่เพื่อให้หลุดจากพันธนาการโดยมือที่แข็งแรงราวคีบเหล็กของเขา
เมื่อเขาเปิดประตูได้แล้วจึงเหวี่ยงเธอไปบนเตียงขนาดใหญ่ของเขาอย่างแรงพร้อมกับเหวี่ยงประตูปิดดังโครมใหญ่ เขากระโจนตัวของเขาไปบนเตียงนอนในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่กำลังจะคลานหนีอย่างลนลาน วิกเตอร์คว้าขาของเธอได้และดึงตัวเธออย่างแรงเข้ามาภายใต้ร่างใหญ่โตของเขาวิกเตอร์คล่อมร่างของเธอที่ดิ้นรนเท่าที่แรงทั้งหมดที่เธอมี แต่วิกเตอร์แข็งแรงเกินไปที่หญิงสาวตัวเล็กๆอย่างเธอจะหลุดออกไปได้เขาจับแขนทั้งสองของเธอยึดไว้เพียงมือมือเดียวก่อนจะขยุ้มเสื้อของเธอและออกแรงกระชากออกจากตัวเธอจนมันฉีกขาดอย่างไม่มีชิ้นดี
เฮอร์ไมโอนี่ร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างหนักเมื่อวิกเตอร์รูดซิบกางเกงยีนส์ของเธอและรูดลงไปจนถึงปลายเท้า ร่างกายอันขาวนวลของเธอจึงปรากฏแก่สายตาของวิกเตอร์
เขาหอบหายใจอย่างรุนแรงและชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อในขณะที่สายตาของเขาโลมเลียไปทั่วร่างกายเปลือยเปล่าของเธอ เขาครางออกมาอย่างชื่นชม
“โอ้ว เฮอร์ไมโอนี่คุณช่างสวยงามเหลือเกิน สวยไปทุกสัดส่วน ผมทนไม่ไหวแล้ว เราจะขึ้นสวรค์ไปด้วยกันนะที่รัก” เธอรู้สึกอยากจะเป็นไข้กับคำพูดนั้น วิกเตอร์ถอดเสื้อผ้าของเขาออกจากร่างกายจนหมดทั้งๆที่เขายังคงจับตัวหญิงสาวเอาไว้ก็ตาม
หลังจากนั้นเขาจึงเอนตัวนอนทาบทับอยู่บนตัวเธอพลางลูบไล้ไปทั่วกายของเธออย่างหื่นกระหาย เฮอร์ไมโอนี่หลับตาแน่นและรอคอยความโหดร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ แต่ก่อนที่วิกเตอร์จะทำส่งใดที่โหดร้ายกับเธอนั้น เสียงของนางฟ้าอารีร์องค์หนึ่งก็มาช่วยเธอไว้ได้ทันเวลาพอดี
“วิกเตอร์ นั่นลูกกำลังทำอะไรน่ะ”
นางครัมส์ยืนมองด้วยใบหน้าถมึงตึงอยู่ประตูห้อง นางตัวสั่นด้วยความโกรธจัด
"ฉันรักเธอ"เขากล่าวเสียงกระซิบกับเฮอร์ไมโอนี่ ก่อนที่จะเลื่อนตัวออกจากเธอ และออกไปจากเตียงที่ไม่เป็นระเบียบ เขาเอาผ้าห่มมาคลุมตัวของเขาแล้วมองมาที่แม่ของเขา
“แต่งตัวให้เรียบร้อยวิกเตอร์ แล้วลงไปคุยกับแม่ข้างล่าง” เธอกำลังจะหมุนตัวออกไปแต่เมื่อเธอได้ยินเสียงตัดพ้อจากบุตรชาย “แต่ แม่ฮะ”
“เดี๊ยวนี้ วิกเตอร์”เธอหันขวับกลับมาพร้อมสั่งเสียงเฉียบขาดก่อนหมุนตัวนางลงไปรออยู่ข้างล่างในทันที
เมื่อแม่ของเขาลงไปข้างล่างเขาจึงหันหน้ากลับมาหาร่างเปลือยเปล่าที่อยู่บนเตียงของเขาและยิ้มอย่างมุ่งร้ายกับผลงานที่เกิดขึ้นด้วยน้ำมือของเขาเองเขาหันมาคว้าเสื้อผ้าในตู้ของเขามาสวมลวกๆก่อนจะเอาผ้าขนหนูของเขามาคลุมร่างเปลือยเปล่าของเฮอร์ไมโอนี่ไว้
วิกเตอร์เช็ดน้ำตาของเธอด้วยนิ้วมือที่แข็งแรงของเขา
"อย่าร้องไห้ เฮอร์มีนินนี่ แล้วผมจะกลับมา รอผมนะที่รัก "เธอเคลื่อนหัวของเธอออกจากอีกฝ่ายและหนีออกไปจากมือของเขาที่ลูบไล้สัมผัสแก้มเนียนของเธอ
เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกเหมือนจะเป็นไข้เธอต้องการอาเจียนและถูตัวเธอจนกว่ามันจะสะอาดจากการสัมผัสของเขา เธอลุกขึ้นและมองไปรอบๆเพื่อหาเสื้อผ้าของเธอ เธอเห็นเสื้อผ้าของเธอกองอยู่หน้าประตู รวมทั้งไม้วิเศษของเธอ และอย่างรวดเร็ว เธอคว้ามันมา และดึงชุดชั้นในของเธอเพื่อออกมาใส่ แต่เสื้อเชิร์ตของเธอถูกวิกเตอร์กระชากขาดไปแล้วในตอนนี้ เฮอร์ไมโอนี่เปิดตู้เสื้อผ้าของวิกเตอร์และเอาเสื้อยืดของเขาออกมาใส่เสียก่อน ถึงแม้มันจะดูใหญ่โตกว่าตัวเธอก็ตามมันก็ดีกว่าที่จะโชว์เรือนร่างให้เขาได้เห็นอีก เมื่อเธอใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วเธอจึงเปิดประตูและย่องลงบันไดเธอยืนคาอยู่ตรงกระไดที่เป็นทางที่จะลงไปสู่ห้องรับแขกและใช้กำแพงเป็นตัวกำบังตัวเธอเองเธอได้ยินเสียงพวกเขาทั้งสองคนกำลังโต้ถียงกันอยู่
และสิ่งที่เฮอร์ไมโอนี่ได้ยินมันทำให้ตัวเธอในขณะนั้นเย็นยะยือกไปทั่วกาย หัวใจของเธอเต้นเร็วในความจริงที่เธอเกินจะรับไว้ได้
“คดีของนาตาลีก็อีกคน เรื่องนั้นยังจัดการไม่เสร็จลูกจะก่อปัญหาเพิ่มอีกหรือไงกัน”เสียงของนางครัมส์ตะโกนใส่ลูกชายดังลั่นทั่วห้องรัปแขก
“นังนั่นมันเป็นโสเภณีแม่ก็รู้ แค่โยนเงินลดหัวให้มันเสียหน่อยทุกอย่างก็จบ”
ใบหน้าของนางครัมส์เคร่ง กระด้างนิ่งเฉยก็จริงแต่สายตาของนางที่มองวิกเตอร์อัดเก็บอารมณ์โกรธไว้เต็มกำลัง
“เงินไม่ใช่จะซื้ออะไรได้ทุกอย่างหรอกนะลูกรัก ลูกซ้อมนาตาลีเกือบตาย อย่าลืมสิ แล้วนี่ยังจะทำกับเด็กนั่นอีก”นางกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและเอาจริงวิกเตอร์เดินไปมาอย่างงุ่นง่าน
“มันไม่เหมือนกันสักหน่อย เฮอร์ไมโอนี่เธอเป็นคู่หมั้นผม เธอไม่ใช่ยายร่านแบบนั้น”เขาตะโกนออกมาสุดเสียงอย่างคนที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไว้ไม่อยู่จนนางครัมส์จ้องมองเขาเขม็งเหมือนต้องการปรามเขาให้สงบสติอารมณ์
“ฟังนะถ้าแกทำอะไรเฮอร์ไมโอนี่ตอนนี้ อนาคตแกพังแน่วิกเตอร์ ถ้าเด็กนั่นหนีรอดไปได้ และไปเล่าให้ใครต่อใครฟัง และเรื่องรู้ถึงกระทรวง แกคิดว่าพ่อแกแม่แกช่วยแกให้พ้นจากคุกอัซคาบันได้หรือไง”กังวานเสียงเยียบเย็นจริงจังของนางครัมส์ทำให้วิกเตอร์นั่งนิ่งเงียบกริบ
เพียงชั่วครู่ที่วิกเตอร์พูดเสียงอ่อนลง
“แต่ผมต้องการเธอแม่ก็รู้นี่ฮะ”
นางครัมส์ถอนหายใจพร้อมลดเสียงลงต่ำบอกลูกรัก
“แม่รู้ ก็เพราะอย่างนั้นแม่ถึงต้องให้แกอดทน เพียงแค่วันสองวันได้ไหมวิกเตอร์”
วิกเตอร์หรี่ตามองแม่ของเขาอย่างสงสัยเต็มแก่
“แม่หมายความว่าไงฮะ “
“ภายในสองวันนี้แม่จะจัดงานแต่งงานให้ลูกกับเฮอร์ไมโอนี่ ถ้าลูกได้แต่งงานกับเธอแล้วมันก็อยู่ที่ลูกว่าจะจัดการกับเธออย่างไร อีกอย่างการแต่งงานจะเป็นการปกปิดเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นกับนาตาลีได้ดีที่สุด เพราะต่อให้ยายโสเภณีนั่นไปบอกใครต่อใครว่าลูกซ้อมเธอคงไม่มีใครยอมเชื่อแน่เพราะว่าแม่มดที่ฉลาดที่สุดและเก่งที่สุดอย่างเฮอร์ไมโอนี่ ยังยอมแต่งงานกับสุภาพบุรุษอย่างลูกได้ ใครจะเชื่อว่าลูกไปนอนกับนังนั่น อีกอย่างเรื่องที่ลูกทำร้ายเฮอร์ไมโอนี่ถ้าเด็กนั้นแต่งงานกับลูกมันคงเป็นไปไม่ได้ที่ภรรยาจะฟ้องสามีตัวเองว่าถูกทำร้ายหรอก จริงไหม “เสียงนิ่มแต่เจือไปด้วยแผนการอันร้ายกาจของนางครัมส์ ทำให้บุตรชายของนางหัวเราะร่วนออกอาการพอใจอย่างเห็นได้ชัด
“จริงสิ ทุกอย่างก็ลงตัว โว้ว แม่ผมฉลาดที่สุดในโลกเลย”วิกเตอร์ชมมารดาอย่างจริงใจ นางครัมส์ยังคงนิ่งเฉยเพียงครู่ก่อนหันมาย้ำลูกชายของนางอีกครั้ง
“ดังนั้นลูกสัญญากับแม่ได้ไหมว่าลูกจะไม่ทำอะไรเฮอร์ไมโอนี่จนกว่าแม่จะจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จเรียบร้อยเสียก่อน”
วิกเตอร์มองหน้าแม่ของเขาพร้อมรอยยิ้มที่เขามีให้ เขาพยักหน้าและตอบรับในสิ่งที่แม่เขาร้องขอ
“ผมสัญญาฮะแม่”
“ดี แม่ไปก่อนล่ะ เพราะว่าจะต้องไปเตรียมงานอีกเยอะเลย อ้อ อย่าลืมร่ายคาถาปกป้องบ้านไว้ด้วย อย่าให้เธอหนีรอดไปได้ล่ะ ช่วงนี้ลูกก็เตรียมตัวกับการเป็นเจ้าบ่าวไปพลางๆก่อนก็แล้วกันนะลูกรัก ” นางครัมใช้เวทมนต์หายตัวออกไปก่อนที่ครัมจะเดินกลับไปยังข้างบน
หลังจากที่มารดาของวิกเตอร์ร่ายคาถาหายตัวไปแล้วเฮอร์ไมโอนี่รีบจรดฝีเท้าของเธอวิ่งกลับไปที่ห้องตามเดิม เฮอร์ไมโอนี่พยายามควบคุมตัวเธอเองไม่ให้สั่น ไปกับคำพูดของสองคนแม่ลูกนั่นเธอไม่เคยนึกมาก่อนว่ามารดาของวิกเตอร์คนที่เคยดีกับเธอเสมอมาที่แท้ต้องการให้เธอแต่งงานเพื่อปิดบังความผิดของลูกชายเธอเอง เธอต้องหนีแต่อย่างไรล่ะ
“เฮอร์ไมโอนี่” เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งเมื่อวิกเตอร์เรียกเธอเสียงดังเขาขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นเธอเหม่อลอย
“เออ วิกเตอร์”เฮอร์ไมโอนี่ตะกุกตะกักเรียกชื่อเขาพลางถอยกายเพื่อหลบเขาเมื่อเขาเดินมานั่งที่ข้างเตียง
“ไม่ต้องกลัว ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกน่า”วิกเตอร์ทำเสียงหงุดหงิดเล็กน้อย เมื่อเห็นเธอทำท่าเหมือนหวาดกลัวเขา ” ฉันจะบอกเธอว่าฉันจะลงไปอาบน้ำข้างล่างเธอก็ใช้ห้องน้ำข้างบนนี้ก็แล้วกัน” เขาจ้องมองเฮอร์ไมโอนี่เขม็งรู้สึกเสียดายกับเนื้อตัวเปล่าเปลือยที่สวยงามของเธอแต่เขาจำเป็นต้องอดทน แค่เวลานี้เท่านั้น เขาคิด พลางฝืนยิ้มให้กับเธอ
“อ้อหิวหรือเปล่าข้างล่างมีอาหารจีน เดี๊ยวฉันจะทำมาให้เธอกิน ส่วนเรื่องเสื้อผ้า ฉันจะเสกให้เธอใหม่อีกสัก5-6ชุดก่อนก็แล้วกัน” เฮอร์ไมโอนี่ไม่ตอบอะไรเธอเพียงแต่พยักหน้ารับเท่านั้น
วิกเตอร์ลงไปข้างล่างจนเฮอร์ไมโอนี่แน่ใจแล้วว่าเขากำลังสบายกับการชำระความสกปรกในจิตใจของเขาอยู่เฮอร์ไมโอนี่หาไม้วิเศษของวิกเตอร์ตามที่ต่างๆเพราะไม้วิเศษของเธอวิกเตอร์หักมันจนพังไปหมดแล้ว แต่เธอหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอจนเธอเริ่มหมดหวัง เธอเสียเวลาไปมากพอแล้วเฮอร์ไมโอนี่ตัดสินใจพุ่งตัวออกไปยังนอกห้องเธอลงมายังชั้นล่างเธอยังคงได้ยินสียงน้ำฝักบัวที่ยังคงเปิดอยู่ ในเวลานั้นเฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้สนใจว่ามันจะเป็นเวลาดึกดื่นค่ำคืนแค่ไหนเธอต้องการเพียงแต่จะต้องออกไปจากที่นี่
เท่านั้นเฮอร์ไมโอนี่พุ่งตัวไปที่ประตูอย่างรวดเร็วพอกับที่เธอรู้ว่าวิกเตอร์อาบน้ำเสร็จแล้วเฮอร์ไมโอนี่รีบสาวเท้ามายังหน้าประตูและในขณะที่เธอเอื้อมมือไปเพื่อหมุนลูกบิดประตู ห้องน้ำก็เปิดออกมา ร่างของวิกเตอร์ที่มีผ้าขนหนูพันส่วนล่างและโชว์แผงเนื้อบนอกที่มีกล้ามเป็นมัดๆเดินออกมาและกำลังจะขึ้นข้างบน แต่ร่างเขากลับหยุดชะงักสายตาหันกลับมาที่หน้าประตูที่เฮอร์ไมโอนี่ยืนอยู่ และมองไปที่เธออย่างสงสัยระคนหวาดระแวง
“คุณจะไปไหนหรือ เฮอร์มี่นินนี่”
เธอหยุด และแสร้งสวมรอยยิ้ม “เพียงแค่จะออกไปดูดาวน่ะ วิคเตอร์ ”เธอบอกแล้วชี้นิ้วของเธอขึ้นไปบนฟ้า ถีงแม้เธอจะหนาวสั่นไปถึงข้างในแล้วก็ตาม แต่เธอก็แกล้งทำเป็นเหมือนมาดูดาวจริงๆ "มานี่สิ มาดูด้วยกัน มันสวยงามมากเลย"เธอชะโงกหัวของเธอออกจากประตู และกวักมือเรียกเขาให้ออกมาดูด้วยกันกับเธอ เขาตามเธอออกมาดูด้วยความหวาดระแวงเต็มไปบนดวงหน้าของเขา
ดูเหมือนมีสิ่งที่น่าหวาดกลัวอยู่บนใบหน้าของเฮอไมโอนี่เมื่อเธอสังเกตุเห็นว่าไม่มีดาวให้เห็นในคืนที่โหดร้ายโดยเฉพาะคืนที่ใครบางตนเหน็บหนาวจนถึงกระดูก
วิคเตอร์มองดูบนท้องฟ้าที่เธอบอก จากแสงไฟสาดส่องกระทบให้เห็นความแตกต่างบนหน้าของเขา มันทำให้เธอถึงกับสั่น
”พวกมันหายไปแล้ว”เธอพูดเสียงตะกุกตะกัก เธอหันไปเผชิญหน้ากับเขา ดวงตาเบิกกว้าง
"หน้าขายหน้าจริงๆ"เขากล่าวเสียงต่ำเขาเดินเข้ามาใกล้เธอใกล้ชิดเธอ ความหวาดกลัวของเธอก่อเกิดให้กระดูกของเธอแข็งราวซากศพ"
“ใช่ มันน่าขายหน้าจัง"เธอกล่าวซ้ำ
เขาโอบแขนของเขาไปรอบๆเอวเธอเขาดึงเธอเข้าไปข้างในและปิดประตูตามหลังอย่างแน่นหนา
“มาเถอะที่รักได้เวลานอนแล้ว เราจะได้เริ่มวางแผนงานแต่งงานของเราในวันพรุ่งนี้"และยิ้มอย่างชั่วร้ายบนใบหน้าของเขาและเธอถูกลากกลับเข้าไปยังห้องนอนอีกครั้งนึ่งแต่คราวนี้วิกเตอร์ไม่ได้ทำอะไรเธอเพียงแค่นอนกอดเธอเฉยๆเท่านั้น
ในเวลาต่อมา คฤหาสน์ซาบินี่
“บ้าสิ้นดี เธออยู่ที่ไหนนะ”เดรโกตะโกนดังลั่น “เธอหนีไปแล้วเธอไม่ได้อยู่ที่บ้านพอตเตอร์ วิสลี่ย์หรืออยู่ที่ไหนๆ”มือของเขาโบกไปที่กลางอากาศ ความไม่พอใจแล่นไปตามเส้นเลือดของเขา
”หรือเธอจะบ้ากลับไปหาเขาอีก”เดรโกเดือดดาล แล้วเอามือสางผมของเขาที่ยุ่งอยู่แล้วให้ยุ่งยิ่งขึ้นอีก
“เดรโก ใจเย็น”เบลสกล่าวพลางตบบ่าเขา”ทุกๆคนเขาจะคิดว่านายเป็นห่วงเธอนะ”และในคำพูดสุดท้ายของเบลสนี่ เองที่ทำให้เขาเกือบชกปากเพื่อนรักไปแล้ว ที่บังอาจเย้าเขาเล่นในช่วงเวลาแบบนี้
"แต่ความเป็นจริงฉันก็สมควรห่วงเธอ เพราะนั่นมันเป็นความผิดของฉัน นายก็ได้ยินในสิ่งที่เธอพูดฉันเป็นคนหนึ่งที่เรียกเธอว่าเลือดสีโคลน และพวกพันธ์ผสม ฉันหมายถึงวิธีที่เรียกสายเลือดที่แตกต่างจากพวกเราอะไรทำนองนั้น"นันคือประเด็นที่ทำให้เขากำหมัดแน่นและกระแทกไปบนโต๊ะใกล้ตัวทำให้มันสั่นเหมือนจะหักออกเป็นสองซีก
“เดรก ได้โปรด ใจเย็นเอาไว้ก่อนนี่มันไม่ได้ช่วยอะไรเลยนะ ถ้าพวกเรารู้ว่าที่ไหนที่เธอไปเราก็สามารถที่จะไปช่วยเธอได้ ถ้าเธอต้องการให้เราช่วย”เบลสกล่าวอย่างสุขุมซึ่งทำให้เดรโกหยุดและมองดูเขา
"ครัมอยู่ที่ไหนกันแน่นะ"ในที่สุดหนุ่มผมบลอนส์ก็เป็นฝ่ายถาม และเข้าใจถึงประเด็น
"อาจจะอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ของบัลแกเลี่ยนหรือที่ไหนสักแห่ง"เขาพูดเหมือนคนครุ่นคิดและค้นหาในคำตอบ
"ฉันแน่ใจว่าเคยเห็นว่ามันถูกเขียนลงที่ไหนสักแห่ง ความจริงมันก็อยู่ไม่ไกลจากที่ คุณนายวิโอล่า แฮรริ่งโสลว์ อาศัยอยู่นัก นายจำเธอได้ไหม หญิงชราที่พาหลานสาวของเธอที่ชื่อว่า ลอร่า แวะมาเยี่ยมพวกเราและหวังว่าจะให้พวกเราคนหนึ่งตกหลุมรักเธอและแต่งงานกับเธอ”เบลสพยายามรื้อฟื้นบางสิ่งที่จะเป็นเบาะแสที่จะทำให้เขาหาวิกเตอร์ ครัมได้
"ช่างน่ากลัวมาก "เดรโกกล่าวด้วยใบหน้าที่สะอิดสะเอียน
"เขาไม่ได้อาศัยอยู่บัลแกเลี่ยน"เขาหายใจอย่างรุนแรงเมื่อเขานึกถึงเรื่องนี้ได้ ความตื่นเต้นแล่นสู่เส้นเลือดของเดรโกอีกครั้ง
นางแฮริ่งโสลว์ เคยคุยโวเกี่ยวกับเรื่องนี้ตลอดเวลาว่าเธออาศัยอยู่ใกล้ๆกับวิคเตอร์ ครัม ซึ่งมันทำให้พวกเขารู้สึกขบขันกันในตอนแรก เบลสปล่อยสียงหัวเราะออกมาเบาๆและจดจำถึงวิธีการที่หญิงชราคลั่งไคล้ซีกเกอร์บัลแกเลี่ยนและวิธีที่เธอเฝ้าดูการเล่นควิชดิชกับสองหนุ่มและกรี๊ดร้องเรียกชื่อครัมตลอดเวลาไม่ได้
เดรโกปล่อยเสียงหัวเราะ เช่นกัน และหยุดโดยทันที "แล้วพวกเราจะไปกันยังไงไม้กายสิทธิ์จะไม่ลุกเป็นไฟหรอกหรือ หรือว่าเราจะไปเคาะประตูเรียกพวกเขาอย่างสุภาพแล้วถามว่าเกรนเจอร์กลับมาแล้วหรือยัง"เขาถามพร้อมเลิกคิ้วสูง
"สำหรับกรณีนี้ นายไม่ค้องโผล่หน้าไปให้เขาเห็นเลย เขาอาจจะคิดว่ามันน่าสงสัย และ เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะฆ่านาย"เบลสตรึกตรองอย่างจริงจัง "แต่ฉันคงจะไม่ไปตามลำพังหรอกฉันอาจจะเรียกนายโดยวิธีการใดๆถ้าฉันเข้าไปโดยลำบาก”
"นายน่าจะไปกับพอตเตอร์ หรือไม่ก็วิสลี่ส์ก็ได้ บางที่พวกเขาอาจจะช่วยเจ้าหญิงแห่งกริฟฟรินดอร์ของพวกเขาก็ได้"เดรโกออกความเห็นอย่างขัดเคืองใจที่เบลสไม่ยอมให้เอาเขาไปด้วย
"ทำไมไม่ให้ฉันไปกับเธอล่ะ"เสียงใหม่ลอยมาจากประตูทางเข้า เบลสและเดรโกหันมองและเห็นมาเรียยืนอยู่ที่นั่น มองดูอย่างครุ่นคิด "ฉันอ้างเหตุผลกับพวกเขาได้ว่าฉันมาเยี่ยมเฮอร์ไมโอนี่และดึงคุณให้มากับฉันดังนั้นคูณก็หาข้ออ้างว่า"เธอนิ่งคิดสองสามนาที"เสื้อผ้าที่ร้านซักแห้งส่งให้เธอผิด"
เบลสมองอย่างครุ่นคิด "แต่ผมไม่แน่ใจว่ามันจะได้ผลไหม"
"มันเยื่ยมมาก"เดรโกพูดแทรกขึ้นมาเห็นด้วยกับความคิดของมาเรีย และในเวลาไม่ถึงยี่สิบนาทีต่อมามาเรียและเบลสยืนอยู่ข้างนอกที่บ้านหลังใหญ่ของครัม และเคาะประตู
ตัวอย่างตอนต่อไป
วิกเตอร์มองไปที่พวกเขาอย่างสงสัยพร้อมทั้งยกคิ้วสูงไปที่พฤติกรรมของเฮอร์ไมโอนี่ เธอรู้สึกใบหน้าของเธอเหมือนไหม้เกรียมกับการจ้องมองของเขา มันทำให้หัวใจของเธอเต้นรัวเร็วอย่างหวาดหวั่น
ความคิดเห็น